คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : สถานการณ์แห่งสงคราม
54
สถานการณ์แห่งสงคราม
เมื่อท่านพี่ทรงเสด็จกลับ เจ้าหญิงคลาเอน่าจึงทรงแล่นออกไปรับถึงประตูเขตพระราชฐานชั้นนอกโดยพรั่งพร้อมด้วยนางกำนัลทั้งหลายเช่นเคย แต่เมื่อวรองค์สูงสง่าหากบอบบางใกล้เข้ามา เหล่านางกำนัลก็หันไปซุบซิบกันเองถึงพระสิริลักษณ์ที่ทรงเปลี่ยนแปร การดำเนินแม้ว่องไวทว่านุ่มนวลกว่าเดิม พระพักตร์คมคายกร้านแดดกร้านลมทว่าไม่ถึงกับกระด้างเย็นชา ราวกับเวลาที่ทรงหายไปจากวังหลายวัน พระองค์ใหญ่ทรงเจริญวัยขึ้นหลายปีทีเดียว
“ท่านพี่!!”
สุรเสียงตรัสเรียกดังลั่น ก่อนวรองค์บางจะโถมเข้ามา ซบแนบพระอุระที่อ้ารอรับอยู่
“ไง คิดถึงพี่มากมั้ย”
“คิดถึงสิเพคะ หญิงคิดถึงแล้วก็เป็นห่วงท่านพี่มากเลย” รับสั่งพลางป้ายอัสสุชลที่จวนจะล้นปริ่มทิ้งไป ก่อนพระพี่นางจะทรงใช้พระดรรนี เชิดพระพักตร์พระขนิษฐาขึ้นพิจารณา
“หญิง พี่ว่าหญิงแปลกๆไปนะ”
“ท่านพี่” พระองค์เล็กยังทรงรับสั่งสุรเสียงสั่นปนสะอื้น ราวกับจะถ่ายทอดความปริวิตกในพระทัยให้พระพี่นางทรงทราบทั้งหมด “เจ้าพี่ทรงประกาศเป็นศัตรูกับเรา”
คาเรนที่เพิ่งทรงทราบว่าเป็นเรื่องอะไร จึงพยักพักตร์เนิบปล่อยให้พระขนิษฐาซบพระพักตร์ลงครู่ใหญ่ แล้วค่อยรับสั่งปลอบ “ออเรียลไม่ได้เป็นศัตรูกับเราหรอกคลาเอน่า หรือถึงเป็นมันก็เลือกทางอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ได้ เพราะทริสทอร์ต้องหาทางเอาตัวรอดจากสงคราม ท่านลุงโรไม่อยากให้บ้านเมืองที่ทรงปกครองชโลมไปด้วยเลือดเท่านั้นเอง เพราะถ้าเป็นพี่ พี่ก็ต้องเลือกเป็นพันธมิตรกับทางเหนือ”
“แล้วอย่างไรล่ะเพคะ ในเมื่อเจ้าพี่ก็ต้องรบกับท่านพี่ แม้จะไม่จำใจเป็นพันธพมิตรนัก แต่จำเป็นต้องประหัตประหารกันเองแน่นอน เพราะในสงคราม หากไม่ฆ่า จะถูกฆ่าเสมอ”
“หญิงไปฟังมาจากไหนล่ะนี่”
ไม่แปลกที่พระองค์ใหญ่จะทรงหลากพระทัย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ทรงได้ยินพระขนิษฐารับสั่งถึงการศึกสงครามราวเข้าพระทัยดีแล้ว
“จากขุนนางและขุนศึกที่มาขอเข้าเฝ้าฯท่านปู่เพคะ”
ตรงนี้ล่ะที่ช่วยบอก ว่าท่านปู่บาโรของพระองค์ก็ทรงหนุนทัพอยู่ตามวิสัยนักรบไม่เปลี่ยนแปลง
“คลาเอน่า ตลอดมาพี่เห็นหญิงยังเด็กนัก เลยไม่ได้บอกให้รู้” กระแสรับสั่งต่อมาอ่อนโยนทว่าจริงจังยิ่ง “แต่ถึงตอนนี้หญิงควรรู้ได้แล้ว.....”
แล้วพระพาหาอบอุ่นก็โอบรัดพระขนิษฐาหนึ่งเดียวอย่างทรงรักใคร่เป็นห่วงเป็นใยแท้จริง
“เมื่อหญิงเกิดมาในราชวงศ์กษัตริย์ ทุกอย่างของหญิงจะต้องทำเพื่อบ้านเมือง หญิงจะสูญเสียสิ่งใดก็ตาม ย่อมไม่อาจสูญเสียแผ่นดิน หญิงจะต้องแลกอะไรก็ตาม แต่ก็ต้องแลกหากได้มาซึ่งความสงบสุขแด่ประชาชน กระทั่งเกียรติศักดิ์และ.....ความรัก”
นั่นคือสิ่งที่เจ้าชายคาเรนทรงจดจำตลอดพระชนม์ชีพ ในขณะที่เจ้าหญิงคลาเอน่าไม่ทรงเข้าพระทัยนัก
อาจเพราะทรงเปราะบางและอยู่ท่ามกลางการปกป้องดูแลมากเกินไป
หญิง.....หญิงเสียเจ้าพี่ คนที่หญิงรักเพราะสงคราม
แต่พี่......เสียสหายและคนที่พี่รักด้วยน้ำมือพี่เอง
แน่ล่ะ....ถึงเจ้าพี่ออเรียลของหญิงจะให้โอกาสพี่เลือกทางเดินใหม่อีกครั้ง พี่ก็ยังต้องเลือกแบบเดิมอยู่ดี เพราะทางเลือกนั้นเท่านั้นที่พี่จะดำรงบัลลังก์ไว้ให้ท่านพ่อ ดำรงความสงบสุขไว้ให้ประชาชน และดำรงพระชนม์
ชีพให้ท่านแม่กับหญิงได้
ตอนฆ่าเจ้าชายพระองค์นั้น แม้ในภาพหลอนที่เกิดจากมนตรา ก็ยังจดจำความร้าวรานแทบไม่เป็นผู้เป็นคนครั้งนั้นได้ และแม้คราวนี้ จะต้องเป็นอย่างนั้นอีกครั้งในความเป็นจริงที่แก้ไขไม่ได้ พี่ก็ยังต้องฆ่าเขาอยู่ดี
“ทางที่เลือกแล้ว เสียใจไปก็เปล่าประโยชน์ ทำใจยอมรับและเผชิญหน้ากับมันอย่างสมศักดิ์ศรีรัชทายาทแห่งคาโนวาลดีกว่าหญิง”
เนตรสีน้ำผึ้งที่จะคงความงดงามไว้ตลอดกาลมีแววมาดหมาย!! แม้บางครั้งจะมีรอยพาดผ่านของความปวดร้าวแทรกซ่อนอยู่ก็ตาม........
“พระองค์ใหญ่เสด็จ”
เสียงทหารรักษาพระองค์ที่ดังบอกกันเป็นทอดๆดังเข้ามาถึงด้านในของพระตำหนักอดีตคิงแห่งคาโนวาล.......บาโร วาเนบลี ซึ่งกำลังประทับนั่งบนพระเก้าอี้พลางพิจารณาแผนที่ทางการรบอยู่ จึงผินพระพักตร์ไปทางบานพระทวาร ก่อนวรองค์ซูบแต่สง่างามกว่าเคยจะเสด็จตรงมา
คาเรนถวายคำนับงดงาม จนท่านปู่ทรงพระสรวลอย่างทรงทราบถึงความเจริญวัยขึ้นของพระนัดดา
“เป็นยังไงบ้าง สนุกและสบายดีล่ะสิท่า”
“ถ้าหมายความถึงสนุกมั้ย หม่อมฉันคิดว่าสนุกดี แต่ถ้าถามว่าสบายดีมั้ย หม่อมฉันว่าไม่ค่อยสักเท่าไหร่” คนตอบทรงพระสรวลกว้างและดำรัสตอบทีเล่นทีจริงเช่นกัน
“งั้นถามอย่างนี้ดีกว่า” สุรเสียงห้าวทว่าอบอุ่นเงียบไปครู่เดียวเพื่อสังเกตพระอิริยาบถของวรองค์เล็กเบื้องพระพักตร์ “เจ้า...มีอะไรอยากบอกปู่หรือเปล่า”
คำตรัสถามนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าทรงทราบเรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว พระองค์ใหญ่แห่งราชวงศ์วาเนบลีซึ่งกำลังจะเป็นจอมทัพในเร็วๆนี้จึงคุกพระชานุลงชิดพระแท่น และทรงหมอบราบแทบพระบาทท่านปู่อย่างทรงพักพิงพระหทัยอันเหนื่อยล้า เป็นผลให้วรองค์บนพระเก้าอี้โน้มลงมาลูบพระปฤษฎางค์ประทานอย่างอ่อนโยน
แม้ไม่มีถ้อยดำรัสใดเล็ดลอดออกมาจากพระศอที่ตีบตัน ทว่าการได้แสดงความอ่อนแอที่ทรงเก็บงำไว้บ้าง ย่อมทำให้ทรงสบายพระทัยมากขึ้น
“ปู่รู้เรื่องทุกอย่างนั่นแหละ ออเรียลมันบอกปู่หมดแล้ว”
“ออเรียลหรือกระหม่อม”
พระเนตรที่เงยสบแฝงความฉงนไว้ชัดเจน
“มันปรึกษาปู่ตั้งแต่เรื่องเซลด้าที่เป็นเหตุให้เจ้าหนีออกจากวังไป แล้วมันก็คอยรายงายเรื่องเจ้าให้ปู่ฟังตลอดตั้งแต่อยู่เอดินเบิร์กจนกระทั่งเร่ร่อนไปถึงทริสทอร์โน่น อ้อ เรื่องมายากรที่เจ้าเรียกพี่ชายนั่น ปู่ก็รู้แล้วเหมือนกัน”
“ท่านปู่!!”
คราวนี้ล่ะที่ทรงร้อนรนลุกขึ้นประทับยืนอย่างรวดเร็ว พระอัยกาจึงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตร แล้วตรัสสุรเสียงเมตตา
“เจ้าน่ะชอบปิดบังปู่ เวลามีอะไรก็เก็บๆมันเอาไว้ นานเข้ามันก็ทนไม่ไหวน่ะสิ แล้วยังไงล่ะ พอเจ้าหายออกจากวังไป ปู่ก็เป็นห่วงบ้างไม่ได้หรือไง เพราะรู้อยู่แล้วว่าหลานปู่ยังไม่โตเสียหน่อย”
“โธ่ ท่านปู่ หม่อมฉัน....”
วรองค์เล็กบางทรุดลงอีกครั้ง ราวกับทรงยอมแพ้อดีตกษัตริย์บาโรแล้วโดยสิ้นเชิง แต่พระอัยกากลับดึงพระหัตถ์เรียวขึ้น และสั่งให้ไปประทับนั่งตรงพระเก้าอี้ด้านตรงกันข้าม
“ตอนนั้นเจ้ายังไม่โตจริงๆนั่นแหละ แต่ตอนนี้เจ้าเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงามแล้ว”
คำรับสั่งชมประหลาดทำให้พักตร์คมคายแย้มรอยสรวลจืดชืดทันควัน แล้วทรงชะเง้อไปยังแผนที่ในหัตถ์ท่านปู่ ก่อนทรงอุทานลั่น
“โห ท่านปู่ ทรงศึกษาไว้สำหรับไปรบหรือกระหม่อม”
“เจ้านี่” หากแผนที่ไม่ใหญ่โตนักคงถูกม้วนแล้วประทานทุบเข้าให้แล้ว
“ปู่ศึกษาเอาไว้บอกเจ้านั่นแหละ เพราะการสงครามต้องรู้เขารู้เรา รู้การยุทธ์ รู้กลศึก กลศึกต้องประกอบจากหลายอย่าง ทั้งประเมินกำลังทหารสองฝ่าย ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน และประเมินความได้เปรียบเสียเปรียบของสมรภูมิ”
แผนที่ถูกเลื่อนมาให้ทอดพระเนตรใกล้ๆ
“ทีนี้เจ้าลองประเมินสถานการณ์ตอนนี้ให้ปู่ฟังซิ”
คราวนี้ล่ะที่เจ้าชายคาเรนเหมือนจะทรงจนแต้มจริงๆ เพราะตลอดเวลาที่เดินทางกับเรย์ พระองค์ทรงห่างจากข่าวสารเกี่ยวกับสงครามทั้งหมดทั้งมวล ทว่าพระปรีชาสามารถประเมินสถานการณ์นั้น ป่านปู่เคยทรงฝึกฝนให้เมื่อครั้งยังพระชนมายุสิบพรรษาโน่น และน่าจะเหลือในความทรงจำบ้าง
“หลังจากคิงแห่งซาเรสพระองค์นั้นทรงยึดครองดินแดนทางเหนือทั้งหมด และเพิ่งได้พันธมิตรสำคัญอย่างทริสทอร์ กำลังทหารที่มีการเตรียมมาหลายเดือนย่อมรัดกุมและยิ่งใหญ่ ตอนนี้จึงกำลังแผ่อิทธิพลไปกดดันทางตะวันออก คาดว่าก่อนสงครามจะถึงจุดเดือด เอเดนน่าจะแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน”
“อืม” การพยักพักตร์ตามบ่งบอกถึงความพอพระทัยอย่างยิ่ง “แล้วเจ้าว่า ใครจะอยู่ฝ่ายไหนบ้างล่ะ”
“เมื่ออีกฝ่ายนำโดยซาเรส ดินแดนทางเหนือทั้งหมดคือวิทช์ เจมิไน แอเรียส ไนล์ และฟรานซ์ ที่ถูกยึดครองได้คงต้องเข้าร่วมสงครามด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อบวกทริสทอร์เข้าไป ดินแดนทางตะวันออกจะเสี่ยงต่อการเป็นจุดปะทะระหว่างสองทัพ ก็น่าจะยอมเป็นพันธมิตรฝ่ายโน้นด้วย”
อาการถอนพระทัยยาวของพระองค์ใหญ่เข้ามาคั่นเมื่อสถานการณ์กำลังแย่เข้าทุกขณะ
“ตอนนี้คงต้องรอการตัดสินพระทัยของท่านอามาทิลด้าว่าจะทรงนำอเมซอนเข้าร่วมสงครามเมื่อไหร่ เพราะการที่สงครามยังชะลอตัวอยู่ อาจเนื่องจากคิงอาเธอร์ทรงให้โอกาสกษัตริย์แห่งอเมซอนเลือกพรรคพวก เพราะเมื่อไหร่ที่ทรงได้อเมซอนเป็นพันธมิตร เมื่อนั้นสงครามจะเปิดตัวเต็มรูปแบบ แต่หากนานเข้าอเมซอนยังไม่เลือกฝ่าย หรือเลือกเข้ากับฝ่ายเรา ศึกแรกคงเกิดขึ้นที่อเมซอนแน่นอน”
“กษัตริย์แห่งอเมซอนจึงต้องคิดหนัก” กระแสรับสั่งพระอัยกาหมายความว่าที่พระนัดดาทรงอ่านสถานการณ์ปัจจุบันนั้นถูกต้องแล้วทุกประการ “เพราะการเป็นพันธมิตรกับซาเรสแค่ยกทัพออกไปช่วย และกันการยกพลขึ้นบกจากชายฝั่งด้านตะวันออก น่าจะเสียหายน้อยกว่าการตกเป็นเป้าโจมตีแรก”
“ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการอเมซอน เพราะมีอิทธิพลในดินแดนตะวันออกรองจากทริสทอร์ แต่มีอิทธิพลอันดับหนึ่งของเมืองท่าไกลออกไป เพราะหากอเมซอนเข้าร่วมฝ่ายไหน โรมันและลิบราน่าจะเข้ากับฝ่ายนั้นด้วย ซึ่งเท่ากับฝ่ายซาเรสได้อาณาเขตติดทะเลของเอเดนครึ่งหนึ่ง มากพอที่จะเดินทางด้วยเรือมาทำสงครามกับเราได้ ทีนี้เมื่อเราต้องรับศึกสองด้าน ก็จะกลายเป็นภาระอันหนักหน่วงและเสียเปรียบมากทีเดียว”
“เมื่อครั้งเกิดศึกเอเดน เดมอส” พระอัยกาทรงดำริถึงการศึกครั้งสุดท้ายที่พระองค์ทรงเป็นจอมทัพ และรวบรวมพลไปชิงดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ทางทิศตะวันตก “ประเทศต่างๆรวมพลังกันหมด ยกเว้นประเทศที่มีลักษณะอันเป็นเกาะและอยู่ห่างไกลออกไป แต่หากสงครามคราวนี้มีทัพทางทะเลเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็ต้องการพันธมิตรจากประเทศที่เป็นเกาะเช่นกัน เพราะการครองน่านน้ำให้ได้มากเท่าไหร่ ย่อมเป็นประโยชน์มากเท่านั้น”
“เมื่อครู่หม่อมฉันสั่งให้เสนาบดีกระทรวงกลาโหมคนใหม่มาเข้าเฝ้าแล้ว ท่านปู่จะได้ดำรัสเรื่องการศึกทางทะเลและวางแผนเรื่องสร้างพันธมิตรเพื่อยึดครองน่านน้ำ”
พระองค์ใหญ่รับสั่งเรื่องต้องพระทัย จนท่านปู่ทรงตรัสเปรยขึ้นมาว่า
“เก่ง” ถึงจะแสนสั้นแต่ทำให้คนฟังปลาบปลื้มได้เสมอ “ไวสมเป็นเจ้า”
“เอ้อ หม่อมฉันเพิ่งนึกได้ หลังพระกระยาหาร ท่านปู่จะทรงเสด็จเข้าที่ประชุมด้วยไหมกระหม่อม หม่อมฉันจะประชุมขุนศึก หารือเรื่องการจัดทัพ และการขอความร่วมมือจากพันธมิตรฝ่ายเราอย่างเวนอลและบารามอส”
“ถามแต่ปู่ ตัวเจ้าเถอะ กินอะไรมารึยัง ตั้งแต่กลับมาน่ะ”
“บ้างกระหม่อม” คำรับสั่งไม่เท็จทั้งหมด.....แต่นั่นหมายความว่าไม่จริงทั้งหมดเช่นกัน
“อย่าหลอกปู่เชียวนะ” เนตรสีฟ้าที่ต่อให้ผ่านวันเวลามานานแค่ไหนก็ไม่อาจกลบรัศมีทรงอำนาจ เพิ่งฉายแสงโรจน์ออกมาให้พระนัดดายำเกรง “เจ้าไม่ดูแลตัวเอง จะไปดูแลทหารได้อย่างไร ไปๆ ไปร่วมที่เสวยกับคลาเอน่าบ้างไป หลังๆมานี้มีแต่น้องเจ้าเท่านั้นแหละที่ต้องกลับมาที่วัง”
คาเรนจึงทรงประทับยืนพระองค์ตรง ก่อนถวายคำนับงดงามอีกครั้ง
“เป็นไปตามพระราชประสงค์กระหม่อม”
ความคิดเห็น