คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เดินทาง
Part 4 :
“งานง่ายๆแค่นี้ พวกแกยังทำไม่ได้รึยังไง!!”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของจักรพรรดิแห่งโอเธคอสดังขึ้นทันที เมื่อรับรู้ถึงความล้มเหลวกับเรื่องง่ายๆที่ลูกน้องของเขาทำไม่ได้
“กะ กะ กระผมต้องขอภัยจริงๆครับ พวกเราได้ตัวมาแล้ว แต่พวกเซเธรอส มันดันมาขัดขวางซะก่อน”น้ำเสียงที่สั่นเทาของผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปนำตัววองมินมากล่าวตอบ
“ไม่มีคำแก้สำหรับคนที่พ่ายแพ้” สิ้นคำ ลำแสงสีม่วงจากปลายกระบอกปืนในมือของฮยอนซอกก็พุ่งไปยังร่างของผู้ที่ได้รับคำสั่งให้ไปนำตัวซองมิน ทันทีที่ลำแสงนั่นกระทบกับร่างนั้นก็กลายเป็นฝุยผงในพริบตา
“ยังโหดร้ายเหมือนเดิมนะครับท่าน”เสียงของผู้ที่เดินเข้ามภายในห้องกล่าวขึ้น
“หุบปากของแกไปซะ เซเธอร์!!” ฮยอนซอกกล่าว กับนักรบผู้ที่เป็นมือขวาของเขา
“คร้าบบบ ท่าน”
“แล้วเจ้าทาโอะคู่หูของแกไปไหนแล้วล่ะ”
“ไม่รู้สิครับ คงจะไปอยู่ที่เดียวที่มันชอบไปนั่นแหละครับ”
“งั้นรึ” ฮยอนซอกลุกขึ้นเดินไปยังหน้าต่างมองไปยังภาพเมืองใหญ่ที่ทุกพื้นที่แออัดไปด้วยตึกระฟ้ามากมาย บนดวงดาวของเขา ดวงดาวที่เขาเป็นจักรพรรดิแห่งนี้
…..
….
…
..
.
“แล้วเซเธรอส คืออะไรอ่ะ”ซองมินเอ่ยถามคยูฮยอนที่พาเขาเดินทัวร์คฤหาสห์ตามคำขอของร่างเล็กที่อย่างสำรวจรอบๆ พูดขึ้นด้วยความสงสัยในสิ่งที่คยูฮยอนเล่าระหว่างที่เดิน
“เซเธรอส คือกลุ่มจักรวัติเก่าแก่ เป็นอยู่ในกาแล็กซี่นอร์ท จักรวัติของเราได้ชื่อว่าเป็นจักรวัติแห่งสันติ แต่อยู่มาวันหนึ่ง ฮยอนซอก มือขวาของท่านจักรพรรดิ เจ้าคนทรยศมันได้ทำการก่อสงครามกลางเมืองโดยใช้พวกของมันที่ซ่องซุมไว้และได้แบ่งแยกตัวเองตั้งเป็นอีกอาณาจักร คือ โอเธคอส ครับ”
“ไอ้พวกที่ตามล่าเราใช่ป่ะ”
“ครับ”
“เออนี่คยูฮยอนเลิกพูดกับเราว่าครับกับเราได้แล้วนะไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ เรารู้สึกยังไงไม่รู้ พูดแบบปกติได้ป่ะ”
“เออ..”
“นะ นะ เรียกเค้าว่าซองมิน เฉยๆนะ”ซองมินส่งเสียงอ้อนพร้อมสายตาบ๊องแบ๊ว ทำให้อีกฝ่ายเกิดอาการค้างไปชั่วขณะ
“เออ ดะ ได้สิ ซองมิน”คยูฮยอนพูดออกมาทำให้อีกคนยิ้มกว้าง
“คิบอมก็เป็นนักรบเหมือนนายใช่ป่ะ”
“ใช่ คิบอมนะเป็นนักรบที่เก่งพอตัวเลยล่ะ ทักษะในการบินและการยิงสูงมากกว่าผมอีก ”
“นายก็เก่งออก”
“ถ้าเรื่องยิงปืนกับบินล่ะก็ผมยังเป็นรองเจ้านั่นอยู่ แต่ถ้าเรื่องดาบล่ะก็ผมไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว” ซองมินหัวเราะคิๆเบาๆ เพราะท่าทางของคยูฮยอนที่ทำท่าฟันดาบไปมา คยูฮยอนหันไปมองคนข้างๆอีกครั้งรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสดใส ทำให้คยูฮยอนจ้องมองจนลืมตัว
“หน้าเรามีอะไรติดเหรอ”ซองมินเอามือปัดหน้าตัวเองเพราะคิดว่าคยูฮยอนจ้องหน้าตัวเองเพราะมีอะไรติดอยู่
“เออ.. ปะ เปล่า”คยูฮยอนที่โดนจับได้ว่าจ้องมองใบหน้าสดใสนั่นอยู่รีบพูดแก้ ก่อนที่ทั้งคู่จะมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่งซึ่งตอนนี้ภายในห้องกำลังเกิดสงครามกันเล็กน้อย
“คิมคิบอม นายช่วยเก็บหนังสือให้มันเป็นระเบียบหน่อยได้มั้ย เห็นมั้ยเนี๊ยว่าฉันกำลังทำความสะอาดอยู่”เสียงโวยวายของทงเฮดังลอดออกมาจากอีกฝั่งของประตู คยูฮยอนและซองมินค่อยๆเปิดประตูเข้าไปก็เห็นภาพที่คนหนึ่งเดินตามเก็บหนังสือที่อีกคนดึงออกมาเลือกดูแล้ววางมันทิ้งไว้ตรงนั้น ทงเฮเดินบ่นไปเก็บไปซึ่งอีกคนดูเหมือนจะไม่สนใจซักนิด
“เป็นอะไรรึเปล่าทงเฮ ฉันได้ยินเสียงดังออกไปข้างนอกน่ะ”ซองมินที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมคยูฮยอนเอ่ยถามเพื่อนที่กำลัดจัดหนังสืออยู่
“ก็อีตาแก้มบวมนี่สิดึงหนังสือมาดูแล้วก็ไม่เก็บเข้าที่เดิม”ทงเฮบอกกับซองมินด้วยสีหน้าหน่าย
“แล้วใครใช้ให้เธอมาเดินตามเก็บล่ะ”คิบอมที่กำลังเลือกหนังสือพูดกลับ
“ชิส์”ทงเฮยกไม้ปัดฝุ่นทำท่าจะตีคิบอมด้วยความรำคาญแต่เขาก็ไม่ได้ฟาดมันลงไป คยูฮยอนยืนหัวเราะคิคิกับซองมินกับท่าทางของทงเฮและคิบอม
“เออนี่ด๊อง เราถามไรหน่อยสิ ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้อ่ะ”ซองมินเอ่ยถามเพื่อนของตนกับข้อสงสัยของเขา
“นี่คือบ้านหลังนั้นหลังที่เราต้องมาดูแล ตระกูลของเราได้รับมอบหมายจากท่านจักรพรรดิให้ดูแลบ้านหลังนี้น่ะ”ทงเฮกล่าวตอบซองมิน
“งั้นด๊องก็รู้จักคยูฮยอนกับคิบอมน่ะสิ”
“เปล่าเลย พวกเราเพิ่งรู้ว่าทงเฮก็เป็นอีกคนที่รู้เรื่องขององค์ชาย”คยูฮยอนหันไปตอบคำถามแทนทงเฮ
“และรู้ดีซะทุกเรื่องด้วย”คราวนี้เป็นคิบอมที่เสริมขึ้น ทำให้ทงเฮแทบอยากจะฟาดไม้ปัดฝุ่นลงบนหัวของเจ้าคนกวนประสาทนั่น
‘ติ๊ด ติ๊ด’ เสียงโทรศัพท์ของคยูฮยอนดังขึ้น ร่างหนากดรับก่อนจะหันไปพูดกับทงเฮ ซองมิน และคิบอม
“ถึงเวลาเดินทางแล้วล่ะ”
…..
….
…
..
.
“นี่เราจะไปไหนกันอ่ะ”เสียงร้องถามของร่างเล็กที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเอ่ยถามร่างสูงของคยูฮยอนที่กำลังเดินไปตามทางยาว โดยมีคิบอมและทงเฮเดินตามมาติดๆ
“เราจะไปเซเธรอสกันครับ”
“เซเธรอส ? แล้วเราจะไปยังไงอ่ะ” ซองมินถามต่อด้วยความงุนงง เซเธรอส อาณาจักรที่คยูฮยอนเล่าให้เขาฟัง ซึ่งก็ไกลจากโกลมากแล้วจะไปยังไงกัน
“ไปด้วยไอ้นี่ยังไงล่ะครับ” ประตูไม้บ้านใหญ่หลังงามถูกเปิดออก ปรากฏให้เห็นยานลำใหญ่สีเงินวาว ซองมินอ้าปากค้างทันทีที่เห็น เขาไม่คิดเลยว่าจะมีสิ่งแบบนี้อยู่ภายในบ้านหลังนี้ด้วย เคยเห็นแต่ในภาพยนตร์ ได้มาเห็นแบบของจริงก็วันนี้แหละ คยูฮยอนเดินนำซองมินไปยังทางขึ้นใต้ลำตัวยาน สะพานสีเงินถูกย่อนตัวลงมาก่อนจะปิดคืนเมื่อทั้งสี่เข้าไปอยู่ภายในตัวมันเรียบร้อย คยูฮยอนและคิบอมเดินมุ่งไปยังห้องควบคุมทันที โดยมีร่างของซองมินและทงเฮเดินตามไป
“นั่งประจำที่เลยนะครับแล้วรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย พวกเราจะออกเดินทางกันแล้ว”คยูฮยอนหันไปกล่าวกับร่างเล็ก ซองมินเดินไปนั่งยังเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ ก่อนจะจัดการรัดเข็มขัดให้แน่น หลังคาของคฤหาสห์ค่อยๆเปิดออกพร้อมกับยานลำใหญ่ที่ค่อยๆลอยขึ้นก่อนจะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ซองมินหลับตาปี๋เพราะด้วยความเร็วและบวกกับไม่เคยนั่งแม้กระทั่งเครื่องบินทำให้ร่างเล็กเกิดอาการเวียนหัว ซองมินค่อยๆลืมตาขึ้นมาเมื่อสัมผัสได้ว่าเข็มขัดที่เขารัดไว้นั้นค่อยๆหลุดออก ร่างเล็กมองคนเบื้องหน้าที่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรแล้วครับตอนนี้พวกเราเดินทางออกจากโลกมาแล้ว”คยูฮยอนพูดขึ้นหลังจากก้มลงไปปลดเข็มขัดให้กับร่างเล็ก ซองมินลุงขึ้นออกไปมองนอกลำตัวยานผ่านหน้าต่างด้วยความตื่นเต้น
“ว้าว~ นั่นดาวเสาร์นิ สวยจัง”ซองมินร้องขึ้นทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้าโดยมีคยูฮยอนยืนอยู่ข้างๆ แต่ดูเหมือนจะผิดกับอีกคู่
“โอ๊ย!คิบอมหลบหน่อยเซ่ ฉันจะดูบ้าง”
“อะไร ก็ดูสิ”
“ก็นายบังฉันอยู่อ่ะ ฉันอยากดูบ้างหลบหน่อยซี่”ทงเฮพูดพลางดึงคิบอมที่ยืนอยู่หน้ากระจกจนคนตัวเล็กมองไม่เห็น
“ด๊องมาดูกับเราก็ได้”ซองมินเห็นเพื่อนขอตนกับลังยื้อยุดแขนของร่างหนาที่ดูเหมือนแมวน้อยกำลังดึงแขนราชสีห์ก็อดยิ้มไม่ได้เลยเรียกให้มาดูกับตนแทน ทงเฮจิ๊ปากใส่คิบอมก็จะสะบัดหน้าเดินไปไปหาซองมิน ทงเฮจ้องมองออกไปด้วยความตื่นเต้นแต่แล้วภาพตรงหน้าก็มืดสนิทไป ร่างบางยืนมองด้วยความสงสัย ก่อนจะได้คำตอบจากร่างหนาที่เพิ่งกดปุ่มบางอย่างเมื่อสักครู่
“มองไปก็ไม่เห็นอะไรหรอก ตอนนี้เข้าระบบความเร็วแสงแล้ว” ทงเฮหันมามองหน้าอมลมด้วยความขัดใจ ก่อนจะเดินหนีไป ทำไมต้องมาแกล้งเราอยู่เรื่อยเลย
“แกก็ไปแกล้งเขา ดูดิงอนไปแล้วนั่น ความจริงยังไม่ต้องเข้าโหมดความเร็วแสงก็ได้”คยูฮยอนพูดและยิ้มน้อยๆออกมา อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรเพียงแค่กระตุกยิ้มและหยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะปิดหนังสือแล้วเดินออกไป
ซองมินขำกับเหตุการณ์เมื่อครู่เพราเขาดูแล้วว่าคิบอมคงจะแค่แกล้งเพื่ิอนสนิทของเขาเท่านั้น
“คยูฮยอนอีกนานมั้ยอ่ะกว่าจะถึง”ร่างเล็กหันไปถามอีกฝ่าย
“ประมาณ48ชม.น่ะครับ เพราะเซเธรอสอยู่ไกลจากโลกพอสมควร”คยูฮยอนหันไปตอบพลางยิ้มให้
“แล้ว…”
‘โครมม!!!!!!’ ยังไม่ทันที่ซองมินจะพูดต่อเสียงหนึงก็ดังมากจากส่วนด้านหลังของตัวยาน ทำให้ทั้งคู่ต้องรีบวิ่งไปดูทันที
“โอ๊ย!! ลุกขึ้นไปเดี๋ยวนี้นะ!!”
“จะลุกได้ไงเล่าไม่เห็นรึไงว่าโต๊ะทับฉันอยู่ แล้วใครใช้ให้นายดึงฉันลงมาด้วยล่ะ”
เสียงร้องโวยวายของทงเฮและคิบอมดังมาจากภายในห้องครัว ซองมินและคยูฮยอนยืนมองเหตุการณ์อย่างงงๆเพราะตอนนี้สภาพห้องครัวนั้นดูเหมือนพึ่งเกิดสงครามมา โต๊ะกินข้าวที่เต็มไปด้วยอาหารถูกพลิกลงมาทับอยู่บนร่างหนาของคิบอมซึ่งนอนทับร่างบางของทงเฮอยู่
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”ซองมินเอ่ยถามขึ้นก่อนจะเข้าไปช่วยคยูฮยอนยกโต๊ะออกจากหลังของคิบอม
“ก็ไอ้บ้านี่สิ เราจะปีนเอาขวดกาแฟบยชั้นแต่ดันมาขวางทางไม่ให้เราเอาเก้าอี้ไปวางข้างหน้า โอ๊ย”
“แล้วด๊องก็เลยเอื้อมไปหยิบแล้วเสียหลัก”ซองมินเสริมซึ่งทงเฮก็พยักหน้าตาม
“แล้วดึงฉันลงไปด้วยนี่นะแถมยังเตะโต๊ะคว่ำจนมันทับฉันอีก”คิบอมเสริมขณะที่เช็ดคราบอาหารที่หล่นมาใส่เขาพร้อมกับเจ้าโต๊ะนั่น
“ก็นายไมไม่หลบฉันล่ะ”
“หลบแล้ว เธอซุ่มซ่ามเอง เตี้ยก็งี้”คำพูดของคิบอมดูเหมือนจะไปสะกิตโดนต่อมสติแตกของร่างบางเข้า
“ห๊า!! ว่าใครเตี้ยนะ ย๊ากกกกตายซะเถอะคิมคิบอม!!!”ทงเฮลุกขึ้นอาละวาดพร้อมคว้าเอากะทะที่อยุ่ใกล้มือไล่ฟาดคิบอมที่กำลังวิ่งหนีร่างบางอยู่
จนซองมินและคยูฮยอนต้องไปห้ามทัพไว้
“พอแล้วๆ นายก็ไปกวนเขา คิบอม”ซองมินรีบคว้าตัวทงเฮไว้ ก่อนจะหันไเอ็ดคิบอมเล็กน้อย
“ไปอาบน้ำเถอะดูดิ๊ ตัวเปื้อนหมดแล้ว”ซองมินบอกกับเพื่อนรัก ทงเฮหันไปมองหน้าอย่างเอาเรื่องกับคิบอมแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้กลัวเลยซักนิด ก่อนจะเดินปึงปังออกจากห้องครัวไป สุดท้ายก็มีซองมินและคยูฮยอนช่วยกันเก็บห้องครัว
…
..
.
เวลาผ่านไปหลายชม.หลังจากทานอาหารเสร็จซองมินก็เดินเข้ามาภายในห้องเพื่อพักผ่อน การเดินทางครั้งแรกของเขาทำให้ร่างเล็กอ่อนล้า คยูฮยอนเดินเข้ามาภายในห้องพักก่อนจะมองเห็นร่างเล็กที่หลับสนิท ร่างสูงนั่งลงข้างๆเตียงก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมา
“ฝันดีนะครับดวงใจของผม”
กาลเวลาเคลื่อนย้ายไปการผจญภัยกำลังจะเริ่มขึ้นพร้อมกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นแต่คยูฮยอนคนนี้ขอปกป้องซองมินตลอดไป
ความคิดเห็น