คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Special : Healing Process 2
มาต่อแล้วค่ะ
ลำดับการอ่านเรื่องนี้อีกทีดีกว่า
แรกเริ่มเลยค่ะ ตอนแรก 6ตอน บทนำ-6
ต่อจากนั้นก็มีตอนพิเศษ ต่อจาก 6ตอนนั้น คือ ตอน Partial stitch off 1ตอน
แล้วถึงมาเป็น พาร์ทนี้คือ Healing process
ก็ถ้าอ่านก็อยากให้เรียงลำดับตามนี้ค่ะ จะได้ไม่งง ^^ คือ อ่านแยกกันก็ไม่งงหรอกค่ะ ไม่อ่านของตอนต้นก็ไม่เป็นไร แต่คิดว่าถ้าอ่านเรียงแล้วมันน่าจะดีกว่าค่ะ จะเข้าใจตัวละครมากขึ้นด้วย
รู้สึกว่าน้ำเน่ายุงชุม แหะๆ
ตอนต่อของเรื่องนี้ ช่วง Healing Process ก็คิดว่าน่าจะมีไม่กี่ตอนหรอกค่ะ
และกลับเข้าสไตล์เดิมของกะล่อนแล้วด้วย หุหุ กะล่อนสไตล์ไหน ท่านที่เคยอ่านเรื่องอื่นๆคงพอทราบ
มีคนชมว่าอีพี่ธรรศมันหวานมาก เหอๆ ก็ลองมันเลวอย่างเดิมดูสิคะ วินจะเอนเอียงหามันไหม 555 เด็กที่คิดสะระตะทั้งโลกเต็มไปด้วยเหตุและผลอย่างวินจะไม่มีทางรักมันแน่ๆและคนแต่งก็ไม่ให้รักด้วย มีอย่างที่ไหน ไม่สำนึกแล้วจะยังเป็นพระเอกอยู่ได้ กะล่อนไม่ให้ค่ะ 555
ช่วงนี้เป็นช่วงที่มันต้องทำดีไถ่ถอนความผิดค่ะ เพราะจริงๆเนื้อแท้แล้ว ลูกกะล่อนแต่ละคนก็ไม่ได้เลวโดยสัญชาตญาณนะ แค่อีพี่ธรรศมันเริ่มพลาดไปมากเท่านั้น สิ่งที่มันโดนอยู่นี่ก็เป็นบทเรียนนึงค่ะ
Drunk
เหตุเกิด..เพราะอยากเที่ยว
Healing Process 2
สักสิบห้านาทีหลังจากที่ดื่มน้ำพันช์เข้าไปปวีณก็รู้สึกมึนศีรษะแปลกๆ นึกเดาเอาเองว่าคงเป็นเพราะเมื่อคืนก่อนอยู่เวรจนถึงเที่ยงคืน แล้วเช้านี้ต้องช่วยน้องจัดเตรียมขนมสำหรับเย็นวันนี้ทั้งเช้าจึงมึนๆอยู่สักหน่อย เด็กหนุ่มเดินเลี่ยงออกไปทางห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด ตั้งใจจะไปล้างหน้าแล้วกลับเข้ามาในงานใหม่
ไม่แน่ว่าจะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของปวีณที่ทุกคนต่างให้ความสนใจกับภายในงาน ด้านนอกจึงเหลือคนบางตาและในห้องน้ำกว้างขวางก็มีเขาเพียงคนเดียว
เพียงแค่เวลาไม่ถึงสองนาทีที่เขาเดินมาถึงห้องน้ำ อาการมึนศีรษะก็ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิร่างกายก็สูงตามไปด้วย มือเรียวโบกเหนือเซ็นเซอร์ของก๊อกน้ำอัตโนมัติ วักน้ำขึ้นล้างหน้า
“บ้าชิบ”
เด็กหนุ่มสบถออกมาเมื่อร่างกายเริ่มรู้สึกประหลาด มันร้อน.. ร้อนจนลำคอแห้งผาก ผิวกายที่แตะต้องเสื้อผ้าร้อนรุ่มเสียจนอยากกระชากมันทิ้ง ทุกครั้งที่ขยับตัวให้เนื้อผ้าเสียดสีก็เหมือนทรมานตัวเองจนแทบยืนไม่อยู่ ปวีณหอบหายใจหนัก มือขยุ้มอยู่กับอกแน่น
นี่ตัวเขาโดนอะไรกันแน่?
แรงสั่นน้อยๆตามด้วยเสียงเพลงที่คุ้นเคยทำให้ปวีณล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ มันช่างทำได้ยากเย็นเมื่อร่างกายเป็นเช่นนี้ ร่างโปร่งทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้องน้ำ เอนหลังพิงกับขอบกำแพง มือสั่นระริกขณะพยายามสไลด์หน้าจอเพื่อรับสาย
“น้องวิน เป็นอะไรรึเปล่าครับ!!”
“พี่ธรรศ วินมึนหัว .. แล้วก็ร้อน.. ร้อนมากเลย”
“วิน วินรอพี่นะ เดี๋ยวพี่จะไปหา อยู่เฉยๆนะครับ อย่าวางสายนะ”น้ำเสียงร้อนรนของปลายสายทำให้เด็กหนุ่มใจชื้น แม้จะไม่รู้ว่าธรรศรู้ได้อย่างไร แต่..หวังว่าอีกไม่นานชายหนุ่มคงจะหาเขาเจอ ตอนนี้เขาไม่มีปัญญาแม้กระทั่งลุกยืนด้วยซ้ำ
“วะ..วินจะรอ”
ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าที่สะท้อนไปมาภายในห้องน้ำฟังดูคุกคามในมุมมองของคนที่นั่งหอบ สัญชาตญาณบางอย่างกระตุกเตือนให้ระวังถึงอันตราย เด็กหนุ่มกระถดตัวชิดกำแพงมากขึ้นเมื่อเห็นเงาร่างของผู้มาใหม่ ชายหนุ่มร่างใหญ่หนาคลุมหมวกไอ้โม่งเดินตรงมาที่เขา
“แกน่ะเหรอ เด็กที่แม่ดารานั่นจงเกลียดจงชัง”น้ำเสียงแหบแห้งมันช่างสั่นประสาทคนที่ได้ยิน
ท่ามกลางม่านหมอกของความสับสน เด็กหนุ่มพยายามคิด ..อะไร.. มันหมายถึงอะไร ตัวเขางั้นหรือ?
“ฉันก็ไม่รู้ว่าแกไปทำอะไรนะเจ้าหนู แต่คำสั่งที่ฉันได้คือให้ใช้ยาแล้วจับปล้ำถ่ายคลิปประจาน”มันเล่าด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ขณะสาวเท้ามาใกล้ตัวเขา แววตาอำมหิตราวจะไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีนั่นทำให้ปวีณตัวสั่น
“รับเงินมาแล้วก็คงต้องทำให้เสร็จๆไป” มันย่อตัวลงตรงหน้าปวีณ มือหยาบกระด้างจับคางมนให้เชยขึ้น
“หน้าตาก็งั้นๆ ไม่รู้ว่าแกไปขวางหูขวางตาแม่นั่นตอนไหน แต่ก็คงทำให้สนุกได้ไม่ยาก”
“ตะ.. ตาล”
ไม่มีคำตอบจากคนที่หมายจะทำร้ายเขา ..หากสีหน้าของมันที่เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินชื่อก็ทำให้เขาแน่ใจ
ปวีณอยากจะแค่นหัวเราะออกมาดังๆ หากได้แต่หายใจหอบหนัก ร้องขอความช่วยเหลือไปเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล นี่มันพล็อตละครน้ำเน่าชัดๆ ถ้ามองในมุมมองที่เขาเป็นนางเอก หรือนายเอกล่ะก็นะ ตัวร้ายเกลียดชังเขาที่ได้รับความรักจากพระเอกไปจึงแค้นใจ หมายจะให้ถูกย่ำยี
แล้วไอ้ความน้ำเน่านี่ก็คงรวมไปถึงเรื่องตัวเขาโดนขืนใจเพราะรักด้วยรึเปล่านะ
หากคนที่ลิขิตชีวิตเขามีจริง หากเขารอดไปได้ก็อยากลุกไปด่าสักที รวมถึงต่อยสักหมัด โทษฐานที่เขียนออกมาได้ยุงชุมขนาดนี้
มันกระชากให้เขาลุกขึ้น แต่ก็ยังซวนเซไปมา มือข้างหนึ่งเท้ากับขอบอ่างล้างหน้าหมายจะประคองตัวเอง พยายามสะบัดให้หลุดจากการจับกุมแต่ก็ไม่เป็นผล โดนต่อยเข้าที่ท้องจนหมดแรงให้อีกฝ่ายจับขึ้นพาดบ่าได้โดยง่าย
“รีบไปก่อนจะดีกว่า ไม่งั้นถ้ายาที่แกกินออกฤทธิ์เต็มที่จะยิ่งทรมานนะ หึหึ”
นี่ถ้าชีวิตเขามันน้ำเน่าจริงๆ พระเอกจะต้องมาทันใช่ไหม
ไอ้พี่ธรรศบ้า อยู่ที่ไหนนะ
ปล้ำเขาแล้วจะให้คนอื่นมาปล้ำซ้ำอีกรึไง
“ทางที่ดีฉันว่าแกควรจะวางคุณคนนั้นลงจะดีกว่านะ” เสียงนี้.. ไม่ใช่เสียงทุ้มของคนที่เขาคิดถึง
แต่มันก็ฟังดูคุ้นเคย เด็กหนุ่มมั่นใจว่าเขาเคยได้ยินมันแน่ๆ
เรื่องราวหลังจากนั้นเกิดเร็วเสียจนคนที่ถูกอุ้มพาดบ่าอย่างปวีณไม่ทันเห็นเหตุการณ์ รู้เพียงว่าแค่ในชั่วพริบตาตัวเขาก็ถูกชิงไปอยู่ในอ้อมแขนของอีกคน
“จับมันไว้ รอนายมา”
จบคำของคนที่อุ้มเขาไว้ไม่กี่อึดใจ ก็ได้ยินเสียงทุ้มที่เฝ้ารอ
“วิน!!”
..มาช้าชะมัด พระเอกบ้าอะไรให้ลูกน้องมาก่อน
ตัวเขาถูกส่งต่ออีกครั้ง ครั้งนี้อยู่ในอ้อมกอดกว้างที่คุ้นเคย ปวีณซุกตัวเข้าหาทันที ความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยจางหายไปหมดแล้ว ธรรศอยู่ที่นี่ ปวีณแน่ใจว่าเขาจะได้รับการปกป้อง
“อนล จัดการยืนยันคนบงการซะ ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นมาณวิกา ได้แล้วเอาที่เห็นสมควร ส่วนมัน .. เอาให้สาสมแต่อย่าให้ถึงตาย อ้อแล้วก็ไปบอกพ่อฉันด้วยว่าฉันมีธุระสำคัญ รบกวนช่วยอยู่กับพวกผู้บริหารให้ก่อน”
“ครับ นาย”
ธรรศอุ้มปวีณในท่าเดียวกับอุ้มเจ้าสาว ใบหน้าของเด็กหนุ่มซุกซบลงกับแผ่นอกแกร่ง ชายหนุ่มนึกดีใจที่เด็กน้อยไม่ต้องเห็นสีหน้าเขายามนี้ เพราะมันคงบิดเบี้ยวราวกับปีศาจ นัยน์ตาคู่คมวาวโรจน์ไปด้วยความโกรธ กล้ามากที่มาแตะต้องปวีณของเขา
“พะ..พี่ ธะ..ธรรศมาช้า”
“คนดี ..พี่ขอโทษ”ในใจร้อนรุ่มไปด้วยไฟโทสะที่สุมอยู่ในอก หากน้ำเสียงที่ตอบกลับคนในอ้อมแขนยังคงอ่อนโยนเหมือนเคย รีบเดินไปตามทางที่ลูกน้องเคลียร์ไว้ให้
เขาได้รับการแจ้งข่าวจากคนสนิทที่ให้ตามประกบปวีณห่างๆแล้วตั้งแต่ที่ปวีณสีหน้าไม่สู้ดีนักจนต้องไปห้องน้ำ ทันทีที่เขาปลีกตัวจากบนเวทีได้ก็รีบโทรหาเด็กหนุ่มทันที และรายงานต่อมาที่ได้รับคือมีคนแปลกหน้าเดินตามปวีณไปในห้องน้ำก็ชวนให้เอะใจว่ามีใครจ้องจะทำร้าย กัดฟันกรอดเมื่อโทรศัพท์ของปวีณที่เขาสั่งไม่ให้ตัดสายนั่นได้เล่าแผนการอันโหดร้าย
ธรรศสั่งให้คนของเขาจัดการเคลียร์พื้นที่ กันคนและนักข่าวออกจากบริเวณนั้นให้เงียบที่สุด เขาจะไม่ยอมให้ปวีณแปดเปื้อนด้วยน้ำมือหรือปากกาของใคร เรื่องที่เด็กน้อยของเขาถูกลอบทำร้ายจะต้องไม่ไปถึงหูสำนักพิมพ์หน้าไหน
ภายในลิฟต์หรูส่วนตัวที่ตรงขึ้นถึงชั้นห้องพักส่วนตัวของเขามีเพียงธรรศและปวีณ
“พะ..พี่ธรรศ” น้ำเสียงที่เคยสดใสสั่นพร่า ร่างเล็กไหวสะท้าน
“ครับ ไหวมั้ยคนดี เดี๋ยวจะได้นอนพักแล้วนะ”คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันกับอาการแปลกๆของคนที่เขาอุ้มอยู่ จากโทรศัพท์ที่ได้คุยกันแค่ชั่วครู่ ปวีณบอกว่ามึนศีรษะมาก แล้วก็ร้อน ธรรศคิดเอาว่าน่าจะเกิดจากฤทธิ์ยาที่ได้รับจากน้ำผลไม้นั่น
“พี่ธรรศ วิน..มะ..มึนหัว วินร้อน”
เด็กหนุ่มหอบหายใจแรงกว่าเดิม ยิ่งร้อนก็ยิ่งอยากอยู่ใกล้ชิดกับธรรศ หากแต่ขยับตัวใกล้เมื่อไหร่ร่างกายก็ยิ่งร้อนรุ่ม นึกรำคาญเสื้อผ้าที่ติดกายจนชักอยากจะปลดออก
“อะ.. อา พี่ธรรศ ..ร้อน”
ปวีณเบียดตัวเข้าหาธรรศมากขึ้น แขนเล็กโอบรอบคอ รัดรึงร่างกายแข็งแกร่งไว้แน่น เกลือกกลิ้งใบหน้าไปมากับซอกคออุ่น ลมหายใจร้อนผ่าวของเด็กหนุ่มปะทะผิวเนื้อบริเวณลำคอทำเอาความยับยั้งชั่งใจของชายหนุ่มแทบขาดสะบั้น
เขารู้แล้วว่าปวีณโดนอะไรเข้าไป!!
ธรรศบดกรามแน่นอย่างข่มโทสะ ผู้หญิงคนนั้น .. ต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม
“วิน ใจเย็นๆนะ หายใจเข้าออกลึกๆ”
“พี่ธรรศ วินทรมาน.. ”
“ทำตามที่พี่บอกนะวิน อดทนอีกนิดนะ จะถึงห้องแล้วนะครับ”
ชายหนุ่มส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่ขึ้นลิฟต์ตามมาอีกตัวหนึ่งจัดการกับประตูห้องพักของเขา บานประตูไม้เนื้อดีเปิดกว้างออกให้ธรรศสาวเท้าเร็วๆเข้าไปภายใน จุดหมายคือเตียงหนานุ่ม
ร่างสูงค่อยๆวางคนในอ้อมแขนลงอย่างทะนุถนอม กดจูบลงกับหน้าผากเนียนชื้นเหงื่อ
“รอพี่สักแป๊บนะครับวิน”
ธรรศแทบจะกลั้นใจผละออกจากปวีณไม่ได้ ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าเมื่อครู่มันแทบจะฆ่าเขาทั้งเป็น
เด็กน้อยของเขานอนอยู่บนเตียง บิดกายเร่าด้วยแรงปรารถนา ผิวเนื้อขาวเหลืองเฉกเช่นคนไทยเชื้อสายจีนถูกย้อมให้แดงระเรื่อไปทั่วตัวตัดกับผ้าปูที่นอนสีขาวบริสุทธิ์ แผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงตามการหายใจ นัยน์ตาเรียวปรอยฉ่ำ ริมฝีปากสีชมพูอมส้มแห้งผาก หากไหวระริก ราวจะยั่วยุให้เข้าไปลิ้มชิมรส เสียงหอบครางที่บางครั้งก็เพรียกหาเขาหลุดรอดออกมายิ่งกว่าคำเชื้อเชิญให้กระโจนเข้าไปทาบทับ แล้วปลดเปลื้องความกระหายอยากนั่นเสีย
เพราะได้สัมผัสกับรสดื่มด่ำจากปวีณไป .. ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้ามาแทนที่ได้ เขาไม่สามารถกกกอดใครได้อีก ร่างกายและจิตใจร่ำร้องว่าต้องเป็นปวีณของเขาเท่านั้น
นาทีนี้..ความปรารถนาในตัวจึงคุโชนขึ้นราวจะแผดเผาตัวเขาให้มอดไหม้
ธรรศสูดลมหายใจลึก .. สัญชาตญาณดิบนั่นต้องไม่ครอบงำตัวเขาอีก โดยเฉพาะเวลานี้ เด็กน้อยของเขาถูกทำร้าย .. ฤทธิ์ยาทำให้ปวีณไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไป เขาต่างหากที่สติพรั่งพร้อมทุกอย่าง
แค่เจ้าตัวตื่นมาแล้วจำเหตุการณ์ได้ว่าแสดงกิริยาเช่นไรออกไปก็ไม่รู้ว่าปวีณจะต้องเสียใจเท่าไหร่ แล้วยิ่งถ้าเขาทำรักลงไปล่ะก็.. ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประคับประคองมาจะไร้ประโยชน์ ไหมที่ทอไว้เพื่อรักษาบาดแผลจะขาดสะบั้นลงทันทีและรอยแผลในใจดวงน้อยจะถูกกรีดให้กว้างขึ้นไปอีก
เขาไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแน่ ..
...เขาจะต้องปกป้องปวีณจากความต้องการของตนเอง
ชายหนุ่มโยนสูทสีดำไปกองกับพื้นข้างหนึ่ง ผลักบานประตูกระจกฝ้าเข้าไปในห้องน้ำขนาดใหญ่ เดินไปเปิดก๊อกน้ำของอ่างจากุซซีขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำ ก่อนจะกลับออกมาหาปวีณ ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มข้างๆ
“เช็ดหน้าเช็ดตาซะหน่อยนะ”มือใหญ่แตะผ้าในมือไปตามผิวหน้าแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากคนที่ไม่ได้สตินัก
“พี่ธรรศ อะ.. วินเป็นอะไรก็ไม่รู้ อา..”
บ้าฉิบ การต้องกดความกระหายอยากไว้มันทรมานนัก
“เป็นผลจากยาที่มันใส่ให้วินกินในน้ำผลไม้ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็หมดฤทธิ์ อดทนนะวิน”
“ฮึก .. อืออ ”
เด็กหนุ่มกระเถิบตัวเข้าหาธรรศมากขึ้น พลิกตะแคงศีรษะไปมาจนหาตำแหน่งเหมาะๆได้คือหนุนเอากับตักของธรรศ
“จะทดสอบความอดทนพี่หรือไง วิน”
ชายหนุ่มกะเวลาว่าน้ำในอ่างน่าจะได้ปริมาณพอแล้วจึงช้อนตัวร่างเล็กขึ้นอุ้มอีกครั้ง ตั้งใจจะให้ปวีณแช่น้ำเย็นๆ อย่างน้อยก็คงจะบรรเทาความร้อนรุ่มนั่นลงได้บ้างจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์
ธรรศค่อยๆวางปวีณให้ลงนั่งพิงกับขอบอ่างหากมือเล็กกลับยึดชายเสื้อเขาไว้แน่น
“พี่ธรรศอย่าปล่อยวินสิ”
“แช่น้ำเย็นๆก่อนนะวิน จะได้ดีขึ้น”
“กอดวินสิฮะพี่ธรรศ กอดแน่นๆอย่างเมื่อกี๊”
ธรรศกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ปวีณในเวลานี้นี่ช่างยั่วเหลือใจ
ที่สุดแล้วก็ตัดสินใจลงไปแช่ในน้ำพร้อมๆกับเด็กน้อยเสียด้วยกัน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถือโอกาสนี้เอาน้ำดับไฟปรารถนาในตัวลงด้วยเลย จับให้ปวีณนั่งหันหน้าเข้าหากันอยู่บนตักเขา
แน่นอนว่าธรรศไม่กล้าเสี่ยงพอที่จะปลดเครื่องแต่งกายของเขาและปวีณออก เสื้อเชิ้ตเนื้อดีเปียกแนบลู่กับลำตัว ไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรอีกต่อไป ยอดอกเม็ดเล็กที่เขาเคยชิมเมื่อหลายเดือนก่อนอวดยั่วยวนยามที่เด็กน้อยบิดกายไปมา
“พี่ธรรศ วินร้อน..ทรมานจังฮะ”
ธรรศซบหน้าลงกับกลุ่มเส้นผมนุ่ม เวียนจูบลงกับกระหม่อมและขมับหอม ห้ามตัวเองไม่ให้ละริมฝีปากลงไปต่ำกว่านั้น
เสียงฝีเท้าที่ดังมาจากหน้าประตูทำให้ชายหนุ่มรั้งตัวคนในอ้อมแขนให้แนบชิดยิ่งขึ้น
“นั่นใคร”
“ผมเองครับนาย อนล ครับ”
“มีอะไรก็ว่ามา”
“นายท่านต้องการจะพบนายครับ”
“บอกพ่อฉันว่าวินไม่สบายอีกสักพักเดี๋ยวฉันออกไป”
“น้องเป็นอะไร ธรรศ” ไม่ทันขาดคำดีเสียงของบุพการีเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ก็ดังขึ้นจากทางหน้าประตู บานกระจกฝ้าถูกผลักเปิดให้ร่างสูงใหญ่ที่มีเค้าหน้าคล้ายคลึงกับเขาก้าวเข้ามาภายใน .. ทศพล รณกร
“พ่อ!!”
TBC
ตอนนี้ .. พ่อ ของธรรศ เห็น .. เข้าแล้วล่ะค่ะ ^^
รบกวนติดตามต่อด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนค่า
ความคิดเห็น