ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Douluo Dalu]​ ข้าคือจ้าวแห่งมังกรยังไงล่ะ!!!

    ลำดับตอนที่ #12 : สปิริตวงแรกของถังซานและการพบกับอีกครั้งของ....

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 63


    หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในเขตชั้นในของป่าบรรยากาศรอบตัวพลันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ต้นไม้ที่สูงใหญ่ปิดบังแสงอาทิตย์ไม่ให้มันส่องมาถึงพื้นเบื่องล่างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยไอน้ำและชื้นเป็นอย่างมาก ถังซานมีท่าทีระวังถึงขีดสุดก่อนที่พวกเขาจะมาหยุดอยู่ที่เถาวัลชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายสัตว์วิญญาณอายุร้อยปีชนิตหนึ่งเป็นอย่างมากชื่อของมันคือ ‘เถาวัลย์งูปีศาจ’

     

    และในขณะที่พวกเขากำลังสำรวจบริเวรรอบๆนั้นเองจู่ๆรอบกายของพวกเขาก็ปรากฏร่างของสัตว์วิญญาณจำนวนมันล้อมรอบพวกเขาอยู่มันก็คือ ฝูงของหมาป่าฝี สัตว์วิญญาณอายุสิบปีที่ชอบล่าเหยื่อเป็นฝูงนั้นเอง อาจารย์ใหญ่ได้ห้ามปามไม่ให้ถังซานทำอะไรบุ่มบ่ามก่อนจะใช้สปิริตของตน ‘ซาน เป่า’ ที่เป็นบีสสปิริตผายลมใส่พวกมันจะแตกกระเจิง

     

    และในขณะที่พวกมันกำลังหนืออยู่นั้นก็ได้มีเงาของมัจจุราชปรากฏตัวขึ้นมาต้อนหลังของถังซานก่อนจะพุ่งผ่านหน้าถังซานในระยะประชิดก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปหาหมาป่าผีตนหนึ่งที่กำลังหนีสุดชีวิตอยู่ในทันที

     

    ภาพตรงหน้าทำให้อาจารย์ใหญ่ตื่นตระหนกก่อนจะรีบบอกให้ถังซานเข้ามาอยู่ด้านหลังตนทันทีเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทั้งคู่คือสัตว์วิญญาณอายุ 423 ปี ดาบพิษดาทูร่า!!

     

    กร๊าช!!! -ฟุฟ

     

    มันคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะพุ่งเข้ามาฉกใส่อาจารย์ใหญ่ด้วยความรวดเรวจะทำให้เขาไม่อาจหลบการโจมตีนั้นพ้นแต่โชคดีที่ถังซานไหวตัวทันกระโดดตัวพุ่งเข้ามาผลักอาจารย์ของตนให้พ้นจากรัศมีการดจมตีของมันได้ทันเวลาพอดิบพอดี

     

    และเมื่อทั้งคู่ตั้งหลักได้แล้วนั้นแาจารย์ใหญ่ก็ได้สั่งให้ถังซานวิ่งสุดชีวิต โดยที่ตนนั้นจะคอยถ่วงเวลาไว้ให้โดยสั่งให้ ซาน เป่า สปิริตของเขาใช้ทักษะผายลมหมอกควันหมายจะทำให้มันสลบไป…แต่หน้าเสียตายที่มันไม่เป็นใช้นั้น มันได้พุ่งตัวทะลุผ่านหมอกควันเหล่านั้นก่อนที่มันจะฉกเข้าที่หางของ เซาเป่า ในทันทีและเป็นที่แน่นอน เซาเป่านั้นคือจิตวิญญาณของอาจารย์ใหญ่ เมื่อ เซาเป่าโดนกัดจดได้รับพิษเมื่อเขาเรียกมันกลับมาพิษเหล่านั้นก็แล่นเข้ามาในตัวของเขาในทันที

     

    นั้นจึงทำให้อาจารย์ใหญ่เกิดอาการหน้ามืดที่เกิดจากพิษของดาทูร่าจนล้มลง ณ จุดนั้น

     

    เมื่อถังซานเห็นดังนั้นเห็นดังนั้นก็บังเกิดโทสะขึ้นมาทันที เขาพุ่งตัวเข้าไปโลมรันกับดาทูร่าแบบตัวต่อตัว อาวุธทุกชิ้นถูกใช้ออกมาตนหมดไม่เว้นแม้แต่อาวุธลับของตนแต่นั้นก็ไม่ระคะระคายผิวของมันแม้แต่น้อยแถมนั้นยังทำให้มันคลั่งยิ่งกว่าเก่าเสียอีก แต่นั้นก็ไม่มีเป็นปัญหาของเขาแม้แต่น้อยถังซานได้คาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้วจึงใช้ทักษะของตนค้นหาจุดอ่อนของมันก่อนที่เขาจะพบและลงมือสังหารมันลงได้ในที่สุด

     

    แต่ด้วยความเป็นห่วงอาจารย์ของตนถังซานจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปประคองอาจารย์ของตนโดยไม่ทันได้สังเกตดูดีๆว่ามันได้ตายไปแล้วจริงๆรึไม่ในขณะที่ถังซานกำลังลงมือรักษาอาจจารย์ของตนนั้นจู่ๆร่างที่ไร้ลมหายใจของมันก็ค่อยยื่นหยัดขึ้นมา ปากของมันพลันอ้าออกมากว้างจนเห็นเขี้ยวอันแหลมคมทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน

     

    “สะ-เสี่ยวซานหลบไป! มันยังไม่ตาย!” เมื่อชายวัยกลางคนฟื้นขึ้นมาก็รีบตะโกนบอกลูกศิษย์ของตนในทันทีเมื่อเห็นว่าดาทูร่าตัวนั้นค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆแต่มันก็สายเกินไป

     

    กร๊าช!!!

     

    มันพุ่งเข้าใส่ถังซานด้วยความเร็วสูงสุดของมันจนไม่อาจที่จะตามความไวทันได้ ถังซานที่มีอาจารย์ของตนอยู่ด้านหลังก็ไม่อาจที่จะหลบการโจมตีนี้ได้เพราะว่าหากเขาหลบมันคนที่จะตายก็คืออาจารย์ของเขาซึ่งเขาเคยสาบานกับตนเอาไว้แล้วว่าจะไม่เสียคนในครอบครัวของเขาคนไหนไปอีกแล้ว จึงตัดสินใจยืนรับการโจมตีนี้แทนโดยไมาสนใจคำเตือนของอาจารย์แม้แต่น้อย

     

    ถังซานหลับตายอมรับชะตากรรมการที่เขาได้เกิดเป็นศิษย์ของอาจารย์ใหญ่นั้นก็ถือว่าคุ้มแล้วถึงแม้ว่าจะยังไม่บรรลุถึงเป้าหมายของตนแต่แค่ช่วยให้อาจารย์ของตนรอดชีวิตกลับไปก็เพียงพอแล้ว 

     

    แกร๊ง!! กร๊าช!!!!

     

    แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปมเนื่องจากแทนที่จะได้ยินเสียงของคมเขี้ยวที่ฝังลึกเข้าไปในเนื้อของตนกลับไปยินเสียงของการกระทับของวัตถุบางอย่างก่อนที่จะมีเสียงกรีดร้องด้วยความทรมารของดาทูร่าในเวลาต่อมา

     

    เขาตัดสินใจเปิดเปลือกตาของตนขึ้นก่อนจะพบกับภาพที่น่าตกตะลึงมมันคือภาพของปลอกแขนที่เขาได้รับเป็นของขวัญจากเทพมังกรที่กำลังลอยอยู่เบื่องหน้าตนโดยบริเวณรอบๆปลอกแขนนั้นเหมือนกลับว่ามีพลังงานบางอย่างแผ่ออกมาจากปลอกแขนจนกลายเป็นโล่โปรงแสงสีแดงที่บนตัวโล่นั้นประดับไปด้วยรวดรายสวยงามและสิ่งที่หน้าสนใจที่สุดบนโล่โปรงแสงนั้นก็คือรูปสลักที่สลักเป็นรูปของศรีษะมังกรผู้เป็นดั่งตัวตนที่เป็นอมตะของโลกใบนี้ประดับอยู่บนตัวโล่

     

    ถังซานหันกลับไปจ้องมองอาจารย์ของตนก่อนที่เขาจะพบว่าวิญญาณของเขาได้หลุดออกจากร่างเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นเอง ถังซานได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับสภาพของอาจารย์ตนที่ไม่ต่างอะไรไปจากสภาพของตนในคราแรกเลยแม้แต่น้อยก่อนจะกลับมาสนใจปลอกแขนชิ้นนี้ต่อ

     

    ‘ดูเหมือนจะรำบากน่าดูเลยนี่เสี่ยวซานตัวน้อย~’ เสียงของอิสตรีดังออกมาจากปลอกแขนยิ่งทำให้ถังซานตื่นตะลึงขึ้นไปอีก

     

    ‘หึๆ ดูทำหน้าเข้าสิไม่ต้องตกใจไปที่ก็แค่จิตวิญญาณส่วนหนึ่งของข้าที่อาศัยอยู่ในปลอกแขนนี่ก็เท่านั้นเพื่อรอเวลาที่เจ้าจะเหมาะสมกับปลอกแขนชิ้นนี้ข้าจึงใส่จิตวิญญาณส่วนหนึ่งเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของเจ้าถึงแม้ว่ามันจะอ่อนแอก็ตามที…’ เมื่อถังซานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าด้วยสีหน้าเหยเก อ่อนแอ!? ไอ้การที่หยุดการโจมตีของดาทูร่าโดยไร้รอยขีดข่วนแถมยังสะท้อนการโจมตีของอีกฝ่ายได้อีกนางกลับบอกว่ามันอ่อนแองั้นรึ!?

     

    ถังซานถึงกับไปไม่เป็นเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่โดยเฉพาะช่วงท้ายของประโยคยิ่งทำให้เข้าตะหนักได้ถึงความอ่อนแอของตนเองขึ้นไปอีก

     

    ‘ข้าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้!! ข้าจะทำให้ท่านเสี่ยวหลงไม่สิ…ข้าจะทำผู้ทั่วโลกจดจำนานของข้านามที่ท่านเทพมังกรประทานมาให้ ถังซาน จะกลายเป็นนามที่ถูกเล่าขานไปชั่วนิรันดร์!!!’ ปณิธานอันแรงกล้าถูกจุดประกายขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจของถังซานตัวน้อยเพื่อที่จะปกป้องและกลายเป็นดั่งตำนานเช่นเสี่ยวหลงเขาจำต้องแข็งแกร่งยิ่งไปกว่านี้!!!

     

    ‘ส่วนเจ้า…เจ้าหนอนชาเขียวช่างเป็นคราซวยของเจ้าโดยแท้ที่มาเจอะเจอกับบุคคลที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของข้า’ จิตวิญญาณของเสี่ยวหลงค่อยๆควบแน่นจนบังเกิดเป็นร่างของจิตวิญญาณที่มีกายเนื้อโดยจุดที่เป็นแกนกลางสำคัญเลยก็คือปลอกแขนของนาง

     

    “เตรียมตัวตายได้เลยไอ้หนอนชาเขียว!!!”  ร่างของเสี่ยวหลงพลันหายไปจากสายตาของถังซานในเสี้ยววิก่อนที่ในเวลาต่อมาจะบังเกิดเสียงระเบิดกัมปนาทไปทั่วป่าส่งผลให้สัตว์วิญญาณน้อยใหญ่พากันแตกตื่อและหนีตายกันจ้าละหวั่น

     

    “อุหว๊า~ ดูเหมือนจะเล่นแรงไปแฮะเรา… ดันสร้างหลุมใหญ่กลางป่าเลยสิเนี้ย…” เสี่ยวหลงเกาหลังคอของตนแกรกๆก่อนจะหันกลับมายกยิ้มให้ถังซานพร้อมกับสลายร่างวิญญาณของตนกลายเป็นปลอกแขนดังเดิมพร้อมกับพุ่งเข้าไปในกระเป๋าของถังซานทันทีโดยไม่ลืมปกปิดกลิ่นอายวิญญาณด้วย

     

    “……อ่ะ…ท่านอาจารย์ล่ะ!!” ถังซานรีบพุ่งไปประคองร่างที่ไร้ซึ่งวิญญาณของอาจารย์ตนก่อนจะเขย่าไปมายกใหญ่

     

    “อ่า~ แม่น้ำสวยจำเลยข้าอยากจะลงไปในนั้นจัง~” อาจาย์ใหญ่ละเมอออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

     

    “ไม่ได้นะท่านอาจารย์ท่านอย่าลงไปเด็ดขาดเลยน๊า!!!” เมื่อถังซานได้ยินประโยคนั้นยิ่งทำการเขย่าร่างของอาจารย์หนักกว่าเก่าเสียอีกก่อนจะใช้วิธีสุดท้าย

     

    “ท่านอาจารย์ข้าขออภัยที่ล่วงเกินท่านโปรดอภัยให้เข้าด้วย” ถังซานไม่รีรอรีบเค้นพลังวิญญาณของตนไปที่มือขวาของตนก่อนจะต่อยใส่หน้าอาจารย์ตนด้วยแรงสูงสุด

     

    “อะเฮื้อ!!! แค๊กๆ แค๊กๆ มันเกิดอะไรขึ้นเสี่ยวซานแล้วดาทูร่าล่ะ!!” อาจารย์ใหญ่ลุกพรวดขึ้นมาโดยไม่รู้เลยว่าใบหน้าของตนกำลังบวมเป่งจนไม่อาจจำได้เลยว่าคนๆนี้เคยเป็นใครมาก่อน

     

    “เอ่อ…มันตายแล้วครับท่านอาจารย์” ถังซานตัวสั่นเนื่องจากกำลังกลั่นขำสุดชีวิต

     

    “สวรรค์ทรงโปรด! เสี่ยวซานดาบพิษดาทูร่านั้นจะเป็นแหวนวงแรกของเจ้า!!” ถังซานที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าตอบก่อนที่จะลงมือดูดซับวงแหวนในทันที แต่ท่าทีของถังซานนั้นดูสงบนิ่งผิดปกติเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นการดูดซับวงแหวนที่เกินขีดจำกัดของตนนั้นจะสร้างความเจ็บปวดอย่างมหาสารให้แก่คนๆนั้นเป็นอย่างมาก

     

    แต่เสี่ยวซานกลับไม่มีท่าทีแบบนั้นเลยแถมการดูดซับยังดำเนินไปด้วยความรวดเร็วอีกด้วย! เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยามกระบวนการดูดซับวงแหวนก็เสร็จสิ้น! ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก

     

    ถังซานลืมตาของตนขึ้นมาก่อนจะเรียกใช้ทักษะใหม่ของตนในทันทีปลอกแขนที่ทำมาจากหญ้าสีฟ้าปรากฏขึ้นบนมือของเขาก่อนที่มันจะยืดยาวออกไปทั่วทิศทางแถมเถาวัลย์พวกนี้ยังเต็มไปด้วยพิษอัมพาตของดาบพิษอีกต่างหาก

     

    เมื่อถังซานทดลองทักษะของตนเรียบร้อยแล้วก็รีบหามอาจารย์ของตนกลับเข้าเมืองเพื่อไปรักษาขจัดพิษที่เหลืออยู่ในร่างกายออกในทันที

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    น้องมีบทแล้ว~ ถึงแม้จะมาแค่จิตวิญญาณก็ตาม~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×