คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Danger GG Chapter 9 - Interested
Chapter 9
“บัดซบที่สุด!” เจสสิก้าสบถหลังจากวางสายโทรศัพท์แล้วเขวี้ยงมันลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี พอจะรู้กันมั้ยว่าฝีมือใคร..จะเป็นใครล่ะ ก็ไอ้ดิอาร์ตี้ไง บอกแล้วว่ามันยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวพวกเธอจริงๆ นี่พวกเธอกำลังเล่นกับพลังงานอะไรบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรอยู่เหรอไง!
เจสสิก้ารีบเดินขึ้นรถอย่างหงุดหงิด โดยที่แบคฮยอนถือกรอบรูปนั่นตามกลับมาด้วย อันที่จริงเจสสิก้าไม่ได้สงสารนักข่าวคนนั้นเลยสักนิด.. แค่เสียดายข้อมูลที่ควรได้รับมากกว่านี้ต่างหาก ฟังดูโหดร้ายใช่มั้ยล่ะ แหงล่ะ เพราะอะไรที่มันไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อเธอ มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ทิฟฟานี่ซึ่งกำลังนั่งก้มมองกรอบรูปเก่าๆอย่างพิจารณาด้วยความละเอียดหลังจากที่นำมาจากแบคฮยอนเมื่อครู่ กลับวางมันลงอย่างไม่สนใจเช่นกัน ผู้ที่สามารถให้ข้อมูลแก่พวกเธอได้ดีที่สุด กลับถูกปิดปากไปเรียบร้อยแล้ว
เพราะงั้นพวกเธอเลยไม่รู้จะเริ่มต้นต่อไปยังไง เท่ากับว่ามาที่นี่มันแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยไง ดังนั้นจึงกลับไปตั้งหลักที่คฤหาสน์เซนเหมือนเดิมนั่นแหละ
หลังจากที่เจสสิก้าและทิฟฟานี่ก้าวเท้าลงมาจากรถคันดำแล้วเดินเข้าไปในคฤหาสน์ก็พบว่าอี้ฟานกลับมาที่นี่แล้ว ซึ่งเขากำลังนั่งคุยกับลู่หานอย่างคร่ำเครียด
“ว่าไงสาวๆ อารมณ์ดีกันจังนะ เพื่อนจะเป็นจะตายอยู่รอมร่อแต่กลับออกไปลั้ลลาข้างนอก” ปากเสียแบบนี้พนันได้เลยว่าไม่ใช่ลู่หาน แต่เป็นอี้ฟานต่างหาก
หน้าหงุดหงิดแบบนี้อารมณ์ดีตรงไหนวะ! อารมณ์ดีตรงไหนตอบบ! เจสสิก้าได้แต่นึกแค้นในใจ
“เป็นบ้าไร” เธอหยุดเดินแล้วตะคอกกลับ โดยที่สายตาชำเลืองมองไปยังร่างสูงโปร่งนั่นเล็กน้อย “หยุดพูดมากสักวันจะตายไหม”
“นี่เธอว่าฉันพูดมากเหรอวะ” อี้ฟานเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับเจสสิก้า แล้วผลักไหล่ทั้งสองข้างจนเกือบเซล้มลงกับพื้น ถ้าไม่ติดว่ามันกระแทกเข้ากับโต๊ะไม้เสียก่อน เล่นเอาทิฟฟานี่และลู่หานตกใจไปตามๆกัน
“เฮ้ย อี้ฟานทำงี้ได้ไง เธอเป็นผู้หญิงนะ” ลู่หานเดินเข้ามาผลักไหล่อี้ฟานเพื่อเตือนสติ จนเกือบไปกระแทกกับทิฟฟานี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เหมือนผู้หญิงเหรอวะ ไม่เห็นอ่อนโยนเลยสักนิด” อี้ฟานแย้ง แล้วชี้ไปทางเจสสิก้า “เนี่ย ดูดิ ถ้าผู้หญิงโดนผลักก็ต้องร้องแล้วนี่ไม่ขยับปากสักคำ”
มันจริงอย่างที่อี้ฟานพูดนั่นแหละ..คือตอนนี้เจสสิก้ายืนนิ่งมากเลยไง นิ่งมาก..เธอกำมือแน่นมากเช่นกัน แววตาโกรธแค้นมากเช่นกัน.. ไอ้หมอนี่มันยั่วอารมณ์โกรธของเธอสุดๆเลย
“อย่ามีเรื่องกันเลย”ทิฟฟานี่ที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ก็พูดเสียงอ่อน พยายามพยักหน้าให้อี้ฟานเพื่อให้เข้าใจและอ่อนข้อลง
“เห็นแก่เพื่อนเธอหรอกนะ” อี้ฟานเหยียดริมฝีปาก
เห็นแก่ทิฟฟานี่ขอร้องไง.. แต่ก็ช่างประไร เพื่อนเธอขอแต่ไม่ใช่เธอขอสักหน่อย ดังนั้นเจสสิก้าจึงกำหมัดแน่นแล้วออกแรงไปที่มุมปากเสียๆของอี้ฟานอย่างเต็มแรง
แรงผู้หญิงแบบนี้ มืออ่อนๆแบบนี้ หมัดแบบนี้.. ของเจสสิก้ามันเจ็บมากนะขอบอก แรงไม่แรงก็ดูเอาแล้วกัน เล่นเอาหมอนั่นหน้าหันไปเลย แถมยังมีของเหลวสีแดงไหลออกมาตามมุมปากของเขาด้วย
“โอ้ย!” เสียงอี้ฟานร้อง
“เห้ย ยัยสิก้า!” ทิฟฟานี่ก็ร้องตกใจ คือถึงแม้เรื่องทำร้ายร่างกายมันจะเป็นเรื่องปกติ แต่นี่คืออยู่ในบ้านของเขาและลูกน้องของพวกมันไง มันไม่ดีเลยถ้าจะสร้างปัญหาแบบนั้น
“โห..เธอ!” ลู่หานก็ร้องเหมือนกัน
ทว่า..ไม่เท่านั้นนะ เจสสิก้ายังหมุนตัวพร้อมเหวี่ยงฝ่าเท้าโดยเล็งไปที่ต้นคอของอี้ฟานด้วยความแรง โดยที่หมอนั่นยังไม่ทันตั้งตัว ซึ่งมันทำให้..
ตุบ!
ร่างสูงล้มลงโดยที่ศีรษะฟาดลงกับพื้นด้วยความแรง ซึ่งมันทำให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมกันกับเธออีกสองคนอย่างลู่หานและทิฟฟานี่ตกใจอย่างสุดขีด ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้นะ แต่นี่มันคือคนที่พวกเขารู้จักไง แล้วคือเจสสิก้าจะสร้างปัญหาอีกทำไม
แต่สำหรับเจสสิก้าเหรอ สะใจสุดๆเลยน่ะตอนนี้!
“ฝากเก็บไอ้กากนี่ด้วยนะ” เจสสิก้าหันไปบอกลู่หานก่อนจะเขวี้ยงรองเท้าราคาแพงที่มันไร้ค่าสำหรับเธอมากตอนนี้ลงกับพื้น เพราะมันดันไปฟาดกับต้นคอของอี้ฟานไง ทำให้เธอรังเกียจที่จะใส่มันทันที
ก็บอกแล้ว..สำหรับเจสสิก้าคนนี้ อย่าทำให้เธอเดือด นี่มันแค่จิ๊บๆสำหรับเธอด้วยซ้ำมั้ง เห็นว่าอยู่ในถ้ำเสือ ลูกเสืออย่างเธอจึงไม่อยากรุนแรง
เจสสิก้าเดินหนีออกจากบริเวณนั้นด้วยความไร้ความสำนึกผิด
ที่สำคัญ..ปากแบบนั้นควรต่อยให้ปากแตกจนไม่มีปากไว้กินข้าวเลยดีมั้ย? เธอแอบเสียดายเล็กน้อยที่ออกแรงไม่สุดมากพอ
“เพื่อนเธอแสบใช่เล่นเลยนะ” ลู่หานพูดกับทิฟฟานี่ขณะพยายามพยุงร่างที่มีน้ำหนักของอี้ฟาน ซึ่งทิฟฟานี่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ
“โทษทีนะ ยัยสิก้าก็เป็นแบบนี้แหละ” ทิฟฟานี่พูดและลูบต้นคอแก้เก้อ เธอเองก็แอบสงสารอ้านอยู่เหมือนกัน ลองได้โดนส้นเท้าของเพื่อนเธอฟาดไปแบบนั้น เสียวคอแย่
“ไม่หรอก อี้ฟานมันก็นิสัยเสียเหมือนกันแหละ” ลู่หานตอบขณะกระแทกร่างสูงลงบนโซฟานุ่ม “ไม่เข้าใจเลย ว่าจะทะเลาะกันทำไม ทั้งๆที่เราทั้งสองฝ่ายควรจะเป็นเพื่อนกันมากกว่านะว่ามั้ย”
เพื่อนเหรอ..น่าสนใจดี ทิฟฟานี่เองก็ไม่เข้าใจว่าจะเอาเรื่องราวในอดีตมาคิดแค้นให้หนักใจกันไปทำไม มันก็แค่เรื่องที่ผ่านไปแล้ว
ก็บอกแล้วไงว่าเธอน่ะ..ใจอ่อนง่าย
แล้วครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะคล้อยตามกับคำพูดของลู่หานด้วยเช่นกัน ทิฟฟานี่เดินไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆกับลู่หานเพื่อที่จะได้คุยกันได้สะดวก
“นั่นสินะ งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันดีมั้ย” เธอยิ้มน้อยๆ
“เป็นอะไรก็ได้ ขอแค่เธอไม่ทำร้ายพวกฉันก็พอเถอะ ฮ่าๆ” ลู่หานยิ้มบางๆ
“ฉันไม่ทำร้ายใครก่อนหรอกน่า” ทิฟฟานี่ยิ้มรับแล้วจ้องมองเข้าไปในนัยย์ตาของลู่หาน
เขาต้องการอะไรกัน เดี๋ยวก็พูด เดี๋ยวก็ไม่พูด ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกัน.. นี่คือสิ่งที่ทิฟฟานี่สัมผัสได้ไง
“มองหน้าฉันทำไม มันมีอะไรแปลกเหรอ” ลู่หานเลิกคิ้วสูงขึ้นพร้อมกับทำหน้างงซึ่งทำให้ทิฟฟานี่หน้าแดงแปร๊ดกับความหล่อพุ่งทะลุร้อยของเขาเวลาทำหน้าแบบนั้น
“ปล่าวสักหน่อย!” ทิฟฟานี่ปฏิเสธทันควัน แต่มันช้าเกินกว่าที่ลู่หานจะเชื่อแล้วล่ะ
“จริงเหรอ งั้นฉันมองหน้าเธอหน่อยเป็นไง” ลู่หานขยับใบหน้าขาวเนียนเข้ามาใกล้เล่นทิฟฟานี่สะดุ้งเล็กน้อย จนปลายจมูกของทั้งคู่แตะกันเบาๆ
‘เขิน’ นี่คือคำที่อธิบายความรู้สึกของทิฟฟานี่ได้ดีที่สุดตอนนี้ล่ะมั้ง ไม่ต้องบอกก็รู้เพราะตอนนี้แก้มเธอแดงระเรื่อราวกับสีมะเขือเทศแล้ว
แม้ทั้งคู่จะเคยจูบกันมาแล้วก็เหอะ.. แต่มาทำแบบนี้เธอก็ยังเขินอยู่นั่นแหละ ที่สำคัญนะ คือลู่หานก็ยังไม่ผละออกด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือทำไมทิฟฟานี่ถึงไม่สั่งการให้ความรู้สึกของตัวเองเป็นฝ่ายผละออกนั่นแหละ โดยเฉพาะหัวใจทำไมมันต้องเต้นแรงจนอีกฝ่ายรับรู้ถึงการเต้นของหัวใจเธอด้วย
เป็นเพราะความรู้สึกของทิฟฟานี่ไม่สั่งการ ไม่นานลู่หานก็รุกล้ำด้วยการประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากบางของทิฟฟานี่อย่างนุ่มนวล
“อะ..อื้อ” ทิฟฟานี่ครางเล็กน้อยพลางพยายามสูดอากาศหายใจ
“อะแฮ่ม” จู่ๆอี้ฟานก็โพล่งขึ้น น่าจะสลบไปนานกว่านี้ก็ได้นะแหม่-_-;;
''ฉันจะไปหาแทยอนแล้ว ปานนี้ฟื้นแล้วมั้ง'' อี้ฟานยันตัวลุกขึ้น
ประเด็นคือใครถามเขา?
“ไอ้เซฮุนก็อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ แกจะไปทำไม” ลู่หานถามงงๆ แล้วทำเหมือนว่าไม่รู้เรื่องที่เขากำลังจูบกับทิฟฟานี่
“ก็คงจะไปเสล่อละมั้ง!!” อยู่ๆเจสสิก้าตะโกนลงมา อี้ฟานไม่ตอบโต้อะไรเพราะไม่อยากฆ่าผู้หญิงตายคาบ้านของตัวเอง แต่คราวนี้เจสสิก้าเป็นฝ่ายกระทำไง เธอก้าวเท้าลงมาอยู่จุดเดิมจุดที่เธอเตะก้านคออี้ฟานอย่างรวดเร็ว “เมื่อกี้นายร้องว่ะ นายบอกว่าผู้หญิงเวลาโดนกระทำต้องร้องใช่มั้ย นายเป็นผู้หญิงเหรออี้ฟาน?”
เธอถามอย่างสะใจ
“ไม่ใช่ผู้หญิง แค่เป็นผู้ชายเสล่อที่เคยเห็นเรือนร่างของเธอต่างหาก”อี้ฟานตอบกวนๆ แม้จะเจ็บใจกับคำพูดของเจสสิก้า แต่คำพูดของเขากลับทำให้เจสสิก้าเจ็บใจมากกว่า คำพูดที่ทำเอาเธอหน้าแดง ไม่ใช่เขินอาย ทว่ามันเป็นเพราะความโกรธต่างหาก!
เธอน่าจะกระทืบแม่งให้ตายไปเลย!
“คุยอะไรกันเนี่ย! แล้วนายจะไปเมื่อไหร่”ทิฟฟานี่สลัดหัวพร้อมกับถาม
“เดี๋ยวก็ไปล่ะ อีกเดี๋ยวเซฮุนก็คงกลับมา” อี้ฟานตอบแล้วเดินออกจากบ้านไป โดยที่ไม่สนใจเจสสิก้าที่กำลังยืนหน้าแดงด้วยความโกรธอีกเลย
“ไอ้ผู้ชายบัดซบ!!” เจสสิก้าด่าพร้อมกับขว้างแจกันลงมากับพื้น นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์วันนั้นแม่งโครตเจ็บใจเลย.. นี่ถ้าเธอมีแรงเทียบเท่ากับผู้ชายนะ มันคงจะแฟร์กว่านี้! เธอโครตเกลียดเลย เกลียดการเป็นผู้หญิง เป็นผู้หญิงแล้วทำให้เพศตรงข้ามต้องดูถูกด้วยซ้ำ.. ว่ามันอ่อนแอ!
เป็นเพราะคำดูถูกนี้ไงที่ทำให้เธอมีจุดๆนี้
เพล้ง!! เสียงแจกันแตกทำให้ลู่หานถึงกับส่ายหน้า
“เพื่อนเธอทำไมชอบทำลายข้าวของห่ะเนี่ย..” ลู่หานหันไปถามทิฟฟานี่ที่ยืนมองอึ้งๆ
“คงจะสติแตกเพราะโกรธน่ะ” ทิฟฟานี่ยักไหล่ก่อนจะเดินไปเก็บเศษแจกัน
“ไม่เป็นไรให้พวกป้าๆเก็บก็ได้” ลู่หานเอ่ยห้าม
“จะให้พวกเขาเดือดร้อนเพราะยัยสิก้าน่ะเหรอ? ไม่แน่ๆ ของแค่นี้เอง'' ทิฟฟานี่พูดเบาๆแล้วพ่นลมหายใจอย่างเหลืออด ไม่นานนักร่างบางก็ก้มตัวลงไปเก็บเศษแจกันที่แตกนั้น วูบหนึ่งของลู่หานที่ยืนมองอยู่นั้นทำไมถึงได้คิดว่าเธอดูเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีเกินกว่าจะเป็นผู้นำของร็อคแซนน์..? คนที่ออกคำสั่งลูกน้องเป็นพันคนได้แต่กลับยอมเรื่องง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ? แม้ว่าทิฟฟานี่จะติดหรูแต่กลับเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง..เหมือนเขาจะสนใจผู้หญิงเรียบร้อยเก่งเรื่องสมองไม่เก่งเรื่องทางสู้ซะแล้วสิ..
1 เม้น 1 กำลังใจค่ะ
#ชาร์ปนี้สิก้าเอาคืนแล้ว..
ลู่ฟานี่เริ่มมา..คิคิคิคิ
ความคิดเห็น