ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8
        เมื่อเธออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินดูทิวทัศน์แถวหน้าต่างก็เห็นชายหนุ่มยืนคุยโทรศัทพ์ทำให้เธอ
สงสัยและเริ่มระแวงเขามากขึ้นว่าเขาโทรศัพท์ไปไหนโทรไปหาใครผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เมื่อเธอคิดว่าเขาคง
จะโทรไปหาคนรักของเขาก็ได้ มันทำให้เธอปวดใจอย่างบอกไม่ถูก เธอเป็นอะไรไปนี่ ทำไมต้องแคร์เขามาก
ขนาดนี้ด้วย เขาเป็นชายคนแรกที่เธอรู้สึกอย่างนี้แต่เขาเป็นคนที่เธอไม่สมควรไว้วางใจมากที่สุดด้วยแล้วเธอ
จะทำอย่างไรกับหัวใจเธอดี หญิงสาวหยิบซองจดหมายที่ส่งมาจากอเมริกาและฉีกออกอ่าน  มันเป็นความจริง
อย่างที่เขาพูดทางบริษัทอเมริกาเรียกตัวเธอไปเซ็นต์สัญญาและเธอต้องไปพรุ้งนี้ด้วยไม่เช่นนั้นเธอคงจะไปไม่
ทันตามกำหนดที่ระบุมาในจดหมาย เธอจะทำอย่างไรดีเป็นห่วงทางนี้ก็เป็นห่วงไม่รู้ว่ากฤตพลมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์
อะไรกันแน่ ถ้าเธอไปทางโน้นแล้วทางนี้เกิดเรื่องจะทำอย่างไรดี แต่ถ้าไม่ไปฟาร์มก็จะไม่มีวันฟื้นได้แน่ๆ เธอคง
ต้องไปซินะก็เขาบอกว่าเขามาด้วยความบริสุทธิ์เธอก็จะลองเสี่ยงดูสักครั้งหนึ่ง หญิงสาวค่อยๆเดินลงชั้นล่างก็ได้
ยินเสียงเขาทำอาหารอยู่ในครัววันนี้เขาจะทำอะไรให้เธอทานอีกละ หญิงสาวค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปในครัวเขาก็หัน
มาเห็นเธอพอดี
“อาบน้ำเรียบร้อยแล้วหรือครับ ผมทำอาหารเสร็จพอดีเลย คุณจะทานเลยหรือเปล่าถ้ายังผมขอตัวไปอาบน้ำสักครู่”
“ฉันยังไม่หิวเลยเชิญคุณตามสบายเถอะ ฉันจะไปหาลุงอินสักครู่”
“ถ้าอย่างนั้นไว้คุณกลับจากไปหาลุงอินก่อนละกันแล้วค่อยทานอาหารเย็นกัน คุณจะชวนลุงแกมากินด้วยก็ได้นะ
ครับผมทำอาหารหลายอย่างเลย”ชายหนุ่มเอ่ยแต่หญิงสาวไม่พูดอะไรเดินออกไปทันทีเขาได้แต่ยักไหล่ อารมณ์
ผู้หญิงตามไม่ทันจริงๆแล้วเขาก็เดินขึ้นไปอาบน้ำ
“ลุงอินคะ”
“อ้าวคุณหนูมาทำอะไรครับจะมืดแล้วนะครับและฝนก็ทำท่าจะตกด้วย”
“ทิพย์มีธุระจะคุยกับลุงนิดหน่อยนะคะ”
“เอ วันนี้เป็นวันอะไรมีแต่คนมีเรื่องพูดกับไอ้อิน”ชายชราพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“ลุงอินน่ะ อย่าล้อทิพย์ซิคะ”
“เอาละๆ คุณหนูมีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะครับ”
“พรุ้งนี้ทิพย์ต้องไปต่างประเทศค่ะ ไปเซ็นต์สัญญาที่เราประมูลงานได้นะค่ะ”
“คุณพลเขาบอกผมแล้วละครับ”
“เอ๊ะรู้สึกว่าเขาจะรู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะคะ”
“เรื่องที่เกี่ยวกับคุณหนูผมว่าคุณพลเธอรู้หมดแหละครับ”
“ทำไมคะลุง ลุงรู้อะไรมาหรือคะ ลุงรู้หรือเปล่าว่าเขาไม่ใช่นายพล คนธรรมดาอย่างที่เราเข้าใจกันแต่เขาเป็น
ถึงเจ้าของบริษัทใหญ่โต มีธุรกิจมากมายหลายอย่าง และที่สำคัญเขาเป็นคู่แข่งของเราด้วยนะคะลุง”
“ผมรู้แล้วครับคุณพลเธอเล่าให้ฟังแล้ว”
“แล้วลุงไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือที่เราโดนหลอกน่ะ”
“ผมว่าคุณพลเธอก็ไม่ได้หลอกอะไรเรานี่ครับคุณหนูเพียงแต่เธอไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดเท่านั้นเอง”
“นี่ลุงเข้าข้างผู้ชายคนนั้นหรือคะ ลุงรู้ไหมคะว่าเขาต้องมีแผนอะไรแน่ๆเลยถึงปลอมตัวเข้ามาในฟาร์มเราคง
ตั้งใจจะมาล้วงความลับของเรานะแหละค่ะ แต่อย่าหวังเลยว่าจะได้อะไรสมใจ และที่ทิพย์มาหาลุงก็เพื่อจะ
บอกว่าระยะที่ทิพย์ไม่อยู่นี่ให้ลุงช่วยประกบเขาหน่อยเขาจะได้ทำอะไรได้ไม่สะดวกนักจนกว่าทิพย์จะกลับ
มาและจะจัดการกับเขาเอง”
“คุณหนูครับลุงว่าคุณพลเธอไม่มีพิษมีภัยอะไรกับเราหรอกนะครับ”
“ลุงเข้าข้างคนอื่นมากกว่าทิพย์หรือคะ”
“ลุงรักคุณหนูเหมือนลูกหลานนะครับและอยากให้คุณหนูได้เจอกับสิ่งที่ดีๆ”
“ถ้าอย่างนั้นลุงก็ทำตามที่ทิพย์บอกละกันค่ะ ทิพย์ไปละฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว”
“คุณหนูไม่เอาร่มไปด้วยหรือครับเดี๋ยวไม่สบายกันพอดี”
“ไม่ละคะคงตกไม่แรงแค่ปอยๆเท่านั้น”เมื่อพูดจบหญิงสาวก็รีบเดินกลับบ้านทันทีและเธอก็ต้องโทษตัวเองที่
ไม่ยอมเอาร่มที่ลุงอินให้มาด้วยเนื่องจากเธอเดินมาได้ไม่ไกลนักฝนก็ตกลงมาอย่างแรงหญิงสาวจึงตัดสินใจ
เข้าไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ระหว่างทางกลับบ้านใหญ่ฝนตกหนักลงมาเรื่อยๆจนเธอเริ่มที่จะเปียกแล้วเนื่อง
จากต้นไม้ไม่สามารถกันฝนได้มากนักนะเองหญิงสาวยืนกอดอกอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยความหนาวและเธอก็เห็น
เงาตะครุ่มๆของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับกางร่มมาด้วยทำให้เธอกลัวว่าจะเป็นคนของนายดิลกหรือไม่
และเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ๆเธอก็แทบจะกระโดดด้วยความดีใจกฤตพลนะเองเขาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เหมือนโกรธใครมา
“คุณนี่ทำตัวเหมือนเด็กจริงๆคุณทิพย์”เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาเธอและกางร่มยื่นมาทางเธอเพื่อกันไม่
ให้เปียกนะเอง
“นี่คุณถือดีอย่างไงมาว่าฉัน”
“คุณก็รู้ว่าฝนตกแล้วยังจะเดินตากฝนกลับบ้านโดยที่ไม่เอาร่มมาอีก”
“ก็ใครจะไปรู้ละว่าฝนจะตกแรงขนาดนี้”หญิงสาวเถียงเมื่อรู้ตัวว่าโดนว่า
“คุณดูไม่รู้เลยหรือว่าฟ้าอย่างนี้ฝนมันแทบจะเทลงมาเลย”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละ”คำปฏิเสธของหญิงสาวทำให้เขาอารมณ์เย็นลงมากเนื่องจากเขาลืมไปว่าเธอไม่ใช่
ชาวไร่ชาวนาโดยแท้จึงทำให้ไม่สามารถดูดินฟ้าอากาศได้เก่งเหมือนชาวไร่ชาวนา เมื่อเขามองหญิงสาวที่
ยืนเถียงเขาตรงหน้าก็หายโกรธทันที ปากซีดผมรีบติดศรีษะ เสื้อผ้าที่โดนฝนเปียกแนบเนื้อแถมยังเงยหน้า
ขึ้นมองเขาเหมือนโกรธจัดอีกด้วย
“หนาวละซิ เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลย”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆเป็นเหตุทำให้หญิงสาวโกรธเพิ่มขึ้นอีก
“อย่ามาหัวเราะเยาะฉันนะ ฉันไม่เห็นอยากจะได้ร่มคุณเลย ฝนตกแค่นี้เองฉันไม่กลัวเปียกหรอก”
“ถ้าไม่กลัวเปียกแล้วมาหลบใต้ต้นไม้ทำไมละ”ชายหนุ่มล้อหญิงสาวด้วยความเพลิดเพลิน
“มันเรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมซินะ”
“แน่นอนฉันกลับบ้านเองได้โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณ”เมื่อพูดจบหญิงสาวก็หันหลังเดินออกจากใต้ต้นไม้ทันที
เปรี้ยง!!
กรี๊ด!
    หญิงสาวตกใจเสียงฟ้าร้องมากจึงหันไปหาที่พึ่ง ซึ่งตรงนั้นก็มีแต่กฤตพลเท่านั้น เธอกอดเขาไว้
แน่นเป็นผลทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ ที่แท้ก็กลัวฟ้านะเองนึกว่าจะเก่งตลอดรอดฝั่งซะอีก
เขาถือโอกาสกอดกระชับหญิงสาวตอบจนเธอเริ่มรู้ตัวจึงสะบัดเขาออกแต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย
“นี่คุณปล่อยฉันนะ”หญิงสาวแห้วใส่เขา
“คุณวิ่งมากอดผมเองนะครับคุณทิพย์”ชายหนุ่มพูดทำหน้าทะเล้นเป็นเหตุให้หญิงสาวโมโหมากขึ้นด้วยความอาย
“หยุดพูดนะ และปล่อยฉันด้วย”
“ไม่ปล่อยจะกอดอยู่อย่างนี้นะแหละดูซิว่าจะเก่งซักแค่ไหน”เขาแกล้งกอดเธอแรงขึ้นทำให้หญิงสาวนึกถึง
เหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายก็หน้าแดงขึ้นทันที ดีนะที่บรรยากาศรอบข้างเริ่มมืดแล้วเขาจึงไม่ทันสังเกต
“ฉันบอกให้ปล่อยไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนมาช่วย”
“ก็เอาซิถ้าคุณไม่กลัวว่าคนจะมาเห็นผมยืนกอดคุณอย่างนี้ละก็ตะโกนเลย”ชายหนุ่มท้าเพราะเขารู้ดีว่าหญิงสาว
ไม่กล้าทำแน่นอน  นี่ถ้าดวงตาเธอสามารถพ่นไฟออกมาได้ตอนนี้เขาคงไหม้ไปแล้วแน่เลย หญิงสาวทำท่า
ฮึดฮัดสักครู่ก็ยืนให้เขากอดเฉยเพราะเริ่มรู้แล้วว่ายิ่งพยายามดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น นี่ขนาดว่าเขากอดเธอ
ด้วยมือข้างเดียวนะนี่ ส่วนอีกข้างหนึ่งเขายังถือร่มกางกันฝนให้เขาและเธออยู่
“พูดง่ายๆอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”ชายหนุ่มพูดทำหน้าอารมณ์ดีพร้อมกับก้มลงหอมแก้มหญิงอย่างรวดเร็วจน
เธอไม่ทันตั้งตัวได้แต่ทำตาขวางใส่ชายหน้าทะเล้นที่สวมกอดเธออยู่
“คนฉวยโอกาส ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“จะให้ผมปล่อยก็ได้แต่ต้องพูดเพราะๆก่อน”ชายหนุ่มต่อรอง
“ฉันก็พูดเพราะได้แค่นี้แหละ ถ้าอยากฟังคนพูดเพราะก็ไปหาที่อื่น”
“ไม่หรอกผมชอบฟังคุณพูดมากกว่า ถ้าไม่ยอมพูดผมก็จะกอดคุณอยู่อย่างนี้แหละให้ยืนหนาวตายกันไปเลย”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเป็นต่อ
“ก็ได้ ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณกฤตพล”หญิงสาวพูดด้วยความไม่พอใจ
“ไม่เห็นเพราะตรงไหนเลย แถมยังจะประชดประชันอีกต่างหาก”
“เอ๊ะคุณนี่ทำไมเรื่องมากอย่างนี้นะ”
“คุณต้องพูดตามที่ผมบอก ถ้าไม่พูดผมจะไม่กอดเฉยๆอย่างเดียวหรอกนะจะจูบด้วย จูบให้ขาดใจไปเลย”
“คุณไม่มีสิทธิทำกับฉันอย่างนั้นนะ ถ้าฉันหลุดไปได้เมื่อไหร่ละก็จะให้คนงานมาเล่นงานคุณคอยดูซิ”
“ไว้ให้คุณหลุดไปได้ก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้คุณต้องทำตามที่ผมบอกก่อน”
“แล้วจะให้ฉันพูดอะไรก็บอกมาซิ ฉันเริ่มหนาวแล้วนะ”หญิงสาวโอดครวญ
“ผมกอดไว้ทั้งตัวอย่างนี้แล้วยังจะหนาวอีกหรือครับ”ชายหนุ่มแกล้งกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
“ไม่หนาวแล้วไม่ต้องรัดแน่นก็ได้”และเธอก็ต้องใจหายเมื่อเขาคลายแขนออกนิดหน่อยแต่ไม่ได้ปล่อยให้เป็น
อิสระลมเย็นพัดผ่านตัวเธอเข้ามาทำให้เธอเป็นฝ่ายขยับเข้าหาเขาเสียเอง  ชายหนุ่มสังเกตแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเขาเอ่ยล้อเธอขึ้นมาเธอคงจะผละออกจากเขาเป็นแน่
“พูดตามที่ผมบอกนะครับ ว่า ปล่อยทิพย์เถอะค่ะคุณพลขาทิพย์อยากกลับบ้านแล้วค่ะ แค่นี้เอง”
“นี่คุณจะบ้าหรือฉันไม่พูดหรอก”
“ก็ตามใจถ้าไม่พูดก็จะโดนกอดอยู่อย่างนี้และก็จะโดนผมจูบด้วย”เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็ทำท่าจะก้มลงหาริมฝีปาก
หญิงสาวช้าๆ
“ก็ได้พูดก็ได้”หญิงสาวตอบด้วยเสียงไม่พอใจ
“งั้นก็พูดได้เลยผมกำลังรออยู่ฟังอยู่”
“ปล่อยทิพย์เถอะคุณพลขา ทิพย์อยากกลับบ้านแล้วคะ”
“พูดเพราะก็ได้นี่ แถมน่ารักอีกตะหาก เอาละผมจะให้รางวัลละกัน”และกฤตพลก็ก้มลงหอมแก้มหญิงอย่างรวดเร็ว
“นี่คุณ คนบ้า”
“เอาละกลับบ้านกันได้แล้ว”ชายหนุ่มเดินโอบไหล่หญิงสาวเดินกางร่มฝ่าสายฝนไป เธอรู้สึกว่าอบอุ่นและปลอดภัย
อย่างบอกไม่ถูกเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของกฤตพลอย่างนี้เธอไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเลยอยากจะหยุดไว้นานๆ
ไม่อยากคิดว่าเขาเข้ามาในฟาร์มของเธอด้วยจุดประสงค์อะไร หญิงสาวเอนศรีษะเข้าหาอกกว้างของชายหนุ่ม
ซึ่งกฤตพลก็รู้สึกดีเช่นกันที่มีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของเขาเช่นนี้
สงสัยและเริ่มระแวงเขามากขึ้นว่าเขาโทรศัพท์ไปไหนโทรไปหาใครผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เมื่อเธอคิดว่าเขาคง
จะโทรไปหาคนรักของเขาก็ได้ มันทำให้เธอปวดใจอย่างบอกไม่ถูก เธอเป็นอะไรไปนี่ ทำไมต้องแคร์เขามาก
ขนาดนี้ด้วย เขาเป็นชายคนแรกที่เธอรู้สึกอย่างนี้แต่เขาเป็นคนที่เธอไม่สมควรไว้วางใจมากที่สุดด้วยแล้วเธอ
จะทำอย่างไรกับหัวใจเธอดี หญิงสาวหยิบซองจดหมายที่ส่งมาจากอเมริกาและฉีกออกอ่าน  มันเป็นความจริง
อย่างที่เขาพูดทางบริษัทอเมริกาเรียกตัวเธอไปเซ็นต์สัญญาและเธอต้องไปพรุ้งนี้ด้วยไม่เช่นนั้นเธอคงจะไปไม่
ทันตามกำหนดที่ระบุมาในจดหมาย เธอจะทำอย่างไรดีเป็นห่วงทางนี้ก็เป็นห่วงไม่รู้ว่ากฤตพลมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์
อะไรกันแน่ ถ้าเธอไปทางโน้นแล้วทางนี้เกิดเรื่องจะทำอย่างไรดี แต่ถ้าไม่ไปฟาร์มก็จะไม่มีวันฟื้นได้แน่ๆ เธอคง
ต้องไปซินะก็เขาบอกว่าเขามาด้วยความบริสุทธิ์เธอก็จะลองเสี่ยงดูสักครั้งหนึ่ง หญิงสาวค่อยๆเดินลงชั้นล่างก็ได้
ยินเสียงเขาทำอาหารอยู่ในครัววันนี้เขาจะทำอะไรให้เธอทานอีกละ หญิงสาวค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปในครัวเขาก็หัน
มาเห็นเธอพอดี
“อาบน้ำเรียบร้อยแล้วหรือครับ ผมทำอาหารเสร็จพอดีเลย คุณจะทานเลยหรือเปล่าถ้ายังผมขอตัวไปอาบน้ำสักครู่”
“ฉันยังไม่หิวเลยเชิญคุณตามสบายเถอะ ฉันจะไปหาลุงอินสักครู่”
“ถ้าอย่างนั้นไว้คุณกลับจากไปหาลุงอินก่อนละกันแล้วค่อยทานอาหารเย็นกัน คุณจะชวนลุงแกมากินด้วยก็ได้นะ
ครับผมทำอาหารหลายอย่างเลย”ชายหนุ่มเอ่ยแต่หญิงสาวไม่พูดอะไรเดินออกไปทันทีเขาได้แต่ยักไหล่ อารมณ์
ผู้หญิงตามไม่ทันจริงๆแล้วเขาก็เดินขึ้นไปอาบน้ำ
“ลุงอินคะ”
“อ้าวคุณหนูมาทำอะไรครับจะมืดแล้วนะครับและฝนก็ทำท่าจะตกด้วย”
“ทิพย์มีธุระจะคุยกับลุงนิดหน่อยนะคะ”
“เอ วันนี้เป็นวันอะไรมีแต่คนมีเรื่องพูดกับไอ้อิน”ชายชราพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“ลุงอินน่ะ อย่าล้อทิพย์ซิคะ”
“เอาละๆ คุณหนูมีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะครับ”
“พรุ้งนี้ทิพย์ต้องไปต่างประเทศค่ะ ไปเซ็นต์สัญญาที่เราประมูลงานได้นะค่ะ”
“คุณพลเขาบอกผมแล้วละครับ”
“เอ๊ะรู้สึกว่าเขาจะรู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะคะ”
“เรื่องที่เกี่ยวกับคุณหนูผมว่าคุณพลเธอรู้หมดแหละครับ”
“ทำไมคะลุง ลุงรู้อะไรมาหรือคะ ลุงรู้หรือเปล่าว่าเขาไม่ใช่นายพล คนธรรมดาอย่างที่เราเข้าใจกันแต่เขาเป็น
ถึงเจ้าของบริษัทใหญ่โต มีธุรกิจมากมายหลายอย่าง และที่สำคัญเขาเป็นคู่แข่งของเราด้วยนะคะลุง”
“ผมรู้แล้วครับคุณพลเธอเล่าให้ฟังแล้ว”
“แล้วลุงไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือที่เราโดนหลอกน่ะ”
“ผมว่าคุณพลเธอก็ไม่ได้หลอกอะไรเรานี่ครับคุณหนูเพียงแต่เธอไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดเท่านั้นเอง”
“นี่ลุงเข้าข้างผู้ชายคนนั้นหรือคะ ลุงรู้ไหมคะว่าเขาต้องมีแผนอะไรแน่ๆเลยถึงปลอมตัวเข้ามาในฟาร์มเราคง
ตั้งใจจะมาล้วงความลับของเรานะแหละค่ะ แต่อย่าหวังเลยว่าจะได้อะไรสมใจ และที่ทิพย์มาหาลุงก็เพื่อจะ
บอกว่าระยะที่ทิพย์ไม่อยู่นี่ให้ลุงช่วยประกบเขาหน่อยเขาจะได้ทำอะไรได้ไม่สะดวกนักจนกว่าทิพย์จะกลับ
มาและจะจัดการกับเขาเอง”
“คุณหนูครับลุงว่าคุณพลเธอไม่มีพิษมีภัยอะไรกับเราหรอกนะครับ”
“ลุงเข้าข้างคนอื่นมากกว่าทิพย์หรือคะ”
“ลุงรักคุณหนูเหมือนลูกหลานนะครับและอยากให้คุณหนูได้เจอกับสิ่งที่ดีๆ”
“ถ้าอย่างนั้นลุงก็ทำตามที่ทิพย์บอกละกันค่ะ ทิพย์ไปละฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว”
“คุณหนูไม่เอาร่มไปด้วยหรือครับเดี๋ยวไม่สบายกันพอดี”
“ไม่ละคะคงตกไม่แรงแค่ปอยๆเท่านั้น”เมื่อพูดจบหญิงสาวก็รีบเดินกลับบ้านทันทีและเธอก็ต้องโทษตัวเองที่
ไม่ยอมเอาร่มที่ลุงอินให้มาด้วยเนื่องจากเธอเดินมาได้ไม่ไกลนักฝนก็ตกลงมาอย่างแรงหญิงสาวจึงตัดสินใจ
เข้าไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ระหว่างทางกลับบ้านใหญ่ฝนตกหนักลงมาเรื่อยๆจนเธอเริ่มที่จะเปียกแล้วเนื่อง
จากต้นไม้ไม่สามารถกันฝนได้มากนักนะเองหญิงสาวยืนกอดอกอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยความหนาวและเธอก็เห็น
เงาตะครุ่มๆของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับกางร่มมาด้วยทำให้เธอกลัวว่าจะเป็นคนของนายดิลกหรือไม่
และเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ๆเธอก็แทบจะกระโดดด้วยความดีใจกฤตพลนะเองเขาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เหมือนโกรธใครมา
“คุณนี่ทำตัวเหมือนเด็กจริงๆคุณทิพย์”เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาเธอและกางร่มยื่นมาทางเธอเพื่อกันไม่
ให้เปียกนะเอง
“นี่คุณถือดีอย่างไงมาว่าฉัน”
“คุณก็รู้ว่าฝนตกแล้วยังจะเดินตากฝนกลับบ้านโดยที่ไม่เอาร่มมาอีก”
“ก็ใครจะไปรู้ละว่าฝนจะตกแรงขนาดนี้”หญิงสาวเถียงเมื่อรู้ตัวว่าโดนว่า
“คุณดูไม่รู้เลยหรือว่าฟ้าอย่างนี้ฝนมันแทบจะเทลงมาเลย”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละ”คำปฏิเสธของหญิงสาวทำให้เขาอารมณ์เย็นลงมากเนื่องจากเขาลืมไปว่าเธอไม่ใช่
ชาวไร่ชาวนาโดยแท้จึงทำให้ไม่สามารถดูดินฟ้าอากาศได้เก่งเหมือนชาวไร่ชาวนา เมื่อเขามองหญิงสาวที่
ยืนเถียงเขาตรงหน้าก็หายโกรธทันที ปากซีดผมรีบติดศรีษะ เสื้อผ้าที่โดนฝนเปียกแนบเนื้อแถมยังเงยหน้า
ขึ้นมองเขาเหมือนโกรธจัดอีกด้วย
“หนาวละซิ เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลย”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆเป็นเหตุทำให้หญิงสาวโกรธเพิ่มขึ้นอีก
“อย่ามาหัวเราะเยาะฉันนะ ฉันไม่เห็นอยากจะได้ร่มคุณเลย ฝนตกแค่นี้เองฉันไม่กลัวเปียกหรอก”
“ถ้าไม่กลัวเปียกแล้วมาหลบใต้ต้นไม้ทำไมละ”ชายหนุ่มล้อหญิงสาวด้วยความเพลิดเพลิน
“มันเรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมซินะ”
“แน่นอนฉันกลับบ้านเองได้โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณ”เมื่อพูดจบหญิงสาวก็หันหลังเดินออกจากใต้ต้นไม้ทันที
เปรี้ยง!!
กรี๊ด!
    หญิงสาวตกใจเสียงฟ้าร้องมากจึงหันไปหาที่พึ่ง ซึ่งตรงนั้นก็มีแต่กฤตพลเท่านั้น เธอกอดเขาไว้
แน่นเป็นผลทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ ที่แท้ก็กลัวฟ้านะเองนึกว่าจะเก่งตลอดรอดฝั่งซะอีก
เขาถือโอกาสกอดกระชับหญิงสาวตอบจนเธอเริ่มรู้ตัวจึงสะบัดเขาออกแต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย
“นี่คุณปล่อยฉันนะ”หญิงสาวแห้วใส่เขา
“คุณวิ่งมากอดผมเองนะครับคุณทิพย์”ชายหนุ่มพูดทำหน้าทะเล้นเป็นเหตุให้หญิงสาวโมโหมากขึ้นด้วยความอาย
“หยุดพูดนะ และปล่อยฉันด้วย”
“ไม่ปล่อยจะกอดอยู่อย่างนี้นะแหละดูซิว่าจะเก่งซักแค่ไหน”เขาแกล้งกอดเธอแรงขึ้นทำให้หญิงสาวนึกถึง
เหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายก็หน้าแดงขึ้นทันที ดีนะที่บรรยากาศรอบข้างเริ่มมืดแล้วเขาจึงไม่ทันสังเกต
“ฉันบอกให้ปล่อยไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนมาช่วย”
“ก็เอาซิถ้าคุณไม่กลัวว่าคนจะมาเห็นผมยืนกอดคุณอย่างนี้ละก็ตะโกนเลย”ชายหนุ่มท้าเพราะเขารู้ดีว่าหญิงสาว
ไม่กล้าทำแน่นอน  นี่ถ้าดวงตาเธอสามารถพ่นไฟออกมาได้ตอนนี้เขาคงไหม้ไปแล้วแน่เลย หญิงสาวทำท่า
ฮึดฮัดสักครู่ก็ยืนให้เขากอดเฉยเพราะเริ่มรู้แล้วว่ายิ่งพยายามดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น นี่ขนาดว่าเขากอดเธอ
ด้วยมือข้างเดียวนะนี่ ส่วนอีกข้างหนึ่งเขายังถือร่มกางกันฝนให้เขาและเธออยู่
“พูดง่ายๆอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”ชายหนุ่มพูดทำหน้าอารมณ์ดีพร้อมกับก้มลงหอมแก้มหญิงอย่างรวดเร็วจน
เธอไม่ทันตั้งตัวได้แต่ทำตาขวางใส่ชายหน้าทะเล้นที่สวมกอดเธออยู่
“คนฉวยโอกาส ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“จะให้ผมปล่อยก็ได้แต่ต้องพูดเพราะๆก่อน”ชายหนุ่มต่อรอง
“ฉันก็พูดเพราะได้แค่นี้แหละ ถ้าอยากฟังคนพูดเพราะก็ไปหาที่อื่น”
“ไม่หรอกผมชอบฟังคุณพูดมากกว่า ถ้าไม่ยอมพูดผมก็จะกอดคุณอยู่อย่างนี้แหละให้ยืนหนาวตายกันไปเลย”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเป็นต่อ
“ก็ได้ ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณกฤตพล”หญิงสาวพูดด้วยความไม่พอใจ
“ไม่เห็นเพราะตรงไหนเลย แถมยังจะประชดประชันอีกต่างหาก”
“เอ๊ะคุณนี่ทำไมเรื่องมากอย่างนี้นะ”
“คุณต้องพูดตามที่ผมบอก ถ้าไม่พูดผมจะไม่กอดเฉยๆอย่างเดียวหรอกนะจะจูบด้วย จูบให้ขาดใจไปเลย”
“คุณไม่มีสิทธิทำกับฉันอย่างนั้นนะ ถ้าฉันหลุดไปได้เมื่อไหร่ละก็จะให้คนงานมาเล่นงานคุณคอยดูซิ”
“ไว้ให้คุณหลุดไปได้ก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้คุณต้องทำตามที่ผมบอกก่อน”
“แล้วจะให้ฉันพูดอะไรก็บอกมาซิ ฉันเริ่มหนาวแล้วนะ”หญิงสาวโอดครวญ
“ผมกอดไว้ทั้งตัวอย่างนี้แล้วยังจะหนาวอีกหรือครับ”ชายหนุ่มแกล้งกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
“ไม่หนาวแล้วไม่ต้องรัดแน่นก็ได้”และเธอก็ต้องใจหายเมื่อเขาคลายแขนออกนิดหน่อยแต่ไม่ได้ปล่อยให้เป็น
อิสระลมเย็นพัดผ่านตัวเธอเข้ามาทำให้เธอเป็นฝ่ายขยับเข้าหาเขาเสียเอง  ชายหนุ่มสังเกตแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเขาเอ่ยล้อเธอขึ้นมาเธอคงจะผละออกจากเขาเป็นแน่
“พูดตามที่ผมบอกนะครับ ว่า ปล่อยทิพย์เถอะค่ะคุณพลขาทิพย์อยากกลับบ้านแล้วค่ะ แค่นี้เอง”
“นี่คุณจะบ้าหรือฉันไม่พูดหรอก”
“ก็ตามใจถ้าไม่พูดก็จะโดนกอดอยู่อย่างนี้และก็จะโดนผมจูบด้วย”เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็ทำท่าจะก้มลงหาริมฝีปาก
หญิงสาวช้าๆ
“ก็ได้พูดก็ได้”หญิงสาวตอบด้วยเสียงไม่พอใจ
“งั้นก็พูดได้เลยผมกำลังรออยู่ฟังอยู่”
“ปล่อยทิพย์เถอะคุณพลขา ทิพย์อยากกลับบ้านแล้วคะ”
“พูดเพราะก็ได้นี่ แถมน่ารักอีกตะหาก เอาละผมจะให้รางวัลละกัน”และกฤตพลก็ก้มลงหอมแก้มหญิงอย่างรวดเร็ว
“นี่คุณ คนบ้า”
“เอาละกลับบ้านกันได้แล้ว”ชายหนุ่มเดินโอบไหล่หญิงสาวเดินกางร่มฝ่าสายฝนไป เธอรู้สึกว่าอบอุ่นและปลอดภัย
อย่างบอกไม่ถูกเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของกฤตพลอย่างนี้เธอไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเลยอยากจะหยุดไว้นานๆ
ไม่อยากคิดว่าเขาเข้ามาในฟาร์มของเธอด้วยจุดประสงค์อะไร หญิงสาวเอนศรีษะเข้าหาอกกว้างของชายหนุ่ม
ซึ่งกฤตพลก็รู้สึกดีเช่นกันที่มีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของเขาเช่นนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น