ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุ่แข่ง แสนรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 48


          ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านเขาคิดว่าหญิงสาวคงจะเป็นที่รักนับถือของลูกน้องพอสมควร เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้าน

    หันไปทางมุมทำงานของหญิงสาวเขาเห็นเธอนั่งหลับอยู่หน้าคอมฯซึ่งเขาคาดว่าเธอคงจะยังจะทำไม่เสร็จแน่

    จึงยังไม่ยอมขึ้นนอน เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอ มองจากด้านหลังแล้วเธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างอรชร

          กลมกลึงไปหมด นี่คงเหนื่อยมากจนหลับไปไม่รู้ตัวขนาดนี้ นี่ละนะผู้หญิงไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหน

    ก็ยังอ่อนแออยู่ดี เขารู้สึกอยากจะแบกรับภาระทั้งหมดของเธอไว้แทนเหลือเกิน ชายหนุ่มลืมนึกถึงสาเหตุ

    ที่เขาเข้ามาในฟาร์มแห่งนี้ เขาคิดแต่ว่าเขาจะทำอย่างไรจึงจะช่วยหญิงสาวได้แบ่งเบาภาระจากเธอมาได้

    เมื่อเขาเดินไปใกล้เขายังเห็นปืนว่าอยู่ข้างมือเธออยู่นี่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเจ้าของมันหลับสนิทขนาดนี้

    นี่ถ้าเป็นคนที่ไม่หวังดีกลับเธอมันจะเป็นอย่างไรนะ เขาค่อยๆเอื้อมมือไปเขย่าแขนเธอเบาๆ



    “คุณทิพย์ครับ คุณทิพย์”เขาเรียกเธอเบาพร้อมกลับเขย่าไปด้วย หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตระหนก

    และหันไปคว้าปืนมาเล็งตรงเขา แต่เขาไวกว่าเนื่องจากคาดไว้อยู่แล้ว เขาจึงจับข้อมือเธอไว้



    “ผมเองคุณทิพย์ ไม่ใช่คนอื่น”ชายหนุ่มรีบบอก หญิงสาวถอนใจเหมือนโล่งอก



    “คุณละเอง นี่กี่โมงแล้วคะ ฉันหลับไปตอนไหนไม่ทราบเลย”



    “จะห้าทุ่มแล้วครับ ผมว่าคุณน่าจะไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับเพราะดูคุณเพลียเหลือเกิน”



    “แต่ฉันยังพิมพ์จดหมายไม่เสร็จเลย ต้องรีบคะไม่อย่างนั้นแย่แน่เลย”หญิงสาวอธิบาย



    “ถ้างั้นให้ผมทำให้ละกัน เพราะถึงอย่างไรผมก็เป็นผู้จัดการฟาร์มอยู่แล้วคุณไปพักผ่อนเถอะ”ชายหนุ่มอาสา



    “แต่มันเป็นจดหมายส่งไปต่างประเทศนะคะ ฉันไม่ได้ดูถูกคุณนะคะ แต่ว่าคุณจะทำได้หรือคะ”



    “ผมเก่งหลายภาษานะครับ แค่พิมพ์จดหมายแค่นี้สบายมาก แค่คุณบอกจุดประสงค์มาว่าจะส่งไปเรื่องอะไร

    เดี๋ยวผมจะร่างหนังสือและพิมพ์ไว้ให้คุณเซ็นต์พรุ้งนี้ ดีไหมครับ”ชายหนุ่มเสนอเป็นเหตุให้หญิงสาวนิ่งคิดสักครู่



    “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากค่ะ ฉันต้องยอมรับเลยว่าอยากพักเต็มทีแล้ว ฉันจะส่งจดหมายไปอเมริกาถึงผู้จัดการ

    บริษัทที่เราเซ็นต์สัญญากันนะค่ะ เรื่องขอบคุณที่เขาให้โอกาสเราและก็บอกเรื่องการส่งผลผลิตรอบแรกของเรา

    ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านะคะ”



    “ได้ครับแค่นี้ก็พอแล้ว คุณไปพักเถอะที่เหลือผมจัดการเอง”



    “ขอบคุณมากค่ะ พรุ้งนี้เช้าเจอกันใหม่นะคะ”พูดจบหญิงสาวก็ลุกขึ้นเดินขึ้นชั้นบน ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตาม

    ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนเลย ชายหนุ่มนั่งลงพิมพ์จดหมาย

    ต่อจากหญิงสาวซึ่งเขาอ่านที่เธอพิมพ์ค้างไว้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถทางธุรกิจมากทีเดียว เขาคิดว่าเธอคง

    จะพาฟาร์มแห่งนี้ไปได้ไกลทีเดียวแต่ต้องไม่ใช่ให้เธอออกไปตากแดดข้างนอกอย่างทุกวันนี้เธอต้องทำงานอยู่

    ที่บ้านติดต่อธุรกิจมากกว่า



        หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่ซึ่งเธอทำเป็นประจำจนชินแล้วไม่ว่าจะเหนื่อยขนาดไหนเธอก็ตื่นเช้าเสมอ

    หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปด้านล่างเมื่อนึกถึงงานที่เธอมอบให้ชายหนุ่มทำเมื่อคืนนี้ เมื่อเธอลงมาด้านล่าง

    ก็ได้กลิ่นอาหารเช้าหอมทั่วไปหมด ใครกันนะมาทำอาหารให้แต่เช้า ปกติลำดวนจะนำอาหารมาให้เมื่อจัดการ

    ให้คนงานทานเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่ และเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเดินไปถึงหน้าประตูครัวเธอเห็นผู้จัดการฟาร์ม

    คนใหม่ของเธอกำลังวุ่นอยู่กับอาหารบนเตาอย่างขมักเขม่น เธอพึ่งจะมีโอกาสสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าอย่าง

    จริงจังก็ตอนนี้เอง เมื่อวานเธอเหนื่อยจนไม่อยากจะสังเกตอะไรเลย เขาเป็นผู้ชายที่สูงมากทีเดียวขนาดเธอ

    เป็นผู้หญิงที่สูงมากแล้วยังได้แค่ปลายคางเขาเอง เขาเป็นคนรูปร่างบึกบึนไม่ใช่คนที่กล้ามใหญ่จนหน้าเกียจ

    แต่เขาคนเป็นมีกล้ามเนื้อเนื่องจากการออกกำลังกายเป็นประจำ ผมดำสลวยตัดสั้น จมูกปากคิ้วตา โดยรวม

    แล้วเขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากทีเดียวหรือจะเรียกให้ถูกเขาเป็นหน้าสวยเหมือนผู้หญิงโดยเฉพาะตรงตานั้น

    หวานเสียจนจะหยด คิ้วเข้ม เธอยังไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีอย่างเขามาก่อน เธอมองเขาเพลินจนเขาหันมาทางเธอ

    และทั้งสองก็สบตากันอย่างไม่ทันตั้งตัวมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และไม่เคยเกิดขึ้นเลยสำหรับหญิงสาว



    “ตื่นแล้วหรือครับ”ชายหนุ่มรู้สึกตัวก่อนจึงเอ่ยทักแก้เก้อ



    “เอ่อ ค่ะพอดีได้กลิ่นอาหารเลยเดินมาดู ไม่รู้เลยว่าคุณจะทำอาหารได้น่าทานอย่างนี้”หญิงสาวเดินเข้ามาในครัว

    และชะโงกเข้าไปอาหารที่เขาทำเสร็จแล้ว



    “ก็พอเป็นนะครับ เอาตัวรอดได้เวลาไม่มีใครทำให้ทาน”ชายหนุ่มออกตัว



    “เมื่อก่อนฉันก็ทำทานเหมือนกันแต่มาระยะหลังนี้ไม่ได้ทำ เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรนะคะเลยให้ลำดวนทำ

    มาให้ทานดีกว่า จริงซิคะไม่ทราบว่าจดหมายที่ให้พิมพ์ให้เมื่อคืนเสร็จหรือเปล่าคะ”



    “เรียบร้อยแล้วครับ แต่ผมว่าคุณน่าจะทานอาหารก่อนนะครับ”



    “ถ้าอย่างนั้นคุณมีอะไรฉันช่วยไหมคะ”หญิงสาวอาสา



    “คุณช่วยผมปรุงผัดนี่ละกันครับเดี๋ยวผมจะไปจัดอาหารขึ้นโต๊ะ”



    “ได้ค่ะ”เมื่อชายหนุ่มถือจานอาหารออกไปแล้วหญิงสาวก็เดินไปหน้าเตาและจัดการผัดผักที่เขาทำค้างไว้และ

    ปรุงรสชาติด้วยความชำนาญ โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าทุกอิริยาบถของเธอนั้นอยู่ในสายตาของชายหนุ่มโดยตลอด

    เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ไปตรวจงานที่เขาทำไว้เมื่อคืนและเธอก็ต้องชมที่เขาใช้ภาษา

    ได้สละสลวยมากทีเดียว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ขี่ม้าออกไปสมทบกับคนงานอีกเกือบสิบคน เธอสังเกตเห็นว่าชายหนุ่ม

    สนิทกับคนงานเร็วมากทีเดียวและดูแล้วเขาก็ทำงานได้โดยไม่บ่นเลย ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าเขาคงจะเผ่นตั้งแต่

    วันแรกทีเดียวแต่นี่เขาขี่ม้าต้อนโคไปกับพวกคนงานและกลับมาดูแลไร่ส้มและองุ่นกับเธออีก



    “อีกไม่กี่วันเราก็จะเก็บผลผลิตแล้วละคะ ถึงเวลานั้นเราคงจะมีทุนซื้อยาและปุ๋ยมาฉีดได้แล้ว เที่ยวนี้เราไม่ได้ซื้อ

    ยามาฉีดเลยเราใช้ปุ๋ยคอกที่เราทำเองมาใส่และก็ใช้พืชบางอย่างมากหมักทำเป็นยาฆ่าแมลงซึ่งมันก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร

    ผลผลิตเลยยังไม่ดี”หญิงสาวอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง และก็เดินไปดูผมส้มไปเรื่อยๆ



    “ผมว่าผลผลิตที่ผมเห็นนี่มากทีเดียวนะครับ ถ้าเทียบกับที่อื่นแล้วผมว่าที่ฟาร์มคุณให้ผลผลิตเยอะทีเดียว”ชายหนุ่ม

    ให้กำลังใจหญิงสาว



    “เมื่อก่อนนี้ที่พ่อกับแม่ยังอยู่ฟาร์มเราเจริญกว่านี้เยอะค่ะ”หญิงสาวเอ่ยถึงบุคคลที่ล่วงลับไปแล้วด้วยน้ำเสียงหงอยเหงา



    “แต่ผมว่าคุณก็ทำดีแล้วละครับ”



    “ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจ แต่ฉันรู้ตัวเองดีคะว่าทำได้ยังไม่ดีเท่าไหร่ ฉันอ่อนแอเกินไป”



    “แต่คุณก็ต้องเข้าใจนะครับว่าคุณเป็นผู้หญิงจะให้มาทำทุกอย่างที่ผู้ชายเขาทำกันนะไม่ได้”



    “ฉันดีใจนะคะที่ได้คุณมาช่วยเรา แต่ฉันอยากจะบอกว่าเรื่องค่าจ้างที่คุณจะได้รับ มันคงจะไม่มากเท่าไรเนื่อง

    จากทางเรากำลังมีปัญหาเรื่องเงินอยู่”



    “ผมไม่ได้ทำงานเพื่อเงินหรอกนะครับคุณทิพย์ ผมทำเพราะผมชอบและสนุกกับมัน”ชายหนุ่มพูดเพื่อให้ทิพย์กฤตาสบายใจ



    “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันรู้ว่าคนเราทำงานก็ต้องหวังผลตอบแทน ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะให้คุณได้ไม่มากเท่าที่คุณควรจะได้

    แต่ฉันสัญญาว่าคุณจะได้ในส่วนที่คุณควรจะได้เมื่อเราเริ่มฟื้นตัว”



    “ผมก็ยังยืนยันคำเดินอยู่นะแหละครับว่าผมไม่ต้องการเงินทองอะไรมากมาย”กฤตพลยังยืนยันคำเดิมของเขา

    หญิงสาวไม่อยากเถียงเขาจึงนิ่งเสีย แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะให้เขาเมื่อมีโอกาส

    หลังจากนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวก็ทำงานด้วยกันด้วยความราบรื่นมาเดือนกว่าเป็นเวลาที่ทั้งสองสนิทสนมกัน

    มากขึ้นจนวันหนึ่งที่เขาและเธอต้องเขาในเมืองเพื่อซื้ออุปกรณ์บางอย่างชายหนุ่มเข้าไปซื้อของในร้านหญิงสาว

    รออยู่ด้านนอกเจอกับนายดิลกและลูกชาย เมื่อนายดิลกเห็นหญิงสาวเข้าจึงเดินเขามาทัก



    “สวัสดีหลานทิพย์ มาทำอะไรหรือ”



    “ฉันคิดว่าจะทำอะไรก็ไม่เห็นต้องรายงานคุณเลยนี่คะ”หญิงสาวเอ่ยอย่างรวนเต็มที่เนื่องจากไม่ชอบหน้า



    “พูดไม่เพราะเลยนะน้องทิพย์ คนสวยๆน่ะเขาพูดเพราะๆกันทั้งนั้นแหละ”นายอุดมลูกชายนายดิลกขัดขึ้น



    “ฉันจะพูดเพราะกับคนที่อยากพูดเท่านั้น”



    “เอาเหอะน่า อย่าถือสาน้องเลยลูก จริงซิเมื่อสักครู่นี้ลุงเห็นหนูมากับคุณพลหรือ ไปรู้จักเขาได้ยังไงล่ะ”นายดิลก

    เอ่ยถามถึงสิ่งที่เขาสงสัยตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว



    “เขาเป็นผู้จัดการคนใหม่ของเราค่ะ”หญิงสาวตอบแบบเลี่ยงไม่ได้



    “อะไรกันคนระดับคุณพลเนี่ยนะมาเป็นผู้จัดการฟาร์มให้กับฟาร์มเล็กๆแค่นี้”นายดิลกเอ่ยเหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน



    “เขาเป็นใครหรือคะทำไมถึงจะมาทำงานให้เราไม่ได้”



    “อะไรกันนี่หนูไม่รู้เลยหรือว่าคนที่รับเข้าทำงานน่ะเขาเป็นใครมาจากไหน”



    “เขาก็เป็นนายพล ที่มาสมัครงานกับเราและก็เก่งงานด้วยเราจึงรับไว้ ก็เท่านั้น”



    “นี่แสดงว่าไม่รู้อะไรเลยซินะ เอ้าลุงจะบอกให้ก็ได้ ว่าผู้จัดการฟาร์มของหนูนะเขาเป็นใคร”หญิงสาวตั้งใจฟังเต็มที่



    “เขาคือคุณกฤตพล สุริยกมล เจ้าของบริษัทมากมาย เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเป็นที่หมายปองของพวก

    นักธุรกิจและไฮโซทั้งหลายที่อยากจะได้เขาไปเป็นเขย เขาเป็นน้องคนที่สองของตระกูลนี้ และที่ว่าเขาเก่ง

    นะก็เขามีฟาร์มเหมือนหนูนี่แหละแต่ใหญ่กว่าเยอะ”นายอุดมอธิบายให้ฟังพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและเดินจากไป



              ตระกูลสุริยกมลงั้นหรือคนที่เป็นคู่แข่งที่ประมูลงานแข่งกับเธอเมื่อคราวที่แล้วนะหรือแล้วเขามาทำ

    อะไรในฟาร์มของเธอหรือว่าเขาจะมาล้วงความลับของฟาร์มเธอ คิดถึงตรงนี้แล้วหญิงสาวก็ใจหายวาบทำไม

    เขาต้องเป็นคนอย่างนี้ หน้าไหว้หลังหลอก เขาเห็นเธอเป็นคนโง่มากงั้นหรือยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห



    “ตกใจจนพูดไม่ออกเลยหรือครับ”หญิงสาวหันไปมองต้นเสียงนี่นายอุดมลูกชายนายดิลกยังไม่ไปอีกหรือนี่



    “อย่ามายุ่ง ฉันอยากอยู่คนเดียว คุณจะไปไหนก็ไป”หญิงสาวโมโหมากขึ้น



    “ไม่เอาน่าน้องทิพย์ อย่าโกรธไปเลย ไปหาอะไรทานกับพี่ดีกว่า พี่เลี้ยงเอง”นายอุดมฉวยโอกาสเอื้อมมือมา

    จับมือหญิงสาวและจูงออกเดิน แต่หญิงสาวสะบัดออกซะก่อน



    “ฉันไม่อยากไปกับคุณ และช่วยกรุณาไปให้พ้นฉันเสียที คุณไม่รู้หรือไงว่าฉันไม่ชอบหน้าพวกคุณ”



    “เอ๊ะนังนี่ พูดด้วยดีๆ ไม่ชอบใช่มั้ย ถึงยังไงแกก็ต้องมาเป็นเมียฉันวันยังค่ำนะแหละ”



    “ไม่มีทางฉันยอมตายดีกว่า”หญิงสาวเถียง



    “ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะดื้อได้ซักแค่ไหนจะไม่มีที่ซุกหัวนอนอยู่แล้วยังจะมาทำหยิ่งผยองอีก”นายอุดม

    พูดพร้อมกับรั้งตัวหญิงสาวไปทางรถเขาซึ่งเธอก็ไม่ยอมไปง่ายๆจึงเกิดการยื้อยึดกันขึ้น



    “ผมว่าคุณปล่อยผู้หญิงดีกว่านะครับ”



    “ไงไอ้หน้าอ่อนมาจากไหนละเนี่ย ไม่รู้จักฉันหรือไง”อุดมยังทำเก่งเพราะเขาถือว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้



    “ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องรู้จักคุณ แต่คุณควรจะปล่อยเจ้านายผมได้แล้วนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับปลายตา

    มองมาทางหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่และเขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของหญิงสาว ไม่รู้ว่าเธอโกรธอะไรเขา



    “อ้อคุณนี่เอง คุณกฤตพล ที่พ่อผมพูดถึง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”นายอุดมปล่อยมือหญิงสาวทันทีและยื่นมือมาจะจับมือกับชายหนุ่ม



    “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นใคร”ชายหนุ่มตกใจมากที่มีคนรู้ว่าเขาเป็นใครและถ้าเป็นเช่นนั้นหญิงสาวก็ต้องรู้ด้วยนะ

    ซิมิน่าละเธอถึงทำท่าทางโกรธเขามากมายขนาดนี้



    “โธ่คนดังขนาดคุณใครไม่รู้จักก็แย่แล้วละครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับพอดีผมมีธุระนะครับ”นายอุดม

    ออกตัวเพื่อเลี่ยงกฤตพลทันทีเนื่องจากบิดาเขาพึ่งจะเล่าถึงประวัติชายหนุมให้เขาฟังก่อนที่จะเข้ามาหาทิพย์กฤตา

    ว่าพวก สุริยกมลนั้นมีอิทธิพลการธุรกิจพอสมควรไม่มีใครกล้ามีเรื่องด้วยนักเพราะมันจะมีผลทางธุรกิจ



    “เชิญครับ”กฤตพลเอ่ยกับอุดมและหันไปมองหญิงสาวที่ยืนหน้าบึ้งตึงและเดินนำเขาขึ้นรถไปแล้ว นี่เขาจะ

    อธิบายให้เธอเข้าใจได้อย่างไร เมื่อเขาขึ้นประจำที่คนขับและขับออกไปหญิงสาวไม่ยอมพูดกับเขาเลยไม่ว่า

    เขาจะชวนพูดอะไรก็ตามเขาขับรถไปได้สักระยะหนึ่งเขาก็จอดรถเข้าข้างทางที่ไม่มีรถผ่านไปมามากนัก



    “คุณทิพย์ผมอธิบายได้นะครับ”ชายหนุ่มเริ่มด้วยสีหน้าลำบากใจที่จะอธิบาย



    “ฉันไล่คุณออก”หญิงสาวเอ่ยสวนกลับมาทันที



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------



    เอ๊ะแล้วอย่างนี้พระเอกของเราจะทำอย่างไรละคะนี่ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ: รมยกร
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×