ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
          เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็หยิบไฟฉายเดินลงไปข้างล่างเพื่อจะไปเรือนคนใช้ ความจริงแล้ว
เขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอกแต่เผื่อจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับหญิงสาวบ้าง เขากำลังเดินลงถึงกลางบันไดก็ได้ยินเสียง
พิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์ดังลอดออกจากด้านขวามือของบ้านเนื่องจากบ้านนี้ไม่ได้แบ่งเป็นห้องแต่จะแบ่งเป็น
ส่วนๆ มีห้องรับแขก ห้องทำงาน บาร์เครื่องดื่ม ซึ่งอยู่ในห้องโล่งห้องเดียวกัน จะมีแยกออกไปก็คือห้องครัวเท่านั้น
ทำให้เขาสามารถมองเห็นหญิงสาวนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไหนเธอว่าเหนื่อยและ
อยากพักผ่อนไงละ แล้วทำไมถึงมานั่งทำงานหน้าเคร่งเครียดอย่างนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจเดินไปหาหญิงสาว
ที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่เมื่อเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวก็หันมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเล็งปืนมาทางเขา
“ผมเองครับคุณทิพย์”เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นใครหญิงสาวก็ลดปืนลงพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ขอโทษทีฉันลืมไปว่ามีคนมาอยู่เพิ่มและฉันก็ยังจำเสียงเดินของคุณไม่ได้ด้วย แต่คราวหลังถ้าคุณจะเข้า
มาหาฉันช่วยให้เสียงก่อนก็ดี”หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเนือยๆ
“ผมว่าคุณดูเหนื่อยๆนะครับ ทำไมไม่พักละครับเห็นว่าจะนอนพักไม่ใช่หรือ”
“มีงานเข้ามาด่วนนะคะ และฉันต้องพิมพ์หนังสือส่งให้กับบริษัทลูกค้าที่ต่างประเทศเลยว่าจะให้เสร็จก่อน
แล้วค่อยพักทีหลัง”
“ผมกำลังจะไปเรือนคนงานคุณรับประทานอะไรหรือยังครับ”
“ฉันดื่มนมแล้วนะคะ คุณรีบไปเหอะเดี๋ยวไม่ทันอาหารจะไม่เหลือ”
“ผมอยากทราบว่าในครัวมีอาหารสดบ้างหรือเปล่าครับ”เขาเอ่ยถามหญิงสาวขึ้น
“มีค่ะ ลำดวนเอามาใส่ไว้ให้เพราะปกติแล้วฉันก็จะทำอาหารทานเอง ขอโทษนะคะดิฉันต้องรีบทำงานแล้วละคะ”
หญิงสาวเอ่ยเหมือนไล่ชายหนุ่มออกไปเร็วๆ เนื่องจากเธอรู้สึกว่าอยากพักผ่อนมากแต่ต้องรีบทำงานให้เสร็จก่อน
แล้วค่อยพักผ่อน เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปแล้วเธอก็หันกลับมาทำงานต่อ
    กฤตพลเดินคิดถึงหญิงสาวดูแล้วเธอทำงานเกินตัวมากเกินไปแล้วเขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่
เห็นดวงตาเศร้าๆของเธอในรูปแล้วและยิ่งมาเห็นเธอตัวจริงอย่างนี้แล้วเขายิ่งอยากทำอะไรเพื่อเธอบ้าง เขาเดินเข้า
ไปในเรือนคนงานเห็นลุงอินนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับคนงานอีกเกือบสิบคน และหญิงสาวคนหนึ่งคงจะเป็นภรรยา
คนงานคนใดคนหนึ่งนะเอง
“คุณพลมาแล้วหรือครับ ผมกำลังจะให้เด็กเดินไปตามอยู่พอดีเลย”
“ขอโทษทีครับที่มาช้า”
“ไม่เป็นไร มานั่งเลยจะได้เริ่มทานกันไอ้เจ้าพวกนี้มันหิวแล้วละคุณพล”ชายหนุ่มนั่งร่วมวงกับคนงานเริ่มทานอาหารกัน
ด้วยความหิวเขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่จึงไม่ค่อยทานนั่งฟังคนงานคุยกัน
“เอ้อพวกเอ็งรู้จักกับผู้จัดการคนใหม่หน่อย นี่คุณพลจะมาทำงานกับพวกเราตั้งแต่พรุ้งนี้ไป”ลุงอินเอ่ยขึ้น
“ท่าทางอย่างนี้จะทำไหวหรือลุง”กฤตพลหันไปทางชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับเขา
“ผมคิดว่าผมมีความสามารถพอที่จะทำหน้าที่นี้”ชายหนุ่มข่มอารมณ์โมโหไว้เขาไม่ชอบให้ใครมาดูถูก
“ผมหวังว่าคุณคงไม่ได้เป็นคนของไอ้ดิลกมันนะครับ ถ้าคุณมาทำอะไรนายหญิงละก็พวกผมไม่เอาไว้แน่ๆ”
“เอาไว้คุณคอยดูเอาเองดีกว่านะ  ลุงอินผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยนะครับ”
“ได้ครับงั้นเชิญด้านนอกดีกว่าครับ”ลุงอินลุกขึ้นเดินนำเขาออกไปนั่งม้าหินหน้าเรือนพัก
“มีอะไรหรือครับคุณพล”
“ผมอยากทราบว่าคุณทิพย์เธอมีงานอะไรต้องทำมากมายหนักหนา ก่อนผมมานี่ก็เห็นเธอนั่งทำงานอยู่หน้าคอมฯ
ไม่ยอมพักผ่อน อาหารก็ไม่ทานแล้วอย่างนี้ไม่แย่หรือครับ”
“เฮ้อ ผมละกลุ้มกับคุณหนูก็เรื่องนี้แหละครับเธอไม่ยอมดูแลสุขภาพเลยทุ่มให้แต่งานฝืนในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้”
“เธอมีปัญหาอะไรหรือครับ บอกผมเถอะนะลุงผมอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง”
“ผมเห็นว่าคุณเป็นคนจริงใจนะครับผมจะเล่าให้ฟังละกัน พ่อคุณหนูทิ้งหนี้สินไว้ให้เธอมากมายและเจ้าหนี้
ก็คือไอ้ดิลกคนที่โกงคุณท่านไปนะแหละครับ มันคิดจะฮุบที่ดินแถวนี้ให้หมดเพราะว่าถ้ารวมกับที่คุณหนู
แล้วมันจะเป็นที่ดินผืนเดียวกัน และที่ดินที่นี่ก็ทำเลดีมาก มีน้ำไหลผ่านซึ่งที่ของมันไม่มีน้ำไหลผ่านมันต้อง
อาศัยน้ำทางเราไหลเข้าฟาร์มมัน ถ้าเรากักไว้หมดมันก็จะไม่ได้ซึ่งตอนนี้คุณหนูยังปล่อยน้ำอยู่ไม่อยากทำร้าย
คนทำอาชีพเดียวกันแต่มันไม่คิดอย่างนั้นและจ้องเล่นงานคุณหนูทุกทาง มันเร่งรัดหนี้สินต้องการให้คุณหนู
ใช้หนี้ให้มันให้ได้ ซึ่งมันก็รู้ว่าคุณหนูไม่มีปัญญาหาเงินตั้งมากมายอย่างนั้นมาให้มันได้ทันแน่ นี่คุณหนูก็ขาย
บ้านในเมืองไปตัดดอกมันบ้างแล้วและอีกหกเดือนถ้าคุณหนูหาเงินไปให้มันไม่ได้มันก็อาจจะยึดที่ไปเลย”
“แต่ผมดูแล้วผลผลิตก็ดีนี่ครับทำไมถึงกลัวว่าจะไม่ทันละครับลุง”
“ก็ถ้ามันไม่ก่อกวนก็จะพอมีเงินไปชำระหนี้มันได้หรอกครับแต่นี่มันเล่น ส่งคนมาเล่นงานเราบ้างละ เผาหญ้า
ที่เราให้โคกินบ้างละ บางครั้งก็ปล่อยแมลงมากินพวกส้มเราทำให้เรามีผลผลิตออกตลาดได้ไม่มากเท่าที่ควร
นี่ดีนะครับที่คุณหนูไปประมูลงานส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศได้ไม่อย่างนั้นเราคงแย่แน่เลย”
“เล่นกันหนักขนาดนี้เลยหรือลุง มันไม่ละอายใจบ้างหรือไงทำกับผู้หญิงขนาดนี้”ชายหนุ่มรู้สึกสงสารหญิงสาว
มากขึ้นเมื่อได้รู้เรื่องราวของเธอ
“มันจะละอายอะไรละครับ ขอให้มันได้ในสิ่งที่มันต้องการอย่างเดียว นี่ไอ้เจ้าลูกชายมันก็จ้องจะตะครุบคุณหนู
อยู่เหมือนกัน มันคงคิดว่าถ้าไม่ได้แผนแรกมันก็คงเอาแผนสองคือดองกันซะเลยที่ดินก็ไม่ไปไหนเสีย”
“นายดิลกนี่มีลูกชายด้วยหรือครับ ผมไม่เคยได้ยินเลยว่ามันมีลูก”ชายหนุ่มสงสัยเนื่องจากเขาก็รู้จักนายดิลก
พอสมควรแต่ไม่เคยได้ยินเลยว่ามันมีลูกชายด้วย
“มีครับคนหนึ่ง แต่มันเลวบัดซบเลยละ ค้ายา หลอกผู้หญิง ลูกสาวใครมันไม่เว้นมันถือว่าพ่อมันมีเงินจ่ายฟาดหัว
วันก่อนคุณหนูเข้าเมืองไปเจอมันเข้ามันรี่เข้ามาหาเลยครับแต่คุณหนูไม่เล่นด้วยและพอดีคนเยอะ ผมก็ไปด้วยจึงไม่มีอะไร”
“ที่นี่ถ้าจะเป็นเมืองเถื่อนซะแล้วนะครับนี่”ชายหนุ่มเริ่มมีอคติกับสองพ่อลูกนั่นมากขึ้น
“อย่างนี้ละครับพวกมีเงิน ส่วนตำรวจก็รับส่วยเลยทำเป็นไม่สนใจกับความผิด”ลุงอินเอ่ยอย่างปลงตก
“ผมห่วงก็แต่คุณหนูนะแหละครับเป็นผู้หญิงถึงจะเก่งแค่ไหนก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ”ลุงอินพูดต่อ
“ลุงสบายใจเถอะครับ ถ้าผมยังอยู่ที่นี่ผมรับรองว่าจะไม่ให้คุณหนูของลุงเป็นอะไรแน่”ชายหนุ่มรับปากกับชายชรา
และเขาก็เห็นแกยิ้มออกมาจนเห็นฟัน
“ผมก็คิดว่าผมคงจะดูคนไม่ผิดหรอกนะครับ ผมฝากคุณหนูด้วยนะครับ ผมมันแก่แล้วทำอะไรก็ไม่คล่องแคล่ว
เหมือนเก่า แถมอยู่ไกลกันอย่างนี้ด้วย เมื่อวันที่ไอ้ผู้จัดการคนเก่ามันจะทำร้ายคุณหนูผมยังไม่รู้เลยถ้าคุณหนู
ไม่ยิงปืนละก็ผมก็ไม่รู้เรื่องหรอก ถ้าเห็นอะไรที่เธอทำผิดก็ตักเตือนได้นะครับ เธอเป็นคนหัวดื้อไม่ค่อยลงให้ใคร
เพราะว่าเธอไว้ใจใครไม่ได้นอกจากผม แต่เธอเป็นคนมีเหตุผล”
“ครับ นี่ก็ดึกแล้วผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า เดี๋ยวกลับดึกกว่านี้คุณหนูของลุงได้ยินเข้านึกว่าเป็นคนร้ายคงยิงผม
ตายตั้งแต่ผมยังไม่ได้เริ่มงานด้วยซ้ำ”ชายหนุ่มเอ่ยกลั้วหัวเราะและลุกขึ้นเดินออกไปโดยมีสายตาเชื่อมั่นและ
ชื่นชมของชายชรามองตามไปด้วย
ชายหนุ่มเดินไปได้ครึ่งทางและรู้สึกว่ามีคนตามเขามา เขารีบหันไปเจอกับใบหน้าดุๆของคนที่เถียงกับเขาใน
โรงอาหารเมื่อสักครู่
“มีอะไรกับผมหรือเปล่า”กฤตพลถามขึ้น
“ไม่มีเพียงแต่จะมาบอกว่าอย่าทำให้คุณหนูเจ็บใจหรือเสียใจเป็นอันขาด เธอเป็นคนดีถ้าคุณคิดร้ายกับเธอ
พวกผมจะตอบแทนคุณอย่างสาสม”เมื่อพูดจบก็จะหันหลังกลับทันที
“เดี่ยวซินายชื่อะไรน่ะ”
“คุณจะรู้ไปทำไม”
“ก็เดี๋ยวเราก็ต้องทำงานร่วมกันแล้วจะให้ผมรู้จักชื่อหน่อยไม่ได้หรือ”
“ก็ได้ ผมชื่อชิด ดูแลคุณหนูแทนพวกเราด้วย”พูดจบนายชิดก็เดินออกไปทันที
เขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอกแต่เผื่อจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับหญิงสาวบ้าง เขากำลังเดินลงถึงกลางบันไดก็ได้ยินเสียง
พิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์ดังลอดออกจากด้านขวามือของบ้านเนื่องจากบ้านนี้ไม่ได้แบ่งเป็นห้องแต่จะแบ่งเป็น
ส่วนๆ มีห้องรับแขก ห้องทำงาน บาร์เครื่องดื่ม ซึ่งอยู่ในห้องโล่งห้องเดียวกัน จะมีแยกออกไปก็คือห้องครัวเท่านั้น
ทำให้เขาสามารถมองเห็นหญิงสาวนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไหนเธอว่าเหนื่อยและ
อยากพักผ่อนไงละ แล้วทำไมถึงมานั่งทำงานหน้าเคร่งเครียดอย่างนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจเดินไปหาหญิงสาว
ที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่เมื่อเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวก็หันมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเล็งปืนมาทางเขา
“ผมเองครับคุณทิพย์”เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นใครหญิงสาวก็ลดปืนลงพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ขอโทษทีฉันลืมไปว่ามีคนมาอยู่เพิ่มและฉันก็ยังจำเสียงเดินของคุณไม่ได้ด้วย แต่คราวหลังถ้าคุณจะเข้า
มาหาฉันช่วยให้เสียงก่อนก็ดี”หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเนือยๆ
“ผมว่าคุณดูเหนื่อยๆนะครับ ทำไมไม่พักละครับเห็นว่าจะนอนพักไม่ใช่หรือ”
“มีงานเข้ามาด่วนนะคะ และฉันต้องพิมพ์หนังสือส่งให้กับบริษัทลูกค้าที่ต่างประเทศเลยว่าจะให้เสร็จก่อน
แล้วค่อยพักทีหลัง”
“ผมกำลังจะไปเรือนคนงานคุณรับประทานอะไรหรือยังครับ”
“ฉันดื่มนมแล้วนะคะ คุณรีบไปเหอะเดี๋ยวไม่ทันอาหารจะไม่เหลือ”
“ผมอยากทราบว่าในครัวมีอาหารสดบ้างหรือเปล่าครับ”เขาเอ่ยถามหญิงสาวขึ้น
“มีค่ะ ลำดวนเอามาใส่ไว้ให้เพราะปกติแล้วฉันก็จะทำอาหารทานเอง ขอโทษนะคะดิฉันต้องรีบทำงานแล้วละคะ”
หญิงสาวเอ่ยเหมือนไล่ชายหนุ่มออกไปเร็วๆ เนื่องจากเธอรู้สึกว่าอยากพักผ่อนมากแต่ต้องรีบทำงานให้เสร็จก่อน
แล้วค่อยพักผ่อน เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปแล้วเธอก็หันกลับมาทำงานต่อ
    กฤตพลเดินคิดถึงหญิงสาวดูแล้วเธอทำงานเกินตัวมากเกินไปแล้วเขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่
เห็นดวงตาเศร้าๆของเธอในรูปแล้วและยิ่งมาเห็นเธอตัวจริงอย่างนี้แล้วเขายิ่งอยากทำอะไรเพื่อเธอบ้าง เขาเดินเข้า
ไปในเรือนคนงานเห็นลุงอินนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับคนงานอีกเกือบสิบคน และหญิงสาวคนหนึ่งคงจะเป็นภรรยา
คนงานคนใดคนหนึ่งนะเอง
“คุณพลมาแล้วหรือครับ ผมกำลังจะให้เด็กเดินไปตามอยู่พอดีเลย”
“ขอโทษทีครับที่มาช้า”
“ไม่เป็นไร มานั่งเลยจะได้เริ่มทานกันไอ้เจ้าพวกนี้มันหิวแล้วละคุณพล”ชายหนุ่มนั่งร่วมวงกับคนงานเริ่มทานอาหารกัน
ด้วยความหิวเขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่จึงไม่ค่อยทานนั่งฟังคนงานคุยกัน
“เอ้อพวกเอ็งรู้จักกับผู้จัดการคนใหม่หน่อย นี่คุณพลจะมาทำงานกับพวกเราตั้งแต่พรุ้งนี้ไป”ลุงอินเอ่ยขึ้น
“ท่าทางอย่างนี้จะทำไหวหรือลุง”กฤตพลหันไปทางชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับเขา
“ผมคิดว่าผมมีความสามารถพอที่จะทำหน้าที่นี้”ชายหนุ่มข่มอารมณ์โมโหไว้เขาไม่ชอบให้ใครมาดูถูก
“ผมหวังว่าคุณคงไม่ได้เป็นคนของไอ้ดิลกมันนะครับ ถ้าคุณมาทำอะไรนายหญิงละก็พวกผมไม่เอาไว้แน่ๆ”
“เอาไว้คุณคอยดูเอาเองดีกว่านะ  ลุงอินผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยนะครับ”
“ได้ครับงั้นเชิญด้านนอกดีกว่าครับ”ลุงอินลุกขึ้นเดินนำเขาออกไปนั่งม้าหินหน้าเรือนพัก
“มีอะไรหรือครับคุณพล”
“ผมอยากทราบว่าคุณทิพย์เธอมีงานอะไรต้องทำมากมายหนักหนา ก่อนผมมานี่ก็เห็นเธอนั่งทำงานอยู่หน้าคอมฯ
ไม่ยอมพักผ่อน อาหารก็ไม่ทานแล้วอย่างนี้ไม่แย่หรือครับ”
“เฮ้อ ผมละกลุ้มกับคุณหนูก็เรื่องนี้แหละครับเธอไม่ยอมดูแลสุขภาพเลยทุ่มให้แต่งานฝืนในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้”
“เธอมีปัญหาอะไรหรือครับ บอกผมเถอะนะลุงผมอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง”
“ผมเห็นว่าคุณเป็นคนจริงใจนะครับผมจะเล่าให้ฟังละกัน พ่อคุณหนูทิ้งหนี้สินไว้ให้เธอมากมายและเจ้าหนี้
ก็คือไอ้ดิลกคนที่โกงคุณท่านไปนะแหละครับ มันคิดจะฮุบที่ดินแถวนี้ให้หมดเพราะว่าถ้ารวมกับที่คุณหนู
แล้วมันจะเป็นที่ดินผืนเดียวกัน และที่ดินที่นี่ก็ทำเลดีมาก มีน้ำไหลผ่านซึ่งที่ของมันไม่มีน้ำไหลผ่านมันต้อง
อาศัยน้ำทางเราไหลเข้าฟาร์มมัน ถ้าเรากักไว้หมดมันก็จะไม่ได้ซึ่งตอนนี้คุณหนูยังปล่อยน้ำอยู่ไม่อยากทำร้าย
คนทำอาชีพเดียวกันแต่มันไม่คิดอย่างนั้นและจ้องเล่นงานคุณหนูทุกทาง มันเร่งรัดหนี้สินต้องการให้คุณหนู
ใช้หนี้ให้มันให้ได้ ซึ่งมันก็รู้ว่าคุณหนูไม่มีปัญญาหาเงินตั้งมากมายอย่างนั้นมาให้มันได้ทันแน่ นี่คุณหนูก็ขาย
บ้านในเมืองไปตัดดอกมันบ้างแล้วและอีกหกเดือนถ้าคุณหนูหาเงินไปให้มันไม่ได้มันก็อาจจะยึดที่ไปเลย”
“แต่ผมดูแล้วผลผลิตก็ดีนี่ครับทำไมถึงกลัวว่าจะไม่ทันละครับลุง”
“ก็ถ้ามันไม่ก่อกวนก็จะพอมีเงินไปชำระหนี้มันได้หรอกครับแต่นี่มันเล่น ส่งคนมาเล่นงานเราบ้างละ เผาหญ้า
ที่เราให้โคกินบ้างละ บางครั้งก็ปล่อยแมลงมากินพวกส้มเราทำให้เรามีผลผลิตออกตลาดได้ไม่มากเท่าที่ควร
นี่ดีนะครับที่คุณหนูไปประมูลงานส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศได้ไม่อย่างนั้นเราคงแย่แน่เลย”
“เล่นกันหนักขนาดนี้เลยหรือลุง มันไม่ละอายใจบ้างหรือไงทำกับผู้หญิงขนาดนี้”ชายหนุ่มรู้สึกสงสารหญิงสาว
มากขึ้นเมื่อได้รู้เรื่องราวของเธอ
“มันจะละอายอะไรละครับ ขอให้มันได้ในสิ่งที่มันต้องการอย่างเดียว นี่ไอ้เจ้าลูกชายมันก็จ้องจะตะครุบคุณหนู
อยู่เหมือนกัน มันคงคิดว่าถ้าไม่ได้แผนแรกมันก็คงเอาแผนสองคือดองกันซะเลยที่ดินก็ไม่ไปไหนเสีย”
“นายดิลกนี่มีลูกชายด้วยหรือครับ ผมไม่เคยได้ยินเลยว่ามันมีลูก”ชายหนุ่มสงสัยเนื่องจากเขาก็รู้จักนายดิลก
พอสมควรแต่ไม่เคยได้ยินเลยว่ามันมีลูกชายด้วย
“มีครับคนหนึ่ง แต่มันเลวบัดซบเลยละ ค้ายา หลอกผู้หญิง ลูกสาวใครมันไม่เว้นมันถือว่าพ่อมันมีเงินจ่ายฟาดหัว
วันก่อนคุณหนูเข้าเมืองไปเจอมันเข้ามันรี่เข้ามาหาเลยครับแต่คุณหนูไม่เล่นด้วยและพอดีคนเยอะ ผมก็ไปด้วยจึงไม่มีอะไร”
“ที่นี่ถ้าจะเป็นเมืองเถื่อนซะแล้วนะครับนี่”ชายหนุ่มเริ่มมีอคติกับสองพ่อลูกนั่นมากขึ้น
“อย่างนี้ละครับพวกมีเงิน ส่วนตำรวจก็รับส่วยเลยทำเป็นไม่สนใจกับความผิด”ลุงอินเอ่ยอย่างปลงตก
“ผมห่วงก็แต่คุณหนูนะแหละครับเป็นผู้หญิงถึงจะเก่งแค่ไหนก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ”ลุงอินพูดต่อ
“ลุงสบายใจเถอะครับ ถ้าผมยังอยู่ที่นี่ผมรับรองว่าจะไม่ให้คุณหนูของลุงเป็นอะไรแน่”ชายหนุ่มรับปากกับชายชรา
และเขาก็เห็นแกยิ้มออกมาจนเห็นฟัน
“ผมก็คิดว่าผมคงจะดูคนไม่ผิดหรอกนะครับ ผมฝากคุณหนูด้วยนะครับ ผมมันแก่แล้วทำอะไรก็ไม่คล่องแคล่ว
เหมือนเก่า แถมอยู่ไกลกันอย่างนี้ด้วย เมื่อวันที่ไอ้ผู้จัดการคนเก่ามันจะทำร้ายคุณหนูผมยังไม่รู้เลยถ้าคุณหนู
ไม่ยิงปืนละก็ผมก็ไม่รู้เรื่องหรอก ถ้าเห็นอะไรที่เธอทำผิดก็ตักเตือนได้นะครับ เธอเป็นคนหัวดื้อไม่ค่อยลงให้ใคร
เพราะว่าเธอไว้ใจใครไม่ได้นอกจากผม แต่เธอเป็นคนมีเหตุผล”
“ครับ นี่ก็ดึกแล้วผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า เดี๋ยวกลับดึกกว่านี้คุณหนูของลุงได้ยินเข้านึกว่าเป็นคนร้ายคงยิงผม
ตายตั้งแต่ผมยังไม่ได้เริ่มงานด้วยซ้ำ”ชายหนุ่มเอ่ยกลั้วหัวเราะและลุกขึ้นเดินออกไปโดยมีสายตาเชื่อมั่นและ
ชื่นชมของชายชรามองตามไปด้วย
ชายหนุ่มเดินไปได้ครึ่งทางและรู้สึกว่ามีคนตามเขามา เขารีบหันไปเจอกับใบหน้าดุๆของคนที่เถียงกับเขาใน
โรงอาหารเมื่อสักครู่
“มีอะไรกับผมหรือเปล่า”กฤตพลถามขึ้น
“ไม่มีเพียงแต่จะมาบอกว่าอย่าทำให้คุณหนูเจ็บใจหรือเสียใจเป็นอันขาด เธอเป็นคนดีถ้าคุณคิดร้ายกับเธอ
พวกผมจะตอบแทนคุณอย่างสาสม”เมื่อพูดจบก็จะหันหลังกลับทันที
“เดี่ยวซินายชื่อะไรน่ะ”
“คุณจะรู้ไปทำไม”
“ก็เดี๋ยวเราก็ต้องทำงานร่วมกันแล้วจะให้ผมรู้จักชื่อหน่อยไม่ได้หรือ”
“ก็ได้ ผมชื่อชิด ดูแลคุณหนูแทนพวกเราด้วย”พูดจบนายชิดก็เดินออกไปทันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น