ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ۩ﺴ ประตูต่างมิติ Wonderful wor ﺴ۩

    ลำดับตอนที่ #1 : ━ บทนำ ━

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 57


     

              ท่ามกลางสายฝนที่ตกปรอยๆ พื้นดินที่ชุ้มน้ำฝน เต็มไปด้วยหลุมศพมากมายที่จัดเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ เด็กสาวเรือนผมสีฟ้าถึงกลางหลังที่ถูกจับมัดเป็นทรงทวิลทั้งสองข้าง เบื้องหน้าของเธอคือหลุมศพที่เขียนด้วยชื่อของคนสำคัญของเธอที่สงบนิ่งและ ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป

              "...แม่คะ...คุณแม่คะ..."เธอเอ่ยร้องถึงผู้เป็นแม่บุญธรรมที่เหมือนดั่งแม่ แท้ๆด้วยน้ำเสียงที่สั่นครือ ดวงตาที่เคยสดใสบัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ไหลพรากโดยน้ำฝนที่ตกลงมาช่วย กลบเอาไว้

              "คุโรคาวะ จินัตสึ"เสียงหนึ่งเอ่ยชื่อเด็กสาวที่กำลังร้องไห้ให้สะดุ้งเฮือกแล้วมองถึง อาคันตุกะที่เรียกตน"มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?"อาคันตุกะที่สวมหมวกทรงสูงใบ ใหญ่จนแทบจะไม่เห็นหน้าสวมชุดด้วยผ้าคลุมสีดำแบบเดียวกับสีหมวกถามเสียงใส พลางเอาร่มมาบังฝนที่ตกลงมาให้สาวน้อยที่บัดนี้มองด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็ก น้อยก่อนจะแปรเปลื่ยนเป็นสีหน้าที่ไร้อารมณ์

              "...ช่วยกลับ...ไปด้วยเถอะคะ..."เธอไม่แม้นตอบคำถามแก่อาคันตุกะที่ปรากฎเบื้อง หน้า จากนั้นจึงหันมาทางหลุมศพของผู้เป็นแม่อีกครั้ง ผู้ถูกไล่ทำหูทวนลมพลางดึงร่างบางของสาวน้อยเข้ามาสวมกอดอย่างรวดเร็วแล้ว พูดขึ้น

              "เธอ...คิดดีแล้วหรอ...ทำแบบนี้มีแต่จะทำแม่ของเธอยิ่งเสียใจนะ"อาคันตุกะพูดเสียงเบา พลางหรี่ตาลงมองร่างของเด็กสาวในอ้อมแขน"เพราะงั้น..."

              "...ทำไมละ...ทำไม..."เด็กสาวเอ่ยขัดเสียงสั่นๆ มือที่เคยกุมไว้กับตัวบัดนี้เคลื่อนไปกุมเสื้อของอาคุนตุกะแน่นพลางก้มหน้า ลงต่ำเหมือนไม่อยากให้รับรู้ว่าตนกำลังร้องไห้อยู่ อาคันตุกะมารยาทแย่ที่บังอาจกอดเธอโดยไม่ได้รับอนุญาติเห็นดังนั้นจึงค่อยๆ ขยับอ้อมแขนให้กระชับให้แก่เด็กสาวที่เริ่มร้องไห้มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อาจจะให้มันหยุดได้อีกต่อไป ฝนที่ห่าลงมาไม่หยุดค่อยๆซาลงเรื่อยๆจนหยุดตกไป

              "...ฉันจะ...สานต่อแม่ของเธอเอง..."อาคันตุกะพูดยิ้มๆ มือข้างนึงค่อยๆถอดหมวกสีดำมาสวมให้แก่เด็กสาว ท้องฟ้าที่เคยอึมครึมบัดนี้ได้โดนแสงตะวันมาแทนที่ แสงอุ่นค่อยๆสาดส่องไปทั่ว อาคันตุกะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาบางๆด้วยภายใต้แสงตะวันที่บังกลบหน้าครึ่งนึง ไว้
            
              ...คนๆนี้เป็นใครกันนะ...

              สาวน้อยค่อยๆมองบุรุษที่สวมหมวกให้ แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของเขาก็ตาม แต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก...เหมือนความอบอุ่นของแม่ของเธอที่จากไปเลย...

              "ต่อไปนี้ฉันจะเป็นทั้งพ่อและแม่ของเธอ อย่าลืมซะละ"   














     
     

     
              ท้องฟ้าที่ยังคงมืดสลัวบ่งบอกถึงเวลาเช้าตรู่ เวลาที่เช้าเกินกว่าตะวันจะโผล่ขึ้นทอแสง เช้าเกินกว่านกน้อยจะเริ่มออกหากิน อากาศยามก่อนอรุณรุ่งติดจะหนาวเย็นด้วยน้ำค้างและสายลมที่แผ่วเบา

              แต่ยังมีเด็กสาวคนนึงที่ตื่นขึ้นมาในยามนี้...ฮาร์โมนี่ แอสตัน...เจ้าของคฤหาสน์แอสตันผู้โดดเดี่ยว ใบหน้ายามตื่นจากความฝัน...ฝันร้ายที่เธออยากจะลืมแต่ก็ลืมไม่ได้เสียที ดวงหน้าที่ซีดเซียวและดวงตาสีม่วงที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล

              ...ฝัน...แบบนี้อีกแล้ว...

              เด็กสาวถอนหายใจถี่ๆก่อนจะค่อยๆรวบรวมสติกลับมาอีกครั้ง แล้วมองไปที่กรอบรูปขนาดใหญ่ที่มีรูปของบุคคลทั้งสามอยู่...รูปของเธอและพ่อ แม่ของเธอ..

              ...พ่อคะ...แม่คะ...

              "จดหมายคร้าบบ!!!"เสียงของคนส่งจดหมายทำให้เด็กสาวที่อยู่ในภวังค์ให้สะดุ้ง เท้าทั้งสองรีบสาวเท้าเดินไปรับจดหมาย แต่ผู้ส่งจดหมายเจ้ากรรมไม่อยู่ให้เธอได้ถามเลยแม้แต่น้อย เหลือเพียงจดหมายที่แปะไว้บานประตูเบื้องหน้าเท่านั้น

              ...จดหมาย...

              เธอค่อยๆพิจรณาจดหมายแปลกหน้าที่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครส่งมาอย่างพินิจ ก่อนจะค่อยๆบรรจงฉีกซองแล้วหยิบจดหมายข้างในขึ้นมาอ่าน

              "...จดหมายก่อกวนงั้นหรอ"หลังจากอ่านจดหมายเธอขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อยพลางยกจดหมายเจ้ากรรมแต่แล้วก็มีสิ่งนึงตกลงมาจากจดหมาย สิ่งที่ทำให้เด็กสาวเบิ่งตากว้างแล้วหยิบมันขึ้นมาทันทีอย่างไม่รีรอ เรียวปากที่เม้มอยู่ค่อยๆคลี่ยิ้มประหลาดออกมา

              "ในเมื่อเชิญชวนกันถึงขนาดนี้ ฉันก็จะไปก็ได้"














     
     

              ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง รอบด้านประกอบไปด้วยต้นไม้รอบๆที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบชวนให้ใจผ่อนคลาย เหมาะแก่การมาผักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ยกเว้นสาวน้อยอารมณ์บูดคนนึง เรือนผมสีทองที่ปลิวสไวยตายสายลมที่เย็นสบาย คิ้วเรียวๆของเธอทั้งสองข้างขมวดลง สีหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ใช่แล้ว...สาวตัวเล็กที่ค่อนข้างเหมือนเด็กไม่เกิน10ขวบ เด็กสาวผู้คลั่งไคล้เรื่องลึกลับจนน่าปวดหัวนั้นเอง

              "โอ๊ยเบื่อ! เอาเรื่องสนุกๆมาให้ฉันหน่อยสิพระเจ้า!!"ปากเล็กค่อยๆเบ้ออกมาเล็กน้อยพลาง หัน ไปมองรอบๆเผื่อว่ามันจะมีอะไรที่พอจะทำให้เธอคลายอารมณ์ได้ และแล้วเธอก็ได้ตามปราถนา เธอมองเห็นอะไรบางอย่าง

              ตุ๊กตาหมีขาวสะอาดที่กวักมือให้แล้วเดินหลบมุมกำแพงไปเหมือนเชิญชวนให้เธอ ตามมา แอมไม่รีรอที่จะนึกสงสัยก็วิ่งตามหมีขาวตัวนั้นไป พอเลี้ยวมุมกำแพงก็ไปชนกับบุรุษคนนึง

              "สนใจจะมาเป็นครูที่โรงเรียนของฉันหรือเปล่า
    แอมโบรเซีย เคลุส "บุรุษเบื้องหน้าถามอาคันตุกะที่นัยตาสีม่วงอมน้ำเงินสั่นระริกด้วย ความตื่นเต้น เธอตอบออกมาอย่างไม่รีรอ

              "ตกลงคะ!!!"














     
     

              "ริอาจังวันนี้ปิดร้านเลยละกันนะจ๊ะ"ไซโต้ ยูมิ เด็กสาวเรือนผมสีชมพูอ่อนที่ปล่อยสยายถึงกลางหลัง ผูกด้วยโบสีขาวสะอาด นัยตาสีชมพูสดใสฉายแววเปล่งประกายพูดขึ้น ในมือถือถาดที่มีแก้วและจานวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ

              "นั้นสินะตอนนี้ก็ดึกแล้วด้วย"เอล็กซานดร้า  อิคาเรฟ เด็กสาวผมสั้นเรือนผมสีม่วงอ่อนดวงตาเรียวโตสีม่วงอมแดงที่ถูกเรียกว่าริอา ตอบเพื่อนสาวของเธอแล้วค่อยๆเก็บจานที่กองไว้

              "อ้อ แล้วก็ขอบใจนะอาโอะจังที่มาช่วยชิมให้นะ"ยูมิกล่าวขอบคุณเพื่อนอีกคนของเธอยิ้มๆ

              "โอ๊ย ดีซะอีกที่ให้ฉันได้มาเป็นหนูทดลองให้พวกเธอนะ"เด็กสาวที่ถูกเรียกว่าอาโอะ หรือมีชื่อเต็มๆว่าคิโนโมโตะ อาโออิ เรือนผมสั้นสีช๊อคโกแลตค่อยๆส่ายไปมาแล้วยิ้มให้เพื่อนที่กล่าวขอบคุณเธอ อย่างเป็นมิตร

              "มันจะดีมากถ้าพวกเธอจะมาช่วยฉันล้างจาน"ริอาเอ็ดเพื่อนสาวทั้งสองของเธอ อย่างเบื่อหน่าย มือที่จับฟองน้ำค่อยๆถูจานอย่างถนุถนอม

              "หวาย โทดทีจ้า"อาโอะว่าพลางหยิบฟองน้ำขึ้นมาแล้วเดินไปข้างๆตัวริอาที่ยังคงล้างจานต่อไป

              "จะไปช่วยเดียวนี้ละ"ยูมิพูดก่อนจะวางจานที่ตนเก็บจนหมดทุกโต๊ะในร้านไปวาง กองไว้ที่ล้างจานที่พวกริอาและอาโอะล้างกันอยู่พลางหมุนเปลื่ยนป้ายหน้าร้านให้ ผู้คนได้รับรู้ว่าร้านนี้ปิดแล้วอย่างรีบร้อน จากนั้นจึงวิ่งไปช่วยพวกริอาและอาโอะล้างจานต่อ

              กริ๊ง กริ๊ง

              เสียงกระดิ่ง ข้างประตูของร้านเบเกอรี่ที่ทั้งสามสาวอยู่ดังขึ้นเพื่อบ่งบอกว่ามีคนที่มา ผิดเวลาได้เข้ามาข้างในร้านซะแล้ว ยูมิที่ยังไม่ทันจะได้แตะจานจึงต้องเดินไปบอกอาคันตุกะผู้มาผิดเวลาอย่าง หน่ายๆ

              "ขอโทษนะคะ คือร้านของเรา..."ไม่ทันที่ยูมิจะเอ่ยปากดวงตากลมโตของเธอก็เบิ่งขึ้นอย่าง ตกใจก่อนจะเอ่ยเรียกอาคันตุกะที่เข้ามาในร้านผิดเวลา"คุณพ่อ"

              "ขอโทดทีนะ แต่พ่อมีเรื่องจะมาบอกกับพวกลูกนะ"พ่อของยูมิหรือคุณไซโต้เอ่ยขึ้น เขาเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ชื่อดังต่างๆที่ขยายวงกว้างรวมถึงร้านนี้ด้วย เช่นกัน ข้างๆคือคุณเอล็กซานดร้าเชฟที่มีชื่อเสียงด้านวงการขนมซึ้งเป็นพ่อของริอา และคุณคิโนโมโตะพ่อของอาโอะ ทั้งสามสาวมองหน้าพ่อทั้งสามอย่างงุนงงก่อนจะเอ่ยปากถาม

              "มีอะไรกับพวกเรางั้นหรอคะ?"

              "คืองี้นะ"คิโนโมโตะเอ่ยแล้วกระแอ่มขึ้นเบาๆก่อนจะพูดต่อ"พวกลูกก็ใกล้จะเปิดเทอมกันด้วยแล้วใช่ไหม?"

              "ใช่แล้วคะ"ทั้งสามสาวตอบพร้อมกัน ทั้งสามหันมาสบตากันเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าผู้เป็นบิดาทั้งสามต่อ

              "แล้วเพื่อนของพวกพ่อที่เป็นผ.อ นะ..."ไซโต้พูดค้างไว้แล้วทำสีหน้าที่ค่อนข้างหนักใจโดยทั้งสามสาวเหงื่อ เริ่มซึมออกมาความเครียดกำลังครอบงำพวกเธอทั้งสาม

              "แล้ว...แล้วทำไมหรอคะ?"ทั้งสามสาวถามเสียงเครียด

              "เขาอยากจะให้พวกลูกไปเรียนที่โรงเรียนด้วยนะ"เอล็กซานดร้าพูดยิ้มๆ

              "โอ๊ย นึกว่าอะไรซะอีก"เสียงจากสาวที่ขรึมที่สุดพูดพลางส่ายหัวไปมา

              "อยู่ที่นั้นก็ระวังตัวด้วยนะ"ไซโต้พูดแล้วลูบหัวทั้งสามสาวอย่างเอ็นดู

              "รับทราบคะ!!"














     

     
              ...สวัสดีครับผม นีโร ริเวอร์ไลน์ ชายาคือจอมปีศาจ เหตุเกิดก็เมื่อตอนที่ผมไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่มีคนบาดเจ็บ 43 สาหัส 26 icu 7 จึงทำให้ผมโดนไล่ออกไปโดยปริยาย...

              เด็กหนุ่มผมสั้นระดับต้นคอสีเงินยุ่งๆปลิวสไวยตามสายลมยามเย็นอย่างสวยงาม นัยตาสีแดงจับจ้องพระอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังคล้อยต่ำ ท่าทางที่กำลังเก๊กอยู่เบื้องหน้าตากล้อง(?)อย่างมุ่งมั่นกลางถนนใหญ่แห่ง หนึ่ง

              ...ไปสมัครโรงเรียนที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับสักคน ทั้งที่ผมอยากจะใช้ชีวิตม.ปลายอย่างเต็มที่ก็เท่านั้นเอง...อุบ!...

              และแล้วกระดาษแผ่นนึงก็ได้ปลิวมาแปะหน้าของเด็กหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์เพ้อ ฝัน นีโรทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหยิบกระดาษที่แปะหน้าขึ้นมาดู

              "...ใบสมัคร...นักเรียน...?!"เด็กหนุ่มละสายตาออกจากตากล้องพลางกวาดตา มองกระดาษที่ปลิวมาตรงหน้าเข้าอย่างพินิจก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา

              "รอก่อนเถอะ จะยำให้เละเลย!!"














     
     
     
              "สวัสดีคะคุณหนู มีอะไรให้อิฉันรับใช้ไหมเจ้าคะ"เสียงออดอ้อนจากคนรับใช้พูดขึ้นแก่เจ้านาย ของเธอ ดาร์ก ไนท์ เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสั้นสีเงินเป็นประกายอย่างงดงาม ถ้ามองคร่าวๆเธอออกจะเหมือนเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ นัยตาสีเงินเหมือนดั่งสีผมตวัดมองสาวใช้ชั่วครู่ก่อนจะทิ้งตัวนั้งลงบนโซฟา ตัวใหญ่หรูหรา

              "คุณหนูคะ มีจดหมายค้า~"คนใช้อีกคนวิ่งเอาจดหมายมาให้อย่างกระตือรือร้น ดวงตาสีเงินขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจแล้วหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านอย่าง เบื่อๆ

              ทั้งห้องเงียบไปชั่วครู่บรรยากาศเริ่มก่อตัวทะมึนขึ้นเรื่อยๆ ทุกสายตาจ้องมองไปยังเจ้านายของตนอย่างหวาดๆ เจ้านายที่ตอนนี้กำลังของขึ้น...?!

              "ไม่เจียมตัว!"เสียงแรกที่เอ่ยออกปากเรียวๆ นัยตาสีเงินเริ่มชายแววพิโรธถลึงตามองกระดาษเจ้ากรรม มือสั่นระริก ออร่าอำมหิตไหลท่วมตัวประกอบ บ่งบอกได้ว่าเธอกำลังโกรธสุดๆ คนใช้ที่กระดี้กระด้าบัดนี้เหงื่อเริ่มไหลซึมไปทั่วตัว เพราะเริ่มหวั่นๆกับคุณหนูของพวกเธอที่อยู่เบื่องหน้า

              "รับไปเตรียมของให้ฉัน...เดียวนี้เลย!!"














     
     
     
     
              "เฮ้ซุส มีจดหมายมาหานายแนะ"เด็กสาวเรือนผมสีแดงออกส้มยาว มีผ้ามามัดรวบกันไว้ทั้งสองข้างเป็นมัดกลมๆ นัยตาสีฟ้าของเธอมองบุรุษร่างสูงใหญ่ผมสีชมพูอ่อนอมแดงหน่อยๆถูกรวบไว้ยาว ถึงกลางหลัง ใบหน้าคมคายค่อยๆหันมามอง คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยจากนั้นนัยตาสีชมพูอ่อนจึงมองจดหมายเจ้ากรรมที่ เด็กสาวถืออยู่

              "คงจะมีจดหมายจากสาวสวยส่งมาให้ฉันสินะ นี้ละน้าคนหล่อ"ร่างสูงเปรยอย่างยิ้มๆก่อนจะหยิบจดหมายบนมือของสาวน้อยที่ทำ หน้าเอือมระอาใส่

              "หลงตัวเอง"เด็กสาวว่าพลางมองคนเบื้องหน้า ซุส ริซซิ่ง ซิลเวอร์ ค่อยๆเบือนหน้าไปทางอื่นพลางทำหน้าเอือมราอายิ่งกว่าให้สาวน้อยที่ชักจะ เริ่มเดือดปุดๆกับท่าทีของพี่ชายตน

              "เอาเหอะ ขี้เกียจทะเลาะกับคนขี้อิจฉา ไหนๆ"ไม่ว่าเปล่า บุรุษร่างสูงก็อ่านจดหมายที่หยิบมาจากมือของสาวน้อย มือข้างนึงที่ถือจดหมายอยู่อ่านอย่างพินิจ และมืออีกข้างเสยผมของตน สำหรับสาวๆทั่วไปอาจจะมองว่าเท่อย่าไม่มีใครเทียบได้ แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ วีนัส  ริซซิ่ง ซิลเวอร์ สาวน้อยผู้เกลียดการอ้อมค้อมเลย

              "ในนั้นเป็นไง"วีนัสว่าพลางกระโดดหยองแหยงดูพี่ชายที่ยืนตัวแข็งโป๊ก เมื่อรู้สึกตัวก็รีบซ่อนจดหมายให้สาวร่างเล็กให้สงสัยมากกว่าเดิม

              "ในนั้น...เขียนว่าอะไรห้ะ!!"ไม่ว่าเปล่าคุณเธอก็พยายามแล้วพยายามอีก พยายามที่จะคว้าจดหมายของเจ้าคนน่าสงสัยตรงหน้า แต่เพราะมันตัวสูงเกินเหตุจึงทำให้มือของสาวน้อยเอื้อมไปไม่ถึง

              "เดียวๆ อ้ะ!"

              "เสร็จฉัน ละ!!"

              และแล้วความพยายามก็ทำให้วีนัสแย่งจดหมายมาจงได้เธอเริ่มเพ่งพินิจจดหมาย เจ้ากรรมที่ทำให้ผู้เป็นพี่อยู่ข้างตัวเหงื่อเริ่มไหลซึกอย่างหวาดๆ

              "...บังอาจอุบอิบฉันงั้นหรอเจ้าพี่บ้า!"เมื่อเงียบได้พักหนึ่งวีนัสก็พูด ขึ้น ตาทั้งสองหรี่เล็กลงอ่านตัวหนังสือในจดหมายพลางเหล่ตามองผู้เป็นพี่ที่ถูก ประนามว่าบ้าด้วยรังสีอำมหิต

              "ฉันขี้เกียจเลี้ยงเด็ก"ซุสว่าแล้วจิ้มหน้าผากของเด็กน้อยที่ไม่อยากเลี้ยง อย่างหน่ายๆ จากนั้นจึงสาวเท้าเดินจากไป ปล่อยให้เด็กสาวให้เดือดดาลขึ้นมาอีกครา

              "คอยดูเถอะ ฉันจะตามไปรังความญนายจนสุดขอบนรกเลย!!"เธอป่าวประกาศเสร็จสรรพก็เดินปึงปัง ห่างออกไป บุรุษที่เคยดี้ด้าค่อยๆหันมามองร่างบางที่เดินงุดๆ ปากที่เม้มอยู่ค่อยๆคลายสแยะยิ้ม

              "ถ้าทำได้ก็ลองดูสิ!"















     
     
     
              "หน้า!!"เสียงเอ่ยชัยชนะดังขึ้น ดาบไม้ได้ตีลงกลางเสกหน้าของคู่ต่อสู้ทันที

              "สำนักดาบคุโรซากิเป็นฝ่ายชนะ!!"เสียงของกรรมการดังขึ้นแล้วชูผ้าสีขาวให้ ฝ่ายของผู้ชนะ คุโรซากิ ยามิ เด็กสาวอายุ18ปี ที่ติดจะหล่อเหลามากกว่าสวย

              "กริ๊ดดดด!!เท่ที่สุด!!"สาวๆที่อยู่ในสำนักส่งเสียงกริ๊ดกันดังลั่นไปทั่ว มือทั้งสองข้างค่อยๆถอดหมวกออกมา

              เรือนผมสั้นสีดำขลับค่อยๆสะบัดพลิ้วไปตามสายลม นัยตาสีม่วงกวาดตามองหล่าสาวๆ แล้วค่อยๆโปรยยิ้มให้ เล่นเอาคนทั้งห้องต้องหลงเสนห์เข้าเต็มเบา โดยเฉพาะสาวๆที่กรี๊ดเธอบัดนี้ได้ล้มครืนกันไปคนสองคน

              "วันนี้ลูกก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ"เสียงแหบพร่าแต่แจ่มใสเอ่ยขึ้นให้ผู้เป็นลูกหันไปมอง

              "ขอบคุณฮะคุณแม่"เธอกล่าวยิ้มๆ

              "ถึงเวลาแล้วนะยามิ"ใบหน้าที่ยิ้มแย้มบัดนี้ได้กลายเป็นเคร่งขรึมแทน ผู้เป็นลูกพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะตอบผู้เป็นแม่

              "ถ้านั้นคือความประสงค์ ผมก็จะทำฮะ"













     
     
     
              "คุณจะพบเนื้อคู่..."เสียงของสาวกลางคนเอ่ยเสียงขรึมพลางชี้ไปยังหญิงสาวที่ เบิ่งตาก้างอย่างตกใจ นัยตาสีน้ำเงินค่อยหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเอ่ยต่อ"ที่สะพานควายแถวพารา ณศรี"

              "จ จริงหรือเปล่า!"หญิงสาวถามซ้ำให้แน่ใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่เริ่มไหลซึมแต่สีหน้าบ่งบอกได้ถึงความดีใจ

              "ไม่ผิดแน่"เธอกล่าวก่อนเสียงเข้ม พลางพยักหน้าช้าๆ

              "แหมขอบใจนะที่มาดูหมอให้ นี้เงินนะ"หญิงสาวเอ่ยขึ้นก็ยื่นเงินปึกนึงให้ แล้วเดินออกจากห้องที่ปกคลุมไปด้วยสีดำทะมึนไปอย่างร่างเริง ผู้ที่ถูกเรียกชื่อ อิโซยะ มิฮารุ เธอมองคนที่เดินจากไปจนลับตาแล้วค่อยๆรวบรวมเงินมาเก็บไว้ในกระเป๋า

              ...เบื่อจัง...

              "มิซจัง มีจดหมายจ๊ะ"เสียงแหบพร่าพูดพลางยื่นจดหมายให้ผู้เป็นหลานสาว มิซมองจดหมายอย่างเพ่งพินิจก่อนจะหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน ตาค่อยๆเบิ่งโตขึ้นก่อนจะเป็นสีหน้าที่เคร่งขรึมต่อ

              "...โรงเรียนfenics...ไม่ธรรมดาซะแล้ว..."         













     
     
                                                               
              "นี่ทูริ...ฉันคิดดีแล้วสินะ...ใช่ไหม..."เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสลด ผมสีเขียวอ่อนๆสั้นๆฟูๆค่อยๆปลิวไปตามสายลมเย็นๆทีปลอบประโลม ตาสีม่วงอ่อนพาดพิงไปที่ต้นไม้ที่ไม่สามารถตอบกลับมาได้แต่อย่างใด แต่ส่งเสียงซาๆของใบไม้ฟังดูระรื่นหูให้ แต่ไม่ใช่เวลานี้ที่เขา ชิอัน อาร์ค ราฟาเนียร์ จะมีอารมณ์ฟังเสียงของมัน

              "ดีจ้า ชิลลี่คุง"อาคันตุกะลึกลับพูดเสียงใส พลางโผล่ออกมาจากต้นไม้ที่ถูกตั้งชื่อว่าทูริ หมวกหมีขาวที่ใหญ่จนมิดครึ่งหน้าทำให้ไม่เห็นหน้า ชุดคลุมสีขาวสะอาดและใหญ่หลวมๆดูไปแล้วก็เหมือนบาทหลวงยังไงอย่างนั้น แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น

              "คุณเป็นใครหรอฮะ"ชิอันพูดพลางกวาดตามองทั้งตัวของอาคันตุกะที่ไม่รู้จัก อย่างสงสัย อาคันตุกะอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอียงคอให้หน่อยๆแล้วพูดขึ้น

              "อยากจะแก้ตัวหน่อยไหมละ"

              "แก้ตัว? หมายความว่าไงครับ?"ชิอันว่าพลางเอียงคอตาม

              "ฉันจะให้นายมาเป็นครูโรงเรียนของฉัน"อาคันตุกะพูดแล้วฉีกยิ้มแฉ่งแล้วพูดต่อ"จะว่าอะไรไหมเอ่ย"

              "จ จริงหรอครับ ไม่หลอกกันนะฮะ"ชิอันถามซ้ำตาประกายไปด้วยความดีใจ มือของเด็กหนุ่มจับมือของอาคันตุกะผู้ใจดีอย่างถนุถนอม

              "ตกลงสินะ งั้นก็ยินดีต้อนรับชิอัน อาร์ค ราฟาเนียร์"













     
     
     
     
              "ไปแล้ว?!"เด็กหนุ่มตะโดนเอ่ยถามอย่างตกใจดวงตาสีแดงอัญมณีสั่นระริกด้วย ความแปลกใจ ผมสีดำระต้นคอส่ายไปมาเพื่อเรียกสติแล้วถามต่อ"ทีไหนครับ?"

              "เอ๊...รู้สึกจะเป็นโรงเรียนอะไรสักอย่างนี้ละ อะไรน้า..."ผู้ถูกถามทำท่านึก เสียงแหบพร่าบอกถึงอายุร้องอืออาหลายรอบก็ยังไม่ได้ความปล่อยให้เด็กหนุ่ม ยืนหัวเสียแล้วเดินวนไปมา นี้ไม่ใช่นิสัยของเข้าเลย

              "หือ?"เด็กหนุ่มชะงักเล็กน้อยกับกระดาษแผ่นนึงที่ตกลงเบื้องหน้าของเขา ที่เขียนด้วยตัวอักษรสละสลวยเบาบาง"ถึง โกเมน  ลักขณาอภิรักษ์"

              ...โรงเรียน fenics ?...

              "ขอบคุณครับ ผมไปละนะยาย"ทันที่ที่ได้เห็นจดหมายเขาก็วิ่งกรูดออกไปทันที โดยที่ร่างสตรีสูงวัยชะงักเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆขยับร้อยยิ้มอย่างเอ็นดูให้ กับเด็กหนุ่มที่วิ่งหายลับไป...ถายในห้องที่ปกคลุมไปด้วยสีดำทะมึนและร่อง รอยที่เคยมีหญิงสาววัยกลางคนอยู่

              "สงสัยคงถึงเวลาแล้วสินะ..."













     
      

              "ไม่เอา! ออกไปนะ!!"เสียงเล็กร้องเสียงแข็งพลางพลักร่างของเด็กสาวคนนึงออกสุดแรง

              "เจ็บ..."ผู้ถูกพลักครางเสียงเบาพลางคลำหัวตนหน่อยๆโดยมีคนรับใช้คนอื่นๆคอยพยุงให้

              "คนๆไหนฉันก็ไม่เอาทั้งนั้นยกเว้นแม่นมของฉันเซลิเรีย เข้าใจไหม!!"ไม่ว่าเปล่าเธอก็ปาดอกไม้ที่อยู่ในแจกันอย่างไม่ใยดีใส่คนๆเดิมที่ยังไม่หายเจ็บจากการถูกเธอคนนี้พลักใส่

              "ต แต่เธอตายไปแล้วนะคะ พร้อมกับคุณท่าน..."

              "หุบปาก!! นี้ไม่ใช่เรื่องจริง! พวกเธอหลอกฉัน!!"เธอหวีดร้องพลางเขวี้ยงของที่อยู่ข้างมือของตนใส่เหล่าคนรับใช้

              "แต่ว่าทั้งคุณท่าน นายหญิง และคุณเซลิเรียตกเครื่องบินเสียชีวิตไปตั้งแต่คุณหนูอายุ8ขวบแล้วนะคะ!"

              "หยุดนะ! หยุดพูดเดียวนี้!!"เสียงที่ค่อยๆแหบพร่าร้องอย่างหมดแรง ตัวค่อยๆทรุดลงนั้งกับพื้นทั้งน้ำตา แรงที่จะปาของใส่พวกคนรับใช้ไม่มีเหลืออีกแล้ว โดยคนรับใช้คนอื่นๆก็มองคุณหนูของตน

              "คุณหนู..."ไม่ทันที่คนใช้อีกคนจะเอ่ยก็มีนึงมากันห้ามเอาไว้พลางสาวเท้าเดินไปหาเด็กสาวโดยไม่ฟังคำเตือนของคนรับใช้คนอื่นแม้แต่น้อยจนกระทั้งไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอพอดี

              "เธอสินะเพทาย่า ดิลอชเช่ ฮัตต์ คุณหนูของฉันนะ"เธอเอ่ยเสียงเรียบพลางนั้งยองๆเพื่อมองดวงหน้าที่เป็นรูปไข่น่ารัก ผมสีบรอนตรงยาว และตาสีเงินที่เปื้อนคาบน้ำตาที่จ้องมองผู้ที่ตนพึ่งพลักไปอย่างสงสัย

              "ฉันฟูจิวาระ ชิเนโอะ แม่บ้านคนใหม่ของเธอ"เธอเอ่ยยิ้มๆ มือข้างนึงของเธอค่อยๆเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มของคนหนูของเธออย่างอ่อนโยน

              "ถ ถึงมาทำดีด้วยฉันก็ไม่ยอมรับเธอหรอก..."ไม่ทันที่เพทายจะพลักแม่บ้านคนใหม่ของเธอออกไปก็โดนกอดซะก่อน แต่เป็นกอดที่อบอุ่น...เหมือนกับแม่นมของเธอ...

              "ยัยเด็กโง่เอ้ย ฉันไม่เคยคิดอยากจะทำดีกับเธอซะหน่อย"เนโกะพูดเสียงเรียบพลางลูบหัวของเพทายเบาๆก่อนจะค่อยคลายออกแล้วพูดต่อ"เพราะฉันเป็นแม่บ้านที่ไม่ใช่แม่บ้านยังไงละ"

              "...พูดบ้าอะไรไม่เห็นจะเข้าใจสักนิด"เด็กสาวพูดเสียงบูดเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าหนีใส่

              "นี่ของเธอยัยคุณหนู"เนโกะไม่สนใจแต่เพียงใดกับท่าทีที่หยิ่งยโสของเพทายแม้แต่น้อย ว่าพลางก็เอาดอกไม้ช่อนึงมาเคาะหัวเล็กน้อย

              "อ อะไร"เพทายคลำหัวเล็กน้อยอย่างงงๆ

              "ไปเรียนที่นี่ซะ นี่เป็นคำลาจากแม่นมคนเก่าของเธอ" 
















     
      
     
              "ไอ้เจ้านั้นมันจะโผล่มางั้นหรอ..."เสียงเล็กที่ดัดให้ขรึมเอ่ยขึ้นพลางมุ่นหัวคิ้วเข้าหากันอย่างจริงจังโดยมีผู้ร่วมสนทนาสามคน

              "ใช่แล้วครับ"บุรุษคนเดียวในกลุ่มตอบคำถามพลางพยักหน้า

              "แล้วจะเอาไงต่อ"ว่าพลางก็หันไปชี้ผู้ร่วมสนทนาอีกคนที่ทำสีหน้าครุ่นคิดไปครู่นึง

              "ถามได้ ใครที่ไปยุมันก็ต้องให้ไปจัดการนะสิ"เธอตอบอย่างหัวเสียก่อนจะปัดมือไปมาอย่างรำคาญ

              "อาจารย์ของพวกคุณนะหรอ"

              "อดีตยะ"ทั้งสองเอ่ยค้านพร้อมกันเสียงแข็ง

              "คร้าบๆ"เด็กหนุ่มเอ่ยสงบศึกพลางยกมือขึ้น

              "สรุปว่าพวกเราต้องรับผิดชอบสินะ"เธอเอ่ยถามซ้ำพลางกุมขมับอย่างหัวเสีย

              "ว่ากันว่าอดีตอาจารย์ของพวกคุณกำลังรวบรวบคนเพื่อประตูหายนะนั้นอยู่สินะครับ"เสียงทุ่มเอ่ยยิ้มๆ

              "อย่าบอกนะว่านายจะ..."

              "...ไม่มีทางหรอกครับ ผมหมายถึงคนที่รวบรวมอยู่ตางหากละครับ"เด็กหนุ่มเอ่ยขัดเล็กน้อยพลางชูกระดาษขึ้นมาสามแผ่น

             "บัตรเชิญงั้นหรอ"เสียงหวานเอ่ยขึ้นพลางจ้องไปยังกระดาษ'รับเชิญ'อย่างครุ่นคิดก่อนจะพูดต่อ"คิดจะใช้งานพวกเราอีกแล้วสินะ"

              "ไปดีไหม"เพื่อนสาวข้างตัวเอ่ยถามพลางหยิมกระดาษแผ่นนึงในมือเด็กหนุ่มขึ้นมาดูอย่างพินิจ

              "หึ งานรื่นเริงแบบนี้ก็น่าสนุกใช้ย่อยนี่เนอะ"





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×