ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Knock Knock ลองมีรักดูสักที

    ลำดับตอนที่ #7 : EP.7 บทพิสูจน์ที่ฟ้าส่งมา

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 59


    หน้าคณะศิลปกรรมที่เวลานี้มีผู้คนเดินไปเดินมาดูวุ่นวายแต่ก็ไม่เท่ากับหัวใจดวงเล็กๆของรุ่นน้องสาวที่มานั่งรอใครบางคนแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา ตั้งแต่เธอมาถึงจวบจนตอนนี้ก็นานแล้วถึงแม้ว่าวันนี้เธอจะนั่งรอเขาโดยที่ไม่ได้นัดกัน...แต่ถ้าหากรุ่นพี่สาวหล่อคิดกับเธออย่างที่เธอได้ยินการสนทนาเมื่อคืนแล้ว ทำไมวันนี้กลับไร้ร่องรอยของสาวหล่อหรือว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเขา ยิ่งคิดแบบนี้เธอเองก็ยิ่งวุ่นวายใจแต่จะทำอะไรก็ทำไม่ได้สักอย่าง

     

    น้องคุ้กกี้มานั่งทำอะไรตรงนี้ค้า แล้วนังเพื่อนทอมทั้งสองตัว เอ้ย...สองคนของพี่ไม่อยู่หรอคะ เสียงดัดของฟรอยด์ทำให้คนที่นั่งมองโทรศัพท์อยู่ใจชื้น

    เอ่อ...กี้นั่งรอเพื่อนอ่ะค่ะ แล้วพี่ฟรอยด์ล่ะคะทำไมมาคนเดียวเอ่ย เพื่อนทอมของพี่ฟรอยด์ไม่มาด้วยเหรอคะ ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมองเธอยังไง แต่ถึงขนาดนี้แล้วเธอยอมรับว่าการที่ไม่เห็นหน้าหล่อๆของพี่รหัสแล้วมันรู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล

    คงไม่ได้หมายถึงนังฟ่อนใช่มั้ยคะ เพราะต้องออกจากบ้านมาพร้อมกัน...

    พี่ฟรอยด์อ่ะ ใบหน้าแดงเรื่อจากคำแซวของกระเทยร่างเล็กรุ่นพี่

    วันนี้วันพุธนังทอมเมี่ยงมันคงอยู่ที่สตูแหละจ๊ะ ทุกวันพุธมันเปิดสตูรับงานน่ะ

    อ๋อ..เหรอคะ แล้วนี่พี่ฟรอยด์จะไหนคะ ไม่มีเรียนเหรอคะ

    เข้ามาส่องผู้ชายจ่ะ แล้วก็กำลังจะออกไปเอาแบบที่เอาไปฝากนังเมี่ยงเอาไว้ กี้จะไปกับพี่หรือเปล่าล่ะเรามีเรียนกี่โมง

    วันนี้กี้เรียนบ่ายค่ะ แต่ที่ต้องมาก็เพราะพี่ฟ่อนนั่นแหละ อ้างพี่สาวทั้งที่ความจริงก็คือเธอเองนั่นแหละที่ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้าเพียงเพราะอยากมาเห็นหน้าใครบางคน

    งั้นดีเลย ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยเคยไปสตูมันแล้วนี่...ปะๆไปเอารถกัน

     

    รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวมาเรื่อยๆตามเส้นทางที่คุ้นเคยเพราะฟรอยด์เองมักจะเอางานที่โปรเจคใหญ่ๆมาฝากไว้ที่สตูของเมี่ยงเหตุผลแรกเพราะเขาจะได้ไม่ต้องเอางานกลับไปไว้ที่คอนโดให้รกเปล่าๆ ส่วนอีกเหตุผลนั่นก็คือ ถ้าหากว่างานไหนที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย หรือไม่ก็ยังไม่ดีพอ เขาก็จะได้เมี่ยงนี่แหละที่คอยเกลางานให้ดูดีขึ้น

     

    พี่ฟรอยด์เป็นเพื่อนกับพี่เมี่ยงมานานแล้วเหรอคะ คนที่นั่งอยู่ฝั่งข้างคนขับชวนคุย

    ก็นานนะ สามปีได้แล้วมั้ง ตั้งแต่ปีหนึ่งน่ะ ตอนแรกพี่ก็เรียนออกแบบนิเทศก์ศิลปเหมือนกับนังเมี่ยงนั่นแหละแต่ย้ายน่ะ ก็นะยังอยู่คณะเดียวกันไม่ว่าอะไรมันก็ยังเอื้อถึงกันอยู่ดี

    แล้วกับพี่ฟ่อนล่ะคะ ถามถึงพี่ตัวเองเพื่อไม่ให้มันดูน่าเกียจจนเกินงาน

    นังฟ่อนเป็นเพื่อนนังเมี่ยงไง พี่ก็ได้รู้จักกันตอนมีปาร์ตี้อะไรๆอย่างนี้ ถ้าอยากถามเรื่องนังเมี่ยงก็ถามมาเถอะ เจ๊อยากจะบอกว่าเจ๊เนี่ยดูหนูออกนะจ๊ะ กระเทยร่างเล็กเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองและรุ่นน้องให้ดูสนิทสนมสร้างความคุ้นเคย

    เอ่ออ ถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

    นังเมี่ยงเนี่ยถึงแม้ว่ามันจะมีโลกส่วนตัวอันติสต์ๆของมันอยู่มากโข แต่เท่าที่เจ๊สังเกต ตั้งแต่วันที่หนูเดินเข้ามาในชีวิตมันเนี่ย มันก็เปลี่ยนๆไปนะ พูดมากขึ้น เล่นมากขึ้นด้วย คนฟังทำหน้าไม่เชื่อ

    จริงจิ๊ง เสียงดัดยืนยันในสิ่งที่ตนได้พูดไป

    ไม่หรอกค่ะ พี่เมี่ยงเค้าอาจจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วก็ได้

    ไม่เชื่อก็คอยดูเถอะ อินี่นะ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นมันจะเริ่มเข้าหาใครก่อน ก็มีแต่หนูนี่แหละที่มันเอาตัวเองเข้ามาหาน่ะ ในใจคนฟังนั้นอยากจะเถียง...เอาตัวเข้ามาหาซะที่ไหนกันล่ะ วันนี้ก็ปล่อยให้คนตัวเล็กรอเสียตั้งนาน

    ห๊า ถึงแล้ว แต่ไม่มีที่จอดรถ...ใครบอกให้มันมาเช่าสตูในที่ทุรกันดารแบบนี้น้า หนูจ๋า เดี๋ยวหนูขึ้นไปรอเจ๊ข้างบนก่อนนะค้า เจ้ไปหาที่จอดรถดีๆให้ลูกรักเจ้ก่อน คนที่โดยสารมาด้วยทำตามโดยดี

     

    คุ้กกี้ลงจากรถยนต์คันหรูแล้วตรงไปยังตึกสีขาวที่มองผ่านๆก็เหมือนกับอาคารพาณิชย์ธรรมดาที่มีประตูเหล็กเป็นทางเข้าตรงหน้าประตูไม่มีกุญแจลูกใหญ่คล้องเอาไว้นั่นหมายถึงว่าคนที่เธอต้องการมาหาอยู่ที่นี่อย่างที่ฟรอยด์ได้พูดเอาไว้จริงๆ  หลังประตูบานนั้นก็เป็นบันไดที่จะพาเธอขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นที่ๆเธอเคยมากับสาวหล่อแล้วครั้งหนึ่ง

     

    สิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อคุ้กกี้เดินมาหยุดอยู่ตรงประตูบานเลื่อนเข้าสู่ห้องสี่เหลี่ยมที่มีเคาน์เตอร์บาร์ตั้งอยู่นั้นมันถูกล็อคเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะพยายามเปิดมันสักเท่าไหร่ก็ยังเปิดไม่ออกเสียที ทันใดนั้นดวงตากลมโตของเธอก็เหลือบไปเห็นกระดิ่งที่แขวนเอาไว้เยื้องๆกับประตูบานเลื่อน

     

    - - - - -

     

    กรุ้ง กริ้ง เสียงกระดิ่งที่คนร่างสูงแขวนเอาไว้ตรงเยื้องๆกับประตูห้องดังขึ้นทำให้คนที่อยู่ในห้องรับรู้ถึงการมาของใครบางคน แต่เนื่องจากว่าตอนนี้เขายังปฏิบัติภาระกิจอยู่ภายในห้องน้ำจึงทำให้ไม่สามารถออกไปเปิดประตูต้อนรับคนที่เขาคิดว่าจะมาหาได้ เขาจึงได้ขอให้คนที่อยู่ภายในห้องนั้นด้วยช่วยทำอะไรบางอย่างแทนตัวเขาเอง

     

    สงสัยนังกระเทยฟรอยด์จะมาเอาของๆมันแล้วล่ะฮะ พี่เบนช่วยเอาแฟ้มงานบนเคาน์เตอร์ให้อิฟรอยด์แทนเมี่ยงทีนะฮะ ร่างสูงตะโกนออกมาจากห้องน้ำที่

    จ้า  .... ว้าย เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก สาวหล่อที่อยู่ในห้องน้ำจึงพรวดพราดออกจากห้องน้ำเพียงเพราะได้ยินเสียงตกใจของรุ่นพี่สาวที่เขาขอให้มาเป็นแบบให้ทั้งที่ยังแต่ตัวไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก

     

    หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่ยืนอยู่ถัดจากประตูบานเลื่อนยิ่งทำให้เมี่ยงตกใจยิ่งขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พี่เบน...นางแบบที่เขามักขอให้มาช่วยเป็นแบบวาดรูปเปลือยยังอยู่ในสภาพเสื้อผ้าน้อยชิ้นอีก ไม่รู้ว่าตอนนี้คุ้กกี้จะคิดอะไรอยู่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้อธิบายสิ่งที่รุ่นน้องสาวหน้าหวานเห็นเธอก็วิ่งแจ้นไปเสียแล้ว

     

    พี่นึกว่าเป็นน้องฟรอยด์ พี่เลยไม่ได้ใส่.... 

    ไม่เป็นไรฮะ พี่เบน เมี่ยงเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน  เดี๋ยวเมี่ยงมานะฮะ พูดจบก็วิ่งตามคนที่เพิ่งเข้าใจผิดออกไปแต่ยังไม่พ้นบานประตู ร่างเล็กของเพื่อนกระเทยก็มาขวางเอาไว้เสียก่อน

    มันเกิดอะไรขึ้นนังทอม ทำไมน้องกี้ถึงวิ่งร้องไห้ออกไป ชั้นถามอะไรก็ไม่ตอบ คนที่เพิ่งเข้ามาไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้แต่ถามไม่รู้เลยว่าอารมณ์คนจะตอบน่ะเป็นอย่างไร

    ดูเองดิ ถอย... ร่างสูงผลักเพื่อนกระเทยของเขาให้หลีกออกจากทางที่ขวางเขาเอาไว้ ก่อนจะเดินแกมวิ่งตามคนที่เพิ่งวิ่งร้องไห้ลงมา

     

    สาวหล่อร่างสูงเดินแกมวิ่งลงมาจากชั้นสองของตึก เขามองซ้ายมองขวาแต่กลับไม่เห็นใครเลย ไม่มีแม้แต่เงาของรุ่นน้องสาวหน้าหวานที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเข้าใจอะไรๆไปถึงไหนแล้ว เขาหยิบเอาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมากดโทร.หาคุ้กกี้แต่ไร้การตอบรับใดๆทั้งสิ้น จากครั้งแรกนำไปสู่การโทร.ครั้งที่สองที่ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกนั่นก็เพราะปลายสายปิดเครื่องไปแล้ว ฃ

     

    เมี่ยงขับเคลื่อนเจ้าสองล้อคู่ใจตรงไปยังมหาวิทยาลัยวันนี้หากไม่มีการเคลียร์กันเขาคงอยู่อย่างกระวนกระวายใจ งานที่ตั้งใจว่าจะวาดให้เสร็จก็คงจะไม่ได้เสร็จเป็นแน่ ดีที่เขายังพอจะคุ้นหน้ากลุ่มเพื่อนของคุ้กกี้อยู่บ้างไม่อย่างนั้นคงหาลำบาก

     

    น้องครับ อยู่เสกเดียวกับคุ้กกี้รึเปล่าครับ เขาตรงเข้าไปถามรุ่นน้องกลุ่มหนึ่งที่เขาเคยเห็นไปไหนมาไหนกับคุ้กกี้บ่อยๆ

    ค่ะ พี่เมี่ยง การที่รุ่นน้องรู้จักชื่อของเขานั่นก็หมายถึงว่าคุ้กกี้อาจจะเคยพูดถึงเขา แต่ตอนนี้อะไรมันก็ยังไม่สำคัญเท่าเรื่องที่คุ้กกี้กำลังเข้าใจเขาผิด

    วันนี้กี้ไม่มาเรียนเหรอครับ

    พวกเรามีใครเห็นกี้บ้างป่ะ คนหนึ่งหันไปถามเพื่อนๆในกลุ่ม ทุกคนล้วนแล้วแต่ส่ายหน้า

    ไม่มีค่ะ พี่เมี่ยงมีอะไรฝากพวกเราไว้ก็ได้นะคะ ถ้าพวกเราเจอกี้เดี๋ยวพวกเราจะบอกให้ค่ะ 

    ขอบคุณครับ บอกแค่ว่าพี่ตามหาอยู่ก็พอ....เอ่อ อีกอย่างบอกให้กี้เปิดโทรศัพท์ด้วยนะครับ ถ้าหากไม่อยู่ที่มหาวิทยาลัยแล้วรุ่นน้องหน้าหวานจะไปอยู่ที่ไหน....ที่บ้าน...ใช่ที่บ้าน

     

    ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง ครั้งนี้เขากดเบอร์โทรศัพท์ที่ตัวเองคุ้นตาเพราะใช้โทร.หาเพื่อนรักมาเป็นเวลาเกือบสามปี

     

    ไอ้ฟ่อนเหรอ น้องกี้อยู่กับมึงรึเปล่าวะ กรอกเสียงลงไปอย่างรีบร้อนจะเอาคำตอบ

    เปล่า แต่เมื่อกี้โทร.มาบอกว่าจะกลับบ้าน ปวดหัว...มึงมีไรเปล่า 

    มึงฟังกู...มึงฟังกูก่อนนะ แล้วก็อย่าเพิ่งด่ากูนะ เคป่ะ 

    เออ ให้ไว

    น้องกี้ไปเจอพี่เบนอยู่ที่สตู พี่คนที่กูชอบให้มาเป็นแบบเปลือยอ่ะมึง จำได้ป่ะ แล้วพี่แกก็อยู่ในชุดที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อ่ะ กู โอ้ยย จะพูดยังไงดีวะ

    ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น รู้ไว้แค่ว่า น้องกูร้องไห้ เข้าใจมึงผิดไปใหญ่โตแล้ว...และกูก็เคยบอกมึงแล้วว่าถ้ามึงทำให้น้องกูร้องไห้เมื่อไหร่ กูกับมึงก็ไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป

    เฮ้ยเดี๋ยวดิ อันนี้กูไม่ได้ทำ อิฟรอยด์มันทำ...มันบอกว่ามันจะมาเอาของ แต่กูไม่รู้นี่ว่าน้องมึงจะมาด้วย กูก็นึกว่าเป็นอิฟรอยด์ กูก็เลยให้พี่เบนเปิดประตูให้มันเข้ามาแล้ว 

    แค่นี้แหละ กูไม่คุยกับมึงแล้ว ปลายสายตัดสายไปแล้ว ยิ่งทำให้คนใจร้อนกระวนกระวายใจหนักเข้าไปอีก

     

    เมี่ยงไม่รอเวลาให้มันเดินผ่านไปโดยไร้ค่า เขารีบขับเคลื่อนเจ้าสองล้อคู่ใจออกไปแต่ไปได้ไม่เท่าไหร่มันก็เกิดอาการแปลกๆ ล้อหน้าส่ายไปส่ายจนเจ้าของต้องลงมาดูแล้วก็ได้คำตอบว่า ไม่รู้ใครเอาตะปูกลัดกระทงมาทิ้งไว้กลางถนนจนมันทิ่มแทงเข้าไปในยางรถของเขาทำเอาร่างสูงหงุดหงิดใจขึ้นไปอีก

     

    - - - - -

     

    แม่ยัยกี้อยู่ไหนฮะ ลูกสาวคนโตของบ้านถามถึงน้องสาว ที่ก่อนหน้าโทร.มาร้องไห้ให้ได้ยินทั้งยังบอกว่าปวดหัวอยากจะกลับบ้านก่อน อีกทั้งเพื่อนรักก็โทร.มาบอกถึงสาเหตุที่ทำให้น้องสาวของเขาร้องไห้ เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะอะไรสักอย่างอยากจะพิสูจน์ความรักของคนทั้งสองก็ได้มั้ง 

    อยู่บนห้องกลับมาก็ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง บอกแม่ว่าปวดหัวแล้วก็วิ่งขึ้นห้องไปเลย ชิฟฟ่อนขึ้นไปดูน้องหน่อยสิลูก คนเป็นแม่บอกลูกสาวคนโต เพราะตัวเองต้องแต่งหน้าเค้กที่ลูกค้าสั่งเอาไว้ 

    ฮะแม่ พูดจบก็เดินขึ้นบ้านไปอย่างรวดเร็ว 

    ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้งก่อนจะถูกเปิดออกโดยคนที่อยู่ข้างนอก คุ้กกี้ไม่ได้ล็อคประตูเพราะว่ายิ่งล็อคก็ยิ่งทำให้คนที่บ้านเป็นห่วงและไม่ว่ายังไงก็ต้องไขกุญแจเข้ามาอยู่ดี ร่างบางใช้มือปาดน้ำตาที่แก้มออกก่อนจะลุกขึ้นนั่ง 

    เป็นอะไรเรา บอกพี่มาสิ ชิฟฟ่อนใช้มือลูบผมน้องสาวเบาๆ ความรู้สึกมากมายทะลักเข้าสู่หัวใจของหญิงสาวที่เพิ่งไปเห็นในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น สิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอราวกับถูกเหยียบเอาไว้ ทั้งที่ไม่คิดว่าจะเอาความรู้สึกของตัวเองไปผูกไว้กันรุ่นพี่ได้มากมายขนาดนี้

    แค่ปวดหัวน่าพี่ฟ่อน ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย 

    ไอ้เมี่ยงมันเล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว คนฟังได้แต่คำตาโตพี่รหัสของเธอบอกอะไรกับพี่สาว 

    มันบอกว่ากี้กำลังเข้าใจมันผิด คนที่กี้เห็นเป็นแค่นางแบบของมันก็แค่นั้น 

    พี่ฟ่อนอยากจะให้กี้เชื่อแบบนั้น ทั้งที่ก่อนหน้าพี่ฟ่อนเป็นคนที่คอยบอกกี้เองว่าพี่เมี่ยงเจ้าชู้ ชอบมีกิ๊ก มีกิ๊กตั้งหลายคน แล้วผู้หญิงคนที่กี้เห็นก็เป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เราเคยเจอพี่เมี่ยงไปส่ง 

    คนนั้นเค้าชื่อพี่เบน พี่เองก็รู้จักแต่ที่วันนั้นต้องพูดแบบนั้นก็เพราะว่า พี่กลัวว่ากี้จะชอบไอ้เมี่ยง พี่กลัวกี้จะต้องเสียใจ ชิฟฟ่อนยอมบอกความจริง การที่เห็นน้องสาวร้องไห้ให้กับเพื่อนรักนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แม้ว่าเขาจะไม่อยากให้คุ้กกี้คบกับเพื่อนรักของเขาก็เถอะ 

    แล้วตอนนี้พี่ฟ่อนไม่กลัวเค้าเสียใจแล้วหรอ ถึงบอกความจริงกับเค้า

    กลัว แต่มันก็เป็นเรื่องของอนาคตเนอะ ตอนนี้ต่างหากที่เป็นปัจจุบัน พี่จะทนเห็นน้ำตาของนางฟ้าตัวน้อยของพี่ได้เหรอ คนที่นั่งอยู่โอบเอวพี่สาวเอาไว้หลวมๆ


    ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอเข้าใจนั้นมันผิด แต่เธอก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดีที่เห็นว่าเมี่ยงจะต้องไปมองอะไรๆของผู้หญิงคนอื่น แล้วทำไมเธอถึงต้องรู้สึกแบบนั้นล่ะ

     

    นี่เราจะยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าชอบไอ้เมี่ยงน่ะ

    เปล่าซะหน่อย เค้าไม่ได้ยอมรับ...เค้าแค่เป็นอะไรไม่ยู้....ยังพูดไม่จบชิฟฟ่อนก็แทรกขึ้นมาก่อน

    เป็น เป็นเพราะอะไร ยังไม่เข้าใจได้เลยสักที แค่ได้ยินเสียง ก็หัวใจเต้นถี่ ชิฟฟ่อนร้องเป็นเพลงรักหวานๆแซวน้องสาว

    ไอ้พี่ฟ่อนอ่ะ

    ดูๆเขินใหญ่แล้ว เฮ้อ...น้องสาวพี่จะแฟนแล้วสินะ ต่อพี่ก็ต้องเหงาเพราะต้องขับรถกลับบ้านคนเดียว ทำหน้าเศร้า ความเป็นจริงแล้วมันก็ใจหายที่อยู่ๆก็เหมือนกับจะโดนแย่งน้องไป

    ใครบอกว่าเค้าจะมีแฟน เค้ายังไม่มีแฟนง่ายๆหรอก ตราบใดที่ตัวยังไม่มีแล้วเค้าจะมีได้ไง

    ไอ้เมี่ยงมันไม่ยอมหรอก

    ทำไมจะไม่ยอม เค้ากับพี่เมี่ยงยังไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย เค้าก็แค่คิดไปเอง เพื่อนตัวยังไม่ได้บอกซะหน่อยว่าจะจีบเค้า ทำเป็นเฉไฉ ทั้งที่ความเป็นจริงรู้อยู่เต็มหัวใจว่าพี่รหัสหน้าหล่อคิดยังไงกับตัวเอง

    อย่าบอกว่าดูไม่ออก

    ดูออก แต่ไม่อยากยอมรับไม่อยากคิดอะไรไปเอง นี่ก็พลาดมากแล้วเนี่ย ไม่รู้ป่านนี้เพื่อนตัวจะเป็นยังไง คงรู้แล้วมั้งว่าเค้ารู้สึกยังไงน่ะ

    มันโง่ ไม่รู้หรอก ปากแข็งใจอ่อน จะบอกรักก็ไม่กล้าบอก ถ้าเป็นเค้านะ เสร็จไปและ ความรู้สึกชาวาบเกิดขึ้นที่ต้นแขนของชิฟฟ่อนเมื่อน้องสาวสุดที่รักเอามือนิ่มๆมาบิดเนื้ออ่อนบริเวณต้นแขน

    โอ้ยๆๆ ปล่อยดิยัยกี้ ปล๊อยยย

    ชิฟฟ่อน คุ้กกี้....เมี่ยงมาหาน่ะลูก เสียงของนายเจ้าของร้านเบเกอรี่ซึ่งเป็นคุณแม่ของคนทั้งสองดังมาจากข้างล่างบอกถึงการมาเยือนของเพื่อนรักของชิฟฟ่อนและผู้เป็นที่รักของสาวน้อยที่ชื่อคุ้กกี้

     

    - - - - -


    โปรดรอติดตามตอนต่อไป...จะขยันเอามาลงให้อ่านครับผม

    #นายกานต์คนเดิมกลับมาแล้วนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×