คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO ☆
ชิบหาย!
พูดได้คำเดียวเลยว่าชิบหายมากสำหรับบยอนแบคฮยอนที่ตอนนี้กำลังนั่งหน้าสลอนอยู่ในรถของรุ่นพี่ปีสองหรือพี่แท้ๆของเขาอย่างบยอนแบคบอมที่กำลังเดินทางไปมหาวิทยาลัยเจย์ที่เข้าศึกษาอยู่ และวันนี้เป็นวันรับน้อง ซึ่งทุกคนห้ามมาสาย..
ห้าม มา สาย !
เสียงพี่ๆในมหาวิทยาลัยยังดังก้องในหัวผมเป็นฉากๆสูทสีดำที่แสนจะเรียบร้อยพร้อมกับอาคารเรียนที่คล้ายๆพระราชวัง ตอนที่พวกผมรู้ตัวว่าติดมหาวิทยาลัยเจย์แล้วก็กระโดดลั่นพร้อมกับดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน..
หมายถึงพวกเพื่อนผมน่ะครับที่ดื่ม แต่ผมไม่มีโอกาสได้แม้แต่แตะ ไอ้ห่า! พี่เดินคุมตั้งแต่เลิกเรียนมัธยมหกยันไปร้านเหล้า แบคฮยอนแทบก้มกราบตีนตอนที่ขอให้ไป สุดท้ายก็อดแดกเหล้าที่ไอ้จงอินอุตส่าห์เลี้ยงทั้งที
‘’พี่แบคบอม กี่โมงแล้ววะพี่!’’ ผมเขย่าไหล่พี่เหมือนจงใจเร่งเร้าให้ตอบ พี่แบคบอมก็เงียบ เงียบ เงียบ!
ผมเลือกที่จะถอนหายใจและไม่ง้อเขา คงงอนที่ขอให้กลับบ้านตอนไปกินเหล้า แต่ตอนนี้หลังจากที่เหลือบไปเห็นนาฬิกาของรถดูเหมือนจะแปดนาฬิกายี่สิบนาที
นัดกูไปแปดโมงครึ่ง.. ไอ้ฆวย..
ผ่านไปสามวินาทีไฟเขียวเหมือนกระดิ่งสวรรค์ก็มาถึง พี่แบคบอมเหยียบมิดไปอย่างรวดเร็วปาดรถนู่นนี่ตามฉบับนักซิ่งเก่า ใช่ อ่านไม่ผิดแล้วแต่ถ้าอ่านผิดแปลว่าคุณโง่จบข้ามไป เล่าถึงประเด็นต่อคือพี่แบคบอมเนี่ยเคยเป็นนักซิ่งเก่าหรือนักแข่งรถที่โม้นักโม้หนาอะไรของเขาหรอกตอนนี้ศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเจย์อยู่วิศวะ ใครสนใจโทรมาเบอร์ 191 สนใจสั่งพิซซ่าได้ ขอบคุณครับ
เอี้ยดดดดดดดดดดดด!
หลังจากที่แพล่มอยู่ในใจได้ไม่นานก็มาถึงมหาวิทยาลัยได้ภายในสองนาที! แบคฮยอนรู้สึกรักพี่ขึ้นมาห้าร้อยหกสิบเปอร์เซ็น รีบหันไปขอบคุณพร้อมกับโดนสันหนังสือฟาดหน้าเข้าไปเต็มๆ พี่ชายทำสายตาประมาณว่าอยู่โรงเรียนนี้มีมารยาทใช้บ้างก็ดีไม่ต้องกลัวเสีย ห่า.. เอาเป็นว่า ช่างมัน รีบเข้ามหาวิทยาลัยเหอะ
‘’แบคฮยอน!’’ เสียงเรียกทำให้ผมสะดุ้งก่อนที่จะมองหาต้นตอของเสียงก็ผมว่าโอเซฮุนเพื่อนสนิทสุดแสนเซงฮวย เฮงซวยพอ แต่ผมก็รักมันมาก เราเรียนคณะคนละคณะกัน.. มันโดนห้อยป้ายชื่อ ‘ น้องฮุน ‘ ที่ทำให้ผมแทบขำลั่น แต่ดูเหมือนจะขำไม่ออกเมื่อดูเวลา
รถพี่แบคบอมเวลาช้าสองนาทีสัด!
เซฮุนกำลังโดนพี่ๆที่คณะนิเทศปะแป้งพร้อมกับหัวเราะอย่างสนุกสนานกัน.. เดี๋ยวนะ.. พูดถึงคณะ ผมแนะนำตัวอะไรไปบ้างยังนอกจากชื่อ? งั้นก่อนที่จะรู้จักโอเซฮุนฮวยจุ้กกรู้อะไรนั่น รู้จักแบคฮยอนก่อน
บยอนแบคฮยอนอายุ19ปีเมื่อหลายวันก่อน เพศชาย มีพี่ชายอยู่คนเดียว แม่คนเดียว พ่อคนเดียว หรือคุณมีแม่ห้าคนละ? ถุย เรียนอยู่คณะแพทย์ศาสตร์..
…
ใช่ครับแพทย์ศาสตร์ อย่าเพิ่งตกใจ คนที่ดูท่าทางไม่น่าจะรักษาใครได้เนี่ยนะ!! วอทเดอะเฮลลลล อะไรเทือกๆนั้น ส่วนเซฮุนเรียนนิเทศครับ ขอบอกว่ามันไม่แปลกที่เรียนคณะนั้นแต่เสือกเรียนเป็นพวกเบื้องหลัง ผมนึกว่ามันจะเป็นนายแบบอะไรแบบนั้นซะอีก เอาเถอะพอแค่นี้เอาเป็นว่าผมมีเพื่อนในมหาวิทยาลัยนี้แค่สามคนเท่านั้น
‘’นั่งคิดอะไรของมึง คณะมึงเรียกรวมแล้ว!’’ เซฮุนเขย่าผมจนผมตอนนี้ตาโปนยิ่งกว่านกกระจอกเทศ อืม มันไม่เกี่ยวแต่ผมชอบเปรียบเทียบกับมันเพราะฉะนั้นผมถูกโอเค!
ผมหันขวับไปมองหน้ามันก่อนที่จะระบายยิ้มออกมาอย่างละห้อยแล้วรีบสาวตีนหาคณะตัวเองอย่างเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงห้าสิบวินาทีด้วยซ้ำที่ผมมาถึงหน้าคณะ รุ่นพี่แต่ละคนหน้าเข้มมากบอกเลย ตอนนี้กำลังเดินพูดเช็คชื่อและไล่ไปเข้าแถวพร้อมกับป้ายห้อยคอปัญญาอ่อนอันนึงที่เขียนชื่อแต่ละคนไว้ว่า ‘น้องเร็นนี่’ และ ‘พี่ชานซอง’ อะไรแบบนั้นที่แอบเห็นมาอะครับ
‘’บยอนแบคฮยอน’’ เสียงนึงเรียกขึ้นทำให้ผมต้องรีบเดินไปหาด้วยความรวดเร็ว ทำความเคารพรุ่นพี่หนึ่งรอบ มหาวิทยาลัยนี้ขึ้นชื่อเลยว่าดังและไม่ปกติโครตๆ มันเหมือนเป็นที่เรียนของคนมีระดับเหมือนโรงเรียนบริหารเสน่ห์เจ้าหญิงเจ้าชายในการ์ตูนบาร์บี้ที่น้องญาติผมชอบมาเปิดดูและมโนบ่อยๆว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเต้นรำสะดุดตกบันไดนอนโรงบาลอยู่ตอนนี้ พอเข้าเรื่อง ตัวเอกเรื่องนี้เป็นอะไรวะชอบนอกเรื่อง
พี่เขาเพ่งมองพิจราณาร่างกายผมอยู่สักพักนึงก่อนที่จะยื่นป้ายชื่อให้ เออรู้นะว่ากูสูงแต่ถ้าจะมองต่ำจนต้องก้มขนาดนั้นมึงไม่เอาเก้าอี้มาต่อตัวกูคุยเลยล่ะห่า มีกฎข้อไหนบอกว่าห้ามหมอเกิดมาเตี้ยป้ะ ตีกับกูได้นะ! เอามีดปักแม่ง ฟหกด่าสวงผปแอทมใฝ!
‘’ลู่หาน’’ เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้งแต่ทำให้ผมสะดุ้ง ไม่ต้องด่าครับ มึงชื่อลู่หานเหรอ? ไม่ใช่ดิ นั่นชื่อเพื่อนผมอีกคนที่ตอนนี้กำลังไปห้อยป้ายเชือกมา มันถูกมองไม่ต่างอะไรจากผม เพราะส่วนสูงพอๆกันถึงแม้ว่ามันจะสูงกว่านิดหน่อย
นิดหน่อยเท่านั้นแหละ!
‘’กว่าจะโผล่หัวมานะครับที่รัก..’’ ลู่หานกระซิบเสียงดังลั่นงงใช่มั้ย? คือมันพูดเสียงดังแต่เอาหน้ามากระซิบอะเข้าใจตรงกันนะ
‘’ตื่นสายนิดหน่อย ทำไมวะ’’ ผมถามด้วยท่าทางสงสัย
‘’มึงจำได้ปะวะ ที่มีคนเคยบอกว่ามหาวิทยาลัยนี้มันแปลก เข้ามาเรียนแล้วเป็นเหมือนเจ้าชายอะไรพวกนั้นอะ’’ ลู่หานอธิบายเร็วๆ ผมก็พยักหน้าตอบ คนที่มาเรียนที่นี่มีสิทธิ์ที่จะได้โกอินเตอร์ถึงต่างประเทศ บางคนก็ได้ไปทำงานในวัง
‘’เออ ทำไม’’ ผมก็เงียบ พอนึกๆดูเรียนวิศวะของพี่แบคบอมแม่งสุดยอด ชุดของคณะแต่ละคนไม่เหมือนกัน เม็ดกระดุมลายเสื้อ สัญลักษณ์ที่แปลกนิดหน่อยพร้อมกับยศหรือชั้นปี พี่ผมใส่ไปมหาวิทยาลัยทุกวัน จนทำให้เหมือนผมหลุดมาอยู่กับพี่ชายที่พร้อมจะทำงานในวังทุกเมื่อ -_- เออเพี้ยนดี
เท่าที่รู้ชุดนิเทศสีน้ำตาล ชุดแพทย์สีขาว ชุดวิศวะสีดำเท่าที่รู้ก็มีแค่นี้อะจริงๆ มันจะมีดาวปักไว้ตรงใกล้ๆเข็มว่ายศหรือชั้นปีนั่นแหละที่เท่าไหร่แต่ละดาวจะเหมือนพัฒนาการไปเรื่อยๆ นักศึกษาที่จบจากโรงเรียนนี้มีงานทำร้อยล้านเปอร์เซ็นแน่นอน!
ที่นี่มีทุกอย่างและที่นี่มีหอพักให้เรานอน จนกว่าจะจบการศึกษาเราจะไม่กลับบ้าน ทุกคนเต็มที่กับการเรียน ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงเรียนเลยสักครั้งไม่ว่าพ่อแม่จะตายหรือป่วยอะไรทั้งสิ้น!
โหดสัสรัสเซีย..
‘’นี่แหละครับคือการรับประกันว่าคนของที่นี่มีคุณภาพ ทั้งการเรียนดีกีฬาเด่น’’ หยุด นั่นไม่ใช่เสียงผม นั่นคือเสียงของประธานนักเรียนหรือสส.เหมือนประเทศนั่นแหละครับ เขาปกครองกันอย่างงี้ เท่าที่พี่แบคบอมเล่ามา ว่าชีวิตที่เคยซิ่งอย่างเต็มที่ก็ดับไปตั้งแต่เข้าเรียนเพราะแม่ แต่ผมว่ามันน่าตื่นเต้น ดีออก..
' ยูนิเวอร์ซิตี้เจย์คือสถานที่ที่ตระกูลบยอนทุกคนมีหน้าที่ศึกษาต่อแค่ที่นี้ที่เดียว '
อยู่ๆเสียงคุณป๊าก็ดังขึ้นมาจนผมย้อนนึกถึงวันที่เริ่มเกิดมาและถูกกำหนดเป้าหมายชีวิตไว้เรียบร้อยแล้ว
น่าเบื่อ..
‘’ปีนี้เราจะทำการจับฉลากเพื่อร่วมหอ ซึ่งประธานของคณะเราก็ได้จับมาให้เป็นที่เรียบร้อย’’ แต่ดูเหมือนว่าคนที่พูดอยู่จะเป็นแค่ผู้จัดการของประธานคณะไม่ใช่ประธานโรงเรียนนี่หว่า.. กรรม งั้นเอาใหม่ พอๆ
‘’สรุปปีนี้ปีหนึ่งทุกๆคนได้ร่วมหอกับปีหนึ่งคณะนิเทศนะครับ’’ เสียงพี่ประธานสุดหล่อพูดทุกคนเกิดอาการเงียบกริบขึ้นมาทันใด.. อธิบายเพิ่มเติมอีกอย่างแทนความเงียบคือมหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยชายล้วน
‘’และทุกคนมีบัดดี้กันในห้องแล้วใช่มั้ยหืม..’’ ไวเท่าความเร็วแสงผมคว้าหมับเข้าที่แขนไอ้ลู่อย่างจังพร้อมกับมันพอดี พี่ๆบางคนมองพวกเราแล้วหัวเราะ พวกเขาเหมือนเจ้าชายมากอะ หลุดมาจากเทพนิยายชัดๆ ส่วนพวกผมยังใส่ชุดมัธยมเก่าๆอยู่ จึงทำให้รู้ว่าใครมาจากไหนบ้าง แต่ละที่อะดังๆทั้งนั้น -_-
พวกพี่ๆคล้ายๆสตาฟแต่พวกประธานคณะเรียกพวกเขาว่าแบ็คการ์ดเหมือนเป็นหน้าที่ที่ทรงเกรียนจังเลย.. เกียรติสิครับเอ้ยโทษๆ 5555555555555555555555555555555555
‘’ยืนทำแมวไรครับรอพ่องตัดริบบิ้นเหรอ’’ ลู่หานตบหัวผมดังป้าบไปทีนึงก่อนจะดึงมือเดินตามขบวนนักเรียนแพทย์ แต่ละคนหน้าตาอิมพอตมาจากเกาหลีและหล่อสวยกันทั้งนั้น เริ่มจะสงสัยว่าเดินอยู่ในคณะแพทย์หรือนิเทศกันแน่?
ตอนที่ผมกำลังจะเดินไปอยู่ๆก็ได้ยินเสียงพี่ประธานคณะเดินมากระซิบข้างหูจนทำให้ผมหน้าแดงสุดๆ
‘’เอ่อ.. นายลืมรูดซิปน่ะ’’
ไอ้เหี้ย!!
80%
สวัสดีสวีดัด.. อินโทรน่าเบื่อไปรึเปล่าคะ TT อย่าเพิ่งนะ อย่าเพิ่งหนีกันไป..
รออ่านตอนที่หนึ่งกันก่อนซี้ ฮืออออออออออว์
ไม่รับประกันว่าเรื่องนี้จะจบมั้ย..
หนึ่งเม้นท์ล้านกำลังใจ <3
ความคิดเห็น