คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The Magic NighT Intro
The Magic NighT Intro
โลกที่ทุกคนเชื่อว่ากำลังหมุนรอบตัวเองไปพร้อม ๆ กับโคจรรอบดวงอาทิตย์
โลกที่มนุษย์ทุกคนเชื่อว่ามีเพียงหนึ่งเดียวนั้นเป็นเพียงภาพมายา
แท้จริงยังมีอีกโลกหนึ่งที่เป็นโลกคู่ขนานกับดาวเคราะห์ดวงนี้
โลกทั้งสองใบไม่เคยเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น จนเมื่อคนในโลกคู่ขนานค้นพบวิธีเปิดประตูสู่อีกโลก
ตำนานก็ได้เริ่มต้นขึ้น ความรักของคนทั้งสองโลก
หนึ่งหญิงจากโลกคู่ขนาน หนึ่งชายจากโลกมนุษย์
แม้ทั้งคู่จะรู้ว่าไม่สมควรและแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมสยบกับคำว่า “รัก”
จนเมื่อนายแห่งโลกคู่ขนานรู้เข้า หญิงสาวจึงถูกเนรเทศ
นางมิได้เสียใจแต่ประการใด แต่กลับไปใช้ชีวิตครองรักกับชายคนนั้นและยอมตายตามอายุขัยของมนุษย์อย่างน่าเวทนา จนเกิดเป็นเลือดผสมระหว่างสองสายพันธุ์
ที่ว่ากันว่า ใครได้กินหัวใจของทายาทเลือดผสมจะกลายเป็นอมตะ
เพื่อที่จะกันสงครามและการก่อกวนจากโลกคู่ขนานสู่โลกมนุษย์นั้น
โลกคู่ขนานได้ออกกฎ ว่า คนจากโลกคู่ขนานห้ามยุ่งเกี่ยวกับโลกมนุษย์โดยเด็ดขาด
ดังนั้น มนุษย์จึงไม่เคยรับรู้เรื่องราวของอีกโลกหนึ่ง พอ ๆ กับโลกคู่ขนานที่ไม่สามารถทำการใด ๆ ในโลกมนุษย์ได้เช่นกัน โลกทั้งสองจึงปิดตายกันอย่างสมบูรณ์
เสียงกังวานทว่าราบเรียบหยุดลงเมื่อตำนานที่ถูกยกมาเป็นนิทานก่อนนอนคืนนี้จบลง มือเล็กขาวนวลปิดหนังสือลงพลางเอ่ยโดยใช้นำเสียงกังวานโทนเดิมกับที่เล่านิทานบอกกับผู้ที่ฟังนิทานแต่ยังตาใสแจ๋วอยู่เหมือนเดิม
“โอ๊ยย ไม่ว่าฟังยังไงก็โรแมนติกอะไรขนาดนี้”
นัยน์ตากลมโตของสาวน้อยทอประกายอย่างเพ้อฝันทำให้คนเป็นพี่ทั้งคู่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ พี่สาวคนโตของบ้านในชุดกรุยกรายสีดำสนิทลุกขึ้นเดินไปเก็บหนังสือแล้วเดินกลับมาดันตัวน้องชายคนรองและน้องสาวคนสุดท้องให้นอนลง
“ไหนว่าฟังเรื่องนี้จบแล้วจะนอน พี่เล่าให้ฟังทีไรเจ้าไม่ยักกะนอนหลับเลยสักครา”
คนเป็นพี่สาวที่ตัวเล็กกว่าน้องทั้งคู่ หากแต่ยังคงมีรัศมีแห่งความน่าเกรงขามอยู่รอบ ๆ ตัว แม้ใบหน้าขาวนวลอมชมพูจะน่ารักแต่กลับไม่ปรากฏรอยยิ้มเท่าไหร่ ผิดกับน้องทั้งคู่ที่หนึ่งคนดูร่าเริงและคนสุดท้องที่ซนอย่างกับอะไรดี
“ท่านพี่ก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าหากท่านเล่าตำนานนี้ให้ ยูริ ฟังทีไรก็เป็นแบบนี้เสียทุกที แล้วก็เป็นข้าที่ต้องทนฟังอีกแล้ว”
พี่คนรองที่มีใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยขำ ๆ เมื่อหันไปเห็นหญิงสาวคนสุดท้องที่แม้อายุจะเกินวัยเล่านิทานมาแล้วแต่ก็ยังรบเร้าให้พี่คนโตเล่าให้ฟังก่อนนอนยิ้มยิงฟันออดอ้อน ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในสามพี่น้องส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นว่าน้องตนหันมาแลบลิ้นใส่
“แล้วทำไมเจ้าไม่กลับไปนอนห้องตัวเองล่ะ นิชชา”
“ท่านพี่อาจจะยุ่งจนลืมว่า น้องของเราเพิ่งไประเบิดห้องข้าเมื่อเย็นวานนี้ ตอนที่หาหนังสือไม่เจอ”
“พี่ลืมจริง ๆ เสียด้วย ไยเจ้าไม่จัดการเองล่ะ”
“วันนี้ข้าเพิ่งไปซ้อมอาวุธมาท่านพี่ หมดแรงแล้วเนี่ย”
“พอเถอะ จัดการให้เสร็จพรุ่งนี้ละกันไม่อย่างนั้นพี่จะทำโทษเจ้า”
“พรุ่งนี้ข้าต้องเข้ากรมพร้อมกับท่านพี่มิใช่หรือ”
“ไว้กลับมาก่อนก็ได้ ทั้งคู่นอนเสียเดี๋ยวก็ตื่นสายอีก”
พี่ทั้งสองมัวแต่สนทนาจนไม่ทันสังเกตเห็นน้องคนเล็กที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พรุ่งนี้พี่ทั้งสองคนของเธอไม่อยู่บ้านสินะ
“นอนได้แล้ว ยูล พี่ไปแล้วนะ ฝันดีนะน้องรักทั้งสอง”
“ฝันดีค่ะ ท่านพี่แทยอน”
สาวน้อยน้องเล็กนอนยิ้มหลับไปพร้อมแผนการในใจสำหรับวันพรุ่งนี้
ร่างสูงโปร่งยืนโบกมือลาพี่ทั้งสองที่อยู่ในชุดของทางราชการ รอยยิ้มเก๋ไก๋ประดับบนใบหน้าเมื่อเห็นพี่ชายออกไปแล้วโดยมีพี่สาวไปด้วย
“ข้ารู้สึกแปลก ๆ ยูล คงไม่ทำอะไรแผลง ๆ อีกนะ”
“หึหึ การที่ระเบิดห้องข้าไป คงพอแล้วสำหรับอาทิตย์นี้มั้ง ท่านพี่”
“ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูดก็ดี เด็กคนนี้ไม่รู้จักโตจริง ๆ”
“เจ้ายูลมัน 20 ปีแล้วนะท่านพี่ อีกไม่นานก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว”
“น้องเรายังทำตัวเป็นเด็กนัก”
ในขณะที่ท่านพี่ทั้งสองยังคงไม่สบายใจเกี่ยวกับน้องคนเล็กของบ้านที่เป็นจริงดังคาด ร่างบางหอบหนังสือเล่มหนามาวาง สายตากวาดไล่ไปเรื่อยหาบทที่น่าสนใจ
ถึงแม้ยูริจะยังทำตัวเป็นเด็กมากแค่ไหนก็ตาม แต่มีแค่พี่ของเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพลังจิตในกายของยูริสูงแค่ไหน เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าพี่ทั้งสองของเธอด้วยซ้ำไป เพียงแต่แทยอนเก่งด้านการวางแผนและการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ส่วนนิชชาด้านการใช้อาวุธ
“ห๋า นี่มัน!!!!”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นบริบทต้องห้ามในหนังสือ มันคือการเปิดประตูมิติเพื่อเชื่อมระหว่างสองโลก ในใจของหญิงสาวเต้นระรัว เลือดในกายพลันฉีดพล่านเธอควรทำอย่างไรกับมันดี ระหว่างเก็บมันหรือจะทดลอง
“เอาน่าเป็นไงเป็นกัน”
ยูริเดินกลับเข้ามาในบ้านพลางท่องบริบทที่ใช้จนคุ้นชิน มันเป็นมนต์อำพรางการใช้พลังจิตซึ่งเธอกับแทยอนเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเพื่อไว้ใช้ในการสืบราชการลับ แต่มันกลับกลายเป็นเครื่องมือช่วยให้หญิงสาวเล่นซนมากขึ้นด้วย เพราะใครก็ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงการใช้พลังจิตของเธอ หญิงสาวหลับตารวบรวมพลังจิตในกายก่อนจะเอ่ยบริบทตัดสินทุกสิ่ง
“ในนามแห่งข้า ประตูสู่โลกมนุษย์จงอุบัติขึ้น”
สายลมกรรโชกแรงพัดพุ่งเข้ามาด้านหน้าทำให้หญิงสาวต้องปิดตาลง เมื่อลมเริ่มจางหายไป เปลือกตาของเธอก็ขยับถี่ ๆ ก่อนจะเผยให้เห็นดวงตากลมโตที่กว้างกว่าเดิม เพราะประตูที่เกิดจากลมด้านหน้า ภาพที่สะท้อนอีกโลกหมุนวนเรียกให้เลือดในกายของหญิงสาวรุ่มร้อน อะไรบางอย่างที่ดลใจให้เธออยากเดินเข้าไปในประตูนั่นเหลือเกิน
แววตากลมสุกใสหรี่ลงอย่างพิจารณา เธอรวบรวมพลังจิตอีกครั้งก่อนที่บริบทมนต์อำพรางกายจะถูกเอื้อนเอ่ยและสิ่งสุดท้ายที่เธอทำก่อนจะก้าวเข้าไปในประตูลมนั้นคือส่งโทรจิตบอกพี่สาวของตน ทันทีที่เท้าของเธอก้าวเหยียบลงไปในประตูลม ร่างของเธอก็เหมือนดิ่งลงจากที่สูงและสติเริ่มเลือนรางเต็มที....
“หยุดรถเดี๋ยวนี้!!!”
“เอี๊ยดดดดดดด”
เสียงตะโกนของพี่สาวทำให้คนที่กำลังขับรถม้าตกใจเบรกอย่างกะทันหัน พอเขาสามารถหยุดม้าได้สำเร็จ คนเป็นน้องชายก็หันมามองพี่สาวที่เหงื่อเม็ดโตกำลังไหลหยดจากบนใบหน้า
“ท่านพี่เป็นอะไรไป”
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้ ยูริ กำลังทำผิดกฎของโลกนี้ ยูล กำลังไปที่โลกมนุษย์!!!”
“โธ่เว้ยย”
นิชชาหันไปสั่งให้คนขับบังคับม้าไปสู่ทิศทางของบ้านทันที พี่ทั้งสองภาวนาให้น้องของตนอย่าเพิ่งทำอะไรลงไปมากกว่านี้เลย ต่างกับอีกคนที่แฝงกายอยู่ในมุมมืด ร่างบางที่อยู่ในชุดกรุยกรายขาดวิ่นสีดำสนิททิ้งตัวลงนั่งบนกิ่งไม้มองตามรถม้าไป ผมยาวสยายดูรกรุงรัง ริมฝีปากซีดแห้งเอ่ยคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก
“ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว วันที่จะมีคนที่มีพลังจิตมากพอที่จะเปิดประตูสู่โลกมนุษย์ได้และถึงเวลาของข้าเสียทีที่จะได้แก้แค้น หัวใจของไอ้เลือดผสมต้องเป็นของข้า”
เอาบทนำมาลงเรียกน้ำย่อยก่อนแล้วกันค่ะ ไม่รู้เนื้อเรื่องจะถูกใจหรือเปล่า
แต่เราอยากลองแต่งแนวกึ่ง ๆแฟนตาซีดูมั่งค่ะ เรื่องคู่ก็รู้กันแล้วใช่ไหมคะ
หวังว่าจะถูกใจกันนะ เราชอบคู่ WooTaE มาก(ถึงแม้จะเลิกเป็นพิธีกร Win Win แล้ว)
แต่ตอนนี้เราก็ยังยุ่งอยู่เลยคิดว่าน่าจะยังอัพแบบต่อเนื่องไม่ได้ เลยยังคงสถานะเดิมไว้ก่อนนะคะ
ถ้าใครรอติดตามอ่านเราจะดีใจมาก ๆ เลย คิคิ
ความคิดเห็น