ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Douluo Dalu]​ ข้าคือจ้าวแห่งมังกรยังไงล่ะ!!!

    ลำดับตอนที่ #8 : จุดประกาย

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 63


    กร็าซ!!!!

     

    เสียงคำรามของสัตว์ร้ายระเบิดออกมาพร้อมกับแรงกดอันมหาสาร ร่างของถังซานถึงกับหนักอึ่งราวกับถูกภูเขานับสิบลูกทับตนอยู่แม้แต่จะเอ่ยซักประโยคยังทำมิได้

     

    ‘อัก! นะ-นี่มันเรื่องอันใดกัน! ขนาดเมื่อชาติก่อนของข้าที่เต็มไปด้วยผู้ที่มีพลังมหาสารยากจะหยั่งถึงแต่ก็มิมีผู้ใดเลยที่มีแรงกดดันมหาสารเช่นนี้!!’ ถังซานได้แต่กระอักอยู่ในใจร่างของเขาแทบจะจมลงไปในพื้นดินอยู่แล้วหากในวินาทีต่อมาแรงกดดันอันหนักหน่วงจะค่อยๆเบาลงและถึงแม้ว่าจะไม่หายไปทั้งหมดแต่ก็พอทำให้เขาลุกขึ้นมาจ้องมองร่างอันใหญ่โตของสิ่งมีชีวิตตรงหน้าได้

     

    “อึก….ยังเล่นแรงไม่เปลี่ยนเลยนะ เสี่ยวหลง แล้วนั้นอะไร? ร่างใหม่งั้นรึ?” ถึงแม้ว่าถังห่าวจะไม่ล้มลงหลังจากที่ได้รับแรงกดดันเหล่านั้นแต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ถังห่าวนำมือหนาของตนมาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุุมปากของตนออกก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับได้พบเจอเพื่อนสนิทที่ห่างหายไปนานอย่างไรอย่างนั้น

     

    “อ่า….ท่างเจ้าก็เปลี่ยนไปมากเจ้าดู….ขี้เมา….ถ้าหากอ้าหยินรู้เข้าเธอจะทำหน้ายังไงนะ?” ปากของมังกรรูปร่างแปลกประหลาดอ่าออกก่อนที่จะมีเสียงของอิสตรีดังขึ้น

     

    “อ่ะ…ยะ-อย่าเอาไปบอกอ้าหยินนะข้าขอล่ะ!!” ถังห่าวกล่าวออกมาด้วยท่าทีร้อนรนพยายามขอร้องบุคคคไม่สิสัตว์วิญญาณตรงหน้าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับภรรยาตน

     

    “ฮ่ะๆๆ ข้าล่ะสมเพชเจ้าซะจริงังห่าวจากชายผู้มีทะเยอทะยานกลับกลายเป็นชายขี้โรคแถมเมาแอ๊เสียนี่” เสี่ยวหลงระเบิดหัวเราะออกมาอย่างขบขันก่อนจะละความสนใจจากถังห่าวที่กำลังทำท่าทีราวกับเด็กน้อยเถียงพ่อแม่

     

    “เจ้าคงเป็นเสี่ยวซานสินะ….โตขึ้นมากเลยนี่หลังจากที่พวกเราพบกันคราก่อน” ถังซานถึงกับงุนงงเขานะหรือเคยพบเจอกับเทพมังกรมาก่อน

     

    “ข้าเคยพาเจ้าไปพบกับเสี่ยวหลงมาก่อนเมื่อเจ้ายังเป็นเพียงทารกตัวน้อยเพียงเท่านั้น หากว่าเจ้าจำไม่ได้ก็มิแปลก”

     

    ถังซานพยักหน้าขึ้นลงก่อนจะหันกลับมาสำรวจและวิเคราะห์บุคคลตรงหน้าด้วยทักษะจากชาติก่อนที่ติดตัวมา

     

    ‘นี่มันอะไรกัน! ไร้ซึ่งจุดอ่อนโดยสิ้นเชิง!แถมพลังวิญญาณของเธอยังมากมายเสียจนหน้าหวาดกลัว!’ หน้าของถังซานพลันซีดลงเมื่อสัมผัสถึงพลังวิญญาณภายในร่างของเสี่ยวหลงที่กำลังไหลทะลักออกมาอย่างเชี่ยวกลาดจนถึงขั้นทำให้เขาเห็นภาพหลอน

     

    เงาของมังกรนับร้อยนับพันที่กำลังจ้องมองมายังตนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ทำให้ถังซานถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัวและเมื่อรู้ตัวอีกคราก็พบว่าหลังของตนนั้นชิดติดกับพื้นหญ้าเป็นที่เรียบร้อย

     

    ‘นี่สินะตัวตนระดับตำนาน! เทพอสูรผู้ไร้ซึ่งคู่ต่อกร! ผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของเหล่าสัตว์วิญญาณทั้งมวล!!’ มือของเขาถูกกำแน่นร่างกายของเขาสั่นเทาแต่มิใช่สั่นเพราะหวาดกลัวแต่อย่างใด ร่างกายของเขาสั่นไหวด้วยความตื่นเต่นการพบเจอกับเสี่ยวหลงในครานี้ทำให้รู้ว่าเขานั้นอ่อนแอเสียแค่ไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง!!

     

    “โอ้…แววตานั้นใช้ได้เลยนี่สมแล้วที่เป็นบุคคลที่ข้าเลือกให้กลายเป็นหนึ่งในใต้หล้าในอนาคต” เสี่ยวหลงแสยะยิ้ม

     

    “ท่านหมายความว่าอย่างไร?” ถังซานถึงกับงุนงงเมื่อได้ฟังประโยคเมื่อครู่

     

    “ก็มีความหมายตามที่ข้าพูดไป” เสี่ยวหลงกล่าวแบบปัดๆราวกับว่าเรื่องเมื่อครู่มิใช้เรื่องสำคัญอันใดเลย

     

    “นั้นก็เพราะเจ้าเป็นผู้ถูกเลือกโดยเทพมังกรยังไงล่ะเสี่ยวซาน” ถังห่าวที่หายจากอาการเด็กขี้โวยวายกล่าวขึ้นแต่นั้นก็มิใดไขความข้องใจให่แก่ถังซานเลยแม้แต่น้อยก่อนที่ถังห่าวจะพูดเสริมในทันที

     

    “นามที่เจ้าใช้อยู่จนถึงตอนนี้เป็นนามที่เทพมังกรเสี่ยวหลงตั้งให้ยังไงล่ะ” ถังห่าวได้กล่าวประโยคที่น่าเหลือเชื่อออกมาและนั้นทำให้ถังซานถึงกับช็อคกับที่มาของนานของตน

     

    “ฮึๆๆ เอานี่ -พึบ!” เสี่ยวหลงได้โยนบางอย่างที่คล้ายกับปลอกแขนให้แก่ถังห่าวก่อนที่เจ้าตัวจะหันกลับมามองหน้าตนราวกับจะถามว่ามันคือสิ่งใด?

     

    “อ่อ…มันคือของขวัญเนื่องในโอกาศที่เจ้าหนูสามารถปลุกสปิริตได้แล้วน่ะนี่แหละเรื่องที่ข้ามาหาเจ้าในวันนี้” เสี่ยวหลงกล่าวออกมาไขความข้องใจของถังห่าวโดยทันทีก่อนที่ถังห่าวจะลงมือตรวจสอบของขวัญตรงหน้าก่อนจะแสดงสีหน้าตกใจแบบขีดสุดก่อนจะหันมาทางเสี่ยวหลงด้วยความรวดเร็วจนคอแทบเคล็ด

     

    “ฮ่าๆๆ ดูเจ้าทำให้เข้าสิใช้แล้ว! มังคือ สปิริตโบนแสนปี ยังไงล่ะส่วนชื่อของมันก็อืม…ปลอกแขนเทพมังกรละกัน” ครานี้มิใช้แค่ถังซานเท่านั้นที่ยืนแข็งทื่อเป็นหินถังห่าวก็เช่นกันเมื่อทราบถึงสิ่งที่อยู่ในมือของตน

     

    “อ่ะ-อ่าวแข็งเป็นหินไปซะแล้ว…ชั่งเถอะถ้าเช่นนั้นขอตัว -ฟุฟ ฟิ้ว!!” ร่างของเสี่ยวหลงหายไปในพริบตาก่อนจะปรากฏอีกทีนะสุดขอบฟ้าเสียแล้วก่อนจะหายไปจากสายตาในเสี้ยววิต่อมา

     

    “เอ๋? -ควับๆ ท่านเสี่ยวหลงหายไปไหนเสียแล้วท่านพ่อ- ท่านพ่อ!!” ถังซานเมื่อได้สติก็รีบกวาดสายตาไปมาเนื่องจากไม่พบว่ามังกรตรงหน้าอยู่ในระยะสายตาของตนก่อนจะไปสบตากับร่างที่กำลังยืนแข็งทื่อโดยที่ในมือของเขากำลังถือบางอย่างที่ดูคล้ายกับปลอกแขนอยู่ในมือจึงรีบกระโจนไปดูอาการของผู้เป็นพ่อในทันที

     

    “ทำใจดีๆเอาไว้ท่านพ่อ!!” ถังซานพยายามเขย่าร่างของผู้เป็นพ่อสุดแรงเกิดแต่ก็ไร้ผลร่างของผู้เป็นพ่อยังนิ่งไม่ไหวติง

     

    “อึก…ท่านพ่อข้าต้องขออภัยที่ล่วงเกินท่าน -เพียะๆ!!!” ถังซานตบหน้าถังห่าวด้วยทักษะของตนจะทำให้หน้าของผู้เป็นพ่อบวมเป่ง

     

    “อ่ะ! มันเกิดอะไรขึ้น! ข้าจำได้ว่าข้ากำลังคุยกับเสี่ยวหลงก่อนที่นางจะมอบบางอย่างให้ข้า….ย๊ะเฮื้อย!!” ถังห่าวก้มลงมองสิ่งที่ตนกำลังถืออยู่ก่อนจะสะดุ้งตกใจจนทำให้สิ่งที่อยู่ในมือของตนหลุดจากมือของตน

     

    พรึบๆๆๆ -ควับ!

     

    “เฮ้อ….เกือบแล้วไหมล่ะ” ถังห่าวถอนหายออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงเพราะความเหนื่อยล้า

     

     “มันคือสิ่งใดรึท่านพ่อ”​ ถังซานถามออกมาด้วยความสงสัยและสนใจในสิ่งที่พ่อของตนถืออยู่

     

    “มันคือสปิริตโบนน่ะเสี่ยวซาน”​ ถังห่าวกล่าวตอบถังซานด้วยความเหนื่อยล้าถึงแม้ว่าตนจะเคยพบเจอเรื่องทำนองนี้มาบ่อยครั้งแล้วก็ตามแต่ครั้งนี้มันออกจะเกินไปหน่อย

     

    “สปิริต... โบน?”​ ถังซานกล่าวออกมาช้าๆพลางทำหน้าคลุ่นคิด

     

    “เสี่ยวซานเอ๋ยเรื่องนี้เจ้ายังไม่จำเป็นต้องใส่ใจนี่คือของขวัญจากนางที่มอบให้กับเจ้า” ​ถังห่าวยื่นปลอกแขนมังกรให้แก่ถังซานทันที

     

    “แต่ในตอนนี้เจ้ายังใช้มันไม่ได้และเจ้าจะใช้มันได้ก็ต่อเมื่อเจ้าพร้อมแล้วเท่านั้น เอาล่ะพวกเรากลับกับเถอะนี่ก็ยามหว่าน ชั่ง(ยามเย็น)​แล้ว”​ ถังห่างไม่ปล่อยโอกาศให้ถังซานได้ถามสิ่งใดรับสั่งให้บุตรของเรากลับเรือนของตนได้แล้วพร้อมกับพุ่งตัวกลับบ้านโดยทันที

    .

    .

    .

    .

    .​

    .

    .

    ตัดมา ณ ป่าลึก

     

    ได้มีร่างของสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งกำลังจะสิ้นลมหายใจเพราะขสดอากาศอยู่

     

    “แฮ่กๆ โอ๊ย! ฮ่าๆๆ ดูหน้าของเสี่ยวซานตัวน้อยกับเจ้าถังห่าวนั้นสิตลกเกินไปแล้ว! แข็งเป็นหินเลย ก๊าก ฮ่าๆๆๆ” ร่างของเสี่ยวหลงหดลงจนเหลือเพียงขยาดเท่ากับสุนัขตัวเล็กๆพลางหัวเราะก๊ากออกมาพร้อมกับกลิ้งไปมาบนพื้นหญ้า

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×