คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ท่านแม่แฟริน
หัวขโมยแห่งบารามอส
(ตอน ทายาทสามแผ่นดิน)
1
ท่านแม่เฟริน
คิงแห่งคาโนวาลประทับยืนอยู่นอกห้องส่วนพระองค์ด้วยพระอาการเงอะงะอย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน ขณะที่นางกำนัลซึ่งหมอบรออยู่ถัดมาต่างก็พูดกันถึงพระอาการของพระราชินี ที่ทรงอาเจียนหลายต่อหลายรอบมาตั้งแต่เมื่อเช้า และพอคิงคาโลเสด็จกลับจากงานราชพิธี ก็เสด็จตรงมายืนรอผลการตรวจจากหมอเทวดาโอเดลโดยทันที
“ต๊าย ข่าวดีค่ะนายหญิง เป็นข่าวดี”
เสียงผีสาวในคทาที่บอกชัดถึงความตื่นเต้น ติดตามมาด้วยเสียงโวยวายลืมฐานันดรศักดิ์ของพระราชินีคนสำคัญ จากนั้นจึงเป็นเสียงข้าวของหล่นแตกกระจัดกระจาย ให้นางกำนัลเบื้องนอกยกมือขึ้นทาบอกเล่น แล้วร่างสีขาวโปร่งแสงก็ทะลุบานพระทวารออกมา ให้หลายๆคนโวยวายอย่างไม่ชินสักที
“ข่าวดีอะไร”
คิงคาโลตรัสถามเสียงเรียบ หากไม่อาจสยบความตื่นเต้นในนัยน์เนตรสีฟ้าคู่สวยนั้นได้
“นายหญิงสิคะ.....”
แล้วผีพี่สาวตัวดีก็เลือกที่จะไม่พูดต่อ หากอมยิ้มค้างไว้ให้หลายๆคนสงสัย แล้วคนที่ทนได้ยากแม้ปกติจะเป็นคนที่อดทนเสมอก็ไม่คิดจะรอฟัง เสด็จเข้าห้องส่วนพระองค์ไปทันที
“เฟริน”
สุรเสียงเรียกอย่างห่วงใยก่อนก้าวไปประทับชิดแท่นบรรทม จังหวะเดียวกับที่สตรียอดหทัยกำลังลุกขึ้นนั่ง หัตถ์ใหญ่แสนอบอุ่นก็ทรงช่วยประคอง เนตรคู่เดิมทอดมองอย่างกังวล ก่อนตรัสถาม
“หมอว่าไง”
เท่านั้นวงพักตร์แห่งพระราชินีคาโนวาลก็ขึ้นสีเรื่ออย่างน่ารัก อ้อมแอ้มตอบ
“ถามหมอเอาเองสิ”
คิงคาโลหันไปรอคำตอบ หมอเทวดาซึ่งมีร่างโปร่งแสงเหมือนผีสาวจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา ให้สองพระองค์ที่อยู่ในห้องต่างรู้สึกดีใจปนขัดเขินอย่างบอกไม่ถูก
“พระราชินีทรงครรภ์ สามเดือนแล้วพระเจ้าค่ะ”
แล้วรอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งจากใบหน้างามราวรูปสลักก็ปรากฏขึ้น เนตรสีน้ำตาลคู่โตชำเลืองมองอย่างเขินอาย อันหาได้ยากเช่นกันจากคนที่ใครก็เห็นว่าเป็นพระราชินีที่ประหลาดที่สุดในประวัติศาสตร์คาโนวาล เกิดความเงียบชั่วครูหนึ่ง ก่อนที่หัตถ์ใหญ่จะคว้าวรองค์บางบนพระแท่นไปกอดเสียแน่น
“เฟริน” สุรเสียงนุ่มหูจนคนสดับฟังรู้สึกอยากได้ยินอีกสักร้อยครั้งพันครั้ง “ขอบคุณ.....ขอบคุณมาก”
“ไม่ ไม่เอาแล้ว เหม็น”
สุรเสียงโวยวายพร้อมลุกพรวดจากพระเก้าอี้ เป็นผลให้คนไม่รู้จักสภาวะของตัวเองถึงกับหน้ามืดไปชั่วขณะ นางกำนัลที่แวดล้อมคอยถวายงานคว้าพัดขึ้นมาพัดให้ด้วยอาการร้อนรน เสียงเรียกหายาดังระงม บางคนวิ่งพล่านไปทั่วอย่างทำอะไรไม่ถูก และมีคนหนึ่งวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อเรียกแพทย์หลวง
พอดีกับที่คิงแห่งคาโนวาลเพิ่งเสด็จกลับมางานราชพิธี นางผู้นั้นจึงยอบตัวลงถวายความเคารพสูงสุด ไม่ต้องรอให้ทรงตรัสถาม รีบถวายรายงานถึงฤทธิ์ของพระราชินีคนสำคัญโดยไว
“ไม่เสวยอะไรเลยเพคะ ทั้งพระกระยาหาร ทั้งโอสถบำรุง”
“แล้ว?” ขนงเหนือเนตรงามขมวดเข้าหากัน ก่อนทอดพระเนตรเห็นความวุ่นวายผ่านบานพระทวารที่เปิดอยู่ เสียงอึกทึกครึกโครมนั่นก็บอกถึงสถานการณ์ที่เป็นอย่างนี้แทบทุกวัน
“ทรงหน้ามืดเพคะ หม่อมฉันกำลังไปตามแพทย์หลวง”
“ไม่ต้อง” พระดำรัสสั้นก่อนเสด็จต่อ นางกำนัลที่เพิ่งกราบทูลเสร็จถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อคิงแห่งคาโนวาลก้าวเข้ามาในห้องส่วนพระองค์ ความวุ่นวายทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนเป็นสงบโดยสิ้นเชิง คนที่กำลังทำหน้าที่พัดก็วางพัดก่อนถวายบังคม แล้วพัดต่อ แต่หยุดร้องหายาเสียทันควัน ส่วนคนที่กำลังวิ่งพล่านหายาก็ยอบตัวลงนั่ง ก้มหน้าก้มตาเสียเรียบร้อยทันที
เพราะต่างรู้กันดีว่า.....คิงองค์นี้ไม่โปรดความวุ่นวายแค่ไหน
ส่วนคนที่ก่อเรื่องจนตัวเองหน้ามืด ก็ดูจะมีแรงลุกขึ้นมาฟ้องกับเขาด้วย
“คาโล แม่พวกนี้บังคับให้ฉันกินอะไรก็ไม่รู้ เหม็นเป็นบ้า”
วงองค์สูงโปร่งเสด็จผ่านไปยังโต๊ะเสวย พระกระยาหารเช้าที่แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายปาเข้าไปแล้ว ก็ยังไม่พร่องลงจากที่สั่งให้เตรียม แสดงว่านางกำนัลที่เปลี่ยนเป็นชุดที่สามนี้ก็ไม่มีปัญญาให้ราชินีตัวดีของเขาสิ้นฤทธิ์ลงไปได้
แล้วดูตัวเธอเองซะก่อน คนที่เต้นเหยงๆยืนยันว่าจะไม่กินอะไรนั่นน่ะ ผอมจนเกือบน่าเวทนา ซ้ำยังซีดเซียวดูไม่ได้อีกต่างหาก
อย่างนี้....น่าเป็นห่วง
“น่าจับส่งไปนอกวังให้หมดเลย แม่พวกนี้”
เฟรินยังบ่นหงุงหงิง แม้ว่าตอนนี้จะต้องรีบควานหาเก้าอี้ลงนั่ง และรับยาดมที่ถูกถวายมาช่วยตัวเองก่อน
“อืม นั่นสิ” บุรุษผู้มีอำนาจเด็ดขาดที่สุดรับคำ ก่อนตรัสสั่ง “ออกไปให้หมด”
เท่านั้นนางกำนัลทั้งหลายต่างกระวีกระวาดเก็บหยูกยาออกไปอย่างไม่มีใครเกรงว่าจะไม่ได้ถวายการดูแลพระราชินีเจ้าปัญหาต่อไปอีก ต่อให้ถูกส่งออกไปนอกวังก็ดีกว่าการอยู่ในห้องที่ต่างคนต่างรู้ว่า เดี๋ยวน้ำแข็งต้องจับอีกแน่นอน
เนตรสีสวยส่องประกายวิบวับ จนนางกำนัลที่เดินสงบเสงี่ยมพ้นบานพระทวารแล้ว ออกวิ่งทันที!
คาโลหยิบถ้วยโอสถบำรุงมา แล้วยื่นไปตรงหน้าเฟริน องค์ราชินีเงยพักตร์ขึ้นมอง พอสบกับดวงเนตรดุจัด ก็ทรงพระสรวลแห้งขึ้นกัน แต่ส่ายเศียรดิก
“ไม่เอาแล้ว คาโล มันคลื่นเหียน กินไม่ลง”
“ก็ยานี่ล่ะแก้แพ้” รับสั่งอธิบายอย่างนึกเห็นพระทัยครามครัน ปกติเฟรินเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย แถมกินเยอะอีกต่างหาก แต่พออาการแพ้มากขึ้นทุกที สิ่งที่กินได้และได้กิน (คือไม่อาเจียนออกมา) ก็ลดน้อยลงไป จนเดี๋ยวนี้คนอย่างเฟริน เดเบอโรว์เห็นอาหารเป็นสิ่งทรมานเข้าทุกที
“ไม่กิน แล้วไม่หิวหรือไง”
ตรัสถามพลางวางโอสถคืนลงบนโต๊ะ ทอดมองสตรีเบื้องหน้าที่ไม่มีแรงแม้แต่จะเถียงด้วยซ้ำ
“หิวก็หิว แต่กินไม่ลงจริงๆ จะให้ทำไงเล่า”
คาโลถอนหายใจเฮือก ก่อนคุกเข่าลงตรงหน้าพระเก้าอี้ อันเป็นภาพที่พอเฟรินเห็นแล้วสะดุ้งสุดตัว ฉุดบุรุษอันเป็นที่รักให้ลุกขึ้นทันที
ก่อนนี้คาโลเคยเป็นเจ้าชาย แม้เป็นเจ้าชายรัชทายาท ขโมยอย่างเธอก็เล่นของสูงไม่รู้จักเวล่ำเวลาได้เสมอ แต่ตอนนี้คาโลสถาปนาขึ้นเป็นคิงแห่งคาโนวาล ในขณะที่เธอดำรงพระยศเป็นพระราชินี จะให้มาคุกเข่ากันแบบนี้ได้ยังไง
“คาโล ลุก ลุกเถอะ ...ก็ได้ ก็ได้ กินยาแล้ว”
เธอต้องรีบบอกก่อนที่ตัวเองจะรู้สึกผิดมากไปกว่านี้ เพราะลำพังจะดันตัวเองลุกจากเก้าอี้ยังไม่มี จะเอาปัญญาที่ไหนไปฉุดคนตัวโตกว่าให้ลุกขึ้นเสียที
แต่คิงแห่งคาโนวาลไม่ได้ประทับยืนตามที่เฟรินร้องขอ ตรงกันข้ามกลับขยับชิดสตรีอันเป็นที่รัก พาหาแข็งแรงทั้งสองโอบรอบองค์บาง และแนบกรรณสดับเสียงการมีชีวิตขององค์ทายาทที่อยู่ในครรภ์แห่งพระราชินีคาโนวาล!!!
เฟรินตกพระทัยจนตะลึงพรึงเพริดไปแล้ว หน่วยเนตรทั้งสองเบิกกว้างก่อนจะหรี่ลงอย่างอ่อนโยน เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า นับตั้งแต่พิธีอุปภิเษกผ่านพ้นไป คนที่สูงด้วยศักดิ์และมีสิทธิ์ขาดเต็มที่ในคาโนวาล กระทั่งเธอผู้เป็นราชินียังต้องเกรงพระอาญา ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด ไม่ว่าเขาหรือเธอจะกลายเป็นใครไปก็ตาม
จะเป็นคาโล วาเนบลี เดอะปรินซ์ ออฟคาโนวาล กับเฟริน เดเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส
หรือเป็นคาโล วาเนบลี เดอะปรินซ์ ออฟคาโนวาล กับเฟลิโอน่า เกรเดเวล เดอะปรินเซส ออฟเดมอส
กระทั่งเป็นคาโล วาเนบลี เดอะคิง ออฟคาโนวาล กับเฟลิโอน่า วาเนบลี เดอะควีน ออฟคาโนวาล
คาโลก็ยังเป็นคาโล คนที่เฟรินบอกตัวเองว่าไม่เคยใจร้ายกับเธอลงจริงๆจังๆสักครั้ง ซ้ำยังมีจิตใจที่อ่อนโยน อ่อนโยนจนต่างจากภายนอกที่ราวกับหุ้มด้วยน้ำแข็งขั้วโลก และจนกระทั่งดาบเพียงดาบเดียวก็ไม่อาจประทานให้ใครได้เลย
เขาจึงไม่เคยเป็นนักดาบที่ดี แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้พิสูจน์แล้วว่า เขาเป็นเจ้าชายที่ดี เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ เป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจ เป็นคิงที่เมตตา เป็นพระสวามีที่อดทน และเป็นพระบิดาที่น่าภาคภูมิใจ
“คาโล” สุรเสียงออกจะอ้อนจนคนฟังเงยพักตร์ขึ้นสบ เนตรสีฟ้าฉายแววงุนงงจนพระราชินีคนสำคัญแย้มสรวลอย่างขบขัน ก่อนจะตามด้วยลูกอ้อนที่ไม่ได้งัดมาใช้นานพอดูเหมือนกัน “ฉันกินอะไรไม่ลงจริงๆนะ”
คิงแห่งคาโนวาลพยักพระพักตร์ ก่อนตรัสตามพระทัย “งั้นเดี๋ยวจะให้คนมายกออกไป”
“อื้ม ยกออกไปซะ แล้วยกสำรับใหม่เข้ามา นายจะได้อยู่ช่วยฉันกิน”
เนตรสีน้ำตาลหวานซึ้งทอดมองกลับมาอย่างจงรัก หัตถ์บางคลายอ้อมพระพาหา แล้ววรองค์เซียวซูบผอมก็เลื่อนลงจากพระเก้าอี้ โผเข้ามาให้คาโลรับด้วยความงุนงง สุรเสียงหวานกระซิบข้างกรรณอย่างเอาพระทัย “บอกซะก่อนนะว่า ถ้านายไม่อยู่ป้อนฉันล่ะก็ ฉันจะอาละวาดให้วังคาโนวาลพังไปเลย”
ฮ่าๆๆๆๆๆ
สุรเสียงสรวลดังลั่นทั้งที่ไม่ค่อยจะมีแรง เมื่อคำแรกที่คิงแห่งคาโนวาลลองเสวย ‘พระกระยาหารบำรุงครรภ์’ ที่แพทย์หลวงยืนยันนักยืนยันหนาว่าดีต่อสุขภาพ แล้วปรากฏว่าใบหน้าเย็นชาของคนไม่ชอบแสดงอารมณ์เหยเกอย่างช่วยไม่ได้
“เห็นรึยังว่าอาหารที่แพทย์คาโนวาลปรุงมาให้น่ะมันแย่ขนาดไหน” ควีนเฟรินกลั้นพระสรวลอย่างสุดความสามารถ และขบริมโอษฐ์จนโลหิตซึม สายพระเนตรของคิงแห่งคาโนวาลดุจัดชนิดสร้างแดนน้ำแข็งขึ้นมาในห้องส่วนพระองค์ได้
แต่คนหลับหูหลับตาหัวเราะกลับไม่มีกะใจไปมองเลยสักนิด
แล้วคิงคาโลก็ฉวยฉลองพระหัตถ์คืนมาจากหัตถ์บางของพระราชินี ก่อนตักกระยาเสวยในจานเดียวกัน รอป้อนบ้าง “ตานาย”
เท่านั้นรอยพระสรวลจึงจางหายไปจากพระพักตร์ ทรงทำท่าเหมือนจะบิดพลิ้วอย่างไม่ทิ้งนิสัยหัวขโมยจอมกะล่อน แต่หัตถ์รอป้อนกับสายพระเนตรที่มองมาอย่างคาดโทษทำให้ไม่อาจร้องอุทธรณ์ได้ ไอ้ครั้นจะลุกขึ้นเผ่นหรือก็ติดที่ร่างกายนี้มันไม่ช่วยทำมาหากินเอาเสียเลย
แล้วการผลัดกันป้อนที่น่าจะทำให้บรรยากาศโรแมนติก ก็กลายเป็นบทเรียนของคนเพิ่งเป็นราชินีว่า อย่าได้ริบังอาจเล่นลูกไม้กับคนเป็นกษัตริย์
“ตานายแล้ว เฟริน”
ราชินีแห่งคาโนวาลจึงกลั้นพระปัสสาสะแล้ว ‘งับ’ เอาพระกระยาหารที่เสมือนยาพิษเข้าไปทั้งคำ
เท่านั้นเอง.......
โอ๊ก.....
คิงคาโลยื่นกระโถนรองให้ด้วยความเวทนา ก่อนเรียกคทาพิพากษามาไว้ในพระหัตถ์ หมอเทวดาโอเดล ผีสาว และนักรบในตำนานฮีลช็อต กลายเป็นหมอกควันออกมารอรับบัญชาทันที
“ท่านหมอ จัดยาแก้อาการแพ้ของเฟรินให้ที พี่ผีสาวช่วยดูแลด้วยแล้วกัน”
รับสั่งเสร็จก็ผุดลุกขึ้นประทับ ย่างบาทรวดเร็วถึงบานพระทวาร โดยมีวิญญาณของนักรบในตำนานตามไปเป็นเงา จึงหันมาตรัสสั่งเป็นครั้งสุดท้าย
“ถ้ากินยาแล้วเพลียมากก็พักซะ ตอนบ่ายประชุมเสนาธิการเสร็จจะแวะมาดู”
ความคิดเห็น