ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนทายาท 3 แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #72 : สองปีหลังสงคราม (คาเรนครองราชย์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      2
      17 ธ.ค. 49

    63

    สองปีหลังสงคราม (คาเรนครองราชย์)

     

                    พระองค์ใหญ่แห่งคาโนวาลเสด็จกลับจากเอดินเบิร์ก!

                ประชาชนชาวคาโนวาลเฝ้านับถอยหลังวันที่เจ้าชายรัชทายาทจะเสด็จคืนนคร เมื่อแว่วข่าวน่ายินดีว่าคิงคาโล วาเนบลี มีพระกระแสรับสั่งให้เหล่าขุนนางช่วยกันเตรียมพิธีราชาภิเษก และเมื่อเจ้าชายคาเรนทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กเมื่อไหร่ พิธีจะเริ่มขึ้นเมื่อนั้น

                รัชกาลแห่งคิงองค์ใหม่กำลังจะมาถึง.......

                คาโนวาลยังสุขสงบต่อไปอีกหลายสิบปี

                ใครๆก็ต่างยินดีกันทั้งนั้น.......และสาสน์เชิญมาร่วมพิธีมหามงคลนี้ก็ปลิวว่อนกระจายไปทั่วทุกทิศ พระราชสาสน์ที่มีต่อกษัตริย์ทุกแว่นแคว้นทำให้ขบวนพระเกียรติต่างหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกทาง คาโนวาลไม่เคยคึกคักเช่นนี้มานานนักหนาแล้ว นับตั้งแต่เกิดสงครามเมื่อสองปีก่อน

                ส่วนภายในวัง ทุกอย่างครื้นเครง มีแต่เสียงตัวร่อต่อซิกของนางกำนัล เสียงหัวเราะฮาของทหาร แต่เสียงที่มีอยู่เป็นประจำก็มิได้ขาดหายไป

                อย่างเสียงคิงและควีนทรงเอ็ดตะโรใส่กันดังลั่นมาจากในห้องส่วนพระองค์.....แต่จะว่าไปสุรเสียงพระราชินีคนงามดังกว่าหลายเท่าและมักจะดังอยู่ฝ่ายเดียว

     

                ไม่เอา อย่างนี้สวยกว่าตั้งเยอะ เอาแบบนี้

     

                เฟริน สุรเสียงปรามจากพระสวามีแค่รำคาญพระทัยหน่อยๆ นี่มันขนบประเพณีดั้งเดิม อยู่ดีๆมาเปลี่ยนพิธีราชาภิเษกได้ยังไง เขาทำอย่างนี้กันมาเป็นพันๆปี ตั้งไม่รู้กี่ราชวงศ์

     

                บ๊ะ อะไรที่มันเก่านัก ก็เปลี่ยนให้มันใหม่ซะสิ อย่างลำดับกษัตริย์ที่มาร่วมพิธีนี่ก็เหมือนกัน ทำไมต้องเรียงแบบนี้ด้วย พระดรรชนีเรียวชี้ไปยังแผนผังการจัดงานหน้าพระที่นั่ง ซึ่งวางอยู่เบื้องพระพักตร์คิงคาโล ทำไมต้องนับจากบารามอส เวนอล ทริสทอร์ อเมซอน แล้วก็เมืองน้อยใหญ่อีกมากมายกว่าจะถึงซาเรส

     

                ก็นี่เรียงตามลำดับความสำคัญของเมืองในเอเดน ที่อยู่หน้าหน่อยก็เมืองอันดับหนึ่ง ถัดไปก็....

     

                ไม่น่า เราต้องเรียงตามลำดับความสำคัญบุคคลสิถึงจะถูก เอางี้ ฉันเรียงใหม่เป็น ทริสทอร์ ซาเรส อเมซอน บารามอส เวนอล แล้วค่อยไล่จากเมืองเล็กอันดับสอง อันดับสาม ไปจนถึงเมืองเล็กๆทั้งหมาย

     

                ทำไม พระขนงพระสวามีขมวดทันควัน ทริสทอร์ ซาเรส อเมซอน ถึงมีความสำคัญมากกว่าบารามอสและเวนอล

     

                โธ่ นายนี่นะคาโล บื้อจริงๆ ทริสทอร์ก็มีออเรียล ซาเรสก็มีคาร์ซาร์ อเมซอนก็มีเซลด้า ทำไมเราไม่ให้เพื่อนๆของลูกได้อยู่ข้างหน้า ลูกจะได้เห็นเขา และเขาจะได้เห็นลูกชัดเจน

     

                เฟริน ลำดับมีความสำคัญ เปลี่ยนกันง่ายๆอย่างนั้นไม่ได้

     

    ตรงนี้คงเริ่มหงุดหงิดในพระทัยขึ้นมาหน่อย

     

                งั้นเว้นไว้เฉพาะทริสทอร์

     

                ไม่ได้

     

                งั้นเว้นไว้เฉพาะเรย์

     

                กษัตริย์ทริสทอร์พระองค์นั้นเกี่ยวอะไรด้วย พระกระแสรับสั่งห้วนฉับ บ่งบอกถึงความไม่พอพระทัยขึ้นมาทันที และถ้าพระราชินีทรงเห็นไม่ผิดล่ะก็ ในดวงเนตรสีฟ้างามคู่นั้นคล้ายมีแสงไฟลุกโชนอยู่ชั่วแวบหนึ่ง

     

                นายก็รู้เหตุผล ทำเป็นจำไม่ได้

     

                ก็จำไม่ได้

     

                เมื่อสองปีก่อนถ้าไม่ได้เรย์ คาเรนก็ตายไปแล้ว

     

                หรือ? พระอาการไม่รู้ไม่ชี้ไม่เคยสมจริงเช่นนี้มาก่อนเลย

     

                โธ่ คาโล นายอย่าหวงลูกไม่เข้าท่าเลยน่า เรย์ก็ครองราชย์แทนโรทันทีที่สิ้นสุดสงคราม คาเรนก็กำลังครองราชย์ต่อจากนายเมื่อเรียบจบเอดินเบิร์ก ทั้งสองคนต่างเป็นกษัตริย์แล้ว ยังไงก็แต่งงานอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำไมนายไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เจอกันบ้าง อย่างน้อยให้เรย์ได้มองเห็นลูกเราบนบัลลังก์ชัดๆก็ยังดี

     

                ไม่ได้ สุรเสียงกร้าวไม่ลดลงเดิมแม้แต่น้อย ลำดับเปลี่ยนแปลงไม่ได้

     

                คาโล

     

                พระราชินีทรงทอดสุรเสียงอ้อนวอนขอร้อง มิใช่ตวาดเอาแต่พระทัยเช่นเคย

     

                ความสุขของลูก ประทานให้บ้างจะเป็นไรไป

     

                ลำดับเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่.....ฉันจะเชิญให้กษัตริย์ทริสทอร์พระองค์นั้นอยู่ต่อที่วังของเราหน่อยก็แล้วกัน

     

    --------------------

     

                งามมากเลยเพคะท่านพี่

     

                พระขนิษฐาทรงอุทานอย่างปลาบปลื้มเมื่อท่านพี่เสด็จออกจากห้องส่วนพระองค์ด้วยพระภูษาทรงที่จะทรงใช้ในงานพิธี แน่นอนว่าเป็นชุดทรงที่หรูหราอลังการมากที่สุดเท่าที่เจ้าชายรัชทายาททรงจินตนาการออก ทว่าแทนที่จะพอพระทัย พระขนงเหนือเนตรสีน้ำผึ้งกลับขมวดยุ่ง และคอยทึ้งชุดทรงนั้นอยู่เสมอ

     

                พี่ไม่เข้าใจเลยว่า ท่านพ่อทรงชุดนี้ได้ยังไงทั้งวันตอนทำพิธี คาเรนทรงบ่นขณะเลื่อนท่อนพระกรออกมาและโดยไปให้นางกำนัลที่คอยถวายงานรับไว้ ซึ่งทำเอาคนรับใจหายใจคว่ำกลัวจะหลุดมือ เพราะราคามหาศาลของมันมีผลทำให้หัวหลุดได้เชียว

     

                ตายจริง อย่าถอดออกมาสิเพคะ งามออก

     

                ออเรียลยังมาไม่ถึงอีกเหรอ

     

                เจ้าพี่เสด็จกลับไปเตรียมขบวนพระเกียรติมานะเพคะ ไม่ใช่กลับไปเอาของสักอย่างซะหน่อย จะได้รวดเร็วทันพระทัย พระขนิษฐาทำพักตร์ย่นยู่ตำหนิความพระทัยร้อนไม่เปลี่ยนแปลงของท่านพี่ ทั้งที่กำลังจะได้เป็นกษัตริย์ในเร็วๆนี้ หญิงได้ยินว่าคิงเรย์จะเสด็จมาด้วย คงจะใช้เวลานานพอสมควร อาจจะหลังขบวนของบารามอสก็ได้

     

                ช่างสิ พี่สนซะเมื่อไหร่ล่ะ พระพี่นางตรัสเมินๆ ก่อนเปลี่ยนเรื่องเอาง่ายๆ ว่าแต่คาร์ซาร์มันไปไหน

     

                ท่านพี่คาร์ซาร์ก็วุ่นแต่เช้านะเพคะ ต้องออกไปรับขบวนเสด็จถึงหน้าประตูเมือง คงไม่ว่างมาที่นี่หรอก

     

                แล้วมันจะรอรับขบวนเสด็จจากอเมซอนด้วยรึเปล่า

     

    คาเรนทรงตรัสถามขณะนำเสด็จออกจากห้องส่วนพระองค์ สู่ตำหนักของพระบิดา คิงองค์ปัจจุบันแห่งคาโนวาลที่กำลังจะสละบัลลังก์ในไม่กี่วันนี้ แล้วจึงเสด็จพร้อมพระมารดาไปประทับอย่างสงบสุขที่เดมอส หรืออาจเสด็จพ้นไปสโนว์แลนด์เพื่อทรงเยี่ยมพระอัยกี

     

                หญิงว่าท่านพี่คาร์ซาร์คงไม่อยากพบพี่หญิงเซลด้านักหรอกเพคะ ได้ยินเจ้าพี่ตรัสว่า พี่หญิงน่าจะทรงกระทำพิธีราชาพิเษกเร็วๆนี้ แล้วส่วนใหญ่ก็มักจะกระทำพร้อมพิธีอุปภิเษกไปด้วยพร้อมกัน เพราะเรื่องรัชทายาทเป็นเรื่องสำคัญ

     

                แต่โดยนิสัยคาร์ซาร์ มันไม่หลบใครหน้าไหนหรอก อย่างมากก็ได้แต่ทำเป็นเหินห่าง ซึ่งพี่ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่า มันแสดงบทบาทนี้ได้เหมือนมากจริงๆ

     

                งั้นก็น่าสงสารพี่หญิงเซลด้าแย่ ความรักของผู้หญิงน่ะยังไงมันก็ไม่จืดจางลงง่ายๆหรอกนะเพคะ

     

                สองปี คาเรนตรัสแล้วคั่นด้วยการพ่นพระปัสสาสะอย่างหนักพระทัย สองปีที่เอดินเบิร์ก สองคนนี้ไม่ได้พูดคุยกันเลยถ้าไม่จำเป็น เซลด้าน่ะภายนอกแข็งแกร่ง แต่ภายในอ่อนไหว จึงได้แต่เก็บความเจ็บปวดเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ ส่วนคาร์ซาร์แม้ภายนอกจะเหมือนซึมลง แต่ความจริงมันอาจยอมรับความจริงได้แล้วก็ได้

     

                ง่ายดายอย่างนั้นเลยหรือเพคะ

     

                ผู้ชายน่ะนะคลาเอน่า จะทำทุกอย่างไม่ให้ความรักเข้าครอบงำ แม้แต่การลืมไปให้หมดสิ้น ไม่ว่ามันจะทำได้จริงหรือเพียงหลอกตัวเองก็ตาม แล้วยิ่งคาร์ซาร์มันใกล้ชิดกับความตายขนาดนั้น มันคงไม่เคยกลัวการสูญเสียอะไรเลยล่ะมั้ง

     

                แหม ตรัสอย่างกับท่านพี่เป็นผู้ชายไปได้

     

                คลาเอน่า พระพี่นางหันมาทำเนตรดุใส่ หากเจ้าหญิงน้อยส่งพระสรวลรับเรียบร้อย หยุดพูดอย่างนั้นเสียทีเถอะ พี่เบื่อฟังพี่ชายมาคนหนึ่งแล้ว ไม่ต้องช่วยย้ำได้ไหม

     

                พี่ชาย.....สรรพนามที่ใครๆต่างก็คุ้นเคยเมื่อได้ยินโดยตรงจากโอษฐ์พระองค์ใหญ่แห่งคาโนวาล

                อันหมายถึงคิงองค์ปัจจุบันแห่งทริสทอร์

                เรย์ เซวาเรส.....อดีตมายากร อดีตคู่ศึกในสงคราม อดีตเจ้าชายรัชทายาทผู้เร่ร่อนจากจร

     

    --------------

     

                แล้วพิธีราชาพิเษกก็มาถึง.........

                ทุกอย่างกระทำในท้องพระโรงอันงดงามวิจิตร สีทองสะท้อนวิบวับมาจากเพดานรูปโค้ง เจาะตามลวดลายเป็นช่องให้แดดส่องเข้ามาเป็นรูปตราประทับประจำราชวงศ์ราชวงศ์ ผนังสลักลายทั้งนูนสูงและนูนต่ำดูคล้ายคนจริงๆมีเข้าเฝ้าหนาแน่น รัตนบัลลังก์ประดับพร่างพรายไปด้วยแก้วมณีแทบทุกชนิด แต่กลับลงตัวด้วยฝีมือตกแต่งอันประณีตละเอียดยิบ และผ้าไหมที่ปักตราพระลัญจกรแห่งเจ้าชายคาเรน วาเนบลี ก็เป็นดิ้นทองเรียงกันเป็นรูปเหยี่ยวทะเลทราย

    เบื้องล่างมุขมนตรีทุกฝ่ายของคาโนวาลเข้าแถวเรียบร้อย ไล่กันไปตามลำดับความสำคัญและบรรดาศักดิ์ มี จัสติน เรโอวา ในฐานะเสนาบดีกระทรวงกลาโหมยืนอยู่หน้าสุดในบรรดาขุนนาง มี ซาฟา อิมรีอา ในฐานะหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ยืนอยู่หน้าสุดในบรรดาทหาร มีท่านเสนาเมนิส ฟาเรล ยืนตรงกลางแถวทั้งสองในฐานะที่ปรึกษาราชการแผ่นดินควบตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงการคลัง

                เมื่อพิธีเริ่ม......กษัตริย์ทั้งยี่สิบสามประเทศเสด็จออกมายังหน้าบัลลังก์ ก่อนจะเข้าสู่ที่ประทับอันจัดเอาไว้ด้านข้างซึ่งมีพรมสีเลือดนกทอดไป และเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำหรือดูแคลนกษัตริย์พระองค์ใด ที่ประทับของทุกพระองค์จึงงดงามละม้ายกัน ต่างกันเพียงลำดับใกล้ไกลจากบัลลังก์เท่านั้นเอง

                เสียงสังคีตประโคม......

                คิงคาโลและควีนเฟลิโอน่า วาเนบลี......เสด็จออกมาประทับยืน ทั้งสองพระองค์งามพร้อมเพราะอยู่ในชุดทรงเต็มพระอิสริยศ พระหัตถ์ใหญ่และบางคู่หนึ่งเกาะกุมกันไว้มั่น โดยหามีใครรู้ไม่ว่า พระราชินีทรงกังวลอยู่เรื่องเดียว

                ก็เรื่องพระมงกุฎเหนือเศียรนั่นแหละ.....เคยทรงประดับครั้งเดียวเมื่องานอุปภิเษกเป็นพระราชินี แต่มันก็หลายปีผ่านมาแล้ว นอกนั้นก็ทรงโยนๆไว้ในคลังสมบัติที่หลังจากเลิกเป็นหัวขโมยได้พักใหญ่ ก็ไม่ได้สนพระทัยสิ่งเหล่านั้นอีก

                ส่วนคิงคาโลนั้นปราศจากความกังวลโดยสิ้นเชิง เสียแต่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถตัดพระทัยไม่ให้กันท่าคิงจากทริสทอร์ได้อยู่นั่นเอง

                พระเนตรสีฟ้าจึงส่องประกายวิบวับไปทางบัลลังก์คิงแห่งทริสทอร์อยู่ไม่ขาด

                แต่....ไอ้หนูที่เฟรินบอกว่ามันรักพระธิดาของพระองค์กลับยิงฟันขาวกลับมา

                มันน่า....นัก

               

     

                แล้วขั้นตอนสุดท้ายของพิธีราชาพิเษกก็มาถึง.........

                คาเรน วาเนบลี ในชุดทรงแสนสง่าและงดงามราวเทพบุตรเสด็จออกมายืนหน้าบัลลังก์ พร้อมด้วยกษัตริย์ทุกแว่นแคว้นที่ลุกขึ้นประทับยืนแสดงความยินดี

                เสียงสังคีตบรรเลงดังกระหึ่มแล้วหยุดลงกะทันหัน......

     

                ขอจงทรงพระเจริญ

     

                นอกจากกษัตริย์ทั้งยี่สิบสามประเทศ ทุกคนต่างน้อมตัวลงถวายคำนับงดงาม และเปล่งเสียงถวายพระพรโดยพร้อมเพรียง

                ใช่ ยี่สิบสามประเทศ.....กษัตริย์ผู้มีพระยศเทียบเท่าคาเรน วาเนบลี เดอะคิง ออฟคาโนวาล เท่านั้นที่ไม่ต้องถวายคำนับ

                แม้แต่พระบิดาและพระมารดายังต้องยอบองค์ลง

                ถวายแด่.......บุรุษผู้ทรงศักดิ์และทรงสิทธิ์ที่สุดในคาโนวาล

                คาเรนทรงรู้สึกร้อนผะผ่าวตรงขอบพระเนตรเมื่อพระบิดา บุรุษที่ทรงเทิดทูนเหนือเศียรเองยังถวายคำนับให้พระองค์ หากสิ่งที่ทรงทำได้เพียงอย่างเดียว ก็คือยืด

    วรองค์ให้ทรงสง่าที่สุดให้คิงคาโลทรงภาคภูมิพระทัย

                ส่วนพระมารดา.....แทบทำพระอัสสุชลร่วงหล่น ทว่าทรงปาดมันออกไปได้ทัน

                แล้วคาเรนก็ทรงทอดพระเนตรรอบด้าน เมื่อทุกคนต่างยอบตัวลงกับพื้นท้องพระโรง จึงเหลือไม่กี่คนที่ยังยืนอยู่ได้

                พี่ชาย.......เรย์ เซวาเรส คิงแห่งทริสทอร์ทรงก้มพระเศียรให้เล็กน้อย

                จากนั้น.....

                ก่อนที่ทุกคนจะได้ฤกษ์เงยหน้าขึ้น เสียงที่นำพาด้วยอำนาจแห่งมนตราก็ดังขึ้นในพระโสต

     

                ขอจงทรงพระเจริญ.......ยอดหทัยของพี่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×