ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The book of Acrasia : ตำนานหนังสือแห่งอคราเซีย

    ลำดับตอนที่ #6 : หน้าที่ 5.1 : นี้มันคือการซ้อมเหรอ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 54


     หน้าที่ 5.1 : นี้มันคือการซ้อมเหรอ

     

              หลังจากวันแรกที่ไปเรียน  ช่างมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายในวันๆหนึ่งซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยแต่ละอย่าง ศึกตัดสินหัวหน้าห้อง เพื่อนใหม่ และเพื่อนที่คิดว่าจะได้เจอกันอีก ทั้งหมดนี้ ชะตาได้ลิขิตเอาไว้แล้วยังงั้นเหรอ   เด็กน้อยที่ยังไม่รู้แม้กระทั่งอาเซียของตัวเอง ต้องมาแบกรับภาระต่างๆ ชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้มันชักเริ่มไม่ธรรมดาแล้วสินะ

     

                “ ฮึบ “  อาเกลหาวพร้อมกับลุกขึ้นมานั่ง พร้อมมองไปยังเซนจิที่นอนอยู่ เขาคิดในใจ วันนี้ฉันตื่นก่อนหมอนั้นเหรอเนี้ย แต่ช่างเถอะ ไปเรียนแต่เช้าบ้างก็ดีนะ และเขาก็รีบลุกออกจากที่นอน จัดการธุระของตัวเองแล้วก็เตรียมตัวที่จะออกจากห้อง แต่ดูเหมือนเซนจิจะยังไม่ตื่น อาจจะเพราะยังเช้า อาเกลตัดสินใจออกไปเรียนก่อน โดยเขาทึ้งโน้ตกระดาษไว้บนโต๊ะ

     

        “ จะเป็นไรไหมนะ ไม่หรอกมั้ง”

     

              แล้วเขาก็เดินไปตามทางเดิน อากาศยามเช้าของโรงเรียนช่างน่ามองนัก ป่าไม้ที่เขียวขจีอยู่ล้อมโรงเรียน สายลมเย็นๆ ที่พัดผ่านบนใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่นเมื่อได้สัมผัส เขาค่อยๆเดินลงบันไดอย่างเพลิดเพลิน จนในที่สุดเขาก็ลงมาถึงชั้นล่างสุด แต่ดูเหมือน บันนี่ จะมารอเขาแล้ว

     

         “ ทำไมนายตื่นเช้าจังบันนี่ “

        “ เป็นนักเรียนก็ต้องตื่นเช้าสิ แถมอากาศที่นี้ก็ดีเสียอีกตอนเช้า”

        “ ฉันเห็นด้วย”

       “ แล้วเซนจิไปไหนละ “

     

                   “ หลับอยู่ ฉันออกมาก่อนนะ ไปกันเถอะ “ อาเกลตัดบทบันนี่ที่เหมือนจะพยายามพูดอะไรอีก ทั้งสองเดินไปโรงเรียนด้วยกัน คุยกันไปสนุกสนานตามภาษาเพื่อน แล้วทั้งสองก็เอากระเป๋าไปวางในห้อง แต่ดูเหมือนโต๊ะ ของอาเกลจะมีของวางอยู่ มันดูเป็นกล่อง อาเกลยืนมองมันอยู่สักพักแล้วก็อุทานออกมา

     

       “ แอน !!!

      “ ใครเหรอ แอน “

      “ เพื่อนฉันนะ เดี๋ยวฉันมา” อาเกลรีบหยิบกล่องที่วางอยู่ไปพร้อมกับเขาด้วย

     

                      อาเกลวิ่งออกไปจากห้อง วิ่งออกไปสักพักก็นึกขึ้นมาได้ว่า  เขาไม่รู้ว่าแอนอยู่ห้องไหนเนี้ยสิ เขาเดินหาไปทั่วชั้นแต่ก็เหมือนจะไม่เจอใคร แต่เขาก็พยายามเดินหาต่อไป และดูเหมือนความพยายามจะไม่สำเร็จ เขาจึงเดินกลับห้อง และเขาก็ได้บังเอิญเจอแอน

     

        “ แอน “ อาเกลตะโกน

        “ อ้าว อาคุง สวัสดีจ๊ะ ถือของที่ฉันเอาไปวางมาด้วยเหรอเนี้ย”

        “ พอเห็นกล่องแบบนี้ก็รู้เลย ว่าต้องเป็นเธอ “

        “ แม้ น่าดีใจจังนะ”

        “ มันคืออะไรเหรอ “

     

                     “ ข้าวกล่องนะฉันทำเองกลับมือเลยนะ “ แอนยิ้มหวานให้กับอาเกลอีกครั้งแล้วดูเหมือนจะรีบวิ่งหนีอาเกลเข้าไปในห้องของเธอ ดูเหมือนเธอจะอยู่ห้อง 1 –D อาเกลที่ยังคงยืนงง ก็เดินกลับเข้าไปในห้อง แล้วก็พบว่าเซนจิมาเรียนแล้วเหมือนกันเขาบอกดูอาเกลด้วยสายตาแปลกประหลาดและแล้วเวลาของการเรียนก็ได้เข้ามาทดแทน

     

                      “ สวัสดีค่ะ นักเรียน วันนี้ครู จะขอสอนเกี่ยวกับอักษรเวทมนตร์พื้นฐาน ขอให้นักเรียนหยิบกระดาษขึ้นมาใบนึงแล้วเขียนอักษรลงไปบยกระดาษ ตามครูนะคะ” ใบหน้าที่เข้ากับแว่นสีเขียวของครูมินามิและเสียงหวานๆทำให้บรรยากาศการเรียนน่าเรียนขึ้นมา นักเรียนต่างรีบปฎิบัติตาม

     

           “ คำที่ครูให้เขียนคือ โบกา ค่ะ มันหมายถึงไฟนะค่ะ  การที่เราเขียนตัวอักษรนี้ลงไปบนกระดาษและอ่านออกเสียงมัน จะทำให้วัตถุที่เขียนคำนี้ไว้ติดไฟขึ้นมานะค่ะ งั้นให้ใส่กระดาษลงในกล่องที่ครูวางไว้ด้านข้างนะค่ะแล้วลองพูดตามครูนะค่ะ”

     

     

     “ความร้อน การเสียดสี

    ใช่แล้ว ข้า คือ โบกา

     

     

            เมื่อทั้งหมดกล่าวคาถาพร้อมกัน เกิดแสงสีแดงจ้าขึ้นในห้องแล้วก็ตามมาด้วยกลิ่นไหม้ กระดาษที่นักเรียนทั้งหมดเขียนอักษรไว้ลุกติดไฟทั้งหมด แล้วกระดาษก็ไหม้ไปจนเหลือแต่ขี้เถ่าสีดำภายในกล่องดูเหมือนว่าอาเกลก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา ก็ไม่แปลกก็มันคาถาพื้นฐานนิ และแล้วการเรียนก็ยังคงดำเนินตลอดไปทั้งวัน ทั้งสามก็ยังไปกินข้าวด้วยกันเหมือนกับเมื่อวาน และแล้วการเรียนที่แสนจะไม่รู้เรื่องของอาเกลก็จบลงดูเหมือนสาระที่มีในหัวสมอง จะมีแค่การจุดไฟสินะ

     

        เฮ้อ “ เสียงถอนหายใจยาวๆดังขึ้น

       “ นายจะถอนหายใจทำไม นายยังต้องไปติวเข้มกับฉันอีกนะ “ บันนี่บอกเขา

       “ ออ ลืมไปสนิทเลย แต่วันนี้ฉันเหนื่อยมากเลย อยากกลับไปนอน”

       “ ไม่ได้นะ นายต้องไปติว ไปติว ไปติวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

       “ ก็ได้ๆๆๆๆๆ “

      “ ฉันไปด้วยได้ไหม “ เซนจิพูดแทรกขึ้นมา

     

               “ ได้สิ ฉันจะพานายไปที่ติวนะ “ แล้วบันนี่ก็พาเซนจิกับอาเกล เดินไปตามทางเดิน เขาพาเดินไปเหมือนจะพาไปที่หอ แต่ไม่ใช่ มันคือสถานที่ฝึกซ้อมและกิจกรรม ของหอชาย เป็นอาคารที่ถูกสร้างเพื่อกิจกรรมต่างๆ มีทั้งสนามกีฬา ห้องดนตรี และอีกมากมาย แล้วบันนี่ก็พาเข้าไปในอาคาร กิจกรรม ดูเหมือนเขาจะพาไปที่ห้องๆหนึ่งที่ติดกระดาษไว้ว่า

     

        “ นักเรียนสามารถใช้อาเซียได้อย่างอิสระค่ะ” อาเกลอ่านทวน

        “ ใช่แล้ว “

        “ ในโรงเรียนมีห้องแบบนี้ด้วยเหรอ “ เซนจิถามขึ้น

     

                “ แน่นอนระดับฉันรู้ทุกอย่าง แต่ฉันว่าเราเข้าไปกันเถอะ” บันนี่พาเข้าไปห้องสี่เหลี่ยมสีขาวที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรจริงๆ แค่ห้องสีขาวเปล่าๆ ดูเหมือน บันนี่เดินที่ผนังห้องแล้วเอาปากกาเมจิคเขียนลงไปที่ผนังห้อง โดยที่เหมือนว่าเขาจะเขียนว่า  เคคิโด อาโพนิส

     

        “ นายเขียนอะไรของนาย “

       “ อย่าพึ่งรบกวนเขาบันนี่ เลยเขากำลังจะสร้างเขตอาคมนะ มันต้องใช้สมาธิสูง “ เซนจิอธิบายแทน

       “ เขตอาคมเหรอ “

       “ สรุปก็คือ ทำให้ห้องนี้มีเขตอาคม เวลาฝึกกันห้องจะได้ไม่พังไงละ เนื่องจากมีอาคมอยู่”

     

                       “ พวกนายเงียบๆหน่อยได้ไหมฉันจะอ่านคาถาแล้วละนะ” บันนี่พูดทำให้บทสนทนาจบลง อาเกลยืนมองดูอย่างสนใจ ก็เขาทำไม่เป็นนิ การร่ายคาถาดูเหมือนจะเริ่มขึ้นแล้ว

     

    “ อากาศถูกปิดกั้น ความร้อนไหลผ่าน

    อาเขตแห่งแสง ปราการแห่งแสง

    วงวนแห่งแสง จงมา ณ บัดนี้ 

    เคคิโด อาโพนิส “

     

     

                    ตัวอักษรที่บันนี่เขียนเรืองแสงขึ้นแล้วก็จางหายไป ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ห้องก็ยังคงเป็นห้องสีเหลี่ยม สีขาว บันนี่ยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “ เริ่มกันเถอะ “

     

            “ ไหนดู อาเซียของนายหน่อยสิ “ บันนี่เริ่มการฝึกซ้อม โดยมีเซนจินั่งอ่านหนังสือรออยู่ที่พื้น

            “ ฉันใช้มันไม่เป็นหรอก “

            “ พูดบ้าๆนะ มีที่ไหนมีอาเซียแต่ใช้มันไม่เป็น” บันนี่เริ่ม รู้สึกงง

            “ ก็มันบังเอิญนะ “

     

                  “ เอาเถอะๆ ฉันไม่สนเรื่องที่นายว่าหรอกนะ แต่ที่ฉันสนคือการทำให้นายใช้อาเซียที่มันอยู่กับนายได้ นั้นแหละที่ฉันจะทำ บันนี่พยายามกดดันอาเกลอย่างต่อเนื่อง เพราะเขาไม่เชื่อว่าใครจะใช้อาเซียไม่เป็นแต่ดูเหมือนความพยายามของบันนี่ก็ต้องเสียไป เพราะ อาเกลไม่รู้จริงๆ

     

           “ เอาละ ถ้างั้นละก็ นายรู้ชื่อมันไหม หรือรู้ว่ามันคืออะไรไหม”

           “ ไม่รู้ “

     

           “ อาเซียของนายมันชื่อ โคล นะ แล้วก็เป็นดาบด้วย และตอนนี้ก็อยู่ในรูปกำไรที่ข้อมือข้างขวานั้นนะ” เซนจิตอบแทนอาเกลที่ยืนนึก

     

          “ นายรู้ได้ไง “ บันนี่ถามเซนจิอย่างสงสัย

          “ ช่างฉันเถอะ ฉันว่าแค่นั้นมันก็พอแล้วนะ สำหรับคำเรียกอาเซียนะ”

     

                      “ ก็จริง” บันนี้ตอบอย่างหมดแรง แค่ชื่อมันหรือ ว่ามันคืออาวุธอะไรก็ดีแล้วละ ขอเวลาฉันคิดคำเรียกอาวุธให้นายก่อนนะ  บันนี่นั่งนึกอยู่สักพักแล้วเขาก็เขียนอะไรบางอย่างในกระดาษแล้วส่งมันให้อาเกลอ่านมัน ดูเหมือนมันจะขาดอะไรไปสักอย่าง บันนี่เว้นมันไว้

     

         “ นายเว้นอะไรไว้เหรอ “ กระดาษถูกยกขึ้นแล้วนิ้วชี้ยังบริเวณที่เว้นไว้

          “ ธาตุยังไงละ มันขาดอีกอย่าง ฉันไม่รู้จริงๆ”

          “ เงิน “ ดูเหมือนอาเกลจะพูดออกไป

     

                       “ เงินเหรอ บ้าน่า มีซ่ะที่ไหน นั้นมันธาตุหายากนะ แต่ก็ไม่มีทางเลือกละนะ ไม่ลองไม่รู้แหละ” บันนี่ดึงกระดาษไปเติมคำที่เว้นไว้ แล้ส่งมันกลับมันกลับไปให้อาเกล แล้วดูเหมือนอาเกลจะอ่านและจำมันได้แล้ว

     

        “ สิ่งที่นายต้องทำคือ จับเจ้ากำไรนั้นและท่องซะ แค่นั้น จบ “

     

                    จะลองดูละนะ “ อาเกลหลับตาลง แล้วเอามือข้างซ้ายของเขามาจับที่กำไรสีเงินที่อยู่ในข้อมือขวาของเขา และกำลังเริ่มท่องคาถาแล้ว

     

    “ ในนามของข้าอัศวินสีเงิน

    จงออกมาคู่หูของข้า โคล

     

                                ดูเหมือนเจ้ากำไรสีเงินจะมีปฎิกิริยา เกิดแสงขึ้นที่กำไรแล้วทันใดนั้น  ดาบรูปร่างยาวก็ปรากฏอู่ตรงหน้าของอาเกล ดาบสีเงิน ดาบจับที่มีรูปเหมือนนกอยู่ ดาบจับที่จับได้พอเหมาะกับมือของเขา

     

        “ นี้เหรอ อาเซียของฉัน “

       “ แปลกมาก ดาบสีเงิน มันไม่น่าจะอยู่กับนายได้เลย”บันนี่ทำหน้าสงสัยอย่างมาก

       “ ทำไมกันเหรอ “

        “ ก็เพราะว่ามันหายากละซิ” เซนจิตอบ

     

                    “ แต่ฉันจับมันได้ถนัดเลยนะ “ ดูสิ แล้วอาเกลก็เหวี่ยงดาบไป เหวี่ยงดาบมา ดูเหมือนเขาจะดีใจที่เรียกอาเซียของตัวเองออกมาได้ โคล ชื่อของมันสินะ โคลๆๆๆๆๆๆ ดูเหมือนเขาจะดีใจไม่หยุด เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าบันนี่ก็กำลังเรียกอาเซียของเขาอยู่ เขาหยิบเข็มกัด ขึ้นมา

     

    “ ในนามของข้าอัศวินสีเพลิง

    นกอัคคี จงเผาทำลายซะ ฟีนิค “

     

                  ดูเหมือนว่าอาเซียของบันนี่ก็เป็นดาบเหมือนกัน แต่ของบันนี่เป็นธาตุไฟ ดาบจึงมีด้ามของดาบสีแดง และขอบสีเหลือง และมีเหมือนปีกของนกฟีนิคประดับอยู่

     

       “ เอาละ เรามาซ้อมกันเถอะ “

      “ อือ “

     

                    การซ้อมดำเนินไปอย่างยาวนานจากพระอาทิตย์ยังอยู่จนพระอาทิตย์หลับไหลไปได้สักครู่ บันนี่ซ้อมการฟันดาบกับอาเกลอบ่างหนักหน่วง สำหรับคนที่ไม่เคยจับดาบเลยก็คงจะนึกภาพออกมาว่า จะออกมาสภาพไหน

     

        “ เฮ๊กๆๆๆๆ “ เสียงหายใจหอบๆของอาเกลดังต่อเนื่อง

        “ วันนี้พอแค่นี้ละกัน นายจะต้องมาฝึกกับฉันทุกวัน”

        “ ครับๆ” เสียงตอบเหนื่อยๆ

     

                “ ร้อนจริงๆเลยนะ “ บันนี่บ่น แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจถอดเสื้อของเขาออก เผยให้เห็นเรือนร่างของเขาที่ดูเหมือนจะผอม แต่กลับมีกล้าม ดูดี อาเกลยังไม่ทันสังเกตุ

     

        “ นี้อาเกล นายไม่ร้อนเหรอ “

     

              “ เฮือก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “ อาเกลตกใจสุดขีด ดูเหมือนคราวนี้เขาจะตกใจกะทันหันสลบไปเลย แต่บันนี่คิดว่าคงเหนื่อยก็เลยสลบไป และก็ดูเหมือนหน้าที่ของเซนจิที่ต้องแบกอาเกลกลับกลับห้อง แต่ดีที่เซนจิแข็งแรง แล้วทั้งสามก็แยกจากกัน ในระหว่างที่เดินกลับหอ ทำไมกันนะ เซนจิรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเปียโนใครดัง แต่มันไม่น่าจะดังได้นิ มันดึกแล้ว คงคิดไปเองสินะ

     

     

     

    จบตอนที่ 4

    และแล้ว เรื่องราวในวันนี้ก็จบลงไปแล้ว

    เสียงเปียโนปริศนา กับ การฝึกหนัก และโรคประหลาดของเขา

    ติดตามตอนต่อไปได้ ในตอนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×