ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5
      ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านเขาคิดว่าหญิงสาวคงจะเป็นที่รักนับถือของลูกน้องพอสมควร เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้าน
หันไปทางมุมทำงานของหญิงสาวเขาเห็นเธอนั่งหลับอยู่หน้าคอมฯซึ่งเขาคาดว่าเธอคงจะยังจะทำไม่เสร็จแน่
จึงยังไม่ยอมขึ้นนอน เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอ มองจากด้านหลังแล้วเธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร
      กลมกลึงไปหมด นี่คงเหนื่อยมากจนหลับไปไม่รู้ตัวขนาดนี้ นี่ละนะผู้หญิงไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหน
ก็ยังอ่อนแออยู่ดี เขารู้สึกอยากจะแบกรับภาระทั้งหมดของเธอไว้แทนเหลือเกิน ชายหนุ่มลืมนึกถึงสาเหตุ
ที่เขาเข้ามาในฟาร์มแห่งนี้ เขาคิดแต่ว่าเขาจะทำอย่างไรจึงจะช่วยหญิงสาวได้แบ่งเบาภาระจากเธอมาได้
เมื่อเขาเดินไปใกล้เขายังเห็นปืนว่าอยู่ข้างมือเธออยู่นี่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเจ้าของมันหลับสนิทขนาดนี้
นี่ถ้าเป็นคนที่ไม่หวังดีกลับเธอมันจะเป็นอย่างไรนะ เขาค่อยๆเอื้อมมือไปเขย่าแขนเธอเบาๆ
“คุณทิพย์ครับ คุณทิพย์”เขาเรียกเธอเบาพร้อมกลับเขย่าไปด้วย หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตระหนก
และหันไปคว้าปืนมาเล็งตรงเขา แต่เขาไวกว่าเนื่องจากคาดไว้อยู่แล้ว เขาจึงจับข้อมือเธอไว้
“ผมเองคุณทิพย์ ไม่ใช่คนอื่น”ชายหนุ่มรีบบอก หญิงสาวถอนใจเหมือนโล่งอก
“คุณละเอง นี่กี่โมงแล้วคะ ฉันหลับไปตอนไหนไม่ทราบเลย”
“จะห้าทุ่มแล้วครับ ผมว่าคุณน่าจะไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับเพราะดูคุณเพลียเหลือเกิน”
“แต่ฉันยังพิมพ์จดหมายไม่เสร็จเลย ต้องรีบคะไม่อย่างนั้นแย่แน่เลย”หญิงสาวอธิบาย
“ถ้างั้นให้ผมทำให้ละกัน เพราะถึงอย่างไรผมก็เป็นผู้จัดการฟาร์มอยู่แล้วคุณไปพักผ่อนเถอะ”ชายหนุ่มอาสา
“แต่มันเป็นจดหมายส่งไปต่างประเทศนะคะ ฉันไม่ได้ดูถูกคุณนะคะ แต่ว่าคุณจะทำได้หรือคะ”
“ผมเก่งหลายภาษานะครับ แค่พิมพ์จดหมายแค่นี้สบายมาก แค่คุณบอกจุดประสงค์มาว่าจะส่งไปเรื่องอะไร
เดี๋ยวผมจะร่างหนังสือและพิมพ์ไว้ให้คุณเซ็นต์พรุ้งนี้ ดีไหมครับ”ชายหนุ่มเสนอเป็นเหตุให้หญิงสาวนิ่งคิดสักครู่
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากค่ะ ฉันต้องยอมรับเลยว่าอยากพักเต็มทีแล้ว ฉันจะส่งจดหมายไปอเมริกาถึงผู้จัดการ
บริษัทที่เราเซ็นต์สัญญากันนะค่ะ เรื่องขอบคุณที่เขาให้โอกาสเราและก็บอกเรื่องการส่งผลผลิตรอบแรกของเรา
ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านะคะ”
“ได้ครับแค่นี้ก็พอแล้ว คุณไปพักเถอะที่เหลือผมจัดการเอง”
“ขอบคุณมากค่ะ พรุ้งนี้เช้าเจอกันใหม่นะคะ”พูดจบหญิงสาวก็ลุกขึ้นเดินขึ้นชั้นบน ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตาม
ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนเลย ชายหนุ่มนั่งลงพิมพ์จดหมาย
ต่อจากหญิงสาวซึ่งเขาอ่านที่เธอพิมพ์ค้างไว้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถทางธุรกิจมากทีเดียว เขาคิดว่าเธอคง
จะพาฟาร์มแห่งนี้ไปได้ไกลทีเดียวแต่ต้องไม่ใช่ให้เธอออกไปตากแดดข้างนอกอย่างทุกวันนี้เธอต้องทำงานอยู่
ที่บ้านติดต่อธุรกิจมากกว่า
    หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่ซึ่งเธอทำเป็นประจำจนชินแล้วไม่ว่าจะเหนื่อยขนาดไหนเธอก็ตื่นเช้าเสมอ
หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปด้านล่างเมื่อนึกถึงงานที่เธอมอบให้ชายหนุ่มทำเมื่อคืนนี้ เมื่อเธอลงมาด้านล่าง
ก็ได้กลิ่นอาหารเช้าหอมทั่วไปหมด ใครกันนะมาทำอาหารให้แต่เช้า ปกติลำดวนจะนำอาหารมาให้เมื่อจัดการ
ให้คนงานทานเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่ และเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเดินไปถึงหน้าประตูครัวเธอเห็นผู้จัดการฟาร์ม
คนใหม่ของเธอกำลังวุ่นอยู่กับอาหารบนเตาอย่างขมักเขม่น เธอพึ่งจะมีโอกาสสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าอย่าง
จริงจังก็ตอนนี้เอง เมื่อวานเธอเหนื่อยจนไม่อยากจะสังเกตอะไรเลย เขาเป็นผู้ชายที่สูงมากทีเดียวขนาดเธอ
เป็นผู้หญิงที่สูงมากแล้วยังได้แค่ปลายคางเขาเอง เขาเป็นคนรูปร่างบึกบึนไม่ใช่คนที่กล้ามใหญ่จนหน้าเกียจ
แต่เขาคนเป็นมีกล้ามเนื้อเนื่องจากการออกกำลังกายเป็นประจำ ผมดำสลวยตัดสั้น จมูกปากคิ้วตา โดยรวม
แล้วเขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากทีเดียวหรือจะเรียกให้ถูกเขาเป็นหน้าสวยเหมือนผู้หญิงโดยเฉพาะตรงตานั้น
หวานเสียจนจะหยด คิ้วเข้ม เธอยังไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีอย่างเขามาก่อน เธอมองเขาเพลินจนเขาหันมาทางเธอ
และทั้งสองก็สบตากันอย่างไม่ทันตั้งตัวมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และไม่เคยเกิดขึ้นเลยสำหรับหญิงสาว
“ตื่นแล้วหรือครับ”ชายหนุ่มรู้สึกตัวก่อนจึงเอ่ยทักแก้เก้อ
“เอ่อ ค่ะพอดีได้กลิ่นอาหารเลยเดินมาดู ไม่รู้เลยว่าคุณจะทำอาหารได้น่าทานอย่างนี้”หญิงสาวเดินเข้ามาในครัว
และชะโงกเข้าไปอาหารที่เขาทำเสร็จแล้ว
“ก็พอเป็นนะครับ เอาตัวรอดได้เวลาไม่มีใครทำให้ทาน”ชายหนุ่มออกตัว
“เมื่อก่อนฉันก็ทำทานเหมือนกันแต่มาระยะหลังนี้ไม่ได้ทำ เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรนะคะเลยให้ลำดวนทำ
มาให้ทานดีกว่า จริงซิคะไม่ทราบว่าจดหมายที่ให้พิมพ์ให้เมื่อคืนเสร็จหรือเปล่าคะ”
“เรียบร้อยแล้วครับ แต่ผมว่าคุณน่าจะทานอาหารก่อนนะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณมีอะไรฉันช่วยไหมคะ”หญิงสาวอาสา
“คุณช่วยผมปรุงผัดนี่ละกันครับเดี๋ยวผมจะไปจัดอาหารขึ้นโต๊ะ”
“ได้ค่ะ”เมื่อชายหนุ่มถือจานอาหารออกไปแล้วหญิงสาวก็เดินไปหน้าเตาและจัดการผัดผักที่เขาทำค้างไว้และ
ปรุงรสชาติด้วยความชำนาญ โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าทุกอิริยาบถของเธอนั้นอยู่ในสายตาของชายหนุ่มโดยตลอด
เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ไปตรวจงานที่เขาทำไว้เมื่อคืนและเธอก็ต้องชมที่เขาใช้ภาษา
ได้สละสลวยมากทีเดียว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ขี่ม้าออกไปสมทบกับคนงานอีกเกือบสิบคน เธอสังเกตเห็นว่าชายหนุ่ม
สนิทกับคนงานเร็วมากทีเดียวและดูแล้วเขาก็ทำงานได้โดยไม่บ่นเลย ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าเขาคงจะเผ่นตั้งแต่
วันแรกทีเดียวแต่นี่เขาขี่ม้าต้อนโคไปกับพวกคนงานและกลับมาดูแลไร่ส้มและองุ่นกับเธออีก
“อีกไม่กี่วันเราก็จะเก็บผลผลิตแล้วละคะ ถึงเวลานั้นเราคงจะมีทุนซื้อยาและปุ๋ยมาฉีดได้แล้ว เที่ยวนี้เราไม่ได้ซื้อ
ยามาฉีดเลยเราใช้ปุ๋ยคอกที่เราทำเองมาใส่และก็ใช้พืชบางอย่างมากหมักทำเป็นยาฆ่าแมลงซึ่งมันก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ผลผลิตเลยยังไม่ดี”หญิงสาวอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง และก็เดินไปดูผมส้มไปเรื่อยๆ
“ผมว่าผลผลิตที่ผมเห็นนี่มากทีเดียวนะครับ ถ้าเทียบกับที่อื่นแล้วผมว่าที่ฟาร์มคุณให้ผลผลิตเยอะทีเดียว”ชายหนุ่ม
ให้กำลังใจหญิงสาว
“เมื่อก่อนนี้ที่พ่อกับแม่ยังอยู่ฟาร์มเราเจริญกว่านี้เยอะค่ะ”หญิงสาวเอ่ยถึงบุคคลที่ล่วงลับไปแล้วด้วยน้ำเสียงหงอยเหงา
“แต่ผมว่าคุณก็ทำดีแล้วละครับ”
“ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจ แต่ฉันรู้ตัวเองดีคะว่าทำได้ยังไม่ดีเท่าไหร่ ฉันอ่อนแอเกินไป”
“แต่คุณก็ต้องเข้าใจนะครับว่าคุณเป็นผู้หญิงจะให้มาทำทุกอย่างที่ผู้ชายเขาทำกันนะไม่ได้”
“ฉันดีใจนะคะที่ได้คุณมาช่วยเรา แต่ฉันอยากจะบอกว่าเรื่องค่าจ้างที่คุณจะได้รับ มันคงจะไม่มากเท่าไรเนื่อง
จากทางเรากำลังมีปัญหาเรื่องเงินอยู่”
“ผมไม่ได้ทำงานเพื่อเงินหรอกนะครับคุณทิพย์ ผมทำเพราะผมชอบและสนุกกับมัน”ชายหนุ่มพูดเพื่อให้ทิพย์กฤตาสบายใจ
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันรู้ว่าคนเราทำงานก็ต้องหวังผลตอบแทน ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะให้คุณได้ไม่มากเท่าที่คุณควรจะได้
แต่ฉันสัญญาว่าคุณจะได้ในส่วนที่คุณควรจะได้เมื่อเราเริ่มฟื้นตัว”
“ผมก็ยังยืนยันคำเดินอยู่นะแหละครับว่าผมไม่ต้องการเงินทองอะไรมากมาย”กฤตพลยังยืนยันคำเดิมของเขา
หญิงสาวไม่อยากเถียงเขาจึงนิ่งเสีย แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะให้เขาเมื่อมีโอกาส
หลังจากนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวก็ทำงานด้วยกันด้วยความราบรื่นมาเดือนกว่าเป็นเวลาที่ทั้งสองสนิทสนมกัน
มากขึ้นจนวันหนึ่งที่เขาและเธอต้องเขาในเมืองเพื่อซื้ออุปกรณ์บางอย่างชายหนุ่มเข้าไปซื้อของในร้านหญิงสาว
รออยู่ด้านนอกเจอกับนายดิลกและลูกชาย เมื่อนายดิลกเห็นหญิงสาวเข้าจึงเดินเขามาทัก
“สวัสดีหลานทิพย์ มาทำอะไรหรือ”
“ฉันคิดว่าจะทำอะไรก็ไม่เห็นต้องรายงานคุณเลยนี่คะ”หญิงสาวเอ่ยอย่างรวนเต็มที่เนื่องจากไม่ชอบหน้า
“พูดไม่เพราะเลยนะน้องทิพย์ คนสวยๆน่ะเขาพูดเพราะๆกันทั้งนั้นแหละ”นายอุดมลูกชายนายดิลกขัดขึ้น
“ฉันจะพูดเพราะกับคนที่อยากพูดเท่านั้น”
“เอาเหอะน่า อย่าถือสาน้องเลยลูก จริงซิเมื่อสักครู่นี้ลุงเห็นหนูมากับคุณพลหรือ ไปรู้จักเขาได้ยังไงล่ะ”นายดิลก
เอ่ยถามถึงสิ่งที่เขาสงสัยตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว
“เขาเป็นผู้จัดการคนใหม่ของเราค่ะ”หญิงสาวตอบแบบเลี่ยงไม่ได้
“อะไรกันคนระดับคุณพลเนี่ยนะมาเป็นผู้จัดการฟาร์มให้กับฟาร์มเล็กๆแค่นี้”นายดิลกเอ่ยเหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“เขาเป็นใครหรือคะทำไมถึงจะมาทำงานให้เราไม่ได้”
“อะไรกันนี่หนูไม่รู้เลยหรือว่าคนที่รับเข้าทำงานน่ะเขาเป็นใครมาจากไหน”
“เขาก็เป็นนายพล ที่มาสมัครงานกับเราและก็เก่งงานด้วยเราจึงรับไว้ ก็เท่านั้น”
“นี่แสดงว่าไม่รู้อะไรเลยซินะ เอ้าลุงจะบอกให้ก็ได้ ว่าผู้จัดการฟาร์มของหนูนะเขาเป็นใคร”หญิงสาวตั้งใจฟังเต็มที่
“เขาคือคุณกฤตพล สุริยกมล เจ้าของบริษัทมากมาย เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเป็นที่หมายปองของพวก
นักธุรกิจและไฮโซทั้งหลายที่อยากจะได้เขาไปเป็นเขย เขาเป็นน้องคนที่สองของตระกูลนี้ และที่ว่าเขาเก่ง
นะก็เขามีฟาร์มเหมือนหนูนี่แหละแต่ใหญ่กว่าเยอะ”นายอุดมอธิบายให้ฟังพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและเดินจากไป
          ตระกูลสุริยกมลงั้นหรือคนที่เป็นคู่แข่งที่ประมูลงานแข่งกับเธอเมื่อคราวที่แล้วนะหรือแล้วเขามาทำ
อะไรในฟาร์มของเธอหรือว่าเขาจะมาล้วงความลับของฟาร์มเธอ คิดถึงตรงนี้แล้วหญิงสาวก็ใจหายวาบทำไม
เขาต้องเป็นคนอย่างนี้ หน้าไหว้หลังหลอก เขาเห็นเธอเป็นคนโง่มากงั้นหรือยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
“ตกใจจนพูดไม่ออกเลยหรือครับ”หญิงสาวหันไปมองต้นเสียงนี่นายอุดมลูกชายนายดิลกยังไม่ไปอีกหรือนี่
“อย่ามายุ่ง ฉันอยากอยู่คนเดียว คุณจะไปไหนก็ไป”หญิงสาวโมโหมากขึ้น
“ไม่เอาน่าน้องทิพย์ อย่าโกรธไปเลย ไปหาอะไรทานกับพี่ดีกว่า พี่เลี้ยงเอง”นายอุดมฉวยโอกาสเอื้อมมือมา
จับมือหญิงสาวและจูงออกเดิน แต่หญิงสาวสะบัดออกซะก่อน
“ฉันไม่อยากไปกับคุณ และช่วยกรุณาไปให้พ้นฉันเสียที คุณไม่รู้หรือไงว่าฉันไม่ชอบหน้าพวกคุณ”
“เอ๊ะนังนี่ พูดด้วยดีๆ ไม่ชอบใช่มั้ย ถึงยังไงแกก็ต้องมาเป็นเมียฉันวันยังค่ำนะแหละ”
“ไม่มีทางฉันยอมตายดีกว่า”หญิงสาวเถียง
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะดื้อได้ซักแค่ไหนจะไม่มีที่ซุกหัวนอนอยู่แล้วยังจะมาทำหยิ่งผยองอีก”นายอุดม
พูดพร้อมกับรั้งตัวหญิงสาวไปทางรถเขาซึ่งเธอก็ไม่ยอมไปง่ายๆจึงเกิดการยื้อยึดกันขึ้น
“ผมว่าคุณปล่อยผู้หญิงดีกว่านะครับ”
“ไงไอ้หน้าอ่อนมาจากไหนละเนี่ย ไม่รู้จักฉันหรือไง”อุดมยังทำเก่งเพราะเขาถือว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้
“ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องรู้จักคุณ แต่คุณควรจะปล่อยเจ้านายผมได้แล้วนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับปลายตา
มองมาทางหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่และเขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของหญิงสาว ไม่รู้ว่าเธอโกรธอะไรเขา
“อ้อคุณนี่เอง คุณกฤตพล ที่พ่อผมพูดถึง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”นายอุดมปล่อยมือหญิงสาวทันทีและยื่นมือมาจะจับมือกับชายหนุ่ม
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นใคร”ชายหนุ่มตกใจมากที่มีคนรู้ว่าเขาเป็นใครและถ้าเป็นเช่นนั้นหญิงสาวก็ต้องรู้ด้วยนะ
ซิมิน่าละเธอถึงทำท่าทางโกรธเขามากมายขนาดนี้
“โธ่คนดังขนาดคุณใครไม่รู้จักก็แย่แล้วละครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับพอดีผมมีธุระนะครับ”นายอุดม
ออกตัวเพื่อเลี่ยงกฤตพลทันทีเนื่องจากบิดาเขาพึ่งจะเล่าถึงประวัติชายหนุมให้เขาฟังก่อนที่จะเข้ามาหาทิพย์กฤตา
ว่าพวก สุริยกมลนั้นมีอิทธิพลการธุรกิจพอสมควรไม่มีใครกล้ามีเรื่องด้วยนักเพราะมันจะมีผลทางธุรกิจ
“เชิญครับ”กฤตพลเอ่ยกับอุดมและหันไปมองหญิงสาวที่ยืนหน้าบึ้งตึงและเดินนำเขาขึ้นรถไปแล้ว นี่เขาจะ
อธิบายให้เธอเข้าใจได้อย่างไร เมื่อเขาขึ้นประจำที่คนขับและขับออกไปหญิงสาวไม่ยอมพูดกับเขาเลยไม่ว่า
เขาจะชวนพูดอะไรก็ตามเขาขับรถไปได้สักระยะหนึ่งเขาก็จอดรถเข้าข้างทางที่ไม่มีรถผ่านไปมามากนัก
“คุณทิพย์ผมอธิบายได้นะครับ”ชายหนุ่มเริ่มด้วยสีหน้าลำบากใจที่จะอธิบาย
“ฉันไล่คุณออก”หญิงสาวเอ่ยสวนกลับมาทันที
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอ๊ะแล้วอย่างนี้พระเอกของเราจะทำอย่างไรละคะนี่ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ: รมยกร
หันไปทางมุมทำงานของหญิงสาวเขาเห็นเธอนั่งหลับอยู่หน้าคอมฯซึ่งเขาคาดว่าเธอคงจะยังจะทำไม่เสร็จแน่
จึงยังไม่ยอมขึ้นนอน เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอ มองจากด้านหลังแล้วเธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร
      กลมกลึงไปหมด นี่คงเหนื่อยมากจนหลับไปไม่รู้ตัวขนาดนี้ นี่ละนะผู้หญิงไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหน
ก็ยังอ่อนแออยู่ดี เขารู้สึกอยากจะแบกรับภาระทั้งหมดของเธอไว้แทนเหลือเกิน ชายหนุ่มลืมนึกถึงสาเหตุ
ที่เขาเข้ามาในฟาร์มแห่งนี้ เขาคิดแต่ว่าเขาจะทำอย่างไรจึงจะช่วยหญิงสาวได้แบ่งเบาภาระจากเธอมาได้
เมื่อเขาเดินไปใกล้เขายังเห็นปืนว่าอยู่ข้างมือเธออยู่นี่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเจ้าของมันหลับสนิทขนาดนี้
นี่ถ้าเป็นคนที่ไม่หวังดีกลับเธอมันจะเป็นอย่างไรนะ เขาค่อยๆเอื้อมมือไปเขย่าแขนเธอเบาๆ
“คุณทิพย์ครับ คุณทิพย์”เขาเรียกเธอเบาพร้อมกลับเขย่าไปด้วย หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตระหนก
และหันไปคว้าปืนมาเล็งตรงเขา แต่เขาไวกว่าเนื่องจากคาดไว้อยู่แล้ว เขาจึงจับข้อมือเธอไว้
“ผมเองคุณทิพย์ ไม่ใช่คนอื่น”ชายหนุ่มรีบบอก หญิงสาวถอนใจเหมือนโล่งอก
“คุณละเอง นี่กี่โมงแล้วคะ ฉันหลับไปตอนไหนไม่ทราบเลย”
“จะห้าทุ่มแล้วครับ ผมว่าคุณน่าจะไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับเพราะดูคุณเพลียเหลือเกิน”
“แต่ฉันยังพิมพ์จดหมายไม่เสร็จเลย ต้องรีบคะไม่อย่างนั้นแย่แน่เลย”หญิงสาวอธิบาย
“ถ้างั้นให้ผมทำให้ละกัน เพราะถึงอย่างไรผมก็เป็นผู้จัดการฟาร์มอยู่แล้วคุณไปพักผ่อนเถอะ”ชายหนุ่มอาสา
“แต่มันเป็นจดหมายส่งไปต่างประเทศนะคะ ฉันไม่ได้ดูถูกคุณนะคะ แต่ว่าคุณจะทำได้หรือคะ”
“ผมเก่งหลายภาษานะครับ แค่พิมพ์จดหมายแค่นี้สบายมาก แค่คุณบอกจุดประสงค์มาว่าจะส่งไปเรื่องอะไร
เดี๋ยวผมจะร่างหนังสือและพิมพ์ไว้ให้คุณเซ็นต์พรุ้งนี้ ดีไหมครับ”ชายหนุ่มเสนอเป็นเหตุให้หญิงสาวนิ่งคิดสักครู่
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากค่ะ ฉันต้องยอมรับเลยว่าอยากพักเต็มทีแล้ว ฉันจะส่งจดหมายไปอเมริกาถึงผู้จัดการ
บริษัทที่เราเซ็นต์สัญญากันนะค่ะ เรื่องขอบคุณที่เขาให้โอกาสเราและก็บอกเรื่องการส่งผลผลิตรอบแรกของเรา
ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านะคะ”
“ได้ครับแค่นี้ก็พอแล้ว คุณไปพักเถอะที่เหลือผมจัดการเอง”
“ขอบคุณมากค่ะ พรุ้งนี้เช้าเจอกันใหม่นะคะ”พูดจบหญิงสาวก็ลุกขึ้นเดินขึ้นชั้นบน ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตาม
ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนเลย ชายหนุ่มนั่งลงพิมพ์จดหมาย
ต่อจากหญิงสาวซึ่งเขาอ่านที่เธอพิมพ์ค้างไว้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถทางธุรกิจมากทีเดียว เขาคิดว่าเธอคง
จะพาฟาร์มแห่งนี้ไปได้ไกลทีเดียวแต่ต้องไม่ใช่ให้เธอออกไปตากแดดข้างนอกอย่างทุกวันนี้เธอต้องทำงานอยู่
ที่บ้านติดต่อธุรกิจมากกว่า
    หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่ซึ่งเธอทำเป็นประจำจนชินแล้วไม่ว่าจะเหนื่อยขนาดไหนเธอก็ตื่นเช้าเสมอ
หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปด้านล่างเมื่อนึกถึงงานที่เธอมอบให้ชายหนุ่มทำเมื่อคืนนี้ เมื่อเธอลงมาด้านล่าง
ก็ได้กลิ่นอาหารเช้าหอมทั่วไปหมด ใครกันนะมาทำอาหารให้แต่เช้า ปกติลำดวนจะนำอาหารมาให้เมื่อจัดการ
ให้คนงานทานเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่ และเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเดินไปถึงหน้าประตูครัวเธอเห็นผู้จัดการฟาร์ม
คนใหม่ของเธอกำลังวุ่นอยู่กับอาหารบนเตาอย่างขมักเขม่น เธอพึ่งจะมีโอกาสสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าอย่าง
จริงจังก็ตอนนี้เอง เมื่อวานเธอเหนื่อยจนไม่อยากจะสังเกตอะไรเลย เขาเป็นผู้ชายที่สูงมากทีเดียวขนาดเธอ
เป็นผู้หญิงที่สูงมากแล้วยังได้แค่ปลายคางเขาเอง เขาเป็นคนรูปร่างบึกบึนไม่ใช่คนที่กล้ามใหญ่จนหน้าเกียจ
แต่เขาคนเป็นมีกล้ามเนื้อเนื่องจากการออกกำลังกายเป็นประจำ ผมดำสลวยตัดสั้น จมูกปากคิ้วตา โดยรวม
แล้วเขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากทีเดียวหรือจะเรียกให้ถูกเขาเป็นหน้าสวยเหมือนผู้หญิงโดยเฉพาะตรงตานั้น
หวานเสียจนจะหยด คิ้วเข้ม เธอยังไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีอย่างเขามาก่อน เธอมองเขาเพลินจนเขาหันมาทางเธอ
และทั้งสองก็สบตากันอย่างไม่ทันตั้งตัวมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และไม่เคยเกิดขึ้นเลยสำหรับหญิงสาว
“ตื่นแล้วหรือครับ”ชายหนุ่มรู้สึกตัวก่อนจึงเอ่ยทักแก้เก้อ
“เอ่อ ค่ะพอดีได้กลิ่นอาหารเลยเดินมาดู ไม่รู้เลยว่าคุณจะทำอาหารได้น่าทานอย่างนี้”หญิงสาวเดินเข้ามาในครัว
และชะโงกเข้าไปอาหารที่เขาทำเสร็จแล้ว
“ก็พอเป็นนะครับ เอาตัวรอดได้เวลาไม่มีใครทำให้ทาน”ชายหนุ่มออกตัว
“เมื่อก่อนฉันก็ทำทานเหมือนกันแต่มาระยะหลังนี้ไม่ได้ทำ เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรนะคะเลยให้ลำดวนทำ
มาให้ทานดีกว่า จริงซิคะไม่ทราบว่าจดหมายที่ให้พิมพ์ให้เมื่อคืนเสร็จหรือเปล่าคะ”
“เรียบร้อยแล้วครับ แต่ผมว่าคุณน่าจะทานอาหารก่อนนะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณมีอะไรฉันช่วยไหมคะ”หญิงสาวอาสา
“คุณช่วยผมปรุงผัดนี่ละกันครับเดี๋ยวผมจะไปจัดอาหารขึ้นโต๊ะ”
“ได้ค่ะ”เมื่อชายหนุ่มถือจานอาหารออกไปแล้วหญิงสาวก็เดินไปหน้าเตาและจัดการผัดผักที่เขาทำค้างไว้และ
ปรุงรสชาติด้วยความชำนาญ โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าทุกอิริยาบถของเธอนั้นอยู่ในสายตาของชายหนุ่มโดยตลอด
เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ไปตรวจงานที่เขาทำไว้เมื่อคืนและเธอก็ต้องชมที่เขาใช้ภาษา
ได้สละสลวยมากทีเดียว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ขี่ม้าออกไปสมทบกับคนงานอีกเกือบสิบคน เธอสังเกตเห็นว่าชายหนุ่ม
สนิทกับคนงานเร็วมากทีเดียวและดูแล้วเขาก็ทำงานได้โดยไม่บ่นเลย ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าเขาคงจะเผ่นตั้งแต่
วันแรกทีเดียวแต่นี่เขาขี่ม้าต้อนโคไปกับพวกคนงานและกลับมาดูแลไร่ส้มและองุ่นกับเธออีก
“อีกไม่กี่วันเราก็จะเก็บผลผลิตแล้วละคะ ถึงเวลานั้นเราคงจะมีทุนซื้อยาและปุ๋ยมาฉีดได้แล้ว เที่ยวนี้เราไม่ได้ซื้อ
ยามาฉีดเลยเราใช้ปุ๋ยคอกที่เราทำเองมาใส่และก็ใช้พืชบางอย่างมากหมักทำเป็นยาฆ่าแมลงซึ่งมันก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ผลผลิตเลยยังไม่ดี”หญิงสาวอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง และก็เดินไปดูผมส้มไปเรื่อยๆ
“ผมว่าผลผลิตที่ผมเห็นนี่มากทีเดียวนะครับ ถ้าเทียบกับที่อื่นแล้วผมว่าที่ฟาร์มคุณให้ผลผลิตเยอะทีเดียว”ชายหนุ่ม
ให้กำลังใจหญิงสาว
“เมื่อก่อนนี้ที่พ่อกับแม่ยังอยู่ฟาร์มเราเจริญกว่านี้เยอะค่ะ”หญิงสาวเอ่ยถึงบุคคลที่ล่วงลับไปแล้วด้วยน้ำเสียงหงอยเหงา
“แต่ผมว่าคุณก็ทำดีแล้วละครับ”
“ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจ แต่ฉันรู้ตัวเองดีคะว่าทำได้ยังไม่ดีเท่าไหร่ ฉันอ่อนแอเกินไป”
“แต่คุณก็ต้องเข้าใจนะครับว่าคุณเป็นผู้หญิงจะให้มาทำทุกอย่างที่ผู้ชายเขาทำกันนะไม่ได้”
“ฉันดีใจนะคะที่ได้คุณมาช่วยเรา แต่ฉันอยากจะบอกว่าเรื่องค่าจ้างที่คุณจะได้รับ มันคงจะไม่มากเท่าไรเนื่อง
จากทางเรากำลังมีปัญหาเรื่องเงินอยู่”
“ผมไม่ได้ทำงานเพื่อเงินหรอกนะครับคุณทิพย์ ผมทำเพราะผมชอบและสนุกกับมัน”ชายหนุ่มพูดเพื่อให้ทิพย์กฤตาสบายใจ
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันรู้ว่าคนเราทำงานก็ต้องหวังผลตอบแทน ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะให้คุณได้ไม่มากเท่าที่คุณควรจะได้
แต่ฉันสัญญาว่าคุณจะได้ในส่วนที่คุณควรจะได้เมื่อเราเริ่มฟื้นตัว”
“ผมก็ยังยืนยันคำเดินอยู่นะแหละครับว่าผมไม่ต้องการเงินทองอะไรมากมาย”กฤตพลยังยืนยันคำเดิมของเขา
หญิงสาวไม่อยากเถียงเขาจึงนิ่งเสีย แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะให้เขาเมื่อมีโอกาส
หลังจากนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวก็ทำงานด้วยกันด้วยความราบรื่นมาเดือนกว่าเป็นเวลาที่ทั้งสองสนิทสนมกัน
มากขึ้นจนวันหนึ่งที่เขาและเธอต้องเขาในเมืองเพื่อซื้ออุปกรณ์บางอย่างชายหนุ่มเข้าไปซื้อของในร้านหญิงสาว
รออยู่ด้านนอกเจอกับนายดิลกและลูกชาย เมื่อนายดิลกเห็นหญิงสาวเข้าจึงเดินเขามาทัก
“สวัสดีหลานทิพย์ มาทำอะไรหรือ”
“ฉันคิดว่าจะทำอะไรก็ไม่เห็นต้องรายงานคุณเลยนี่คะ”หญิงสาวเอ่ยอย่างรวนเต็มที่เนื่องจากไม่ชอบหน้า
“พูดไม่เพราะเลยนะน้องทิพย์ คนสวยๆน่ะเขาพูดเพราะๆกันทั้งนั้นแหละ”นายอุดมลูกชายนายดิลกขัดขึ้น
“ฉันจะพูดเพราะกับคนที่อยากพูดเท่านั้น”
“เอาเหอะน่า อย่าถือสาน้องเลยลูก จริงซิเมื่อสักครู่นี้ลุงเห็นหนูมากับคุณพลหรือ ไปรู้จักเขาได้ยังไงล่ะ”นายดิลก
เอ่ยถามถึงสิ่งที่เขาสงสัยตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว
“เขาเป็นผู้จัดการคนใหม่ของเราค่ะ”หญิงสาวตอบแบบเลี่ยงไม่ได้
“อะไรกันคนระดับคุณพลเนี่ยนะมาเป็นผู้จัดการฟาร์มให้กับฟาร์มเล็กๆแค่นี้”นายดิลกเอ่ยเหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“เขาเป็นใครหรือคะทำไมถึงจะมาทำงานให้เราไม่ได้”
“อะไรกันนี่หนูไม่รู้เลยหรือว่าคนที่รับเข้าทำงานน่ะเขาเป็นใครมาจากไหน”
“เขาก็เป็นนายพล ที่มาสมัครงานกับเราและก็เก่งงานด้วยเราจึงรับไว้ ก็เท่านั้น”
“นี่แสดงว่าไม่รู้อะไรเลยซินะ เอ้าลุงจะบอกให้ก็ได้ ว่าผู้จัดการฟาร์มของหนูนะเขาเป็นใคร”หญิงสาวตั้งใจฟังเต็มที่
“เขาคือคุณกฤตพล สุริยกมล เจ้าของบริษัทมากมาย เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเป็นที่หมายปองของพวก
นักธุรกิจและไฮโซทั้งหลายที่อยากจะได้เขาไปเป็นเขย เขาเป็นน้องคนที่สองของตระกูลนี้ และที่ว่าเขาเก่ง
นะก็เขามีฟาร์มเหมือนหนูนี่แหละแต่ใหญ่กว่าเยอะ”นายอุดมอธิบายให้ฟังพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและเดินจากไป
          ตระกูลสุริยกมลงั้นหรือคนที่เป็นคู่แข่งที่ประมูลงานแข่งกับเธอเมื่อคราวที่แล้วนะหรือแล้วเขามาทำ
อะไรในฟาร์มของเธอหรือว่าเขาจะมาล้วงความลับของฟาร์มเธอ คิดถึงตรงนี้แล้วหญิงสาวก็ใจหายวาบทำไม
เขาต้องเป็นคนอย่างนี้ หน้าไหว้หลังหลอก เขาเห็นเธอเป็นคนโง่มากงั้นหรือยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
“ตกใจจนพูดไม่ออกเลยหรือครับ”หญิงสาวหันไปมองต้นเสียงนี่นายอุดมลูกชายนายดิลกยังไม่ไปอีกหรือนี่
“อย่ามายุ่ง ฉันอยากอยู่คนเดียว คุณจะไปไหนก็ไป”หญิงสาวโมโหมากขึ้น
“ไม่เอาน่าน้องทิพย์ อย่าโกรธไปเลย ไปหาอะไรทานกับพี่ดีกว่า พี่เลี้ยงเอง”นายอุดมฉวยโอกาสเอื้อมมือมา
จับมือหญิงสาวและจูงออกเดิน แต่หญิงสาวสะบัดออกซะก่อน
“ฉันไม่อยากไปกับคุณ และช่วยกรุณาไปให้พ้นฉันเสียที คุณไม่รู้หรือไงว่าฉันไม่ชอบหน้าพวกคุณ”
“เอ๊ะนังนี่ พูดด้วยดีๆ ไม่ชอบใช่มั้ย ถึงยังไงแกก็ต้องมาเป็นเมียฉันวันยังค่ำนะแหละ”
“ไม่มีทางฉันยอมตายดีกว่า”หญิงสาวเถียง
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะดื้อได้ซักแค่ไหนจะไม่มีที่ซุกหัวนอนอยู่แล้วยังจะมาทำหยิ่งผยองอีก”นายอุดม
พูดพร้อมกับรั้งตัวหญิงสาวไปทางรถเขาซึ่งเธอก็ไม่ยอมไปง่ายๆจึงเกิดการยื้อยึดกันขึ้น
“ผมว่าคุณปล่อยผู้หญิงดีกว่านะครับ”
“ไงไอ้หน้าอ่อนมาจากไหนละเนี่ย ไม่รู้จักฉันหรือไง”อุดมยังทำเก่งเพราะเขาถือว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้
“ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องรู้จักคุณ แต่คุณควรจะปล่อยเจ้านายผมได้แล้วนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับปลายตา
มองมาทางหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่และเขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของหญิงสาว ไม่รู้ว่าเธอโกรธอะไรเขา
“อ้อคุณนี่เอง คุณกฤตพล ที่พ่อผมพูดถึง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”นายอุดมปล่อยมือหญิงสาวทันทีและยื่นมือมาจะจับมือกับชายหนุ่ม
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นใคร”ชายหนุ่มตกใจมากที่มีคนรู้ว่าเขาเป็นใครและถ้าเป็นเช่นนั้นหญิงสาวก็ต้องรู้ด้วยนะ
ซิมิน่าละเธอถึงทำท่าทางโกรธเขามากมายขนาดนี้
“โธ่คนดังขนาดคุณใครไม่รู้จักก็แย่แล้วละครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับพอดีผมมีธุระนะครับ”นายอุดม
ออกตัวเพื่อเลี่ยงกฤตพลทันทีเนื่องจากบิดาเขาพึ่งจะเล่าถึงประวัติชายหนุมให้เขาฟังก่อนที่จะเข้ามาหาทิพย์กฤตา
ว่าพวก สุริยกมลนั้นมีอิทธิพลการธุรกิจพอสมควรไม่มีใครกล้ามีเรื่องด้วยนักเพราะมันจะมีผลทางธุรกิจ
“เชิญครับ”กฤตพลเอ่ยกับอุดมและหันไปมองหญิงสาวที่ยืนหน้าบึ้งตึงและเดินนำเขาขึ้นรถไปแล้ว นี่เขาจะ
อธิบายให้เธอเข้าใจได้อย่างไร เมื่อเขาขึ้นประจำที่คนขับและขับออกไปหญิงสาวไม่ยอมพูดกับเขาเลยไม่ว่า
เขาจะชวนพูดอะไรก็ตามเขาขับรถไปได้สักระยะหนึ่งเขาก็จอดรถเข้าข้างทางที่ไม่มีรถผ่านไปมามากนัก
“คุณทิพย์ผมอธิบายได้นะครับ”ชายหนุ่มเริ่มด้วยสีหน้าลำบากใจที่จะอธิบาย
“ฉันไล่คุณออก”หญิงสาวเอ่ยสวนกลับมาทันที
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอ๊ะแล้วอย่างนี้พระเอกของเราจะทำอย่างไรละคะนี่ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ: รมยกร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น