ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สิวและสิวเสี้ยนจอมกวน

    ลำดับตอนที่ #4 : การล้างหน้าด้วยน้ำฝน หรือการตากฝนนานๆ มีผลเสียต่อผิวหรือป่าว?

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ค. 49


    การล้างหน้าด้วยน้ำฝน หรือการตากฝนนานๆ มีผลเสียต่อผิวหรือป่าว?
     
     น้ำฝนแตกต่างจากน้ำธรรมดาตรงที่น้ำฝนจะมีส่วนประกอบของเกลือไบคาร์บอเนต (Bicarbonate) อยู่ในปริมาณสูง จึงทำให้น้ำฝนมีสภาพเป็นด่าง นอกจากนี้กว่าจะตกถึงพื้นดินจึงปนเปื้อนสิ่งที่เราไม่ต้องการ ทั้งยังนำเอาเชื้อโรคและฝุ่นละออกปะปนมาด้วย การทำความสะอาดผิวด้วยน้ำฝนจึงดูมีข้อเสียมากกว่าการใช้น้ำธรรมดาทั่วๆ ไป โดยฌแพะในช่วงที่ฝนกำลังตกใหม่ๆ หากนำน้ำฝนส่วนนี้มาชำระล้างหน้า น้ำฝนซึ่งตกใหม่ๆ นี้จะมีปริมาณเกลือไบคาร์บอเนตสูง ทำให้มีสภาพเป็นด่าง ขณะที่ผิวคนเรามีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ (pH = 5.5) ความแตกต่างของสภาพกรดด่างนี้เองจะทำให้ผิวหยาบกระด้างได้ หากมีการล้างหน้าด้วยน้ำฝนเป็นประจำ

     กรณีล้างหน้าด้วยน้ำฝนควรใช้น้ำฝนซึ่งตกลงมาในช่วงกลางหรือปลาย เพราะปริมาณเกลือไบคาร์บอเนตเหล่านี้จะถูกเจือจางลงไปตามลำดับ หากเก็บไว้ในถังเพื่อให้ตกตะกอนก่อนนำมาใช้จริงก็จะปลอดภัยยิ่งขึ้น

     สำหรับการตากฝนเป็นเวลานานๆ จะมีผลเสียต่อผิวเหมือนกันกับการแช่น้ำเย็นเวลานาๆ เพราะหากผิวของคนเราสัมผัสน้ำเป็นเวลาติดต่อกันนานเกินกว่า 30 นาที จะทำให้เกิดภาวะ “Maceration” คือ ผิวเปื่อยลอกเป็นขุยได้ โดยมีการหลุดลอกของชั้นหนังกำพร้าบางส่วนออกไป ทำให้ผิวแห้งหยาบและแพ้ได้ง่าย

     ควรหลีกเลี่ยงการตากฝนเป็นเวลานานๆ และควรทามอยส์เจอไรเซอร์คืนความชุ่มชื้นให้ผิวทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำฝนด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×