ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพื่อนอย่างนาย มันร้ายเกินไป[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #5 : แวม...ไพร์

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 55


    แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในห้องสีเหลี่ยม ร่างสีซีดผุดลุกขึ้นมาจากเตียงนอนในทันทีที่แสงส่องร่าง

    “โอ๊ย! ใครเปิดหน้าต่างฟ่ะ”อิจิโกะตะโกนร้องด้วยความปวดแสบปวดร้อน พลางรีบวิ่งออกไปจากห้อง

    “ริวตะ!!! ใครบอกให้แกเปิดหน้าต่าง”อิจิโกะตะโกนพร้อมๆกับวิ่งลงไปชั้นล่าง

    “เปิดแล้วทำไม”

    “ไอ้บ้า แกก็รู้ว่าฉันแพ้แสง แล้วแกยังจะ...”

    “ก็เพราะตื่นสายยังงี้ไงถึงต้องเจ็บตัวแบบนี้ คราวหน้าถ้าไม่อยากโดนแบบนี้อีกก็ตื่นให้มันเช้าๆหน่อยซี้~~”ริวตะตะคอก

    I said it's Bad Bad to me at a distance”อิจิโกะพูดเสร็จก็รีบวิ่งออกไปจากบ้านทันที

     

    “ไอ้บ้า ไอ้#%$*#@#%=+!?!%^&**(+)=”ผมบ่นออกมาไม่รู้หรอกว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่ก็ช่างมันเถอะเพราะคนรอบๆก็คงฟังไม่ออกหรอกถึงจะออกก็คงแค่คำสองคำมั้ง ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ไม่สน ไอ้สามีแสนเลวแบบนั้นต่อให้ต้องบุกนรกขุมไหนผมก็ยอม หากนั้นทำให้ผมหลุดพ้นไปจากมันมาได้น่ะนะ  ถึงจะบอกว่าอาทิตย์หนึ่ง แต่ผมว่ายังไงมันก็ยังนานไปอยู่ดีนั้นแหละ ถึงจะทำอะไรผมก็ไม่มีทางไปหลงสวาทเจ้านั้นเด็ดขาด คิดหรอว่าการที่ให้ฉันมาเป็นภรรยาเจ้านั้นแล้วจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกิดขึ้น แกคิดผิดแล้วทัตสึการที่ทำให้ฉันต้องมาทนทรมารกับเจ้านั้นมันไม่มีวันทำให้ฉันเป็นเด็กน้อยแสนดีที่ต้องทำตามทุกคำของใครได้หรอกนะ ฉันน่ะจะไม่มีวันไปรักกับใครอีกแล้ว จริงๆแล้วเจ้าทัตสึมันก็ลองมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เฮ้ย~~ทำไมยัยนั้นถึงไม่ยอมล้มเลิกความคิดบ้าๆนั้นซะทีนะ

    ตื้ดๆๆ

    “ใครโทรมาฟ่ะ”ผมรับโทรศัพท์ทั้งที่ยังหงุดหงิดอยู่

    “ไง ชีวิตมีความสุขขึ้นบ้างมั๊ย”

    “สุขบ้าอะไร มีแต่ทุกข์สิไม่ว่า”

    “งั้นหรอ ริวตะมันไม่มาขอทำอะไรกับแกบ้างเลยหรอ”

    “ทำอะไร”

    “ก็เรื่องที่สามีภรรยาเขาทำกันไง”

    “แล้วมันคืออะไรล่ะ”

    “นี่ ตกลงแกซื่อหรือไม่เข้าใจภาษายี่ปุ่นกับแน่ หรือฝรั่งเขาไม่ทำกับรึไง”   

    “งั้นก็บอกมาดิ ว่ามันคืออะไร”

    sexไง ไม่รู้จักหรอ”

    “บ้ารึไงไม่มีทางหรอก ถึงจะขอยังไงก็ไม่มีวันยอมเด็ดขาด”

    “จริงอะ”

    “ก็จริงอะดิ ใครจะบ้ายอม ฉันไม่ได้หลงเสน่ห์เจ้านั้นขนาดนั้นซะหน่อย”

    “เหรอ นี่เคยโดนจูบไปแล้วยังไม่คิดอะไรอีกหรอ”

    “ก็เอ่อดิ ฉันขอบอกว่าโดนแค่นั้นอย่าหวังว่าฉันจะยอมให้มีอะไรด้วยหรอก ไม่มีวัน”

    “งั้นฉันขอท้าให้นาย ทำให้ริวตะมาหลงให้ได้จะกล้าป่ะละ”

    “ก็เอาดี๊ ถ้าได้เธอต้องทำการบ้านให้ฉันอาทิตย์หนึ่งนะเอามั๊ย” อิจิโกะตอบรับพลางยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

    “ก็ได้ งั้นแค่นี้ก่อนละกัน”ทัตสึพูดก่อนจะตัดสายไป

    “ทำให้หลงงั้นหรอ งานยี่คงจะหนักเอาการแฮะ”อิจิโกะพูด พร้อมกับลุกขึ้นเดินกลับบ้านด้วยท่าทางที่อารมณ์ดีไม่น้อย

    --------------------------------

    “กลับมามีอะไร”ริวตะพูดหลังจากที่รู้สึกได้ว่าถูกกอด

    “อะไรกันภรรยาแสนน่ารักกลับมาทั้งที อย่าพูดเหมือนว่าน่ารำคาญแบบนั้นสิ”อิจิโกะพูดด้วยเสียงออดอ้อนพลางทำแก้มป่องไปด้วย

    “ทำอะไรของนาย ไปมีปัญหาอะไรกับใครมาอีกรึไง”

    “เปล่าซะหน่อย”

    “งั้นก็แล้วไป”ริวตะพูดพร้อมเดินออกจากอ้อมกอดอิจิโกะ

    “ริวตะอ่ะ นาๆทีก็พาไปเดทหน่อยสิ อุตสาได้เป็นแฟนกันแล้วนะ”อิจิโกะพยายามขอร้องด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู

    “เดทหรอ นี่นายพูดอะไรน่ะ”

    “ก็เดทไง น้าพาฉันไปเดทหน่อยน้า”

    “ก็ได้ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแล้วกัน”

     

    วันรุ่งขึ้น

    “นี่ริวตะตื่นได้แล้ว ไหนบอกจะพาออกไปเดทไง”

    “อืม รู้แล้วน่า~~”ริวตะตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเรียกของฉัน

    “เร็วสิ ลุกขึ้นมาอาบน้ำได้แล้ว”

    OK ก็ได้ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”ริวตะตอนพึ่งตื่นนี่ก็น่ารักดีน่ะ  ถ้าเจ้านี่นิสัยดีแบบนี้ก็ดีสิ ถ้าเป็นแบบนั้นน่ะนะ ฉันจะตามจีบทุกวันเลยล่ะ  ถ้าริวตะกลายเป็นเจ้าชายของฉันล่ะก็...

    “นี่เป็นอะไรไปน่ะ หน้าแดงแบบนี้เป็นไข้รึเปล่า ถ้าเป็นฉันไม่พาไปแล้วนะ”เจ้านั้นพูดอะไรออกมาไม่รู้ฉันไม่ได้ฟังหรอก แต่ก็ได้สติอีกทีก็ตอนที่มือเจ้านั้นมาสัมผัสกับหน้าผากของฉันนั้นแหละ

    “อ๊ะ!!!”ฉันตกใจและกระโดดถอยออกห่างจากเจ้านั้นในทันทีที่รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติของร่างกาย

    “เป็นอะไรอีกเนี่ย ฉันแค่จะขอวัดไข้หน่อยเท่านั้นเอง”

    “เปล่า มะ...ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะ”อ้า~~อะไรเนี่ย ฉันเป็นอะไรไป มะ...ไม่ได้อยากจะทำแบบนี่แต่ แต่ร่างกายกลับร้อนขึ้นมาตอนที่ถูกเจ้านั้นสัมผัส ฉัน ฉัน ฉัน ไม่น้า~~ ใครก็ได้หยุดความคิดของฉันตอนนี้ที ไม่น่าไปคิดภาพเจ้านั้นแบบนั้นเล้ยยย

     

    ห้องน้ำ

    ซ่าๆ

    “นี่อิจิโกะอาบเสร็จยัง”เจ้านั้นเคาะประตูดังขึ้นเรื่อยๆแล้ว รอหน่อยไม่ได้รึไงกันนะ

    “นี่”

    “รู้แล้วน่า เคาะทำไมบ่อยๆล่ะเจ้าบ้า”ฉันออกมาโวยวายในทันที แต่ทำไมเจ้านั้นทำท่าทางแปลกๆเนี่ย เป็นบ้าอะไรของมันอีก แค่เมื่อกี้ให้ท่าหน่อยเดียว อย่าบอกนะว่าช็อคไปเลย!?!

    “นี่เป็นอะไรของนายน่ะ”ฉันก็ยังงงอยู่ดีว่าเจ้านั้นเป็นอะไรถามเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ จนฉันชักทนไม่ไหวกะจะตบสักป้าบแต่ บ้าเอ้ยได้สติซะงั้น

    “ทะ...ทำไม แกไม่ใส่ชุดล่ะ”เจ้านั้นตะโกนออกมา

    “นี่แค่ไม่ใส่ชุดมันจะอะไรกันนักกันหนา ก็ผู้ชายเหมือนกัน หรือหุ่นของฉันมันเป็นอันตรายต่อสายตานายรึไง”

    “ก็ใช่น่ะสิ ในเมื่อรู้แล้วก็รีบไปใส่ชุดซะ!”เจ้านั้นตอบโดยที่หันหลังคุยกับฉัน

    “ก็...ได้”ฉันกระแทกเสียงออกไปด้วยความไม่พอใจ ก็แหงล่ะ ใครจะไปทนไหวกับการที่ต้องอยู่กับผู้ชายเรื่องมากแบบนี้!

     

    “เสร็จซะที รีบไปกันเถอะ”

    “เดี๋ยวสิเก็บเสื้อผ้าสำหรับ 2 คืนใส่กระเป๋าไปด้วยนะ แล้วก็แปรงสีฟันของใช้ประจำวันไปด้วยนะ แล้วโทรศัพท์ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาไปหรอกนะเพราะยังไงก็ใช้ไม่ได้อยู่แล้ว ไฟฉายเอาไปก็เตรียมถ่านสำรองไปด้วย  แล้วอย่างอื่นที่เหลือเดี๋ยวฉันเตรียมไปเอง  เอ๊า! มัวทำอะไรอยู่ล่ะรีบไปเก็บของสิ”ริวตะยืนงงอยู่สักพักก็ต้องรีบเดินไปเก็บของเพราะคำสั่งของฉัน

    พอเสร็จฉันก็จับมือริวตะเปิดประตูบ้านออกไปทำให้เราได้พบกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย

    “อ้า ฝนตกซะแล้วสิ”ฉันพูดออกมาด้วยความเสียใจเล็กน้อย

    “ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวฉันไปเอาร่มเอง”ริวตะเดินไปคว้าร่มที่อยู่ข้างประตู

    “เอ๊ะ! มีอยู่คันเดียวหรอ”

    “ก็ใช่น่ะสิ อีกคันก็โดนหมานายคาบหายไปแล้วนี่”

    “ช่างเถอะ ยังไงก็ไปกันได้แล้วล่ะ”ฉันเร่งริวตะให้รีบออกจากบ้าน ก่อนที่เจ้านั้นจะรื้อความทรงจำเก่าออกมาเสวนา

    ------------------------------------

    “ว้าว~~  ป่าตอนฝนตกนี่สวยสุดๆไปเลยนะว่ามั๊ย”

    “หรอ แต่ฉันว่าดูน่ากลัวมากกว่าสิไม่ว่า”

    “น่ากลัวอะไรกัน!!”ฉันตะคอกใส่ริวตะด้วยความโมโห คนอะไรอ่ะ ไม่มีจินตนาการเลย

    “จริงๆเวลาไปเดทคนปกติจะไปสวนสนุก ไม่ก็โรงหนังไม่ใช่หรอ แล้วนี่นายพาฉันมาป่าเนี่ยนะ แล้วยังให้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วยอย่าบอกนะ ว่าจะให้มา...”

    “ใช่ก็พามาค้างแรมไง”ฉันพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับรีบจูงมือริวตะเดินเข้าไปในป่าลึกขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่สนแล้วว่าตัวจะเปียกรึเปล่า ก็แหงล่ะที่พามาก็เพราะจะยั่วริวตะให้หลงฉันถ้าทำให้ร่างกายฉันดูเซ็กซี่ขึ้นมันก็ยิ่งดีไม่ใช่หรอ

    “เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนเนี่ย”

    “ก็แหม นานๆที่จะได้ออกมาอยู่ตามลำพังสองต่อสองแบบนี้ มันหาโอกาสได้ยากมากเลยน๊า ก็เลยทำให้ฉันตื่นเต้นนิดหน่อยน่ะ”ฉันพูดไปยังงั้นแหละจริงๆก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่ว่าถ้าทำให้ริวตะมาหลงฉันได้อีกคนล่ะก็ แหมคงจะสนุกน่าดูเลยนะ อิๆ

    “นี่ยิ้มอะไรของนายน่ะ ดูน่ากลัวเป็นบ้าเลย”

    “อ่อ เปล่าหรอก”

    “ก็ดี ฉันเห็นนายยิ้มแบบนี้ที่ไร มันต้องมีเรื่องร้ายๆเกินขึ้นทุกทีเลย”

    “บ้าน่า มองโลกในแง่ดีหน่อยซี๊”

     

    “เอาล่ะ นี่ก็มืดแล้ว งั้นเราพักตรงนี้กันเลยแล้วกัน”ริวตะพูดขึ้น

    “ก็ได้ ถ้าอย่างงั้น ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนล่ะกัน เมื่อกี้ฉันเห็นแอ่งน้ำอยู่ตรงนู้นน่ะ” ฉันพูดพร้อมกับเตรียมเสื้อผ้าแล้วเดินจากไป โดยที่ฉันจงใจลืมผ้าขนหนูเอาไว้

    “นี่แล้วเร็วๆกลับมาล่ะ”

    “อืม”

     

    “ทำไมมันอาบน้ำนานจังว่ะ”ผมบ่นออกมา ก็แหงล่ะจะไม่ให้บ่นได้ไงก็เจ้านั้นน่ะทำตัวยังกะเด็กอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ต้องเป็นผมตลอดที่ต้องตามมาดูแลมัน

    “ริวตะ~~

    “เรียกทำไมอีกเนี่ยปัญหามีตลอด จะให้ฉันหยุดพักบ้างไม่ได้รึไง”ผมบ่นออกมา แต่ก็ต้องจำใจเดินไปหามัน

    “มีอะไรอีกล่ะ”

    “ฉันลืมผ้าขนหนูอ่ะ ไปเอาให้หน่อยดิ”

    “เอ่อๆ”ผมเดินไปเอาผ้าขนหนูในกระเป๋า แล้วก็ต้องเดินกลับมาเอาผ้าขนหนูให้มันอีก นี่ผมเป็นทาสมันหรือยังไงเนี่ย

    “เอ้า ผ้า”

    “อืม ขอบใจนะ”เจ้านั้นพูด พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็ว ส่วนผมก็นั่งหันหลังให้มันคิดอะไรไปเรื่อยๆแต่ก็หยุดคิดถึงร่างเปลื่อยของเจ้านั้นไม้ได้ บ้าน่านี่ฉันบ้าไปแล้วรึไงกันเนี่ย

    “ริวตะเป็นไรน่ะหน้าแดงไปหมดเลย”เจ้านั้นเข้ามากอดคอผมแล้วถามอะไรไม่รู้แต่ที่รู้ๆอยู่ก็คือทำไมขามันขาวจังว่ะ>///<ไม่ทันที่ผมจะทำอะไรต่อ อยู่ดีๆเลือดมันก็ไหลออกมาจากต้นคอผมซะงั้น เจ็บ มันเจ็บไปทั้งตัว จะขยับก็ไม่ได้นี่มันอะไรกัน

    “อ๊า~~ เลือดหวานดีนี่ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าฉันก็มีของดีอยู่ข้างๆเหมือนกัน”เจ้านั้นพูดออกมาเสียงที่ได้ยินอยู่ทุกวันจนชินหู แต่ตอนนี้มันกลับฟังดูน่ากลัวจนแปลก ผมเพิ่งสังเกตที่นิ้วมันเล็บมือสีดำยาวแหลมคม น่ากลัวชะมัด เจ้านี่มันเป็นตัวอะไรกัน

    “เอ๊~~ ตัวอะไรน่ะหรอ ก็....แวม...ไพร์...ไง!”เจ้านั้นกระซิบข้างหูผม คำตอบที่ผมถามในใจ ยังกะว่ามันรู้ทุกอย่างผมคิดงั้นแหละ!!!

    “ก็ใช่น่ะซี๊ฉันรู้ทุกอย่างที่นายคิดโดยการสัมผัส เยี่ยมไปเลยใช่มั๊ยล่ะ ฉันน่ะชอบความสามารถแบบนี้สุดๆไปเลยล่ะ”เจ้านั้นลุกขึ้นแล้วตะโกนออกมา “แล้วก็นะตอนนี้ฉันก็อยากจะได้แวมไพร์มารับใช่อีกตนแล้วสิ”พูดออกมาพร้อมกับหัวเราะ น่ากลัว น่ากลัวเป็นบ้าเลย นี่ฉันต้องกลายเป็นแวมไพร์จริงๆงั้นหรอ อยู่ๆสติก็เริ่มจะไม่อยู่กับที่ ผมสลบลงไปนอนกับพื้น ผมไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งสิ้นแล้วตอนนี้ คิดแค่ว่าอยากจะให้เรื่องตอนนี้เป็นความฝันซะคงจะดี...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×