คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8 เสร็จแน่ (จะปล้ำละน้า)
“อึ๊บๆ...โอ๊ย”
เสียงร้องที่ดังออกมาจากห้องของท่านแม่ทัพ ทำให้เหล่าทหารที่กำลังยืนยามอยู่หน้าห้องถึงกับขนลุก เมื่อทุกคนต่างรู้ดีว่าภายในห้องนั้น มีเพียงท่านแม่ทัพและผู้ติดตามคนใหม่เท่านั้น อีกทั้งเหล่าทหารทุกนายต่างลงความเห็นว่าผู้ที่มาใหม่นั้นมีร่างกายอ้อนแอ้นราวกับสตรี และยังมีโครงหน้าที่ดูเช่นไรก็ไม่เหมือนกับบุรุษ
หรือว่าท่านแม่ทัพจะเปลี่ยนไปแล้ว!
“ท่านแม่ทัพ แบบนี้ดีหรือยังขอรับ?”
ปึดๆๆ ขนในกายทหารทุกคนต่างลุกขึ้นพร้อมกัน ทุกคนเดากันไปต่างๆ นาๆ ว่าภายในห้องนั้นกำลังเกิดอะไรขึ้น
โถ่! ท่านแม่ทัพ ไม่น่าเลย มิน่าเล่าป่านนี้แล้วท่านแม่ทัพถึงยังไม่มีเมียเสียที (ว่าแต่ท่านเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับกันละเนี่ย?)
หากเพียงแต่สภาพภายในห้องนั้นช่างแตกต่างจากที่เหล่าทหารคาดคิดเอาไว้มากนัก
“เจ้ามีแรงอยู่แค่นี้เองหรือ? แม้แต่แม่ครัวในกองทัพของข้ายังมีแรงมากกว่าเจ้าเสียอีก”
ภาพที่เกิดขึ้นก็คือ นิดกำลังหน้าแดงก่ำ และใช้แรงทั้งหมดที่มีในการบีบท่อนแขนที่ใหญ่กว่าลำตัวของเธอเสียอีก(จะล่ำไปถึงไหนกันยะ!)
“ท่านแม่ทัพของรับ ข้าออกแรงเต็มที่แล้วนะขอรับ เอาอย่างนี้ไหมขอรับ ข้าว่าข้าไปยกของว่างมาให้ท่านจะดีกว่านะขอรับ”
ชายหนุ่มพยักหน้า ทำให้นิดถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว แต่พอพ้นออกจากประตูห้อง ก็ต้องพบกับสายตาเห็นใจของเหล่าทหารทั้งหลาย
“เจ้า...เอ่อ..เป็นอะไรมากหรือเปล่าน่ะ?”
พวกทหารที่ยืนเฝ้าหน้าประตูห้องต่างมารุมล้อมนิดเอาไว้ จนแทบจะมองไม่เห็น
“เอ๋...ฉัน..เอ่อ...ข้าไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าขอรับ?”
พวกนี้มันยังไงกันน้า....
“ก็เจ้า...เจ้ากับท่านแม่ทัพน่ะ เอ่อ....ข้าได้ยินเสียงเจ้าร้อง ท่านแม่ทัพคงรุนแรงกับเจ้ามากซินะ!”
“รุนแรง?” (อะไรหว่า?)
“ก็ๆ ท่านแม่ทัพน่ะ เอ่อ....เมื่อครู่พวกข้าได้ยินเสียงของเจ้า เอาล่ะ พวกข้าไม่รังเกียจเจ้าหรอกนะ พวกข้านะเห็นใจเจ้าเสียด้วยซ้ำ ก็ท่านแม่ทัพน่ะตัวใหญ่กว่าเจ้าตั้งเยอะ แล้วเจ้าจะไปสู้แรงท่านได้อย่างไรกัน”
อาจเป็นเพราะสีหน้าของทหารทุกคน นิดชักเริ่มคิดออก ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่
อ๋า....พวกนี้คิดว่าอีตาแม่ทัพล่ำนั่นเป็นเกย์เหรอ!...ที่สำคัญคู่ของอีตานั่นก็ยังเป็นเราอีก!
แต่ว่า...อิอิ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะเหอๆๆๆ งั้นหาอะไรทำฆ่าเวลาดีกว่าเรา หุๆ
“พวกท่านได้ยินด้วยหรือนี่...ข้า..ข้า โฮๆๆๆ”
ยังไม่ทันกล่าวจบร่างบางก็วิ่งปิดหน้าออกไปจากตรงนั้น ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเหล่าทหารทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ตึกๆๆ”
“โฮๆๆๆ....ฮะๆๆๆ สมน้ำหน้า คราวนี้ล่ะตาล่ำ นายหมดสิทธิ์หาเมียแน่ ฮะๆๆๆ”
หลังจากก่อเรื่องเอาไว้ นิดก็เดินอย่างอารมณ์ดีไปยังโรงครัว พร้อมทั้งทิ้งข่าวลืออันใหญ่หลวงให้ลุกลามไปทั้งกองทัพโดยที่ไม่รู้ตัว
“ท่านป้า....ข้ามาขอของว่างให้ท่านแม่ทัพขอรับ”
เมื่อไปถึงโรงครัว กลิ่นอาหารอันหอมหวนลอยมาปะทะจมูก ผู้คนรับร้อยเดินขวักไขว่ไปทั่ว อีกทั้งยังดูวุ่นวายโกลาหลไปทั้งโรงครัว ไม่มีใครสักคนที่สังเกตเห็นเธอ
โห...ไม่เห็นมีใครสนใจเราเลย ทำไมดูวุ่นวายขนาดนี้เนี่ย?
หลังจากที่ยืนงงอยู่นาน หางตาของนิดก็เหลือบไปเห็นทหารนายหนึ่งซึ่งตัวไม่ใหญ่นัก จึงได้คว้าตัวเขาเอาไว้พร้อมกับถามออกไปอย่างสงสัย
“พี่ท่าน เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าทำไมที่นี่ถึงได้ดูวุ่นวายขนาดนี้ล่ะ?”
“เจ้าเป็นใครกันทำไมข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อน?”
“ข้าเป็นคนสนิทของแม่ทัพคาอูล เพิ่งเข้ามาทำงานที่วังวันนี้เป็นวันแรก ว่าแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือพี่ชาย”
“อ๋อ....เจ้าเป็นคนของท่านแม่ทัพนี่เอง คืออย่างนี้ เมื่อครู่องค์ฟาโรห์และองค์หญิงกำลังจะเสวยน่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก ที่นี่ปรกติก็วุ่นวายอยู่แล้ว และยิ่งเป็นเวลาเสวยด้วย ยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่ นี่พวกข้าก็ต้องช่วยพวกนางข้าหลวงยกของไปด้วย เพราะตอนนี้นางข้าหลวงที่อยู่ในตำหนักขององค์ฟาโรห์ มีน้อยเสียเหลือเกิน จะว่าไปแล้วก็น่าแปลกนะ ตั้งแต่เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน นางข้าหลวงที่ไม่ได้เป็นสายเลือดขุนนางใกล้ชิด ก็ถูกย้ายออกจากตำหนักจนหมด เหลือเพียงทหารองค์รักษ์คนสนิท กับนางข้าหลวงไม่กี่คนเท่านั้น จะว่าไปแล้วก็น่าจะหลังจากแต่งตั้งองค์หญิงเพียงไม่กี่วันเอง”
ดูท่าทหารคนนี้คงเชื่อว่าเธอเป็นคนสนิทของแม่ทัพใหญ่จริงๆ ถึงได้กล้าเล่าเรื่องที่ตนสงสัยออกมาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ แสดงว่าเรื่องที่ยัยแพมแปลงกายได้ ยังไม่มีใครรู้เรื่อง ก็ยังนับว่าเป็นประโยชน์อยู่ไม่ใช่น้อย
หลังจากที่ได้คำตอบจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว นิดก็ยอมปล่อยทหารผู้นั้นก็กลับไปทำงานตามเดิม ส่วนตัวเองก็แยกตัวออกไปหาอาหารให้กับแม่ทัพคาอูลอย่างที่ได้บอกเอาไว้
เอ...แสดงว่าสองคนนั่นคงออกมาจากห้องแล้วแหงเลย แล้วถ้าเกิดว่าอีตาแม่ทัพนี่ไปเข้าเฝ้าละก็ สงสัยความแตกแหงแซะ แล้วเราจะทำยังไงดีหว่า?
ระหว่างทางที่เดินไปก็นึกวิธีที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ไปพลาง กว่าจะรู้ตัว นิดก็เดินมาถึงห้องของท่านแม่ทัพใหญ่คาอูลเสียแล้ว แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นสายตาแห่งความสงสารของเหล่าทหาร ก็เลยนึกไปถึงเรื่องเมื่อครู่อย่างช่วยไม่ได้
“อุ๊ป! ฮะๆๆๆ”
“หัวเราะอะไรหรือ?”
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้นิดถึงกับสะดุ้ง
ตายล่ะอีตาแม่ทัพตัวล่ำนี่หว่า เดี๋ยวถ้าพวกทหารพวกนี้เกิดพูดอะไรออกมา ความก็แตกกันพอดีไม่ได้ๆ เดี๋ยวไม่มีเรื่องอะไรเล่นกันพอดี โฮะๆๆๆ (แป่ว)
“เปล่าขอรับ ท่านแม่ทัพออกมาข้างนอกเช่นนี้ หรือว่าท่านหิวขอรับ ข้าต้องขอโทษด้วยที่มาช้าขอรับ”
ยิ่งทำน้ำเสียงออดอ้อน อีกทั้งดวงตาพราวระยับต่อหน้านายทหารทั้งหลาย ยิ่งทำให้ข่าวลือที่นิดสร้างขึ้นยิ่งถูกโหมกระพือมากขึ้นไปอีก
“เอาล่ะๆ ข้าไม่มีเวลาจะมากินของที่เจ้าเอามาแล้ว เมื่อครู่ทหารมารายงานว่าฟาโรห์ทรงเสด็จแล้ว ข้าจะไปเข้าเฝ้าเสียหน่อย เจ้าก็มาด้วยกันกับข้าสิ”
พอกล่าวจบ คาอูลก็เดินนำออกไปโดยมีทหารติดตามไปอีกสองสามคน ทิ้งให้นิดต้องวิ่งตามทางด้านหลังเพราะขาที่สั้นกว่าจึงเดินตามทุกคนแทบไม่ทัน เมื่อมาถึงด้านในของพระราชวัง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่ถูกประดับด้วยทองคำ และผ้าไหมที่ทอจากทองคำ ทำให้พระราชวังทั้งหลังอยู่ท่ามกลางแสงที่เปล่งประกายเป็นสีทอง
เอ...สงสัยเมื่อเช้าเราจะไม่ทันได้สังเกต
“ทำอะไรอยู่น่ะหรือว่ากลัวที่จะเข้าไปกับข้าด้านใน”
เสียงขอคาอูลดังขึ้น ที่แท้พวกเขากำลังมองเธออยู่....
“เปล่าขอรับ ข้าแค่รู้สึกว่าเมื่อเช้า ข้าไม่ได้มองที่นี่ให้ชัดเท่านั้นเองขอรับ”
“แสดงว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาเป็นเรื่องโกหกสินะ เพราะตั้งแต่เช้าไม่ใช่สิ ตั้งแต่เมื่อคืน องค์ฟาโรห์ไม่ได้ก้าวออกจากห้องบรรทมแม้แต่น้อย”
โห....รู้ลึก รู้จริง (น่าน) ขนาดเมื่อคืนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ยังรู้อีกแน่ะ สงสัยคงจะรู้ไปถึงขนาดว่าในห้องนั้นมียัยแพมเพื่อนเลิฟของเราอยู่ด้วยแน่ๆ ไม่แน่ว่าอีตาล่ำนี่คงจะรู้ตัวจริงของยัยแพมแล้วละมั้ง
ในขณะเดียวกัน.......
“อะไรนะ ยัยนิดน่ะเหรอ?”
แพมตะโกนออกมาเสียงดัง เมื่อฟังเรื่องต่างๆ จากยาเรฟที่ตอนนี้นั่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่ต่อหน้าองค์ฟาโรห์และองค์หญิง โทษของผู้ที่ละเลยหน้าที่ต่อพระสหายขององค์หญิงคงไม่พ้นความตายเป็นแน่ ว่าแล้วร่างทั้งร่างก็สั่นระริกด้วยความกลัว หากแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตนเองเป็นผู้ไร้สามารถที่จะคอยดูแลพระสหายขององค์หญิงให้ดี และยิ่งตอนนี้ ไม่รู้ว่าพระสหายขององค์หญิงจะเป็นเช่นไรบ้าง คิดแล้ว ยาเรฟก็อยากจะร้องไห้ออกมา
“หม่อมฉันสมควรตาย ฮือๆๆ องค์หญิงทรงลงพระอาญาหม่อมฉันเถอะเพคะ”
“เอ๋....ยาเรฟ ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอกนะ ข้าว่าเป็นเพราะยัยนิดจอมหาเรื่องมากกว่า ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่ต้องปวดหัวแบบนี้หรอก ฮะๆๆ”
แพมพูดเพราะรู้นิสัยจอมหาเรื่องของเพื่อนสาวดี เพราะว่าทั้งสองคนคบกันมานาน วีรกรรมของยัยเพื่อนสนิทคนนี้นับวันจะยิ่งโลดโผนเข้าไปทุกที เพราะฉะนั้นเรื่องที่ยัยนี่ทำที่นี่ก็เป็นเรื่องที่เธอคาดคิดเอาไว้ก่อนแล้ว
“แล้วตอนนี้พระสหายขององค์หญิงอยู่ที่ใดกัน?”
สุรเสียงขององค์ฟาโรห์ราเมสถึงจะราบเรียบไม่บ่งบอกความรู้สึก หากแต่ก็สามารถทำให้ยาเรฟสั่นสะท้านไปทั้งกายเสียแล้ว
“ถ้าๆ เป็นอย่างที่ท่านหญิงกล่าวต่อพลทหารอูตัสจริงๆ ป่านนี้ท่านหญิงพระสหายคงอยู่ข้างกายของท่านแม่ทัพแล้วกระมังเพคะ แต่ๆ แต่...ว่าหม่อมฉันกลัวว่า ท่านแม่ทัพจะจับได้ และสั่งให้ลงโทษพระสหายขององค์หญิงน่ะสิเพคะ”
“เช่นนั้นหรือ...แต่ข้าว่าคาอูลคงไม่ทำเรื่องน่าเสียดายแบบนั้นหรอกน่า”
“เอ๋”
“เพคะ?”
ทั้งแพมและยาเรฟ ต่างมองหน้าฟาโรห์ราเมสด้วยความสงสัย เพราะทั้งคู่ไม่เข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มคิดเท่าไหร่นัก
หากเขาเดาไม่ผิดป่านนี้สหายของนางคงอยู่กับคาอูล และที่สำคัญคนอย่างคาอูลหากพบกับสิ่งที่น่าสนใจละก็ไม่มีทางที่จะทำลายทิ้งเป็นอันขาด เมื่อคืนหากเขามองไม่ผิดสหายของนางนับว่างดงามแปลกตา ไม่แพ้หญิงงามที่เป็นยอดดวงใจของเขาแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มมองไปยังด้านข้าง ร่างบางที่นั่งอยู่ช่างหวานหอมมากกว่าที่คิดเอาไว้มากนัก เมื่อคืนเขาแทบจะสำลักความสุขตายเสียแล้ว และเขาเองก็คิดว่าคาอูลคงจะไม่มองข้ามความงามนั้นไปได้อย่างแน่นอน หากแต่....ถ้าเจ้านั่นมองเห็นน่ะนะ” (เอ๋)
“ทำไมหรือคะ?”
ราเมสไม่ตอบ ชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มก่อนจะนึกเรื่องบางอย่างดีๆ ออก
หวังว่าเจ้านั่นคงจะชอบของขวัญชิ้นนี้ของเขานะ...
ราอูลและนิดเดินมาถึงห้องที่ฟาโรห์ราเมส และแพมกำลังพักผ่อนกันอยู่ ทหารที่ติดตามมาจากค่ายแยกตัวออกไปตั้งแต่เมื่อครู่ ตอนนี้มีเพียงคาอูลและนิดเท่านั้นที่อยู่หน้าประตูบานใหญ่
“นี่ เข้าไปตอนนี้จะดีเหรอท่านแม่ทัพ ข้าว่าจะเป็นการรบกวนเวลาเสวยของทั้งสองพระองค์นา”
นิดพยายามใช้โอกาสสุดท้าย...หวังว่าอีตาแม่ทัพล่ำนี่จะยอมเชื่อคำพูดของเรานะ อย่างน้อยให้พวกนางข้าหลวงไปกระซิบบอกเรื่องของเราให้ยัยแพมรู้ก่อนน่าจะดีกว่า
“ที่เจ้ากล่าวออกมาเช่นนี้ ไม่ใช่ว่ากลัวข้าจะจับได้ว่าเจ้าโกหกหรอกนะ”
“จะ...จับด้งจับได้อะไรกัน แฮะๆๆ ถ้าท่านอยากเข้าไปนักก็เข้าไปสิ ข้าไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”
คาอูลยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย ทำเอานิดถึงกับแปลกใจ ที่ชายหนุ่มหน้าตายกล้ามยักษ์คนนี้มีรอยยิ้มที่ดูดีเหมือนกันแฮะ
ทั้งคู่เดินเข้ามาด้านใน เมื่อทหารที่เข้าไปกราบทูลให้ฟาโรห์ทรงทราบเดินออกมาจากในห้อง
“ว่าไงท่านแม่ทัพ วันนี้มาหาข้าไวจริงนะ”
ทันทีที่เข้าไปในห้อง ฟาโรห์ราเมสก็เปิดฉากกล่าวทักชายหนุ่มที่เป็นดั่งเพิ่อนสนิทและแม่ทัพคู่ใจ
“กระหม่อมว่าวันนี้กระหม่อมมาเข้าเฝ้าช้าเกินไปด้วยซ้ำ เพราะว่าวันนี้กระหม่อมเห็นว่าฝ่าบาททรงเหนื่อยอ่อนมากแล้ว เมื่อคืน....พระองค์คงจะทรงงานหนัก กระหม่อมก็เลยไม่อยากให้พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมากขึ้นไปอีกน่ะพะย่ะค่ะ”
ทั้งสีหน้าและแววตารู้ทัน ทำให้ราเมสรู้สึกหมั่นไส้แม่ทัพคู่ใจตะหงิดๆ
“งั้นหรือ...ข้าต้องขอบใจเจ้ามากนะ ถ้ายังไงเจ้าก็อยู่คุยเรื่องงานกับเราต่อก็แล้วกัน ฟาเรท...”
นางฟาเรทที่ยืนรับใช้อยู่ไม่ห่างพยักหน้าให้กับนางข้าหลวงให้ส่งแก้วเหล้าหมักให้กับคาอูลที่ตอนนี้มานั่งอยู่ยังเบาะตรงกันข้ามกับราเมสและแพมที่นั่งอยู่ด้วยกัน
ตรงหน้าของคนทั้งสาม มีอาหารมากมายที่เรียกได้ว่ากินกันสักสิบคนก็ยังไม่หมด นิดลอบมองแพมโดยที่ไม่ให้คาอูลสังเกตเห็น แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทั้งคู่ทำจะไม่ได้รอดพ้นสายตาของราเมส
“ว่าแต่....เจ้ามีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าล่ะ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้”
“เมื่อเช้า...กระหม่อมได้รับของขวัญชิ้นใหญ่จากพระองค์ เจ้า!...มานี่สิ”
ชิ....เรียกเจ้าๆๆ อยู่ได้ เขาก็มีชื่อนะตัวเอง....จะว่าไปแล้ว เรายังไม่ได้บอกชื่อตานี่ๆนา....อ๊ากกก แล้วจะบอกว่าชื่ออะไรดีล่ะเนี่ย คิดชื่อไม่ออกเสียด้วย
สีหน้าของนิดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนคาอูลมองแล้วยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวของเธอยิ่งขึ้นไปอีก
“เจ้าเด็กคนนี้มาหากระหม่อมเมื่อเช้า แล้วบอกว่าพระองค์ส่งมาให้ดูแลกระหม่อมเป็นเวลาหนึ่งวัน ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่พะย่ะค่ะ”
ราเมสมองนิดที่อยู่ในคราบของเด็กหนุ่มแล้วรู้สึกครึ้มใจยิ่งนัก
เอาเราไปอ้างเช่นนั้นหรือ........
อืมมม.....ผู้คุ้มครองเพียงหนึ่งวันสินะ...แพมคิด
ราเมสยิ้มกับจอกทองคำ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ใช่แล้วคาอูล ข้าได้ข่าวมาว่าจะมีผู้คิดปองร้ายเจ้า ข้าก็เลยส่งมันไปให้เจ้าอย่างไรเล่า”
นางคงใช้เหตุผลนี้สินะ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถอยู่ข้างกายของคาอูลได้นานขนาดนี้ เพราะเจ้านี่ไม่ชอบให้มีทหารรับใช้ติดตามตัวเป็นเงา
และดูเหมือนว่าสิ่งที่ราเมสคิดจะถูกต้องเมื่อแม่ทัพใหญ่คาอูลพยักหน้า ก่อนจะหันหน้าไปหาผู้คุ้มครองคนใหม่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ว่าแต่เมื่อเช้า ข้ายังไม่ได้ถามชื่อของเจ้าเลย เจ้า...ชื่ออะไร?”
เอาล่ะสิ!....กะแล้วเชียวว่าต้องถาม จะชื่ออะไรดีน้า?
ในหัวของนิดวิ่งวุ่นคิดชื่อไปมา ก่อนจะยิ้มออกมา
“ข้าชื่อ...คามิล”
แพมถึงกับสำลัก ในเมื่อชื่อนี้เป็นชื่อพระเอกในนิยายเล่มโปรดของเธอนี่นา ที่ยัยนิดขอยืมไปอ่านเมื่อไม่นานนี้นี่นา ชิ....ยัยคนไม่ลงทุน
“คามิลหรือ? อืม เอาล่ะ งั้นเจ้าก็ไม่ได้ปดข้าสินะ หึๆ นึกว่าวันนี้จะได้สังหารคนแต่เช้าเสียแล้ว”
โห...ไอ้โหด
“อะ....ฮะๆๆ ว่าแต่ท่านแม่ทัพจะไปที่ใดต่อหรือคะ?”
ที่แพมถามก็เพราะว่าจะได้รู้ว่ายัยเพื่อนรักของเธอจะต้องไปที่ไหนอีกวันนี้ จะว่าไปแล้ว แบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะ รู้อย่างนี้ทำแบบนี้เหมือนกันก็ดีน้า น่าจะสนุกกว่าเป็นองค์หญิงอยู่ในวังเสียอีก
“สิ่งที่เจ้าคิดอยู่น่ะ ห้ามเด็ดขาดเลยนะ ถ้าอยากไปที่ใดล่ะก็ ข้าจะพาเจ้าไปเองก็ได้”
ราเมสมองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ ตอนนี้ข่าวคราวทางชายแดนดูแล้วไม่ค่อยสู้ดีนัก เจ้ากษัตริย์แห่งฮิปไทน์กำลังเคลื่อนไหวอย่างลับๆ เมื่อหลายเดือนก่อนทหารของฮิปไทน์ลอบเข้ามาในอียิปต์โดยปลอมตัวเป็นพ่อค้าเร่ จากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่ แสดงว่าจะต้องมีผู้ทรยศอยู่ในราชสำนักอียิปต์นี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าเขายังไม่มีหลักฐานเท่านั้น เพราะฉะนั้นตอนนี้ ต้องให้นางอยู่ใกล้ๆ เขาเอาไว้เป็นดีที่สุด
เพราะนางคือสิ่งสำคัญ และเป็นดั่งชีวิต
“ข้าเปล่าคิดอะไรซักหน่อย แล้วท่านล่ะเมื่อไหร่จะว่างเสียที ข้าไม่เคยเห็นท่านว่างอย่างที่พูดเลยนะ”
นิดมองเพื่อนสาวกับชายหนุ่มอีกคน ดูๆ ไปแล้วสองคนนี้เหมือนคู่สามีภรรยาทะเลาะกันเลยน้า
“เอาล่ะ ข้าผิดต่อเจ้าเอง เอาเป็นว่าวันนี้ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าทั้งวันเลยดีไหม”
“จริงหรือ?....ท่านไม่ได้หลอกข้าแน่นะ” แพมดีใจจนตาเป็นประกายวิบวับ หากแต่ไม่ทันได้เห็นสีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้อง
ยัยแพมเอ๋ย อยู่กันสองคนแกจะได้ไปเที่ยวแน่หรือ....ฉันว่าแกจะไปไม่ได้พ้นห้องนอนมากกว่า (อ๊าย! คิดลึก)
นิดแอบหัวเราะในใจ
“เอาละ ในเมื่อฝ่าบาททรงคิดเช่นนั้นงั้นกระหม่อมขอตัวก่อน กระหม่อมจะไปฝึกทหารต่อเสียที ทูลลา”
ประโยคนี้ไม่เพียงราเมสที่เข้าใจความหมาย นิดเองก็เข้าใจเช่นกัน เป็นเพราะแม่ทัพคาอูลไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอสินะ เฮ้อออยัยแพม ฉันว่ากว่าแกจะกลับไป คงมีหลานชายให้คุณลุงกับคุณป้าแน่นอน
วิหารหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเนื้อที่ไม่น้อย โดดเด่นอยู่ท่ามกลางเมืองหลวงอันมั่งคั่งแห่งอียิปต์ ที่นี่เป็นที่อยู่ของแม่ทัพเคป ชายที่มีอำนาจอีกผู้หนึ่งแห่งจักรวรรษอียิปต์ เป็นเพราะน้องสาวของแม่ทัพเคปก็คือ พระสนมเอกดาเน่หากแต่วันนี้ที่พักของแม่ทัพเคป คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ที่พากันเดินทางมาอวยพรให้กับท่านแม่ทัพเนื่องในโอกาสการรับภรรยาคนที่ 4 เข้ามาอยู่ในบ้าน เหล่าทหารมากมายเดินเข้าออกขวักไขว่ เพราะวันนี้สนมเอกดาเน่ ถือโอกาสนี้ออกจากรพระราชวังเพื่อมาเยี่ยมเยียนพี่ชายคนเดียว เป็นเพราะบิดาและมารดาของสนมเอกดาเน่สิ้นไปนานแล้ว พี่ชายที่มีอายุห่างจากกันมากผู้นี้จึงกลายเป็นผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจทุกอย่างของบ้าน และเป็นผู้ที่นำตัวสนมเอกดาเน่เข้าไปถวายตัวต่อองค์ฟาโรห์ราเมสอีกด้วย ดังนั้นนางจึงหาโอกาสที่จะมาเยี่ยมเยียนพี่ชายคนนี้ของนางอยู่เสมอมิได้ขาด
“สีหน้าเจ้าดูไม่ดีเลยนะดาเน่”
ชายวัยกลางคนมองสีหน้าน้องสาวที่ไม่ค่อยสดใสนักอย่างเป็นห่วง
“ท่านพี่ พักนี้องค์ฟาโรห์ไม่มาหาข้าเลยข้าจะทำยังไงดี”
“เป็นความจริงเช่นนั้นหรือ? ไม่น่าเป็นไปได้ เจ้าเป็นถึงพระสนมที่ทรงโปรดปรานที่สุดมิใช่หรือ?”
แม่ทัพเคปถึงกับวางจอกเหล้าที่กำลังจะยกขึ้นดื่มลง ก่อนจะมองน้องสาวที่กำลังเดินวนไปมาอยู่เบื้องหน้า
“มันไม่เหมือนก่อนแล้วท่านพี่ ตั้งแต่องค์หญิงองค์น้อยเสด็จมาถึง ฝ่าบาทก็ไม่ทรงเรียกหาข้าอีกเลย ท่านพี่....ข้าจะทำเช่นไรดี”
“ข้ายังไม่เคยเข้าเฝ้าพระองค์ใกล้ๆ สักครั้ง แต่จากที่เห็นตอนที่อยู่ในห้องว่าราชการ นับว่าเป็นเด็กหญิงที่เมื่อเติบโตขึ้นคงเป็นหญิงสาวที่งดงามไม่น้อย”
แม่ทัพเคป ไม่กล้ากล่าวต่อ ไม่แน่ว่านางอาจงดงามที่สุดเท่าที่อียิปต์เคยมีมาก็เป็นได้
“ท่านพี่ ข้ารู้สึกใจไม่ดีเลย ข้ากลัวว่าฝ่าบาทจะทรงแต่งตั้งให้องค์หญิงเป็นราชินีน่ะสิ”
“ราชินี.....ดาเน่ เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้น องค์หญิงยังทรงเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ นางจะมาสู้หญิงงามเช่นเจ้าได้ยังไงกันล่ะ”
“ข้าไม่ได้คิดมากนะท่านพี่ ท่านอย่าลืมสิ ฟาโรห์องค์ก่อนๆ ของอียิปต์ล้วนแต่เคยมีราชินีที่อายุน้อยกว่ามากมายนัก หากรอเพียงอีกไม่กี่ปี องค์หญิงก็คงกลายเป็นหญิงสาวที่งดงามอย่างแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้นฟาโรห์จะทรงแต่งตั้งองค์หญิงให้เป็นราชินีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่หรือคะ”
“อืม....ที่เจ้ากล่าวมาก็ถูกต้อง”
ฟาโรห์ในแต่ละรุ่น ต่างมีสนมนางในมากมาย บางคนถูกถวายตัวตั้งแต่อายุเพียงสิบขวบเสียด้วย ตามธรรเนียมของอียิปต์บ้านใดที่มีบุตรี ขอเพียงพ้นวัยเด็กมาได้ ก็สามารถแต่งงานออกจากบ้านไปได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฟาโรห์จะทรงแต่งตั้งองค์หญิงพระองค์ใหม่ขึ้นเป็นราชินีตั้งแต่ทรงพระเยาว์ อีกทั้งที่อียิปต์แม้แต่พี่น้องก็ยังสามารถแต่งงานกันเองได้ในเครือญาติ และยิ่งไม่ใช่สายเลือดด้วยแล้วยิ่งเป็นเรื่องง่าย
“เช่นนี้แล้วจะทำเช่นไรต่อไปเล่าน้องพี่ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เจ้าก็อาจต้องสูญเสียตำแหน่งราชินีไปให้กับองค์หญิงพระองค์น้อยนั่นก็เป็นได้”
ดาเน่ถึงกับร่ำไห้ เมื่อพี่ชายกล่าวถึงสิ่งที่นางกำลังวิตกอยู่ ร่างอวบอิ่มของนางซวนเซลงไปบนเบาะ ทำให้แม่ทัพเคปที่กำลังมองอยู่ถึงกับโมโห ที่ตนเองไม่สามารถช่วยเหลือน้องสาวได้
“ดาเน่ เจ้าก็อย่าร้องไห้เลยนะ เอาอย่างนี้ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เจ้าเองน้องพี่ เจ้าจะต้องได้เป็นราชินีที่ถูกต้องของอียิปต์อย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำรับปากเช่นนี้จากแม่ทัพเคป สนมเอกดาเน่ก็หยุดร้องทันที นางรู้ดีว่าท่านพี่ของนางจะต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้นางมีความสุขอย่างแน่นอน
“จริงนะคะท่านพี่ ท่านจะต้องช่วยข้าจริงๆ นะคะ”
“เจ้าไม่ต้องกังวลไป ไม่แน่ว่าอีกไม่นาน เจ้าอาจได้มากกว่าตำแหน่งราชินีที่เจ้าต้องการก็เป็นได้”
โดยไร้ฟาโรห์ราเมสที่เป็นตัวขัดขวางเราสองคนพี่น้องอย่างไรเล่า.....
“ทะ....ท่านพี่จะทำเช่นไรหรือคะ?”
ดาเน่หยุดร้องไห้เป็นปลิดทิ้ง ก่อนจะหันมาถามอย่างจริงจังกับแม่ทัพเคป
“ข้าก็จะทำให้เจ้าเป็นหญิงที่มีอำนาจที่สุดในอียิปต์อย่างไรเล่า”
แม่ทัพเคปมองผ่านระเบียงออกไปยังพระราชวังหลวงแห่งอียิปต์ที่ประทับของฟาโรห์ราเมสอย่างหมายมาด
มือบางๆ ที่กำลังปาดเหงื่อเม็ดโตออกจากหน้าผากมน ทำให้แม่ทัพคาอูลต้องมองตามมือบอบบางนั่นอย่างครุ่นคิด
นี่เขาเป็นอะไรไปนะ....ทำไมถึงได้ใส่ใจเจ้าเด็กนั่นจนถึงขนาดพามายังบ้านของท่านแม่ด้วย ทั้งที่ไม่เคยพาใครมาที่นี่แท้ๆ แม้แต่ทหารคนสนิทของเขายังต้องอยู่หน้าบ้านเสียด้วยซ้ำ
โอ๊ย!...เหนื่อยแฮะแต่ก็สนุกดี ไม่คิดว่าไอ้การทำแป้งนี่ก็เหนื่อยเอาการเหมือนกันนะเนี่ย
หลังจากที่ติดตามแม่ทัพหนุ่มมาจากพระราชวัง แม่ทัพใหญ่คาอูลก็เดินทางมาที่นี่ทันที แต่พอมาถึง นิดก็เห็นทาสสาวหลายนางกำลังใช้เครื่องมือบางอย่างกำลังโม่แป้งกันอยู่อย่างขะมักเขม้น จากที่เคยเห็นภาพจากฝาผนังของสุสานในตอนนี้กลับได้เจอกับตัวเป็นๆ เสียได้ ด้วยความดีใจทีพลุ่งพล่านขึ้นมาที่ได้เห็นของจริง ก็เลยถลาเข้าไปหา ตอนนี้เธอเลยกลายเป็นผู้ช่วยจำเป็นในการทำแป้งไปเสียแล้ว
“เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกซะที นี่เจ้าเป็นทหารนะ ไม่ใช่นางทาสที่จะมาทำเรื่องแบบนี้”
เสียงเข้มๆ ของแม่ทัพคาอูล ไม่ได้ทำให้นิดรู้สึกกลัวแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะชินกับหน้าตาดุดัน ร่างกายใหญ่โต และอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเขาซะแล้ว
“ท่านแม่ทัพอย่ากล่าวเช่นนี้สิขอรับ การได้ช่วยเหลือหญิงสาวที่น่ารักพวกนี้ทำงานที่ยากลำบาก เป็นสิ่งที่บุรุษเช่นเราพึงกระทำในช่วงที่ปราศจากสงครามนะขอรับ”
เสียงหัวเราะเบาๆ กับแววตาชื่นชมของเหล่านางทาสทั้งหลายดังขึ้นทันทีที่นิดกล่าวจบ ก่อนจะได้รับสายตากราดเกรี้ยวของหัวหน้านางทาสเป็นการตอบแทน
“หึ....เจ้านี่ท่าทางจะเนื้อหอมไม่เบา เอาล่ะตามข้ามาได้แล้ว”
ระหว่างที่นิดกำลังนวดแป้งอยู่นั้น แม่ทัพคาอูลก็กำลังยืนคุยกับทหารที่นำข่าวมาจากชายแดน หลังจากที่ได้รับข่าวแล้วสีหน้าของท่านแม่ทัพก็ดูเคร่งเครียดจนนิดเองรู้สึกเป็นห่วงไม่น้อย
“เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ? ท่าทางของท่านแม่ทัพดูไม่ดีเลย”
“เจ้านี่ก็ตาแหลมไม่น้อย เอาล่ะในเมื่อเจ้าเป็นคนที่ฝ่าบาทส่งมาก็นับว่าเป็นผู้ที่สามารถเชื่อใจได้ไม่น้อย”
ทั้งคู่เดินมาถึงห้องๆ หนึ่งซึ่งอยู่ในสุดของบ้าน ในตอนแรกนิดคิดว่าเป็นห้องทำงานของชายหนุ่มเสียอีก แต่พอเข้าไปแล้วกลับกลายเป็น
ห้องนอน!!!!!!!!!!!!!!
“ทะ....ท่านแม่ทัพขอรับ ข้าคิดว่าเราออกไปจากที่นี่เถอะขอรับ”
คาอูลไม่เพียงไม่ออกไปจากห้องแต่ชายหนุ่มยังปลดผ้าคลุมของตนออก
“หืมมม....ทำไมกัน ที่นี่มีอะไรอย่างนั้นหรือ?”
น่านยังไม่รู้อีก.....หรือว่าคิดอะไรกับเราหว่า?
“แต่ที่นี่มันเป็นห้องนอนของท่านแม่ทัพไม่ใช่หรือขอรับ ข้าว่าข้าออกไปข้างนอกจะดีกว่า”
“ทำไมกัน เจ้ากลัวอะไรกันแน่ ทั้งเจ้าและข้าเป็นบุรุษ เจ้ายังจะกลัวอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”
ฮะๆๆ อีตานี่....ยังไม่รู้ข่าวเรื่องเมื่อเช้าสินะ
“ท่านแม่ทัพขอรับ ถ้าในตอนนี้ผู้ที่อยู่ในห้องนี้เป็นหญิงงาม ข้าว่าคงไม่มีอะไรหรอกครับ แต่ทว่าข้าเป็นบุรุษ หากใครมาเห็นเข้าแล้วเอาไปพูดว่าท่านแม่ทัพเข้ามาในห้องกับข้าล่ะก็.....ฮะๆๆๆ”
พอกล่าวมาถึงตรงนี้สีหน้าที่เครียดอยู่แล้วของแม่ทัพหนุ่มก็กลับเครียดยิ่งขึ้นไปอีก
“เจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่ เจ้าจะบอกว่าข้าเป็นพวกที่ชอบบุรุษด้วยกันอย่างนั้นหรือ!”
คาอูลค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม ด้วยหน้าตาถมึงทึง ก่อนจะนึกอะไรออกแล้วยิ้มด้วยสีหน้าที่ชวนขนลุกยิ่งนัก
“แต่ก็ดีเหมือนกันนะ ข้าเป็นพวกเดนตาย ชอบการถูกยั่วยุเสียด้วย ในเมื่อเรื่องเช่นนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าลองเช่นกัน”
โถๆๆ เฮียล่ำกลายเป็นเกย์ไปซะแล้วววววว
“ทะ....ท่านแม่ทัพ ข้าว่าทะ ท่านอย่าลองของแปลกเลยน้า”
เอาล่ะสิ! งานเข้าแล้วเรา......
ร่างกายใหญ่โตของชายหนุ่มบดบังร่างเล็กๆ ของนิดจนไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงของตกกระทบพื้นที่อยู่ด้านนอกก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“ขะ...ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าแค่จะเอาขนมที่นายหญิงส่งมาให้เข้ามาให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ”
พอกล่าวจบ นางทาสผู้นั้นก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องมองตามไปอย่างตกตะลึง
นิดลอบมองชายหนุ่มทางหางตา เห็นทีว่าคราวนี้เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องเล็กซะแล้วกระมัง
“เจ้า!” แม่ทัพหนุ่มหันมาเล่นงานนิดที่ยืนอยู่ไม่ไกล ก่อนจะใช้กำปั้นขนาดเท่าขาหมูของเขาเขกลงมาบนศรีษะของเธอเล่นเอานิดน้ำตาปรอยด้วยความเจ็บเลยทีเดียว
โฮกกกกกกกกก มันเจ็บน้า
ร่างเปลือยเปล่าสองร่างที่กำลังนอนอยู่บนแท่นบรรทม เสียงหายใจหอบเหนื่อยค่อยๆ แผ่วลงเมื่ออารมณ์รัญจวนของทั้งคู่ได้รับการปลดปล่อย
“ป่านนี้ยัยนิดจะเป็นยังไงบ้างนะ”
“หึๆๆ....ข้าว่าป่านนี้เจ้าคาอูลมันคงกำลังปวดหัวอยู่กระมัง เพราะจากที่เห็นสหายของเจ้าก็คงจะร้ายไม่ใช่เล่น”
ราเมสหลังจากหายเหนื่อยก็กระหวัดอ้อมแขนคว้าร่างบางอวบอิ่มที่แสนจะหอมหวานจากที่เขาได้ชิมเมื่อครู่
“หวังว่าคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ เพราะว่าไม่อย่างนั้นท่านแม่ทัพคงต้องปวดหัวอย่างที่ท่านกล่าวมาแน่ๆ”
“เอาล่ะ....ข้าว่าเจ้ากับข้าอย่าไปสนใจเรื่องของเจ้าพวกนั้นกันเลยนะ ป่านนี้แล้วข้ายังไม่ได้รับคำตอบเรื่องของเจ้าเลยนะ”
“เรื่องของข้าหรือ?”
“เจ้า....ยังคิดจะจากไปอีกอย่างนั้นหรือ”
“ราเมส....ขอเวลาให้ข้าอีกสักหน่อยเถอะนะ”
แพมขยับตัวขึ้นทาบทับร่างบึกบึนของราเมสก่อนจะกล่าว
“ข้าอยากอยู่ใกล้ๆ ท่านเช่นนี้อีกนานหน่อย ขอให้ข้าได้อยู่กับท่าน วันเวลาแห่งความสุขนี้ ไม่ว่าอีกนานแค่ไหนข้าคงจะจดจำมันเอาไว้ตลอดชีวิตอย่างแน่นอน”
“ข้าก็เช่นกัน ขอเพียงมีเจ้า ไม่ว่าจะต้องต่อสู้กับอะไร ข้าก็ยินดีที่จะทำเพื่อที่จะให้ได้เจ้ามาอยู่เคียงข้างข้าเช่นนี้”
ฝ่ามืออบอุ่นค่อยๆ ลูบไล้แผ่นหลังบอบบางเปล่าเปลือยแผ่วเบา ก่อนจะโน้มคอระหงเข้ามาใกล้ ริมฝีปากที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็กลับหอมหวานขึ้นเรื่อยๆ ถูกบดเบียดอย่างอ่อนโยน ลิ้นร้อนๆ ชอนไชไปทั่วเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ทั้งคู่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน
“แล้ว พวกนางสนมทั้งหลายที่อยู่ในตำหนักล่ะ ท่านจะทำอย่างไรกับพวกนาง?”
“เจ้าหวงข้าอย่างนั้นสินะ หึๆ”
ราเมสหัวเราะจนทรวงอกแข็งแกร่งกระเพื่อมไหว ทำให้แพมที่นอนอยู่ด้านบนต้องขยับไหวไปด้วย ร่างกายที่กำลังแนบชิดก่อให้เกิดความอบอุ่นอย่างคาดไม่ถึง เป็นความอบอุ่นที่ซึมเข้าไปในจิตใจประทับอยู่ในร่างกาย ในส่วนลึกของความรู้สึก
จนยากจะลืมเลือน....
หลังจากผ่านวันอันแสนวุ่นวาย นิดถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อกลับมาถึงห้องของแม่ทัพใหญ่คาอูลในค่ายทหาร
“ท่านแม่ทัพขอรับ ท่านจะอาบน้ำก่อนหรือว่าจะให้ข้าน้อยไปยกอาหารมาให้ขอรับ?”
ใบหน้าแป้นยิ้มแย้มช่างขัดกับชุดทหารที่สวมใส่อยู่ช่างทำให้ขัดตายิ่งนัก
“นี่เจ้าหนู เจ้าเป็นทหารจริงหรือเปล่าเหตุใดเจ้าจึงดูเหมือนคนไร้สามารถเป็นบุรุษที่ไร้ค่าเช่นนี้”
“ท่านแม่ทัพ ข้าเพียงเป็นคนที่แยกแยะเรื่องต่างๆ ได้ดีต่างหากล่ะ ก็ตอนนี้ไม่มีศัตรูปองร้ายท่านนี่นา แล้วเหตุใดข้าจะต้องคอยเข้มงวดตลอดเวลาด้วยล่ะ”
นิดเดินมองไปรอบๆ ห้องเพราะเมื่อเช้าตอนที่เข้ามาในนี้หญิงสาวใช้เวลาส่วนใหญ่เอาแต่กลัวชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าจึงไม่ทันสังเกตว่า ทั้งห้องนี้เต็มไปด้วยม้วนกระดาษ มีเพียงเตียงนอนเรียบๆ โต๊ะตัวใหญ่ กับชั้นวางม้วนกระดาษ เท่านั้นที่อยู่ภายห้องนี้ ช่างเป็นห้องที่สมกับเป็นห้องของทหารอย่างแท้จริง
“ข้าไม่อยากจะกล่าวอะไรกับเจ้าอีกแล้ว เอาล่ะไปเตรียมน้ำอาบให้ข้าได้แล้ว อย่าให้ข้ารอนานเหมือนเมื่อเช้าล่ะ”
เจ้าหนูนี่ช่างขัดตาจริงๆ เห็นทีเขาคงต้องทำให้เจ้านี่เป็นชายเต็มตัวซักทีกระมัง!
“ขอรับๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนะล่ะขอรับ”
นิดแอบแลบลิ้นใส่ชายหนุ่มทางด้านหลัง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว
หลังจากที่สอบถามทางไปเรื่อยๆ ก็สามารถรู้ได้ว่าเธอจะต้องไปเอาน้ำที่ไหนและต้องทำอย่างไรต่อไปจากทหารที่กำลังยืนเฝ้าบ่อน้ำที่ต้องใช้อยู่ เห็นทีว่าคืนนี้เธอคงต้องหิ้วน้ำจากที่นี่ไปให้ตาล่ำนั่นเสียแล้วกระมัง
“ท่านคามิลขอรับ ท่านจะต้องการน้ำมากมายไปทำอะไรหรือขอรับ?” ทหารเฝ้าปากบ่อถามด้วยความสงสัย
“ก็จะเอาไปให้ท่านแม่ทัพอาบอย่างไรเล่า เฮ้อ...คืนนี้ข้าคงไม่ได้นอนเป็นแน่”
“เอ๋....อย่าบอกนะขอรับว่าท่านจะแบกน้ำไปให้ท่านแม่ทัพอาบน่ะขอรับ!” พวกทหารยามทำท่าตกใจแปลกๆ
“อ้าวทำไมล่ะ? ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยนี่นา?” นิดทำหน้างงๆ ใส่พวกทหารเหล่านั้น
“ก็ห้องอาบน้ำของท่านแม่ทัพนะขอรับ แค่ท่านคามิลนำจุกที่อุดเอาไว้ตรงปากสิงโต ทางระบายน้ำก็จะเปิดออก หลังจากนั้นก็นำน้ำร้อนไปเติมก็พอขอรับ” นายทหารคนนั้นอธิบายอย่างละเอียด ทำให้นิดรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เพล้ง!....หน้าแตกเลยเรา (กรรม)
อีตาบ้า! เห็นเราเดินออกมาจากห้องแทนที่จะบอกแต่กลับไม่ยอมห้ามเราเลยแม้แต่น้อย นี่ถ้าไม่ได้ทหารที่เฝ้าบ่อน้ำบอกล่ะก็ คืนนี้เธอคงต้องขนน้ำทั้งคืนเป็นแน่ มิน่าล่ะตอนที่ก่อนจะออกมาหมอนั่นถึงได้พูดว่า
อย่าให้ข้ารอนานเหมือนเมื่อเช้าล่ะ... ชิ ที่แท้ก็รู้อยู่ก่อนแล้วนี่เอง!
“งะ....งั้นหรือ งั้นข้าก็ต้องไปต้มน้ำอย่างเดียวสินะ? เอว่าแต่ว่าจะให้ข้าไปต้มน้ำที่ไหนล่ะทีนี้”
“ท่านคามิลก็เดินไปตรงครัวทางด้านโน้นนะขอรับ ที่นั่นจะมีพลทหารที่ทำหน้าที่เฝ้าเตาอยู่นะขอรับ ท่านก็ให้พวกนั้นทำให้ก็ได้ขอรับ”
“จริงหรือ?....ขอบใจมากนะ ข้าน่ะไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อนเลย ฮะๆๆ” (ยุคจรวดเขามีเครื่องทำน้ำร้อนกันแล้วน่ะสิ)
เดินจากตรงที่คุยกับทหารชั่วครู่ นิดก็พบกับทหารที่กำลังยืนเฝ้าเตาอยู่อย่างที่พวกทหารพวกนั้นบอกมา กลังจากนั้นไม่นานนิดก็ได้น้ำร้อนสมใจ แต่กว่าจะเดินมาถึงห้องของท่านแม่ทัพก็เล่นเอาหญิงสาวถึงกับต้องปาดเหงื่อ ยังดีที่ด้านหลังมีทหารที่อาสาช่วยถือน้ำมาให้ ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องเดินอีกหลายรอบกว่าจะได้ตามจำนวนที่ต้องการ
แต่พอเปิดประตูเข้าไปด้านใน ก็พบกับแม่ทัพคาอูลที่กำลังจะเปลื้องผ้า มือแข็งแรงจับไปยังปมของผ้าที่พันสะโพกเอาไว้ แต่ยังไม่ทันได้ปลดออก
“เฮ้ยยยย.....ท่านแม่ทัพท่านจะทำอะไรน่ะ!”
“ข้าก็จะอาบน้ำน่ะสิ เจ้าจะถามทำไมกัน”
ระหว่างนั้นนายทหารทั้งหลายก็เข้าไปยังประตูอีกด้าน แล้วพากันออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้นิดยืนอยู่ในห้องเพียงลำพังกับชายหนุ่มหุ่นล่ำ ที่กำลังจะเปลือยเปล่า (หวานคอแร้งอิอิ)
ทันที่รู้สึกตัวนิดก็รีบไปเทน้ำร้อนที่ถือมาเมื่อครู่ หากแต่พอตอนจะออกจากห้อง แม่ทัพคาอูลกลับส่งเสียงเรียกเอาไว้
“เจ้าจะไปที่ใดกัน?”
“หืมม?”
“ข้าถามว่าเจ้าจะไปที่ใดกัน” ชายหนุ่มถามหน้าตาเรียบเฉย ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องที่มีอ่างน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งดูๆ ไปแล้วใหญ่พอๆ กับอ่างน้ำที่อยู่ห้องของเพื่อนสาว ที่เมื่อเช้าเธอได้ลงไปแช่เลยทีเดียว (สงสัยหมอนี่จะชอบอาบน้ำมากกว่านอน)
ชาวอียิปต์มักจะชอบทำความสะอาดร่างกายเพื่อเป็นการบูชาต่อเทพเจ้า ร่างกายจะต้องสะอาดอยู่เสมอ การใช้ชีวิตประจำวันของอียิปต์ส่วนใหญ่จึงเกี่ยวกับน้ำ และมักมีบ่อน้ำ หรือแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ในบริเวณบ้าน
“ข้าน้อยก็จะออกไปน่ะสิขอรับ ก็ท่านแม่ทัพจะอาบน้ำไม่ใช่หรือขอรับ?” นิดทำหน้างงๆ เมื่อถูกเรียกตัวเอาไว้
“ถ้าเจ้าออกไปแล้วใครจะดูแลข้าตอนที่ข้าอาบน้ำกันเล่า”
หะๆๆ ห๋าๆๆๆ
“ท่านแม่ทัพจะให้ข้าน้อยอยู่ตอนที่ท่านอาบน้ำหรือขอรับ!”
โอ้พระเจ้า ช่างโชคดี เอ๊ย! ทำไมโชคร้ายขนาดนี้ละเนี่ยยยย (อันที่จริงแอบดีใจ)
“ถ้าเจ้าไม่อยู่แล้วจะให้ใครอยู่ ในเมื่อองค์ฟาโรห์ทรงให้เจ้ามาดูแลข้าอย่างใกล้ชิด เอาล่ะอย่ามัวพูดมากอยู่เลย ข้าเหนียวตัวจะแย่แล้ว” พอกล่าวจบชายหนุ่มก็สลัดผ้าที่ติดตัวอยู่ชิ้นสุดท้ายออก ก่อนจะเดินด้วยร่างเปลือยเปล่าไปยังอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่ราวกับสระว่ายน้ำเล็กๆ อย่างที่เคยเห็นกัน ตามสวนน้ำต่างๆ แตกต่างอยู่ตรงที่ว่า ตอนนี้ภายในอ่างน้ำนั้นมีควันครุกรุ่นอยู่เพราะเมื่อครู่เธอกับเหล่าทหารช่วยกันเทน้ำร้อนใส่ลงไปให้กับหนุ่มล่ำที่ตอนนี้ทำเอานิดถึงกับยืนอ้าปากค้าง กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
ผะ...ผู้ชายเปลือย!!!
“พรวดดดดดดดด!!!”
“เฮ้ยยยยย!!”
เลือดเป็นสายพุ่งกระจายออกจากร่างบางที่ยืนอยู่ด้านหลังของท่านแม่ทัพใหญ่แห่งอียิปต์
ไม่ได้มีคนคิดร้าย
..
ไม่ได้มีคนตาย
.
แต่.....มันคือเลือดกำเดา
“............” คาอูล
(กรุณารอสักครู่ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเลือดพุ่ง)........
อ๊ากกกกก....ไม่ใช่น้า ไม่ใช่ๆ ก็แค่เห็นหนอนยักษ์ตัวใหญ่เอง ฮือออ ตาฉันเสียความบริสุทธิ์ไปซะแล้ว โฮกกกกกกกกกกกก(อันที่จริงแอบดีใจนะ อิอิ)
กว่าเลือดจะหยุดไหลนิดถึงกับหน้ามืด คาอูลต้องเดินนำผ้าคลุมผืนใหญ่ที่เพิ่งถอดไปเมื่อครู่มาเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนให้ ก่อนจะทำหน้าตาเบื่อหน่ายเล็กน้อย
“เจ้านี่ช่างมาเป็นภาระข้าจริงๆ เลยนะ ข้าว่าฝ่าบาทคงคิดแกล้งข้ามากกว่าที่จะส่งเจ้ามาช่วยข้ากระมัง”
หลังจากที่เสียเลือดไปมาก นิดก็ถึงกับซวนเซ หากแต่พอถอยหลังไปสองสามก้าว มือแข็งแรงของชายหนุ่มที่ตอนนี้ใช้ผ้าผืนบางพันท่อนล่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว กลับพยุงตัวเธอเอาไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว เพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะต้องเช็ดเลือดที่ออกมาจากชายหนุ่มตรงหน้าซ้ำสองอีก ชายหนุ่มจึงต้องจับใบหน้าเล็กๆ แหงนเงยขึ้นไปด้านบน ก่อนจะพาร่างบางมายังเบาะนอนที่ปูซ้อนเป็นชั้นๆ แล้วกดร่างของเธอให้นั่งลง
“เอาล่ะ เจ้านั่งอยู่ที่นี่ก่อนเถอะนะ ข้าจะให้คนไปตามหมอมาให้ก็แล้วกัน”
หมอเหรอ? ตายล่ะ! ถ้าเกิดถูกจับได้ขึ้นมาล่ะก็...
“ไม่ต้องหรอกขอรับ ข้าน้อยแค่รู้สึกร้อนนิดหน่อยนะขอรับ เลือดก็เลยพุ่งออกมา ถ้ายังไงให้ข้านั่งสักครู่นะขอรับ”
เชื่อสิๆ โถ่ๆ...
ดวงตากลมโตที่มองแล้วเหมือนจะโตขึ้นเป็นสิบเท่า ขนาดที่ชายหนุ่มมองแล้วนึกไปถึงปลาที่อยู่ในลำน้ำไนล์ ตอนที่ถูกย่างจนได้ที่ (โห ช่างกล้าเปรียบ) ตาของมันจะปูดโปนออกมา แถมพอย่างแล้วยังดำเหมือนหน้าเจ้าหนูนี่ตอนนี้ไม่มีผิด
“ฮะๆๆๆ เจ้านี่ช่างน่าขันจริงๆ เลย”
หลังจากที่ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดัง ร่างล่ำสันแข็งแรงก็เดินจากไป เพียงครู่เดียว นิดก็ได้ยินเสียงน้ำแตกกระจาย ทำให้รู้ทันทีว่าอีตาแม่ทัพหุ่นล่ำคงลงไปอาบน้ำที่เธอเทเอาไว้เมื่อกี้แล้วกระมัง
แหม....พอนึกถึงแล้วมันก็...
“อุ๊บ!”
ว่าแล้วเลือดกำเดาที่หยุดไหลไปแล้ว ก็กลับไหลออกมาใหม่อีกรอบ (กรรม)
แพมมองชายหนุ่มที่กำลังนอนอยู่ข้างๆ เธออย่างแสนรัก ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมกอดที่รัดแน่นของชายหนุ่ม ค่ำคืนแสนหวานของทั้งคู่เพิ่งจบลงเมื่อครู่ ทำให้ชายหนุ่มที่วันนี้และเมื่อคืนที่ไม่ได้นอนเหมือนเธอ หลับลึกเสียจนไม่รู้ว่าเธอในตอนนี้ได้พาตัวเองเข้าไปอาบน้ำที่เหล่านางข้าหลวงเตรียมไว้ให้ตามลำพังเสียแล้ว
ร่างของบุรุษหลายร่างเคลื่อนไหวอยู่ในความมืด ก่อนจะใช้ตะขออันใหญ่เหวี่ยงไปยังกำแพงสูงของพระราชวังหลวงแห่งอียิปต์
“ห้องบรรทมของฟาโรห์อยู่ทางทิศตะวันออก”
เหล่าชายชุดดำเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ก่อนจะกระโดดไต่เชือกที่ผูกติดไว้กับตะขอ ก่อนจะไต่ข้ามกำแพงเข้าไปในเขตพระราชวังอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น