ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วันเผด็จศึก
(4)
    “พี่ฟอส!!!”
ฉันแกล้งเรียกพี่ฟอสเสียงดังตั้งแต่หน้าประตูแล้วก้าวฉับๆเข้าคลับเคลน่า ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในเครือของพ่อแฟค
    “เอพริล!?!”    พี่ฟอสอุทานชื่อฉันซึ่งมาหยุดยืนตรงหน้าแล้วลนลาน
    “หวัดดีจ่ะ เอพริล”    พี่แพนเค้กทักฉัน
    “หวัดดีค่ะ พี่แพนเค้ก”    ฉันยิ้ม พี่ฟอสมองหน้าเราสลับไปมา
    “นั่งด้วยกันสิจ๊ะ จะดื่มอะไรหน่อยมั้ย?”    พี่แพนเค้กเชิญฉันนั่งตามแผน
    “ขอวอดก้าค่ะ”    ฉันหันไปสั่งเครื่องดื่ม พี่ฟอสนั่งนิ่ง
    “เอพริลนี่ดื่มแบบเดียวกับพี่เลยนะ  ชอบอะไรเหมือนกันเลย วอดก้าด้วยค่ะ”
พี่แพนเค้กพูดมีเลศแล้วชูนิ้วขึ้นสั่งเหล้า  และก้อหันกลับมาพูดต่อ
    “แต่วอดก้าเนี้ยมันแรงนะ ดื่มมากไปมันไม่ดีหรอก”
    “นั่นสินะคะ เอพริลว่าจะเลิกดื่มมันแล้วล่ะ เสียสุขภาพเปล่าๆ”
    “พี่ก้อเหมือนกันแหละจ่ะ”
พอดีกับที่บาร์เทนเดอร์ส่งวอดก้ามาให้เราสองคน พี่แพนเค้กจึงชูแก้วขึ้นแล้วพูดว่า
    “เอาเป็นว่าเราสองคนมาเลิก เลิกดื่มมันพร้อมกันดีมั้ยจ๊ะ”
    “เลิกเลยดีกว่าค่ะ”      ฉันยิ้ม พี่ฟอสสะดุ้งเฮือก
ฉันกับพี่แพนเค้กชนแก้วกันแล้วดื่มรวดเดียวหมด หลังจากนั้นก้อเงียบกันเหมือนเป่าสาก
    “ ”
    “เอพริลหัดดื่มเหล้าตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ในที่สุดพี่ฟอสก้อแหวกอากาศทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงที่คงคิดว่าปกติที่สุดแล้ว  ฉันทำยิ้มแฉ่งแล้วตอบว่า
    “ไม่นานมาเนี้ยแหละค่ะ  จำได้ว่าเป็นคืนคริสต์มาสอีฟพอดี”
พี่ฟอสเบิกตากว้าง  ฉันก้อเลยตอบต่อเพื่อให้เค้าแน่ใจว่าเดาไม่ผิด
    “ที่ผับออนเซ่น่ะค่ะ”      ว่าแล้วเชียว พี่ฟอสหน้าซีด
แล้วฉันก้อทำตกใจเสียงดังเรียกร้องความสนใจคนในคลับ  แล้วชี้ไปทางจอพลาสม่าขนาดใหญ่ของคลับเคลน่า ซึ่งตอนนี้มันสแตนบายเรียบร้อยแล้ว  พอเห็นทุกคนในคลับหันไปมองตามมือฉัน เฟิร์สก้อดับไฟ ส่วนเบสก้อกดเล่นภาพตามคิวทันที ภาพที่พี่ฟอสจูบกับพี่แพนเค้กในคลับออนเซ่ปรากฎหราบนหน้าจอ แล้วภาพก้อตัดมาที่พี่ฟอสกำลังลูบผมฉันประกอบเสียงที่พูดถึงพี่แพนเค้ก  หลังจากนั้นก้อปรากฎภาพพี่ฟอสที่เดทกับผู้หญิงอีกสี่คน ข้างล่างลงวัน เวลา สถานที่ ชื่อผู้หญิงพวกนั้นเสร็จสรรพ สักพักเมื่อโชว์จบลง ไฟก้อเปิด พี่ฟอสนั่งนิ่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มลวกน้ำกรด
    “ ”
    “อย่างนี้นี่เอง”
ผู้หญิงในคลับคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมลุกขึ้นหันหน้ามาทางเราแล้วชูการ์ดขึ้น มันเป็นการ์ดเชิญที่พวกเราสมรู้กันทำขึ้นมาเอง เราส่งไปให้ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในภาพนั่น โดยแกล้งว่าคุณเป็นผู้โชคดีได้รับเชิญไปงานฉลองครบสามปีคลับเคลน่า  หากเข้ามาดื่มในคลับวันนี้ตอนหนึ่งทุ่มจะได้ดื่มไม่อั้น
    “นายแน่มากฟอส”    ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วขยำการ์ดขว้างหน้าพี่ฟอส
    “อย่ามายุ่งกับชั้นอีก!!!”    ผู้หญิงชุดดำอีกคนพูดสะบัดหน้าเดินออกไป
แล้วต่อมาผู้หญิงอีกสองคนจากอีกมุมหนึ่งของคลับก้อเข้ามาแสดงเจตน์จำนงที่จะประทุษร้ายพี่ฟอสแต่ได้รับการปฏิเสธจากคู่กรณี  ทั้งสองคนจึงทิ้งไว้แต่คำสบถแล้วจากไป
-----2  นาทีต่อมาหลังจากเหตุการณ์วิกฤตได้จบสิ้นหมาดๆ  พี่แพนเค้กพูดกับพี่ฟอสว่า
    “ฟอสจะเอาไง?”
    “เอาอะไรเหรอแพนเค้ก?”    พี่ฟอสแหลแบบหัวหด
    “ ”
    “เลือกสิ!!”      ฉันยืนกอดอกตวาด
ความเงียบบังเกิดอีกครั้ง พี่ฟอสก้มหน้า   แต่แค่แป๊บเดียวเค้าก้อเหงยหน้ามองฉันแล้วบอกว่า
    “เอพริล  พี่ขอโทษนะ  พี่จะเลือกแพนเค้ก”
ฉันรู้สึกเจ็บแปลบนิดๆแต่ไม่ทำให้เสียดุล พี่แพนเค้กยิ้มแล้วลุกขึ้น กวักนิ้วเรียกพี่ผู้ชายอีกคนหนึ่งและเข้าไปคล้องแขนพี่ผู้ชายคนนั้น ปรายตามองพี่ฟอสที่อึ้งอยู่  ส่งน้ำเสียงหยันๆให้ว่า
    “ชั้นบอกนายเมื่อไหร่ว่าจะเลือกคบนายต่อไป”    แล้วเชิดออกไปจากคลับ
    “ ”
ทีนี้เหลือแต่ฉันแล้วสิ พี่ฟอสส่งหน้าจ๋อยๆมาทางฉัน  ยิ้มให้แบบมีความหวังแล้วยื่นมือมาจับมือฉันเบาๆ
    “หน้าด้านจังค่ะ”    ฉันพูด
. >{(~_~)}<
{(:-_-;)} .
    ฉันทุ่มตัวลงเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน เอาหน้าซุกกับหมอน แขนขวาโอบหมอนข้างไว้แน่น พลางนึกถึงเรื่องราวในอดีตกับพี่ฟอสอย่างโกรธในความงี่เง่าของตัวเองที่โง่ให้โดนหลอกมาตลอดสองปีเต็ม  สักพักเสียงเพลงจากวิทยุในห้องแอปเปิลซึ่งอยู่ติดกันก้อแว่วเข้าหูพอดี
    “~~~ คิดถึง อยากเจอเธอแต่เรา อยู่ไกลกัน~~ ฉันเหงา อยากเจอเธอแต่มันไม่มีวันจะเป็นจริงได้เลย เมื่อเธอนั้นจากไปแล้วไม่กลับมา ~~~ทุกครั้งหลับตาลง อยากเจอเธอในความฝัน ~~ไม่พบ อยากเจอเธอแต่มันไม่มีวันจะเป็นจริงได้เลย เมื่อเธอนั้นจากไปแล้ว ไม่กลับมา ~~~”
อีกครั้งที่ฉันโดนเนื้อเพลงเชือดความรู้สึก คิดถึงโกเมนเหลือเกิน ทำไมฉันถึงไม่เลือกเค้าแต่ทีแรกนะ ทำไมฉันถึงโง่พอที่จะเอาผู้ชายที่คั่วผู้หญิงคราวเดียวหกคนมาเป็นแฟน  ทำไมฉันไม่คิดถึงความจริงใจของโกเมน  ทำไมฉันถึงไม่เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำไมวันนั้นฉันถึงคิดตัดใจจากโกเมนเพียงแค่ลมปากกล่อมของพี่ฟอส  แล้วทำไมฉันต้องมานอนร้องไห้ด้วยวะ!!!!!
ฉันจับหมอนข้างเข้าทุ่มใส่ข้างฝาสุดแรงแล้วทุ่มตัวซบหน้าร้องไห้กับผ้าห่มอย่างเหลืออด
    “ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! พี่เอพริลเป็นไร?”    แอปเปิลเคาะประตูเรียก
    “อย่าเพิ่งยุ่งแอปเปิล!  พี่ร้องไห้ยังไม่สุด”    ฉันสะอื้นตอบ
เย็นวันพุธ ฉันยังนอนตายอยู่บนเตียง ในปากดูดอมยิ้มช๊อกโกแลค  ตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่คลับเคลน่าฉันยังไม่ได้ออกบ้านไปไหนเลย ฉันหันไปมองนาฬิกา   เย็นป่านนี้แอปเปิลน่าจะกลับจากโรงเรียนได้แล้ว ทำไมไอ้เฟิร์สถึงมาส่งน้องฉันกลับบ้านผิดเวลานะ  ฉันคิดสงสัยได้ครู่เดียวก้อได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน
“เฟิร์สคงมาส่งแอปเปิลแล้ว”    ฉันคิด  
แต่อีกห้าวินาทีก้อได้ยินทั้งเสียงมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ระบุจำนวนไม่ได้แล่นเข้ามาเทียบจอดด้วยเช่นกัน
    “ใครมานักหนาวะ?”    ฉันพูดกับตัวเองแล้วนอนต่อแบบไม่สนใจ
แล้วฉันได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าบ้านที่ชั้นล่าง พร้อมเสียงเท้าคนนับไม่ถ้วนและเสียงพูดเจ๊าะแจ๊ะแบบหาคำแปลไม่ออก  ระหว่างที่ฉันตั้งใจฟังเสียงเบื้องล่างอยู่นั้น
    “พี่เอพริล!!! ลงมาข้างล่างหน่อยดิ”    แอปเปิลตะโกนเรียก
    “หา!?!”    ฉันตอบกลับไป
    “แขกมาเยี่ยมโว้ย!!”  เสียงจีซัสลอดทะลุเพดานขึ้นมา
พวก 3E นี่เอง ฉันลุกขึ้นบิดตัวซ้ายขวาเดินออกห้องนอน แล้วจึงลงบันไดมาหา  ทันทีที่เจอหน้าฉัน  เพื่อนในห้องต่างตะลึงงัน  หลังจากทุกคนเริ่มตั้งสติจากอาการที่ได้เห็นสภาพของฉันได้แล้ว
คิริเอ่ยทักขึ้นก่อนคนอื่นว่า
    “ผีชัดๆ-_-;”
ฉันยิ้มแหะๆแล้วเกาหัวเขิน ไม่ได้ตอบอะไร
    “โทรมหลุดโลกเลยอ่ะ”    เรนโบว์บอก
    “ไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี้ย?”    แฟคถาม
    “สระผมมั่งป่าว?”  เมย์ถามสอด
    “แอปเปิล!! เธอดูแลพี่สาวยังไงเนี้ย ดูสภาพมันซิ”    คิริบ่น
    “โทษแอปเปิลได้ไง! ยัยพี่มันไม่ดูแลตัวเอง”  ไอค์แก้ตัวแทนแอปเปิล
ฉันยังไม่ตอบคำถาม  เอาแต่ยิ้ม  มินนี่จึงพูดขึ้น
    “หิวรึยังเอพริล  พวกเราแวะซื้อบะหมี่เกี้ยวปูกับขาหมูเผามาล่ะ กินกันเลยดีมะ”
นั่นเรียกเสียงเฮเห็นด้วย  ท่าทางทุกคนหิวจัด  คิตตี้จึงลุกขึ้นยิ้ม
    “เดี๋ยวชั้นไปจัดโต๊ะให้นะ กินกันข้างนอกดีกว่า อากาศกำลังสบาย”
แล้วคิตตี้ก้อหิ้วถุงบะหมี่ถุงเบ้อเริ่มออกไปพร้อมเมย์  พวกเราหันไปมองคิริ
    “มอง’ไรกันวะ!!”  คิริทำงง
    “ชั้นไปช่วยยัยสองคนนั่นดีกว่า จะได้เสร็จเร็วๆ”    แฟคเกริ่น
แฟคปรายตามองคิริแล้วเดินหิ้วขาหมูเผาตามคิตตี้และเมย์ออกไปยังสวนนอกบ้าน  พวกเราหันไปมองคิริอีกครั้งอย่างรู้แกว
    “เดี๋ยว’บัด แม่-งเลย  มอง’ไรตูนักหนาวะ”    คิริเริ่มโกรธา
เราไม่ตอบ แต่ยังจ้องที่คิริอยู่พลางส่งยิ้มให้ทั่วถึงกัน
    “ก้อได้! ถ้าพวกแกจะให้ชั้นไปช่วยแกะขาหมูก้อบอกมาตรงๆเลยโว้ย! ไม่ต้องทำเป็นมามอง รำคาญ!  แล้วบอกไว้ก่อนเลย ไม่ต้องมาทำเป็นฉลาดกันนักนะ เดี๋ยวซัดเรียงตัว แม่-ง”
--คิริสบถแล้วลุกขึ้นเดินออกไป  แต่ยังไม่ทันพ้นประตูหน้าบ้าน ไอค์ก้อแกล้งเปรยเบาๆ  แต่ดันได้ยินกันทั้งบ้าน
    “อยากไปช่วยเค้าก้อบอกมาเห้อ  ทำฟอร์มอยู่ได้”
คิริเบรกเอี๊ยดแล้วหันขวับมามอง  ไอค์ได้ทีเปรยต่อ
    “แล้วเพื่อนเค้าไม่ได้บอกให้ไปช่วยอะไรซะหน่อย แค่มองเฉยๆ  แต่พ่อมันดันร้อนตัวว่ะ”
นั่นคือคำสุดท้ายในคืนนั้นที่เราได้ยินออกจากปากไอค์  เพราะหลังจากถูกคิริเฮดล๊อกแบบไม่ยั้งแล้ว ไอค์ก้อตกอยู่ในสภาพที่ทำได้แค่กลืนบะหมี่ลงคอเท่านั้น
>{(-----_--)}<
    “ทะเล!!!!!!  ทะเล!!!!!!!  โน่นไง!!!! เห็นแล้ว!!!!!!”  ฟิลม์ชี้
    “ไอ้ฟิล์มอย่าทำตื่นเต้นเกินเหตุดิ”    ฟาร์มเตือน
    “ทำไมวะ?”    ฟิล์มถามฟาร์ม แต่เฟรมตอบแทน
    “เดี๋ยวเค้าก้อรู้กันหมดหรอกว่าเราไม่เคยมาทะเล!”
ฉันกับเพื่อนๆหัวเราะคำพูดของแฝดสาม  แต่ฟิล์มไม่สนใจ
    “ไม่เป็นไรหรอก ข้าว่าในที่นี้คงมีหลายคนที่ไม่เคยมาทะเลอย่างพวกเรา  ใช่มั้ยพี่ทั้งหลาย ไหนๆก้อไหนๆแล้ว  คนไม่เคยมาทะเลยกมือโชว์ตัวหน่อยดิคร้าบบบ” ฟิล์มยกมือขึ้น
---แต่ก้อเท่านั้น เพราะนอกจากแฝดสามแล้ว ไม่มีใครอื่นยกมือขึ้นเลย ฟิล์มหดมือกลับจ๋อย
ฉันและกลุ่ม 3E เคยแทคทีมมาเที่ยวทะเลด้วยกันบ่อยๆ มาเมื่อไหร่เฮฮาตลอด คราวนี้ก้อเช่นกัน ทุกโรงเรียนได้หยุดหนึ่งอาทิตย์หลังสอบตรงกัน  ทุกคนลงความเห็นว่าควรจะมาทะเลกันได้แล้วหลังสอบเก็บคะแนนเสร็จ  และถือให้ฉันได้พักฟื้นจิตใจด้วย เฟิร์สบอกว่าคราวนี้ฉันต้องสอบตกแน่นอน   คราวนี้เรามีสมาชิกใหม่เพิ่มมาก้อคือ ฟิล์ม เฟรม ฟาร์ม แอปเปิล และ เรนโบว์
    “ทะเลที่นี่สวยจังเลยเนอะ”  เฟียสเอ่ยกับฉันขณะรอขนกระเป๋าลงรถ
    “อืม”  ฉันรับพลางเหม่อมองไปจนสุดทะเล
แล้วเสียงเฟิร์สก้อแทรกขึ้น
    “เดี๋ยวเราต้องขึ้นเรือไปอีกที่นะ ไปหาดไวท์แซน  เราจะพักกันที่นั่น”
    “ไวท์แซน!!!  ว้าว!  ที่นั่นสวยมากเลยล่ะเบส  เคยไปมั้ย?”  เบอรี่ร่าเริงพลางสะกิดเบส 
    “ปีที่แล้วเราก้อมาหาดนี้กันนะเบอรี่  อย่าลืมซิ”  เบสเตือนเสียงเบา
ถึงคราวซวยไอ้เบส  เบอรี่ชักสีหน้างอนทันที แล้วสะบัดตูดเดินออกไป
    “ปากแก แม่-ง เชี้ยจังว่ะ  ทำไมไม่เออออกับผู้หญิงเค้าหน่อยวะ”  จีซัสสอนในมาดผู้รู้
    “ก้อเคยมาแล้วจริงอ่ะ จะให้ตูทำเว่อร์ตื่นเต้นได้ไงกัน ตูไม่ใช่คนชอบแหล!”  เบสเถียง
ปากเบสพาซวยอีกครั้ง จีซัสฟาดอุ้งมือลงหน้าผากเบสทันที  แล้วพวกผู้ชายที่อยู่ในนั้นเกือบทั้งหมดก้อรุมประชาทัณฑ์เบสย่อมๆ  สันนิษฐานว่าพวกที่รุมเบสนั้นเคยแหลใส่ผู้หญิงมาก่อนจึงเป็นเดือดเป็นแค้นเหมือนถูกเบสด่าเข้าตัวเอง
    “ไปเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้เบส  ไปง้อเค้าเดี๋ยวนี้เลย!!”    จีซัสสั่ง
เบสคลำหัวป้อยๆพลางวิ่งไปที่เบอรี่ซึ่งขึ้นเรือไปแล้ว  พวกเราหัวเราะแล้วเดินตามไปขึ้นเรือด้วยกัน
. >{(~0~)}<
เรามาถึงหาดไวท์แซนกันแล้ว  ว้าว! ยังสวยสะอาดเหมือนเดิมเลย  น่าเสียดายที่พอมาถึงก้อเริ่มหัวค่ำแล้ว  เราจึงไม่ได้ลงไปเล่นทะเลเพราะมัวแต่จัดของและจัดเต้นท์  ฉันล่ะสงสัยนักว่ามากันคราวนี้ทำไมถึงเช่าบ้านพักริมหาดกันไว้ด้วย  เฟิร์สอ้างว่าจะเอาเก็บของ แต่ฉันไม่ยักเห็นใครเอาของเข้าไปเก็บในบ้านสักคนเดียว  แต่ช่างเหอะ  เพราะค่ำนี้เราจะมีปาร์ตี้บาร์บีคิวกันล่ะ^0^
    “อ๊ะ!เอาไป”  ไอค์ยื่นจานที่มีบาร์บีคิวสุกแล้วสี่ไม้ให้เบส
เมื่อเกรซเห็นเบสยังนิ่งอึ้งไม่รับจานบาร์บีคิว เพราะคาดไม่ถึงว่าคนอย่างไอค์จะมีน้ำใจปิ้งให้ตัวเองกินนั้น  เกรซจึงแง่งใส่เบสว่า
    “ทำโง่นะแก!! เอาจานนี้ไปให้เบอรี่สิ  แค่นี้ต้องให้บอก”
เบสเข้าใจและรับจานจากไอค์ตรงไปหาเบอรี่ที่นั่งกับแพนด้าอีกฟาก ไอค์ส่ายหน้าเอือม
    “จะรอดกันมั้ยวะคู่นี้”
ขณะเดียวกันเฟียสก้อยื่นน้ำพันช์แก้วหนึ่งให้ฉัน  ด้วยความกระหายที่ไม่ได้ดื่มน้ำตั้งแต่เย็น ฉันจึงยกดื่มรวดเดียวหมด
    “ค่อยหน่อยสิยัยเอพริล เดี๋ยวก้อหงายเก๋งหรอก”    คิริพูด
    “พันช์แก้วเดียวไม่หงายหรอกน่า”    ฉันเถียง หัวเริ่มมึน
    “นี่คือพันช์ไม่ธรรมดานะจ๊ะ ต้องค่อยจิบ มันถึงจะค่อยหลับ”  เฟียสบอกมีนัย
    “อะไรเฟียส พูดแปลกๆ”  ฉันถาม ตาจะปิดแล้ว
    “ดื่มรวดเดียวหมดยังงี้  เดี๋ยววูบแน่”  ไอค์โอบไหล่ฉันที่เริ่มเซ
    “พวกแกเอาอะไรให้ชั้นกินเนี้ย?  จะฆ่าชั้นเหรอ!” 
ฉันพูดได้แค่นั้นก้อตกสู่ห้วงนิทราทันที
(-_-)(-๐-)
(-_-)(-๐-)
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz เพื่อนเลวววว zzzzzzzzz ”
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz ชั้นจะฆ่าพวกแก zzzzzzz ”
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz เอาบาร์บีคิวช้านคืนมาาาา zzzzzzz ”
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz โกเมนช่วยเอพริลด้วย zzzzzzz ”
ฉันตกใจตื่นทันทีที่ฝันว่ากำลังจะโดนคิริเอาไม้เสียบบาร์บีคิวแท่งเท่าเสาไฟมาจิ้มพุงฉัน  ฉันเหนื่อยหอบ  พอตั้งสติได้ก้อรู้สึกว่าอยู่ในที่แห่งหนึ่งที่ไม่ใช่เต้นท์ของฉัน  ฉันกวาดตาไปรอบๆแล้วนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือบ้านพักริมหาดที่เฟิร์สเช่าไว้ หายไปไหนกันหมดนะ ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วหมุนคอมองไปรอบๆอีกครั้งหนึ่ง  สายตาพลันชะงักที่ชายคนหนึ่งที่อยู่ตรงมุมมืดของห้อง  เขาจ้องตอบกลับมา ฉันเพ่งพินิจแล้วถอยกรูดอย่างกลัวๆ
    “ตื่นได้แล้วเหรอ  นึกว่าต้องมาทนฟังเสียงเธอละเมอต่ออีกชาติซะอีก”
ฉันฉุนกึกจึงตะคอกกลับไปว่า
    “แล้วไปตายทำไมอยู่ในมุมนั้นล่ะ!  หน้าก้อไม่เห็นชัด  ผีรึเปล่าก้อไม่รู้~”
เขาคนนั้นเดินออกมาจากมุมมืด โกเมนนั่นเอง
    “โกเมน! ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”    ฉันถามเสียงอ่อย
    “ถามพวกของเธอดีกว่านะ แผนสูงกันจัง”  โกเมนตอบเฉยชา
    “อะไรเหรอ พวกของฉันทำไม?”
    “ก้อยัยน้องสาวเธอกับไอ้น้องชายชั้นมันรวมหัวกันหลอกชั้นให้มาที่นี่ไงล่ะ!!” เขาตะคอก
    “พวกนั้นคงอยากช่วยชั้น”    ฉันคิดถึงเพื่อนๆแล้วพอจะเดาออก  โกเมนพึมพำ
    “รวมหัวกันไปหมดทั้งพี่โอปอล์และมังกร เธอมันวิเศษเหลือเกินนะ มีแต่คนอยากช่วย!!”
    “ก้อแล้วเมื่อไหร่นายถึงจะเข้าใจชั้นสักทีล่ะ!”    ฉันโอด
    “ไม่มีทาง!!”    โกเมนสวน
    “นายไม่ยอมฟังอะไรฉันเลย ฟังชั้นมั่งเถอะ ชั้นเจ็บปวดนะ”
    “คิดว่าเจ็บปวดคนเดียวรึไง? วันที่เธอหัวเราะอยู่กับฟอส  ชั้นคนเดียวที่เจ็บจะเป็นจะตาย!!”
โกเมนหันหลังให้  ฉันสะเทือนใจ เริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่
    “อย่าทำแบบนี้เลย  เรากลับเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย นายไม่รักชั้นแล้ว ไม่แคร์กันแล้วเหรอ”
ตังงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~~~~~~~~~~~~
เค้าวิ่งไปโดดถีบประตูอย่างแรงจนมันทะลุ  ท่าทางจะตีนหนัก
    “หยุดนะโกเมน!!!! เดี๋ยวเฟิร์สต้องจ่ายค่าซ่อมนะ”  ฉันเตือน
    “ไอ้เฟิร์สช่วยด้วยเหรอ! เพื่อนรักกันจริงนะ  ทำไมไม่คบกับมันไปเลยล่ะ”  โกเมนประชด
    “นายอย่าพูดแบบนี้สิ  ไม่ใช่นายคนเดิมเลย” ฉันร้องไห้แล้วครวญ
    “ฉันไม่เคยลืมนาย  ไม่เคยเลย ฉันรักนายนะ”
    “โถ่เว้ย!!!!!!!(ตังงง!!!) เปิดสิฟะ! เปิดประตู!!”  โกเมนหันไปกึ่งผลักกึ่งถีบประตู
ฉันเข้าไปกอดโกเมนด้านหลัง เค้าชะงัก ฉันซบหน้าลงแผ่นหลังเค้าพลางร้องไห้อย่างหนัก  ปากก้อพร่ำบอกขอร้องโกเมนให้กลับเป็นเหมือนเดิม  สักพักเค้าก้อสะบัดตัวอย่างแรงจนฉันเซล้มเอาหัวฟาดพื้นจนหมดสติ
    “พี่ฟอส!!!”
ฉันแกล้งเรียกพี่ฟอสเสียงดังตั้งแต่หน้าประตูแล้วก้าวฉับๆเข้าคลับเคลน่า ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในเครือของพ่อแฟค
    “เอพริล!?!”    พี่ฟอสอุทานชื่อฉันซึ่งมาหยุดยืนตรงหน้าแล้วลนลาน
    “หวัดดีจ่ะ เอพริล”    พี่แพนเค้กทักฉัน
    “หวัดดีค่ะ พี่แพนเค้ก”    ฉันยิ้ม พี่ฟอสมองหน้าเราสลับไปมา
    “นั่งด้วยกันสิจ๊ะ จะดื่มอะไรหน่อยมั้ย?”    พี่แพนเค้กเชิญฉันนั่งตามแผน
    “ขอวอดก้าค่ะ”    ฉันหันไปสั่งเครื่องดื่ม พี่ฟอสนั่งนิ่ง
    “เอพริลนี่ดื่มแบบเดียวกับพี่เลยนะ  ชอบอะไรเหมือนกันเลย วอดก้าด้วยค่ะ”
พี่แพนเค้กพูดมีเลศแล้วชูนิ้วขึ้นสั่งเหล้า  และก้อหันกลับมาพูดต่อ
    “แต่วอดก้าเนี้ยมันแรงนะ ดื่มมากไปมันไม่ดีหรอก”
    “นั่นสินะคะ เอพริลว่าจะเลิกดื่มมันแล้วล่ะ เสียสุขภาพเปล่าๆ”
    “พี่ก้อเหมือนกันแหละจ่ะ”
พอดีกับที่บาร์เทนเดอร์ส่งวอดก้ามาให้เราสองคน พี่แพนเค้กจึงชูแก้วขึ้นแล้วพูดว่า
    “เอาเป็นว่าเราสองคนมาเลิก เลิกดื่มมันพร้อมกันดีมั้ยจ๊ะ”
    “เลิกเลยดีกว่าค่ะ”      ฉันยิ้ม พี่ฟอสสะดุ้งเฮือก
ฉันกับพี่แพนเค้กชนแก้วกันแล้วดื่มรวดเดียวหมด หลังจากนั้นก้อเงียบกันเหมือนเป่าสาก
    “ ”
    “เอพริลหัดดื่มเหล้าตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ในที่สุดพี่ฟอสก้อแหวกอากาศทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงที่คงคิดว่าปกติที่สุดแล้ว  ฉันทำยิ้มแฉ่งแล้วตอบว่า
    “ไม่นานมาเนี้ยแหละค่ะ  จำได้ว่าเป็นคืนคริสต์มาสอีฟพอดี”
พี่ฟอสเบิกตากว้าง  ฉันก้อเลยตอบต่อเพื่อให้เค้าแน่ใจว่าเดาไม่ผิด
    “ที่ผับออนเซ่น่ะค่ะ”      ว่าแล้วเชียว พี่ฟอสหน้าซีด
แล้วฉันก้อทำตกใจเสียงดังเรียกร้องความสนใจคนในคลับ  แล้วชี้ไปทางจอพลาสม่าขนาดใหญ่ของคลับเคลน่า ซึ่งตอนนี้มันสแตนบายเรียบร้อยแล้ว  พอเห็นทุกคนในคลับหันไปมองตามมือฉัน เฟิร์สก้อดับไฟ ส่วนเบสก้อกดเล่นภาพตามคิวทันที ภาพที่พี่ฟอสจูบกับพี่แพนเค้กในคลับออนเซ่ปรากฎหราบนหน้าจอ แล้วภาพก้อตัดมาที่พี่ฟอสกำลังลูบผมฉันประกอบเสียงที่พูดถึงพี่แพนเค้ก  หลังจากนั้นก้อปรากฎภาพพี่ฟอสที่เดทกับผู้หญิงอีกสี่คน ข้างล่างลงวัน เวลา สถานที่ ชื่อผู้หญิงพวกนั้นเสร็จสรรพ สักพักเมื่อโชว์จบลง ไฟก้อเปิด พี่ฟอสนั่งนิ่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มลวกน้ำกรด
    “ ”
    “อย่างนี้นี่เอง”
ผู้หญิงในคลับคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมลุกขึ้นหันหน้ามาทางเราแล้วชูการ์ดขึ้น มันเป็นการ์ดเชิญที่พวกเราสมรู้กันทำขึ้นมาเอง เราส่งไปให้ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในภาพนั่น โดยแกล้งว่าคุณเป็นผู้โชคดีได้รับเชิญไปงานฉลองครบสามปีคลับเคลน่า  หากเข้ามาดื่มในคลับวันนี้ตอนหนึ่งทุ่มจะได้ดื่มไม่อั้น
    “นายแน่มากฟอส”    ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วขยำการ์ดขว้างหน้าพี่ฟอส
    “อย่ามายุ่งกับชั้นอีก!!!”    ผู้หญิงชุดดำอีกคนพูดสะบัดหน้าเดินออกไป
แล้วต่อมาผู้หญิงอีกสองคนจากอีกมุมหนึ่งของคลับก้อเข้ามาแสดงเจตน์จำนงที่จะประทุษร้ายพี่ฟอสแต่ได้รับการปฏิเสธจากคู่กรณี  ทั้งสองคนจึงทิ้งไว้แต่คำสบถแล้วจากไป
-----2  นาทีต่อมาหลังจากเหตุการณ์วิกฤตได้จบสิ้นหมาดๆ  พี่แพนเค้กพูดกับพี่ฟอสว่า
    “ฟอสจะเอาไง?”
    “เอาอะไรเหรอแพนเค้ก?”    พี่ฟอสแหลแบบหัวหด
    “ ”
    “เลือกสิ!!”      ฉันยืนกอดอกตวาด
ความเงียบบังเกิดอีกครั้ง พี่ฟอสก้มหน้า   แต่แค่แป๊บเดียวเค้าก้อเหงยหน้ามองฉันแล้วบอกว่า
    “เอพริล  พี่ขอโทษนะ  พี่จะเลือกแพนเค้ก”
ฉันรู้สึกเจ็บแปลบนิดๆแต่ไม่ทำให้เสียดุล พี่แพนเค้กยิ้มแล้วลุกขึ้น กวักนิ้วเรียกพี่ผู้ชายอีกคนหนึ่งและเข้าไปคล้องแขนพี่ผู้ชายคนนั้น ปรายตามองพี่ฟอสที่อึ้งอยู่  ส่งน้ำเสียงหยันๆให้ว่า
    “ชั้นบอกนายเมื่อไหร่ว่าจะเลือกคบนายต่อไป”    แล้วเชิดออกไปจากคลับ
    “ ”
ทีนี้เหลือแต่ฉันแล้วสิ พี่ฟอสส่งหน้าจ๋อยๆมาทางฉัน  ยิ้มให้แบบมีความหวังแล้วยื่นมือมาจับมือฉันเบาๆ
    “หน้าด้านจังค่ะ”    ฉันพูด
. >{(~_~)}<
{(:-_-;)} .
    ฉันทุ่มตัวลงเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน เอาหน้าซุกกับหมอน แขนขวาโอบหมอนข้างไว้แน่น พลางนึกถึงเรื่องราวในอดีตกับพี่ฟอสอย่างโกรธในความงี่เง่าของตัวเองที่โง่ให้โดนหลอกมาตลอดสองปีเต็ม  สักพักเสียงเพลงจากวิทยุในห้องแอปเปิลซึ่งอยู่ติดกันก้อแว่วเข้าหูพอดี
    “~~~ คิดถึง อยากเจอเธอแต่เรา อยู่ไกลกัน~~ ฉันเหงา อยากเจอเธอแต่มันไม่มีวันจะเป็นจริงได้เลย เมื่อเธอนั้นจากไปแล้วไม่กลับมา ~~~ทุกครั้งหลับตาลง อยากเจอเธอในความฝัน ~~ไม่พบ อยากเจอเธอแต่มันไม่มีวันจะเป็นจริงได้เลย เมื่อเธอนั้นจากไปแล้ว ไม่กลับมา ~~~”
อีกครั้งที่ฉันโดนเนื้อเพลงเชือดความรู้สึก คิดถึงโกเมนเหลือเกิน ทำไมฉันถึงไม่เลือกเค้าแต่ทีแรกนะ ทำไมฉันถึงโง่พอที่จะเอาผู้ชายที่คั่วผู้หญิงคราวเดียวหกคนมาเป็นแฟน  ทำไมฉันไม่คิดถึงความจริงใจของโกเมน  ทำไมฉันถึงไม่เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำไมวันนั้นฉันถึงคิดตัดใจจากโกเมนเพียงแค่ลมปากกล่อมของพี่ฟอส  แล้วทำไมฉันต้องมานอนร้องไห้ด้วยวะ!!!!!
ฉันจับหมอนข้างเข้าทุ่มใส่ข้างฝาสุดแรงแล้วทุ่มตัวซบหน้าร้องไห้กับผ้าห่มอย่างเหลืออด
    “ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! พี่เอพริลเป็นไร?”    แอปเปิลเคาะประตูเรียก
    “อย่าเพิ่งยุ่งแอปเปิล!  พี่ร้องไห้ยังไม่สุด”    ฉันสะอื้นตอบ
เย็นวันพุธ ฉันยังนอนตายอยู่บนเตียง ในปากดูดอมยิ้มช๊อกโกแลค  ตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่คลับเคลน่าฉันยังไม่ได้ออกบ้านไปไหนเลย ฉันหันไปมองนาฬิกา   เย็นป่านนี้แอปเปิลน่าจะกลับจากโรงเรียนได้แล้ว ทำไมไอ้เฟิร์สถึงมาส่งน้องฉันกลับบ้านผิดเวลานะ  ฉันคิดสงสัยได้ครู่เดียวก้อได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน
“เฟิร์สคงมาส่งแอปเปิลแล้ว”    ฉันคิด  
แต่อีกห้าวินาทีก้อได้ยินทั้งเสียงมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ระบุจำนวนไม่ได้แล่นเข้ามาเทียบจอดด้วยเช่นกัน
    “ใครมานักหนาวะ?”    ฉันพูดกับตัวเองแล้วนอนต่อแบบไม่สนใจ
แล้วฉันได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าบ้านที่ชั้นล่าง พร้อมเสียงเท้าคนนับไม่ถ้วนและเสียงพูดเจ๊าะแจ๊ะแบบหาคำแปลไม่ออก  ระหว่างที่ฉันตั้งใจฟังเสียงเบื้องล่างอยู่นั้น
    “พี่เอพริล!!! ลงมาข้างล่างหน่อยดิ”    แอปเปิลตะโกนเรียก
    “หา!?!”    ฉันตอบกลับไป
    “แขกมาเยี่ยมโว้ย!!”  เสียงจีซัสลอดทะลุเพดานขึ้นมา
พวก 3E นี่เอง ฉันลุกขึ้นบิดตัวซ้ายขวาเดินออกห้องนอน แล้วจึงลงบันไดมาหา  ทันทีที่เจอหน้าฉัน  เพื่อนในห้องต่างตะลึงงัน  หลังจากทุกคนเริ่มตั้งสติจากอาการที่ได้เห็นสภาพของฉันได้แล้ว
คิริเอ่ยทักขึ้นก่อนคนอื่นว่า
    “ผีชัดๆ-_-;”
ฉันยิ้มแหะๆแล้วเกาหัวเขิน ไม่ได้ตอบอะไร
    “โทรมหลุดโลกเลยอ่ะ”    เรนโบว์บอก
    “ไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี้ย?”    แฟคถาม
    “สระผมมั่งป่าว?”  เมย์ถามสอด
    “แอปเปิล!! เธอดูแลพี่สาวยังไงเนี้ย ดูสภาพมันซิ”    คิริบ่น
    “โทษแอปเปิลได้ไง! ยัยพี่มันไม่ดูแลตัวเอง”  ไอค์แก้ตัวแทนแอปเปิล
ฉันยังไม่ตอบคำถาม  เอาแต่ยิ้ม  มินนี่จึงพูดขึ้น
    “หิวรึยังเอพริล  พวกเราแวะซื้อบะหมี่เกี้ยวปูกับขาหมูเผามาล่ะ กินกันเลยดีมะ”
นั่นเรียกเสียงเฮเห็นด้วย  ท่าทางทุกคนหิวจัด  คิตตี้จึงลุกขึ้นยิ้ม
    “เดี๋ยวชั้นไปจัดโต๊ะให้นะ กินกันข้างนอกดีกว่า อากาศกำลังสบาย”
แล้วคิตตี้ก้อหิ้วถุงบะหมี่ถุงเบ้อเริ่มออกไปพร้อมเมย์  พวกเราหันไปมองคิริ
    “มอง’ไรกันวะ!!”  คิริทำงง
    “ชั้นไปช่วยยัยสองคนนั่นดีกว่า จะได้เสร็จเร็วๆ”    แฟคเกริ่น
แฟคปรายตามองคิริแล้วเดินหิ้วขาหมูเผาตามคิตตี้และเมย์ออกไปยังสวนนอกบ้าน  พวกเราหันไปมองคิริอีกครั้งอย่างรู้แกว
    “เดี๋ยว’บัด แม่-งเลย  มอง’ไรตูนักหนาวะ”    คิริเริ่มโกรธา
เราไม่ตอบ แต่ยังจ้องที่คิริอยู่พลางส่งยิ้มให้ทั่วถึงกัน
    “ก้อได้! ถ้าพวกแกจะให้ชั้นไปช่วยแกะขาหมูก้อบอกมาตรงๆเลยโว้ย! ไม่ต้องทำเป็นมามอง รำคาญ!  แล้วบอกไว้ก่อนเลย ไม่ต้องมาทำเป็นฉลาดกันนักนะ เดี๋ยวซัดเรียงตัว แม่-ง”
--คิริสบถแล้วลุกขึ้นเดินออกไป  แต่ยังไม่ทันพ้นประตูหน้าบ้าน ไอค์ก้อแกล้งเปรยเบาๆ  แต่ดันได้ยินกันทั้งบ้าน
    “อยากไปช่วยเค้าก้อบอกมาเห้อ  ทำฟอร์มอยู่ได้”
คิริเบรกเอี๊ยดแล้วหันขวับมามอง  ไอค์ได้ทีเปรยต่อ
    “แล้วเพื่อนเค้าไม่ได้บอกให้ไปช่วยอะไรซะหน่อย แค่มองเฉยๆ  แต่พ่อมันดันร้อนตัวว่ะ”
นั่นคือคำสุดท้ายในคืนนั้นที่เราได้ยินออกจากปากไอค์  เพราะหลังจากถูกคิริเฮดล๊อกแบบไม่ยั้งแล้ว ไอค์ก้อตกอยู่ในสภาพที่ทำได้แค่กลืนบะหมี่ลงคอเท่านั้น
>{(-----_--)}<
    “ทะเล!!!!!!  ทะเล!!!!!!!  โน่นไง!!!! เห็นแล้ว!!!!!!”  ฟิลม์ชี้
    “ไอ้ฟิล์มอย่าทำตื่นเต้นเกินเหตุดิ”    ฟาร์มเตือน
    “ทำไมวะ?”    ฟิล์มถามฟาร์ม แต่เฟรมตอบแทน
    “เดี๋ยวเค้าก้อรู้กันหมดหรอกว่าเราไม่เคยมาทะเล!”
ฉันกับเพื่อนๆหัวเราะคำพูดของแฝดสาม  แต่ฟิล์มไม่สนใจ
    “ไม่เป็นไรหรอก ข้าว่าในที่นี้คงมีหลายคนที่ไม่เคยมาทะเลอย่างพวกเรา  ใช่มั้ยพี่ทั้งหลาย ไหนๆก้อไหนๆแล้ว  คนไม่เคยมาทะเลยกมือโชว์ตัวหน่อยดิคร้าบบบ” ฟิล์มยกมือขึ้น
---แต่ก้อเท่านั้น เพราะนอกจากแฝดสามแล้ว ไม่มีใครอื่นยกมือขึ้นเลย ฟิล์มหดมือกลับจ๋อย
ฉันและกลุ่ม 3E เคยแทคทีมมาเที่ยวทะเลด้วยกันบ่อยๆ มาเมื่อไหร่เฮฮาตลอด คราวนี้ก้อเช่นกัน ทุกโรงเรียนได้หยุดหนึ่งอาทิตย์หลังสอบตรงกัน  ทุกคนลงความเห็นว่าควรจะมาทะเลกันได้แล้วหลังสอบเก็บคะแนนเสร็จ  และถือให้ฉันได้พักฟื้นจิตใจด้วย เฟิร์สบอกว่าคราวนี้ฉันต้องสอบตกแน่นอน   คราวนี้เรามีสมาชิกใหม่เพิ่มมาก้อคือ ฟิล์ม เฟรม ฟาร์ม แอปเปิล และ เรนโบว์
    “ทะเลที่นี่สวยจังเลยเนอะ”  เฟียสเอ่ยกับฉันขณะรอขนกระเป๋าลงรถ
    “อืม”  ฉันรับพลางเหม่อมองไปจนสุดทะเล
แล้วเสียงเฟิร์สก้อแทรกขึ้น
    “เดี๋ยวเราต้องขึ้นเรือไปอีกที่นะ ไปหาดไวท์แซน  เราจะพักกันที่นั่น”
    “ไวท์แซน!!!  ว้าว!  ที่นั่นสวยมากเลยล่ะเบส  เคยไปมั้ย?”  เบอรี่ร่าเริงพลางสะกิดเบส 
    “ปีที่แล้วเราก้อมาหาดนี้กันนะเบอรี่  อย่าลืมซิ”  เบสเตือนเสียงเบา
ถึงคราวซวยไอ้เบส  เบอรี่ชักสีหน้างอนทันที แล้วสะบัดตูดเดินออกไป
    “ปากแก แม่-ง เชี้ยจังว่ะ  ทำไมไม่เออออกับผู้หญิงเค้าหน่อยวะ”  จีซัสสอนในมาดผู้รู้
    “ก้อเคยมาแล้วจริงอ่ะ จะให้ตูทำเว่อร์ตื่นเต้นได้ไงกัน ตูไม่ใช่คนชอบแหล!”  เบสเถียง
ปากเบสพาซวยอีกครั้ง จีซัสฟาดอุ้งมือลงหน้าผากเบสทันที  แล้วพวกผู้ชายที่อยู่ในนั้นเกือบทั้งหมดก้อรุมประชาทัณฑ์เบสย่อมๆ  สันนิษฐานว่าพวกที่รุมเบสนั้นเคยแหลใส่ผู้หญิงมาก่อนจึงเป็นเดือดเป็นแค้นเหมือนถูกเบสด่าเข้าตัวเอง
    “ไปเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้เบส  ไปง้อเค้าเดี๋ยวนี้เลย!!”    จีซัสสั่ง
เบสคลำหัวป้อยๆพลางวิ่งไปที่เบอรี่ซึ่งขึ้นเรือไปแล้ว  พวกเราหัวเราะแล้วเดินตามไปขึ้นเรือด้วยกัน
. >{(~0~)}<
เรามาถึงหาดไวท์แซนกันแล้ว  ว้าว! ยังสวยสะอาดเหมือนเดิมเลย  น่าเสียดายที่พอมาถึงก้อเริ่มหัวค่ำแล้ว  เราจึงไม่ได้ลงไปเล่นทะเลเพราะมัวแต่จัดของและจัดเต้นท์  ฉันล่ะสงสัยนักว่ามากันคราวนี้ทำไมถึงเช่าบ้านพักริมหาดกันไว้ด้วย  เฟิร์สอ้างว่าจะเอาเก็บของ แต่ฉันไม่ยักเห็นใครเอาของเข้าไปเก็บในบ้านสักคนเดียว  แต่ช่างเหอะ  เพราะค่ำนี้เราจะมีปาร์ตี้บาร์บีคิวกันล่ะ^0^
    “อ๊ะ!เอาไป”  ไอค์ยื่นจานที่มีบาร์บีคิวสุกแล้วสี่ไม้ให้เบส
เมื่อเกรซเห็นเบสยังนิ่งอึ้งไม่รับจานบาร์บีคิว เพราะคาดไม่ถึงว่าคนอย่างไอค์จะมีน้ำใจปิ้งให้ตัวเองกินนั้น  เกรซจึงแง่งใส่เบสว่า
    “ทำโง่นะแก!! เอาจานนี้ไปให้เบอรี่สิ  แค่นี้ต้องให้บอก”
เบสเข้าใจและรับจานจากไอค์ตรงไปหาเบอรี่ที่นั่งกับแพนด้าอีกฟาก ไอค์ส่ายหน้าเอือม
    “จะรอดกันมั้ยวะคู่นี้”
ขณะเดียวกันเฟียสก้อยื่นน้ำพันช์แก้วหนึ่งให้ฉัน  ด้วยความกระหายที่ไม่ได้ดื่มน้ำตั้งแต่เย็น ฉันจึงยกดื่มรวดเดียวหมด
    “ค่อยหน่อยสิยัยเอพริล เดี๋ยวก้อหงายเก๋งหรอก”    คิริพูด
    “พันช์แก้วเดียวไม่หงายหรอกน่า”    ฉันเถียง หัวเริ่มมึน
    “นี่คือพันช์ไม่ธรรมดานะจ๊ะ ต้องค่อยจิบ มันถึงจะค่อยหลับ”  เฟียสบอกมีนัย
    “อะไรเฟียส พูดแปลกๆ”  ฉันถาม ตาจะปิดแล้ว
    “ดื่มรวดเดียวหมดยังงี้  เดี๋ยววูบแน่”  ไอค์โอบไหล่ฉันที่เริ่มเซ
    “พวกแกเอาอะไรให้ชั้นกินเนี้ย?  จะฆ่าชั้นเหรอ!” 
ฉันพูดได้แค่นั้นก้อตกสู่ห้วงนิทราทันที
(-_-)(-๐-)
(-_-)(-๐-)
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz เพื่อนเลวววว zzzzzzzzz ”
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz ชั้นจะฆ่าพวกแก zzzzzzz ”
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz เอาบาร์บีคิวช้านคืนมาาาา zzzzzzz ”
zzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzz .zzzzzzzzzzzzzz ..
    “ zzzzzzz โกเมนช่วยเอพริลด้วย zzzzzzz ”
ฉันตกใจตื่นทันทีที่ฝันว่ากำลังจะโดนคิริเอาไม้เสียบบาร์บีคิวแท่งเท่าเสาไฟมาจิ้มพุงฉัน  ฉันเหนื่อยหอบ  พอตั้งสติได้ก้อรู้สึกว่าอยู่ในที่แห่งหนึ่งที่ไม่ใช่เต้นท์ของฉัน  ฉันกวาดตาไปรอบๆแล้วนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือบ้านพักริมหาดที่เฟิร์สเช่าไว้ หายไปไหนกันหมดนะ ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วหมุนคอมองไปรอบๆอีกครั้งหนึ่ง  สายตาพลันชะงักที่ชายคนหนึ่งที่อยู่ตรงมุมมืดของห้อง  เขาจ้องตอบกลับมา ฉันเพ่งพินิจแล้วถอยกรูดอย่างกลัวๆ
    “ตื่นได้แล้วเหรอ  นึกว่าต้องมาทนฟังเสียงเธอละเมอต่ออีกชาติซะอีก”
ฉันฉุนกึกจึงตะคอกกลับไปว่า
    “แล้วไปตายทำไมอยู่ในมุมนั้นล่ะ!  หน้าก้อไม่เห็นชัด  ผีรึเปล่าก้อไม่รู้~”
เขาคนนั้นเดินออกมาจากมุมมืด โกเมนนั่นเอง
    “โกเมน! ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”    ฉันถามเสียงอ่อย
    “ถามพวกของเธอดีกว่านะ แผนสูงกันจัง”  โกเมนตอบเฉยชา
    “อะไรเหรอ พวกของฉันทำไม?”
    “ก้อยัยน้องสาวเธอกับไอ้น้องชายชั้นมันรวมหัวกันหลอกชั้นให้มาที่นี่ไงล่ะ!!” เขาตะคอก
    “พวกนั้นคงอยากช่วยชั้น”    ฉันคิดถึงเพื่อนๆแล้วพอจะเดาออก  โกเมนพึมพำ
    “รวมหัวกันไปหมดทั้งพี่โอปอล์และมังกร เธอมันวิเศษเหลือเกินนะ มีแต่คนอยากช่วย!!”
    “ก้อแล้วเมื่อไหร่นายถึงจะเข้าใจชั้นสักทีล่ะ!”    ฉันโอด
    “ไม่มีทาง!!”    โกเมนสวน
    “นายไม่ยอมฟังอะไรฉันเลย ฟังชั้นมั่งเถอะ ชั้นเจ็บปวดนะ”
    “คิดว่าเจ็บปวดคนเดียวรึไง? วันที่เธอหัวเราะอยู่กับฟอส  ชั้นคนเดียวที่เจ็บจะเป็นจะตาย!!”
โกเมนหันหลังให้  ฉันสะเทือนใจ เริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่
    “อย่าทำแบบนี้เลย  เรากลับเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย นายไม่รักชั้นแล้ว ไม่แคร์กันแล้วเหรอ”
ตังงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~~~~~~~~~~~~
เค้าวิ่งไปโดดถีบประตูอย่างแรงจนมันทะลุ  ท่าทางจะตีนหนัก
    “หยุดนะโกเมน!!!! เดี๋ยวเฟิร์สต้องจ่ายค่าซ่อมนะ”  ฉันเตือน
    “ไอ้เฟิร์สช่วยด้วยเหรอ! เพื่อนรักกันจริงนะ  ทำไมไม่คบกับมันไปเลยล่ะ”  โกเมนประชด
    “นายอย่าพูดแบบนี้สิ  ไม่ใช่นายคนเดิมเลย” ฉันร้องไห้แล้วครวญ
    “ฉันไม่เคยลืมนาย  ไม่เคยเลย ฉันรักนายนะ”
    “โถ่เว้ย!!!!!!!(ตังงง!!!) เปิดสิฟะ! เปิดประตู!!”  โกเมนหันไปกึ่งผลักกึ่งถีบประตู
ฉันเข้าไปกอดโกเมนด้านหลัง เค้าชะงัก ฉันซบหน้าลงแผ่นหลังเค้าพลางร้องไห้อย่างหนัก  ปากก้อพร่ำบอกขอร้องโกเมนให้กลับเป็นเหมือนเดิม  สักพักเค้าก้อสะบัดตัวอย่างแรงจนฉันเซล้มเอาหัวฟาดพื้นจนหมดสติ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น