ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 ชอบก็จีบ :P

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 53


                                                                    







                                                                    ตอนที่
    12
     




    หลังจากที่ผมทำซ่าส์ใจกล้าหน้าด้านชวนไอ้ภูมิมาบ้าน แต่ก็ต้องแห้วเพราะถูกมันปฏิเสธ เล่นตัวนักนะมึง อย่าให้ไอ้พีมต้องโหด เดี๋ยวกูดักฉุดเลยแม่ง อ๊ากกกก ผมจะฉุดผู้ชาย และก่อนที่ผมจะบ้าพ่อก็โทรมาพอดีเวลาเดิมสองทุ่มเป๊ะๆ



    “ฮัลโหล พีมสุดหล่อพูดครับ”

    (อ่อ สงสัยโทรผิด)

    “โหยยยพ่อ นี่ลูกชายพ่อเอง”

    (ก็กูไม่มีลูกชายหล่อนี่หว่า มีแต่ลูกพิการซ้ำซ้อน)

    “แรงวะหนวด โทรมาทำไมจะโอนตังค์ให้หรอ”

    (มึงใช้หรือมึงผลาญไอ้แมว กูเพิ่งโอนให้)

    “ฮ่าฮ่า ล้อเล่นน่า ไม่ได้จะขอหรอก พ่อมีไรคร้าบบบ”

    (อั๊วจะไปเที่ยวโว๊ย)

    “จริงดิ ไปไหนอ่ะ”

    (ภูเก็ต กูจะพาเมียไปฮันนีมูน) ตำรวจไทยแรงไม่แพ้ชาติใดในโลก

    “พีมไปด้วย”

    (มึงเข้าใจคำว่าฮันนีมูนมั้ยแมว)พ่อทั่วๆไปจะเรียกลูกชายว่าไอ้เสือใช่มั้ยครับ แต่ที่พ่อเรียกผมว่าแมวเพราะ เสือมันตัวใหญ่ แต่ตัวผมมันไม่อำนวยเลยลดระดับจากเสือเหลือแค่แมว เข้าใจคิดมากพ่อกู


    “เออ จำไว้ ปิดเทอมจะไม่กลับเชียงใหม่ อย่าคิดถึงก็แล้วก๊านนน”

    (กูจะสั่งจรวดไปลงร้านกาแฟอามึง ตายมันทั้งอาทั้งหลาน แล้วนี่ไอ้ปุ้ยมันไปไหน)

    “ไปสัมมนาที่กระบี่”

    (แล้วมึงอยู่บ้านกับใคร)

    “ก็อยู่คนเดียวดิ แต่เดี๋ยวจะโทรเรียกพวกไอ้คิวมานอนเป็นเพื่อน พ่ออ่ะให้พีมไปด้วย”

    (อยากแดกลูกปืนกูหรอ พูดไม่รู้เรื่อง)

    “ตลอด รักเมียมากกว่าลูก”

    (แน่นอน ลูกกูทำใหม่ตอนไหนก็ได้ แต่เมียหาใหม่ให้เหมือนเดิมยาก หึหึ)

    “ฮะๆชอบวะพ่อ แล้วเมียพ่อไปไหน”

    (เผาข้าวหลาม เก็บใบโพธิ์) แม่กูไพ่ตลอด เมียตำรวจของแท้ต้องเล่นไพ่เป็นงานอดิเรก

    “คร้าบๆบอกแม่ด้วยว่าพีมคิดถึง ยายด้วย คิดถึงพ่อด้วย ของฝากด้วยนะหนวด”

    “(เออ ตั้งใจเรียนละ ถุงยางน่ะรู้จักพกบ้าง อย่าให้ผู้หญิงเขาซื้อยาคุมฝ่ายเดียว)

    “ฮ่าๆ โห่ ระดับนี้ป้องกันเป็นอยู่แล้วพ่อ”

    (เออดี อย่าให้มันเสียชื่อกู แค่นี้แหละจะไป ส
    ..แล้ว)
    “ครับ หวัดดีครับพ่อ”
     

    ไอ้ตอนคุยกับพ่อมันก็สบายใจดีหรอกนะ แต่พอวางสายจากพระบิดาผมก็จิตตกอีกรอบ คืนนี้กูอยู่คนเดียวไม่ได้แน่ๆ โทรเรียกบรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหายมานอนเป็นเพื่อนดีกว่า
     

    รายแรกที่ผมหวังพึ่งใบบุญคือไอ้เชน แต่มันดันมาไม่ได้เพราะพรุ่งนี้มีสอบย่อย หมอก็งี้ เดี๋ยวสอบ เดี๋ยวงานไม่เป็นไรกูเข้าใจ รายที่สองไอ้ปันก็มาไม่ได้เพราะหมาบ้านข้างๆคลอดลูก เชี่ยปันแม่ง มึงเป็นพ่อหมารึไงวะถึงต้องไปอยู่เฝ้าตอนหมามันคลอดลูก ทำตัวเป็น ส
    .ส. คอยช่วยเหลือทุกข์ชาวบ้านเวลาหาเสียงไปได้


    รายที่สามไอ้คิวก็มาไม่ได้เพราะต้องช่วยน้องรหัสมันปั่นโปรเจค ผมเกือบช็อค แม่เจ้า
    !!!ไอ้คิวช่วยงานไอ้เต้ย มันจะฆ่ากันตายมั้ยวะ กว่างานจะเสร็จอาจมีการ์ดงานศพมาแจกผมถึงบ้าน ผมเลยต้องฝากความหวังอันริบรี่ไว้ที่รายสุดท้าย


     “แทนมานอนเป็นเพื่อนกูหน่อย”

    (อ้าว เป็นไรอีกมึง ไม่สบายหรอวะ)

    “เปล่า คือ กูมีเรื่องจะปรึกษาวะ เอ่อไม่ใช่ๆคือกู กูกับมึงไม่ได้เล่นเกมส์ด้วยกันนานแล้วกู กูเพิ่งซื้อแผ่นเกมส์มา
    ….”

    (พอๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมาหรอก ห่า แปปนึงนะมึง) ผมฟังเสียงกุกกักๆอยู่ซักพัก ไม่นานเสียงไอ้แทนก็ตะโกนลั่น (ฟ่าง
    !! ไอ้ฟ่างกูไปค้างบ้านพีมนะ) และผมก็ได้ยินเสียงผู้ชายอีกคนตะโกนกลับมาว่า “จะไปตายที่ไหนก็ไป”

     
                                            ………………………………………..
     
     



    “ไอ้ฟ่างไม่ว่าอะไรใช่มั้ยวะ”ผมกับแทนนั่งอยู่ระเบียงห้องของผม ในมือมีเบียร์คนละกระป๋องนิ้วคีบบุหรี่คนละมวน จิบเบียร์เคล้าบุหรี่แม่งชุ่มคอชิบหาย แถมลมเย็นๆยังหอบกลิ่นหอมของดอกโมข ดอกแก้ว ดอกลั่นทม ดอกปีบ(ทำไมบ้านผมมีหลายดอกจังวะ) สารพัดดอก เยอะจัดจากหอมๆจะกลายเป็นฉุนแล้ว


    “อือ มันจะว่าอะไรวะ กูมาหาเพื่อน”

    “ก็ไม่รู้ เห็นมันดูหวงๆมึง”พูดเอาใจมันหน่อย(ตอแหลนั่นเองครับ)

    “คึคึ จริงหรอวะ”ไอ้แทนอารมณ์ดี ยิ้มแฉ่งทันที เออวะตั้งแต่มันคบกับข้าวฟ่างเหมือนมันจะเชื่อคนง่ายแฮะ แต่จะว่าไปไอ้ฟ่างก็หวงมันจริงๆนะ ได้ข่าวว่าตามไปเฝ้าไอ้แทนถึงคณะ


    “หึ มึงรักมันมากเลยหรอแทน”

    “มาก”น้ำเสียงไอ้แทนทั้งหนักแน่นและมั่นคง

    “แล้วมึง
    …..ไม่กลัวหรอวะที่คบกับข้าวฟ่าง”ผมยกเบียร์ที่เหลือค่อนกระป๋องขึ้นจิบ

    “หึหึ กลัวอะไรวะ ฟ่างไม่ใช่งูจงอางนะมึง อาจจะมีกัดบ้างแต่มันไม่มีพิษ”


    “ฮะๆ ไอ่เชี่ย”


    ……………………..”


    ……………………..”
     

    “แทน เล่าให้กูฟังบ้างดิ ทำไมพวกมึงถึงได้คบกัน” ไอ้แทนมองผมเหมือนพยายามค้นหาคำตอบ ว่าผมเป็นเชี่ยไร ถึงได้อยากรู้เรื่องของมัน มันไม่ได้มองผมด้วยแววตาตำหนิหาว่าก้าวก่ายแต่เป็นแววตาห่วงใย เหมือนมันรู้ว่าผมกำลังไม่สบายใจเรื่องอะไรบางอย่าง แต่มันก็ไม่ได้ถาม
     
    “กูกับมันรู้จักกันตั้งแต่ม.5 ตอนงานกีฬาจตุรมิตร มันเป็นเฮดเชียร์ร่วม”

    “โห นานแล้วนี่หว่า แต่มึงเป็นนักฟุตบอลแล้วเจอกันได้ไงวะ”


    “เออ กูก็จะเล่าอยู่เนี่ย ตอนนั้นไอ้ฟ่างแม่งกวนตีน คือหน้ามันหยิ่งๆอ่ะ มองแล้วอยากเตะปากมาก”กูอยากอัดเสียงไว้จริงๆ



    “มันมาถามหาไอ้ปาล์มประธานเชียร์โรงเรียนเรา กูเลยตอบกวนมันไป แม่งเดินมาต่อยปากกูเฉยเลย มึงคิดดูนะพีม ทั้งนักกีฬาโรงเรียนเรา ไหนจะสต๊าฟที่อยู่ในห้องเกือบร้อยชีวิต แต่มันคนเดียว แม่งกล้ามาก กูก็ต่อยคืน ซัดกันปากแตกทั้งคู่ ก็เพราะเรื่องนี้แหละทำให้กูกับพวกไอ้ภูมิไม่ถูกกัน”


    ผมขำ ไอ้แทนกับไอ้ฟ่างหนักกว่าผมกับไอ้ภูมิอีก ก็อย่างว่าพวกมันเลือดร้อนทั้งคู่ เอ๊ะ แล้วกูจะเปรียบเทียบทำติ่งอะไรวะ ผมกับไอ้ภูมิไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย ผมยกเบียร์ขึ้นกระดกรวดเดียวหมดกระป๋องแก้บ้า


    “หึหึ  มึงขำไรวะ เออ หลังจากวันนั้นกูกับพวกมันก็มีเรื่องกันตลอด จนมีครั้งนึงกูไปเจอมันกับไอ้ภูมิถูกเด็กช่างรุม แม่งหมาหมู่ สิบต่อสอง กูเลยช่วย”มันหันมามองผมเหมือนจะบอกว่า มึงคงรู้นะว่าเหตุการณ์ต่อไปเป็นยังไง กูจำได้มึงโดนทัณฑ์บน
     
    “พระเอกโคตร”
     

    “ธรรมด๊า”ผมหมั่นไส้เลยยื่นตีนไปถีบเอวมัน เชี่ยแทนแม่งใส่ไข่ให้ดูดีป่ะวะ เรื่องตีเรื่องต่อยก็มีไอ้แทนไอ้คิวไอ้เชน สมัยนั้นพวกผมเกเรมากเรียกว่ารักไม่ยุ่งมุ่งแต่หาเรื่อง
     
    ส่วนไอ้ปันมันเป็นประธานนักเรียนจะไปมีเรื่องชกต่อย หึ ฝันไปเถอะ(แต่มันมีแอบไปบ้าง) ส่วนผมก็มีบางครั้งที่พวกมันไม่ไหวก็ต้องช่วย แต่ส่วนใหญ่จะถูกห้ามแหละถูกใช้ให้เป็นหน้าม้าสับขาหลอกอาจารย์ เวลาพวกมันออกนอกโรงเรียน
     
     “พวกกูก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันนั้น จนเข้ามหาลัย”โดยที่ไม่พามาให้กูรู้จักเลยนะ
     

    “มึงเริ่มชอบมันตอนไหนวะ” ไอ้แทนเขี่ยขี้บุหรี่ลงข้างล่าง ห่า ถ้าโดนดอกกล้วยไม้คุณนายปุ้ยหัวมึงหลุดจากบ่าแน่ มันหันมายิ้มให้ผมก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิด ใบหน้าหล่อๆของมันเจือไปด้วยความสุขเมื่อกำลังนึกถึงวันเวลาเกี่ยวกับข้าวฟ่าง
     

    “กูก็
    ……ไม่รู้วะ รู้ตัวอีกที แม่งก็มองแต่มัน คิดถึงแต่มัน กูเครียดมาก มึงก็รู้กูเชี่ยวผู้หญิงขนาดไหนแล้วอยู่ๆกูรู้สึกดีกับผู้ชาย แถมยังเป็นเพื่อนกันอีกต่างหาก แม่งโคตรเครียดอ่ะ มึงเข้าใจกูใช่มั้ยพีม” อือ กูเข้าใจมึง เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋เลย อารมณ์นี้แหละที่กูกำลังอยากเตะมันออกจากสมอง

    “อืม”

    “ฟ่างมันเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน แต่พี่น้องบ้านนี้แม่งก็เป็นโรคนี้กันทั้งบ้าน”งั้นก็รวมไอ้ภูมิด้วยสินะ

    ……..........……”

     “กูรู้ว่ามันไม่ได้ชอบผู้ชาย กูก็ไม่ได้ชอบนะเว้ย ชอบแค่มันคนเดียว ไอ้ฟ่างมันเจ้าชู้ คั่วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ก็แม่งหล่อนี่หว่า ไม่แปลกหรอก”

    “เหมือนมึงทุกประการ”

    “กูหล่อหรอพีม ทำไมฟ่างชอบด่ากูว่าหน้าปลาบู่วะ” ถ้ามึงหน้าปลาบู่แล้วกูละ ไอ้แทนขมวดคิ้ว ทำหน้าขัดใจสงสัยเหมือนเด็ก

    “เออ ก็เหมือนอยู่วะ ฮะๆ”

    “เชี่ย ถึงไหนแล้ววะ เออ ก็อย่างที่บอก กูไม่รู้ว่ารักมันตอนไหน เคยเล่นด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน เมาด้วยกัน”

    “เอากันเอง”

    “สัด กูไม่เล่าแล้ว”

    “ฮะๆ เออ เล่าต่อๆ”


     “มึงจำได้มั้ย มีอยู่พักนึงที่กูชอบกอดชอบซบมึง เพราะกูสับสน กูเริ่มรู้ตัวว่าชอบมัน กูเลยลองพิสูจน์ดูว่ากูชอบผู้ชายรึเปล่า กูต้องกินยานอนหลับเลยนะเว้ยช่วงนั้น ปรึกษาใครก็ไม่ได้ จะบอกพวกมึงก็ไม่กล้าอีก ก็ช่วงที่มึงทักว่ากูดูโทรมๆ”
     
    ผมตบหัวไอ้แทนเต็มๆฝ่ามือ คำว่ายานอนหลับทำหัวใจผมแกว่ง มีสมองเอ็นฯติดตั้งวิศวะแค่ชอบผู้ชายเสือกคิดอยากตาย
     

    “มึงเอากูเป็นหนูทดลอง ไอ่สัด”

    “ฮ่าๆก็กูไม่รู้จะทำยังไงนี่หว่า แต่มันก็ทำให้กูรู้ล่ะนะว่า สะอิดสะเอียนมันเป็นยังไง”ลุกขึ้นกระทืบไอ้แทนไส้แตก ต้องติดคุกมั้ยครับ


    “แล้วทำไมมึงถึงกล้าบอกมัน ไม่กลัวเสียเพื่อนรึไงวะ”

    “นั่นแหละสิ่งที่กูกลัวที่สุด แต่ทำไงได้วะ ยิ่งนับวันกูก็ยิ่งห่วงยิ่งหวงมัน เห็นมันควงผู้หญิงไปกินข้าวดูหนัง
    กูอยากจะกระชากหนังหัวหลุดแม่งทั้งคู่” โอ้ววโหด


    “มึงเลยปล้ำมันว่างั้น”


    “ไอ้ฟายย ไม่ใช่โว๊ย กูก็บอกแม่งตรงๆเลย”แมนได้อีก กูทำมั่ง


    “แล้วเป็นไงวะ”



    “โดนมันชกเลือดกบปาก แต่ก็คุ้ม เพราะกูจูบมันคืน” พิศาล อัครเศรณีมากๆ ชกจูบๆ “แล้วที่ทำให้กูรู้ว่าความสุข แม่งหน้าตาเป็นยังไง ก็ตอนที่มันตะโกนใส่หน้ากูว่า “ไอ้เหี้ยแทนกว่าจะพูดได้นะมึง สัดเอ๊ย” ฮ่าๆมันก็ใจตรงกับกูวะ หน้ามันตอนนั้นกูยังจำได้ติดตาเลย แม่งโคตรขำ” หวังว่าผมคงไม่โดนไอ้ภูมิชกหน้าหงายกลับมานะ


    “แล้ว แล้วมึงรู้ได้ไงว่าใคร เอ่อ กูหมายถึง”

    “ใครผัว ใครเมียนะเหรอ หึหึ ของแบบนี้มันอยู่ที่ชั่วโมงบินเว้ยสัด ที่ผ่านมากูยอมรับนะว่าบางครั้งกูใช้
    เซกส์ระบายอารมณ์ เอามันส์ฟันสนุกๆ แต่กับไอ้ฟ่างมันไม่ใช่วะ ถึงจะตกลงคบกันเป็นแฟนแต่กูแทบไม่กล้าแตะมันด้วยซ้ำ”

    “ทำไม กลัวเจอตีน”

    “เชี่ยพีม กูอยากถนอมมันเว้ย ไม่รู้วะ คือไม่ต้องมีอะไรกัน แค่ได้อยู่ด้วยกัน แค่เห็นหน้ามันทุกวันกูก็มีความสุขแล้ว แต่ครั้งแรกของกูกับมัน
    …. มึงอย่าเล่าต่อนะเว้ย กูไม่เคยบอกใครเลยนะพีม”

    “เออน่า” ผมไขว้นิ้วไว้ข้างหลังเรียบร้อยแล้วครับ

    “หึหึ  ไอ่ฟ่างมันคิดว่ามันจะล้มกู ฮะๆ กูกับมันก็โชกโชนมาเยอะใช่มั้ยละมึง แต่ของจริงคือกูครับ มันก็เสร็จไปตามระเบียบ เช้ามาแม่งโวยวายเขวี้ยงโทรศัพท์กูเละ เห็นหล่อๆแบบนั้นแต่เวลาอยู่กับกูน่ารักจะตาย”


    เห็นไอ้แทนยิ้มกว้าง ตามันทอประกายความสุข ผมก็ยิ้มตาม


    “ดีใจด้วยวะมึง”

    “อืมขอบใจ แล้วมึงละ เมื่อไรวะ ไอ้คิวบอกกูว่ามีสาวตามส่งขนมหรอสัด งุบงิบนะมึง”

    “สาวไหน ไม่มีเหอะ เชี่ยคิวแม่งใส่ไฟกู”

    “เออ แล้วมึงจะบอกกูได้รึยัง ว่าเครียดเรื่องอะไร บอกตรงๆหน้ามึงเวลาอมทุกข์โคตรอุบาทวะพีม”ผมถอนหายใจยาว แล้วแหงนหน้ามองฟ้า ว่ากันว่าคนที่ชอบมองท้องฟ้าเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี แต่ผมตอนนี้เพราะไม่รู้จะมองอะไรดีก็เลยได้แต่มองท้องฟ้า


    “แทน กูรู้สึกว่าชีวิตกูมันกลวงๆวะ มันไม่มีอะไร มันว่างเปล่า ไม่มีความสุข” ไอ้แทนวางกระป๋องเบียร์ลงก่อนจะยัดก้นบุหรี่ลงในกระป๋อง มันหันมามองหน้าผมพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ


    “มึงรู้อะไรมั้ยพีมว่าบนโลกนี้ คนที่ชอบพูดว่าไม่มีความสุขมีอยู่สองพวก คือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกับคนที่ไม่ทำตามความต้องการของตัวเอง ส่วนมึงก็จัดเองแล้วกันว่าอยู่พวกไหน”


    ……………………………”ผมนั่งคิดตามคำพูดของไอ้แทน สิ่งที่ต้องการงั้นเหรอ


    ……………………………”
     

    “พีม”

    “อืม ไรวะ”

    “พร้อมเมื่อไรก็บอกกูนะเพื่อน”มันตบไหล่ผมเบาๆ มันทำให้ผมรู้สึกดีจนยิ้มกลับไปให้มันได้



    “อื้อ ขอบคุณเด้อบักแทน ฮ่าฮ่า” ผมกับมันคุยเล่นเรื่องบ้าบอไปเรื่อย แถมโทรไปแกล้งไอ้เชนอีก โดนมันด่ากลับ หาว่าแดกเบียร์ไม่ชวน ศุกร์นี้เลยขอจัดปาตี้เล็กๆที่บ้านผม ซึ่งก็เซย์เยสเรียบร้อยเพราะสัญญากับหมาคิวไว้เหมือนกันเดี๋ยวมันจะลงแดงตายซะก่อน
     
    เข็มนาฬิกาบอกเวลาเกือบตีหนึ่ง ผมกับไอ้แทนช่วยกันเก็บซากกระป๋องเบียร์ไปซุกไว้มุมห้อง ก่อนจะปีนขึ้นเตียงปิดไฟแล้วหลับเป็นตายทั้งคู่


    คืนนี้ที่ดาวไม่เต็มฟ้า คืนที่แสงจันทร์แพ้แสงไฟในเมืองใหญ่ ผมมีเพื่อนดีๆนอนอยู่ข้างๆ ผมไม่อ้างว้าง ไม่เหงา ไม่เดียวดาย ขอบคุณวะแทน กูรู้แล้วว่ากูต้องการอะไร และกูก็จะทำอย่างที่ใจกูต้องการ
     


    รอกูก่อนเถอะมึง ไอ้ภูมิ
     
     

     
    …………………………………………………………
     
     


    และแล้ววันศุกร์ที่รอคอยก็เดินทางมาถึงครับ แถมวันนี้มีนัดชุมนุมใหญ่(ระวังๆคำพูดด้วยนะ กำกวมนะเรา)พวกผมจัดปาตี้ย่อมๆกลางสนามหญ้าหน้าบ้าน เพราะคุณนายปุ้ยมีโปรแกรมทัวร์เกาะพีพีต่อ อีกสามวันถึงจะกลับ เราเลยทำการยึดสนามซะเลย คาดว่าพรุ่งนี้เช้าหญ้าอาจตายหมดครับ
     
    ที่สำคัญวันนี้ไอ้แทนยังหอบไอ้ฟ่าง ไอ้ภูมิ ไอ้มิค ไอ้เบียร์มาด้วยและที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือน้องรักของผมก็มาครับ ไอ้เต้ย งานนี้เลยมีแต่เหล้างดเคล้านารี และค่ำคืนนี้ก็เป็นมหกรรมแห่งการฉลอง เริ่มที่ไอ้คิวฉลองความโสด ไม่โสดก็เหมือนโสดแหละมึง เชี่ยคิว


     ไอ้ปันฉลองที่มันเป็นดีเจครบร้อยวัน ทำไมฟังดูทะแม่งๆวะ เหมือนทำบุญครบรอบร้อยวันหลังฌาปนกิจศพเลยวะ  ไอ้ปันมันเป็นดีเจของมหาลัยครับ แต่ผมว่ามันไม่เหมือนจัดรายการเพลงเท่าไร เหมือนมันปราศรัยชวนเพื่อนๆนิสิตไปเดินขบวนเสียมากกว่า


    ส่วนไอ้เชนฉลองให้กับการสอบย่อยที่ผ่านไปแบบชวนอ้วก ก็นะเรียนหมอ(ฟัน)ต้องทำใจ ไอ้เบียร์มันฉลองให้กับความโง่ที่ทำโทรศัพท์หายเป็นเครื่องที่สองของต้นเดือน  สมควรไปกินแบรนด์ แล้วที่กูถ่อเอาไปคืนมึงมันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย


    ไอ้มิคฉลองให้กับความเสล่อที่ไปจีบเมียชาวบ้าน แถมแฟนของเธอคนนั้นยังเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก งานนี้ไอ้มิคโดนพวกไอ้แทนยำสะใจไปหลายอยู่
     

    ส่วนไอ้แทนกับไอ้ฟ่างฉลองลูกรักตัวใหม่ ไอ้ฟ่างไม่ได้ท้องแต่อย่างใด(ถ้ามันท้องได้กูก็ลาบวชละครับ) ไอ้แทนมันไปซื้อปลาหมอสีตัวใหม่มา หลังจากตัวเก่าตายได้สามวัน
    สาเหตุการตายนั้นเนื่องมาจากการทะเลาะกัน แล้วฟ่างมันขว้างโทรศัพท์ไปโดนตู้ปลาแตก ถ้าตู้ปลาไม่แตกคาดว่าน่าจะเป็นหัวไอ้แทนที่แตกเลือดอาบ ได้ข่าวว่าข้าวฟ่างตามง้อไอ้แทนสามวันเต็มๆเพราะแทนมันโกรธจนไม่คุยด้วย
     

     ส่วนผมไม่ได้ฉลองอะไรกับเขาหรอก แค่กินย้อมใจให้กล้าพูดอะไรบางอย่าง(ที่พวกคุณๆเชียร์กันนั่นแหละครับ) และตั้งแต่เห็นไอ้ภูมิเดินแบกหน้าหล่อๆเข้ามาในบ้าน ผมก็อยากได้ผ้าคลุมล่องหนมาคลุมตัวแล้วแอบไปทุบหัวมันลากเข้าห้อง เฮ้ย ไม่ใช่ครับ ตลกแระๆ

    ผมแค่อยากแอบมองหน้ามันโดยที่มันไม่เห็นหน้าผมแค่นั้นเอง ก็คนมั่นสั่นนี่หว่า แต่ไม่ว่ายังไงซะวันนี้ ไอ้พีมจะเล่นของสูงโว๊ยยย(แม่งสูงจริง ร้อยแปดสิบห้าแปดสิบหกได้มั้งมันน่ะ)
    ถ้ามันใจตรงกับผมคงดีเนอะ แต่ถ้าไม่ ก็อาศัยความเมานี่แหละบังหน้ามันจะได้ไม่ถือสาหาความ
     


    สู้ตายโว๊ยยยย
     
     
                    
                        …………………………………………………….
     
     



    ช่วงนี้เป็นช่วงรำลึกความหลังในวงเหล้าของพวกไอ้ฟ่างกับเชี่ยเต้ย จำกันได้ใช่มั้ยครับที่ไอ้เต้ยมันเป็นรุ่นน้องโรงเรียนเก่าพวกไอ้ฟ่าง และจากที่ฟังๆมาพวกมันสนิทกันมากเพราะอยู่ชมรมบาสด้วยกัน
     

    แถมไอ้เต้ยมันยังเป็นเด็กสร้างไอ้ภูมิอีกต่างหาก มิน่า ลีลากวนตีนมันคุ้นๆอาจารย์ดีนี่เองเรียกว่างานนี้เป็นการพบเจอกันของพี่ชายน้องชายที่พรัดพรากจากกันไปหลายปี
     

    “กูไม่รู้ว่ามึงเอ็นฯเข้าที่นี่ ไหนมึงบอกจะไปเรียนต่อที่ออสเตรียไง”ไอ้ฟ่างยังคงไม่ห่างน้องรักมันไปไหน
     

    “ถ้าพวกเฮียสนใจเต้ย เอาใจใส่เต้ย ติดต่อเต้ย เฮียก็คงรู้” ไอ้เต้ยมันทำแก้มป่องๆหลับตาปริบๆ วอนโดนตีนไอ้ฟ่างมาก
     

    “อ้าว ไอ้นี่ กูติดต่อมึงแล้วเหอะ แต่แม่งหมาที่ไหนมันเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนเมลล์วะ” ไอ้ฟ่างเริ่มฉะ
     

    “เออ มึงอย่ามาโทษพวกกู ไอ้ภูมิเคยไปหามึงที่บ้านก็ไม่เจอ” ไอ้เบียร์จี้ต่อ
     

     “จริงดิเฮีย โคตรประเสริฐอ่ะ รักเฮียภูมิวะ” ไอ้เต้ยมันออเซาะเข้าไปบีบๆนวดๆไอ้ภูมิ เมื่อกี้มันยังเกาะไอ้เบียร์หนึบที่ช่วยเล่นไพ่อยู่เลย เปลี่ยนสีเร็วนักนะมึงไอ้เด็กเวร
     
    “แล้วมึงเรียนอะไร”ไอ้ภูมิถามน้องมัน

    “ศิลปกรรมเอกจิตรกรรม รับกรรมเป็นน้องรหัสพี่คิว”

    “เชี่ย พอแบคเยอะ ก็ปากดีนะมึง” ไอ้คิวปาเฟรนซ์ฟรายใส่หัวไอ้เต้ย แต่มันหลบได้แถมหัวเราะสะใจใส่หน้าไอ้คิว ไอ้เต้ยคลานวนชนแก้วพี่ๆทุกคนจนครบ เป็นอันจบช่วงรำลึกความหลังวัยขาสั้นคอซอง แต่มาคิดๆดูแล้วมันก็เป็นเรื่องน่ารักดีนะครับ ที่ไอ้เต้ยเคยเป็นรุ่นน้องไอ้ภูมิ


    แต่ตอนนี้มันกลายมาเป็นรุ่นน้องผม แต่พวกมันก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง ผมรับรู้ได้ถึงความรักความเอ็นดูที่พวกไอ้ฟ่างมีให้ไอ้เต้ย ก็คงจะเหมือนพวกผม ถึงเชี่ยเต้ยมันจะกวนตีน ขี้วีนเหมือนเด็กแต่ถ้ามีมันก็มักจะมีแต่ความสดใสและเสียงหัวเราะ เพราะมันคือน้องชายคนหนึ่งของพวกเรา
     
    และในตอนนี้แม้พวกผมจะยังไม่ดัง แต่แยกวงกันแล้วครับ หนึ่งวงเหล้า สองวงไพ่โดยมี ไอ้ฟ่าง ไอ้เต้ย ไอ้มิค ไอ้เชนกำลังตีป๊อกเด้งกันมันส์กระจาย เสียงไอ้เต้ยโวยวายมาเป็นระยะๆหาว่าถูกเฮียๆรุมโกง ตาละสองบาทมันจะโวยวายอะไรนักหนา
     


    ส่วนวงเหล้าของผมกำลังกึ่มได้ที่


    “มึงไปตายอด ตายอยากมาจากไหนพีม” ไอ้คิวมันด่าพร้อมใช้หางตามองผม


    “หึหึ ทำไมวะ มึงหวงเหล้าหรอสัด”


    “เออ กูขี้เกียจออกไปซื้อ”

    “กูเอามาเยอะ มึงจะอาบสามวันสามคืนก็ไม่หมด แดกไปๆ ไม่ต้องสนใจไอ้พีม” เพื่อนแทนรู้ใจวะ
    ชงมาเพื่อนชงมา กูจะได้รีบเมารีบทำการใหญ่ให้มันเสร็จๆ ดูสิเด็กกูนั่งหล่อมองกูตาปริบๆเชียว เอิ๊กๆ เมาแล้วกู
     
     ไอ้คิวขึ้นไปเอากีต้าร์บนห้องผมมาเล่น ไอ้ปันมันไปได้จานสังกะสีมาจากไหนไม่รู้เคาะเป็นดนตรีประกอบแต่โดนไอ้ฟ่างถีบกระเด็นออกมาเพราะมันรำคาญ บอกว่าแฟนกูตีเพราะกว่ามึง ไอ้แทนแทบลอย
     
    พวกที่เล่นไพ่กลับมารวมตัวเป็นวงเดียวกันในวงเหล้าอีกครั้ง บรรยากาศเลยโคตรกุ๊ยชิบหาย เมื่อกี้ไอ้เต้ยมันไปซื้อข้าวเหนียวส้มตำมา เชี่ย มึงกินส้มตำกับเหล้า เดี๋ยวได้อ้วก


    แถมเพลงที่ร้องแต่ละเพลง บัวลอยเอย แม่สายเอย
    ลูกเทวดาก็มี คนบ้านเดียวกันก็มา มีไอ้ภูมิกับไอ้เบียร์ที่ทำหน้างง แต่นอกนั้นแทบลุกขึ้นถอดเสื้อแกว่ง
     


    ยิ่งดึกพวกผมยิ่งบ้า หมูกระทะก็สุกบ้างไม่สุกบ้าง ทำเป็นหลอกตัวเองบ้างว่ามันสุก ทำเป็นมองไม่เห็นก็กินแม่งเลยเหอะ ผมกรอกเหล้าเหมือนเป็นแฟนต้า กูอยากเมาเร็วๆแต่เสือกคอแข็งซะงั้น ผมเห็นหน้าไอ้ภูมิแล้วคันปาก
     

    แต่ถ้าผมไม่ได้เมาจนมึน ผมรู้สึกว่าวันนี้ไอ้ภูมิก็มองผมบ่อยๆ ที่ผมรู้เพราะผมก็มองมันบ่อยเหมือนกัน
    ฮ่าๆๆ เรียกว่าแอบส่งสายตาให้กันว่างั้นเถอะครับ
     
    และตอนนี้ผมคิดว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว กูเมาแล้ว เต็มที่แล้ว ได้เวลามิชชั่นพอสสิเบิ้ล
     

    “พวกมึง กูมีเรื่องจะบอก
    !!!” ผมตะโกนแทรกกลางปล้องขึ้นมา จนไอ้คิวเลิกหาเศษขนมจีนในจานส้มตำ ไอ้มิคก็เลิกเอาตะเกียบเคาะขวดโซดา และทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่ผมรวมทั้งไอ้ภูมิ เอ่อ  เงียบมาก เงียบไปมั้ย มีแค่เสียงหัวใจของผมที่เต้นรัว ตึก ตึก และเสียงร้องของแมลงอะไรซักอย่างดัง อิ๊ด อิ๊ด

    “เอ่อ
    …. กู กู……..

    “อะไร๊ จะพูดอะไรก็พูดๆมา” ไอ้เชนมองผมเคืองๆมันคงหงุดหงิดที่โดนขัดเวลาสนุก ส่วนผมยังคงมองไอ้ภูมิและมันก็มองผมอยู่เหมือนกัน

     “กู
    …… ขออีกแก้ว” แม่งเอาเข้าจริงไม่กล้าวะ ขอไปบอกมันหลังไมค์สองต่อสองดีกว่า

    “เชี่ยพีม แม่งพูดซะพวกกูหลงให้ความสนใจ เอาแก้วมา”
    โทษฐานของความป๊อดเลยถูกไอ้ปันตบหัวจนหน้าทิ่ม ที่บังอาจขัดเวลาเคาะจานของมัน เฮอะ มึงเคาะไม่ตรงจังหวะมาตั้งแต่เพลงแรกแล้วปัน




    แล้วบรรยากาศวงเหล้ากุ๊ยก็กลับมาอีกหน คราวนี้บ้าหนักกว่าเดิมครับ เพราะเชี่ยเต้ยแอบเอาสี่สิบดีกรีรินใส่แก้วเฮียๆทุกคน หน้าตาฐานะก็ดีแต่แดกสี่สิบดีกรีกันหน้าตาเฉย
     
    นี่แหละครับมันถึงจะเรียกว่าจิตวิญญาณที่แท้จริงของชายไทย สาเกเป็นเหล้าประจำชาติญี่ปุ่น เหล้าแคมปารีของอิตาลี โซจูของเกาหลี พี่ไทยเราก็มีสี่สิบดีกรีน้ำบริสุทธิ์จากรวงข้าว กูจะผลักดันให้เหล้าขาวเป็นเหล้าประจำชาติไทยโว๊ยย แม่งขมบาดคอดีชิบหาย
     

    “พวกมึง!!! กูก็มีเรื่องจะบอก” อยู่ๆไอ้ภูมิก็พูดขึ้น ก๊อปคำพูดผมซะด้วย แต่ไม่เป็นไรครับคนเรามันคิดคล้ายๆกันได้ แหม๊ ยามรักเข้าตาอะไรก็ว่าดีไปหมด เพราะสำหรับพี่พีม น้องภูมิถูกเสมอนะครับ คึคึ


    หน้าไอ้ภูมิชักเลือนลาง แต่ผมว่ามันไม่เมานะ เห็นกินนิดเดียว คงเป็นผมนี่แหละที่ตาลาย ผมงัดตัวเองขึ้นมาจากพื้น มานั่งโคลงเคลง นั่งสะอึก เพ่งมองหน้าน้องภูมิ หึหึ สงสัยจะเมาจริงๆแล้วกู อยากอ้วกชิบ จะไม่อ้วกได้ไง ทั้งเหล้านอก เหล้าไทย ไหนจะเบียร์ เมื่อกี้ถูกไอ้มิคเอายาดองกรอกอีก (มันไปเอามาจากไหนวะ)
     

     ตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังพุ่งไปที่เป้าไอ้ภูมิ
    เฮ้ย ไม่ใช่ๆ พุ่งเป้าไปที่ไอ้ภูมิต่างหาก ผมยังสะอึกไม่หาย โงนเงนจะล้มแหล่มิล้มแหล่
     

    “ไอ้นี่ก็อีกคน อารายยยอีกวะ” ไอ้ฟ่างขมวดคิ้วจ้องหน้าน้องชายมัน แต่เสียงไอ้ฟ่างไปแล้วครับ นั่งคอพับคออ่อน เมื่อกี้ยังแหกปากหนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือกับไอ้แทนอยู่เลย เชี่ยแทนโคตรแรดแอ๊บเป็นสาวนาข้าวดัดเสียงซะ
     

    ภูมิมันมองเพื่อนทีละคนเหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ก่อนจะมาหยุดสายตาไว้ที่หน้าผม เล่นเอากูเกือบหายมึนหัวมีแต่หัวใจที่เต้นตุ๊มๆต๊อมๆ
    ฮิ้วววว กูหยอดบ่อยขนาดนี้มึงจะรู้ตัวมั้ยวะ


    แต่ก็ยังเงียบ และเงียบ เงียบกว่าตอนผมอีก มีแค่เสียงแมลงร้อง อิ๊ด อิ๊ด แม่งใช่ไอ้ตัวเดิมมั้ยวะ ไม่ไปหลับไปนอนหรอมึง มาฟังคนเมาคุยกันอยู่ได้ กูจับมาย่างไฟเลยสัด(อาการหนัก เริ่มทะเลาะกับแมลงแล้วครับ)


    “พีม”


    “หะ หืม มี... มีรายคร้าบบ” ลิ้นอ่อนพูดเพราะเชียวกู ผมถึงกับติดอ่าง(จริงๆเมา ลิ้นพันกัน) อยู่ๆมันก็เรียกชื่อผมแล้วจ้องหน้าผมเขม็ง จะเปิดเผยตำแหน่งเบ๊กูหรอ อย่าเพิ่งๆให้กูบอกบางอย่างกับมึงก๊อนนนน


    ทุกคนใจจดใจจ่อรอฟังคำพูดจากปากไอ้ภูมิ ส่วนผมทั้งลุ้นทั้งรอ เรียกแล้วก็พูดดิเฮ้ย หัวกูจะทิ่มแล้วภูมิ




    “ว่าไงมึง มีราย”
     
     
     


     
    “กู  ชอบ  มึง”




    “ห๊า!!!!!!



    สั้น  กระชับ  ได้ใจความ




    มึง ชอบ กู ?



    พระเจ้า!!!!!!!!!!!!!!!!!



    OoO!!!!


    > < 


    :o!!!!!!!!!!!


    -o-



    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     
     
    เหมือนถูกไม้หน้าสามฟาดแสกกลางกบาลสามทีติด ผมสร่างเมาทันที ไอ้คิวนิ่งค้างปล่อยปูนาลงไปอยู่ในจานส้มตำตามเดิม ไอ้เชนทั้งหยิกแขนทั้งดึงผมตัวเอง ส่วนไอ้ปันกับไอ้มิคจับมือกันนอนตายหงายท้องขาชี้ฟ้าลงไปนอนมองดาว ไอ้เบียร์คุกเข่าคำนับผมเหมือนคนจีนคารวะศาลเจ้า
     
    ไอ้แทนเทเหล้าในแก้วใส่มือแล้วเอามาลูบหน้า ส่วนไอ้เต้ยมันคลานเข้าไปดมฟุดฟิดตามตัวไอ้ภูมิ เหมือนหาความผิดปกติ และไอ้ฟ่างที่กำลังพยายามเขย่าตัวผมอยู่
     
    ผมเอาสติที่วิ่งไปตีลังกาหลังอยู่ตุรกีกลับมาไว้กับตัว ผมจ้องตาไอ้ภูมิแน่วแน่ ความรู้สึกตอนนี้แม่งยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งก็ไม่ปาน รูปคดีอาจจะพลิกนิดหน่อยเพราะผมไม่ได้เป็นฝ่ายบอกแต่คนที่ได้ผลประโยชน์เต็มๆคือกูเองครับ  ทุกคนหันกลับมามองผมเหมือนอยากจะถามว่า มึงยังไม่ตายใช่มั้ยพีม 
     

    ผมพยายามใช้ความสงบสยบความดีใจที่อยากตะโกนชื่อไอ้ภูมิให้ดังๆให้มันดังไปถึงสี่แยกราชประสงค์ แต่กูต้องนิ่งไว้


    ภูมิเองก็มองผมนิ่งเช่นกัน มันไม่กระพริบตาแม้แต่นิด แม้หน้ามันจะนิ่งแต่แววตามันบอกผมว่ากำลังกังวนกำลังลุ้นและกลัว เหมือนมันกำลังรอคำสั่งศาล ว่าจะถูกประหารหรือปล่อยตัว แต่เสียใจนะพวก กูปล่อยมึงไปไม่ได้จริงๆวะ



     
    “ภูมิ”



     
    “อือ”


     
    “มึงชอบกูจริงๆหรอวะ”
     


    “อือ ชอบ”


     
    “ถ้ามึงชอบกูจริง ก็จีบกูให้ได้แล้วกัน”
     
     




    TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
     





     
    ………………………………………..
     
     



    Talk: แอร๊ยยยยย สะใจๆๆๆ ผิดคาดกันมั้ยคะ ชอบก็จีบเลยชอบก็จีบเลยเซ่ กร๊ากกก เพลงน้องริทช่างเข้ากับนิยายของพี่อะไรเช่นนี้ ผ่านไปเป็นสิบตอนไอ้น้องภูมิเพิ่งทำในสิ่งที่พระเอกพึงกระทำคะ หึ ต่อไปก็ต้องลุ้นและเอาใจช่วยภูมิกันนะจ๊ะว่าจะจีบคนที่ชอบ(ตัวเอง)ยังไง แถมตอนนี้ยังได้เห็นเบื้องหลังของแทนกับฟ่างด้วย คู่นี้ก็รุนแรงไม่แพ้กัน ฟ่างมันโหดนี่เนอะ

    ปล
    1ขอบคุณทุกๆคอมเม้นนะจ๊ะ ขอบพระคุณจริงๆทั้งที่ให้กำลังใจและให้คำแนะนำ(กราบลงงามๆกลาง-อก) หลังๆมานี่คอมเม้นชักจะยาวกว่านิยายแล้ว ฮ่าๆ เอาไว้จะตอบคอมเม้นตอนที่พีมกับภูมิเค้าอิ๊อ๊ะจิ๊จ๊ะจุ๊กกรู๊ว กันแล้วนะคะ


    ปล
    2ไม่ต้องตกใจนะคะที่ลงฟิคถี่ยิบ อิชั้นไม่ได้คึกเมายาแดงอะไรทั้งสิ้นคะ แค่วันนี้รู้สึกดี สงสัยคงเป็นวันดีๆละมั้ง  หึหึ เลยอยากให้ของขวัญสมนาคุณแก่ท่านผู้อ่านคะ (ดีใจกันไปเถอะจ๊ะตัวเทอทั้งหลาย เพราะมันจะไม่มีแบบนี้บ่อยๆ กร๊ากกกก) เพราะของเจ้ใกล้หมดสต๊อกแล้วเด้อ ฮ่าๆๆ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×