ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคบารามอส+แฮร์รี่

    ลำดับตอนที่ #2 : วันแรกที่เอดินเบิร์กและเด็กหญิงชาวสโนว์แลนด์ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 52


                เช้าวันใหม่มาเยือนแล้ว วันนี้วันจันทร์ ต้องไปเรียนที่เอดินเบิร์กวันแรกสินะ
                

                 จินนี่คิดอย่างอารมณ์แล้วเดินไปอาบน้ำ
                 
                 พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเด็กหญิงผมสีน้ำตาลแซมทองคนหนึ่งกำลังนั่งมองเหม่อไปนอกหน้าตา นัยน์ตาสีฟ้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
                
                 "แองเจลิน่า ไปอาบน้ำได้แล้ว" จินนี่บอก เด็กสาวเบือนนัยน์ตาสีฟ้ามามองเพื่อนของตนที่อยู่ในชุดเครื่องแบบเอดินเบิร์กแล้วเบิ่งนัยน์ตากว้าง
                  
                "จินนี่" เพื่อนของเธอเรียกเสียงดัง
                
                "อะไร" จินนี่ที่ไม่ได้สังเกตหน้าเพื่อนเลยสักนิดเดินไปเปิดหีบแล้วหยิบตารางสอนขึ้นมา
                
                "ฉันจำไม่ได้ว่าเอาเครื่องแบบเอดินเบิร์กไว้ไหน" แองเจลิน่าร้องลั่นแล้วเปิดหีบของตนรื้อของทันที จินนี่หันไปมองเพื่อนของตนด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด
                
                "ซวยแล้วไง เดี๋ยวฉันช่วยหา" จินนี่บอกอย่างรวดเร็วแล้วไปช่วยเพื่อนรักหาทันที
                
                ก๊อกๆๆ
                
                เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น แต่สองสาวที่กำลังหาของอยู่ไม่ได้สนใจ
                 
                ก๊อกๆๆๆๆ
                
                เสียงเคาะประตูยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ จนเฟรินที่นอนอยู่อีกเตียงทนไม่ไหวลุกไปกระชากประตูเปิดทันที
                
                "จะเคาะหาพระแสงอะไรเล่า คนจะหลับจะนอน" เฟรินตะโกนใส่หน้าผู้มาเยือนทำเอาสองสาวที่หาของอยู่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันไปหาของต่อ เฟรินเดินกลับไปที่เตียงตั้งท่าจะล้มตัวลงนอน ผู้มาใหม่รีบเข้าไปดึงไว้ทันที
                
                "เฟริน ไม่ต้องนอนต่อเลย คาโลฝากให้ฉันมาปลุก มันกำลังช่วยแดเนียลจัดตารางสอนอยู่" คิลบอกก่อนดึงตัวเพื่อนสาวไปแล้วผลักเข้าห้องน้ำ
                
                "สวัสดีค่ะ พี่คิล" แองเจลิน่าทักเสียงใสพร้อมรอยยิ้ม
                
                "แองเจลิน่า หาต่อ สวัสดีค่ะ พี่คิล" จินนี่ทักแล้วช่วยแองเจลิน่าหาเครื่องแบบต่อ
                
                "หาอะไรกันอยู่ละเนี่ย" คิลถามขึ้น
                 
                "แองเจลิน่าเอาเครื่องแบบไปซุกไว้ส่วนไหนของหีบก็ไม่รู้ค่ะ หาไม่เจอสักที" จินนี่ตอบกลับมา
                
                "นิสัยฉันมันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว คบกันมาเกือบสามปีน่าจะรู้ดีนะจินนี่" แองเจลิน่าบอก
                
                "รู้ชัดเจนเลยล่ะ" จินนี่บอกก่อนจะหยิบถุงใบหนึ่งออกมาจากหีบ แล้วเปิดดูข้างใน "เจอแล้ว" จินนี่บอก ข้างในเป็นเครื่องแบบเอดินเบิร์กจริงๆ ด้วย
                
                "ขอบใจมากเลยนะจินนี่" แองเจลิน่าบอกก่อนวิ่งสวนเฟรินเข้าห้องน้ำไป
                
                "จะมาปลุกกันแต่เช้าทำไมเนี่ย เมื่อคืนยิ่งนอนดึกอยู่" เฟรินบ่นพลางนั่งลงบนเตียงของตน
                
                "นี่ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วเฟริน ถ้านายยังอืดอาดอยู่ละก็ ไม่ใช้เช้าแล้วละ แต่จะกลายเป็นสาย" น้ำเสียงเรียบเย็นดังขึ้นที่ประตูเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าที่ดูเย็นชายืนอยู่ตรงนั้น เฟรินยิ้มแหยๆ ให้ ก่อนคาโลจะเดินไปเข้าเรียน
                
                "คิล นายไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันรอแองเจลิน่าแป๊บนึงแล้วจะตามไป" เฟรินหันไปบอกกับเพื่อนรัก
                
                "นายแน่ใจนะ" เฟรินพยักหน้า คิลเดินออกไปจากห้อง พอดีกับที่ประตูห้องน้ำเปิดออก แล้วเด็กสาวก็เดินออกมา คว้ากระเป๋าแล้ววิ่งหนีไปทันที เฟรินกับจินนี่วิ่งตามแทบไม่ทัน

                คาบแรกเรียน...ประวัติศาสตร์
                
               ไม่อยากจะเชื่อเลย นี่ขนาดอุตส่าห์เข้าโครงการนี่เผื่อจะหนีวิชาน่าเบื่อแบบนี้พ้น แต่ก็อย่างที่คิดไว้เลย ทุกโรงเรียนมีวิชาประวัติศาสตร์ และมันจะยังคงครองตำแหน่งวิชาน่านอนได้ทุกสมัยแน่ๆ
                
                แองเจลิน่าคิดกับตัวเองแล้วก้มลงมองหนังสือที่อยู่ในกระเป๋า ก่อนจะหยิบมาวางบนโต๊ะ เปิดไปหน้ากลางๆ แล้วฟุบตัวลงนอนหลับบนหนังสือไปทันที
                
                เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้นสนั่น นักเรียนบางคนไปถามอาจารย์เรื่องบทเรียนที่ไม่เข้าใจ บางคนเก็บของลงกระเป๋าเนื่องจากเรียนเสร็จแล้ว แต่ส่วนใหญ่...พึ่งกลับมาจากการเฝ้าพระอินทร์...
               
                "จินนี่ แองเจลิน่า ตื่นได้แล้ว" แดเนียลเดินเข้ามาเขย่าตัวเบาๆ แล้วเดินจากไป เด็กสาวทั้งสองลืมตาขึ้นอย่างยากเย็น แต่เมื่อเห็นว่าอาจารย์ออกไปแล้วก็ลุกขึ้นอย่างอารมณ์ดีทันที
     
                "เฟริน" คาโลเรียกเบาๆ

                "เฟริน" เสียงดังขึ้นเล็กน้อย

                "งั้นฉันไปทานข้าวกลางวันก่อนนะ" คาโลพูดแล้วลุกขึ้น

                หมับ

                เฟรินคว้าแขนเอาไว้แล้วเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มก่อนกล่าวขึ้น

                "เลี้ยงหน่อยดิ"

                คาโลถอนหายใจยาวก่อนพยักหน้าแล้วหันไปปลุกคิลที่นอนหลับเป็นตาย

                "อาหารที่นี่เป็นไงบ้าง" เฟรินถามจินนี่ แองเจลิน่าและแดเนียลที่นั่งทานอยู่

                "อร่อยดี แต่ไม่เท่าที่ฮอกวอตส์หรอกน่ะ พวกเอลฟ์นะทำอาหารอร่อยมาก แต่ไม่ควรถูกจับกระทำเหมือนทาสแบบนั้น" แองเจลิน่ากล่าวขึ้นพลางทุบโต๊ะเบาๆ (ทุบดังแล้วอายเขา)

                เฟรินขมวดคิ้วอย่างสงสัย

                "แองเจลิน่าเป็นสมาชิกส.ร.ร.ส.อ.นะค่ะ ชื่อเต็มว่าไงไม่รู้" จินนี่บอกพลางตักอาหารเข้าปาก

                "สรรสอเหรอ" เฟรินถาม

                "ส.ร.ร.ส.อ.ต่างหาก ว่าแต่วิชาต่อไปเรียนอะไรเหรอค่ะ" แองเจลิน่าถาม

                "เอ่อ...ฟันดาบมั้ง" เฟรินตอบก่อนจะถามต่อ "พวกเธออายุเท่าไรแล้วเนี่ย"

                "สิบสาม" เด็กทั้งสามตอบอย่างพร้อมเพรียง

                "อายุห่างกันตั้งสี่ปีแน่ะ" คิลพูดขึ้น

                "เออ ใช่ แล้วพวกเธอน่ะ ฟันดาบเป็นหรือเปล่า" เฟรินถามอีก

                จินนี่ยิ้มบางๆ แองเจลิน่ายักไหล่ ส่วนแดเนียลส่ายหน้า

                "เฮ้ย คาโล แปลความหมายจากท่าทางพวกนี้ให้หน่อยดิ" เฟรินกระซิบ คาโลถอนหายใจยาวอีกครั้ง

                "จินนี่ฟันเป็น แต่ไม่ค่อยเก่ง แองเจลิน่าฟันดาบได้ ส่วนแดเนียลไม่ค่อยได้" คาโลสรุป

                "อ๋อเหรอ ทำไมพวกเธอฟันเป็นล่ะ"

                "แองเจลิน่าสอน" จินนี่กับแดเนียลตอบพร้อมกัน

                "ทำไมแองเจลิน่าถึงได้ฟันดาบเป็น" คิลถามขึ้น

                "เรียนมานะสิ" แองเจลิน่าตอบ

                "เรียนจากไหน" คิลซัก

                "สำนักนินจาในทริสทอร์" แองเจลิน่าตอบเสียงเรียบแล้วลุกขึ้นตามแดเนียลกับจินนี่ที่เอาถาดอาหารไปเก็บ

                "เรียนจากทริสทอร์งั้นเหรอ" คิลพูดกับตัวเองเบาๆ

                "ทริสทอร์บ้านฉันมันทำไมหรือคิล" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับคิล

                "ไม่มีไร ทริสทอร์ โร ทริสทอร์ เฮ้ย!" คิลร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อนึกเรียบเรียงอะไรๆ ได้

                "มีไรคิล" เฟรินถามขึ้นหลังจากซัดอาหารไปจานที่สาม

                "ก็แองเจลิน่าบอกว่าเรียนฟันดาบจากสำนักนินจาในทริสทอร์ แต่ว่าเธอมาจากอีกมิติ แล้วจะมาเรียนที่ทริสทอร์ได้ยังไงกัน" คิลถาม

                "เออ ใช่" เฟรินร้องขึ้น

                "แองเจลิน่าไหน" โรถาม

                "แองเจลิน่านี้เนี่ยแหละ" เสียงหญิงสาวดังขึ้นจากด้านหลัง โรหันไปตามเสียงก็เห็นเด็กสาวเจ้าของผมสีน้ำตาลแซมทองกับนัยน์ตาสีฟ้าที่ทอดมองมาอยู่ ก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างๆ เขา ตามด้วยเด็กหญิงผมสีแดงเพลิงกับเด็กชายอีกคนหนึ่ง

                "นักเรียนแลกเปลี่ยนละสิ" โรถาม เด็กสาวพยักหน้าเบาๆ

                "แล้วนายเป็นใคร" แองเจลิน่าย้อนถาม

                "โร เซวาเรส"

                "รู้มั้ย ฉันคุ้นหน้านายมากเลยนะ แต่จำไม่ได้" แองเจลิน่าพูดขึ้น
              
                "แองเจลิน่า ตอบคำถามมาก่อน ทำไมเธอถึงไปเรียนที่ทริสทอร์ได้" คิลลากเข้าเรื่อง แองเจลิน่าถอนหายใจยาวก่อนกล่าวขึ้น
     
                "เรื่องมันยาว ไปเรียนก่อน เย็นนี้ค่อยคุยกัน" แองเจลิน่าพูดเสียงเรียบแล้วลุกขึ้นเดินจากไป

                "แองเจลิน่าเค้าเป็นแบบนี้เสมอเหรอ" เฟรินถามจินนี่ที่นั่งอยู่ เธอเพียงแต่ยักไหล่แล้วเดินตามเพื่อนสาวไป

                สนามหญ้าที่ใช้เรียนฟันดาบ ซึ่งพวกปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์ และแผ่นดินประชาชนมาเรียนด้วย

                ลาเวนยืนพูดนู่นพูดนี่ สุดท้ายก็มาลงเอยที่การทดสอบฝีมือของแต่ละคน

                แล้วก็ให้ทุกคนไปจับฉลากว่าจะต้องประลองกับใคร

                ถ้าคาโลดันไปเจอคนฝีมือดีละก็...แพ้ยับเยินเสียศักด์ศรีหมดแน่

                คิดเองแล้วก็หัวเราะกับตัวเอง โดยไม่ได้เห็นสายตาที่ผู้อื่นมองมาประมาณว่า...บ้ารึเปล่าเนี่ย

                "ถ้าได้พวกนักเรียนแลกเปลี่ยนก็ดีสินะ" เสียงมาจากพวกปราสาทขุนนางคนหนึ่ง

                "นั่นสิ ฝีมือคงไม่เอาไหน" เพื่อนอีกคนกล่าว
     
                "เอริก เกรสัน" เด็กชายคนที่พูดเมื่อกี้เดินออกไปกลางสนาม

                "ใครที่จับได้ชื่อของเอริก เกรสัน" ลาเวนถามขึ้น

                ไม่มีใครเดินออกมาสักคน

                "ใครที่จับได้ชื่อของเอริก เกรสัน" ลาเวนถามซ้ำ

                "ขอโทษค่ะ ไปเข้าห้องน้ำมาค่ะ" เสียงดังมาก่อนตัว ก่อนที่เด็กสาวเจ้าของผมสีน้ำตาลแซมทองและนัยน์ตาสีฟ้าจะวิ่งเข้ามาในสนามพลางหอบน้อยๆ

                "กลายเป็นแองเจลิน่าไปได้ไงละเนี่ย" คิลถามขึ้น

                "ผลจะเป็นยังไงน้า" เฟรินถามขึ้นอีกคน

                "แองเจลิน่าจะแพ้ไหมเนี่ย" คิลถามอีกรอบ

                "สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหารสิค่ะ ใครจะรู้ อาจจะชนะก็ได้" เด็กสาวเจ้าของผมสีแดงเพลิงกล่าวขึ้น นัยน์ตายังมองไปยังเพื่อนรักของตนที่อยู่ในท่าเตรียมพร้อม

                "โชคร้ายจริง ดันต้องมาสู้กับเด็กผู้หญิงน่ารักซะด้วย" เอริกกล่าวขึ้นมาให้ได้ยินกันสองคน

                แองเจลิน่ายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

                "เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนละสินะ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน" เอริกยังพูดต่อไป

                "เริ่มได้" ลาเวนพูดขึ้น

                เอริกพุ่งเข้าใส่แองเจลิน่าทันที ก่อนจะรุกเข้าไปอย่างรุนแรง แต่ว่า...แองเจลิน่าก็สามารถป้องกันได้หมดทุกท่า โดยไม่มีเหงื่อสักหยด ด้วยดาบเรียวบางที่ดูแล้วน่าจะหักไปตั้งแต่โดนเข้าไปครั้งแรกด้วยซ้ำ

                "ฝีมือดีนี่นา" เฟรินเอ่ยขึ้น

                "ไม่งั้นจะมาเป็นครูหนูได้ไงค่ะ" จินนี่ตอบรับเสียงใส

                "แต่ทำไมตั้งรับอย่างเดียว" คิลถามขึ้น

                "ก็เค้าบุกอยู่ ก็ต้องป้องกันก่อนแล้วค่อยบุกสิ นายนี่โง่จริงๆ" เฟรินเอ่ยอย่างต่อว่า คิลมองเพื่อนซี้ของตนเล็กน้อย

                เคร้ง!!

                ดาบใหญ่ในมือของชายผู้มาจากปราสาทขุนนางตกไปอยู่ที่พื้น ดาบเรียวอีกเล่มจ่ออยู่ที่คอ แองเจลิน่ายิ้มที่มุมปาก ไม่มีเหงื่อสักหยดบนใบหน้าของเธอ!!

                "คาโล เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ มัวแต่คุย ลืมดู" เฟรินถามคนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ เป็นเวลานานมากแล้ว

                คาโลถอนหายใจยาวเป็นรอบที่สามของวัน ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่อง

                "เค้าประลองกัน แองเจลิน่าชนะ" คำอธิบาย สั้น เรียบง่าย แต่ไม่ได้ใจความแม้แต่นิด

                    "นายอธิบายให้มันชัดเจนหน่อยไม่ได้หรือไง" เฟรินเริ่มโมโห

                    "นายจะรู้ไปทำไม ถ้าอยากรู้คงตั้งใจดูแล้วล่ะ" คาโลตอบกลับมา เฟรินหันไปมองหน้าคนพูดที่ตอนนี้สนใจการแข่งขันของคู่ต่อไปอยู่

                    ก็จริงของมัน แต่แค่อธิบายแค่นี้มันจะถึงตายหรือไงกันนะ...

                    ห้องหัวหน้าป้อมอัศวินปีหนึ่ง

                    ตอนนี้ห้องของคิลกับคาโลและแดเนียลที่มาอยู่ชั่วคราว เต็มไปด้วยผู้คนตั้งแต่เฟริน จินนี่ แองเจลิน่า และโร?

                    "นายมาทำไมเนี่ย" เฟรินถามด้วยความสงสัยเป็นที่สุด

                    "ไม่มีอะไร แค่อยากรู้" โรตอบพลางจิบน้ำชาที่ไม่รู้เอามาจากไหน

                    "ตกลงเรื่องมันเป็นยังไง แองเจลิน่า" คิลชักกลับเข้าเรื่อง

                    "เรื่องอะไร" แองเจลิน่าถามกลับเสียงซื่อ

                    "เรื่องที่เธอไปเรียนที่ทริสทอร์ไง" คิลพูดอย่างหัวเสีย

                    "รู้สึกนายจะสนใจเรื่องนี้เหลือเกินนะ คิล" โรพูดขึ้น คิลหันไปมองคนพูดแวบเดียวแล้วหันกลับมา โรหัวเราะเบาๆ

                    "ความสงสัยเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ มันผิดตรงไหน" แองเจลิน่าย้อนถามกลับมา โรหันไปมองคนพูดเล็กน้อยแล้วหัวเราะในลำคอ

                    "คนเรามักจะขำเวลามีเรื่องให้ขำ มีแต่คนบ้าที่หัวเราะทั้งที่ยังไม่มีใครทำอะไร" แองเจลิน่าพูดต่อไป

                    "เธอจะบอกว่าฉันบ้างั้นสิ" โรถามกลับอย่างอารมณ์ดี

                    "เปล่า ฉันพูดขึ้นเองลอยๆ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงใคร นายอยากรับก็รับไปสิ" แองเจลิน่าบอก

                    "อืม" โรรับคำเบาๆ

                    "แองเจลิน่า อย่าสนใจไอ้โรนักเลยน่า เล่ามาเถอะ" เฟรินเซ้าซี้

                    "ค่า คือเรื่องมันเริ่มต้นที่หนูเกิดที่นี่..."

                    "ที่ไหน? ในเอเดนเหรอ" เฟรินถามขัด

                    "ค่ะ ในคาโนวาล" แองเจลิน่าดูเหมือนจะไม่อารมณ์เสียเลยทีมีคนพูดขัด เธอเล่าต่อไป "แล้วหนูก็ไปอยู่ทริสทอร์ เรียนอยู่ที่นั่นสองปีก็มาที่สโนว์แลนด์ แล้วอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่ตอนอายุสิบเอ็ด ก็มีจดหมายส่งมาว่าหนูมีสิทธิไปเรียนที่ฮอกวอตส์ หนูก็เลยไปเรียน จบ" แองเจลิน่าพูดจบประโยคแล้วยิ้ม

                     "ไหนบอกเรื่องมันยาวไง" คิลถามขึ้นคนแรก

                     "ก็หนูตัดแล้วไง" แองเจลิน่าตอบ คิลพยักหน้าเข้าใจ

                     "สรุปก็คือ...เธอเป็นชาวคาโนวาลที่ไปอยู่สโนว์แลนด์ และไปเรียนที่อีกมิติ ใช่ไหม" โรสรุปถาม

                     "ใช่ ทีนี้ก็เข้าใจกันแล้วนะค่ะ จะได้ไปนอนสักที" แองเจลิน่าบอกแล้วลุกขึ้น ออกจากห้องไปพร้อมกับจินนี่และเฟริน

                     "แองเจลิน่านามสกุลอะไรนะ" คาโลถามขึ้น

                     "เทลาเซียครับ" แดเนียลตอบ

                     "ทำไมเหรอคาโล" โรถามขึ้น

                     "มันคุ้นๆ ยังไงไม่รู้สิ" คาโลตอบ ก่อนความเงียบจะเข้ามาครอบครุมทั่วทั้งห้อง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×