ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic]the wars and love [KyuMin ft. kihae]

    ลำดับตอนที่ #5 : เดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 53


    Part 4 :

    “งานง่ายๆแค่นี้ พวกแกยังทำไม่ได้รึยังไง!!”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของจักรพรรดิแห่งโอเธคอสดังขึ้นทันที เมื่อรับรู้ถึงความล้มเหลวกับเรื่องง่ายๆที่ลูกน้องของเขาทำไม่ได้

    “กะ กะ กระผมต้องขอภัยจริงๆครับ พวกเราได้ตัวมาแล้ว แต่พวกเซเธรอส มันดันมาขัดขวางซะก่อน”น้ำเสียงที่สั่นเทาของผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปนำตัววองมินมากล่าวตอบ

    “ไม่มีคำแก้สำหรับคนที่พ่ายแพ้” สิ้นคำ ลำแสงสีม่วงจากปลายกระบอกปืนในมือของฮยอนซอกก็พุ่งไปยังร่างของผู้ที่ได้รับคำสั่งให้ไปนำตัวซองมิน ทันทีที่ลำแสงนั่นกระทบกับร่างนั้นก็กลายเป็นฝุยผงในพริบตา

    “ยังโหดร้ายเหมือนเดิมนะครับท่าน”เสียงของผู้ที่เดินเข้ามภายในห้องกล่าวขึ้น

    “หุบปากของแกไปซะ เซเธอร์!!” ฮยอนซอกกล่าว กับนักรบผู้ที่เป็นมือขวาของเขา

    “คร้าบบบ ท่าน”

    “แล้วเจ้าทาโอะคู่หูของแกไปไหนแล้วล่ะ”

    “ไม่รู้สิครับ คงจะไปอยู่ที่เดียวที่มันชอบไปนั่นแหละครับ”

    “งั้นรึ” ฮยอนซอกลุกขึ้นเดินไปยังหน้าต่างมองไปยังภาพเมืองใหญ่ที่ทุกพื้นที่แออัดไปด้วยตึกระฟ้ามากมาย บนดวงดาวของเขา ดวงดาวที่เขาเป็นจักรพรรดิแห่งนี้

    …..

    ….

    ..

    .

    “แล้วเซเธรอส คืออะไรอ่ะ”ซองมินเอ่ยถามคยูฮยอนที่พาเขาเดินทัวร์คฤหาสห์ตามคำขอของร่างเล็กที่อย่างสำรวจรอบๆ พูดขึ้นด้วยความสงสัยในสิ่งที่คยูฮยอนเล่าระหว่างที่เดิน

    “เซเธรอส คือกลุ่มจักรวัติเก่าแก่ เป็นอยู่ในกาแล็กซี่นอร์ท จักรวัติของเราได้ชื่อว่าเป็นจักรวัติแห่งสันติ แต่อยู่มาวันหนึ่ง ฮยอนซอก มือขวาของท่านจักรพรรดิ  เจ้าคนทรยศมันได้ทำการก่อสงครามกลางเมืองโดยใช้พวกของมันที่ซ่องซุมไว้และได้แบ่งแยกตัวเองตั้งเป็นอีกอาณาจักร คือ โอเธคอส ครับ”

    “ไอ้พวกที่ตามล่าเราใช่ป่ะ”

    “ครับ”

    “เออนี่คยูฮยอนเลิกพูดกับเราว่าครับกับเราได้แล้วนะไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ เรารู้สึกยังไงไม่รู้ พูดแบบปกติได้ป่ะ”

    “เออ..”

    “นะ นะ เรียกเค้าว่าซองมิน เฉยๆนะ”ซองมินส่งเสียงอ้อนพร้อมสายตาบ๊องแบ๊ว ทำให้อีกฝ่ายเกิดอาการค้างไปชั่วขณะ

    “เออ ดะ ได้สิ ซองมิน”คยูฮยอนพูดออกมาทำให้อีกคนยิ้มกว้าง

    “คิบอมก็เป็นนักรบเหมือนนายใช่ป่ะ”

    “ใช่ คิบอมนะเป็นนักรบที่เก่งพอตัวเลยล่ะ ทักษะในการบินและการยิงสูงมากกว่าผมอีก ”

    “นายก็เก่งออก”

    “ถ้าเรื่องยิงปืนกับบินล่ะก็ผมยังเป็นรองเจ้านั่นอยู่ แต่ถ้าเรื่องดาบล่ะก็ผมไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว” ซองมินหัวเราะคิๆเบาๆ เพราะท่าทางของคยูฮยอนที่ทำท่าฟันดาบไปมา  คยูฮยอนหันไปมองคนข้างๆอีกครั้งรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสดใส ทำให้คยูฮยอนจ้องมองจนลืมตัว

    “หน้าเรามีอะไรติดเหรอ”ซองมินเอามือปัดหน้าตัวเองเพราะคิดว่าคยูฮยอนจ้องหน้าตัวเองเพราะมีอะไรติดอยู่

    “เออ.. ปะ เปล่า”คยูฮยอนที่โดนจับได้ว่าจ้องมองใบหน้าสดใสนั่นอยู่รีบพูดแก้ ก่อนที่ทั้งคู่จะมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่งซึ่งตอนนี้ภายในห้องกำลังเกิดสงครามกันเล็กน้อย

    “คิมคิบอม นายช่วยเก็บหนังสือให้มันเป็นระเบียบหน่อยได้มั้ย เห็นมั้ยเนี๊ยว่าฉันกำลังทำความสะอาดอยู่”เสียงโวยวายของทงเฮดังลอดออกมาจากอีกฝั่งของประตู คยูฮยอนและซองมินค่อยๆเปิดประตูเข้าไปก็เห็นภาพที่คนหนึ่งเดินตามเก็บหนังสือที่อีกคนดึงออกมาเลือกดูแล้ววางมันทิ้งไว้ตรงนั้น ทงเฮเดินบ่นไปเก็บไปซึ่งอีกคนดูเหมือนจะไม่สนใจซักนิด

    “เป็นอะไรรึเปล่าทงเฮ ฉันได้ยินเสียงดังออกไปข้างนอกน่ะ”ซองมินที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมคยูฮยอนเอ่ยถามเพื่อนที่กำลัดจัดหนังสืออยู่

    “ก็อีตาแก้มบวมนี่สิดึงหนังสือมาดูแล้วก็ไม่เก็บเข้าที่เดิม”ทงเฮบอกกับซองมินด้วยสีหน้าหน่าย

    “แล้วใครใช้ให้เธอมาเดินตามเก็บล่ะ”คิบอมที่กำลังเลือกหนังสือพูดกลับ

    “ชิส์”ทงเฮยกไม้ปัดฝุ่นทำท่าจะตีคิบอมด้วยความรำคาญแต่เขาก็ไม่ได้ฟาดมันลงไป คยูฮยอนยืนหัวเราะคิคิกับซองมินกับท่าทางของทงเฮและคิบอม

    “เออนี่ด๊อง เราถามไรหน่อยสิ ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้อ่ะ”ซองมินเอ่ยถามเพื่อนของตนกับข้อสงสัยของเขา

    “นี่คือบ้านหลังนั้นหลังที่เราต้องมาดูแล ตระกูลของเราได้รับมอบหมายจากท่านจักรพรรดิให้ดูแลบ้านหลังนี้น่ะ”ทงเฮกล่าวตอบซองมิน

    “งั้นด๊องก็รู้จักคยูฮยอนกับคิบอมน่ะสิ”

    “เปล่าเลย พวกเราเพิ่งรู้ว่าทงเฮก็เป็นอีกคนที่รู้เรื่องขององค์ชาย”คยูฮยอนหันไปตอบคำถามแทนทงเฮ

    “และรู้ดีซะทุกเรื่องด้วย”คราวนี้เป็นคิบอมที่เสริมขึ้น ทำให้ทงเฮแทบอยากจะฟาดไม้ปัดฝุ่นลงบนหัวของเจ้าคนกวนประสาทนั่น

    ‘ติ๊ด ติ๊ด’ เสียงโทรศัพท์ของคยูฮยอนดังขึ้น ร่างหนากดรับก่อนจะหันไปพูดกับทงเฮ ซองมิน และคิบอม

    “ถึงเวลาเดินทางแล้วล่ะ”

    …..

    ….

    ..

    .

    “นี่เราจะไปไหนกันอ่ะ”เสียงร้องถามของร่างเล็กที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเอ่ยถามร่างสูงของคยูฮยอนที่กำลังเดินไปตามทางยาว โดยมีคิบอมและทงเฮเดินตามมาติดๆ

    “เราจะไปเซเธรอสกันครับ”

    “เซเธรอส ? แล้วเราจะไปยังไงอ่ะ” ซองมินถามต่อด้วยความงุนงง เซเธรอส อาณาจักรที่คยูฮยอนเล่าให้เขาฟัง ซึ่งก็ไกลจากโกลมากแล้วจะไปยังไงกัน

    “ไปด้วยไอ้นี่ยังไงล่ะครับ” ประตูไม้บ้านใหญ่หลังงามถูกเปิดออก ปรากฏให้เห็นยานลำใหญ่สีเงินวาว ซองมินอ้าปากค้างทันทีที่เห็น เขาไม่คิดเลยว่าจะมีสิ่งแบบนี้อยู่ภายในบ้านหลังนี้ด้วย เคยเห็นแต่ในภาพยนตร์ ได้มาเห็นแบบของจริงก็วันนี้แหละ คยูฮยอนเดินนำซองมินไปยังทางขึ้นใต้ลำตัวยาน สะพานสีเงินถูกย่อนตัวลงมาก่อนจะปิดคืนเมื่อทั้งสี่เข้าไปอยู่ภายในตัวมันเรียบร้อย คยูฮยอนและคิบอมเดินมุ่งไปยังห้องควบคุมทันที โดยมีร่างของซองมินและทงเฮเดินตามไป

    “นั่งประจำที่เลยนะครับแล้วรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย พวกเราจะออกเดินทางกันแล้ว”คยูฮยอนหันไปกล่าวกับร่างเล็ก ซองมินเดินไปนั่งยังเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ ก่อนจะจัดการรัดเข็มขัดให้แน่น หลังคาของคฤหาสห์ค่อยๆเปิดออกพร้อมกับยานลำใหญ่ที่ค่อยๆลอยขึ้นก่อนจะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ซองมินหลับตาปี๋เพราะด้วยความเร็วและบวกกับไม่เคยนั่งแม้กระทั่งเครื่องบินทำให้ร่างเล็กเกิดอาการเวียนหัว ซองมินค่อยๆลืมตาขึ้นมาเมื่อสัมผัสได้ว่าเข็มขัดที่เขารัดไว้นั้นค่อยๆหลุดออก ร่างเล็กมองคนเบื้องหน้าที่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

    “ไม่เป็นไรแล้วครับตอนนี้พวกเราเดินทางออกจากโลกมาแล้ว”คยูฮยอนพูดขึ้นหลังจากก้มลงไปปลดเข็มขัดให้กับร่างเล็ก ซองมินลุงขึ้นออกไปมองนอกลำตัวยานผ่านหน้าต่างด้วยความตื่นเต้น

    “ว้าว~ นั่นดาวเสาร์นิ สวยจัง”ซองมินร้องขึ้นทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้าโดยมีคยูฮยอนยืนอยู่ข้างๆ แต่ดูเหมือนจะผิดกับอีกคู่

    “โอ๊ย!คิบอมหลบหน่อยเซ่ ฉันจะดูบ้าง”

    “อะไร ก็ดูสิ”

    “ก็นายบังฉันอยู่อ่ะ ฉันอยากดูบ้างหลบหน่อยซี่”ทงเฮพูดพลางดึงคิบอมที่ยืนอยู่หน้ากระจกจนคนตัวเล็กมองไม่เห็น

    “ด๊องมาดูกับเราก็ได้”ซองมินเห็นเพื่อนขอตนกับลังยื้อยุดแขนของร่างหนาที่ดูเหมือนแมวน้อยกำลังดึงแขนราชสีห์ก็อดยิ้มไม่ได้เลยเรียกให้มาดูกับตนแทน ทงเฮจิ๊ปากใส่คิบอมก็จะสะบัดหน้าเดินไปไปหาซองมิน ทงเฮจ้องมองออกไปด้วยความตื่นเต้นแต่แล้วภาพตรงหน้าก็มืดสนิทไป ร่างบางยืนมองด้วยความสงสัย ก่อนจะได้คำตอบจากร่างหนาที่เพิ่งกดปุ่มบางอย่างเมื่อสักครู่

    “มองไปก็ไม่เห็นอะไรหรอก ตอนนี้เข้าระบบความเร็วแสงแล้ว” ทงเฮหันมามองหน้าอมลมด้วยความขัดใจ ก่อนจะเดินหนีไป ทำไมต้องมาแกล้งเราอยู่เรื่อยเลย

    “แกก็ไปแกล้งเขา ดูดิงอนไปแล้วนั่น ความจริงยังไม่ต้องเข้าโหมดความเร็วแสงก็ได้”คยูฮยอนพูดและยิ้มน้อยๆออกมา อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรเพียงแค่กระตุกยิ้มและหยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะปิดหนังสือแล้วเดินออกไป

    ซองมินขำกับเหตุการณ์เมื่อครู่เพราเขาดูแล้วว่าคิบอมคงจะแค่แกล้งเพื่ิอนสนิทของเขาเท่านั้น

    “คยูฮยอนอีกนานมั้ยอ่ะกว่าจะถึง”ร่างเล็กหันไปถามอีกฝ่าย

    “ประมาณ48ชม.น่ะครับ เพราะเซเธรอสอยู่ไกลจากโลกพอสมควร”คยูฮยอนหันไปตอบพลางยิ้มให้

    “แล้ว…”

    ‘โครมม!!!!!!’ ยังไม่ทันที่ซองมินจะพูดต่อเสียงหนึงก็ดังมากจากส่วนด้านหลังของตัวยาน ทำให้ทั้งคู่ต้องรีบวิ่งไปดูทันที

    “โอ๊ย!! ลุกขึ้นไปเดี๋ยวนี้นะ!!”

    “จะลุกได้ไงเล่าไม่เห็นรึไงว่าโต๊ะทับฉันอยู่ แล้วใครใช้ให้นายดึงฉันลงมาด้วยล่ะ”

    เสียงร้องโวยวายของทงเฮและคิบอมดังมาจากภายในห้องครัว ซองมินและคยูฮยอนยืนมองเหตุการณ์อย่างงงๆเพราะตอนนี้สภาพห้องครัวนั้นดูเหมือนพึ่งเกิดสงครามมา โต๊ะกินข้าวที่เต็มไปด้วยอาหารถูกพลิกลงมาทับอยู่บนร่างหนาของคิบอมซึ่งนอนทับร่างบางของทงเฮอยู่

    “เกิดอะไรขึ้นน่ะ”ซองมินเอ่ยถามขึ้นก่อนจะเข้าไปช่วยคยูฮยอนยกโต๊ะออกจากหลังของคิบอม

    “ก็ไอ้บ้านี่สิ เราจะปีนเอาขวดกาแฟบยชั้นแต่ดันมาขวางทางไม่ให้เราเอาเก้าอี้ไปวางข้างหน้า โอ๊ย”

    “แล้วด๊องก็เลยเอื้อมไปหยิบแล้วเสียหลัก”ซองมินเสริมซึ่งทงเฮก็พยักหน้าตาม

    “แล้วดึงฉันลงไปด้วยนี่นะแถมยังเตะโต๊ะคว่ำจนมันทับฉันอีก”คิบอมเสริมขณะที่เช็ดคราบอาหารที่หล่นมาใส่เขาพร้อมกับเจ้าโต๊ะนั่น

    “ก็นายไมไม่หลบฉันล่ะ”

    “หลบแล้ว เธอซุ่มซ่ามเอง เตี้ยก็งี้”คำพูดของคิบอมดูเหมือนจะไปสะกิตโดนต่อมสติแตกของร่างบางเข้า

    “ห๊า!! ว่าใครเตี้ยนะ ย๊ากกกกตายซะเถอะคิมคิบอม!!!”ทงเฮลุกขึ้นอาละวาดพร้อมคว้าเอากะทะที่อยุ่ใกล้มือไล่ฟาดคิบอมที่กำลังวิ่งหนีร่างบางอยู่

    จนซองมินและคยูฮยอนต้องไปห้ามทัพไว้

    “พอแล้วๆ นายก็ไปกวนเขา คิบอม”ซองมินรีบคว้าตัวทงเฮไว้ ก่อนจะหันไเอ็ดคิบอมเล็กน้อย

    “ไปอาบน้ำเถอะดูดิ๊ ตัวเปื้อนหมดแล้ว”ซองมินบอกกับเพื่อนรัก ทงเฮหันไปมองหน้าอย่างเอาเรื่องกับคิบอมแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้กลัวเลยซักนิด  ก่อนจะเดินปึงปังออกจากห้องครัวไป สุดท้ายก็มีซองมินและคยูฮยอนช่วยกันเก็บห้องครัว

    ..

    .

    เวลาผ่านไปหลายชม.หลังจากทานอาหารเสร็จซองมินก็เดินเข้ามาภายในห้องเพื่อพักผ่อน การเดินทางครั้งแรกของเขาทำให้ร่างเล็กอ่อนล้า คยูฮยอนเดินเข้ามาภายในห้องพักก่อนจะมองเห็นร่างเล็กที่หลับสนิท ร่างสูงนั่งลงข้างๆเตียงก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมา

    “ฝันดีนะครับดวงใจของผม”

    กาลเวลาเคลื่อนย้ายไปการผจญภัยกำลังจะเริ่มขึ้นพร้อมกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นแต่คยูฮยอนคนนี้ขอปกป้องซองมินตลอดไป


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×