คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : มนต์รักษา
14
มนต์รักษา
ฝีพระบาทเจ้าหญิงคลาเอน่าและเจ้าหญิงเซลด้าซึ่งเสด็จตามเจ้าบ้านมาชะงักกลางสนามฝึกหน้าพระตำหนักส่วนพระองค์ของอดีตคิงแห่งคาโนวาล
เจ้าของตำหนักเสด็จมาประทับอยู่กลางศาลาไม้ พลางทอดพระเนตรนักรบสองคนที่กำลังประลองดาบอยู่เบื้องพักตร์ เสียงดาบกระทบกันดังกังวานทั่วบริเวณ บางครั้งเป็นเสียงเร่งอย่างนึกคะนองของคนวรองค์สูงแต่เล็กบางกว่าอีกฝ่ายมาก แล้วเมื่อทั้งคู่ต่างหยุดพิจารณาทางดาบของอีกฝ่ายก่อนการปะทะกันใหม่ เสียงหอบเพราะออกแรงไปมากก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน
“ทอดพระเนตรสิเพคะพี่หญิง”
เจ้าหญิงคลาเอน่าผู้ซึ่งไม่เคยมีพี่หญิงจริงๆทรงเรียกเจ้าหญิงเซลด้าอย่างสนิทปาก รู้สึกว่าหลังจากได้รับคำประทานอธิบายจากเจ้าพี่ออเรียล เจ้าหญิงพระองค์น้อยจะลดแง่ที่ตั้งไว้ตอนแรกลงเสียมากมายจนแทบไม่เหลือความเขม่นเลยแม้แต่น้อย
และคนประทานคำอธิบายก็นั่งเป็นเพื่อนคุยท่านปู่บาโรอยู่ข้างๆนั่นเอง
“ท่านพี่กับพี่คาร์ซาร์ประลองดาบกันอีกล่ะ ปกติคู่นี้ผลัดกันได้แผลอยู่เสมอ แต่ก็ไม่เคยรู้แพ้รู้ชนะกันสักที หญิงต้องมาคอยเป็นแพทย์สนามประจำเลยเพคะ”
สุรเสียงพระองค์เล็กกังวาน แต่สดใสราวระฆังแก้ว ขณะเจ้าหญิงแห่งอเมซอนพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงที่หวานไม่ผิดกัน แต่เป็นแบบหวานเยือกน่าฟังตามอายุอันเข้าสู่วัยสาว และรู้จักการวางตนในฐานะเจ้าหญิงดีกว่า
“จะทรงเสด็จเข้าไปไหม”
ถามอย่างรู้ความเหมาะสมว่า แม้จะเป็นเจ้าหญิงเหมือนกัน แต่ศักดิ์และความสำคัญไม่อาจเทียบกันได้ อาจจะไม่อยากยอมรับนัก แต่ก็ระลึกได้อีกนั่นแหละว่าอเมซอนเป็นเมืองเกรดสอง ที่ยังคงต้องพึ่งพาเมืองใหญ่เกรดหนึ่งอย่างคาโนวาลและบารามอสอยู่
ประสาอะไรกับเจ้าหญิงที่เป็นแก้วตาของสองแคว้น
ยังไม่นับรวมเดมอสอีก
“พี่หญิงล่ะเพคะ ไม่อยากเสด็จเข้าไปหรือ”
พระองค์เล็กทรงหันมาดำรัสถาม นัยน์เนตรสีฟ้าราวสีน้ำทะเลส่องประกายระยิบระยับอย่างทรงรักสนุก เจ้าหญิงเซลด้าจึงยังไม่ทันส่ายหน้าปฏิเสธ หัตถ์เล็กบางน่าทะนุถนอมก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือ ก่อนจะทรงลากถูลู่ถูกังมาโดยไม่ฟังเสียง
“ท่านพี่”
สุรเสียงเจื้อยแจวดังแทนองค์ไปก่อน สองบุรุษในศาลาไม้หันมาพร้อมเพรียง เนตรสีฟ้าของเสด็จปู่มีแววแปลกพระทัยเล็กน้อย แต่เนตรสีเขียวของอีกคนกลับทอประกายรู้ทันจนนึกไม่อยากสบมองด้วย
เจ้าหญิงเซลด้าถวายคำนับอดีตคิงแห่งคาโนวาลอย่างนอบน้อมและสวยงามยิ่ง ก่อนจะหันไปทางสนามฝึกดาบที่อยู่ด้านนอก
เจ้าชายคาเรนทรงดาบเรียวยาวท่าทางเปราะบางเล่มหนึ่ง ทว่าทรงปราดเปรียวและขยับเพลงดาบรับมืออีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว พลิ้วไหว และน่าชมนัก เสียงเปรื่องปร่างดังเป็นจังหวะนั้นบอกถึงความรุนแรง ราวดาบใหญ่ปะทะดาบใหญ่ ดาบในตำนานปะทะดาบในตำนาน มิใช่เพียงดาบชั้นดีตีจากเหล็กเย็นธรรมดาอย่างที่เห็นเท่านั้น
ส่วนอีกบุรุษถือดาบใหญ่หนาหนักอย่างที่ไม่ค่อยถนัด และเหวี่ยงปะทะเพลงดาบอันน่าชมของคู่ฝึกอย่างเชื่องช้าตามนิสัย ทว่าน่าแปลก คือไม่ว่าจะขยับตอบโต้ได้ชักช้าน่าอึดอัดใจเพียงไร ก็ทันรับดาบของอีกฝ่ายทุกครั้งไป ราวกับว่าสิบดาบที่เจ้าชายคาเรนทรงใช้ไป ถูกรับได้ด้วยดาบเพียงดาบเดียวเท่านั้น
“คู่นี้เรียกว่าสูสีกระหม่อม” ออเรียลเปรยขึ้นกับอดีตคิงแห่งคาโนวาล “คาเรนใช้ดาบเบา บาง ด้วยเพลงดาบเร็วออกโจมตี แต่ไม่อาจฝ่าการป้องกันของคาร์ซาร์ไปได้ ขณะเดียวกันถึงแม้คาเรนจะใช้ดาบเพื่อการโจมตีอย่างเดียว แต่เพลงดาบก็สมบูรณ์ในตัวเองจนกลายเป็นการป้องกันอย่างหนึ่ง คาร์ซาร์จึงไม่อาจโจมตีกลับได้ นอกจากป้องกันตัวเองไว้อย่างเดียวเท่านั้น”
เนตรทรงอำนาจไม่เสื่อมคลายของอดีตกษัตริย์บาโรเบือนมามองพระสหายของหลานชายที่ชักจะเห็นมันเป็นหลานคนหนึ่งอย่างชื่นชม พร้อมรอยสรวลพรายที่น่ามองนัก
เพราะดูเผินๆคล้ายกับว่าคาเรนทรงใช้ดาบรวดเร็วเพื่อหมายพิชิตแต่ไม่สำเร็จ คงมีน้อยคนที่จะดูออกว่าเพลงดาบที่เจ้าชายทรงใช้เป็นไปเพื่อการป้องกันด้วย และที่มองเผินๆว่าคาร์ซาร์อาจไม่มีใจสู้จนได้แต่ป้องกันไปตามเรื่อง คงมีแต่ออเรียลอีกเช่นกันที่ดูออกว่าแท้จริงเพลงดาบป้องกันกำลังหาทางโจมตีอยู่ทุกเวลาทุกจังหวะ
ไม่เสียทีที่มันเป็นเจ้าชายเหมือนกัน
และไม่เสียทีที่เป็นเพื่อนรักของหลานท่านและคาร์ซาร์มาห้าปี
“เจ้าว่าใครชนะ”
อดีตคิงบาโรตรัสถาม คนต้องทูลตอบโคลงหัวพลางใช้ความคิดครู่หนึ่งก่อนส่ายหน้า
“เดายากกระหม่อม ปกติคาเรนจะใช้ดาบอำนาจการทำลายสูงเพื่อจัดการศัตรูในพริบตา เพราะถ้าถ่วงเวลานานไป ตัวเองจะเสียเปรียบ” แน่ล่ะ ธรรมชาติย่อมสร้างมาให้แรงของผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชายอยู่แล้วนี่ “พอเปลี่ยนมาใช้ดาบเรียวยาวจึงดูเกะกะ แต่ออมแรงได้ดี สู้กันนานกว่านี้ก็ไม่เป็นไร ส่วนคาร์ซาร์ที่ปกติใช้เพลงดาบเร็วพอต้องเปลี่ยนมาเป็นดาบใหญ่ก็เลยช้า ใช้แรงเยอะ ทำให้หมดแรงเร็ว แต่มีข้อดีตรงที่โจมตีได้หนักหน่วง”
คนฟังสรวลกว้างพลางส่ายพักตร์อย่างอ่อนพระทัย
มันอ่านเพื่อนรักมันสองคนได้หมด.....
ถ้าเปลี่ยนศัตรูคงน่ากลัว......เพราะรู้ทุกอย่างมากกว่าตัวคนถูกรู้เสียอีก
ดังนั้น ขอให้มันเป็นเพื่อนรักกันตลอดไปเถอะ
แล้วการประลองครั้งนี้ก็ยืดเยื้อออกไปตามที่ออเรียลคาดนั่นเอง
และมันก็จบลงตรงที่มีใครคนหนึ่งได้แผล แต่ไม่รู้ผลแพ้ชนะตามที่เจ้าหญิงคลาเอน่าเปรยตรัสเหมือนกัน
ดาบใหญ่ไม่ถนัดมือปลิวว่อนออกไปไกลราวถูกเหวี่ยงทิ้ง แล้วดาบเรียวพลิ้วก็ได้จังหวะทาบลงที่ลำคอขาวเนียน
พระโลหิตแดงฉานไหลลงจากพระพาหาด้านซ้ายแห่งเจ้าชายคาโนวาล
ดวงตาสีม่วงสงบนิ่ง แต่เนตรสีน้ำตาลวาวโรจน์
“ฉัน....”
ยังไม่ทันตรัสว่า ‘ชนะ’ รอยสรวลร่าเริงบนพักตร์ก็หายไป ก่อนนัยน์ตาสีม่วงของคนเกือบพ่ายจะทอประกายขบขันขึ้น
เคร้ง
ดาบเรียวยาวที่ทรงอยู่หักครึ่งพอดิบพอดี ด้ามของมันยังค้างอยู่ในหัตถ์เรียว แต่ปลายคมอีกด้านหล่นลงตรงแทบเท้า และตามมาด้วยสองเพื่อนรักที่ต่างคนต่างล้มหงายลงไปนอนแผ่บนพื้นหญ้าอย่างหมดแรง
“ให้ตาย”
คาเรนทรงเหวี่ยงดาบไร้ค่าในมือออกไปอย่างหงุดหงิดนัก ก่อนจะแยกพระฑาฐะให้องค์เองเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเพื่อนที่อยู่ในสภาพเช่นเดียวกัน
“เสมอกับเจ้าชายสามแผ่นดินอีกครั้งมันก็ดีใจอยู่หรอก แต่ขอชนะสักครั้งไม่ได้รึไง”
“ท่านพี่เนี่ย”
พักตร์ของเจ้าหญิงคลาเอน่างอง้ำทันทีเมื่อพิจารณาบาดแผลพระพี่นาง ก่อนจะหันไปทำเนตรดุแก่คนสร้างบาดแผลที่บัดนี้เหงื่อโซมตัวราวกับเพิ่งอาบน้ำมา และเรียกคทาประจำองค์มาไว้ในหัตถ์
“เวหาหิมะ”
คทาสีขาว ลักษณะงดงาม ลงมนต์ด้วยฝีมือประณีตอ่อนช้อยสมกับผู้ใช้ปรากฏขึ้น ก่อนเวทย์รักษาจะดังออกจากโอษฐ์งาม เป็นสำเนียงหวานแว่วและมีพลังทำให้ผ่อนคลายอย่างน่าอัศจรรย์ แล้วอณูมนต์สีเหลืองอ่อนก็โปรยปรายออกจากหัวคทาซึ่งเป็นลูกแก้วสีขาว ไปจับตัวอยู่ที่รอบบาดแผลที่ยังมีโลหิตไหลซึม
แต่ในวินาทีต่อมา....บาดแผลและความเจ็บล้วนหายไป
ฉวีสีน้ำผึ้งเพราะทรงออกแดดบ่อยเนียนเรียบเหมือนตอนยังไม่ต้องคมอาวุธ พระโลหิตจางหายไม่เหลือไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นจากบาดแผลหรือที่หล่นลงหยดบนพื้นเป็นทางก็ตาม
“อัศจรรย์ คลาเอน่า”
เจ้าชายออเรียลเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างแสร้งประหลาดใจ คนยังกำคทาอยู่ในมือจึงเปลี่ยนจุดประสงค์มาใช้หวดคนช่างประชดประชันแทน
“ทรงเห็นบ่อยแล้วยังทรงชะโงกมาอีกทำไมเพคะ”
“เห็นบ่อยก็ยังตื่นตาตื่นใจอยู่ดีแหละ” เอ่ยเอาใจเจ้าหญิงน้อย ก่อนสรวลพรายอย่างซ่อนนัย “แค่ดูหน่อยเดียว ต้องตีพี่ด้วย คนเขาอุตส่าห์มีของขวัญก่อนเปิดเทอมปีหน้าของเจ้าหญิงจอมยุ่งแท้ๆ”
เนตรสีฟ้างามสดใสลุกวาว ขนเนตรดำเป็นแพหนากะพริบถี่ๆอย่างสนพระทัย ก่อนดำรัสถามเร็วปรื๋อ
“ของขวัญของหญิงหรือเพคะ”
“แค่ดูหน่อยเดียว” คนช่างยั่วบ่นหงุงหงิงไม่สนใจคำถาม เอามือลูบตรงที่โดนตีด้วยไม้คทาทั้งที่ไม่ได้แรงเท่าไหร่ป้อยๆ “นิดเดียวเท่านั้น”
“เพคะ เจ้าพี่ขอดูนิดเดียว หญิงไม่โกรธแล้ว” คราวนี้ทรงรับสั่งอ่อนหวานอย่างเอาพระทัยเจ้าพี่ ก่อนวกเข้าสู่สิ่งที่พระทัยจดจ่ออยู่ทันที “แต่หญิงไม่ได้ฟังผิดใช่มั้ยเพคะ หญิงได้ยินว่าเจ้าพี่มีของขวัญให้หญิงก่อนหญิงเปิดเทอม”
“เหรอ พี่พูดอย่างนั้นเหรอ”
“สิเพคะ”
“เอ พี่พูดเมื่อไหร่นะ หญิงฟังผิดกระมัง”
“เจ้าพี่กลบกลอกนี่เพคะ” พักตร์งามงอง้ำ แล้วทรงกัดริมโอษฐ์ล่างไว้ “เจ้าพี่หลอกหญิง”
“โถ พี่เคยหลอกหญิงเมื่อไหร่ เคยแต่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”
“งั้น เมื่อกี้เจ้าพี่ทรงล้อเล่น แต่มีของขวัญให้หญิงจริง”
ทรงถามอย่างคาดคั้นและมีความหวัง เจ้าชายออเรียลประวิงเวลาไว้ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับ ทำเอาพระองค์เล็กกระโดดตัวลอย แล้วคว้าหัตถ์เจ้าพี่ออกจากศาลามาทันที
“ไปเพคะ หญิงอยากเห็นของขวัญของเจ้าพี่แล้ว”
“แต่เรายังไม่ได้ทูลลา.....”
ยังพูดไม่จบ เจ้าหญิงคลาเอาน่าก็ทรงลากเขากลับเข้าศาลาไปใหม่ แล้วถวายคำนับแด่ท่านปู่บาโรอย่างรีบร้อน ก่อนจะลากออกมาอีกครั้งโดยไม่สนพระทัยว่าคนเดินอยู่เบื้องพระขนองจะทุลักทุเลเพียงใด
ความคิดเห็น