ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ค่ำคืนคริสมาตส์อีฟ
(2)
-----ค่ำคืนคริสต์มาสอีฟ-----
    “พี่ต้องขอโทษด้วยนะเอพริล  พี่ไม่ว่างจริงๆ”
    “ไม่เป็นไรค่ะ”
    “ไม่เป็นไรแน่นะ เห็นเสียงแปลกๆ”
    “สบายดีค่ะ พี่ฟอสไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
    “งั้นเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ กู๊ดไนท์นะ บาย”
ฉันวางหูโทรศัพท์จากพี่ฟอสด้วยอาการเศร้าๆ วันนี้วันสำคัญของคู่รักแท้ๆ ฉันกลับต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทั้งที่ฉันอุตสาห์เตรียมของขวัญวันคริสต์มาสให้พี่ฟอสตั้งนาน  อาการตื่นเต้นที่วาดฝันว่าจะได้โรแมนติกอย่างคู่รักมลายหายหมดเลย
พ่อกับแม่เดินทางไปติดต่องานต่างเมืองตั้งสองอาทิตย์ เลยวันปีใหม่ไปถึงจะกลับ  ส่วนแอปเปิลก้อไปเดทกับมังกรโดยที่หมอนั่นรีบมารับตั้งแต่แอปเปิลยังไม่ทันได้แต่งตัว  ฉันคิดจะโทรหาเพื่อนๆ แต่กลัวว่าจะไปขัดจังหวะสวีต จึงได้แต่นั่งกินมันฝรั่งแผ่นแทน ทำไมถึงต้องมีแต่ฉันที่เดียวดายนะ ฉันจึงตัดสินใจเก็บมันฝรั่ง แล้วแต่งตัวออกจากบ้านไปเดินเล่นข้างนอก ก่อนที่ความเหงาจะกินหัว ฉันมองเห็นเฟิร์ส  นั่งคนเดียวที่ม้านั่งริมน้ำพุในสวนสาธารณะ
    “เฟิร์ส!!! เฟิร์ส!!!” ฉันร้องเรียก พลางวิ่งถลาเข้าหา
อารามดีใจที่ได้เจอเพื่อน ~~ ฉันก้อวิ่งไป เรียกไป~~ เฟิร์สจึงลุกหนี
    “ทำอะไรของแกวะ!!  อายคนชิบ!”
ฉันชะงักเท้ามองคนแล้วจึงเดินอย่างสำรวมเข้าหาเฟิร์ส  แต่เค้ายังส่ายหน้าแล้วบอกว่า
    “เปลี่ยนกริยาตอนนี้มันไม่สายไปเหรอ เค้าเห็นธาตุแท้แกหมดแล้ว!”
    “เลิกบ่นเถอะเฟิร์ส!!  นายมาคนเดียวเหรอ?”
    “อืม  เหงาน่ะ แกล่ะไม่เดทเหรอ?”
    “พี่ฟอสไม่ว่างน่ะ บอกว่าติดวิเคราะห์แผนงาน จะส่งอาจารย์พรุ่งนี้”
    “อ้อเหรอ”
แวบหนึ่ง ฉันเห็นสายตาเฟิร์สจ้องลงดินแปลกๆเหมือนกำลังจับผิดมดแดงที่พื้น แล้วเค้าก้อเอ่ยขึ้น
    “ที่ชั้นไม่มีคู่เดทน่ะ เพราะชั้นชอบคนมีเจ้าของแล้ว ”
    “ห๊า!! จริงเหรอ ใครวะ ฉันรู้จักมั้ยเอ่ย”
    “แกอาจเคยเห็นพี่เค้า แต่ชั้นไม่แน่ใจว่าแกจะรู้จักเค้ามั้ย?”
    “เป็นรุ่นพี่เหรอ!!นี่แกคิดข้ามรุ่นเหรอ!! ชอบคนแก่เหรอ!! ชอบงั้นจริงๆเหรอ!!”
เฟิร์สยิ้มแหยๆแทนคำตอบ  แล้วพูดตัดบทเบนความสนใจ
    “เมื่อกี้จีซัสมันโทรมาเร่งให้ไปดูมันแสดงดนตรีน่ะ เล่นกับไอค์และเบส ไปด้วยกันมั้ย?”
    “ที่ไหนเหรอ?” ผลเบนความสนใจของเฟิร์สได้ผลกับฉันเสมอ
    “ผับออนเซ่”
    “โห เล่นที่หรูเชียวนะ”
    “มันบอกว่าเพื่อนเราอยู่นั่นหลายคนเลย เราไปแจมด้วยกันมั้ยล่ะ?”
    “อ๊ะแน่นอน” ฉันตอบครั่นเนื้อครั่นตัว
ฉันกับเฟิร์สเดินทางไปถึงผับออนเซ่ ถ้ารู้ก่อนจะแต่งสวยกว่านี้ วัยรุ่นเต็มไปหมดเลย เราเข้าไปสมทบกับพวกมินนี่และคิริ ที่นั่งเฝ้าโต๊ะอยู่ แฟคบอกว่าสามคนนั้นเข้าไปเตรียมตัวก่อนที่จะแสดง ฉันจึงสั่งน้ำมะนาวจิบรอไปก่อน ระหว่างนั้นสายตาฉันเหลือบไปเห็น!!!
    “พี่ฟอ อุ๊บ!!!” เฟิร์สปิดปากฉันไว้ทันแล้วดึงไปหมอบเข้ามุมมืด
    “เห็นแล้วใช่มั้ย?” เฟิร์สถาม
ฉันพยักหน้า โกรธจนตัวสั่น พี่ฟอสมากับผู้หญิงคนอื่น แถมพูดคุยกันหนุงหนิงเชียว
    “ใจเย็นๆนะ ดูไปก่อน อย่ากะโต๊กกะต๊าก อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเห็นนะ”
อย่างที่เฟิร์สว่าจริงๆน่ะแหละ ณ มุมตรงข้ามกัน สองคนนั่นจูบกันแล้ว!!!
    “หลอกกันเหรอ เกินไปแล้วนะ!!!”  ฉันคำราม
ฉันผลักเฟิร์สที่ยืนขวางหน้าอยู่ แล้วเดินตรงไปมุมตรงข้ามของผับ เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
พริบตานั้น ฉันถูกมือมืดกระชากออกจากรันเวย์อย่างรวดเร็ว ฉันเสียการทรงตัวตกไปอยู่ในอ้อมแขนของกระทาชายนายหนึ่ง ซึ่งเมื่อเพ่งพินิจดูแล้ว มังกรและแอปเปิลก็อยู่ที่นี่เหรอ!!
    “พี่สาวเธอใจร้อนจังนะ” มังกรจับฉันไว้พลางหันพูดแอปเปิล เธอยิ้มเศร้า
    “พี่เอพริลสงบลงหน่อยนะ พี่อาละวาดไปก้อไม่มีประโยชน์หรอก”
    “มันหลอกพี่นะ!” ฉันฉุน
    “กลับไปที่โต๊ะเถอะ อ้าว! แอปเปิล เธอไม่ถึงสิบแปดนี่” เฟิร์สถลาตามมาดึงแขนฉันพอดี
มังกรชี้ที่ตัวเองแล้วยกนิ้วแสดงถึงว่าใช้เส้นพาแอปเปิลเข้าผับมา  เฟิร์สส่ายหน้าพลางสั่ง
    “เอาแอปเปิลออกไปเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวถูกจับได้แล้วมันจะยุ่ง!”
มังกรรับคำแล้วกึ่งดึงกึ่งกระชากแอปเปิลที่ยืนยันจะอยู่กับฉันต่อออกไปจากผับ หลังจากที่ทั้งคู่ออกไปแล้วฉันกับเฟิร์สจึงแอบจ้องพี่ฟอสและหญิงชู้เป็นระยะๆ  โดยมินนี่เอากล้องวีดีโอที่จะเตรียมถ่ายจีซัสมาบันทึกภาพสวีตของพี่ฟอสและผู้หญิงคนนั้นไว้ด้วยตามที่เฟิร์สบอก
    “ถ่ายไปแล้วได้อะไรวะเฟิร์ส” แฟคถาม
    “ได้แน่ แต่ต้องรอก่อน” เฟิร์สยิ้มเหี้ยม
จนกระทั่งดีเจบนเวทีบอกว่าวงRucH ของจีซัสจะขึ้นโชว์ ฉันจึงเห็นว่าพี่ฟอสออกไปจากผับแล้ว
เบอรี่ลุกขึ้นหันมาหาฉัน แววตาเป็นห่วง
    “เอพริลอยากดื่มอะไรมั้ย? เดี๋ยวเลี้ยง”
    “ขอวอดก้า!!”
ทุกสายตาหันขวับมาที่ฉัน ฉันยิ้มนิ่ง
    “อย่าสั่งนะเบอรี่ เอายีนผสมน้ำขิงให้ก้อพอ”  เฟิร์สปราม
    “หยุดเลยเฟิร์ส นายไม่มีสิทธิมาสั่งให้ชั้น!!!”
    “แกไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์นี่เอพริล!!จู่ๆก้อซัดวอดก้า ช๊อกตายกันพอดี”
คิริหันไปทางเบอรี่แล้วสอดเสียงขึ้นมาเพื่อจะสงบศึก
    “เบอรี่ เธอเอามาทินีให้เอพริลนะ”
    “ไม่คิริ!!!ฉันจะเอาวอดก้า!!!”
    “ชั้นอนุโลมให้แกเป็นยีนสีชมพูแล้วกัน” เฟิร์สพูดขบกราม
    “ ฉันจะเอาวอดก้า!!!”
    “ไม่ได้!!!!!!!”
เฟิร์สกระแทกเสียงรุนแรงเป็นอันสิ้นสุด เบอรี่ยิ้มแหยให้ฉันอย่างลำบากใจ ตัดสินใจนั่งลงตามเดิม ไม่ยอมสั่งเหล้า
    “พอกันได้แล้วนะ เดี๋ยวจีซัสจะเล่นแล้ว มินนี่จะถ่ายวีดีโอ” มินนี่พูดพลางยกกล้องขึ้น
    “เดี๋ยวชั้นไปสั่งเครื่องดื่มให้ เอาอะไรแน่ เอพริล” แฟคลุกขึ้นมองฉัน
    “เอายีนสีชมพู” ฉันตอบเสียงอ่อย
จีซัส เบสและไอค์ ออกมาเล่นเพลงที่ตัวเองแต่งอย่างเท่ห์ เบอรี่กับมินนี่ยิ้มกว้างเคลิ้มๆ ยิ่งตอนที่ท่อนสุดท้ายที่มีคำบอกรัก ทั้งจีซัสและเบสที่กำลังร้องประสานเสียงอยู่ผายมือไปยังสองสาวยิ่งกริ๊ดลั่น  ตอนนี้ฉันเข้าใจความรู้สึกของไอค์เมื่อกลางวันแล้วว่าทำไมมันถึงวางระเบิดใส่คู่จีซัสกับมินนี่ มันอิจฉานี่เอง
    “พอได้แล้วมั้งเอพริล แกดื่มมากไปแล้วนะ”
เมย์เตือนพลางพยุงฉันออกจากห้องน้ำ หลังจากที่ฉันยังพยายามไปเอายีนสีชมพูต่อ
    “ม่ายยย จาอาวอีกกก”
คิริมาช่วยเมย์ยกฉันกลับไปนั่งโต๊ะ
    “เดี๋ยวเธอก้อกลับบ้านได้แล้วมั้ง ให้ไอ้เฟิร์สไปส่งแล้วกัน ชั้นกลับก่อนล่ะ”
    “บ๊าย บายจ้า คิริจ๋าาาา”
    “สมเพชแกจังว่ะอีอ้วน กลับแล้วนะเว้ย จะต้องไปส่งเมย์มัน”
    “บายแฟค บายเมย์ โชคดีน้าาาา”
สักพักก็เกิดเหตุขึ้นจนได้ คิริดันเดินชนเข้ากับนักเลงโตกลุ่มหนึ่งหน้าประตูจึงเกิดชกต่อยกัน เหตุลามปามจนกลายเป็นตะลุมบอนหมู่ทั้งผับ ฉันซึ่งงงงวยอยู่ก้อพยายามตะเกียดตะกายออกมาอิงหัวอยู่ข้างฝาริมผนังห้องน้ำชาย 
    “นี่เธอ! น่ารักจัง อยากดื่มอะไรมั้ย?” ชายคนหนึ่งถามฉัน
    “วอดก้าาา”  ฉันตอบ สติเลอะเลือน
    “ผมมีอยู่ในมือพอดีเลย เอาของผมไปดื่มสิ”
เค้ายื่นแก้วใบเล็กให้ฉัน ฉันรับมาได้ก้อกรอกเข้าปากรวดเดียวหมดเลย
    “เก่งจังเลย เธอชื่ออะไรเหรอ?” เค้าถามฉันพลางเอามือโอบฉันไว้
    “อาวมือนายออกปายยย” ฉันพยายามสะบัดแต่ ขัดขืนไม่ได้เลย
    “ว่าไงนะครับ! ผมได้ยินไม่ถนัด”
หมอนี่เอาหูแนบติดกับปากฉันแล้วกอดแน่นให้อึดอัดกว่าเดิม ถามว่า
    “ตกลงชื่ออะไรครับ? คนสวย ”
    “เอพริล!!! เอพริลนี่นา!!! แกจะทำอะไรเอพริลน่ะ!!!!”
เสียงที่ฉันคุ้นหูดังขึ้น ผู้ชายคนนั้นผละออกจากฉัน ฉันร่วงลงพื้น เจ้าของเสียงเข้ามารับฉันไว้ ฉันเงยหน้าทักคนที่เข้ามาช่วยฉันก่อนที่สติจะดับวูบไป
    “พี่คิว ”
ฉันตื่นขึ้นมาบนเตียงสีแดง หันไปมองรอบๆ ทุกสิ่งอย่างล้วนเน้นสีแดงเป็นหลัก
    “ห้องใครวะ แม่-ง แดงเถือกเชียว”
ฉันบ่นพลางลุกขึ้นสำรวจรอบห้อง ยังปวดหัวตุ๊บๆอยู่เลย แล้วฉันอยู่ที่ไหนเนี้ย อยากเห็นหน้าเจ้าของห้องแดงนี้จัง
    “ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ น้องเอพริล”
ฉันหันไปตามเสียง  ผู้หญิงคนหนึ่งโผล่หน้าออกจากประตูห้องน้ำ  หน้าคุ้นๆ
    “หิวรึยัง? เดี๋ยวลงไปกินข้าวต้มเลยนะ พี่เพิ่งทำเสร็จเอง”
ฉันไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มและมองหาประตูทางออก ประตูอยู่ไหนวะ แดงกลบกันซะมิดเลย
    “มึนหัวอยู่ใช่มั้ย เอานี่เช็ดหน้าเช็ดตาซะนะ”
เธอจับไหล่ฉันแล้วส่งผู้ชุบน้ำเย็นผืนหนึ่งมาให้ พลางส่งยิ้มหวานที่ทำให้ฉันนึกบางอย่างขึ้นมาได้    ใช่แล้ว!!! ผู้หญิงคนนี้นี่เองที่เอาถุงกระดาษมาส่งให้โกเมนเมื่อวาน ฉันมาอยู่กับเธอได้ยังไงเนี้ย ฉันเก็บความสงสัยเดินตามเธอลงชั้นล่าง บ้านหล่อนใหญ่มาก คงรวยน่าดู เราเดินตามกันมาจนถึงห้องครัวแล้วฉันก้อเจอ
    “ไฮ!! ตื่นแล้วเหรอ ยัยเอพริล” พี่คิวทักฉันอย่างอารมณ์ดี
ฉันมองพี่คิวจากศรีษะจรดปลายเท้าอย่างงงๆ  ไม่คาดคิดว่าจะเจอพี่คิวสุดหล่อสภาพนี้
    “ผ้ากันเปื้อนมันเล็กไปสำหรับผู้ชายนะพี่คิว ใส่แล้วดูแปลกๆ”
    “แปลกไงเอพริล พี่ใส่ชุดนี้ทุกเช้าแหละ” พี่คิวบอกแล้วยิ้มให้พี่ผู้หญิง
    “พี่จัดชามข้าวต้มเรียบร้อยแล้ว ลงมือทานได้เลยนะ”
    “พี่ผู้หญิงคนนี้ใครเหรอ?”
    “พี่ชื่อโอปอล์จ่ะ” พี่ผู้หญิงตอบ
    “แฟนพี่เอง” พี่คิวยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจ
ฉันสะอึกไปนิดนึง แล้วโกเมนล่ะ พี่โอปอล์คงเล่นบทหนึ่งหญิงสองชายแหงมๆ  ฉันไม่พูดอะไร  แต่ส่งสายตาตำหนิใส่พี่โอปอล์แวบหนึ่งก่อนที่จะนั่งลงกินข้าวต้มอย่างดุเดือด
    “ขออีกชามค่ะ”
    “ได้จ่ะ” พี่โอปอล์ตักชามสองให้
    “ขออีกชามค่ะ”
    “ได้ๆ แหมกินจุจริงนะ” พี่คิวลุกตักข้าวต้มให้อีก
    “ขออี ” ฉันพูดไม่ทันจบประโยค พี่คิวก้อแทรกขึ้นทันที
    “หยุด!!!! พอได้แล้ว!! เธอจะกินตุนไว้ไปถล่มอิรักรึไง!!!”
    “เอพริลหิวนี่!!!”
    “อึ่งอ่างยักษ์กระเพาะควาย!!!!!!”
ฉันตะลึงงันไปชั่วครู่กับคำด่าอันแสบสัน ที่เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินออกจากปากพี่คิวสุดหล่อ    
    “คิวอย่าว่าน้องเค้าอย่างนั้นสิ!” พี่โอปอล์ดุใส่พี่คิว แล้วบอกฉันว่า
    “เอพริลหิวก้อกินเยอะๆเลยนะจ๊ะ ถ้ามันหมดหม้อเดี๋ยวพี่ทำให้ใหม่ก้อได้”
พี่โอปอล์ลุกไปตักให้อย่างแสนดี  แต่ฉันยังทำหน้าเฉยข่มอยู่ โถ่!ยัยผู้หญิงหลายใจ
    “เดี๋ยวไอ้สองคนนั่นลงมาไม่มีข้าวกินแล้วจะโวยวายอีกละ”  พี่คิวบ่น
ในบ้านนี้ยังมีคนอยู่อีกสองคนหรือนี่  อยากเห็นห้องมันจัง
พี่โอปอล์เริ่มจุดเตาใหม่เพื่อทำข้าวต้มอีกหม้อ ฉันรู้สึกหน้าตึงนิดๆ
    “เอพริลอิ่มแล้วค่ะ”  ฉันลุกขึ้นยืนบิดตัวซ้ายขวา  พี่คิวมองพุงฉันแล้วส่ายหัว
    “จะบอกให้นะโอปอล์  เมื่อกี้คิวไม่ด่ามันแรงไปหรอก ”
    “พี่คิวปากร้าย!!” ฉันงอน
ทันทีที่พี่โอปอล์ทำข้าวต้มหม้อที่สองเสร็จ พี่คิวหันมองนาฬิกาแล้วแว๊ด
    “สายแล้วนี่!!! โอปอล์ เรารีบไปกันเถอะ!!!!”
ฉันมองไปที่นาฬิกาเรือนใหญ่หน้าบ้าน พลันสายตาไปจ๊ะเอ๋กับรถคันหนึ่งคุ้นๆ  อ้าว!?! วอลโว่รุ่นนี้มัน
ประจวบเหมาะกับมีบุคคลที่สี่เดินเกาหัวแกร๊กๆลงบันไดมา  พี่โอปอล์จึงร้องบอก
    “ไอ้น้อง!! ดูแลเอพริลให้หน่อยนะ พี่ต้องรีบไปมหา’ลัย”
    “เอพริล!?!” ชายคนนั้นทวนชื่อฉัน
    “แฟนแกไง! ไปส่งเค้าที่บ้านด้วยล่ะ พี่ไปนะ” พูดเสร็จพี่โอปอล์ก้อวิ่งจู๊ดออกไป
โกเมนกับฉันจ้องกันอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วก่อนที่โกเมนจะพูดอะไร ฉันก้อใส่ยาวเหยียด
    “นี่พวกนายทนอยู่ด้วยกันได้ไง!?!”
    “หนึ่งหญิงสองชายเนี้ยนะ!?!”
    “พี่โอปอล์ก้อไม่ได้สวยเลิศอะไรนี่!”
    “นายหลงอะไรเค้านักหนาถึงยอมได้อ่ะ!”
    “ผิดหวังในตัวนายจริงๆ!”
    “แค่ชั้นทิ้งนายไปเนี้ยนะ!!”
    “จะบ้าเหรอ!!!!!!!!!!!หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!!!!!!!!!!!!!”
โกเมนตวาดใส่ฉันดังสะกดนิ่ง แล้วเค้าก้อบ่นตอบเป็นชุด
    “เธอคิดอะไรของเธอ!!!”
    “นั่นพี่สาวชั้นนะ!!”
    “พี่น้องอยู่บ้านเดียวกันมันผิดตรงไหนห๊า!!!”
    “คิดได้ยังไง?”
แล้วโกเมนก้อเดินลงมาเห็นซากข้าวต้มหม้อเดิมที่ยังเหลืออยู่เล็กน้อย เค้าเอียงคอเหล่ตามองมาที่ฉัน
    “กินของเค้าแล้วยังมีหน้ามาว่าในแง่ร้ายอีก”
ฉันกำลังจะอ้าปากเถียงแต่โกเมนก้อสวนกลางลำกล้องเปรี้ยง
    “ออกไปจากบ้านชั้น!!”
    “ห๊า!!”
    “เดี๋ยวนี้!!”
    “ก้อพี่โอปอล์บอกว่า...”
    “ชั้นบอกให้ไป!!!”
ฉันจึงต้องก้มหน้างุดหลบตาโกเมนหันหลังเดินตรงไปยังประตู  แล้วเสียงโทรศัพท์ก้อดังขึ้น เป็นโทรศัพท์ของฉันเอง
    “ฮัลโหลว่าไงเฟิร์ส”
    “อยู่ไหน?”
    “บ้านโกเมน”
เฟิร์สเงียบไปสองวินาทีครึ่ง แล้วบอกว่า
    “เดี๋ยวไปรับนะ อยู่ที่นั่นแหละ อีกสิบห้านาทีจะถึง”
แล้วเค้าก้อตัดสายไป  ทิ้งให้ฉันยืนนิ่งด้วยความรู้สึกสับสน...เอาไงดีวะ...
    “เฟิร์สโทรมาบอกฉันว่าเดี๋ยวจะมารับที่นี่...ห้ามไปไหน”
    “งั้นไปยืนรออยู่รั้วหน้าบ้าน  ชั้นไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
ฉันจึงเดินไปอยู่หน้าบ้านหงอยๆ แต่สักพักฉันก้อฉุนกึก  ถลากลับเข้าไปในบ้าน
    “นายไม่มีสิทธิ์จะไล่ชั้น!  นายไม่ใช่เจ้าของบ้านคนเดียว”
โกเมนที่กำลังซดข้าวต้มอย่างเมามันเงยหน้าเห็นฉันก้อสำลักทันที
    “อะไรนะ!!!”
    “พี่โอปอล์บอกให้นายดูแลชั้นให้ดี แล้วบอกให้ไปส่งที่บ้านด้วย จะขัดคำสั่งพี่สาวเหรอ!”
    “ถ้าฉันจะขัดแล้วมันยังไง!!”
    “ฉันจะฟ้องพี่สาวนาย”
โกเมนก้มหน้ากินต่อโดยไม่สนใจฉันที่ยืนจ้องเค้าอยู่ใจจดใจจ่อ...เป็นฉันจะกินไม่ลงแน่ๆ
เมื่อฉันเห็นว่าไม่มีอนาคตที่จะจ้องต่อไป...ฉันจึงตัดสินใจเดินไปที่ประตู  แล้วก่อนที่ฉันจะเดินออกไปหน้าบ้านนั้น  ฉันก้อหันไปหาเค้าแล้วบอกว่า...
    “ฉันขอโทษ...”
แต่โกเมนทำเหมือนไม่ได้ยิน  ยังคงตั้งตาซดข้าวต้มโฮกๆอย่างไม่เว้นช่วงกลืน
    “โกเมน!! ได้ยินป่ะ...ฉันบอกนายว่าฉันขอโทษ”
เค้ายังไม่สนใจ ฉันชักฉุนจึงเดินเข้าไปดึงช้อนจากมือเค้าออก...โกเมนเหงยหน้ามองฉัน
    “นายหยุดทำกริยาแบบนี้ใส่ชั้นได้แล้วนะ...เกลียดกันขนาดนั้นเชียว!”
เค้าก้มหน้า แล้วยกชามข้าวต้มขึ้นซดเสียงดังเหมือนจะบอกว่า...ตูไม่ใช้ช้อนก้อได้โว้ย...
ซึ่งนั่นทำฉันฉุนขาด ฉันกระชากชามข้าวต้มออกจากมือโกเมนจนมันหกเลอะ แล้วว่าใส่หน้า
    “นายต่อยชั้นดีกว่า  แต่อย่าทำอย่างนี้ ...ฉันไม่ชอบ!!”
    “ชั้นไม่ได้ขอให้ผู้หญิงใจดำอย่างเธอมาชอบหรอกนะ เอพริล” เขาสวนเสียงเย็น
    “ชั้นไม่ได้ใจดำนะ! แต่ตอนนั้นนายเหมือนไม่จริงใจกับชั้นนี่”
โกเมนสะบัดผ้าเช็ดมือปลิวไปเกือบสิบเมตร แล้วลุกขึ้นยืนท่าทางน่ากลัว ...ฉันผงะ...
    “ชั้นเหมือนไม่จริงใจตรงไหน!! เธอต่างหากมาหลอกใช้ชั้น!!!”
    “ใครหลอกใช้นาย! ชั้นจริงใจกับนายจริงๆนะ!!”
    “โกหก!!!!! ยัยผู้หญิงเลว!!!!!”
    “นายโกเมน!!!!!!!!!!!!!!” ฉันถึงกับอุทานชื่อเค้าออกมา
    “คำด่าแค่นี้มันไม่สมกับที่เธอทำชั้นหรอก!! เธอหลอกใช้ชั้นเพื่อที่ให้เธอผ่านการประเมิน ...เธอหลอกให้ฉันตายใจ... แล้ววันสุดท้ายเธอก้อทิ้งฉันไปอย่างหน้าด้านๆ!!!”
    “ไม่จริงนะ!!!!” ฉันเถียง
    “ไม่จริงยังไง!! ไปถามนายฟอสสุดที่รักเธอสิ หมอนั่นบอกชั้นหมดแล้ว!!!!”
    “นายเข้าใจผิด!!ชั้นกำลังจะเลิกกับพี่ฟอสแล้วนะ!!”
    “ฟอสมันหมดประโยชน์กับเธอแล้วสินะ...ไหนบอกทีดิ เธอคบมันเพื่อใช้ทำอะไร!!”
    “ไม่ใช่นะ!!!!” ฉันถลาเข้าไปจะจับแขนเค้า
แต่เค้าเอี้ยวตัวหลบ แล้วเดินหนีออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว...ฉันวิ่งตามเค้าออกมาพลางร้องไห้...โกเมนได้ยินเสียงสะอื้นจึงชะงักหันกลับมามอง  เค้าเดินเข้ามาจับแขนฉัน ...นึกว่าเค้าจะมาปลอบ...แต่แล้วโกเมนก้อเหวี่ยงตัวฉันให้ออกจากอาณาเขตบริเวณบ้านแล้วปิดรั้วใส่หน้าดังปัง
    “อย่ามายุ่งกับชั้นอีก...ชั้นไม่อยากเห็นหน้าเธอ!!”
โกเมนทิ้งประโยคสุดท้ายก่อนเดินเข้าบ้านไปอย่างไม่หันกลับมามองอีก  แม้ฉันจะร้องไห้เสียงดังประหนึ่งควายถูกเชือดก้อตาม...
ฉันร้องไห้เรียกความสนใจได้สักพัก  เฟิร์สก้อขี่รถเข้ามาจอดหน้าบ้าน สะอึกนิดนึงก่อนพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง...
    “รีบขึ้นมาควบรถโดยเร็วเลย ...แม่-งอายคนโคร-ต”
-----ค่ำคืนคริสต์มาสอีฟ-----
    “พี่ต้องขอโทษด้วยนะเอพริล  พี่ไม่ว่างจริงๆ”
    “ไม่เป็นไรค่ะ”
    “ไม่เป็นไรแน่นะ เห็นเสียงแปลกๆ”
    “สบายดีค่ะ พี่ฟอสไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
    “งั้นเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ กู๊ดไนท์นะ บาย”
ฉันวางหูโทรศัพท์จากพี่ฟอสด้วยอาการเศร้าๆ วันนี้วันสำคัญของคู่รักแท้ๆ ฉันกลับต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทั้งที่ฉันอุตสาห์เตรียมของขวัญวันคริสต์มาสให้พี่ฟอสตั้งนาน  อาการตื่นเต้นที่วาดฝันว่าจะได้โรแมนติกอย่างคู่รักมลายหายหมดเลย
พ่อกับแม่เดินทางไปติดต่องานต่างเมืองตั้งสองอาทิตย์ เลยวันปีใหม่ไปถึงจะกลับ  ส่วนแอปเปิลก้อไปเดทกับมังกรโดยที่หมอนั่นรีบมารับตั้งแต่แอปเปิลยังไม่ทันได้แต่งตัว  ฉันคิดจะโทรหาเพื่อนๆ แต่กลัวว่าจะไปขัดจังหวะสวีต จึงได้แต่นั่งกินมันฝรั่งแผ่นแทน ทำไมถึงต้องมีแต่ฉันที่เดียวดายนะ ฉันจึงตัดสินใจเก็บมันฝรั่ง แล้วแต่งตัวออกจากบ้านไปเดินเล่นข้างนอก ก่อนที่ความเหงาจะกินหัว ฉันมองเห็นเฟิร์ส  นั่งคนเดียวที่ม้านั่งริมน้ำพุในสวนสาธารณะ
    “เฟิร์ส!!! เฟิร์ส!!!” ฉันร้องเรียก พลางวิ่งถลาเข้าหา
อารามดีใจที่ได้เจอเพื่อน ~~ ฉันก้อวิ่งไป เรียกไป~~ เฟิร์สจึงลุกหนี
    “ทำอะไรของแกวะ!!  อายคนชิบ!”
ฉันชะงักเท้ามองคนแล้วจึงเดินอย่างสำรวมเข้าหาเฟิร์ส  แต่เค้ายังส่ายหน้าแล้วบอกว่า
    “เปลี่ยนกริยาตอนนี้มันไม่สายไปเหรอ เค้าเห็นธาตุแท้แกหมดแล้ว!”
    “เลิกบ่นเถอะเฟิร์ส!!  นายมาคนเดียวเหรอ?”
    “อืม  เหงาน่ะ แกล่ะไม่เดทเหรอ?”
    “พี่ฟอสไม่ว่างน่ะ บอกว่าติดวิเคราะห์แผนงาน จะส่งอาจารย์พรุ่งนี้”
    “อ้อเหรอ”
แวบหนึ่ง ฉันเห็นสายตาเฟิร์สจ้องลงดินแปลกๆเหมือนกำลังจับผิดมดแดงที่พื้น แล้วเค้าก้อเอ่ยขึ้น
    “ที่ชั้นไม่มีคู่เดทน่ะ เพราะชั้นชอบคนมีเจ้าของแล้ว ”
    “ห๊า!! จริงเหรอ ใครวะ ฉันรู้จักมั้ยเอ่ย”
    “แกอาจเคยเห็นพี่เค้า แต่ชั้นไม่แน่ใจว่าแกจะรู้จักเค้ามั้ย?”
    “เป็นรุ่นพี่เหรอ!!นี่แกคิดข้ามรุ่นเหรอ!! ชอบคนแก่เหรอ!! ชอบงั้นจริงๆเหรอ!!”
เฟิร์สยิ้มแหยๆแทนคำตอบ  แล้วพูดตัดบทเบนความสนใจ
    “เมื่อกี้จีซัสมันโทรมาเร่งให้ไปดูมันแสดงดนตรีน่ะ เล่นกับไอค์และเบส ไปด้วยกันมั้ย?”
    “ที่ไหนเหรอ?” ผลเบนความสนใจของเฟิร์สได้ผลกับฉันเสมอ
    “ผับออนเซ่”
    “โห เล่นที่หรูเชียวนะ”
    “มันบอกว่าเพื่อนเราอยู่นั่นหลายคนเลย เราไปแจมด้วยกันมั้ยล่ะ?”
    “อ๊ะแน่นอน” ฉันตอบครั่นเนื้อครั่นตัว
ฉันกับเฟิร์สเดินทางไปถึงผับออนเซ่ ถ้ารู้ก่อนจะแต่งสวยกว่านี้ วัยรุ่นเต็มไปหมดเลย เราเข้าไปสมทบกับพวกมินนี่และคิริ ที่นั่งเฝ้าโต๊ะอยู่ แฟคบอกว่าสามคนนั้นเข้าไปเตรียมตัวก่อนที่จะแสดง ฉันจึงสั่งน้ำมะนาวจิบรอไปก่อน ระหว่างนั้นสายตาฉันเหลือบไปเห็น!!!
    “พี่ฟอ อุ๊บ!!!” เฟิร์สปิดปากฉันไว้ทันแล้วดึงไปหมอบเข้ามุมมืด
    “เห็นแล้วใช่มั้ย?” เฟิร์สถาม
ฉันพยักหน้า โกรธจนตัวสั่น พี่ฟอสมากับผู้หญิงคนอื่น แถมพูดคุยกันหนุงหนิงเชียว
    “ใจเย็นๆนะ ดูไปก่อน อย่ากะโต๊กกะต๊าก อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเห็นนะ”
อย่างที่เฟิร์สว่าจริงๆน่ะแหละ ณ มุมตรงข้ามกัน สองคนนั่นจูบกันแล้ว!!!
    “หลอกกันเหรอ เกินไปแล้วนะ!!!”  ฉันคำราม
ฉันผลักเฟิร์สที่ยืนขวางหน้าอยู่ แล้วเดินตรงไปมุมตรงข้ามของผับ เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
พริบตานั้น ฉันถูกมือมืดกระชากออกจากรันเวย์อย่างรวดเร็ว ฉันเสียการทรงตัวตกไปอยู่ในอ้อมแขนของกระทาชายนายหนึ่ง ซึ่งเมื่อเพ่งพินิจดูแล้ว มังกรและแอปเปิลก็อยู่ที่นี่เหรอ!!
    “พี่สาวเธอใจร้อนจังนะ” มังกรจับฉันไว้พลางหันพูดแอปเปิล เธอยิ้มเศร้า
    “พี่เอพริลสงบลงหน่อยนะ พี่อาละวาดไปก้อไม่มีประโยชน์หรอก”
    “มันหลอกพี่นะ!” ฉันฉุน
    “กลับไปที่โต๊ะเถอะ อ้าว! แอปเปิล เธอไม่ถึงสิบแปดนี่” เฟิร์สถลาตามมาดึงแขนฉันพอดี
มังกรชี้ที่ตัวเองแล้วยกนิ้วแสดงถึงว่าใช้เส้นพาแอปเปิลเข้าผับมา  เฟิร์สส่ายหน้าพลางสั่ง
    “เอาแอปเปิลออกไปเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวถูกจับได้แล้วมันจะยุ่ง!”
มังกรรับคำแล้วกึ่งดึงกึ่งกระชากแอปเปิลที่ยืนยันจะอยู่กับฉันต่อออกไปจากผับ หลังจากที่ทั้งคู่ออกไปแล้วฉันกับเฟิร์สจึงแอบจ้องพี่ฟอสและหญิงชู้เป็นระยะๆ  โดยมินนี่เอากล้องวีดีโอที่จะเตรียมถ่ายจีซัสมาบันทึกภาพสวีตของพี่ฟอสและผู้หญิงคนนั้นไว้ด้วยตามที่เฟิร์สบอก
    “ถ่ายไปแล้วได้อะไรวะเฟิร์ส” แฟคถาม
    “ได้แน่ แต่ต้องรอก่อน” เฟิร์สยิ้มเหี้ยม
จนกระทั่งดีเจบนเวทีบอกว่าวงRucH ของจีซัสจะขึ้นโชว์ ฉันจึงเห็นว่าพี่ฟอสออกไปจากผับแล้ว
เบอรี่ลุกขึ้นหันมาหาฉัน แววตาเป็นห่วง
    “เอพริลอยากดื่มอะไรมั้ย? เดี๋ยวเลี้ยง”
    “ขอวอดก้า!!”
ทุกสายตาหันขวับมาที่ฉัน ฉันยิ้มนิ่ง
    “อย่าสั่งนะเบอรี่ เอายีนผสมน้ำขิงให้ก้อพอ”  เฟิร์สปราม
    “หยุดเลยเฟิร์ส นายไม่มีสิทธิมาสั่งให้ชั้น!!!”
    “แกไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์นี่เอพริล!!จู่ๆก้อซัดวอดก้า ช๊อกตายกันพอดี”
คิริหันไปทางเบอรี่แล้วสอดเสียงขึ้นมาเพื่อจะสงบศึก
    “เบอรี่ เธอเอามาทินีให้เอพริลนะ”
    “ไม่คิริ!!!ฉันจะเอาวอดก้า!!!”
    “ชั้นอนุโลมให้แกเป็นยีนสีชมพูแล้วกัน” เฟิร์สพูดขบกราม
    “ ฉันจะเอาวอดก้า!!!”
    “ไม่ได้!!!!!!!”
เฟิร์สกระแทกเสียงรุนแรงเป็นอันสิ้นสุด เบอรี่ยิ้มแหยให้ฉันอย่างลำบากใจ ตัดสินใจนั่งลงตามเดิม ไม่ยอมสั่งเหล้า
    “พอกันได้แล้วนะ เดี๋ยวจีซัสจะเล่นแล้ว มินนี่จะถ่ายวีดีโอ” มินนี่พูดพลางยกกล้องขึ้น
    “เดี๋ยวชั้นไปสั่งเครื่องดื่มให้ เอาอะไรแน่ เอพริล” แฟคลุกขึ้นมองฉัน
    “เอายีนสีชมพู” ฉันตอบเสียงอ่อย
จีซัส เบสและไอค์ ออกมาเล่นเพลงที่ตัวเองแต่งอย่างเท่ห์ เบอรี่กับมินนี่ยิ้มกว้างเคลิ้มๆ ยิ่งตอนที่ท่อนสุดท้ายที่มีคำบอกรัก ทั้งจีซัสและเบสที่กำลังร้องประสานเสียงอยู่ผายมือไปยังสองสาวยิ่งกริ๊ดลั่น  ตอนนี้ฉันเข้าใจความรู้สึกของไอค์เมื่อกลางวันแล้วว่าทำไมมันถึงวางระเบิดใส่คู่จีซัสกับมินนี่ มันอิจฉานี่เอง
    “พอได้แล้วมั้งเอพริล แกดื่มมากไปแล้วนะ”
เมย์เตือนพลางพยุงฉันออกจากห้องน้ำ หลังจากที่ฉันยังพยายามไปเอายีนสีชมพูต่อ
    “ม่ายยย จาอาวอีกกก”
คิริมาช่วยเมย์ยกฉันกลับไปนั่งโต๊ะ
    “เดี๋ยวเธอก้อกลับบ้านได้แล้วมั้ง ให้ไอ้เฟิร์สไปส่งแล้วกัน ชั้นกลับก่อนล่ะ”
    “บ๊าย บายจ้า คิริจ๋าาาา”
    “สมเพชแกจังว่ะอีอ้วน กลับแล้วนะเว้ย จะต้องไปส่งเมย์มัน”
    “บายแฟค บายเมย์ โชคดีน้าาาา”
สักพักก็เกิดเหตุขึ้นจนได้ คิริดันเดินชนเข้ากับนักเลงโตกลุ่มหนึ่งหน้าประตูจึงเกิดชกต่อยกัน เหตุลามปามจนกลายเป็นตะลุมบอนหมู่ทั้งผับ ฉันซึ่งงงงวยอยู่ก้อพยายามตะเกียดตะกายออกมาอิงหัวอยู่ข้างฝาริมผนังห้องน้ำชาย 
    “นี่เธอ! น่ารักจัง อยากดื่มอะไรมั้ย?” ชายคนหนึ่งถามฉัน
    “วอดก้าาา”  ฉันตอบ สติเลอะเลือน
    “ผมมีอยู่ในมือพอดีเลย เอาของผมไปดื่มสิ”
เค้ายื่นแก้วใบเล็กให้ฉัน ฉันรับมาได้ก้อกรอกเข้าปากรวดเดียวหมดเลย
    “เก่งจังเลย เธอชื่ออะไรเหรอ?” เค้าถามฉันพลางเอามือโอบฉันไว้
    “อาวมือนายออกปายยย” ฉันพยายามสะบัดแต่ ขัดขืนไม่ได้เลย
    “ว่าไงนะครับ! ผมได้ยินไม่ถนัด”
หมอนี่เอาหูแนบติดกับปากฉันแล้วกอดแน่นให้อึดอัดกว่าเดิม ถามว่า
    “ตกลงชื่ออะไรครับ? คนสวย ”
    “เอพริล!!! เอพริลนี่นา!!! แกจะทำอะไรเอพริลน่ะ!!!!”
เสียงที่ฉันคุ้นหูดังขึ้น ผู้ชายคนนั้นผละออกจากฉัน ฉันร่วงลงพื้น เจ้าของเสียงเข้ามารับฉันไว้ ฉันเงยหน้าทักคนที่เข้ามาช่วยฉันก่อนที่สติจะดับวูบไป
    “พี่คิว ”
ฉันตื่นขึ้นมาบนเตียงสีแดง หันไปมองรอบๆ ทุกสิ่งอย่างล้วนเน้นสีแดงเป็นหลัก
    “ห้องใครวะ แม่-ง แดงเถือกเชียว”
ฉันบ่นพลางลุกขึ้นสำรวจรอบห้อง ยังปวดหัวตุ๊บๆอยู่เลย แล้วฉันอยู่ที่ไหนเนี้ย อยากเห็นหน้าเจ้าของห้องแดงนี้จัง
    “ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ น้องเอพริล”
ฉันหันไปตามเสียง  ผู้หญิงคนหนึ่งโผล่หน้าออกจากประตูห้องน้ำ  หน้าคุ้นๆ
    “หิวรึยัง? เดี๋ยวลงไปกินข้าวต้มเลยนะ พี่เพิ่งทำเสร็จเอง”
ฉันไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มและมองหาประตูทางออก ประตูอยู่ไหนวะ แดงกลบกันซะมิดเลย
    “มึนหัวอยู่ใช่มั้ย เอานี่เช็ดหน้าเช็ดตาซะนะ”
เธอจับไหล่ฉันแล้วส่งผู้ชุบน้ำเย็นผืนหนึ่งมาให้ พลางส่งยิ้มหวานที่ทำให้ฉันนึกบางอย่างขึ้นมาได้    ใช่แล้ว!!! ผู้หญิงคนนี้นี่เองที่เอาถุงกระดาษมาส่งให้โกเมนเมื่อวาน ฉันมาอยู่กับเธอได้ยังไงเนี้ย ฉันเก็บความสงสัยเดินตามเธอลงชั้นล่าง บ้านหล่อนใหญ่มาก คงรวยน่าดู เราเดินตามกันมาจนถึงห้องครัวแล้วฉันก้อเจอ
    “ไฮ!! ตื่นแล้วเหรอ ยัยเอพริล” พี่คิวทักฉันอย่างอารมณ์ดี
ฉันมองพี่คิวจากศรีษะจรดปลายเท้าอย่างงงๆ  ไม่คาดคิดว่าจะเจอพี่คิวสุดหล่อสภาพนี้
    “ผ้ากันเปื้อนมันเล็กไปสำหรับผู้ชายนะพี่คิว ใส่แล้วดูแปลกๆ”
    “แปลกไงเอพริล พี่ใส่ชุดนี้ทุกเช้าแหละ” พี่คิวบอกแล้วยิ้มให้พี่ผู้หญิง
    “พี่จัดชามข้าวต้มเรียบร้อยแล้ว ลงมือทานได้เลยนะ”
    “พี่ผู้หญิงคนนี้ใครเหรอ?”
    “พี่ชื่อโอปอล์จ่ะ” พี่ผู้หญิงตอบ
    “แฟนพี่เอง” พี่คิวยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจ
ฉันสะอึกไปนิดนึง แล้วโกเมนล่ะ พี่โอปอล์คงเล่นบทหนึ่งหญิงสองชายแหงมๆ  ฉันไม่พูดอะไร  แต่ส่งสายตาตำหนิใส่พี่โอปอล์แวบหนึ่งก่อนที่จะนั่งลงกินข้าวต้มอย่างดุเดือด
    “ขออีกชามค่ะ”
    “ได้จ่ะ” พี่โอปอล์ตักชามสองให้
    “ขออีกชามค่ะ”
    “ได้ๆ แหมกินจุจริงนะ” พี่คิวลุกตักข้าวต้มให้อีก
    “ขออี ” ฉันพูดไม่ทันจบประโยค พี่คิวก้อแทรกขึ้นทันที
    “หยุด!!!! พอได้แล้ว!! เธอจะกินตุนไว้ไปถล่มอิรักรึไง!!!”
    “เอพริลหิวนี่!!!”
    “อึ่งอ่างยักษ์กระเพาะควาย!!!!!!”
ฉันตะลึงงันไปชั่วครู่กับคำด่าอันแสบสัน ที่เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินออกจากปากพี่คิวสุดหล่อ    
    “คิวอย่าว่าน้องเค้าอย่างนั้นสิ!” พี่โอปอล์ดุใส่พี่คิว แล้วบอกฉันว่า
    “เอพริลหิวก้อกินเยอะๆเลยนะจ๊ะ ถ้ามันหมดหม้อเดี๋ยวพี่ทำให้ใหม่ก้อได้”
พี่โอปอล์ลุกไปตักให้อย่างแสนดี  แต่ฉันยังทำหน้าเฉยข่มอยู่ โถ่!ยัยผู้หญิงหลายใจ
    “เดี๋ยวไอ้สองคนนั่นลงมาไม่มีข้าวกินแล้วจะโวยวายอีกละ”  พี่คิวบ่น
ในบ้านนี้ยังมีคนอยู่อีกสองคนหรือนี่  อยากเห็นห้องมันจัง
พี่โอปอล์เริ่มจุดเตาใหม่เพื่อทำข้าวต้มอีกหม้อ ฉันรู้สึกหน้าตึงนิดๆ
    “เอพริลอิ่มแล้วค่ะ”  ฉันลุกขึ้นยืนบิดตัวซ้ายขวา  พี่คิวมองพุงฉันแล้วส่ายหัว
    “จะบอกให้นะโอปอล์  เมื่อกี้คิวไม่ด่ามันแรงไปหรอก ”
    “พี่คิวปากร้าย!!” ฉันงอน
ทันทีที่พี่โอปอล์ทำข้าวต้มหม้อที่สองเสร็จ พี่คิวหันมองนาฬิกาแล้วแว๊ด
    “สายแล้วนี่!!! โอปอล์ เรารีบไปกันเถอะ!!!!”
ฉันมองไปที่นาฬิกาเรือนใหญ่หน้าบ้าน พลันสายตาไปจ๊ะเอ๋กับรถคันหนึ่งคุ้นๆ  อ้าว!?! วอลโว่รุ่นนี้มัน
ประจวบเหมาะกับมีบุคคลที่สี่เดินเกาหัวแกร๊กๆลงบันไดมา  พี่โอปอล์จึงร้องบอก
    “ไอ้น้อง!! ดูแลเอพริลให้หน่อยนะ พี่ต้องรีบไปมหา’ลัย”
    “เอพริล!?!” ชายคนนั้นทวนชื่อฉัน
    “แฟนแกไง! ไปส่งเค้าที่บ้านด้วยล่ะ พี่ไปนะ” พูดเสร็จพี่โอปอล์ก้อวิ่งจู๊ดออกไป
โกเมนกับฉันจ้องกันอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วก่อนที่โกเมนจะพูดอะไร ฉันก้อใส่ยาวเหยียด
    “นี่พวกนายทนอยู่ด้วยกันได้ไง!?!”
    “หนึ่งหญิงสองชายเนี้ยนะ!?!”
    “พี่โอปอล์ก้อไม่ได้สวยเลิศอะไรนี่!”
    “นายหลงอะไรเค้านักหนาถึงยอมได้อ่ะ!”
    “ผิดหวังในตัวนายจริงๆ!”
    “แค่ชั้นทิ้งนายไปเนี้ยนะ!!”
    “จะบ้าเหรอ!!!!!!!!!!!หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!!!!!!!!!!!!!”
โกเมนตวาดใส่ฉันดังสะกดนิ่ง แล้วเค้าก้อบ่นตอบเป็นชุด
    “เธอคิดอะไรของเธอ!!!”
    “นั่นพี่สาวชั้นนะ!!”
    “พี่น้องอยู่บ้านเดียวกันมันผิดตรงไหนห๊า!!!”
    “คิดได้ยังไง?”
แล้วโกเมนก้อเดินลงมาเห็นซากข้าวต้มหม้อเดิมที่ยังเหลืออยู่เล็กน้อย เค้าเอียงคอเหล่ตามองมาที่ฉัน
    “กินของเค้าแล้วยังมีหน้ามาว่าในแง่ร้ายอีก”
ฉันกำลังจะอ้าปากเถียงแต่โกเมนก้อสวนกลางลำกล้องเปรี้ยง
    “ออกไปจากบ้านชั้น!!”
    “ห๊า!!”
    “เดี๋ยวนี้!!”
    “ก้อพี่โอปอล์บอกว่า...”
    “ชั้นบอกให้ไป!!!”
ฉันจึงต้องก้มหน้างุดหลบตาโกเมนหันหลังเดินตรงไปยังประตู  แล้วเสียงโทรศัพท์ก้อดังขึ้น เป็นโทรศัพท์ของฉันเอง
    “ฮัลโหลว่าไงเฟิร์ส”
    “อยู่ไหน?”
    “บ้านโกเมน”
เฟิร์สเงียบไปสองวินาทีครึ่ง แล้วบอกว่า
    “เดี๋ยวไปรับนะ อยู่ที่นั่นแหละ อีกสิบห้านาทีจะถึง”
แล้วเค้าก้อตัดสายไป  ทิ้งให้ฉันยืนนิ่งด้วยความรู้สึกสับสน...เอาไงดีวะ...
    “เฟิร์สโทรมาบอกฉันว่าเดี๋ยวจะมารับที่นี่...ห้ามไปไหน”
    “งั้นไปยืนรออยู่รั้วหน้าบ้าน  ชั้นไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
ฉันจึงเดินไปอยู่หน้าบ้านหงอยๆ แต่สักพักฉันก้อฉุนกึก  ถลากลับเข้าไปในบ้าน
    “นายไม่มีสิทธิ์จะไล่ชั้น!  นายไม่ใช่เจ้าของบ้านคนเดียว”
โกเมนที่กำลังซดข้าวต้มอย่างเมามันเงยหน้าเห็นฉันก้อสำลักทันที
    “อะไรนะ!!!”
    “พี่โอปอล์บอกให้นายดูแลชั้นให้ดี แล้วบอกให้ไปส่งที่บ้านด้วย จะขัดคำสั่งพี่สาวเหรอ!”
    “ถ้าฉันจะขัดแล้วมันยังไง!!”
    “ฉันจะฟ้องพี่สาวนาย”
โกเมนก้มหน้ากินต่อโดยไม่สนใจฉันที่ยืนจ้องเค้าอยู่ใจจดใจจ่อ...เป็นฉันจะกินไม่ลงแน่ๆ
เมื่อฉันเห็นว่าไม่มีอนาคตที่จะจ้องต่อไป...ฉันจึงตัดสินใจเดินไปที่ประตู  แล้วก่อนที่ฉันจะเดินออกไปหน้าบ้านนั้น  ฉันก้อหันไปหาเค้าแล้วบอกว่า...
    “ฉันขอโทษ...”
แต่โกเมนทำเหมือนไม่ได้ยิน  ยังคงตั้งตาซดข้าวต้มโฮกๆอย่างไม่เว้นช่วงกลืน
    “โกเมน!! ได้ยินป่ะ...ฉันบอกนายว่าฉันขอโทษ”
เค้ายังไม่สนใจ ฉันชักฉุนจึงเดินเข้าไปดึงช้อนจากมือเค้าออก...โกเมนเหงยหน้ามองฉัน
    “นายหยุดทำกริยาแบบนี้ใส่ชั้นได้แล้วนะ...เกลียดกันขนาดนั้นเชียว!”
เค้าก้มหน้า แล้วยกชามข้าวต้มขึ้นซดเสียงดังเหมือนจะบอกว่า...ตูไม่ใช้ช้อนก้อได้โว้ย...
ซึ่งนั่นทำฉันฉุนขาด ฉันกระชากชามข้าวต้มออกจากมือโกเมนจนมันหกเลอะ แล้วว่าใส่หน้า
    “นายต่อยชั้นดีกว่า  แต่อย่าทำอย่างนี้ ...ฉันไม่ชอบ!!”
    “ชั้นไม่ได้ขอให้ผู้หญิงใจดำอย่างเธอมาชอบหรอกนะ เอพริล” เขาสวนเสียงเย็น
    “ชั้นไม่ได้ใจดำนะ! แต่ตอนนั้นนายเหมือนไม่จริงใจกับชั้นนี่”
โกเมนสะบัดผ้าเช็ดมือปลิวไปเกือบสิบเมตร แล้วลุกขึ้นยืนท่าทางน่ากลัว ...ฉันผงะ...
    “ชั้นเหมือนไม่จริงใจตรงไหน!! เธอต่างหากมาหลอกใช้ชั้น!!!”
    “ใครหลอกใช้นาย! ชั้นจริงใจกับนายจริงๆนะ!!”
    “โกหก!!!!! ยัยผู้หญิงเลว!!!!!”
    “นายโกเมน!!!!!!!!!!!!!!” ฉันถึงกับอุทานชื่อเค้าออกมา
    “คำด่าแค่นี้มันไม่สมกับที่เธอทำชั้นหรอก!! เธอหลอกใช้ชั้นเพื่อที่ให้เธอผ่านการประเมิน ...เธอหลอกให้ฉันตายใจ... แล้ววันสุดท้ายเธอก้อทิ้งฉันไปอย่างหน้าด้านๆ!!!”
    “ไม่จริงนะ!!!!” ฉันเถียง
    “ไม่จริงยังไง!! ไปถามนายฟอสสุดที่รักเธอสิ หมอนั่นบอกชั้นหมดแล้ว!!!!”
    “นายเข้าใจผิด!!ชั้นกำลังจะเลิกกับพี่ฟอสแล้วนะ!!”
    “ฟอสมันหมดประโยชน์กับเธอแล้วสินะ...ไหนบอกทีดิ เธอคบมันเพื่อใช้ทำอะไร!!”
    “ไม่ใช่นะ!!!!” ฉันถลาเข้าไปจะจับแขนเค้า
แต่เค้าเอี้ยวตัวหลบ แล้วเดินหนีออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว...ฉันวิ่งตามเค้าออกมาพลางร้องไห้...โกเมนได้ยินเสียงสะอื้นจึงชะงักหันกลับมามอง  เค้าเดินเข้ามาจับแขนฉัน ...นึกว่าเค้าจะมาปลอบ...แต่แล้วโกเมนก้อเหวี่ยงตัวฉันให้ออกจากอาณาเขตบริเวณบ้านแล้วปิดรั้วใส่หน้าดังปัง
    “อย่ามายุ่งกับชั้นอีก...ชั้นไม่อยากเห็นหน้าเธอ!!”
โกเมนทิ้งประโยคสุดท้ายก่อนเดินเข้าบ้านไปอย่างไม่หันกลับมามองอีก  แม้ฉันจะร้องไห้เสียงดังประหนึ่งควายถูกเชือดก้อตาม...
ฉันร้องไห้เรียกความสนใจได้สักพัก  เฟิร์สก้อขี่รถเข้ามาจอดหน้าบ้าน สะอึกนิดนึงก่อนพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง...
    “รีบขึ้นมาควบรถโดยเร็วเลย ...แม่-งอายคนโคร-ต”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น