ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนทายาท 3 แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #54 : พระขนิษฐาแห่งคาเรน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.18K
      1
      19 พ.ย. 49

    48

    พระขนิษฐาแห่งคาเรน

     

                    การเตรียมแผนการรบรุดหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อตำแหน่งผู้บัญชาการทางทหารมีจัสตินมาแทนที่ ขณะตำแหน่งจอมทัพถูกประกาศออกไปแล้วว่าเจ้าชายรัชทายาทจะเสด็จกลับมาดำรงพระยศนี้เอง เพียงแต่ว่าบัดนี้ยังติดพระราชภารกิจ ไม่อาจเสด็จกลับมาอยู่เป็นขวัญกำลังใจทหารได้

                แน่นอนว่าย่อมมีผู้ไม่พอใจ โดยเฉพาะทหารในกระทวงกลาโหมทั้งหลาย แต่จะว่าอย่างไรได้ในเมื่อ...         กฎอัยการศึกถูกประกาศ

                แม้ใครมีท่าทีต่อต้านเพียงเล็กน้อย ทุกอย่างก็จะขยายวงกว้างอย่างคาดไม่ถึงจนอาจกลายเป็นกบฏ ซึ่งบทลงโทษของการเป็นกบฏกลางศึกนั้นเป็นอย่างไร ทุกคนย่อมแจ้งใจและไม่ยอมเสี่ยงอย่างเด็ดขาด

                ถึงตำแหน่งจอมทัพยังไม่มีใคร ทว่าคนที่ดำเนินตรวจทัพคือ

                ควีนแห่งคาโนวาล

    ที่ทรงพาดดาบผ่าปฐพีไว้บนพระอังสาบาง แต่เสด็จมาซ้อมรบให้ทหารทุกวันไม่รู้จักเบื่อ โดยมักทรงชุดนักรบเต็มรูปแบบ และลงแรงต่อสู้กับทหารอย่างสุดกำลัง จนเสด็จกลับด้วยสภาพมอมแมมแทบทุกวัน แถมยังไม่โปรดให้มีนางกำนัลตามเสด็จให้วุ่นวายด้วย

    เมื่อถึงเวลาเสวย ยังโปรดให้เหล่าขุนศึกร่วมประทับเสวยบนโต๊ะระดับเดียวกัน พลางหารือเรื่องการจัดทัพอย่างสนุกสนานเสียมากกว่าเคร่งเครียด ทั้งบางครั้งยังทรงเสนอแนวพระราชดำริที่เข้าท่ามั่งไม่เข้าท่ามั่งให้เหล่าทหารได้แต่มองหน้ากันอย่างลำบากใจเสียอีก

     

    ช่างเถอะ ท่านจัดการอย่างที่ท่านเห็นเหมาะสมแล้วกัน เราไว้ใจท่าน

     

    ลงท้ายก็ทรงรับสั่งแบบนี้ ทว่าทวยหาญที่ได้ยินกลับยิ้มอย่างปลื้มปีติ ที่พระราชินีทรงไว้วางพระราชหฤทัย และไม่ทรงถือองค์ว่ามากยศมากศักดิ์กว่าใครเลย

    ขณะที่งานเก็บเกี่ยวผลผลิตเข้ายุ้งฉางดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเรียบร้อย เมื่อกษัตริย์แห่งคาโนวาลทรงออกบัญชาการด้วยพระองค์เอง ทั้งยังประทับท่ามกลางประชาชนที่เดือดร้อนจากการต้องอพยพเข้ามาเมืองหลวงแทบทั้งวันทั้งคืน เพื่อจัดแจงเรื่องที่พัก อาหาร ความปลอดภัย และสาธารณสุขให้อย่างทั่วถึง จนแม้แต่ประชาชนที่ยากไร้ก็ยังได้รองบาทรับใช้ใกล้ชิดเลยทีเดียว

     

    ฝ่าบาททรงถนอมพระวรกายด้วย

     

    ทหารส่วนพระองค์มักจะทูลเตือนให้ทรงเสด็จกลับวังเมื่อถึงเวลาสรง หรือเสวยเสมอ ทว่าที่มีพระกระแสรับสั่งตอบกลับมาก็คือ ให้สร้างที่ประทับเรียบๆง่ายๆขึ้นหลังหนึ่ง

    ทุกคนจึงได้เห็นกษัตริย์ของเขาแทบตลอดเวลา ว่าทรงสูงส่ง ทว่าเรียบง่ายและอ่อนโยนเพียงใด

    จนพอตอนค่ำนั่นแหละ พระราชินีจึงเสด็จมาประทับร่วมกัน และทรงยึดที่ประทับนอกวังนั้นเป็นเสมือนห้องส่วนพระองค์อันแสนสบาย โดยมิได้ตรัสบ่นสักคำ

    ตรงกันข้าม....ทั้งสองพระองค์ยังทรงพระสำราญมากกว่าอยู่ในเขตพระราชฐานซะอีก

    ส่วนพระองค์เดียวที่ยังเสด็จกลับวังอยู่ก็คือ พระองค์เล็ก เพราะยังทรงมีพระราชภาระในการบริหารงานภายในเขตพระราชฐานอยู่ ซึ่งเมื่อก่อนที่พระราชินีทรงรับกระทำเองทุกเรื่อง พระองค์ก็มีโอกาสได้เห็นและได้เรียนรู้ไว้บ้าง

     

    อาหารนี่ลดลงสักครึ่งนะ

     

    ทรงรับสั่งเมื่ออยู่ในที่เสวยเพียงลำพัง โดยมีนางกำนัลแวดล้อมถวายงานพรั่งพร้อม ทว่าห้องกว้างขวางกลับดูโหวงเหวงเหลือเกิน

     

    บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะสงคราม จะให้ทุกอย่างหรูหราอู้ฟู่เหมือนก่อนได้ยังไง บอกทางฝ่ายห้องเครื่องด้วยว่า เลิกสั่งวัตถุดิบชั้นดีจากชาวบ้านได้แล้ว จำไว้ ท่านพ่อท่านแม่เสวยอย่างไร ก็จัดให้เราอย่างนั้น

     

    แต่ก็ทรงเสวยให้มากหน่อยสิเพคะ นางกำนัลคนสนิทเท่านั้นกล้าทูล เสวยเพียงเท่านี้จะมีพระพละสำหรับทรงงานช่วยพระบิดาพระมารดาได้อย่างไร

     

    นั่นล่ะเรื่องจริง เพราะเมื่อสงครามใกล้เข้ามา พระองค์เล็กก็ไม่สามารถประทับในวัง โดยรอพระพี่นางเสด็จกลับเพียงอย่างเดียวได้ ไม่อย่างนั้นคงได้ฟุ้งซ่านจนทำเรื่องร้ายๆอย่างที่เจ้าพี่ทรงปรามไว้แน่นอน ดังนั้น ยามนี้จึงทรงเสด็จออกเยี่ยมชมและก่อตั้งสถานพยาบาลสำหรับดูแลทหารที่บาดเจ็บจากสงคราม ทรงรับผิดชอบพระราชกรณียกิจเช่นเดียวกับทุกพระองค์เช่นกัน

    ขนาดพระอัยกาซึ่งทรงวางพระราชภาระแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ยังมีพระกระแสรับสั่งเป็นที่ปรึกษาการทหารให้เลย แล้วพระองค์ที่เป็นพระนัดดาองค์เล็กจะนิ่งเฉยได้อย่างไร

    ว่าแต่ พระองค์ใหญ่ที่เป็นพระนัดดาองค์โปรดเล่า ป่านนี้ทรงซุกซนอยู่ที่ไหน

    โอ ลางสังหรณ์ของเรา

    จงผิดพลาดเป็นครั้งแรกเถอะ

     

     

                กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือเพคะ

     

                เจ้าหญิงองค์น้อยทรงรับสั่งอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะถวายคำนับงดงาม และประทับร่วมพระเก้าอี้ตัวยาวเดียวกันในอุทยานหลวง

     

                ก่อนหน้าที่หญิงจะเข้าที่เสวยนั่นแหละ แต่พี่อยากให้หญิงอิ่มก่อน แล้วค่อยคุยกัน

     

                พบท่านพี่แล้วหรือเพคะ

     

                นี่ล่ะ เรื่องที่อยู่ในลมหายพระทัยตลอดหลายวันที่ผ่านมา

                แต่เจ้าพี่คนดีกลับแบพระหัตถ์เรียกคทาหมื่นเหมันต์มามอบคืนให้เฉยๆ คลาเอน่าจึงทรงรับมากอดในพระอุระแน่น แล้วจึงสัมผัสได้ถึงไออุ่นของพระพี่นางที่ยังไม่จับจางหายไป

                ทรงพบเจ้าชายคาเรนแล้วจริงๆนั่นแหละ....แต่ที่ไม่ทรงทราบเลยก็คือ มนต์รักษาที่ทรงฝากไปในคทาอันทรงฤทธิ์นั่นแหละที่สามารถช่วยต่อพระชนม์ชีพของพระพี่นางไว้ได้ทันเวลาพอดี

                หาก.....ออเรียลไปพบช้าแม้สักนาที สิ่งที่นำมามอบคืนให้พระขนิษฐาองค์เดียวคงไม่ใช่แค่คทาที่ยืมไป

                แต่จะกลายเป็นพระศพของเจ้าชายที่เคยหนุนใต้บัลลังก์ตลอดมาด้วย

     

                ท่านพี่ของหญิงฝากบอกมา จะกลับมาทันเวลาก่อนสงครามปะทุแน่นอน

     

            ตรงนี้ไม่เชิงว่าเท็จสักเท่าไหร่ เพราะถ้าคาเรนมันรู้เมื่อไหร่ว่าสงครามที่เกือบจะมอดดับกลับบังเกิดขึ้นมาอีกครั้ง มันคงจะฝากบอกกลับมาเช่นนี้ และมันก็ต้องรีบกลับมาก่อนที่คาโนวาลจะแย่แน่นอน

     

                ท่านพี่ทรงพระสำราญดีใช่ไหมเพคะ

     

                ทรงถามอย่างดีพระทัยล้นเหลือที่ลางสังหรณ์ผิดพลาดจนได้ แต่แล้วพระองค์นั่นแหละที่ทรงจับพระอาการส่อพิรุธของเจ้าพี่ได้

     

                เจ้าพี่ เนตรงามส่อประกายสับสน ขณะประกาศลั่น อย่าทรงตรัสโป้ปดหญิงนะเพคะ

     

                หญิง....ท่านพี่ของหญิง.....

     

                จะเรียกว่าปลอดภัยก็คงจะไม่เต็มปากนัก เพราะมนต์รักษานั้นอาจสมานบาดแผลอันเกิดจาดอาวุธได้ ทว่าพระอาการอ่อนเพลียทางวรกาย และพระโลหิตที่ทรงเสียไปมาก ยังไม่อาจรับรองได้ว่าสุดท้ายผลรักษาจะเป็นอย่างไร

                คงต้องแล้วแต่บุญญาธิการกระมัง....ว่าคาเรนมันจะมีเวลาพอจะรอรับบัลลังก์จากพระบิดารึเปล่า

     

                ท่านพี่เป็นอย่างไรหรือเพคะ

     

    ตอนนี้ยัง...ไม่เป็นอะไรมาก

     

    วรองค์บางถึงขั้นลุกพรวด แล้วมองคนที่เป็นยิ่งกว่าพระเชษฐาอย่างขุ่นเคืองยิ่งนัก

     

    เจ้าพี่หมายความว่าอย่างไรหรือเพคะ แล้วประสงค์จะให้หญิงเข้าใจอย่างไร ท่านพี่กำลังอยู่ในอันตรายหรือทรงพระสำราญกันแน่

     

    ก็ไม่ใช่ทั้งสองอย่างนั่นแหละ ในเมื่อคาเรนมันพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ก็คงไม่สำราญกับบาดแผลนั้นเท่าไหร่

     

    หญิง...พี่มาลา

     

    เมื่อพูดไปอีกเรื่องอย่างรวดเร็ว พระองค์เล็กก็ทรงตะลึงลาน

     

    อะไรนะเพคะ

     

     

    การลากลับทริสทอร์มิใช่เรื่องผิดปกติ เพราะถึงเจ้าพี่จะทรงเสด็จมาเยี่ยมคาโนวาลพร้อมเจ้าชายคาเรนบ่อย ทว่าพระราชภาระของบ้านเมืองของเจ้าพี่เองก็ทรงอยู่ในความรับผิดชอบเช่นกัน

    แต่สีพระพักตร์และแววเนตรอย่างนั้น หมายความว่าอย่างไรกันแน่

     

    เจ้าพี่.... สุรเสียงล้าลงอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีโกรธกริ้วเมื่อครู่ก็หายไปแทบไม่ปรากฏมาก่อน จะทรงทิ้งหญิงไปแล้วหรือเพคะ

     

    พอดวงตาสีมรกตทอดมองอ่อนโยน วรองค์น้อยก็โผเข้ากอดอย่างกลัวจะทรงสูญเสียไปจริงๆ

     

    หญิงขอประทานอภัยเพคะ หญิงไม่น่าแสดงอาการไม่น่ารักอย่างนั้นเลย เอาเถอะเจ้าพี่ จะไม่ทรงบอกอะไรหญิง หญิงก็จะไม่คาดเค้นอีกแล้ว ไม่ต้องทรงโป้ปดหญิงหรอกเพคะ หญิงจะเชื่อเจ้าพี่ทุกอย่าง ไม่สงสัย ไม่ดื้อ ไม่ก้าวร้าวอีกแล้วเพคะ

     

    หญิง.....เข้มแข็งไว้นะจ๊ะ

     

    เสียงที่กระซิบอย่างแผ่วเบา ทำให้ดวงเนตรสีฟ้างามชื้นไปด้วยหยาดอัสสุชลทันที

     

    ไม่เพคะ คนที่ตรัสสัญญาจะไม่ดื้อไม่ก้าวร้าวสวนคำทันที หญิงไม่มีท่านพี่อยู่คนหนึ่งแล้ว อย่าให้หญิงเสียเจ้าพี่อีกเลยเพคะ

     

    สงคราม.....

     

    หญิงไม่เข้าร่วมสงครามด้วยก็ได้เพคะ หญิงจะอยู่แต่ในเขตพระราชฐาน เจ้าพี่จะทำอะไรหญิงก็จะไม่ยุ่มย่ามอีกแล้วเพคะ

     

    นั่นล่ะดีแล้วคลาเอน่า เสียงที่เอ่ยมาขาดหายไปครู่หนึ่งก่อนตัดใจพูดจนได้ เพราะพี่ไม่อยากให้หญิงเห็นพี่อยู่ในสมรภูมิรบ

     

    ดวงเนตรงามเบิ่งกว้างทันที ก่อนจะสลัดออกจากอ้อมแขนแข็งแรงอย่างรวดเร็ว

     

    หมายความว่า?.....

     

    ทริสทอร์เป็นพันธมิตรกับซาเรส พี่จะต้องเป็นผู้บัญชาการทหารฝ่ายโน้น รบกับท่านพี่ของหญิง

     

    โอ ไม่ ต้องไม่

     

    สุรเสียงหวานใสเริ่มกรีดแหลมอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนวรองค์บางจะสะอึกถอยหลังอย่างทรงสับสนเต็มที

     

    เจ้าพี่....หญิงไม่สนุกนะเพคะ อย่าทรงล้อเลียนหญิงเล่นอีกเลย

     

    คลาเอน่า พี่เคยบอก พี่ไม่โกหกหญิง และคราวนี้พี่ก็ไม่ได้ล้อเลียนด้วย

     

    เสียงทั้งสองฝ่ายเจ็บปวดร้าวรวดไม่แพ้กัน เมื่อต่างฝ่ายต่างทราบดี....ทางทั้งสองแยกจากกันแล้ว

     

    งั้น...ถ้าเจ้าพี่ตรัสเรื่องจริง เราก็คงไม่ได้พบกันอีกแล้วใช่มั้ยเพคะ

     

    นี่ไม่นับการพบกับในสนามรบ เพราะเมื่อนั้น ต่างฝ่ายจะต่างเป็นศัตรู

     

    คง..งั้น

     

    งั้นหญิงคืนคทาหมื่นเหมันต์ของท่านพี่ให้นะเพคะ เพราะท่านพี่จะได้ใช้รับเวทย์จากคทาเวหาหิมะของหญิง พระองค์เล็กทรงตรัสสุรเสียงกร้าว ขณะดวงเนตรกะพริบช้าๆ สีฟ้าน้ำทะเลภายในเริ่มเปลี่ยนไป มันจางลงๆทุกขณะ

     

    ไม่ หญิงสัญญากับพี่แล้ว

     

    เพราะสัญญาณในดวงเนตรงามนั้นเองที่บอกอะไรบางอย่างแก่ออเรียล สิ่งที่เขากลัวกำลังจะเป็นความจริงหรือนี่

     

    หญิงไม่เป็นเด็กดีของท่านพี่แล้วเพคะ เพราะหญิงเชื่อฟังทั้งท่านพี่และเจ้าพี่มาตลอดว่าให้อ่อนโยนเข้าไว้ แต่ก็แล้วยังไงล่ะเพคะ ในเมื่อหญิงอ่อนแอเรื่อย ต้องให้ท่านพี่กับเจ้าพี่ปกป้องเรื่อย แล้วท่านพี่กับเจ้าพี่ก็ทอดทิ้งหญิงเรื่อย

     

    คลาเอน่า พี่ขอโทษ

     

    เนตรสีฟ้างามหลุบลง ก่อนจะช้อนขึ้นมองอีกคราด้วยท่าทางเย็นชาผิดปกติ

    อัญมนีสีฟ้าทั้งคู่เปลี่ยนไปแล้ว....มันกลายเป็นสีเทา สีเทาที่ดูว่างเปล่าเยือกเย็นอย่างยิ่ง

     

    หญิงก็ขอโทษล่วงหน้าเช่นกัน หากหญิงไม่เกรงใจเจ้าพี่ในสนามรบ

     

    ว่าแล้ววรองค์บางก็ถอยหลัง และจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ความมืดรอบด้านพร้อมใจกันกลืนพระองค์เล็กจนหายไปในที่สุด...

    พร้อมๆกับคทาหมื่นเหมันต์ที่ร่วงจากท้องฟ้าลงมาบนมือของเจ้าของเดิมทั้งที่ไม่ได้เรียกแม้แต่น้อย

    กลับมาแล้วล่ะสิ....แม่มดปีศาจแห่งคาโนวาล

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×