ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนทายาท 3 แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #36 : เป้าหมายที่แท้จริง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      1
      21 ต.ค. 49

    32

    เป้าหมายที่แท้จริง

     

    คาโล

     

    เสียงนั้นดังมาจากบานพระทวารห้องทรงงาน เรียกให้เนตรสีฟ้างามเงยขึ้นมอง ก่อนจะขมวดขนงอย่างสงสัย เพราะแม้ทั้งเสียงและร่างของผู้มาเยือนนั้นจะแสนคุ้นนักหนา แต่คนที่ดำริไว้ในพระทัยก็อยู่ไกลถึงซาเรส ไม่น่าจะมาอยู่ที่คาโนวาลได้

    แต่คนๆนั้นก็มาเยือนคาโนวาลจริงๆ

    ร่างของนักฆ่าตระกูลซาเรส คิลมัส ฟีลมัส ก้าวเข้ามาในห้องทรงงานอย่างช้าๆ นัยน์ตาสีม่วงที่พราวระริกอย่างรักสนุกตลอดเวลาไม่ว่าจะผ่านวัยเด็กไปนานแค่ไหน บัดนี้ขุ่นมัวและเต็มไปด้วยรอยความไม่พอใจ ท่าทางเอื่อยเฉื่อยเหมือนคนไม่มีแรง วันนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นก้าวร้าวหงุดหงิด ฟังแค่เสียงเรียกเพื่อนรักซึ่งเป็นถึงคิงคาโนวาลก็พอจะรู้แล้ว

    มันโกรธอะไรของมัน......คาโลยังดำริในพระทัย แม้จะวางสีพักตร์เรียบเฉย

    หรือว่าเรื่องเรนอน?

     

    นายสวนทางกับเรนอนพอดี เขาเพิ่งออกจากวังไปเมื่อเช้านี้เอง

     

    คาโล เสียงเรียกยังคงบังอาจดังเดิม แต่บ่งบอกความโกรธมากกว่าหลายเท่านัก นายไม่รู้อะไรเลยรึไง

     

    คราวนี้เนตรสีฟ้าแฝงประกายเย็นชา ลางสังหรณ์ส่วนลึกบ่งบอกว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

     

    นายอยู่แต่ในห้องนี่ตั้งแต่เมื่อเช้าล่ะสิ คิลถามขึ้นอย่างรู้ดีว่านี่เป็นช่วงทรงงาน ต่อให้มีเรื่องเร่งร้อนแค่ไหน คนจัดการไม่ให้มีใครเข้ามารบกวนได้ ก็คือพระราชินีเฟรินนั่นเอง แล้วก็ยังไม่ได้รับรายงานบ้าบอคอแตกอะไรทั้งนั้นใช่ไหม

     

    คาโลไม่ทรงตอบ ทว่าขนงขมวดแทบเป็นโบว์

     

    ฟังนะ ฉันจะรับเรนอนกลับเดี๋ยวนี้ แล้วจะกลับมารับลูกชายกับลูกสาวฉัน เมื่อเซลด้าหายดีแล้ว

     

    ว่าแล้วนักฆ่าแห่งซาเรสก็หมุนตัวขวับ เสียงพระเก้าอี้เลื่อนออกเพราะคิงคาโล ทรงประทับยืนกะทันหันดังมาจากเบื้องหลัง ก่อนสุรเสียงเข้มจะดังขึ้น

     

    เดี๋ยว

     

    คิลหันไปมองอย่างเย็นชาพอๆกับคนทอดพระเนตรลงมา

     

    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

     

    พวกคาร์ซาร์ถูกลอบทำร้ายระหว่างเดินทางกลับ คาโล ยังไม่ทันพ้นเขตคาโนวาลด้วยซ้ำ เรนอนเป็นลมสลบไปจนเพิ่งฟื้นเมื่อกี้ แต่ที่แย่กว่าคือเซลด้าที่บาดเจ็บสาหัสและเสียดเลือดไปมาก ฉันมานี่ก็เพื่อจะมาขอให้หมอโอเดลเจ้าเก่าช่วย ไม่ได้จงใจรบกวนเวลาทรงงานฝ่าบาทแต่อย่างใด

     

    ประโยคสุดท้าย น่าจะจงใจกล่าวประชด ก่อนร่างสูง แข็งแรง จะจ้ำพรวดออกนอกบานพระทวารไป

     

     

    ลุงหมอว่าไงบ้าง

     

    ออเรียล ที่โผล่มาหลังสุด และเพิ่งได้ฟังเรื่องราวจากเจ้าหญิงคลาเอน่าถามขึ้น ขณะยื่นหน้าข้ามไหล่คาร์ซาร์ ไปมองร่างบางที่นอนนิ่งบนเตียงยาว ใบหน้างามของเพื่อนสาวเปลี่ยนเป็นสีซีดได้อย่างน่าตกใจ แต่อย่างน้อยจังหวะหายใจก็ยังปกติอยู่เหมือนคนนอนหลับไปเท่านั้นเอง

     

    เสียเลือดมาก ต้องพักหลายวัน

     

    คาร์ซาร์ตอบ ทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าคนรัก

     

    ยังดีที่ไม่เป็นไรมาก เจ้าชายทริสทอร์ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ก่อนถามถึงท่านหญิงเรนอน

     

    แม่ฟื้นแล้ว แต่ลุงหมอยังให้ยาอีก ก็เลยหลับไปเพราะฤทธิ์ยา พ่อว่าพอฟื้นแล้วจะเดินทางกลับซาเรสทันที แล้วฉันกับเซลด้าค่อยตามไปทีหลัง

     

    น่าเสียดาย คาเรนไม่อยู่ ไม่มีใครรู้เสียด้วยสิว่าไปไหน ไม่งั้นป่านนี้มันคงจัดการลากคอคนบังอาจลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งอเมซอนออกมาแล้ว

     

    ว่าไงนะ? คาร์ซาร์หันขวับ ถามเสียงดังอย่างลืมเกรงใจคนยังไม่ฟื้น นายหมายความว่า คนที่ลอบทำร้ายครั้งนี้หมายตาที่เซลด้าตั้งแต่แรกงั้นหรือ

     

    ไม่เป็นอย่างนั้นจะเป็นอย่างไรได้

    เซลด้าเพิ่งเคยเดินทางมาคาโนวาล อยู่ได้ไม่กี่วันก็มีกำหนดการไปซาเรส แต่ยังไม่ทันก้าวข้ามชายแดนคาโนวาลเสียด้วยซ้ำ เรื่องคอขาดบาดตายก็เริ่มขึ้นเสียแล้ว

    อเมซอนต้องการคำตอบ และการจัดการที่น่าพึงพอใจ

    คาโนวาลต้องตอบได้ จัดการได้

    หาไม่....สัมพันธภาพระหว่างประเทศจะพังทลาย

    ศึกนอกกำลังเริ่มต้น....พันธมิตรจะแยกตัวไม่ได้

    การลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้ แม้ไม่สำเร็จเด็ดขาด แต่ก็นำมาซึ่งความวุ่นวายอย่างคาดไม่ถึง

    คาเรนจะทรงจัดการอย่างไร

     

     

    ขณะนั้น คาเรนเพิ่งเสด็จกลับถึงเขตพระราชฐานชั้นนอก และย่างบาทเร็วผ่านทางเดินศิลามาด้วยพระอาการรีบร้อน หลังจากทรงสดับข่าวร้ายอันเหนือความคาดหมาย เกี่ยวกับความเป็นความตายของพระสหายร่วมป้อม ผู้เป็นถึงเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งอเมซอน

    ซาฟา....มันทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ

    แน่ล่ะ....ทรงรออยู่ว่ามันจะทำอะไรเพื่อแก้หน้าให้กับตนเอง ในคราวที่พระองค์เสด็จไปถึงเมืองชายแดนในครั้งนั้น และรออยู่ว่าเมื่อไหร่สิ่งที่มันบังอาจริเริ่มเพื่อทำลายคาโนวาล จะชัดแจ้งพอให้จับมาลงโทษได้อย่างไม่มีคำครหาเสียที

    ไม่นึกเลยว่า หนทางทำลายคาโนวาลที่ซาฟาเลือก จะเป็นการเบนเป้าหมายไปที่เจ้าหญิงเซลด้า

    หรือพูดให้ถูกก็คือ.....มุ่งทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคาโนวาลกับอเมซอน

    ทั้งที่ ทั้งสองประเทศต่างต้องรับมือกับศัตรูภายนอกในเร็วๆนี้

    ศัตรูที่ได้ชื่อว่า สงคราม

    ฝ่ายเดียวกันต้องมาแตกหักกันเอง คงได้ปิดประตูแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

    งานของซาฟาครั้งนี้.....รุนแรงพอให้จัดการได้แน่

    ไม่ต้องหาหลักฐานด้วยซ้ำ

    แต่มันคุ้มกันหรือ กับการสูญเสียพระสหายสนิท

    โอ ไม่คุ้มแน่นอน

    คาเรนทรงกระทำเรื่องผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่แล้ว

     

     

    เปรี้ยง....

    คาเรนทรงสะบัดพักตร์อย่างมึนงง เพราะทันทีที่ย่างบาทเข้ามาในห้องรับรองที่จัดเป็นห้องส่วนพระองค์ของเจ้าหญิงอเมซอน อะไรหนักๆก็พุ่งเข้ามาที่พระนาสิก จนต้องซวนองค์ถอยไป ก่อนจะเงยพักตร์ขึ้นเพื่อจะทรงทราบว่า

    คาร์ซาร์นั่นเองที่ ถวายหมัดแด่พระองค์

    ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา คาเรนไม่เคยคิดว่าองค์เองเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่เคยคิดว่าองค์เองต้องเป็นผู้หญิง ดังนั้นเรื่องตัดสินกันด้วยกำลังกับคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆก็ถูกจัดเป็นเรื่องธรรมดา แบบที่ไม่ต้องเอาบรรดาศักดิ์มาเทียบ ไม่ต้องนับแม้แต่ความเป็นนายบ่าว หรือพี่น้องด้วยซ้ำ

     

    นายโกรธฉัน ฉันรู้

     

    ทรงพยายามควบคุมสุรเสียงให้เป็นปกติ ขณะปาดพระโลหิตที่ไหลลงจากมุมโอษฐ์ทิ้งไป

    มันโกรธมาก.....ปกติหมัดไอ้หมอนี่เบาจะตาย

    แต่ก็น่าอยู่....คาร์ซาร์มันไม่เคยทนได้ถ้าต้องเห็นเซลด้าบาดเจ็บ

     

    ออเรียลบอกฉันว่านายปล่อยพวกกบฏนั่นไปก็เพราะใจอ่อน เสียงลอดไรฟันของคาร์ซาร์บ่งบอกถึงเพลิงโทสะที่แทบจะระเบิดออกมาได้ดี มันรู้จักคาเรนดีกว่าใคร ฉันรู้ แต่ฉันรู้จักเจ้าชายคาเรนมากกว่า ฉันรู้ดีว่าความเป็นเจ้าชายรัชทายาทของนาย ความใจอ่อนเป็นเรื่องอันตราย และนายจะใจอ่อนกับใครได้บ้าง

     

    พักตร์คมคายตรงหน้าสงบนิ่ง เนตรงามมองตรง ดุจจะท้าทาย

     

    นายใจอ่อนกับศัตรูที่ฝีมือดีเสมอ ยกเว้นศัตรูบัลลังก์

     

    นั่นนับเป็นความจริง....เพราะศัตรูบัลลังก์ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ ยิ่งเป็นภัยต่อบัลลังก์มากเท่านั้น

     

    แล้วทำไมนายถึงปล่อยไอ้บ้านั่นไป....

     

    ดูเถอะ...ขนาดศัตรูภายในอันดับหนึ่งของสหายรัก คาร์ซาร์ยังจดจำไม่ได้ แล้วคาเรนจะทรงปรึกษาได้อย่างไร ว่าความจริงที่พระองค์ไว้ชีวิตมันก็เพื่อให้มันกระทำการใหญ่ให้เป็นที่โจ่งแจ้งอีกสักเรื่อง แล้วจะได้จัดการให้มันถึงขั้นเด็ดขาดไปเลย

    เพราะจู่ๆ....จะหาเรื่องไปประหารบุตรชายท่านเสนาบดีกระทรวงกลาโหมได้ไงล่ะ

    อำนาจที่ถ่ายโอนมาอย่างนุ่มนวล มักต้องรอเวลาเสมอ

    ใครจะรู้เล่า ว่ากระทำการใหญ่ของมันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอเมซอน

     

    เพื่อคาโนวาล

     

    ทรงตอบได้สั้นเต็มทน....ตอบได้เท่านั้นจริงๆ

     

    ทั้งชีวิตนายมีแต่คาโนวาลหรือไง!!!”

     

    เสียงถามเป็นเสียงตะโกนอย่างไม่อยากเชื่อ ขณะที่เสียงตอบก็ตะคอกกลับอย่างไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจเช่นกัน

    ฉันเป็นเจ้าชายรัชทายาท!!”

     

    แม้แต่เพื่อน เจ้าชายรัชทายาทก็ไม่เว้นหรือไง

     

    คราวนี้คนเป็นนักฆ่าถามเสียงกระด้าง ขณะเจ้าชายตรัสเย็นชา

     

    ฉันไม่ได้ตั้งใจ

     

    นายก็ไม่เคยตั้งใจทำอะไรเพื่อใครเลยสักอย่าง นอกจากคาโนวาลของนาย นอกจากบัลลังก์พ่อนาย นอกจากการได้เป็นคิง

     

    หุบปาก!!”

     

    คราวนี้ได้เรื่อง เพราะคาเรนจะไม่ทรงกริ้วมากมายเลย หากเพื่อนักไม่สะกิดข้อสำคัญในพระทัยขึ้นมา

    พระองค์ไม่ได้อยากเป็นคิง.....อย่างที่ใครๆมักเข้าใจผิดเสมอ

    แต่ก็นั่นแหละ ใครที่ไม่เคยสัมผัสเหตุผลแห่งการกระทำของพระองค์ย่อมไม่รู้ และจะพูดอย่างไรก็ได้

    คนอื่นอย่างไรก็ได้ แต่สำหรับพระสหายสนิทที่รู้จักกันมาหลายปี.....ต้องรู้

    คนอื่นพระองค์ไม่สน เพราะใครบ้างกล้าเอ่ยต่อพระพักตร์ ได้ถูกสั่งลงโทษเสียเท่านั้น แต่กับคาร์ซาร์ ต่อให้มันบังอาจพูดถึงขนาดว่าเพราะเหตุใดพระองค์จึงไม่อาจเป็นคิง คาเรนก็ไม่สามารถสั่งประหารมันได้ เนื่องจากมันเป็นเพื่อน

    เพื่อนตาย.....เพราะสามารถตายแทนกันได้จริง และเคยเกือบตายมาพร้อมกันจริง

    แต่ทำไม....แม้แต่มันเองก็เข้าใจผิด

     

    ขอประทานอภัยที่หม่อมฉันทำให้ทรงเคืองพระทัย เสียงของนักฆ่าเป็นฝ่ายเยือกเย็นลง แต่มีเค้ารอยความประชดจนน่ากลัว ทั้งยังถวายคำนับให้คาเรนอย่างที่เคยถวายให้คิงคาโล  หม่อมฉันสมควรขอพระราชทานอภัยโทษใช่มั้ยกระหม่อม

     

    นั่นเป็นการประชดประชันอย่างร้ายกาจทีเดียว เพราะมันบอกอยู่ชัดๆว่าเขาคิดอย่างไร

    เขาคิดว่าคนเรนต้องการเป็นคิง จึงทำทุกอย่าง โดยไม่คิดว่ามันจะมีผลกับใคร แม้แต่กับเซลด้า

     

    คาร์ซาร์....

     

    หม่อมฉันเข้าใจแล้วกระหม่อม ว่าฝ่าบาทมิได้ทรงทำเพื่อองค์เอง แต่ทำเพื่อคาโนวาล

     

    ปากบอกว่าเข้าใจ แต่ท่าทางและคำพูดกระทบกระทั่งนั่นมันอะไร

    บาททั้งสองขยับถอยโดยไม่รู้องค์ พักตร์ซีดขาวชาเหมือนถูกราดด้วยน้ำเย็น พร้อมๆกับความผิดหวังที่ถูกถ่ายทอดผ่านทางแววเนตรสีน้ำผึ้ง สีที่บ่งบอกถึงสองพระอารมณ์แห่งพระองค์ใหญ่

    หนึ่ง.....อารมณ์อ่อนโยน

    สอง......อารมณ์หมองเศร้า

     

    คนอย่างคาเรนน่ะหรือจะวิ่งหนี

     

    สุรเสียงในอดีตของพระองค์ยามเป็นแค่เจ้าชายน้อยดังแทรกเข้ามาในความรำลึก พร้อมๆกับพักตร์ของท่านปู่ ท่านพ่อ และท่านแม่ ยามแสดงความพึงพระทัยเมื่อได้ฟังพระวาจาของพระองค์

    ไม่เอาแล้ว.....เจ้าชายรัชทายาทบ้าบออะไรนี่

    ใครเข้าใจสักคนยังไม่มี....กระทั่งคาร์ซาร์เอง

    กระทั่งคนที่คิดว่าจะอยู่ข้างองค์ แม้ไม่เหลือใครอีกแล้ว ก็ยังมิอาจเข้าถึงพระทัยพระองค์ได้

    บนยอดผา....ที่เป็น จุดสูงสุด

    มีพระองค์เพียงองค์เดียวหรือ

    ไม่มีใครเลยหรือ?

    แล้ววรองค์บางก็ถอยออกไปจากบานพระทวาร ทว่ากลับสะดุดพระธรณีประตูแทบผงะ ก่อนทรงหมุนองค์กลับหลัง วิ่งจากไปโดยไม่หันกลับมา

    ความจริงแล้ว.....พระองค์อยากหนีเป็นที่สุด

    พอลับองค์บาง คาร์ซาร์ก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ผิดจากคนละคนที่เถียงกับคาเรนเมื่อครู่นี้ จนเมื่อหางตานักฆ่าหนุ่มเห็นเงาใครบางคนโผล่ออกมาจากที่ซ่อนข้างเสา เขาก็ถามขึ้นลอยๆ

     

    แบบนี้น่ะดีแล้วหรือ

     

    คาเรนค้ำบัลลังก์ ทั้งที่ยังไม่แข็งแกร่ง ไม่นานย่อมต้องล้มลง เหมือนคนที่เริ่มวิ่ง ทั้งที่ยังเดินไม่ตรงทางนั่นแหละ ปล่อยมันไปก่อนน่า บางอย่างที่เกิดขึ้นจากนี้ต่างหากที่น่าติดตาม

     

    เออ ฉันเชื่อนาย ออเรียล

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×