ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lullaby กล่อมรักผ่านตัวหนังสือ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 57




     

    บทที่ 1

             


              “เอร๊ยยยยฉันอุทานอย่างตกใจ

    ขอโทษค่ะๆ ขอโทษจริงๆ ฉันรีบขอโทษขอโพยเจ้าของเสียงอุ้กทันที เพราะฉันมัวเดินคุยกับเฟลิเซียโดยที่ไม่ได้ดูทางให้ดี แขนของฉันเลยเหวี่ยงไปชนกับผู้ชายคนนึงเข้าที่ลิ้นปี่อย่างจัง เขาคงจะจุกน่าดู T___T

              เสียอุทานแกน่าเกลียดมากลัลลาบาย =__=” เฟลิเซียกระซิบบอกฉัน ก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันเงียบโดยไม่ได้นัดหมาย (?)

              “....”

              “....”

    ไม่เป็นไรเขาผู้โชคร้ายเงียบเพราะจุกไปสักพักแล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบ

              “ชะอุ้ย!” ฉันกับเฟลิเซียอุทานเป็นเสียงเดียวกัน ก็ผู้ชายคนนนี้คือ เอียน เพื่อนร่วมชั้นของเรานั่นเอง

    ที่สำคัญนะเขาเป็นคนที่เพื่อนในกลุ่มฉันแอบชอบน่ะสิ ซวยแต่เช้าเลยยัยลัลเอ๊ยยยย

              “....” เอียนมองหน้าเราสองคนงงๆ แล้วก็หันกลับไปเดินต่ออย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก

              ฮู้วววววว เธอนี่ซุ่มซ่ามตลอดเลยน้า ทำตัวเองเจ็บตัวไม่พอ ยังจะทำคนอื่นเขาเจ็บตัวไปด้วยอีกยัยเฟลิเซียบ่นแล้วผลักหัวฉันเบาๆ

              แล้วจะให้เราทำยังไงล่ะ T_____T” ขอเวลาคร่ำครวญสักสิบวินะแก...

     

    11.50 am

             

              คาบ เรียนตอนเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะฉันมัวแต่หลับ หรือเหม่อ หรืออะไรก็ตาม อีกแค่สิบนาทีก็จะพักเที่ยงแล้ว แอ้ว แอ้ว แอ้ววว งั้นขอแนะนำตัวฆ่าเวลาไปแล้วกันนะ

    สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อของฉันคือ รินลภา จิล อังตัวเน็ตต์ ทุกคนมักจะเรียกฉันว่า ลัลลาบาย ฉันเป็นลูกครึ่ง ไทย-เยอรมัน ฉันมีเพื่อนสนิทที่สุดอยู่สองคนค่ะ คือ เฟลิเซีย โจอัน เธอเป็นคนอังกฤษ และ โอลิเวีย เอซเทอร์ เธอเป็นลูกครึ่ง ไทย-อเมริกา

    แต่จริงๆ แล้วกลุ่มของฉันมีคนมากกว่านี้ค่ะ ทั้ง คณัชชา วิภัตรฉัตร หรือแคลร์ ผู้พูดมากเกินบรรยาย เจสซี่ บี เบอร์มัลล์ หรือ เจสซ์ ผู้กินเยอะมาก ณัฐสร โกสนทับทิม หรือหลับปุ๋ย ผู้โลกสวย และ มัลลิกา เหมสุทินวาโย หรือมัลลี่ ผู้น่ารัก

    ประเด็นสำคัญคือ ตอนนี้แคลร์กำลังมีปัญหาเรื่องหัวใจค่ะ แหม... ก็เล่นไปชอบคนดังของสายชั้นนี่คะ

    บางคนคงจะเดาว่าแคลร์แอบชอบเอียน ถูกต้องเลยค่ะ แคลร์มักจะเพ้อเรื่องเอียนให้เราทุกคนในกลุ่มฟังบ่อยๆ โดยเฉพาะฉันนะฟังจนเบื่อเลย

    เอียนอยู่ในกลุ่มผู้ชายที่มีลักษณะนิสัยแปลกๆ ค่ะ เท่าที่ดูมาเอียนก็คงเป็นคนที่สมประกอบที่สุดในกลุ่มนั้นแล้วมั้งคะ ขอย้ำว่ามั้ง =____=

    กลุ่มของเอียนประกอบไปด้วย วินเซนต์ หัวหน้ากลุ่มผู้บ้าบอ มีผมที่หยิกหยอยนิดๆ เล่นกล้ามและบ้าซิคแพ็ค ในมาตรฐานของฉันเขาเป็นคนที่หน้าตาพอดูได้นะ และเขาก็เป็นเพื่อนร่วมห้องในปีที่แล้วของฉันด้วย

    สมาชิคกลุ่มคนต่อไปคือ มาร์ติน เขามีผิวสีแทน นิสัยบ้าบอ บ้าซิคแพ็คพอๆ กับวินเซนต์ หน้าตาเข้าขั้นดี และฐานะทางบ้านดีมากเลย เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องฉันมาสองปีแล้ว แต่ฉันไม่ค่อยได้คุยกับเขามากหรอก

    ต่อไปคงเป็น บอลด์วิน เขาใส่แว่น ตาคม นิสัยดีมั้ง อาจจะกวนเบื้องล่างนิดหน่อย เป็นผู้ชายที่ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงทำได้ ตัวสูง และนิสัยบ้าบอมาก เราค่อนข้างสนิทกัน เพราะเขากับฉันเคยไปซัมเมอร์ที่ออสเตรเลียด้วยกัน แล้วเขาก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของฉันมาสองปีแล้วด้วย

    คนต่อไปคือ เอียน นั่นเอง เขาเป็นคนผิวขาว จมูกเขาเหมือนพ่อมดเลย ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเขามากนักหรอก เราไม่เคยอยู่ห้องเดียวกันเลยสักปี แล้วเอียนก็ดูเป็นคนเงียบๆ ด้วย (มั้ง)

    ต่อไปเป็นมนุษย์เผ่ายักษ์ของกลุ่มค่ะ ก็เล่นตัวสูงซะ 190 cm. เลย เขาชื่อว่า ทีโอดอร์ นอกจากส่วนสูงที่สะดุดตาแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรให้ฉันจดจำอีกเลย ทั้งที่เราก็อยู่ร่วมห้องกันมาสองปีแล้วเหมือนกัน ฉันจำได้ว่าฉันเคยพูดกับเขาแค่สองสามประโยคเอง และเขาเป็นคนที่ดูเผินๆ แล้วโหดมากเลยล่ะ

    คนต่อไปคือ หมูแฮม เขาตัวอ้วนๆ กลมๆ ผิวขาว นิสัยน่ารักมาก เราไม่ค่อยสนิทกันเลย แต่เราก็ทักทายกันบ่อยอยู่นะ

    คนต่อไปคือ เฮนรี่ เขาผิวขาว เล่นคีย์บอร์ด กีตาร์ และเปียโนเก่งมาก นิสัยค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษ และเรียนเก่งด้วย

    รวมๆ แล้วคงมีสมาชิกกลุ่มแค่นี้มั้ง ฉันไม่แน่ใจมากเท่าไหร่ เพราะวันๆ ฉันเอาแต่อ่านหนังสือ ร้องเพลง แต่งเพลง และเล่นดนตรี โลกส่วนตัวของฉันมีมากเกินไปเลยทำให้ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องที่อยู่รอบตัวฉัน มากนัก

    โอ้! หมดเวลาเรียนแล้วล่ะ

    ลัลลี่ ไปกินข้าวกันเถอะ พักแล้วแคลร์เดินมาสะกิดฉัน

    กำลังหิวพอดีเลยยยยยยฉันตอบเสียงยานและเดินออกจากห้องไปทานข้าวพร้อมกับกลุ่ม

     

    (ห้องอาหาร)

     

    แคลร์ๆ วันนี้ลัลเดินชนเอียนเมื่อเช้าด้วยเฟลิเซียพูดขึ้นกลางวงทานอาหารด้วยน้ำเสียงแซวๆ

    จริงหรอ น่าอิจฉาจัง -////-” แคลร์บิดตัวไปมา

    ยัยบ้า เดินชนคนอื่นมันน่าอิจฉาตรงไหนเล่าฉันพึมพำเบาๆ

    ถ้าเธอมีคนที่ชอบเมื่อไหร่ เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละเฟลิเซียหันมาบอกฉัน

    ฉันก็มีคนที่ชอบแล้วนะ ทั้งคานทอง แล้วก็พระเอกนิยายสุดหล่อของฉันไง!” ฉันตอบแล้วยู่ปาก

    โถ่...แล้วเพื่อนทั้งกลุ่มก็พากันทำหน้าตาเพลียจิตใส่ฉัน นี่ฉันผิดหรอที่ยังไม่มีคนที่ชอบ -^-

    พอพวกเราทานข้าวกลางวันเสร็จก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้สีขาวในสวน ที่ประจำของพวกเรานั่นเอง

    พวกแก คือฉันไปตีสนิทฮิวมานั่งได้ไม่นาน แคลร์ก็เริ่มพูดเรื่องตัวเองอีกแล้ว

    ฮิวบอกฉันเกี่ยวกับเอียนทุกอย่างเลยอ่ะแคลร์พูดต่อ

    แกนี่ชั่วร้ายจัง ไปตีสนิทคนอื่นเพื่อประโยชน์ของตัวเองโอลิเวียพูดขัดขึ้นมา หลับปุ๋ย มัลลี่ เจสซ์ และฉันก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย

    เดี๋ยวแกก็ได้ชอบฮิวแทนเอียนหรอก รายนั้นน่ะ เจ้าชู้เงียบนะ บอกก่อนเฟลิเซียหันไปบอกแคลร์

    ใช่แล้วล่ะหลับปุ๋ยเสริม เพราะเธอเป็นคนเดียวในกลุ่มที่อยู่ห้องเดียวกับฮิวกับเอียน เธอคงรู้จักพวกเขาดีทีเดียว

    ฮิวไม่ใช่สเป็คฉันสักหน่อยแคลร์พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ

    จ้าๆเจสซ์เห็นสีหน้าของแคลร์เลยรีบตัดบทก่อนที่จะทะเลาะกัน

    ว่าแต่ ฮิวคือใครหรอ ทำไมเราไม่รู้จักฉันถาม

    เขาหน้าหวานมากโอลิเวีย

    มีผมหงอกก่อนวันอันควรแคลร์

    ตัวเตี้ยที่สุดในกลุ่มเจสซ์

    เป็นเพื่อนสนิทเอียนหลับปุ๋ย

    ชอบเดินบิดตูดมัลลี่

    ฉันว่าถ้าแกเห็นหน้าฮิวคงร้องอ๋อแหละ เพราะแกเคยเดินสวนกับฮิวตั้งหลายรอบเฟลิเซีย

    นั่นไง กลุ่มเอียนเดินมาแล้วๆแคลร์ระริกระรี้แล้วชี้ไปที่ผู้ชายกลุ่มใหญ่ๆ ที่เดินมาอย่างกับวงบอยแบนด์

    อืมมมมฉันหันไปมองตามที่แคลร์ชี้แล้วพยักหน้า

    มา เดี๋ยวฉันพาแกไปหาคนที่ชื่อฮิวแคลร์รีบวิ่งมาลากข้อมือฉันออกไปจากกลุ่ม

    แกจะเอาฉันเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะเอาขนมไปให้เอียนล่ะสิฉันบ่นแต่ก็เดินตามไปโดยไม่ขัดขืน

    รู้อีก แหะๆแคลร์หันมาหัวเราะแห้งๆ ให้ฉัน

    แคลร์รีบลากฉันเดินอ้อมไปดักข้างหน้ากลุ่มผู้ชายนั่น แต่ว่า ช้าไปละ...

    กึกฉันเดินช้าไปหนึ่งก้าว เลยไปเหยียบไปที่เท้าของผู้โชคร้ายในกลุ่มนั่นเข้าเต็มๆ

    โอ๊ยยและเขาถึงกับร้องโอดโอยเพราะน้ำหนักฉันไม่ได้เบาเลย แล้วก็... ฉันออกแรงกระทืบเท้าเขาไปซะเต็มแรงเลยล่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ แค่จะยั้งเท้าไว้ แต่เท้ามันไปเองอ่ะ T___________T

    เฮ้ย!” แน่นอนว่าคนในกลุ่มก็ต้องพากันตกใจ

    ขอโทษ .___.” ฉันรู้สึกว่าพูดคำนี้เป็นรอบที่สองของวันแล้วนะ

    “.....”

    “.....”

    “.....”

    “....”

    แล้วทุกคนก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างตกใจ รวมถึงตัวฉันเองด้วย

    อ้าว นี่เธอเอียนหันมาทักฉันหลังจากที่ตั้งสติได้

    แหะๆฉันหัวเราแห้งๆ แล้วแย่งขนมจากมือแคลร์ไปส่งให้เอียน

    เพื่อนฉันจะเอาขนมมาให้น่ะ ไปละบรัยยยยยยยฉันรีบโบกมือลาแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ปล่อยให้แคลร์ยืนหน้าแดงอยู่ในกลุ่มผู้ชายนั่นต่อไป

    เดี๋ยวสิ หยุดก่อน ผู้ชายที่ฉันเหยียบเท้าเรียกฉันพร้อมกับเดินตามมาอย่างทุลักทุเลเพราะยังคงเจ็บเท้าอยู่ (จะไม่เจ็บได้ยังไงละ เล่นเหยียบไปซะเต็มแรงขนาดนั้น)

    หยุดให้โง่สิ =____=” ฉันพึมพำแล้วฉันก็วิ่งขึ้นตึกเรียนทันที

    ฉันวิ่งขึ้นมาถึงห้องเรียนแล้วนั่งลงไปที่โต๊ะของตัวเองพร้อมกับอาการหอบ นี่ถ้าฉันรู้ว่าการมาโรงเรียนวันแรกของฉันจะสร้างเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ ฉันคงยอมไม่มาโรงเรียนแล้วนอนตีพุงอยู่บ้านดีกว่า ฉันไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย และไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายด้วยมากนักหรอก บางทีถ้าฉันย้อนเวลากลับไปได้ฉันคงจะระวังตัวมากกว่านี้

    “ไปไหนแล้วนะ”

    “เฮือกกกกกกก” ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงก้องมาตามทางเดิน

    ทำไมนายนี่มันอึดจังเลยหว่า =___=^^

    ฉันนั่งเอ๋อให้สมองประมวลผลสักพักแล้วรีบวิ่งไปที่ตู้เก็บของหลังห้อง เอาวะ เป็นไงเป็นกัน

    ฉันรีบยัดตัวเองเข้าไปในตู้แล้วปิดลงทันที ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะกลัวอะไรเขาหนักหนา ฉันจะซ่อนทำไม ฉันจะหนีเขาเพื่ออะไร ความรู้สึกพาไปล้วนๆ เพราะฉันรู้สึกได้ว่าฉันไม่ควรเจอกับเขาตอนนี้ =_______= หรือบางทีฉันอาจจะแพ้ผู้ชายเสียงหล่อก็ได้ เพราะเสียงของผู้ชายคนนั้นมันหล่อมากกกกกกกกกกกกก

    “ตึก ตึก ตึก” เขาเดินผ่านไป

    “ตัก ตัก ตัก” แล้วก็เดินกลับมา

    “ตึก ตึก ตึก” แล้วก็เดินผ่านไปใหม่

    “ตัก ตัก ตัก” แล้วก็เดินกลับมาอีกที

    โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!! จะเดินวนไปวนมาทำไม รีบๆ ไปสักทีสิเฟ้ย ทนไม่ไหวแล้วนะ! ว่าแล้วก็จัดการทุบผนังตู้ไปหนึ่งรอบ

    “ปั้ง!” ชะอุ้ย! ลืมไปว่าเป็นตู้ไม้ =[]=

    “สวบ เคร้งงงงงง ปึก ตุบ ตับ แควก” แล้วของที่วางอยู่บนตู้ก็สั่นสะเทือนและพร้อมใจกันตกลงมาอย่างไม่ได้นัดหมาย

    “นั่นใครน่ะ” เขาตะโกนเสียงหวั่นๆ

    “ซวยแล้วไงตรู” ฉันพึมพำกับตัวเอง เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เสียงหวั่นๆ หรอ เฮ้ นี่นายนั่นคงไม่คิดว่าฉันเป็นผีหรอกใช่ไหม งั้นก็ดีสิ

    “ครึกๆ ครึกๆ” ฉันจัดการเด้งไปเด้งมาในตู้จนตู้สั่น

    “ใครน่ะ อย่าแกล้งกันสิ” เขาตะโกนอีกทีด้วยเสียงสั่นกว่าเดิม เข้าทางเลย โฮะๆ

    “ครึกๆ ครึกๆ”  ว่าแล้วก็เด้งไปเด้งมาอีกสักสามสี่รอบ

    “นี่...” เขาตะโกนเสียงแผ่วพร้อมกับฝีเท้าที่เร่งเร็วขึ้น

    “ชะ...ช่วย....ด้วยยยยย” ฉันแกล้งพูดเสียงสั่นๆ

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก” แล้วเขาก็วิ่งหนีไป หุหุหุ AwA

    “ปักๆ” ฉันพยายามจะเปิดตู้ออกไปแต่ก็เปิดไม่ออก

    “ครึกๆ ครึกๆ” หืมมมม ฉันว่าฉันหยุดเด้งแล้วนะ ทำไมยังมีเสียงตู้สั่นอยู่ล่ะ

    “แคร้งงง แคว่ก ฉึก ปังงง ปึงงงง” เสียงของตกด้วย เมื่อกี้ตู้นี้ของตกหมดแล้วไม่ใช่หรอ

    “ครึกกกก ครึกๆ” มันเริ่มไม่ดีแล้วนะ T___T

    “ปังๆ เกร้งงงงง” ฮืออออออออออ ไม่อาววววว เค้ากลัวแล้วจ้า

    “ช่วยด้วยยยยยย” เสียงโหยหวนแหบๆ ข้างหูฉันนี่มันคืออะไรเนี้ย ไม่เอาๆ ฮือๆ

    “....” แล้วทุกอย่างก็เงียบลงสักพักหนึ่ง

    “ปังๆ” ฉันก็ยังไม่ละความพยายามที่จะเปิดตู้ออกไป

    “ช่วยฉันที” เสียมันมาอีกแล้ว ทนไม่ไหวแล้วนะ ;____;

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!! ผีหลอก คร่อก! zzZZzz” แล้วทุกอย่างก็มืดสนิททันที ....

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    อาจจะแต่งอ่านแล้วฝืดๆ ไปบ้าง ยังไงก็ช่วยติ ช่วยชมหน่อยนะคะ 555555

    ps. เอาพี่เฮนรีมาแปะไว้ค่ะ 5555 ขณะที่เจ้ลัลลาบายเหยียบเท้าผู้โชคร้าย อาเฮียแกก็แอบตกใจเบาๆ อยู่ในซอกหลืบตัวประกอบผู้น่าสงสาร ....





    Heaven & Hell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×