ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Douluo Dalu]​ ข้าคือจ้าวแห่งมังกรยังไงล่ะ!!!

    ลำดับตอนที่ #4 : การกำเนิดของตำนานบทใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 64


    เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็วนับเป็นปีที่ 10 หลังจากที่ถังห่าวรู้เรื่องราวของเสี่ยวหลงตัวของเขายังคงมาเยี่ยมเสี่ยวหลงอยู่เสมอโดยไม่ลืมนำของฝากติดมาด้วยตลอดหลังจากที่ทั้งสองได้กลายเป็นสหายกัน 

     

    ซึ่งการมาในครั้งนี้ของถังห่าวนั้นแตกต่างออกไปจากทุกทีเพราะนอกจากจะไม่มีอะไรพกติดตัวมาด้วยแล้วกลับยังพ่วงหญิงสาวที่แผล่กลิ่นอายวิญญาณบริสุทธิ์มาด้วยแล้วยังมีหน้ามาแนะนำตัวภรรยาของตนหน้าละลื่นอีกต่างหาก

     

    “โอ้….เรียกได้ดีนี่ถังห่าว” เสี่ยวหลงในร่างออกล่ากล่าวออกมาด้วยนำเสียงเย้ายวนกวนประสาท

     

    “ฮ่าๆๆ ขอบคุณที่ชม” ด้วยความเฮ้อหรืออะไรก็ไม่ทราบถังห่าวได้สาธยายความงามและความแข็งแกร่งของภรรยาตนให้เสี่ยวหลงฟังจนเธอรำคาญแล้วหันไปสนใจหญิงสาวข้างกายของถังห่าวแทน

     

    “เจ้า…..ท้องสินะ?” เมื่อเสี่ยวหลงสังเกตรอบๆตัวของหญิงสาวจะสังเกตเห็นได้ว่าบริเวณท้องของเธอนั้นนูนขึ้นเล็กน้อยจึงเอ่ยถามออกมาโดยไม่รู้ตัว

     

    “เจ้าค่ะ…ท่านคิดถูกแล้วท่านเทพมังกรข้านั้นได้ตั้งท้องเด็กคนนั้นมาซักพักแล้วค่ะ” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ดูมีความสุขพลางใช้มืออันบอบบางตนลูบวนไปวนมาบริเวณท้องของตนด้วยความอ่อนโยน

     

    “อ่า…..หากเจ้าไม่รังเกลียดอสูรร้ายอย่างข้าข้อให้ข้าตั้งชื่อเด็กในท้องของเจ้าได้รึไม่?” ไม่รู้เพราะเหตุใดเธอถึงกล่าวประโยคเหล่านั้นออกมาแถมอีกฝ่ายยังมีสีหน้าที่ดูตกใจเสียด้วยโดยเฉพาะถังห่าวที่มีท่าทางดี้ด้าออกนอกหน้า

     

    “ฮุๆ อสูรร้ายอันใดเล่าทั้งๆที่ร่างจริงของท่านนั้นน่ารักน่าชังเสียเพียงนั้น” นางนำฝ่ามืออันบอบบางของตนมาป้องปากหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทีที่ดูเขนอายของเทพมังกรถึงแม้จะไม่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดแต่กลับเธอที่เป็นผู้หญิงด้วยกันแล้วนั้นช่างมองออกง่ายดายยิ่งจะเรียกว่า ‘สัญชาติญาณของหญิงสาว’ กระมั้ง?

     

    “อ้าหยินพูดถูก! การที่ได้ตัวตนที่เป็นตำนานอย่าง ‘เทพมังกรอมตะ’ มอบนามให้แก่บุตรของข้ามันเป็นดังพรจากสวรรค์!!” ถังห่าวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมกับจ้องมองมายังเสี่ยวหลงด้วยแววตาที่คาดหวังแบบสุดๆ

     

    “ฮึๆ แล้วพวกเจ้าอย่างมาเสียใจในภายหลังซะล่ะหากข้าตั้งชื่อที่ไม่ดีให้แก่พวกบุตรพวกเจ้า”  เสี่ยวหลงกล่าวออกมาด้วนน้ำเสียงหยอกล้อใส่ถังห่าว

     

    “ไม่หลอกข้าเชื่อว่าเจ้ามีชื่อที่เหมาะสมกับบุตรข้าอยู่แล้วใช้ไหมล่ะ?” ถังห่าวจ้องหน้าเสี่ยวหลงพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่มันใจสุดๆ นั้นทำให้เสี่ยวหลงถอนหายใจออกมามาเฮือกใหญ่ก่อนจะละบายยิ้มออกมาในแบบของตนล่ะนะ

     

    “ขอล่ะอย่างได้ยิ้มเยี่ยงนั้นอีกเป็นครั้งที่สองมันทำให้ข้ารู้สึกไม่ค่อยดี” เสี่ยวหลงหุบยิ้มทันทีพลางจ้องเขมงไปยังตัวต้นเหตุที่ทำให้บรรยากาศดีๆหายไปเสียหมด

     

    “เฮ้อ….ชั่งเถอะเอาล่ะมาคิดชื่อให้หนูน้อยกันดีกว่า” เสี่ยวหลงเลิกสนใจชายร่างหนาก่อนจะกลับมาตั้งสมาธิคิดชื่อของเด็กน้อยในท้องทันที

     

    “ถังห่าว….คนตระกูลถัง….ถังซาน….อืมๆ..” เสี่ยวหลงพยักหน้าขั้นลงช้าๆก่อนจะหันกลับมายังอ้าหยิน

     

    “นับจากนี้ไปบุตรของพวกเจ้าจะมีนามว่า ถังซาน! นามของเขาจะกลายเป็นนามที่เล่าขานดั่งตัวตนเป็นตำนานเช่นข้าไปนานหลายชั่วอายุคน!!” น้ำเสียงอันซงพลังของเสี่ยวหลงบวกกับพลังวิญญาณที่กระจายออกไปทั่วทั้งทวีปต้าหลัวส่งผลให้ทั่วทั้งทวีปนั้นสั่นสะเทือน เหล่าสัตว์วิญญาณน้อยใหญ่ต่างก้มหัวของตนลงสยบต่อแรงกดดันเหล่านี้จะมีก็เพียงเหล่าสัตว์วิญญาณอายุแสนปีขึ้นไปเท่านั้นที่ยังคงยื่นเฉยพร้อมจ้องมองไปยังทิศที่แรงกดดันเหล่านี้ปรากฏขึ้น 

     

    เหล่าผู้ใช้สปิริตหรือสปิริตมาสเตอร์นั้นรับรู้ถึงแรงกดดันเหล่านี้ต่างนิ่งค้างไม่สามารถขยับเขื่อนได้ชั่วขณะก่อรที่แรงกดดันทั้งหมดจะหายไปในชั่วพริบตา ผู้คนต่างตื่่นตัวเกิดความโกลาหลในชั่วพริบตาจนต้องมีคนของสปิริตฮอลที่คอยดูเลยและควบคุมสถานการณ์ในเขตของพวกมนุษย์ออกมาห้ามปราม

     

    ณ โบสถ์แห่งหนึ่ง

     

    คลื่น!!

     

    เพล้ง!!!

     

    กร็อด!!!

     

    เสียงของกระจกของโบสถ์ที่แตกออกเนื่องจากทนรับแรงกดดันไม่ไหวดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงของการขบฟันดังออกมาจากร่างของหญิงสาวผมทองที่แต่งกายด้วยชุดของพระสันตะปาปาของสปิริตฮอลหลังจากที่เธอสัมผัสถึงแรงกดดันนั้นที่เธอกำลังจ้องมองไปยังทิศที่แรงกดดันปรากฏขึ้น ก่อนที่ประตูโบสถ์จะถูกเปิดขึ้นด้วยความร้อนรน

     

    สปิริตเซนต์ผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาหาเธอด้วยท่าทีที่ร้อนรนสุดขีดก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าเธอโดยที่บนใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ชะโลมไปทั่วทั้งใบหน้า

     

    “ท่านพระสันตะปาปา ข้ามีเรื่องจะมาแจ้งให้ท่านทราบ…..” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเคลือหลังจากที่ตนนั้นถูกแรงกดดันทางสายตาจากร่างสตรีตรงหน้า

     

    “อ่า….ข้ารู้แล้วทำดีมากเจ้าไปได้แล้ว” เธอไล่ชายผู้นั้นด้วยท่าทีที่เฉยเมยโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปยังทิศทางเดิม

     

    “คะ-ครับ!” เมื่อได้รับคำสั่งชายผู้นี้ก็ไม่รีรอรับพุ่งตัวออกไปจากโบสถ์แห่งนี้ด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่ตนจะทำได้ก่อนจะหายรับไปจากสายตาของเธอ

     

    “ข้าไม่มีวันลืมเรื่องในวันนั้นได้อย่างเด็ดขาด….วันที่เจ้าทำให้ข้าต้องอับอายต่อหน้าเหล่าสาวกของข้า” หญิงสาวนามว่าปี่ปี่ตงกล่าวขึ้นด้วยความคับแค้นใจ

     

    “แผนทุกอย่างถูกทำลายอย่างย่อยยับจนต้องเริ่มใหม่จากศุนย์ก็เพราะเจ้า คอยดูเถอะเมื่อถึงเวลาข้านี้แหละจะเป็นคนสังหารเจ้าแล้วนำมาเป็นแหวนวงที่สิบของข้า!!! ”

     

    จำคำของข้า ปี่ปี่ตง สันตะปาปาแห่งสปิริตฮอลเอาไว้ให้ดี เทพมังกรอมตะ เสี่ยวหลง!!!” เสี่ยวหลง

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ค้อยๆเป็นค่อยๆไปเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง….รึเปล่าหว่า?

     

    หมางง (@yui_chaemruean) | Twitter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×