ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฝดจุ้นป่วนรักยกกำลังสอง

    ลำดับตอนที่ #3 : พี่ฟอสโง่จัง...

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 48


    (3)



        “สามรอบละกัน อนุโลมให้ วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน”

        “ขอบคุณค่ะอาจารย์”

    ฉันรับคำหงอยๆ แล้วหันหลังเตรียมวิ่ง แต่อาจารย์เชนเรียกไว้

        “เธอเป็นไรเอพริล... ปรึกษาอาจารย์ได้นะ”

        “ไม่เป็นไรค่ะ”

        “วันนี้ยัยน้องสาวเธอก้อท่าทางแปลกๆ   ตาบวมเหมือนเธอเลย...  ทะเลาะกันรึเปล่า?”

        “ไม่เกี่ยวกันค่ะ”

        “แล้วกับนายเฟิร์สล่ะ   ทำไมวันนี้มาสายเหมือนกัน?”

        “ไม่ทราบค่ะ”

    อาจารย์เชนสูดหายใจเฮือกก่อนตวาดว่า

        “งั้นหมาบ้านเธอมันตายรึไงวะ! ทำท่าเหมือนจะฆ่าตัวตาย”

    ฉันสบตาอาจารย์เชนเศร้าๆ ...ขี้เกียจเถียง...

        “วันนี้เด็กห้อง 3E มาสายกันหมดเลย ท่าทางแปลกๆกันทั้งนั้น  เธอรู้มั้ยเกิดอะไรกันขึ้น?”

        “ไม่ทราบค่ะ”

        “งั้นรีบวิ่งไปอย่างเร็วเลยนะ!! ถามอะไรไม่เคยได้เรื่อง!!”

        “ค่ะ”

    ฉันเริ่มออกวิ่งรอบสนาม ด้วยอาการเหม่อลอย ทิ้งให้อาจารย์เชนยืนเกาหัว...วันนี้ฉันมาโรงเรียนเอาซะตอนบ่าย เลยโดนอาจารย์เชนทำโทษให้วิ่งรอบสนามเหมือนเคย...ทั้งที่เฟิร์สรีบมาส่งถึงบ้านตั้งแต่เช้า...ดีจังที่วันนี้เป็นวันคริสต์มาส หมวดภาษาต่างประเทศจึงจัดงานกันทั้งวัน โรงเรียนจึงไม่มีการเรียนการสอนเลย  แต่อาจารย์ยังบังคับให้นักเรียนมาโรงเรียนเพื่อร่วมกิจกรรม เสียงเพลงดังมาจากหอประชุมใหญ่ใกล้สนามบอลที่ฉันกำลังวิ่งอยู่...

        “~~~...เหมือนฟ้าแยกเราให้ไกล...เหลือเกิน~~จะทำอย่างไรเพื่อเคียงข้างเธอ…กี่เหตุผลที่ฉันต้องการมีเธอ...จะเอ่ยยังไงในยามที่เราห่างกัน...~~ขาดเธอไปอย่างนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร...ฉันจะทนอย่างไร...ได้ยินบ้างรึเปล่า~~...ว่าขาดเธอไปอย่างนี้พรุ่งนี้จะทำอย่างไร…จะต้องรอถึงเมื่อไหร่...ที่ฟ้าจะยอมให้คนรักกลับมาเจอกันอีกครั้งไม่ห่างร้างไป...~~~”



    เนื้อเพลงนั่นดั่งมีดเสียบทะลุโพรงหูของฉันแล้วปักฉึกเข้ากลางใจ...ฉันร้องไห้ออกมาอย่างปลดปล่อยสุดๆ  ...  ฉันวิ่งไปร้องไห้ไปอย่างไม่อายสายตาคน  ... มันถึงที่สุดของอารมณ์ฉันแล้ว ......ไม่เหลือใครให้ฉันได้รักอีกแล้ว......

        “เอพริล! มาจนได้นะ นึกว่าวันนี้จะขาดซะแล้ว” แพนด้าที่เห็นฉันคนแรกร้องทัก

    ฉันยิ้มให้ แล้วเดินเหม่อไปนั่งโต๊ะประจำ

        “ทำไมเพิ่งมาล่ะ? เฟิร์สว่าไปส่งแกที่บ้านตั้งแต่เช้าแล้วไม่ใช่เหรอ?” เกรซถาม

        “รู้สาเหตุแล้วยังสะเออะถามอีกแหน่ะ” เบสแส่เสียง  จึงโดนเกรซเขว้งยางลบใส่

    ...นี่รู้กันหมดแล้วเหรอ...ฉันกวาดตามองรอบห้อง  ทุกคนมองตอบตาเศร้า

        “อย่ามองชั้นสายตาสมเพชอย่างนั้นนะ! ไม่แย่ขนาดนั้นหรอก”

    “งั้นเหรอ แล้วตะกี้หมูตัวไหนน้ำตาหยดแหมะครางหงิงๆกลางสนามวะ” ไอค์สวน

    ฉันบึนปากใส่ไอค์   ...คิริเดินมาจับไหล่ฉัน พูดเสียงเบา

    “อย่าทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าพวกเราเลย ...เราเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?”

    ความอบอุ่นจากฝ่ามือคิริแผ่ซ่านเข้าร่างกาย ...ประโยคสุดท้ายของคิริมันบีบต่อมน้ำตาของฉัน...ฉันลุกขึ้นแล้วซบหน้าเข้าแผ่นอกของคิริ...ร้องไห้อีกยกใหญ่

        “ฉันไม่ได้ทำมันร้องไห้นะ!!!”  คิริร้องแก้ตัวหลังจากเห็นสายตาตำหนิ

        “เห็นอยู่ชัดๆ”  เบสพูด

        “ไอ้เบส!!   เดี๊ยะ!!!”

    คิริร้องขู่แต่ไม่สามารถเข้าถึงตัวเบสได้ เพราะฉันกอดคิริแน่น คิริจึงลูบหัวปลอบฉันเก้ๆกังๆ

        “เอพริล พอได้แล้วล่ะ น้ำตาน่ะไม่เป็นไร แต่น้ำมูกจะติดเสื้อชั้น”

    ไม่ทันเสียแล้ว เพราะเอาแต่ร้องไห้ ฉันจึงสั่งน้ำมูกลงเสื้อคิริอย่างแรงทันที ...คิริผลักฉันออกแล้วโอดครวญวิ่งออกห้องไป  ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนทั้งห้อง...

        “เอพริล ...ชั้นขอโทษนะ”  เฟียสเข้ามานั่งขอโทษข้างๆ หลังจากที่ฉันสงบแล้ว

        “เธอไม่รู้เรื่องผู้หญิงนั่นมาก่อนใช่มั้ยเฟียส” ฉันถาม

        “ไม่หรอก พี่ฟอสก็หลอกชั้นเหมือนกันแหละ นึกว่ามีเธอคนเดียวซะอีก”

        “ฉันพลาดเรื่องโกเมน”

        “นั่นแหละคือสิ่งที่ชั้นอยากขอโทษเธอที่สุด ชั้นทำให้เธอพลาดคนดีอย่างโกเมน ชั้นทำให้เธอทุกข์ใจ  ชั้นมันเห็นแก่ตัว เห็นแก่พี่ชายโดยลืมคิดถึงความรู้สึกของเธอ  ...ชั้นมันเพื่อนเลว!”

    ---แล้วเฟียสก้อปล่อยโฮออกมาอย่างน่าสงสาร แต่คราวนี้ไม่มีพวกผู้ชายคนไหนยอมกล้าเข้าไปปลอบ คิดว่าคงเกรงจะโดนแบบกรณีของฉัน

          “แกจะว่าไงมั้ยเฟียสถ้าชั้นจะปลดพันธนาการให้เอพริล” เฟิร์สถาม

        “หมายความว่าไงอ่ะเฟิร์ส” เฟียสงง

        “ชั้นจะทำให้เอพริลเลิกกับฟอสแบบไม่มีมลทินไงล่ะ โง่จังแค่นี้ก้อแปลไม่ออก” เฟิร์สบ่น

        “เอาเลยซิ! ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก  พี่ฟอสไม่จริงจังกับเอพริลแล้วยังหวงก้างอีก  ต้องสั่งสอนซะหน่อยแล้ว  ให้ชั้นช่วยด้วยนะ ...ขอไถ่โทษเถอะ”

    ประโยคสุดท้ายเฟียสหันมาพูดวิงวอนกับฉัน  ฉันยิ้มแล้วตอบว่า

        “ได้สิ! ถึงแม้จะฉุกคิดสงสารพี่ชายตัวเอง   ก้อห้ามกลับลำนะ”



    แผนการดัดหลังฟอสและปลดพันธนาการเอพริลเริ่มขึ้น!!!



        เฟียสแอบไปสืบรู้มาว่าผู้หญิงที่จูบกับฟอสคืนนั้นชื่อแพนเค้ก เรียนอยู่มหาลัยR ปี2 ดังนั้นเฟียสจึงแกล้งเข้าไปหาฟอสในมหาลัยตอนที่ฟอสกับแพนเค้กอยู่ด้วยกัน เพื่อแนะนำตัวกับแพนเค้ก   ฟอสยอมรับกับเฟียสว่าคั่วผู้หญิงอื่นอีกนอกจากเอพริลและขอร้องให้ปิดเอพริลเรื่องแพนเค้กไว้ เฟียสแกล้งตอบตกลงเพื่อให้ฟอสตายใจ…

        “VIP เชียวนะพี่ฟอส  ได้มาสองใบยากมั่กๆ” ฉันบอก

        “เอพริลอุตสาห์หามาให้ทั้งที  พี่ไม่ตอบรับนัดก้อใจร้ายเกินไปละ”

    เสียงพี่ฟอสปลายสายตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี

        “วันเสาร์นี้นะคะ พี่ฟอสมารับเอพริลที่บ้านด้วยล่ะ”

        “ได้จ้าที่รัก ห้าโมงเย็นรถจอดหน้าบ้านทันทีเลยจ่ะ”

        “งั้นเท่านี้ก่อนนะคะ อาจารย์จะเข้าสอนแล้ว”

        “ครับผม! ตั้งใจเรียนนะเอพริล”

        “ค่า... บายค่ะ”

    ฉันกดปิดสายโทรศัพท์แล้วหันมายกนิ้วให้เพื่อนๆสื่อว่า ...เป็นไปตามแผนจ้า...

        “ได้บัตรแน่นะไอ้แฟค!” เฟียสหันมาถามแฟค

        “ลืมแล้วเหรอว่าอั๊วน่ะลูกใคร?” แฟคยืดอก

        “แล้วมึ-งลูกใคร!?!” เบสกวน

        “อ้าวไอ้เบส! ตูก้อลูกเจ้านายพ่อมึ-งไง… ทำโง่นะมึ-ง” แล้วแฟคก้อเขกหัวเบสหนึ่งที



    พ่อของแฟคเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทเบียร์อาซ่า ซึ่งควบตำแหน่งประธานบริษัทด้วย ส่วนพ่อของเบสนั้นก้อเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่าน แถมยังเป็นหุ้นส่วนหลักของบริษัทนี้เป็นลำดับสองด้วย ซึ่งทำให้พวกเราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบางครั้งเบสและแฟคถึงมาโรงเรียนด้วยรถคันเดียวกัน

        “แล้วจะได้บัตรอย่างช้าเมื่อไหร่ล่ะ?” จีซัสถามแฟค

        “อย่างช้าก้อหน้างาน”     แฟคตอบหน้าเฉย

        “หน้างาน!!!ให้ไปเสี่ยงเอาหน้างานเนี้ยนะ …แผนตูล่มพอดี!”    เฟิร์สกุมขมับ

        “แต่ว่าถ้าอย่างเร็วละก้อนะ…”   แฟคพูดยิ้มๆพลางล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อนอก

        “ถ้ายื่นมือมารับก้อได้เลย”       เค้ายื่นบัตรให้ แล้วหัวเราะสะใจ…ขำอะไรนักหนาวะ…

    แล้วพวกเราก้อกระจายกันรับบัตรเข้างานประกวดเทพีกุหลาบไฟ  ซึ่งถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเลยทีเดียว บริษัทของพ่อแฟคเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ในการจัดงาน ดังนั้นแฟคจึงตอดเอาบัตรธรรมดาที่ท่านได้มาตั้ง25ใบ และเฉพาะบัตร VIP ถึง 6 บัตร ซึ่งคงไม่มีใครในเมืองเราอีกแล้วที่ได้ครอบครองบัตรล้ำค่าเหล่านี้มากมายเท่าแฟค…

        “อยากได้บัตรVIP มั่งจัง” มินนี่มองบัตรสองใบในมือฉันตาละห้อย

        “มินนี่อยากได้จริงๆเหรอ?” จีซัสถาม

        “อืม…”

    ฉับพลันนั้นเอง  จีซัสลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว  แล้วหันเข้าคว้าคอเสื้อเบส

        “ไอ้เบส!! พ่อแกก้อหุ้นส่วนนี่หว่า ทำไมไม่ได้บัตรอย่างไอ้แฟควะ!!!”

        “ก้อโควต้าของข้า เสร็จอีนี่ไปแล้วไง!” เบสชี้มาทางเฟียส

        “เกี่ยว’ไรกะชั้น!!” เฟียสกอดบัตร VIP สองใบแน่น

        “ก้อไอ้บัตรที่พวกแกได้มาทั้งหมด มันรวมจากโควต้าของข้าด้วยน่ะสิ!”

        “ห๊า!!” จีซัสอุทานด้วยความแปลกใจ

        “ตูอุตสาห์สละ VIP ของตูเพื่อแผนยัยเอพริล ยังมาโดนด่าอีก เซ็งชิบ!” เบสบ่น

        “แหมไอ้แฟค  ตูก้อนึกว่าแน่” คิริเปรยมาทางแฟคที่ยิ้มแหะๆ

    มินนี่ดึงแขนจีซัสให้ปล่อยเบส แล้วบอกว่า

        “ดูบัตรธรรมดาก้อได้   เห็นเหมือนกันแหละ…”





    สี่โมงเย็นวันเสาร์ ฉันกำลังพูดโทรศัพท์กับเฟียส

        “ทางแกเรียบร้อยดีใช่มั้ย?” ฉันถาม

        “โล่งโปร่งไร้ปัญหา” ปลายสายตอบกลับมา

        “เฟิร์สมันถึงไหนแล้วง่ะ”

        “มันอยู่ที่หน้างานแล้ว พวกเราส่วนใหญ่ก้อถึงกันหมดแล้ว”

        “แล้วยัยพี่แพนเค้กนั่นจะมารับแกกี่โมง?”

        “ชั้นบอกให้มารับห้าโมงครึ่งว่ะ  แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอก ไม่เจอะกันแน่ เพราะชั้นจะแกล้งแต่งตัวช้าๆ  คาดว่ากว่าจะถึงที่จัดงานคงทุ่มกว่า งานประกวดน่าจะเริ่มแล้ว”

        “ตอนแกไปชวน   ยัยแพนเค้กไม่สงสัยใช่มั้ย?”

        “ไม่หรอก…ยัยนั่นกระดี้กระด้าจะตายตอนชั้นชวน พอชั้นบอกว่าห้ามบอกพี่ฟอสก้อรีบรับคำเลย  ตามองบัตรวีไอพีปิ๊งปั๊งเชียว”

        “ดี…งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ  บายจ๊ะ”

    ฉันวางหูแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเติมลิปสติก เพราะเมื่อกี้ดันบังเอิญต้มบะหมี่กินหลังแต่งหน้าแล้ว แอปเปิลลงบันไดมาเห็นก้อโวยวายใหญ่เลย…

    …………………………(+_=;)………………………



    ฉันกับพี่ฟอสมาถึงงานประมาณเกือบหนึ่งทุ่ม…   กว่าจะหาที่จอดรถได้ก้อแทบกระอักเลือด ฉันกลัวว่าจะมาจ๊ะเอ๋กับยัยแพนเค้กที่ลานจอดรถแล้วแผนจะเสียหมด…  ฉันรีบชวนพี่ฟอสเข้าไปในงาน โดยที่พี่ฟอสไม่เอะใจ  จีซัสทำทีเข้ามาทักเราแล้วแอบติดไมค์โครโฟนจิ๋วไว้ที่ปกคอเสื้อพี่ฟอสอย่างรวดเร็ว โดยที่ฉันยังไม่ทันมองด้วยซ้ำ และจีซัสก้อแกล้งรีบเข้าไปหามินนี่ที่กำลังถูกเด็กรุ่นน้องโรงเรียนเราคนหนึ่งขอถ่ายรูป  พี่ฟอสมองมินนี่แล้วถามฉันว่า ทำไมมินนี่ไม่เข้าประกวดด้วย ฉันตอบว่า มินนี่ไม่อยากเด่นเกินพินท์ ซึ่งทำให้พี่ฟอสสะอึกแล้วรีบชวนฉันไปนั่งที่…

        “คนชุดสีเบส ที่เกล้าผมนั่นสวยจังเลยเนอะ”

        “ใช่ๆ คนชุดสีส้มเหลือบทองนั่นก้อสวยนะ”

    ฉันกับพี่ฟอสกำลังคุยกันถึงผู้เข้าประกวดบนเวที ที่ปีนี้แต่ละคนสวยสะดุดตากันทั้งนั้น สักพัก โทรศัพท์มือถือของฉันก้อดังแล้วหยุดไป  ฉันเปิดดูสายไม่ได้รับแล้วเห็นว่าเป็นเบอร์ของเฟิร์ส ซึ่งนั่นทำให้ฉันเริ่มปฏิบัติการตามแผนทันที

        “พี่ว่าคนชุดขาวผมสีน้ำตาลนั่นสวยมั้ย?” ฉันถามพลางเอียงคอหนุนไหล่พี่ฟอส

        “อืม พี่ว่าสวยกันหมดแหละ” พี่ฟอสลูบผมฉัน…ตามคาด…

        “ทั้งสวยทั้งหุ่นดีด้วยใช่มั้ยล่ะ!” ฉันทำงอน

        “อะไรกันเอพริล! งอนพี่เรื่องอะไร?”

        “ก้อแฟนพี่นะ หุ่นไม่นางแบบอย่างบนเวทีน่ะสิ” ฉันกระแดะปากงอนต่อ

        “หุ่นไม่ดีไม่ใช่ว่าพี่จะไม่รักนะ”

        “หมายความว่าไงเหรอ?” ฉันแกล้งโง่จัด

        “ก้อหมายความว่าถึงเอพริลเป็นยังไงพี่ก้อยังรักไงล่ะ  อวบๆอย่างเอพริลน่ะ น่ารักจะตาย พี่ไม่ชอบหุ่นแห้งๆหรอก”

    ฉันเหงยหน้าจ้องตอบพี่ฟอสที่ส่งสายตาซึ้งมาให้ พูดอย่างจับผิดว่า

        “แล้วอย่างแพนเค้กล่ะมหาลัยอาร์ปี2ล่ะ ชอบมั้ย?”

    พี่ฟอสผงะแล้วทำเสียงฉงนใส่ฉันว่า

        “อะไรกัน! ใครบอกอะไรเอพริลเหรอ?”

        “ชั้นถามพี่ว่าชอบมั้ย?”

        “ไม่หรอก พี่ชอบเอพริลคนเดียว”

        “แล้วแพนเค้กนั่นมาได้ยังไง”

        “เพื่อนน่ะ ก้อเรียนที่เดียวกัน”

        “สวยมั้ย?” ฉันถามเสียงเข้ม

        “น่าเห่ยจะตาย พี่ไม่ยุ่งให้เอียนหรอกแบบนั้นน่ะ”

        “ก้อเอพริลได้ยินข่าวลือมาก้อเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก”

    แล้วฉันก้อทำเฉยเหมือนไม่ติดใจบทสนทนาเมื่อครู่ จนกระทั่งการประกวดจบลง   ผลคือพินท์ได้ครองมงกุฎตามคาด  พี่ฟอสมาส่งฉันที่บ้านด้วยอากัปกิริยาเกร็งๆ  ฉันทำร่าเริงโดดลงรถ หันมาจุ๊บแก้มพี่ฟอสทีหนึ่ง แล้วร้องเพลงเด้งเข้าบ้านไป…

    ทันทีที่ฉันปิดประตูบ้านได้ แอปเปิลก้อโหนราวบันไดมาถึงตัวฉันพอดี

        “เป็นไงบ้างพี่!?”

        “ฉลุยเลยแหละไอ้น้อง…” แล้วฉันก้อยกหูโทรศัพท์กดเบอร์หาเฟียสทันที

    ตู๊ด………ตู๊ด……ตู๊ด……  “เหวยจ้า!! ฝ่ายเฟียสผ่านฉลุย ตามแผนทุกประการ”  

    เฟียสรับสายได้ก้อรีบพูดทันที  ฉันยังไม่ทันถามต่อ เฟียสก้อรายงานผลอีกยาวเหยียด

        “พี่แพนเค้กตอนแรกยังไม่ค่อยเชื่อชั้นหรอก แต่พอได้ยินสิ่งที่พี่ฟอสพูดกะแกผ่านไมค์ประกอบกับที่ไอ้แฟคและไอ้เมย์ที่นั่งข้างหลังพยามยามกรอกหูอยู่ตลอดนั่นแล้ว พี่แพนเค้กก้อเลยยอมร่วมมือกับเราแหละ”

        “ดีเลยเนอะ” แอปเปิลที่เอาหูแนบกับโทรศัพท์ด้วยพูดขึ้น

        “แต่ว่าพี่แพนเค้กเค้าอยากเจอหน้าแกวะ เค้าอยากเคลียร์ แกจะเอาไง?” เสียงเฟียสดูกังวล

        “ไม่เห็นเป็นไรนี่ เคลียร์ก้อเคลียร์ดิ เมื่อไหร่ ที่ไหน บอกมาเลย” ฉันตอบ

    ……………………………>{(^_^)}<………………………



    เช้าวันจันทร์นี้ฉันเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำโรงเรียน ผิวปากอย่างอารมณ์ดี  …เดาแผนการของ3E เมื่อคืนวันเสาร์ออกรึยังล่ะ… เราทำให้แพนเค้กเห็นว่าฟอสน่ะจับปลาสองมือ แฟคเลือกที่นั่งให้ฉันกับฟอสอยู่ข้างหน้า โดยที่ให้ที่นั่งของแพนเค้กกับเฟียสอยู่ข้างหลังถัดไปอีกสองแถวเยื้องๆ พอจะให้เห็นคู่ของฉันได้ชัด จีซัสแอบเอาไมค์ติดที่ฟอสแล้วเฟียสก้อเปิดให้แพนเค้กฟังคำถามที่เฟิร์สเซตไว้ให้ฉันพูด ซึ่งฟอสก้อตอบได้อย่างที่เฟิร์สเดาไว้จริงๆ หลังจากนั้น แฟคกับเมย์ซึ่งเซตไว้ให้นั่งข้างหลังแพนเค้กกับเฟียสพอดิบพอดีก้อเริ่มพูดคุยกันถึงฉันกับฟอสเสียงดัง  แถมใส่ไฟฟอสว่าคั่วผู้หญิงไม่เลือกหน้าแลให้ดูร้ายกาจสุดๆ เมื่อเห็นแพนเค้กเริ่มเชื่อแล้ว เฟียสจึงจะขอให้ร่วมมือตามแผนของเรา…

    และเย็นนี้ก้อถึงคราวเผด็จศึก……







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×