ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic]the wars and love [KyuMin ft. kihae]

    ลำดับตอนที่ #4 : ความจริง

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 53


    Part 3 :

    “ไม่ให้เราไปเป็นเพื่อนจริงๆเหรอ”ทงเฮที่พยายามพูดกับซองมินเพื่อที่ขาจะได้เดินไปเ็นเพื่อนด้วยเพราะเกรงกลัวถึงคำเตือนที่บอกว่าซองมินกำลังถูกตามล่า

    “ไม่เป็นไรหรอก แค่ซื้อของที่ซุปเปอร์เอง ไม่มีอะไรน่าห่วง ด๊องรีบกลับไปทำงานของด๊องดีกว่า”

    “แต่ว่า…”

    “เอาน่า เราไปได้ ด๊องอ่ะแหละรีบไป ต้องไปทำงนดูแลบ้านหลังนั้นนิ”

    “อือ ก็ได้ ระวังตัวด้วยนะ”ทงเฮมาพูดหันพูดกับซองมินเพราะด้วยความเเป็นห่วงเพื่อน ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปยังบ้านที่เขาได้รับมอบหมายให้ดูแล

     

    ซองมินเมื่อแยกจากทงเฮแล้วก็เดินมุ่งไปยังซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆก่อนจะออกมาพร้อมถุงที่เต็มไปด้วยของใช้และอาหารทั้งสองมือ

    ท้องฟ้าในตอนนี้มืดสลัวเมื่อแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป สายลมพัดกิ่งไม้เอนไหว ไฟข้างๆทางเริ่มกระพริบ ซองมินเดินอยู่ตรงทางเดินเพียงลำพัง เขารู้สึกได้ว่าตอนนี้กำลังมีบางสิ่งตามเขาอยู่ ซองมินเร่งฝีเท้ามากขึ้นจนเหมือนเกือบจะวิ่ง

    ‘ตุบ!’ เสียงของในมือทั้งสองหล่นลงกระทบกับพื้นข้างล่าง ชายปริศนาราว 6 คนในชุดคลุมยาวสีดำ พร้อมกับผ้าปิดปากสีดำและสัญลักษณ์แปลกที่พวกเขาห้อยอยู่ที่คอ

    “พวก กะ กะ แก เป็นใคร ต้องการอะไร”ซองมินเอ่ยถามหนึ่งในชายปริศนาที่กำลังล็อกคอเขาจากด้านหลัง

    “หุบปากแล้วไปกับพวกเรา! ท่านจักรพรรดิรอเจ้าอยู่”น้ำเสียงที่เย็นเฉียบฟังแลดูไร้ซึ่งความปราณีถูกเอ่ยออกมาจากชายผู้ที่ล็อกเขาอยู่

    “จักรพรรดิบ้าบออะไรของแกฉันไม่ไปโว้ย ปล่อย!!”ซองมินดิ้นร้นทุกทางเพื่อจะให้ตัวเองหลุดพ้น

    ‘ฉึก!’เสียงเข็มที่บรรจุสารบางอย่างถูกฉีดเข้าไปที่ต้นคอเขา ร่างของซองมินร่วงลงพื้นทันที

    “เฮ้ย! นำตัวไปที่ยาน”ชายปริศนาที่ล็อกตัวซองมินไว้เมื่อครู่กล่าวออกคำสั่งกับคนที่เหลือ  แต่ยังไม่ทันที่คนที่ได้รับคำสั่ง

    จะเข้าถึงตัวซองมิน พวกเขาก็ต้องหยุดเพราะเสียงเสียงหนึ่ง

    “พวกแก ห้ามแตะต้ององค์ชายถ้ายังอยากมีเงาอยู่ที่หัวของพวกแก!!”

    “เฮ้ย แกเป็นใครว่ะ”

    “อยากรู้ก็เข้ามาสิ”ชายหนุ่มเจ้าของเสียงปริศนากล่าวเย้ยยั้น

    “อวดเก่งดีนักนะ เฮ้ย จัดการมัน!” สิ้นเสียงคำสั่ง ชายปริศนาในชุดคลุมยาวสีดำก็พุ่งเข้าใส่อีกฝ่าย ชายหนุ่มเจ้าของเสียงปริศนาดึงดาบเล่มยาวที่ถูกซ่อนไว้ออกมา ลำแสงสีเขียวสะท้อนให้เห็นถึงความแหลมคมของคมดาบ ก่อนที่มันจะถึงฟาดฟันไปที่ร่างทั้งสองของอีกฝ่าย

    “ดาบฟอส-วิส แกคือ…โจวคยูฮยอน นักรบแห่งเซเธรอส”ชายหนุ่มผู้ออกคำสั่งพูดขึ้นทันทีที่เห็นดาบและการต่อสู้ของคยูฮยอน นักรบที่กล่าวกันว่าความไวและฝีมือดาบนั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก

    “ใช่ ว่าแต่แกใช้มือข้างไหนนะที่แตะต้องตัวองค์ชาย ”คยูฮยอนพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์และน่ากลัว พร้อมกับมองไปที่มือที่ถือเข็มของฝ่ายตรงข้าม

    “ขวาล่ะสิ งั้นข้าขอล่ะกัน!”สิ้นเสียงคยูฮยอนก็เข้าประชิดตัวฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับตวัดดาบไปที่แขนขวาข้างนั้น แต่ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะใช้ความว่องไวหลบได้ทันแต่เขาต้องสูญเสียข้อมือขวาไป

    “อ๊ากกก!!!”เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของอีกฝ่ายที่เพิ่งถูกตัดมือทิ้งไป ชายในเสื้อคลุมยาวสีดำที่เหลือต่างวิ่งมาดูหัวหน้าของตนก่อนจะพาร่างของหัวหน้าหายไปอย่างรวดเร็ว

    คยูฮยอนเก็บดาบแล้วจึงรีบวิ่งมาดูซองมินที่ตอนนี้นอนหมดสติอยู่ เขาตรวจชีพจรและดูบริเวณที่ซองมินโดนชายในเสื้อคลุมยาวสีดำนั้นฉีดสารบางอย่างลงไป

    “สารมอสซอล ชิส์! ไม่ได้การแล้ว!”คยูฮยอนพูดขึ้นอย่างตกใจทันทีที่เห็นบริเวณที่ถูกฉีดสารเข้าไปเริ่มออกเป็นสีน้ำเงิน เขาช้อนร่างเล็กขึ้นมาก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็วภายในความมืด

    …….

    …..

    ….

    ..

    .

    ร่างของซองมินเริ่มค่อยๆรู้สึกตัว ซองมินค่อยลืมตาเพื่อปรับโฟกัส เขารู้สึกมึนหัวและเจ็บแปลบที่บริเวณด้านหลังของต้นคอ เขามองสำรวจรอบๆนอนที่เขาอยู่ ประตูบ้านใหญ่สีดำตั้งอยู่เยื่องกับเตียงที่เขานอนอยู่ มันเป็นห้องนอนสีดำมุมห้องมีเก้าอี้โซฟาสีขาว เตียงนอนขนาดใหญ่สีดำขลับ หมอนและผ้าห่มขนมิ้งค์สีน้ำตาลแสนนุ่ม ซองมินมองไปรอบๆก่อนจะมาสะดุดกับโคมไฟข้างเตียง ‘ใครมันอุตริเอาหัวกระโหลกมาเป็นโคมไฟเนี๊ย- -“ ’

    ‘แอ๊ด~’

    เสียงเปิดประตูแสดงให้รู้ว่าตอนนี้มีบางคนกำลังเข้ามาในห้อง

    “องค์ชายตื่นแล้วเหรอครับ”เสียงกล่าวทักของผู้ที่เข้ามาภายในห้อง

    ซองมินมองไปที่ประตูโดยทันทีก่อนที่จะยิ้มและร้องตะโกนออกมา “ด๊อง!”

    "ด๊องที่นี่มันที่ไหนกัน?"ซองมินเอ่ยถามทงเฮที่ก้มทำความเคารพเขาและเดินเข้ามาพร้อมกับถาดที่มีถ้วยที่บรรจุอาหารสีทองวางอยู่

    "ที่นี่คือคฤหาสน์พอร์สครับ เป็นฐานบังคับการบนโลกของเซเธรอส"ทงเฮกล่าวตอบขณะนำอาหารวางไว้ที่โต๊ะปลายเตียง

    “เซเธรอส? มันคืออะไรอ่ะ แล้วฐานบังคับการนี่มีไว้ทำไมกัน แล้วทำไมต้องเรียกเราว่าองค์ชายด้วย แล้วทำไมด๊องตรงยืนไกลเราขนาดนี้ด้วยอ่ะ??”คำถามมากมายถูเอ่ยออกมา ทงเฮที่ยืนอยู่ๆไม่ตอบ แต่เพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น

    “ทานอาหารก่อนเถอะครับ อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย องค์ชายพึ่งจะได้รับการรักษามา ไม่ต้องห่วงนะครับอยู่ที่นี่องค์ชายจะปลอดภัย”

    ซองมินเอื้อมมือจะไปดึงทงเฮมานั่งข้างๆแต่เขาก็คว้าได้แค่เพียงลมเท่านั้นเพราะทงเฮรีบขยับตัวหนีก่อน ซองมินขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่เข้าว่าทำไม จู่ๆทงเฮถึงทำตัวห่างเหินกันแบบนี้

    “ด๊องทำไมไม่มานั่งคุยกะนล่ะ จะหลบเราทำไม”

    “ผมเป็นแค่คนดูแลคฤหาสน์ มิควรไปนั่งข้างองค์ชายหรอกครับ”

    “ด๊องอย่าทำแบบนี้สิ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ไม่เอานะ!”ซองมินพูดออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้นและน้ำตาที่เริ่มคลอ ทงเฮไม่รู้ว่าจะทำยังไง ใจก็อยากจะเข้าไปนั่งคุยข้างและกอดเพื่อนคนนี้ด้วยความห่วงใย แต่นั่นมันเมื่อก่อน เพราะตอนนี้สถานะมันได้เปลี่ยนไป

    “ถ้าเราคือองค์ชาย ฮึก เราของสั่งให้ด๊องพูดคุยและเป็นแบบเดิมกับเรา ไม่มีคำว่าองค์ชายและผู้ดูแลคฤหาสน์อะไรทั้งนัั้นมีแต่ทำว่าทงเฮเป็นเพื่อนของซองมิน”

    ทงเฮได้ฟังก็เดินเข้ามาโผลเข้ากอดซองมิน

    “ซองมินรู้มั้ยฉันเป็นนายห่วงมากขนาดไหน ฮือๆ ฉันไม่น่าให้ซองมินไปคนเดียวเลย”ทงเฮพูดพร้อมทั้งร้องไห้กอดเพื่อนรักแน่น

    “ตอนนี้เราไม่เป็นไรแล้ว ด๊องอย่าร้องไห้สิ เดี๋ยวไม่น่ารักน้า~” ทงเฮฟังแล้วก็ยิ้มพร้อมทั้งเอามือปาดน้ำตาตัวเอง

    “แล้ว ทำไมเรียกเราว่าองค์ชายล่ะ เราก็เป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดาเท่านั้นเอง”

    “ก็คือ…”ยังไม่ทันที่ทงเฮจะตอบ เสียงนึงก็ชิงตอบเสียก่อน

    “เพราะท่านคือทายาทผู้สืบเชื้อสายเลือดบริสุทธิ์คนสุดท้ายแห่งอาณาจักรเอสเธอมีนอส อาณาจักรในตำนานที่หายไป”

    “คะ..คะ..คยูฮยอน!”

    “ครับ ผมคยูฮยอน นักรบแห่งเซเธรอส” คยูฮยอนพูดพร้อมทั้งก้มหัวทำความเคารพด้วยท่าทีที่ดูสง่าอย่่างยิ่ง

    ซองมินได้ฟังยิ่งไม่เข้าใจมากกว่าเดิม

    “นี่อธิบายหน่อยสิ เราไม่เข้าใจ -*-?”

    “ผู้ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์คือผู้ที่มีสายเลือดสืบมาจากจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเอสเธอมีนอสในตำนาน ว่ากันว่าถ้าใครได้ลิ้มลองในรสของเลือด เขาผู้นั้นจะมีอำนาจและพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด”นี่ไม่ใช่คำตอบที่ออกมาจากปากคยูฮยอนหรือทงเฮแต่มันมาจากผู้ที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ในห้องนี้

    “คิ..คิบอม!” ซองมินเรียกชื่อของคนที่เพิ่งเข้ามา คิบอมก้มหัวทำความเคารพก่อนจะไปยืนข้างๆคยูฮยอน

    “เออ คือพูดอะไรกัน ทำไมถึงมั่นใจว่าเราคือทายาทล่ะ”

    “ซองมินจำสร้อยที่ได้แม่ของซองมินให้ไว้ได้มั้ย”ทงเฮพูดขึ้นทำให้อีกคนดึงสร้อยที่เขาแขวนอยู่ที่คอออกมาดู มันเป็นสร้อยรูปกังหันลมถูกสลักไว้ว่า ‘STMN’

    “STMN?” เหมือนเป็นครั้งแรกที่เขาพึ่งจะสังเกตสร้อยเส้นนี้ตั้งแต่แม่ของเขาสวมให้และเขาก็ไม่เคยจับสร้อยเส้นนี้ขึ้นมาดูอีกเลย

    “นี่คือตราของอาณาจักรเอสเธอมีนอส จะสลักอักขระย่อยของอาณาจักรนี้ไว้ ผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองคือผู้ที่มีเชื้อสายของจักรพรรดิเท่านั้นครับ”คยูฮยอนกล่าวอธิบายให้ซองมินเข้าใจ ซึ่งคนที่ฟังก็พยักหน้าเพื่อแสดงว่าเขาเริ่มเข้าใจ

    “แล้วใครมาช่วย….”ยังไม่ทันที่ซองมินจะถามต่อทงเฮก็พูดขึ้นมา

    “นายจะถามว่าใครช่วยไว้ใช่ไหมล่ะ…คยูฮยอนน่ะเป็นคนช่วยนายไว้ นายโดนสารมอสซอลทำให้นายหมดสติไป คยูฮยอนจึงพานายมารักษาที่นี่ ก่อนที่สารมอสซอลจะออกฤทธิ์ไปมากกว่านี้  อ่า ซองมินทานอาหารแล้วพักผ่อนก่อนดีกว่านะ แล้วฉันจะเล่าอะไรให้นายฟังเอง^^ อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย”ทงเฮพูดพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะลุกขึ้นก้มหัวให้ซองมินเล็กน้อยแล้วเดินออกจากประตูไปตามด้วยคิบอมและคยูฮยอนที่ก้มหัวเพื่อเป็นการขออนุญาตออกจากห้อง

    “เดี๋ยว คยูฮยอน!”ซองมินร้องเรียกคยูฮยอนไว้ก่อนที่เขาจะออกจากประตูไป

    “ครับ?”

    “ขอบคุณนะ^^” ซองมินพูดก่อนจะมุดลงไปใต้ผ้าห่มผืนใหญ่และเข้าสู่นิทราอีกครั้ง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×