ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    +พิลึกรักอลหม่านจากฟากฟ้า+ [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 = ครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 49


    กรุงเทพฯ ประเทศไทย... 30 ธันวาคม พุทธศักราชใด ซักศักราชหนึ่ง เวลาประมาณ 21.45 น.

    หิมะที่โปรยปรายในค่ำคืนที่เงียบสงัด ดวงจันทร์สีนวลเด่นอยู่ท่ามกลางผืนฟ้าสีดำสนิท ดวงดาวมากมายกระพริบแสงอยู่ทั่วบริเวณ

    ..................

    ชายคนหนึ่งกำลังเดินอย่างรีบเร่งฝ่าอากาศหนาวเหน็บยามค่ำคืน

    เรือนผมสีดำซอยรากไทรระต้นคอพริ้วตามแรงลมที่เสียดสีกาย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนทอดมองไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะ เสื้อหนาวตัวหนาถูกสวมใส่อย่างมิดชิด เพราะนานทีปีหนที่ประเทศนี้จะเกิดมีเกล็ดหิมะสีขาวตกลงมาจากฟากฟ้า


    เขาสวมสร้อยคอสีเงิน สลักคำว่า
    SNOW ไว้


    เขากำลังเดิน ตรงไปยังป้ายรถเมล์ ที่รถเที่ยวสุดท้ายกำลังจะเทียบป้าย แล้วก็เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ระยะอีกกว่า 800 เมตร กว่าจะถึงป้าย เจ้ารถเมล์เจ้ากรรมก็กลับขับฉิวผ่านเขาไปซะงั้น
     

    จากเดินก็กลายเป็นออกวิ่ง  แต่เมื่อเห็นทีว่า จะทำท่าไหนก็คงไม่ทันรถ เขาจึงกลับมาเดินเช่นเดิม  รถเที่ยวสุดท้ายออกจากป้ายไปอย่างแช่มช้า ก่อนจะเร่งเครื่องแล้วซิ่งไปในที่สุด


    ชายคนนั้นเดินมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ที่ทำให้เขาต้องเดินอีก 2 กิโลฯกลับหอพัก


    เขาทิ้งตัวลงนั่งอย่างเซ็งๆ 


    ***ครืด ครืด***


    มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาสั่น 2 ครั้ง เขาล้วงมันออกมาเพื่อเปิดดู


    .........หืมม์..........ข้อความใหม่......... ใคร?...........


    subj. ถึงไอ่คุณซาโนว์

    From. บิวสุดหล่อ

    ไงวะเมิง เที่ยงคืนนี้ก็จะแก่อีกปีแล้วนะเมิงอ่ะ 55+

    สงสัยล่ะเส่ะว่าทำไมกุรีบมา HBD เมิงตอนนี้

    เพราะคืนนี้กุมีนัดสาวไงล่ะ กร๊ากๆๆๆ

    โอ๊ะ

    น้องเขามาและ กุไปล่ะนะเว้ย

    สุขสานต์วานเกิด(ล่วงหน้า)

    ปล. หาแฟนซะทีเหอะเมิงอ่ะ

    +++++++++++++++++

    - -*


    อ่านจบก็กดปิดหน้าต่างข้อความทันที


    "เพื่อนเวรเอ๊ย... เยาะเย้ยกันเข้าไป ชิ แถมยังต้องเดินกลับบ้านกลางอากาศแบบนี้เหรอวะเนี่ย"


    ได้แต่บ่นอย่างเบื่อๆ ก่อนจะทอดสายตามองไปบนท้องฟ้ากว้างอย่างไร้จุดหมาย


    .........ปีนี้มันก็คงผ่านไปเหมือนเดิม.........

    .........ผ่านไปแบบเดิมๆ..........

    .........ผ่านไปทั้งๆที่ยังอยู่คนเดียวแบบนี้........

    ............เหมือนทุกปี..........

    ......................................................


    เขาทิ้งตัวเองกับความเงียบ ความคิดเดิมๆที่เวียนซ้ำอยู่ในหัว


    พลันนัยน์ตาก็เหลือบไปเห็น สิ่งหนึ่งที่มันไม่น่าจะอยู่บนนั้น


    บนท้องฟ้าสีรัตติกาลเช่นนี้

    .........................

    นัยน์ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เพราะความที่ว่าสิ่งนั้นกำลังจะตกลงสู่พื้นพสุธา

    .............

    ตูม..........!!!!

    ร่างๆหนึ่งตกตูมกลางถนน ดีที่ตอนนี้ไม่มีรถวิ่งผ่าน ไม่งั้นคงเลือดนองแน่


    "เฮ้ยยยยยยยยยยย" เขากุลีกุจรลุกจากที่วิ่งไปยังกลางถนนทันที พื้นถนนส่วนที่ได้รับการกระแทกยวบลงไปกว่าครึ่งเมตร ควันขโมงของฝุ่นควันและละอองหิมะบดบังการมองเห็น


    ฟึ่บบบบ  พลั่กกก
    !!!


    เจ้าสิ่งที่เพิ่งตกลงมา กระโจกจากหลุม เข้าตระครุบเขาจนเซล้มไปกับพื้นถนนที่เย็นเยียบ น้ำหนักประมาณคนๆหนึ่งกดทับร่างของเขาอยู่


    "เฮ้ยย ทำไรวะ!!" คนถูกทับอยู่เอ่ยตะคอกอย่าอารมณ์เสีย หลับตาปี๋เพราะความเจ็บปวด


    "เมี้ยว~~~" เสียงร้องที่ดังออกมาก่อนจะได้เห็นตัว พอได้ยินเท่านั้นแหละ นัยน์ตาสีน้ำตาลก็พลันเปิดเพื่อจ้องมองสิ่งที่ทับตนอยู่


    เด็กผู้ชาย อายุน่าจะราวๆ 15 ปี นั่งอยู่บนตัวเขา เรือนผมสีชมพู ยาวระต้นคอขาว เรือนร่างอ้อนแอ้น ผิวกายขาวเนียนดุจดวงจันทร์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็ไม่ปาน นัยน์ตาสีฟ้าคราม กลมโตจ้องมาที่เขาแทบไม่กระพริบ รอยยิ้มไร้เดียงสาที่ประดับอยู่บนริมฝีปากที่ออกจะแดงนิดๆเพราะอากาศยามค่ำคืน ปลอกคอผ้าสีดำเย็บคำว่า
    Noar ไว้ห้อยกระดิ่งสีทองอร่ามส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง อาภรณ์ปกปิดกายที่มีเพียงเสื้อยืดแขนยาวคอกว้างโทรมๆกับกางเกงขาสั้นเท่านั้น


    แค่ร่วงลงมาจากฟ้าก็น่าตกใจพออยู่แล้ว แต่นี่.....


    หูแมวสีดำที่กระดิก อยู่บนเรือนผมสีชมพู และหางสีดำ ที่ส่ายไปมาราวกับมีชีวิต และเป็นส่วนหนึ่งของร่างบางตรงหน้า


    ชายผมดำยันตัวนั่งช้าๆ อย่างยากลำบาก เพราะมีร่างของอีกคน(หรือตัว??) ทับอยู่


    พอนั่งได้ ร่างบางที่อยู่บนตักก็เอาแขน(ขาหน้า) ทั้ง 2 โอบรอบคอเขา แล้วเอาใบหน้าเนียนซุกไซร้ซอกคออย่างรักใคร่


    "ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะเฟ้ย" เขาตวาดอีกครั้ง แต่ดูท่าทางเจ้าตัวครึ่งคนครึ่งแมวตรงหน้าจะไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย "บอกให้ลุกไปไงฟระ!!" คราวนี้ไม่เอ่ยเปล่า ใช้มือผลักแรงๆ จนเจ้าเหมียวกระเด็นไปไกล


    "แง้ว...=A=.." เสียงครางสะอึกสะอื้นอย่างเสียใจดังออกมา ทำเอาคนที่ผลักไสรู้สึกผิดไปเลยทีเดียว หูและหางนิ่งสนิทไร้การขยับเขยื้อนบอกอาการเสียใจเหมือนแมวทั่วไปมากยิ่งนัก


    "เอ่อ ขอโทษทีนะ" ร่างสูงพูดอย่างสำนึกผิดพลางเดินเข้าใกล้ เอามือเอื้อมไปสัมผัสเรือนผมสีชมพูนั้น แต่แทนที่มันจะว่าง่าย กลับเอาอุ้งเท้า (??) ถีบสวนซะงั้น


    "อึก เจ็บนะเฟ้ย" ว่าจบก็เอามือคว้าคอเสื้อโทรม ของแมวที่กำลังจะวิ่งหนี แล้วเอามือข้างเดียว อุ้มมันขึ้นพาดบ่า


    ..................ท่าทางปีนี้จะไม่เหมือนทุกๆปีซะแล้ว....................





    TBC….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×