ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {yaoi} with you รัก ต้อง ห้าม [Boy's Love]

    ลำดับตอนที่ #1 : บันทึกรัก:ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 57


    บทที่ 1

    ณ โบสถ์แห่งหนึ่ง

    ว่าที่คู่สามีภรรยากำลังสวมแหวนต่อหน้าบาตรหลวงและพยานหลายคนว่าตอนนี้ทั้งสองเป็น สามี-ภรรยา ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาแล้ว เมื่อฝ่ายชายสวมเสร็จ ก็เป็นฝ่าหญิงต่อ พิธีดำเนินมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็จบพิธีในโบสถ์ ทั้งคู่จึงเดินออกมาข้างนอก เพื่อจะทำพีอย่างสุดท้าย นั้นคือการโยนช่อดอกไม้ เพื่อหาเจ้าสาวคนต่อไป


    “ทางนี้ ทางนี้” เหล่าสาวโสดร้องเรียกช่อดอกไม้จากเพื่อนเจ้าสาว เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้แต่งงานเป็นคนต่อไป

    “จะโยนแล้วนะ!!” เจ้าสาวพูดให้รู้ ก่อนจะโดนช่อดอกไม้ไปในที่สุด

     

    Chanyeon part’

    ตอนนี้ผมรีบสุดชีวิต! มันไม่ทันแล้วครับ เพราะคลาสเรียนวิชาเคมีแท้ๆที่ทำให้ผมสายได้ขนาดนี้ ผมรีบวิ่งมาพร้อมกล้องคู่ใจ เพื่อที่จะไปถ่ายรูปให้คู่แต่งงานของหลานคุณพ่อของผม

    “ทางนี้ ทางนี้” เสียงของเหล่าสาวๆในงานดังขึ้น มันทำให้รู้ว่าผมมาไม่ทันแล้ว หลังจากนี้คงจะโดนพ่อเทศน์อีกยาวเลยสินะ!

     

    และนั้นมันคือสาเหตุที่ทำให้ผมอยากแยกออกไปอยู่ที่อื่น ตระกูลของพ่อผมเป็นตระกูลหมอ ตั้งแต่คุณปู่ของผม ลูกหลานของท่านแต่ละคนก็เป็นหมอหมด รวมจึงเจ้าบ่าวของงานนี้ด้วย เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของผม และยังเป็นลูกชายของลูกคนโตของปู่ผมอีกด้วย แน่นอนว่าพี่เขาย่อมมีอายุมากกว่าผม

     

    ส่วนผมคือลูกชายของลูกคนเล็กของบ้าน ถึงแม้พ่อผมจะเป็นหมออย่างที่คุณปู่หวัง แต่แม่ของผมเป็นคนที่รักดอกไม้ ไม่สนใจงานด้านวิชาการเหมือนลูกสะใภ้คนอื่นๆ พ่อที่รักแม่และไม่สามารถที่จะเกลียดแม่ได้ลงเลยโยนความผิดของแม่มาที่ผมทั้งหมด

    ตอนนี้ผมเกือบจะเป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการอยู่แล้ว

     

    ปู่ผมมีลูกทั้งหมด 6คน เป็นชาย 5 และหญิง 1 แน่นอนว่าคุณอาหญิงย่อมมีชะตากรรมเช่นผม เพราะท่านไม่ได้เกิดมาเป็นลูกผู้ชายอย่างที่คุณปู่หวัง ท่านเลยโดนเมินเช่นกัน ส่วนคุณสมบัติของลูกสะใภ้ในตระกูลของผมนั้นคือ ผู้หญิงที่ใส่ใจวิชาการ  อาสะใภ้ส่วนใหญ่จะทำงานที่ใช้ความคิดเยอะๆ หรือจบสายวิทย์-คณิตซะส่วนใหญ่ บางคนทำงานเป็นนักวิชาการ เป็นอาจารย์ เป็นนางพยาบาล หรือไม่ก็เป็นหมอไปเลย ทำให้แม่ผมกลายเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกเมิน

     

    ตึก!!หมับ!!


    ในขณะที่ผมกำลังยืนนึกความหลังที่หน้าอัศจรรย์ของตระกูลผม จู่ๆก็มีช่อดอกไม้ลอยไกลมาหาผม ผมจึงรีบรับมันเอาไว้

    “โหยย.. เซ็งเลยอ่า..” เสียงของเหล่าผู้หญิงพูดขึ้นด้วยความเซ็ง นั้นอาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนรับช่อดอกไม้แห่งความหวังว่าจะได้แต่งงานของพวกเธอก็ได้

     

    เฮ้อ~ แต่เด็กอย่างผมจะไปแต่งงานกับใครล่ะ? ฟงแฟนอะไรก็ไม่มี คนก็ไม่สนใจ เพราะฉนั้นไม่ต้องนึกถึงสาวๆที่ไหนเลย ถึงมีก็ต้องโดนสั่งห้ามแน่ หากเธอไม่ใช่หญิงสาวตามสเป็กของคนในตระกูล ชีวิตผมนี่ช่างหน้าเวทนาจริงๆ

    “เลโอ..” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังทำเอาผมเกือบสดุ้ง เพราะมันคือเสียงของพ่อผู้บังเกิดเกล้าของผมไงล่ะครับ

    “ครับพ่อ” ผมหันไปขานรับ

    “ทำไมแกมาเอาป่านี้ห๊ะ!!

    “คือ.. ผมเพิ่งจบคราสวิชาเคมีหน่ะครับ”

    “ดี.. งั้นไปคุยกับแม่แกซะ!!” พ่อพูดอย่างนี้อีกแล้ว โดนดุอีกครั้งแล้วเรา

     

    นี่ไม่ว่าผมทำอะไรก็ผิดทั้งหมดเลยใช่ไหมโดนเรียนมาก็ด่า ไม่โดนก็โดนด่าอยู่ดี แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ! ทำไมผมต้องเกิดมาเป็นลูกของตระกูลนี่ด้วย!!

    “เลโอ” เสียงแม่เรียกผม เมื่อเห็นผมเดินผ่าน ตอนนี้ท่านนั่งอยู่ในโบสถ์ ผมเดินไปเข้าไปหาท่าน ก่อนจะยกมือไหว้และนั่งลงข้างๆ

    “ผมทำอะไรผิดเหรอครับแม่” ผมถามแม่ไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของตัวเอง

    “ไม่จ๊ะ! ลูกไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” แม่พูดพลางใช้มือลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มบางๆมาให้

    “ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เราหนีไปอยู่อเมริกาด้วยกันนะครับ! ไปอยู่กับคุณป้านาเดียก็ได้นะครับแม่ ผมไม่อยากอยู่แล้ว” ผมขอร้องผู้เป็นแม่

     

    ความจริงแล้วแม่ผมเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกา ท่านชื่อ แคทลียา สำหรับผมแล้วท่านคือผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก

     

    “ไม่ได้หรอกจ๊ะ เราจะไปกวนป้ามากกว่านี้ไม่ได้เข้าใจไหม แต่ถ้าลูกอยากไปลูกต้องตั้งใจเรียนจะได้ไปต่อมหาลัยที่นั้นไงล่ะ”

    “ผมอยากเจอป้า ผมอยากเจอทุกคนที่นั้น” พูดเศร้าทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แต่คงร้องไห้ไม่ได้ เพราะผมไม่รู้วิธีทำมัน รู้แค่ความรู้สึกเศร้า

     

    ทุกทีที่ผมเห็นแม่ร้องไห้ ผมก็เข้าไปถามถึงสาเหตุ แม่ก็ตอบว่ามันเป็นวิธีที่จะทำให้เราสบายใจขึ้น และทำให้เราคลายความเศร้า ทั้งพ่อ หรือไม่ว่าญาติคนไหนๆก็ร้องไห้เป็นทั้งนั้น ยกเว้นผม! ผมคนเดียวที่ร้องไห้ไม่เป็น นี่พระเจ้าจแกล้งอะไรผมหนักหนา

    “แม่รู้ว่าลูกต้องการอะไร และแม่ก็รู้มาโดยตลอดจ๊ะลูกรัก”

     

    เช้าวันต่อมา

    กลิ่นของเช้าวันใหม่ บวกกับกลิ่นกาแฟที่ผู้เป็นภรรยามือใหม่กำลังปะปนกันอยู่ในอากาศ ก่อนจะลอยไปแตะจมูกของผู้เป็นสามีจนอดไม่ได้ที่ต้องเดินมาดู

    “ทำอะไรอยู่” ชายหนุ่มพูดขึ้น หลังจากมอบกอดจากข้างหลังที่แสนอบอุ่นให้กับภรรยาของตัวเองแล้ว

    “ชงกาแฟอยู่ค่ะ คุณไปรอที่โต๊ะเถอะ เดี๋ยวฉันยกไปให้” ผู้เป็นภรรยาหันไปตอบ

    “งั้นก็โอเค!” สามีพูดจบก็หอมแก้มไปฟอดหนึ่งก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารตามสั่ง

    “มาแล้วค่ะ” นานไม่ถึง 2นาที ผู้เป็นภรรยาก็เอากาแฟมาเสริฟ

    “คุณ ‘ไอริสภรรยาผมคนนี่น่ารักที่สุดไปเลย^^” ผู้เป็นสามีพูดยิ้มๆให้กับความน่ารักของภรรยาตัวเอง ที่ปฏิบัติกับเขาอย่างไม่บกพร่องตั้งแต่แต่งงาน

    “กินกาแฟดำแบบขมๆทำไมปากหวานจังหล่ะค่ะ”

    “กับภรรยาผมคนเดียวนั้นแหล่ะ”

    “งั้นรีบไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสายเอานะ”

    “ครับ...”

     

    จบบทสนทนาแล้วผู้เป็นสามีก็เดินออกไปหน้าบ้าน พร้อมกับภรรยาที่ถือสูทไปให้ เมื่อถึงรถหน้าบ้านแล้วภรรยามือใหม่ก็ยื่นสูทไปให้สามีตัวเอง ผู้เป็นสามีเองก็รับไปก่อนจะขึ้นรถของตัวเองเตรียมจะไปทำงาน

    “เจอกันตอนเย็นนะค่ะ” ภรรยาย่อตัวลงพูดกับสามีในรถ

    “เจอกันตอนเย็นครับ..” สามีตอบรับก่อนจะค่อยๆขับรถออกไป

    2 เดือนหลังจากนั้น

    เห้อ~”

    สวัสดีครับคงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมคือใคร อ๊ะ! ว่าแต่ทุกคนรู้จักผมรึยังครับเนี่ย คงไม่สินะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า ก็สวัสดีใหม่อีกครั้งนะครับผม ชื่อ เลโอ หรือ นาย ทรงเกียรติ์  ธรรมXX อ๊ะ อ๊ะ อย่ามองว่าชื่อผมเห่ยนะครับ ถึงมันจะเห่ยแต่มันก็เป็นชื่อที่พ่อแม่ผมตั้งให้นะ อย่างน้อยผมก็ภูมิใจกับมันนะ... เอาล่ะ จบการนำเสนอครับ มาพูดถึงเรื่องปัจจุบันดีกว่า


    ขณะนี้ผมกำลังนั่งเซ็งรอเพื่อนที่ไปซื้ออาหารให้ผมแล้วปล่อยให้ผมนั่งจองโต๊ะอยู่คนเดียวครับ อ่ารู้สึกว่าผมกำลังเห็นแมลงวันกลายเป็นแฮมเบอร์เกอร์แล้วล่ะครับ..

    เห้ย! เลย์ นั้งอ่าปากจนแมลงวันจะเข้าไปนั่งเล่นได้อยู่หล่ะ อ่ะ!ข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทย ได้หล่ะ แม้ เพื่อนคนนี้พูดซะคนทั้งโรงอาหารหันมามองเลย เสียภาพพจน์คนหล่อหมด    -*-

    ผมยังไม่ได้แนะนำให้รู้จักสินะครับ เอาหล่ะงั้นขอแนะนำให้รู้จักเลยล่ะกัน คนแรก คนที่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ผมอยู่เนี่ยชื่อ ฟ้อกครับ แต่ส่วนใหญ่จะเรียก มันว่า ไอหมาครับ ฮ่าฮ่า ไอเนี่ยผมรู้จักกับมันตั้งแต่ยังไม่คลอดออกมาด้วยซ้ำครับ? แม่มันกับแม่ผมเป็นเพื่อนสนิทกันหน่ะครับก็เลยได้เจอกันตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะครับ ส่วนอีกคนมันกำลังนั่งมองหน้าผมอยู่ฝั่งตรงข้ามครับ ไอนี่ชื่อ ยู ครับ มันรู้จักกับผมตอนเราอยู่ ป.3 ครับ ปกติมันเงียบๆครับเย็นชาด้วย ตั้งแต่เด็กล่ะ ไม่รู้คุยกันอีท่าไหนมันถึงสนิทกับพวกผมได้

    เลโอครับนั่งคนเดียวเหงามั้ยครับ? ยูถาม

    ไม่หรอกๆ

    เหอะ! ที่กับไอเลย์ล่ะเสียงหวานจังนะ!” ฟ้อกประชดน้ำเสียงแง่งอน

    ผมบอกรึยังครับว่าไอสองคนนี้เป็นเพื่อนที่คิดกันมากกว่าเพื่อน?

    หืม? ก็ เลโอน่ารักกว่าใครบางคนแถวนี้นี่?เอาแล้วไง ยูเนี่ยน้า หาเรื่องให้ฟ้อกงอนตลอด

    อะ อะ ไอ้บ้า!!!” นั้นไง งอนไปล่ะ ตวาดเสร็จก็วิ่งหายไปจากสายตาซะงั้น

    ไม่ตามไปง้อหรอผมหันมามองคนตรงหน้าผมที่ไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย

    เดี๋ยวก็วิ่งกลับมาเองหล่ะครับ ไม่ทันขาดคำฟ้อกมันก็วิ่งกลับมาที่โต๊ะจริงๆ

    ยู~ ไม่ตามง้อเค้าหน่อยหรอเริ่มทำเสียงเล็กให้หน้าสงสาร

    หืม ครับถ้างอนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องมันก็ไม่หน้าง้อหรอกครับยูหันหน้าไปหาฟ้อกที่เข้ามานั่ง
    ข้างกาย


    แต่ แต่ เค้าอยากให้ยูง้อเค้าหนิฟ้อกทำเสียงสะอื้น


    อุก!!” อ่าดูเหมือน ยูจะถูกทำดาเมจรุนแรงแหะ


    ฟะ ฟ้อก ครับ อย่า ร้อง สิ ครับยูพูดตะกุกตะกัก คงจะทนสภาพแมวน้อยของฟ้อกไม่ไหวสินะ


    ผมรักฟ้อกคนเดียวนะ รักที่สุดในโลกด้วยยูทำเสียงหวาน


    จริงเหรอฟ้อกหยุดร้องและสบตายู


    จริงครับ ยูตอบหนักแน่น


    อ่าดูเหมือนผมจะเห็นดอกไม้ขึ้นรอบๆตัวพวกเขาแล้วหล่ะ ให้ตายสิ! เริ่มทนกับพวกนี้ไม่ไหวแล้วนะ ลำพังไอคู่นี้ไม่เท่าไหร่ แต่ไอสายตาวิบวับๆ ที่ส่งมาของพวกสาวๆนี่มันอะไรกัน อ่า อยากหนีไปจากตรงนี้จังแหะ



    ตกเย็น



    เอี้ยด~

    ท่ามกลางผู้คนที่เบียดเสียดกันอยู่บนรถเมล์สายหนึ่ง ยังมีกลุ่มก้อนพลังงานกลุ่มหนึ่งค่อยๆเบียดเสียดผู้คนออกมาเพื่อลงจากรถ ใช่แล้ว! นั้นคือผมเองครับหลังจากเลิกเรียนผมก็ตรงกลับบ้านอย่างด่วนจี๋เลยล่ะครับ ฮะฮ่า ผมเด็กดีใช่มั้ยล่ะครับ แต่ไม่หรอก รีบกลับเพราะกลัวคุณพ่อดุหน่ะครับ


    หลังจากที่ลงรถมาผมก็ต้องเดินเข้าซอยนั้นซอยนี่หลายกิโลเลยล่ะครับกว่าจะถึงบ้าน ถ้าจะถามว่าทำไมไม่จ้างวินมอไซน์หรอครับ....กลัวถูกข่มขืนหน่ะ...... ล้อเล่นครับ ล้อเล่น ก็แหม่ผมออกจะเป็นหนุ่มน้อยร่างบอบบางน่าถนุดถนอม จะกลัวถูกข่มขืนบ้างก็ไม่แปลก (จับฆ่าหมกส้วมเสียมากกว่า:ไรท์เตอร์) เอาเถอะเหตุผลหลักคือมันเปลืองครับ ไม่ใช่ว่าที่บ้านไม่ได้ให้เงินไว้ใช้นะครับ แต่ผมมีเหตุผลบางอย่างที่ต้องเก็บเงินส่วนนั้นไว้หน่ะสิ.. นี่ก็ชักจะมืดแล้วสิสงสัยต้องรีบวิ่งหล่ะ    ใจจริงถึงจะอยากชมนกชมไม้ข้างทางก็เหอะแต่ก็กลัวถูกข่มขืนด้วยสิ งั้นผมไปก่อนนะครับ..


    แฮ่ก แฮ่ก~”


    หลังจากที่ผมผ่านช่วงมฤโหดจนเกือบกลายเป็นสุนัขหอบแดด? ในที่สุด!ผมก็มาถึงเส้นชัย!! ฮ่าฮ่าฮ่า อีกไม่ถึง20เมตรก็จะถึงบ้านผมแล้วครับ เอ๊ะแต่นั้นรถใครอยู่หน้าบ้านผมนะ ป้ายทะเบียนคุ้น แฮะ? ช่างเฮอะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมนี่


    กลับมาแล้วคร้าบบ


    กลับมาแล้วเหรอลูก มาหาแม่หน่อยสิลูกเสียงแม่ผมดังมาจากห้องรับแขก


    ครับ แม่ผมขานรับแล้วเดินไปหาอย่างคนหมดเรี่ยวแรงทันทีที่ผมเข้าห้องไปภาพของเหล่าผู้อาวุโสกว่าผมกำลังหันหน้ามายิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน อ่า ยกเว้นพ่อผมคนนึงล่ะกัน ผมเห็นดังนั้นจึงหันไปว่ายผู้อาวุโสทั้งสี่ เริ่มจากหลานชายของพ่อ พี่ซัน ครับ แล้วผมก็ไหว้ผู้หญิงที่อยู่ทางขวามือของแกที่ยิ้มให้ผมซะเห็นฟันครบ32เลย? น่าจะชื่อ พี่ ไอริส ผมบอกรึยังครับ ว่านี่แหละคนที่แต่งงานเมื่อ2เดือนก่อนที่ผมพลาดไม่ได้ถ่ายรูปพวกเขาน่ะครับ  จริงๆผมก็ไม่ค่อยสนิทกับคนในตระกูลของพ่อเท่าไหร่นะครับยิ่งคุณปู่ยิ่งแล้วใหญ่แต่สำหรับพี่ซันเนี่ยพวกเราเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆครับน่าจะช่วงตอนที่ผม 6-7 ขวบได้มั้งครับ และพี่ซันเนี่ยเป็น.....


    มานั่งนี่ก่อนสิลูกเสียงคุณแม่เรียกให้ผมไปนั่งข้างๆท่านครับ


    เอาล่ะ แม่มีเรื่องสำคัญอยากจะบอกผมนั่งไปพยายามหลบสายตาพี่ซันไป


    คือพ่อกับแม่จะไปธุระที่ต่างประเทศ เราก็เลยฝากลูกไว้กับพวกพี่ซันเค้านะจ้ะ ลูกโอเคมั้ย?อ่า
    ครับโอเค เอ๊ะ?..


    แม่ครับ!!!”


    ชู่! เบาๆสิลูก!”แม่ทำเสียงดุ


    หึ คุณไม่ได้สั่งสอนมันรึไง ว่าอยู่ต่อหน้าแขกอย่าทำตัวเสียมารยาทหน่ะ ถูกพ่อดุอีกแล้วสิ


    เอ่อ แม่ครับ แล้วทำไมไม่เอาผมไปด้วยล่ะครับ?


    ลูกจ้ะ นี่ลูกก็ ม.6 แล้วอีกไม่นานก็สอบเข้ามหาลัยนี่ลูกคิดว่าลูกจะมีเวลาว่างไปกับแม่หรือ
    จ้ะ?
    เถียงไม่ออกแหะ


    ตะ ตะ แต่ผมไปอยู่กับพวกฟ้อกก็ได้นะครับ


    ไม่ได้จ้ะเรารบกวนทางนั้นเค้าไว้เยอะแล้ว เพราะฉะนั้นไปอยู่กับพี่ซันนะลูกแม่ทำเสียงแข็ง


    พี่พึ่งรู้นะเนี่ยว่าเลโอไม่ชอบหน้าพี่จู่ๆพี่ซันก็พูดแทรกมาครับ ผมเกือบลืมไปแล้วนะว่าพวกพี่เค้าก็อยู่ตรงนี้


    ปะ เปล่านะครับ! แต่ผมกลัวรบกวนพวกพี่ที่พึ่งแต่งงานกันประโยคหลังผมพูดเสียงเบาครับ


    รบกงรบกวนอะไรกัน พวกเราก็เหมือนพี่น้องกันนะแล้วอีกอย่างพวกพี่ก็ปรึกษากันแล้วด้วย ไม่มีปัญหา! ใช่มั้ยจ้ะที่รัก?พูดจบพี่ท่านก็หันไปกอดพี่ไอริส


    ใช่ค่ะพี่ไอริสตอบเสียงหวาน แต่ผมมี!!


    ก็ได้ครับในที่สุดผมก็ยอมจำนน


    ดีมากจ้ะ แม่เตรียมของไว้ให้ลูกแล้วนะเดี๋ยวไปกับพี่เค้าได้เลยนะลูกเอ๋!!นี่แม่จะไม่ให้ลูกชายเตรียมตัวหน่อยรึไงครับ


    เฮ้อ ผมจะทำยังไงดีเนี่ยต้องไปอยู่กับคนอื่นทั้งที่ยังไม่เตรียมใจ แถมคนๆนั้นก็เป็น...



    ..รักแรกของผมอีก!!




     



     

    ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีพี่น้องชาวเด็กดีทุกท่าน(โค้งงามๆ)


    ตัวข้าน้อยเป็นนักเขียนหน้าใหม่ไฟจะมอด


    ที่พึ่งหัดเขียนนิยาย ถึงนี่จะไม่ใช่เรื่องแรกที่แต่ง


    แต่นี่เป็นเรื่องแรกที่อยากเขียนให้ จบ!!


    ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยครับ

     







     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×