คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แวม...ไพร์
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในห้องสีเหลี่ยม ร่างสีซีดผุดลุกขึ้นมาจากเตียงนอนในทันทีที่แสงส่องร่าง
“โอ๊ย! ใครเปิดหน้าต่างฟ่ะ”อิจิโกะตะโกนร้องด้วยความปวดแสบปวดร้อน พลางรีบวิ่งออกไปจากห้อง
“ริวตะ!!! ใครบอกให้แกเปิดหน้าต่าง”อิจิโกะตะโกนพร้อมๆกับวิ่งลงไปชั้นล่าง
“เปิดแล้วทำไม”
“ไอ้บ้า แกก็รู้ว่าฉันแพ้แสง แล้วแกยังจะ...”
“ก็เพราะตื่นสายยังงี้ไงถึงต้องเจ็บตัวแบบนี้ คราวหน้าถ้าไม่อยากโดนแบบนี้อีกก็ตื่นให้มันเช้าๆหน่อยซี้~~”ริวตะตะคอก
“I said it's Bad Bad to me at a distance”อิจิโกะพูดเสร็จก็รีบวิ่งออกไปจากบ้านทันที
“ไอ้บ้า ไอ้#%$*#@#%=+”!?!%^&**(+)=”ผมบ่นออกมาไม่รู้หรอกว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่ก็ช่างมันเถอะเพราะคนรอบๆก็คงฟังไม่ออกหรอกถึงจะออกก็คงแค่คำสองคำมั้ง ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ไม่สน ไอ้สามีแสนเลวแบบนั้นต่อให้ต้องบุกนรกขุมไหนผมก็ยอม หากนั้นทำให้ผมหลุดพ้นไปจากมันมาได้น่ะนะ ถึงจะบอกว่าอาทิตย์หนึ่ง แต่ผมว่ายังไงมันก็ยังนานไปอยู่ดีนั้นแหละ ถึงจะทำอะไรผมก็ไม่มีทางไปหลงสวาทเจ้านั้นเด็ดขาด คิดหรอว่าการที่ให้ฉันมาเป็นภรรยาเจ้านั้นแล้วจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกิดขึ้น แกคิดผิดแล้วทัตสึการที่ทำให้ฉันต้องมาทนทรมารกับเจ้านั้นมันไม่มีวันทำให้ฉันเป็นเด็กน้อยแสนดีที่ต้องทำตามทุกคำของใครได้หรอกนะ ฉันน่ะจะไม่มีวันไปรักกับใครอีกแล้ว จริงๆแล้วเจ้าทัตสึมันก็ลองมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เฮ้ย~~ทำไมยัยนั้นถึงไม่ยอมล้มเลิกความคิดบ้าๆนั้นซะทีนะ
ตื้ดๆๆ
“ใครโทรมาฟ่ะ”ผมรับโทรศัพท์ทั้งที่ยังหงุดหงิดอยู่
“ไง ชีวิตมีความสุขขึ้นบ้างมั๊ย”
“สุขบ้าอะไร มีแต่ทุกข์สิไม่ว่า”
“งั้นหรอ ริวตะมันไม่มาขอทำอะไรกับแกบ้างเลยหรอ”
“ทำอะไร”
“ก็เรื่องที่สามีภรรยาเขาทำกันไง”
“แล้วมันคืออะไรล่ะ”
“นี่ ตกลงแกซื่อหรือไม่เข้าใจภาษายี่ปุ่นกับแน่ หรือฝรั่งเขาไม่ทำกับรึไง”
“งั้นก็บอกมาดิ ว่ามันคืออะไร”
“sexไง ไม่รู้จักหรอ”
“บ้ารึไงไม่มีทางหรอก ถึงจะขอยังไงก็ไม่มีวันยอมเด็ดขาด”
“จริงอะ”
“ก็จริงอะดิ ใครจะบ้ายอม ฉันไม่ได้หลงเสน่ห์เจ้านั้นขนาดนั้นซะหน่อย”
“เหรอ นี่เคยโดนจูบไปแล้วยังไม่คิดอะไรอีกหรอ”
“ก็เอ่อดิ ฉันขอบอกว่าโดนแค่นั้นอย่าหวังว่าฉันจะยอมให้มีอะไรด้วยหรอก ไม่มีวัน”
“งั้นฉันขอท้าให้นาย ทำให้ริวตะมาหลงให้ได้จะกล้าป่ะละ”
“ก็เอาดี๊ ถ้าได้เธอต้องทำการบ้านให้ฉันอาทิตย์หนึ่งนะเอามั๊ย” อิจิโกะตอบรับพลางยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ได้ งั้นแค่นี้ก่อนละกัน”ทัตสึพูดก่อนจะตัดสายไป
“ทำให้หลงงั้นหรอ งานยี่คงจะหนักเอาการแฮะ”อิจิโกะพูด พร้อมกับลุกขึ้นเดินกลับบ้านด้วยท่าทางที่อารมณ์ดีไม่น้อย
--------------------------------
“กลับมามีอะไร”ริวตะพูดหลังจากที่รู้สึกได้ว่าถูกกอด
“อะไรกันภรรยาแสนน่ารักกลับมาทั้งที อย่าพูดเหมือนว่าน่ารำคาญแบบนั้นสิ”อิจิโกะพูดด้วยเสียงออดอ้อนพลางทำแก้มป่องไปด้วย
“ทำอะไรของนาย ไปมีปัญหาอะไรกับใครมาอีกรึไง”
“เปล่าซะหน่อย”
“งั้นก็แล้วไป”ริวตะพูดพร้อมเดินออกจากอ้อมกอดอิจิโกะ
“ริวตะอ่ะ นาๆทีก็พาไปเดทหน่อยสิ อุตสาได้เป็นแฟนกันแล้วนะ”อิจิโกะพยายามขอร้องด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู
“เดทหรอ นี่นายพูดอะไรน่ะ”
“ก็เดทไง น้าพาฉันไปเดทหน่อยน้า”
“ก็ได้ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแล้วกัน”
วันรุ่งขึ้น
“นี่ริวตะตื่นได้แล้ว ไหนบอกจะพาออกไปเดทไง”
“อืม รู้แล้วน่า~~”ริวตะตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเรียกของฉัน
“เร็วสิ ลุกขึ้นมาอาบน้ำได้แล้ว”
“OK ก็ได้ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”ริวตะตอนพึ่งตื่นนี่ก็น่ารักดีน่ะ ถ้าเจ้านี่นิสัยดีแบบนี้ก็ดีสิ ถ้าเป็นแบบนั้นน่ะนะ ฉันจะตามจีบทุกวันเลยล่ะ ถ้าริวตะกลายเป็นเจ้าชายของฉันล่ะก็...
“นี่เป็นอะไรไปน่ะ หน้าแดงแบบนี้เป็นไข้รึเปล่า ถ้าเป็นฉันไม่พาไปแล้วนะ”เจ้านั้นพูดอะไรออกมาไม่รู้ฉันไม่ได้ฟังหรอก แต่ก็ได้สติอีกทีก็ตอนที่มือเจ้านั้นมาสัมผัสกับหน้าผากของฉันนั้นแหละ
“อ๊ะ!!!”ฉันตกใจและกระโดดถอยออกห่างจากเจ้านั้นในทันทีที่รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติของร่างกาย
“เป็นอะไรอีกเนี่ย ฉันแค่จะขอวัดไข้หน่อยเท่านั้นเอง”
“เปล่า มะ...ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะ”อ้า~~อะไรเนี่ย ฉันเป็นอะไรไป มะ...ไม่ได้อยากจะทำแบบนี่แต่ แต่ร่างกายกลับร้อนขึ้นมาตอนที่ถูกเจ้านั้นสัมผัส ฉัน ฉัน ฉัน ไม่น้า~~ ใครก็ได้หยุดความคิดของฉันตอนนี้ที ไม่น่าไปคิดภาพเจ้านั้นแบบนั้นเล้ยยย
ห้องน้ำ
ซ่าๆ
“นี่อิจิโกะอาบเสร็จยัง”เจ้านั้นเคาะประตูดังขึ้นเรื่อยๆแล้ว รอหน่อยไม่ได้รึไงกันนะ
“นี่”
“รู้แล้วน่า เคาะทำไมบ่อยๆล่ะเจ้าบ้า”ฉันออกมาโวยวายในทันที แต่ทำไมเจ้านั้นทำท่าทางแปลกๆเนี่ย เป็นบ้าอะไรของมันอีก แค่เมื่อกี้ให้ท่าหน่อยเดียว อย่าบอกนะว่าช็อคไปเลย!?!
“นี่เป็นอะไรของนายน่ะ”ฉันก็ยังงงอยู่ดีว่าเจ้านั้นเป็นอะไรถามเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ จนฉันชักทนไม่ไหวกะจะตบสักป้าบแต่ บ้าเอ้ยได้สติซะงั้น
“ทะ...ทำไม แกไม่ใส่ชุดล่ะ”เจ้านั้นตะโกนออกมา
“นี่แค่ไม่ใส่ชุดมันจะอะไรกันนักกันหนา ก็ผู้ชายเหมือนกัน หรือหุ่นของฉันมันเป็นอันตรายต่อสายตานายรึไง”
“ก็ใช่น่ะสิ ในเมื่อรู้แล้วก็รีบไปใส่ชุดซะ!”เจ้านั้นตอบโดยที่หันหลังคุยกับฉัน
“ก็...ได้”ฉันกระแทกเสียงออกไปด้วยความไม่พอใจ ก็แหงล่ะ ใครจะไปทนไหวกับการที่ต้องอยู่กับผู้ชายเรื่องมากแบบนี้!
“เสร็จซะที รีบไปกันเถอะ”
“เดี๋ยวสิเก็บเสื้อผ้าสำหรับ 2 คืนใส่กระเป๋าไปด้วยนะ แล้วก็แปรงสีฟันของใช้ประจำวันไปด้วยนะ แล้วโทรศัพท์ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาไปหรอกนะเพราะยังไงก็ใช้ไม่ได้อยู่แล้ว ไฟฉายเอาไปก็เตรียมถ่านสำรองไปด้วย แล้วอย่างอื่นที่เหลือเดี๋ยวฉันเตรียมไปเอง เอ๊า! มัวทำอะไรอยู่ล่ะรีบไปเก็บของสิ”ริวตะยืนงงอยู่สักพักก็ต้องรีบเดินไปเก็บของเพราะคำสั่งของฉัน
พอเสร็จฉันก็จับมือริวตะเปิดประตูบ้านออกไปทำให้เราได้พบกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย
“อ้า ฝนตกซะแล้วสิ”ฉันพูดออกมาด้วยความเสียใจเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวฉันไปเอาร่มเอง”ริวตะเดินไปคว้าร่มที่อยู่ข้างประตู
“เอ๊ะ! มีอยู่คันเดียวหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ อีกคันก็โดนหมานายคาบหายไปแล้วนี่”
“ช่างเถอะ ยังไงก็ไปกันได้แล้วล่ะ”ฉันเร่งริวตะให้รีบออกจากบ้าน ก่อนที่เจ้านั้นจะรื้อความทรงจำเก่าออกมาเสวนา
------------------------------------
“ว้าว~~ ป่าตอนฝนตกนี่สวยสุดๆไปเลยนะว่ามั๊ย”
“หรอ แต่ฉันว่าดูน่ากลัวมากกว่าสิไม่ว่า”
“น่ากลัวอะไรกัน!!”ฉันตะคอกใส่ริวตะด้วยความโมโห คนอะไรอ่ะ ไม่มีจินตนาการเลย
“จริงๆเวลาไปเดทคนปกติจะไปสวนสนุก ไม่ก็โรงหนังไม่ใช่หรอ แล้วนี่นายพาฉันมาป่าเนี่ยนะ แล้วยังให้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วยอย่าบอกนะ ว่าจะให้มา...”
“ใช่ก็พามาค้างแรมไง”ฉันพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับรีบจูงมือริวตะเดินเข้าไปในป่าลึกขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่สนแล้วว่าตัวจะเปียกรึเปล่า ก็แหงล่ะที่พามาก็เพราะจะยั่วริวตะให้หลงฉันถ้าทำให้ร่างกายฉันดูเซ็กซี่ขึ้นมันก็ยิ่งดีไม่ใช่หรอ
“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนเนี่ย”
“ก็แหม นานๆที่จะได้ออกมาอยู่ตามลำพังสองต่อสองแบบนี้ มันหาโอกาสได้ยากมากเลยน๊า ก็เลยทำให้ฉันตื่นเต้นนิดหน่อยน่ะ”ฉันพูดไปยังงั้นแหละจริงๆก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่ว่าถ้าทำให้ริวตะมาหลงฉันได้อีกคนล่ะก็ แหมคงจะสนุกน่าดูเลยนะ อิๆ
“นี่ยิ้มอะไรของนายน่ะ ดูน่ากลัวเป็นบ้าเลย”
“อ่อ เปล่าหรอก”
“ก็ดี ฉันเห็นนายยิ้มแบบนี้ที่ไร มันต้องมีเรื่องร้ายๆเกินขึ้นทุกทีเลย”
“บ้าน่า มองโลกในแง่ดีหน่อยซี๊”
“เอาล่ะ นี่ก็มืดแล้ว งั้นเราพักตรงนี้กันเลยแล้วกัน”ริวตะพูดขึ้น
“ก็ได้ ถ้าอย่างงั้น ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนล่ะกัน เมื่อกี้ฉันเห็นแอ่งน้ำอยู่ตรงนู้นน่ะ” ฉันพูดพร้อมกับเตรียมเสื้อผ้าแล้วเดินจากไป โดยที่ฉันจงใจลืมผ้าขนหนูเอาไว้
“นี่แล้วเร็วๆกลับมาล่ะ”
“อืม”
“ทำไมมันอาบน้ำนานจังว่ะ”ผมบ่นออกมา ก็แหงล่ะจะไม่ให้บ่นได้ไงก็เจ้านั้นน่ะทำตัวยังกะเด็กอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ต้องเป็นผมตลอดที่ต้องตามมาดูแลมัน
“ริวตะ~~”
“เรียกทำไมอีกเนี่ยปัญหามีตลอด จะให้ฉันหยุดพักบ้างไม่ได้รึไง”ผมบ่นออกมา แต่ก็ต้องจำใจเดินไปหามัน
“มีอะไรอีกล่ะ”
“ฉันลืมผ้าขนหนูอ่ะ ไปเอาให้หน่อยดิ”
“เอ่อๆ”ผมเดินไปเอาผ้าขนหนูในกระเป๋า แล้วก็ต้องเดินกลับมาเอาผ้าขนหนูให้มันอีก นี่ผมเป็นทาสมันหรือยังไงเนี่ย
“เอ้า ผ้า”
“อืม ขอบใจนะ”เจ้านั้นพูด พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็ว ส่วนผมก็นั่งหันหลังให้มันคิดอะไรไปเรื่อยๆแต่ก็หยุดคิดถึงร่างเปลื่อยของเจ้านั้นไม้ได้ บ้าน่านี่ฉันบ้าไปแล้วรึไงกันเนี่ย
“ริวตะเป็นไรน่ะหน้าแดงไปหมดเลย”เจ้านั้นเข้ามากอดคอผมแล้วถามอะไรไม่รู้แต่ที่รู้ๆอยู่ก็คือทำไมขามันขาวจังว่ะ>///<ไม่ทันที่ผมจะทำอะไรต่อ อยู่ดีๆเลือดมันก็ไหลออกมาจากต้นคอผมซะงั้น เจ็บ มันเจ็บไปทั้งตัว จะขยับก็ไม่ได้นี่มันอะไรกัน
“อ๊า~~ เลือดหวานดีนี่ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าฉันก็มีของดีอยู่ข้างๆเหมือนกัน”เจ้านั้นพูดออกมาเสียงที่ได้ยินอยู่ทุกวันจนชินหู แต่ตอนนี้มันกลับฟังดูน่ากลัวจนแปลก ผมเพิ่งสังเกตที่นิ้วมันเล็บมือสีดำยาวแหลมคม น่ากลัวชะมัด เจ้านี่มันเป็นตัวอะไรกัน
“เอ๊~~ ตัวอะไรน่ะหรอ ก็....แวม...ไพร์...ไง!”เจ้านั้นกระซิบข้างหูผม คำตอบที่ผมถามในใจ ยังกะว่ามันรู้ทุกอย่างผมคิดงั้นแหละ!!!
“ก็ใช่น่ะซี๊ฉันรู้ทุกอย่างที่นายคิดโดยการสัมผัส เยี่ยมไปเลยใช่มั๊ยล่ะ ฉันน่ะชอบความสามารถแบบนี้สุดๆไปเลยล่ะ”เจ้านั้นลุกขึ้นแล้วตะโกนออกมา “แล้วก็นะตอนนี้ฉันก็อยากจะได้แวมไพร์มารับใช่อีกตนแล้วสิ”พูดออกมาพร้อมกับหัวเราะ น่ากลัว น่ากลัวเป็นบ้าเลย นี่ฉันต้องกลายเป็นแวมไพร์จริงๆงั้นหรอ อยู่ๆสติก็เริ่มจะไม่อยู่กับที่ ผมสลบลงไปนอนกับพื้น ผมไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งสิ้นแล้วตอนนี้ คิดแค่ว่าอยากจะให้เรื่องตอนนี้เป็นความฝันซะคงจะดี...
ความคิดเห็น