ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุ่แข่ง แสนรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 48


               เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็หยิบไฟฉายเดินลงไปข้างล่างเพื่อจะไปเรือนคนใช้ ความจริงแล้ว

    เขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอกแต่เผื่อจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับหญิงสาวบ้าง เขากำลังเดินลงถึงกลางบันไดก็ได้ยินเสียง

    พิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์ดังลอดออกจากด้านขวามือของบ้านเนื่องจากบ้านนี้ไม่ได้แบ่งเป็นห้องแต่จะแบ่งเป็น

    ส่วนๆ มีห้องรับแขก ห้องทำงาน บาร์เครื่องดื่ม ซึ่งอยู่ในห้องโล่งห้องเดียวกัน จะมีแยกออกไปก็คือห้องครัวเท่านั้น

    ทำให้เขาสามารถมองเห็นหญิงสาวนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไหนเธอว่าเหนื่อยและ

    อยากพักผ่อนไงละ แล้วทำไมถึงมานั่งทำงานหน้าเคร่งเครียดอย่างนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจเดินไปหาหญิงสาว

    ที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่เมื่อเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวก็หันมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเล็งปืนมาทางเขา



    “ผมเองครับคุณทิพย์”เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นใครหญิงสาวก็ลดปืนลงพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก



    “ขอโทษทีฉันลืมไปว่ามีคนมาอยู่เพิ่มและฉันก็ยังจำเสียงเดินของคุณไม่ได้ด้วย แต่คราวหลังถ้าคุณจะเข้า

    มาหาฉันช่วยให้เสียงก่อนก็ดี”หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเนือยๆ



    “ผมว่าคุณดูเหนื่อยๆนะครับ ทำไมไม่พักละครับเห็นว่าจะนอนพักไม่ใช่หรือ”



    “มีงานเข้ามาด่วนนะคะ และฉันต้องพิมพ์หนังสือส่งให้กับบริษัทลูกค้าที่ต่างประเทศเลยว่าจะให้เสร็จก่อน

    แล้วค่อยพักทีหลัง”



    “ผมกำลังจะไปเรือนคนงานคุณรับประทานอะไรหรือยังครับ”



    “ฉันดื่มนมแล้วนะคะ คุณรีบไปเหอะเดี๋ยวไม่ทันอาหารจะไม่เหลือ”



    “ผมอยากทราบว่าในครัวมีอาหารสดบ้างหรือเปล่าครับ”เขาเอ่ยถามหญิงสาวขึ้น



    “มีค่ะ ลำดวนเอามาใส่ไว้ให้เพราะปกติแล้วฉันก็จะทำอาหารทานเอง ขอโทษนะคะดิฉันต้องรีบทำงานแล้วละคะ”

    หญิงสาวเอ่ยเหมือนไล่ชายหนุ่มออกไปเร็วๆ เนื่องจากเธอรู้สึกว่าอยากพักผ่อนมากแต่ต้องรีบทำงานให้เสร็จก่อน

    แล้วค่อยพักผ่อน เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปแล้วเธอก็หันกลับมาทำงานต่อ



        กฤตพลเดินคิดถึงหญิงสาวดูแล้วเธอทำงานเกินตัวมากเกินไปแล้วเขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่

    เห็นดวงตาเศร้าๆของเธอในรูปแล้วและยิ่งมาเห็นเธอตัวจริงอย่างนี้แล้วเขายิ่งอยากทำอะไรเพื่อเธอบ้าง เขาเดินเข้า

    ไปในเรือนคนงานเห็นลุงอินนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับคนงานอีกเกือบสิบคน และหญิงสาวคนหนึ่งคงจะเป็นภรรยา

    คนงานคนใดคนหนึ่งนะเอง



    “คุณพลมาแล้วหรือครับ ผมกำลังจะให้เด็กเดินไปตามอยู่พอดีเลย”



    “ขอโทษทีครับที่มาช้า”



    “ไม่เป็นไร มานั่งเลยจะได้เริ่มทานกันไอ้เจ้าพวกนี้มันหิวแล้วละคุณพล”ชายหนุ่มนั่งร่วมวงกับคนงานเริ่มทานอาหารกัน

    ด้วยความหิวเขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่จึงไม่ค่อยทานนั่งฟังคนงานคุยกัน



    “เอ้อพวกเอ็งรู้จักกับผู้จัดการคนใหม่หน่อย นี่คุณพลจะมาทำงานกับพวกเราตั้งแต่พรุ้งนี้ไป”ลุงอินเอ่ยขึ้น



    “ท่าทางอย่างนี้จะทำไหวหรือลุง”กฤตพลหันไปทางชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับเขา



    “ผมคิดว่าผมมีความสามารถพอที่จะทำหน้าที่นี้”ชายหนุ่มข่มอารมณ์โมโหไว้เขาไม่ชอบให้ใครมาดูถูก



    “ผมหวังว่าคุณคงไม่ได้เป็นคนของไอ้ดิลกมันนะครับ ถ้าคุณมาทำอะไรนายหญิงละก็พวกผมไม่เอาไว้แน่ๆ”



    “เอาไว้คุณคอยดูเอาเองดีกว่านะ  ลุงอินผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยนะครับ”



    “ได้ครับงั้นเชิญด้านนอกดีกว่าครับ”ลุงอินลุกขึ้นเดินนำเขาออกไปนั่งม้าหินหน้าเรือนพัก



    “มีอะไรหรือครับคุณพล”



    “ผมอยากทราบว่าคุณทิพย์เธอมีงานอะไรต้องทำมากมายหนักหนา ก่อนผมมานี่ก็เห็นเธอนั่งทำงานอยู่หน้าคอมฯ

    ไม่ยอมพักผ่อน อาหารก็ไม่ทานแล้วอย่างนี้ไม่แย่หรือครับ”



    “เฮ้อ ผมละกลุ้มกับคุณหนูก็เรื่องนี้แหละครับเธอไม่ยอมดูแลสุขภาพเลยทุ่มให้แต่งานฝืนในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้”



    “เธอมีปัญหาอะไรหรือครับ บอกผมเถอะนะลุงผมอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง”



    “ผมเห็นว่าคุณเป็นคนจริงใจนะครับผมจะเล่าให้ฟังละกัน พ่อคุณหนูทิ้งหนี้สินไว้ให้เธอมากมายและเจ้าหนี้

    ก็คือไอ้ดิลกคนที่โกงคุณท่านไปนะแหละครับ มันคิดจะฮุบที่ดินแถวนี้ให้หมดเพราะว่าถ้ารวมกับที่คุณหนู

    แล้วมันจะเป็นที่ดินผืนเดียวกัน และที่ดินที่นี่ก็ทำเลดีมาก มีน้ำไหลผ่านซึ่งที่ของมันไม่มีน้ำไหลผ่านมันต้อง

    อาศัยน้ำทางเราไหลเข้าฟาร์มมัน ถ้าเรากักไว้หมดมันก็จะไม่ได้ซึ่งตอนนี้คุณหนูยังปล่อยน้ำอยู่ไม่อยากทำร้าย

    คนทำอาชีพเดียวกันแต่มันไม่คิดอย่างนั้นและจ้องเล่นงานคุณหนูทุกทาง มันเร่งรัดหนี้สินต้องการให้คุณหนู

    ใช้หนี้ให้มันให้ได้ ซึ่งมันก็รู้ว่าคุณหนูไม่มีปัญญาหาเงินตั้งมากมายอย่างนั้นมาให้มันได้ทันแน่ นี่คุณหนูก็ขาย

    บ้านในเมืองไปตัดดอกมันบ้างแล้วและอีกหกเดือนถ้าคุณหนูหาเงินไปให้มันไม่ได้มันก็อาจจะยึดที่ไปเลย”



    “แต่ผมดูแล้วผลผลิตก็ดีนี่ครับทำไมถึงกลัวว่าจะไม่ทันละครับลุง”



    “ก็ถ้ามันไม่ก่อกวนก็จะพอมีเงินไปชำระหนี้มันได้หรอกครับแต่นี่มันเล่น ส่งคนมาเล่นงานเราบ้างละ เผาหญ้า

    ที่เราให้โคกินบ้างละ บางครั้งก็ปล่อยแมลงมากินพวกส้มเราทำให้เรามีผลผลิตออกตลาดได้ไม่มากเท่าที่ควร

    นี่ดีนะครับที่คุณหนูไปประมูลงานส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศได้ไม่อย่างนั้นเราคงแย่แน่เลย”



    “เล่นกันหนักขนาดนี้เลยหรือลุง มันไม่ละอายใจบ้างหรือไงทำกับผู้หญิงขนาดนี้”ชายหนุ่มรู้สึกสงสารหญิงสาว

    มากขึ้นเมื่อได้รู้เรื่องราวของเธอ



    “มันจะละอายอะไรละครับ ขอให้มันได้ในสิ่งที่มันต้องการอย่างเดียว นี่ไอ้เจ้าลูกชายมันก็จ้องจะตะครุบคุณหนู

    อยู่เหมือนกัน มันคงคิดว่าถ้าไม่ได้แผนแรกมันก็คงเอาแผนสองคือดองกันซะเลยที่ดินก็ไม่ไปไหนเสีย”



    “นายดิลกนี่มีลูกชายด้วยหรือครับ ผมไม่เคยได้ยินเลยว่ามันมีลูก”ชายหนุ่มสงสัยเนื่องจากเขาก็รู้จักนายดิลก

    พอสมควรแต่ไม่เคยได้ยินเลยว่ามันมีลูกชายด้วย



    “มีครับคนหนึ่ง แต่มันเลวบัดซบเลยละ ค้ายา หลอกผู้หญิง ลูกสาวใครมันไม่เว้นมันถือว่าพ่อมันมีเงินจ่ายฟาดหัว

    วันก่อนคุณหนูเข้าเมืองไปเจอมันเข้ามันรี่เข้ามาหาเลยครับแต่คุณหนูไม่เล่นด้วยและพอดีคนเยอะ ผมก็ไปด้วยจึงไม่มีอะไร”



    “ที่นี่ถ้าจะเป็นเมืองเถื่อนซะแล้วนะครับนี่”ชายหนุ่มเริ่มมีอคติกับสองพ่อลูกนั่นมากขึ้น



    “อย่างนี้ละครับพวกมีเงิน ส่วนตำรวจก็รับส่วยเลยทำเป็นไม่สนใจกับความผิด”ลุงอินเอ่ยอย่างปลงตก



    “ผมห่วงก็แต่คุณหนูนะแหละครับเป็นผู้หญิงถึงจะเก่งแค่ไหนก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ”ลุงอินพูดต่อ



    “ลุงสบายใจเถอะครับ ถ้าผมยังอยู่ที่นี่ผมรับรองว่าจะไม่ให้คุณหนูของลุงเป็นอะไรแน่”ชายหนุ่มรับปากกับชายชรา

    และเขาก็เห็นแกยิ้มออกมาจนเห็นฟัน



    “ผมก็คิดว่าผมคงจะดูคนไม่ผิดหรอกนะครับ ผมฝากคุณหนูด้วยนะครับ ผมมันแก่แล้วทำอะไรก็ไม่คล่องแคล่ว

    เหมือนเก่า แถมอยู่ไกลกันอย่างนี้ด้วย เมื่อวันที่ไอ้ผู้จัดการคนเก่ามันจะทำร้ายคุณหนูผมยังไม่รู้เลยถ้าคุณหนู

    ไม่ยิงปืนละก็ผมก็ไม่รู้เรื่องหรอก ถ้าเห็นอะไรที่เธอทำผิดก็ตักเตือนได้นะครับ เธอเป็นคนหัวดื้อไม่ค่อยลงให้ใคร

    เพราะว่าเธอไว้ใจใครไม่ได้นอกจากผม แต่เธอเป็นคนมีเหตุผล”



    “ครับ นี่ก็ดึกแล้วผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า เดี๋ยวกลับดึกกว่านี้คุณหนูของลุงได้ยินเข้านึกว่าเป็นคนร้ายคงยิงผม

    ตายตั้งแต่ผมยังไม่ได้เริ่มงานด้วยซ้ำ”ชายหนุ่มเอ่ยกลั้วหัวเราะและลุกขึ้นเดินออกไปโดยมีสายตาเชื่อมั่นและ

    ชื่นชมของชายชรามองตามไปด้วย



    ชายหนุ่มเดินไปได้ครึ่งทางและรู้สึกว่ามีคนตามเขามา เขารีบหันไปเจอกับใบหน้าดุๆของคนที่เถียงกับเขาใน

    โรงอาหารเมื่อสักครู่



    “มีอะไรกับผมหรือเปล่า”กฤตพลถามขึ้น



    “ไม่มีเพียงแต่จะมาบอกว่าอย่าทำให้คุณหนูเจ็บใจหรือเสียใจเป็นอันขาด เธอเป็นคนดีถ้าคุณคิดร้ายกับเธอ

    พวกผมจะตอบแทนคุณอย่างสาสม”เมื่อพูดจบก็จะหันหลังกลับทันที



    “เดี่ยวซินายชื่อะไรน่ะ”



    “คุณจะรู้ไปทำไม”



    “ก็เดี๋ยวเราก็ต้องทำงานร่วมกันแล้วจะให้ผมรู้จักชื่อหน่อยไม่ได้หรือ”



    “ก็ได้ ผมชื่อชิด ดูแลคุณหนูแทนพวกเราด้วย”พูดจบนายชิดก็เดินออกไปทันที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×