คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : --ไอ่คนแผนสูง--
--วันรุ่งขึ้น
ขณะที่เรากำลังนั่งเล่นกันในตอนพักเที่ยง รอให้อาจารย์มาสอนคาบบ่ายอยู่นั้น...
“นี่ๆพวกแก!!!”
จูน วิ่งเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาตื่น พลางชี้ๆไปทางหน้าต่างห้อง พวกเราซึ่งมีปฏิกิริยาไวต่อสิ่งเร้า ก็รีบถลาเข้าไปเกาะหน้าต่างดูสิ่งผิดปรกติที่จูนต้องการสื่อให้ทันที
ภาพที่เห็นอยู่นั้น มีผู้ชายเครื่องแบบโรงเรียน J อยู่เป็นโขยง กำลังเดินตัดผ่านสนามบอลตรงมาที่อาคารเรียนของเรา ผู้หญิงห้องฉันออกอาการดี๊ด๊ากันทันที ต่างกับกลุ่มผู้ชายที่มีปฏิกิริยาโต้ตอบรุนแรงเช่นกัน
กลุ่มผู้หญิง :“พวกนั้น ท่าทางจะหล่อเนอะแก...”
กลุ่มผู้ชาย :“มันพวกไหนวะ!?”
กลุ่มผู้หญิง :“เห็นคนผมสีน้ำตาล สูงๆป่ะยะ”
กลุ่มผู้ชาย :“ตั้งใจมาหยามโรงเรียนเราแน่เลยเมิง”
กลุ่มผู้หญิง :“อือ เท่ห์ดีเนอะ”
กลุ่มผู้ชาย :“ไมมันกล้าจังวะ สงสัยไม่เคยลองของโรงเรียนเรา หึๆ”
กลุ่มผู้หญิง : “ต๊ายยย หล๊อหล่อ...”
บทสนทนาสิ้นสุดลงเมื่อกลุ่มคนหายเข้าไปในอาคารเรียนด้านล่าง ทิ้งไว้แต่ความสงสัยงุนงง
แต่เขาไม่ยอมให้เราได้ฉงนนานนัก เพราะสักพัก คนกลุ่มนั้นก้อโผล่เข้ามาในห้อง2Bของฉัน ผู้ชายตัวสูง ผมสีน้ำตาล กวาดมองทั่วทั้งห้อง แล้วถามว่า
XXX :“ห้อง2บี ใช่ป่ะ?”
2B :“......”
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ทุกคนในห้องนิ่งสนิท คนถามยืนเกาหัวรำคาญแล้วเปลี่ยนเสียงเป็นตะคอกทันที
“ใบ้แดกรึไงวะ!!!”
เกิดการเปลี่ยนแปลงทันใด ผู้ชายห้องฉันทำเสียงฟึดฟัดแบบมีน้ำโห ส่วนผู้ชายอีกฝ่ายก็ปล่อยก๊าก ลั่นห้อง
และก่อนจะมีอะไรรุนแรง ผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างคนตัวสูงผมน้ำตาลก็สั่งให้ทุกคนในกลุ่มเขาหยุดหัวเราะ ...เหมือนอัศจรรย์... ทุกคนเงียบเสียงลงทันที
ฉันจ้องมองผู้ชายคนนั้นอย่างทึ่งๆแกมพินิจพิเคราะห์รูปร่างลักษณะ เขาผมสีดำสนิท ผิวขาวมาก ตัวสูงเกือบเท่าไอ่คนอวดใหญ่นั่น มีท่าทางใจดีดูเป็นผู้ใหญ่ ส่วนหน้าตาไม่ถือว่าหล่อจัด แต่เมื่อยืนอยู่ในกลุ่มนั่นแล้วดูเท่ห์เด่นชัดขึ้นมาเลยทีเดียว
เขามองไปรอบๆห้อง ราวกับจะสำรวจอะไรสักอย่าง ก่อนยิ้มแล้วถามขึ้นมาว่า
“คนไหนชื่อเลม่อน?”
หัวใจหล่นลงตาตุ่ม ชื่อฉันนี่หว่า...
ไร้สัญญาณตอบรับอีกเช่นเคย แต่สายตาหลายคู่เหลือบมองมาทางฉันแม้ไม่ยอมพูดอะไร ... เออ ขอบใจว่ะ เพื่อน
เขาเดินตรงมาที่ฉัน ยิ้มเย็น “มากะผมหน่อย”
*0*
.
ด้วยเหตุใดมิทราบได้ ฉันลุกเดินตามเขาอย่างว่าง่าย พลางเหลือบมองไปที่ฟอส เพื่อนร่วมห้องที่ฉันคิดว่าเป็นพวกนักเลงใจกล้าที่สุดในห้อง และหวังว่าเขาจะช่วยเหลือฉันได้ แต่ฟอสยังทำหน้าวางเฉย ไม่ยอมสบตาฉันซะงั้น...-*-... ก่อนจะเดินออกห้อง จูน ลุกขึ้นมารั้งแขนฉัน แล้วพูดกับกลุ่มมัธยมJว่า
จูน :“จะเอาเพื่อนชั้นไปไหน?”
ชายคนที่สองหันมามองจูนพร้อมยิ้มให้ แล้วแกะมือจูนออกจากฉัน
XXX : “ไม่เกี่ยวกับเธอ”
จูน : “งั้นให้ชั้นไปด้วย!”
จูนไม่ยอม คว้าแขนฉันอีกที ฉันมองเพื่อนด้วยความซาบซึ้งใจ
รักแกจัง...
ขณะที่ยื้อยุดกันอยู่นั้น เสียงหนึ่งก็แหวกมาตัดสินใจแทนว่า
“จูนไม่ต้องไป ชั้นไปเอง!”
ฟอสลุกขึ้นพร้อมคว้าเอากระเป๋านักเรียนคู่ชีพ เดินมาหน้าห้อง เขาเดินมาจ้องหน้าหนุ่มผมน้ำตาลก่อนไล่มามองที่ผู้ชายผมดำ
XXX : “จะไปด้วยหาอะไร?” __ผมน้ำตาลถามกวน
ฟอส : “ไม่ได้รึไง?” __ย้อนพร้อมทำหน้าท้าทาย
ผู้ชายผมดำมองที่ฟอสครู่หนึ่ง “ก้อได้” เขาให้ฟอสไปด้วย แล้วจับแขนฉันลากให้เดินตาม พร้อมพยักหน้าให้พองเพื่อนมัธยม J ทุกคนตามไป ซึ่งเรียกความสนใจของนักเรียนห้องข้างๆได้ตลอดทางที่เดินผ่าน
สมองของฉันเริ่มประมวลเหตุการณ์... และคิดว่าอาจเป็นเพราะข้อความในกระทู้นั่นก็ได้ และเป็นไปได้อย่างสูงว่าหนึ่งในนี้คือคู่กรณีของฉันT^T
ระหว่างที่เดินลงอาคารเรียน อาจารย์โชว ครูสอนภาษาอังกฤษเรียกให้พวกเราหยุด
อ.โชว : “นี่พวกเธอเข้ามาทำไม? จะเอาลูกศิษย์ของครูไปไหน?”
กลุ่มของมัธยม J หันมามองหน้าอาจารย์โชว คนผมดำ โค้งคำนับให้อาจารย์ ส่วนที่เหลือโค้งบ้างไม่โค้งบ้าง นายผมสีน้ำตาลไม่ยอมโค้งให้ แต่ฉันรีบโค้งแบบหน้าแทบติดหัวเข่า (“ช่วยนู๋ด้วยค่าT^T”)
อาจารย์โชวทักคนผมสีดำทันทีที่เห้นหน้าเขาชัดๆ
อ.โชว : “อ่าว มาทำอะไรที่นี่น่ะ นายเซน”
โป๊ะเช๊ะ! แจ๊กพอร์ตแตก ตรูว่าแล้ว -*-
อาจารย์มองหน้าฉันสลับกับเซนแล้วแซวว่า
อ.โชว :“ไง จะเอาเลม่อนไปเป็นพนักงานในโรงหนังของพ่อเธอเหรอ”
โห...พ่อเป็นเจ้าของโรงหนังด้วยเหรอ กุไม่น่าหาเรื่องเลยT^T
เซนยิ้มตอบอาจารย์ แล้วเล่าให้อาจาร์ยฟังอย่างลวกๆว่าฉันโทรไปก่อกวนเขาก่อน แถมใส่ร้ายเขาในเวบบอร์ดของโรงเรียน ทำให้เซนต้องเสื่อมเสียอย่างมาก และตอนนี้ เขากำลังจะเอาฉันไปส่งตำรวจT_T
ฉันหันไปมองฟอสที่ตอนนี้ทำหน้าเอือมระอา เมื่อได้ยินเรื่องที่เซนเล่า ฟอสทำท่าเบื่อๆแล้วพูดว่า
ฟอส : “ไม่ไปด้วยละ จะกลับห้องเรียน”
พูดเสร็จก็แหวกฝูงคนเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่หันกลับมามองฉันอีกเลย สงสัยมันกลัวตำรวจ
อาจารย์โชวไม่ปล่อยให้เซนว่าฉันฝ่ายเดียว จึงบอกให้ฉันเล่าส่วนของฉันบ้าง ฉันบอกว่าทำมือถือหายระหว่างที่ไปดูหนัง แล้วโทรเข้าหาเบอร์ตัวเอง แต่เซนเป็นคนรับสาย จึงเข้าใจผิด
“เบอร์หนูแน่ๆค่ะ อาจารย์ขา...T^T”
เซนดึงมือถือของเขาออกมา โชคร้ายที่มันเป็นคนละรุ่นกับของฉัน... เซนกดให้อาจารย์ดูเบอร์บ้านของฉันที่โทรไปหาเขา ระหว่างที่ก้มลงทำอะไรสักอย่างบนมือถือตัวเอง เซนถามฉันว่า
เซน : “เบอร์มือถือของเธอเบอร์อะไร?”
ฉัน : “095-151-6012”
นายผมน้ำตาลสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมกับเซนที่เงยหน้ามามองฉันแบบประหลาดใจ
เซน : “จริงเหรอ!?!”
ฉัน : “อือ ทำไมล่ะ”
เซน : “ของผม 095-151-0612 น่ะ เหอๆ”
ฉัน : “อ๋าาาาาาาาาห์....!?!”
เบอร์ของเราสลับกันนิดเดียวเอง แค่ 06 กับ 60 เนี่ยนะ*-* ...งั้นเมื่อคืนฉันคงรีบกดจนกดพลาดไปเบอร์เขาแน่เลย ตกลงฉันผิดเหรอเนี่ย...=_+
ฉันส่งสายตาขอโทษไปที่อาจารย์โชวที่ทำให้ต้องมาเสียเวลากับฉัน อาจารย์ยิ้มตอบนัยว่าให้อภัย ระหว่างนั้น เซนคุยโทรศัพท์อยู่
เซน : “อืม เข้าใจละ”
“สักพักผมจะไปเอา”
“ฮะ ขอบคุณ” __แล้วก็วางสายไป
เซนหันมาบอกฉันว่ามือถือของฉันตกในโรงหนัง และพนักงานเก็บไว้ให้แล้ว หลังจากนั้นพวกเขาก็เคลื่อนทัพกลับไป ทิ้งฉันไว้กับอาจารย์โชวกลางโถงทางเดิน ฉันจึงรีบแสดงสปิริตลาอาจารย์ย้อนกลับไปเข้าเรียน ทั้งที่ในใจขี้เกียจเรียนจะตาย...
---หลังเลิกเรียน---
ฉันตรงไปที่โรงเก็บรถพร้อมเมล่อน ซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะไปเอามือถือที่ลืมไว้ในโรงหนัง แต่ตอนนั้นที่โรงเก็บรถมีคนสองคนยืนรอเราอยู่แล้ว ฉันจำพวกเขาได้ชัดเจน เซนกับนายตัวสูงผมน้ำตาลยืนอิงเสาอยู่ท่ามกลางสายตาอันร้อนระอุของเด็กโรงเรียนK คุณก็เดาเอาเถอะค่ะ ดูดีกันออกปานนั้น กลุ่มผู้หญิงก็กริ๊ดกร๊าด กลุ่มผู้ชายก็ท่าทางคันไม้คันมือยิบๆ แต่สองคนนั้นไม่มีท่าทีสะทกสะท้านอะไรเลยค่ะ อันที่จริง แวบแรกฉันอยากจะเดินเลี่ยงหนีไปให้พ้น แต่ไม่ทัน เซนเห็นพวกเราแล้วเดินตรงมาหาทันที
เซน : “อ๊ะ!ของเธอ” __เขาพูดพร้อมยื่นมือถือของฉันให้
ฉัน : “ขะ ขอบใจ” __ฉันรับของมาอย่างอึ้งๆ
เซน : “ว่างน่ะ เลยไปเอามาให้”
เมล่อนมองทั้งสองอย่าง-งง- งง เซนแนะนำตัวกับน้องสาวฉัน
เซน : “ผมชื่อเซน นี่เพื่อนผม ชื่อไฟท์”
เมล่อน : “ดีค่ะเซน ดีค่ะไฟท์ เราชื่อเมล่อนนะ”
ไฟท์ : “อือ หวัดดีเมล่อน”
เมล่อนทักทายทั้งสองอย่างเป็นธรรมชาติ เซนหยุดคิดนิดนึงก่อนบอกฉันว่า
เซน : “ ที่จริงตั้งใจจะมาบอกให้ไปถอนข้อความในเวบบอร์ด แล้วลงประกาศขอโทษผมด้วยน่ะ”
ฉัน : “หา!?!”
ไฟท์ : “ทำไม? หา อะไร”
ฉัน : “ต้องทำด้วยเหรอ?”
ไฟท์ : “เธอจะไม่ทำรึไง!!!” __ไฟท์ตะคอกเสียงดังจนคนรอบข้างหันมอง
เมล่อน : “อยากได้โทรโข่งมั้ย?”__ เมล่อนประชดทันที
ไฟท์หันมามองเมล่อนที่มีท่าทางโมโหอย่างประหลาดใจ ฉันรู้ดีว่าเมล่อนไม่ชอบให้ใครมาตะคอกใส่พี่สาวตัวเอง ฉันรีบรับคำเซน ตัดบท
ฉัน : “ ได้ เดี๋ยวกลับบ้านจะทำให้”
เซน : “อือ ไม่มีไรแล้ว งั้นกลับละ”
แล้วเซนก็กึ่งดึงกึ่งลากไฟท์ที่ตอนนี้ทำท่าจะเริ่มฉะกับน้องสาวฉัน ซึ่งรายนี้ก็เกิดบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้ ดูฮึกเหิมขึ้นมาเหมือนกัน...
เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันก็พบซองจดหมายสีน้ำตาลเสียบไว้ที่ตู้ไปรษณีย์ ...ใจหล่นตุ้บ... รู้อยู่แล้วว่ามันน่าจะเป็นซองอะไร ฉันบอกให้เมล่อนรีบแกะซองอย่างไม่รีรอ เมล่อนแกะอ่านบิลค่าซ่อมสร้อยที่อยู่ในซองนั้น ก่อนเหลือบตามองฉัน แล้วทำท่าจะซ่อนของ
ฉัน :“อะไรของแกเมล่อน”
เมล่อน :“ปะ ป่าว” ทำตาเลิ่กลั่ก
ฉันเสยผมรำคาญ ก่อนฉวยกระดาษมาจากมือน้องมาอ่านเอง
__ห๊า!!!!
แสนสอง!!!__
เมล่อน :“
(-_-;)
”
ฉัน :“ซ่อมสร้อยเส้นเดียวแสนสองเลยเหรอ!?”
เมล่อน :“......(-_-;)(;-_-)......”
ฉัน :“ยัยคุณนายนั่นโก่งราคาแน่เลยว่ะ!”
เมล่อน :“......(-_-\)(/-_-)(-_-\)(/-_-)
”
ฉัน :“จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายให้มันล่ะเนี่ย-*-”
เมล่อน :“......(T^T)(T^T)
”
ฉัน :“คงต้องบอกพ่อกับแม่แล้วล่ะ”
เมล่อน :“ไม่ได้น๊าาาาาาา”
พูดห้ามมาทันทีเชียว
ฉัน :“แล้วจะให้ชั้นทำไงล่ะ?”
เมล่อน :“ไม่รู้อ่ะ แต่บอกพ่อไม่ได้นะ พี่อยากไปอยู่อูกันดารึไง”
ฉัน :“ไม่อยาก”
สรุปแล้วพวกเรายังคงต้องหาเงินมาใช้หนี้แสนสองอีก แล้วมีการบอกให้จ่ายคืนภายในหนึ่งอาทิตย์เนี่ยนะ เด็กอย่างพวกเราจะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นที่ไหนมา ฉันก็ยังแค่17 เมล่อน16 ปี อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะทำงานได้ จะไปกู้ธนาคารมาก็ไม่ได้อีกเพราะไม่มีเครดิตมากพอ ยัยคุณนายนั่นถือไพ่เหนือกว่าเราทุกอย่าง ถ้าเราเกิดโวยวายเรื่องเงินนี่ออกมา มีหวังเรื่องจรลีถึงหูบุพการีแน่นอน หนอย... ได้ทีโก่งราคาเลยนะ ฮึ่มมม!~~
ฉันนอนคิดเรื่องเงินจนถึงเที่ยงคืน แล้วยังนอนไม่หลับ ฉันลุกคว้าเอามือถือมากดดูแก้เซ็ง ฉันกดดูเบอร์โทรเข้า-ออกไปเรื่อยๆ สายตาไปหยุดอยู่ที่เบอร์ประหลาดเบอร์หนึ่ง เป็นเบอร์ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่โทรเข้ามาหาฉันตอนตีสองพอดี แถมยังโทรผิดอีก
ความจำของฉันเริ่มทำงาน ฉันจำบทสนทนาในคืนนั้นได้แม่น เพราะมันประหลาดมาก ฉันรู้แล้วว่าวันนั้นคนโทรผิดเข้ามาหาเซน แล้วพูดถึงเรื่องที่เซนไปหักหัวอาร์เคมิสอะไรสักอย่างเหมือนจะแบล๊กเมล
ฉับพลันความเลวไวเท่าความคิด ฉันรู้แน่แล้วว่าจะหาเงินได้ที่ไหน แล้วต้องทำอย่างไร โฮ๊ะๆ ... ไอ่คุณลูกเจ้าของโรงหนัง...หึๆ...
“ดีจ้า^^”
“.......”
ฉันเดินเข้ามาทักทายเซนที่กำลังนั่งฟัง I-POD อยู่ในร้านคอฟฟี่ช๊อป เซนสะดุ้งเล็กน้อย
ฉัน : “วันนี้นายหล่อจังเลยน๊า”
เซน : “ก็ชุดนักเรียนเหมือนทุกวัน”
ฉัน : “แหม...ยังไงก็ดูดีกว่าเมื่อวานแหละน่า คริๆ” __นี่ ... เอาใจสุดฤทธิ์
ท่าทางเซนจะสงสัยฉัน เขากระแอมแล้วยืดตัวตรงตอนที่ฉันนั่งลงตรงข้ามเขา
เซน : “เธอต้องการอะไร?”
ฉัน : “ช๊อกโกแลตมิลค์เชค”
เซน : “-*- ผมหมายถึง ที่นัดมาเนี่ย มีธุระอะไรกับผมเหรอ?”
ฉัน : “สั่งของกินก่อนเด่ แหมๆ”
เซน : “เหอๆ”
เขาลุกไปสั่งเครื่องดื่มให้ฉัน พอกลับมานั่ง เขาก็พูดขึ้นมาทันที
เซน : “บอกมาเลยดีกว่า ผมไม่ได้ว่างทั้งวันนะ”
ฉัน : “ก็มีเรื่องขอให้ช่วยนิดหน่อยน่ะ”
เซน : “เรื่องเงินเหรอ?”
ฉัน : “ห๊ะ! ทำไมรู้”
เซน : “เดา”
แล้วก็ดันถูกซะงั้น-*-... ฉันยิ้มแห้งๆ เขาลดสายตาลงมองน้ำแข็งในแก้ว
เซน : “ผมจะสำคัญ ก็เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้นแหละ”
แวบนึงฉันสังเกตเห็นแววตาหงอยเหงาเจืออยู่ในสายตาคู่นั้น แต่ฉับพลันเซนก็เปลี่ยนท่าที เขาเอนตัวอิงพนักพิงแล้วไขว้ห้าง
เซน : “และอย่างเธอ ก็เห็นจะมีอยู่เรื่องเดียว”
เขาหัวเราะหึๆ แล้วคว้าน้ำมาดูด นี่อิมเมจของฉันมันเป็นแบบนี้เหรอเนี่ย เอาล่ะ จะสร้างภาพต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ ฉันจึงเข้าประเด็นทันที
ฉัน : “ที่จริงชั้นจะมาขอยืมเงินนายหน่อย”
เซน : “เท่าไหร่?”
ฉัน : “แสนสอง”
เซน : “พูดเล่นรึเปล่า”
ฉัน : “พูดจริง”
เขาทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ แต่ฉันนั่งนิ่งแบบจริงจัง เงียบกันสักพัก เซนก็ตัดสินใจพูดขึ้นก่อน
เซน : “มันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยเลยนะ ผมให้ไม่ได้หรอก”
ฉัน : “ทำไมล่ะ?”
เซน : “มันมากเกินไป”
ฉัน : “งั้นแสนนึงก็ได้”
เซน : “ยังมากอยู่ดี”
แล้วเซนก็ลุกขึ้นทำท่าจะกลับ รีบไปไหนของมัน ฉันไม่มีทางเลือก จึงรั้งเขาไว้ด้วยคำพูดเด็ด
ฉัน : “หัวอาเคมิส...”
ได้ผล... เซนชะงัก แล้วหันขวับมาถามฉันทันที
เซน : “พูดว่าอะไรนะ?”
ฉัน : “หัวอาเคมิส... พ่อนาย ... หัวมันหัก!”
เซน : “เรียงลำดับคำซะน่าโดนเตะเลยนะ-*-“
เซนย้อนกลับมานั่งเก้าอี้เดิมอีกครั้ง แต่สีหน้าเขาเคร่งเครียดกว่าเดิมมาก ฉันรู้สึกผิดเหมือนกันที่ใช้วิธีสกปรก
ฉัน : “ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะแบล๊กเมล อะไรหรอกนะ แต่ชั้นจำเป็นต้องใช้จริงๆ ตอนแรกกะจะทำงานพิเศษแต่อายุไม่ถึง กู้ธนาคารก็ไม่ได้อีก ชั้นไม่มีทางเลือกน่ะ”
เซนทำท่ารำคาญฉัน เขาตัดบททันที
เซน : “นั่นมันเรื่องของเธอ เอาเป็นว่าผมจะให้เธอกู้ก็แล้วกัน ไม่มีดอกเบี้ย เงินได้พรุ่งนี้ แต่เธอต้องปิดปากเงียบเรื่องอาเคมิส ตกลงนะ”
ฉันดีใจรีบรับคำทันที เซนยิ้มแล้วควักกระดาษมาร่างสัญญาอย่างคล่องแคล่ว...เอ๊! ทำไมหมอนี่มีอะไรที่คาดไม่ถึงเยอะแฮะ
พอร่างสัญญาเสร็จ เซนก็ชี้ให้ฉันดูจำนวนเงินในสัญญา
เซน : “หนึ่งแสนสองหมื่นถ้วน”
ฉัน : “อื้อ^_^”
เซน : “ไม่มีดอกเบี้ย”
ฉัน : “อื้ม^.^”
เซน : “เซ็นเลยสิ”
ฉัน : “จ้า^0^”
ฉันควักปากกามาเซ็นชื่อทันที รอดจากยัยคุณนายแล้วเรา พอเซ็นชื่อเสร็จ เซนก็จัดแจงพับสัญญาฉบับจริงใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วยื่นฉบับร่างให้ฉัน
เซน : “มีอะไรลืมบอกเธอไปอย่าง”
ฉัน : “ฮิๆ อะไรเหรอจ๊ะ”
เซน : “ถ้าทำอะไรขัดใจผม ผมมีสิทธิเรียกเงินคืนได้ทันที”
ฉัน : “อ๊ะ!!0_o”
เซน : “ทุกอย่างเขียนไว้ในสัญญานะ หึๆ”
พูดแล้วก็ลุกเดินหนีไปเลย ฉันกางสัญญาฉบับร่างออกดู จริงด้วย! เซนมีสิทธิเรียกเงินคืนได้ทุกเมื่อ ถ้าไม่ชำระ ถือว่าผิดสัญญา พ่อกับแม่ฉันต้องเข้ามารับผิดชอบหนี้ส่วนนี้แทนทันที ไม่ต่างอะไรกับการเชิญชวนให้พ่อแม่มารับตัวไปอยู่อูกันดา แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่...ได้แต่นั่งสมเพชตัวเอง...
ความคิดเห็น