FIRST LOVE รักวุ่นวายของแม่มดจอมจุ้นกับเจ้าชายน้ำแข็ง
ไลแลค แม่มดสาวได้ไปแอบกินผลไม้ต้องหารจนต้องโดนประหารชีวิต แต่พระราชาได้ยื่นข้อเสนอให้เธอตามหาเจ้าหญิงที่หายไป เธอต้องไปผจญภัยที่โลกมนุษย์ ทั้งที่ไม่มีเบาะแสอะไรเลยแม้แต่น้อย แล้วหญิงสาวจะทำเช่นไร..!!
ผู้เข้าชมรวม
274
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“จับมันให้ได้ !!”
“อย่าให้หนีไปนะ !!”
เสียงของชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่มี หน้าตาดุดัน ร่างกายสูงใหญ่ ใส่ชุดสีดำ กางเกงดำ และสวมผ้าคลุมสีดำ กำลังวิ่งตามหาหญิงสาวคนหนึ่งด้วยอารมณืที่เดือดดาลพลุ่งพล่านเต็มที
หญิงสาวร่างบางตัวต้นเหตุหลบอยู่ในถังขยะที่ชื้นแฉะและเน่าเหม็นด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เธอกำลังหนีพวกทหาร นื่องจากเธอได้ทำผิดกฎข้อห้าม !
“ใจเย็นๆไว้ ไลแลค” ไลแลคบอกกับตัวเอง เพื่อหวังว่าสติที่หายไปของเธอจะกลับคืนมา หลังจากที่หลบหนีจากกลุ่มทหารมาได้แบบเฉียดตาย
“ไลแลค” เป็นแม่มดที่สวยที่สุดในโลกเวทมนต์ หญิงสาวมีดวงตาสีฟ้าครามสวยสดใส ร่างบางของเธอที่เคยสวยงามน่าทะนุถนอม แต่บัดนี้มีรอยฟกช้ำเป็นบางจุดและเลือดซึมออกจากเสื้อดำบางที่มอมแมมของนักโทษ
“ท่านแม่ทัพ เราไม่เจอตัวนางเลยครับ !!” ทหาร 1 ในผู้ติดตามหาตัวไลแลคพูดด้วยท่าทีเกรงกลัว แม่ทัพเนมอสกวาดสายตามองไปทั่วช่องแคบๆ ที่มีเพียงถังขยะโสโครก พื้นเฉอะแฉะ และหนูตัวเล็กๆ ที่วิ่งตัดหน้าพวกเขาไปมา พร้อมส่งเสียงจี๊ดจ้าดต้อนรับอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญ
“งั้นเหรอ ? คงอยู่แถวนี้แหละ หาให้ทั่ว !” เสียงที่เต็มไปด้วยอิทธิพลจากแม่ทัพเนมอสดังก้องกังวาน ทำให้ทหารทั้งหมดกระตือรือร้นทำตามคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัด ก่อนที่จะเดินจากไป แม่ทัพเหลือบมองถังขยะ จากนั้นเขาจึงหันหลังเดินจากไป
ไลแลคที่คุดคู้อยู่ในถังขยะ ได้ยินอย่างนั้นจึงแอบลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเสียงฝีเท้าของพวกทหารหายลับไปสักพัก จนเธอแน่ใจแล้วว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เธอจึงค่อยๆ พยุงร่างที่บาดเจ็บของเธอออกจากถังขยะโสมมนั่น ! หญิงสาวค่อยๆ ออกมาก่อนจะล้มลง เนื่องจากกายของเธอนั้นได้รับบาดเจ็บ(นิดหน่อย)จากการวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน บาดแผลนั้นไม่ใหญ่พอที่จะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บ แต่ข้อเท้าของเธอทำให้เธอไปต่อไม่ได้
“โอ๊ย ! บ้าชะมัด !! ขาของข้าจะมาแพลงอะไรเอาป่านนี้ พวกทหารก็มาพอดีน่ะสิ” เธอสบถอย่างไม่ค่อยสมกับใบหน้าหวานๆ ของเธอ ไลแลคจะต้องหนีจากที่พวกทหารตามไล่เธอ ไลแลคกลายเป็นผู้ต้องหาเพียงชั่วข้ามคืน แค่เพียงเพราะเธอแอบกิน “ผลไม้ต้องห้าม” ‘ใครจะไปคิดว่าไอ้ต้นแอปเปิ้ลบ้าๆ นั่น จะทำให้ฉันจนตรอกขนาดนี้’ หญิงสาวได้แต่สบถในใจ ก่อนจะนึกอนาถใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เจอนักโทษ ‘ไลแลค เยมีร่า ริปลีย์’ แล้ว !” ชายร่างสูงโปร่ง แววตาดุดัน มีไรหนวดขึ้นให้เห็นเพียงจางๆ อยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศของเมืองเฮทเธอร์ พูดด้วยน้ำเสียงของผู้ได้รับชัยชนะ เล่นทำเอาใบหน้าขาวอมชมพูของนักโทษสาวซีดเผือดไปทันตา
“ปล่อยข้านะ !” ไลแลคที่ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการจับกุมทหาร “ข้าบอกว่าให้ปล่อยข้าไง ! ปล่อยเซ่ !!” ซึ่งในตอนนี้เธอพอที่จะยืนได้ด้วยตัวเองได้แล้ว เธอจึงไม่ต้องการให้ทหารถูลู่ถูกังลากเธอไปไหนมาไหน ทั้งๆที่เธอสามารถเดินได้ด้วยตัวเอง
“เจ้าควรจะมีมารยาทในวังของข้าหน่อยนะ” ชายแก่ร่างท้วมมองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม ซึ่งถ้าให้เธอเดา บุคคลผู้นี้คือพระราชาแพ่งเมืองเฮทเธอร์ผู้เก่งกาจที่สุดในโลกเวทมนต์ เขาคือ “ราชาจอมหยิ่ง” !
ทุกคนในอาณาบริเวณนั้นเมื่อเห็นลูคัสราชาจอมหยิ่งแห่งเมื่อเฮทเธอร์ต่างก็คุกเข่าแสดงความเคารพต่อชายร่างท้วม ซึ่งมีแต่เพียงไลแลค นักโทษจอมหยิ่ง(อีกคน)ยืนประจันหน้ากับพระราชา “ลูคัส” ทหารอารักขาส่วนพระองค์ที่ยืนคุ้มกันกษัตริย์เมื่อเห็นหญิงสาวไม่ยอมเคารพจึงจับหญิงสาวจอมอวดดีให้คุกเข่า
“อย่ามาอวดดีนะเจ้าไพร่ !” ทหารอารักขาส่วนพระองค์ตะโกนอย่างเดือดดาลพลางจับหัวนักโทษสาวหวังให้คุกเข่า
“ข้าไม่ใช่ไพร่นะ !!” ไลแลคท้วง
“คุกเข่าซะ !!”
“พอได้แล้ว ! เมื่อนางไม่อยากทำก็ปล่อยนางไป !” เสียงดังอันกึกก้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจของพระราชาลูคัส ส่งผลทำให้ทหารอารักขาของพระองค์หยุดบังคับหญิงสาวและเดินกลับไปยังที่ๆตนเคยยืนอยู่ ไลแลคมองพระราชาลูคัสอย่างแข็งกร้าวด้วยอารมณ์ดุดันเหมือนดั่งภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุออกมาเพื่อเผาไหม้และทำลายล้าง “หึ ! ข้าชักชอบเจ้าซะแล้ว แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ! เจ้ารู้มั๊ยว่าแอปเปิ้ลที่เจ้ากินไปนั้นมันสำคัญเช่นไร” พระราชาใช้นำเสียงที่นุ่มนวลลง ทำให้ปฏิกิริยาของไลแลคที่มีต่อลูคัสอ่อนลงด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยใจพระราชาองค์นี้สักเท่าไร
“ถ้าข้ารู้ข้าคงไม่ต้องมาอยู่ตรงนี้หรอก !”
“ก็จริงของเจ้า” พระราชาลูคัสพูดก่อนจะหมุนตัวไปนั่งที่บัลลังก์ของตัวเองก่อนจะเริ่มพูดต่อว่า “แอปเปิ้ลนั่น ถ้าหากใครได้กินมันเข้าไปต้องเป็นคนที่เก่งมาก มันจะทำให้เวทมนต์ของผู้ที่กัดกินมันเข้าไปแข็งแกร่งขึ้น และอีกอย่างมันมีไว้สำหรับราชวงศ์ของเมืองนี้เท่านั้น” พระราชาลูคัสชี้แจงให้ฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา “เจ้ามีนามว่าอะไรสาวน้อย?”
“ไลแลค เยมีร่า ริปลีย์” หญิงสาวตอบหน้านิ่ง แต่สายตาของเธอมองลูคัสด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ ในความเป็นจริงเธอก็ไม่ได้มีความอาฆาตหรือบาดหมางกับพระราชาองค์นี้สักเท่าไร แต่มันเป็นเพียงแค่ไม่ถูกชะตากับราชาจอมหยิ่งซะมากกว่า
“อ้อ ! หญิงที่งามที่สุดในโลกเวทมนต์คือเจ้าเองหรอกรึ ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าสาวงามจะเป็นม้าดีดกระโหลกแบบเจ้า !”
หญิงสาวเลิกคิ้วสูงขึ้น ก่อนจะทำหน้าไม่แยแสต่อคำพูดของพระราชาลูคัส
“แล้วจะทำไม? ก็ข้าต้องเอาตัวรอด เพราะข้าเป็นเพียงแค่..”
“ลูกสาวตระกูลนักฆ่า ตระกูลเยมีร่า ริปลีย์ อย่างงั้นน่ะหรือ?” พระราชาพูดแทรก
“ขอโทษที ข้าลาออกจากวงการแล้วข้าไม่ชอบฆ่าใครหรือพูดง่ายๆ ข้าไม่กล้าฆ่าใครซะมากกว่า”
“ฮ่าๆ ตอนแรกข้าว่าจะประหารเจ้า แต่ตอนนี้ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า” ราชาจอมหยิ่งยิ้มอย่างมีเลศนัย ยิ่งทำให้ไลแลคเลิกคิ้วสูงขึ้นอีกครั้งด้วยความฉงน ตอนนี้เธอเดาใจชายสูงวัยร่างท้วมตรงหน้าไม่ถูกเลย
“ข้อเสนออย่างงั้นรึ?”
ลมจากทางทิศเหนือพัดมาอย่างบางเบาปะทะกับร่างบางเล็กน่าทะนุถนอม ผมสีม่วงดั่งสีของดอกไลแลคของเธอปลิวไสวไปตามสายลมที่พัดมา หญิงสาวนั่งไข้วห้างอยู่บนสเกตบอต ท่ามกลางท้องฟ้าสีดำสนิท มีเพียงดาวส่องแสงสุกสกาวสว่างไสวอยู่ท่ามกลางความมืดมิด หญิงสาวกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรี ดวงจาสีฟ้าครามของเธอกวาดมองไปยังเบื้องล่าง เธอมองเห็นผู้คนในโลกมนุษยืที่เดินขวักไขว่กันอยู่ด้านล่าง จากตรงนี้ เธอมองเห็นมนุษย์เบื้องล่างเท่าเมล็ดถั่วเขียว มีพาหนะหลากขนาดเคลื่อนไหวไปมา มีแสงไฟตามร้านรวงตึกรามบ้านช่อง ยิ่งทำให้เมืองข้างล่างดูคึกคักและวุ่นวาย
หญิงสาวได้แต่นั่งครุ่นคิด คิดถึงเหตุการณ์เมื่อ 10 วันที่ผ่านมาก่อนที่เธอจะได้มาอยู่ที่นี่ ที่โลกมนุษย์..
‘ฮ่าๆ ตอนแรกข้าว่าข้าจะประหารเจ้า แต่ตอนนี้ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า’
‘ข้อเสนออย่างงั้นรึ ?’
‘ใช่ ! ข้าว่าเจ้าน่าจะทำงานให้ข้าสำเร็จได้’ พระราชาลูคัสกล่าวพลางเพ่งมองเข้าไปในดวงตาของเธอราวกับต้องการหาคำตอบอะไรสักอย่างในตัวเธอ
‘งานอย่างนั้นรึ ? ข้าหวังว่าคงไม่ใช่ฆ่าคนและทำเรื่องสกปรกๆ ของท่านหรอกนะ’
‘แน่นอน ! เพราะช้าจะให้เจ้าช่วยตามหาลูกสาวข้า’
‘ลูกสาว ?’ หญิงสาวทวนคำอย่างสงสัย
‘ใช่ ! ข้าเคยมีลูกสาว’ ดวงตาของเขาทอแสงอ่อนลงเมื่อพูดถึงลูกสาว ไม่มีคราบความหยิ่งยโสเมื่อครู่เลยสักนิด ‘ลูกแอปเปิ้ลเป็นของลูกสาวข้า ซึ่งมันจะไม่เกิดขึ้นอีกถ้าข้าไม่มีลูกหรือรัชทายาท แต่ตันแอปเปิ้ลต้นนั้นมันสามารถบอกข้าได้ว่าลูกข้ายังไม่ตาย แต่ถ้าลูกข้าตายต้นแอปเปิ้ลก็จะเหี่ยวเฉาในทันที เพราะฉะนั้นเจ้ากินแอปเปิ้ลของนางไป เจ้าก็ต้องเป็นคนที่ตามหานางแทน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่เจ้าต้องถูกประหาร แต่ข้าไม่มีเบาะแสของลูกสาวข้านะ ข้ารู้แค่ว่านางตกลงไปในโลกมนุษย์” พระราชามองดูอย่างชั่งใจ
‘ก็ได้’
ทันทีที่ไลแลคตอบตกลง ทหารอารักขาก็เข้ามาเพื่อจะปลดโซ่ตรวนออกจากมืออันข่าวผ่องให้ข้อมืออันบาง ๆ ของเธอได้รับอิสระ เมื่อหญิงได้รับอิสระแล้วเธอก็เดินหันหลังให้พระราชาโดยไม่หันมามอง จะมีก็เพียงเสียงของลูคัสที่ดังตามไล่หลังของหญิงสาวมาเท่านั้น
‘เจ้ามีเวลาเพียง 2 อาทิตย์เท่านั้น’
“ไม่มีร่องรอยอะไรให้หาและข้าจะทำอย่างไรดี” หญิงสาวขบคิดอย่างปวดหัว
เธอไม่ใช่สุนัขที่จะตามหากลิ่น ดมซ้าย ดมขวา แล้วก็เจอเจ้าหญิงที่ร่วงลงไปในโลกมนุษย์ นานถึง 16 ปี ! ป่านนี้เจ้าหญิงน้อยคงกลายเป็นขอทาน อดอาหารตายแล้วกระมัง !? ไลแลครู้ว่าถึงอย่างไรเธอก็ต้องโดนประหารชีวิตอยู่ดี เพราะการตามหาตัวเจ้าหญิงนั้นยากเกินไป แต่เมื่อนึกถึงหน้าของชายชราร่างท้วมที่ขอให้เธอตามหาลูกสาวก็อดที่จะเศร้าตามด้วยไม่ได้ ถึงแม้เขาจะหยิ่งปานใด แต่เขาก็รักลูกสาวเหมือนคนปกติธรรมดาไม่ใช่หรือ ? ตอนนี้เธอเสียเวลาไปแล้ว 9 วันและกำลังจะเสียวันที่ 10 ไป ซึ่งก็คือ ค่ำคืนนี้นั่นอง จนป่านนี้เธอยังไม่พบเบาะแสเลย
ในขณะที่ไลแลคใช้ความคิดอยู่เงียบๆ บนท้องฟ้าที่มีแต่ดวงจันทร์แสงสีนวลกับดาวสุกสกาวรายล้อมอยู่นั้น ก็ปรากฏเงาสีดำทะมึนก็ตัวเป็นพลังงานประหลาด ก่อนจะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างคล้ายๆ คน แต่งตัวเป็นตัวตลก หน้าของมันมีสีแดงทารอบๆ ตาข้างซ้ายเป็นรูปสามเหลี่ยม ตรงแก้มทั้งสองข้างเป็นรูปโพธิ์ดำ หน้าของมันขาวโบ๊ะ แต่งตัวเหมือนพวกแสดงละครปาหี่
“ไลแลค เยมีร่า ริปลีย์ ♥” ตัวละครปาหี่ พูดด้วยเสียงแหบพร่า น้ำเสียงของมันราวกับเจอของเล่นชิ้นเก่าที่หายไป ทำให้หญิงสาวหันขวับไปทางต้นเสียงทันที
“ซวยแล้ว !!” ไลแลครีบลุกขึ้นยืนบนสเกตบอตลอยได้ของเธอ ก่อนจะพุ่งถลาลงด้านล่างด้วยความความไวแสง ลอยปาดซ้ายปาดขวา หลบสิ่งกีดขวางอย่างคล่องแคล่ว โดยมีตัวละครปาหี่ตามมาด้วยความไวแสงเช่นกัน การที่เธอใช้สเกตบอตเป็นพาหนะแทนไม้กวาดสามารถพรางตัวเข้ากันได้ดีกับโลกมนุษย์ เพียงแต่...เธอใส่ชุดแปลกประหลาดจากมนุษย์มากเกินไปเท่านั้นเอง..
ไลแลคไถลสเกตบอตของเธอไปตามฟุตบาทที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ เธอพุ่งไปด้วยความไวแสงเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้ ทำให้มนุษย์ถึงกับต้องชะงัก ได้แต่ยืนหนีบกระดาษ หรือกระโปรงของพวกเขาไม่ให้ปลิวไปตามแรงลมที่ผ่านหน้าของพวกเขาได้ ไลแลคหลบหลีกผู้คนอย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็ว
“เฮ้ยย ! ระวัง ! ถอยไป !!” ไลแลคตะโกนก้อง เมื่อเห็นผู้ชายคนนึงเดินออกมาจากทิศทางไหนก็ไม่รู้ แต่ที่สำคัญหญิงสาวไม่สามารถเลี้ยวได้ทันท่วงที !
โครมม !
ร่างของไลแลคปะทะกับผู้ชายคนนั้นอย่างจัง ส่งผลให้ร่างของทั้งคู่ลงไปนอนกองกับพื้น ตัวละครปาหี่ที่วิ่งตามมาติดๆ ได้หยุดตรงที่ทั้งคู่ล้ม ก่อนจะบีบคอหญิงสาวยกขึ้นให้ลอยเหนือพื้น ไลแลคดิ้นหนีไปมาด้วยความทุรนทุราย เธอกำลังจะไม่มีอากาศหายใจ ! ในช่วงวินาทีที่ไลแลคกำลังใกล้จะหมดสติ ผู้ชายที่ถูกชนก็ชกหน้าตัวละครปาหี่เต็มแรงจนหน้าหัน ไลแลคที่โดนบีบคออยู่นั้นยังไม่หลุดพ้นจากมือที่พันธนาการเธอไว้อยู่เพราะตัวละครปาหี่แค่หันไปตามแรงต่อยเท่านั้น มันค่อยๆ หันหน้ามาอย่างช้าๆ ยิ้มแสยะให้ไลแลค ก่อนจะปล่อยไลแลคลง แล้วหันไปประจันหน้ากับผู้ชายผมสีดำขลับ ผิวที่ขาวเหมือนหิมะของเขาตัดกับผมสีดำสนิท ยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาโดดเด่นขึ้น ดวงตากลมโตสีฟ้าของเค้านั้นมองตรงมาที่ตัวละครปาหี่อย่างเด็ดเดี่ยว ไลแลคที่นั่งอยู่ด้านหลังตัวละครปาหี่นั้น ได้แต่นั่งสูดอากาศออกซิเจนเข้าเต็มปอด เนื่องจากขาดอากาศหายใจมานาน
“อย่ารังแกคนอ่อนแอ” เขาพูดด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่แววตาของเขากลับดูไม่หวั่นเกรงกลับอันตรายที่อยู่ข้างหน้า เขาเริ่มตั้งท่าขึ้น เพื่อไว้ป้องกันตัว คนที่อยู่ในบริเวณนั้นเริ่มรายล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครคิดจะเข้ามาช่วย พวกเขาได้แต่ยืนมองห่างๆ เท่านั้น
“หึๆ เจ้าหนุ่มอย่ามายุ่งดีกว่าเดี๋ยวจะเจ็ยตัวเปล่าๆปลี้ๆ กลับบ้านไปหาแม่...” ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคดี ชายหนุ่มเจ้าของผิวขาวดั่งหิมะก็ชาร์จเข้าหาเจ้าตัวละครปาหี่ทันที ทั้งสองล้มลงไปทั้งคู่ แต่ว่าตัวละครปาหี่ตั้งหลักได้ทันท่วงทีก่อน ผู้ชายคนนั้นยังไม่ทันที่จะดืทำอะไร มันก็จับคอของเขาบีบแน่นอย่างที่ทำกับไลแลค ตัวของผู้ชายคนนั้นลอยค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ ไลแลคที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่นิ่งๆ ได้ถือโอกาสหยิบผงลืมเลือนโปรยใส่หน้าตัวละครปาหี่จนหมด ก่อนที่จะเอาผ้าคลุมของตนมาปิดจมูก หญิงสาวใช้ช่วงเหตุการณืชุลมุนหยิบสเกตบอตและเอาเศษผ้าที่เธอมีอยู่ปิดจมูกของชายคนนั้นไว้ พร้อมลากตัวเขาออกมาด้วย
“เมื่อกี้เธอทำอะไรน่ะ” เมื่อวิ่งห่างจากจุดเกิดเหตุมาไกลพอสมควรแล้วเขาจึงถามเธอขึ้น
“ข้าใช้ผงลืมเลือนน่ะ แต่ข้ายังผสมมันไม่สำเร็จดี โจ๊กเกอร์คงจะลืมได้ไม่นาน คงจะแค่สองถึงสามชั่วโมงเท่านั้น” ไลแลคจูงมือชายคนนั้นไปต่อเรื่อยๆ เพื่อหวังจะหนีให้พ้นจากโจ๊กเกอร์หรือก็คือตัวละครปาหี่ แต่เขากระชากตัวเธอกลับคืนมา ทำให้เธอเซถลาชนกับหน้าอกอันแข็งแกร่งของเขา นั่นทำให้เธอมองเขาอย่างสงสัยกับการกระทำที่เค้าทำลงไปเมื่อครู่
“เธอคือใครกันแน่ ?” เขามองด้วยสายตาสงสัยระแวดระวังในตัวหญิงสาว
“ข้าชื่อไลแลค” หญิงสาวพูดก่อนจะคลายมือที่จับชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตเธอไว้แน่น ก่อนจะทวนชื่อขึ้นของเธอขึ้นมาใหม่ “ไลแลค เยมีร่า ริปลีย์”
ชายตรงหน้าถึงกับทำหน้างงๆ กับชื่อพิลึกพิลั่นของหญิงสาว
“ชื่อพิลึก !”
“เฮ้ ! เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาว่าชื่อข้าน่ะ !!” เธอท้วงอย่างหงุดหงิด หญิงสาวคิดว่าชื่อของเธอทั้งเพราะและความหมายดีที่สุดแล้ว !
“ฉันชื่อ เฮ ชูเคีย เรย์ ขอโทษนะที่ฉันชื่อเพราะกว่าเธอ” เรย์พูดหน้านิ่ง
“เจ้าคนไร้มารยาท !” ไลแลคหงุดหงิดกับคำพูดของเขา ไม่มีใครเคยมาว่าชื่อของเธอว่าพิลึก และไม่มีใครพูดจากวนประสาทเธอได้เท่าคนตรงหน้าแล้ว ! ไลแลคมองที่เขาอย่างหมั่นไส้ เรย์มองนิ่งๆ ราวกับไม่สนใจแววตาขุ่นเคืองของเธอสักนิด ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย
“แล้วไอ้เจ้านั่นที่ตามเธอคือใคร เธอไปทำอะไรมัน แล้วผงลืมเลือนที่เธอว่านั่นมันคืออะไร ?”
“เอ่อ... หญิงสาวไม่รู้จะตอบเช่นไร เมื่อในโลกเวทมนต์ได้มีข้อห้ามอีกข้อว่า ห้ามให้มนุษย์ล่วงรู้ว่าเป็นพ่อมดหรือแม่มด หรือเธอควรที่จะทำผิดกฎอีกสักข้อสองข้อให้มันคุ้มกับการตามหาเจ้าหญิง ที่ไม่มีแม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนามอะไรเลย !
“ว่าไง ?” เรย์คาดคั้นหวังเอาคำตอบจากไลแลค หญิงสาวลึกลับ เมื่ออยู่ใกล้ๆ เธอทำให้เขาเจอแต่เรื่องประหลาดๆ เขารู้สึกไม่เข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะผู้ชายที่แต่งตัวเป็นตัวตลกที่มีแรงมหาศาลพยายามจะฆ่าพวกเขา ผงลืมเลือนเอย หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าของหญิงสาวตรงหน้าที่แปลกประหลาดเหลือเกิน เหมือนเธอหลุดออกมาจากหนังย้อนยุคแฟนตาซีอย่างไรอย่างนั้น “เธอจะบอกฉันได้หรือยัง หืม ?” เรย์ยังคงคาดคั้นเอาคำตอบ
กฎเค้ามีไว้แหก แหกอีกสักข้อสองข้อคงไม่เปนไรหรอก !
“ถ้าข้าบอกเจ้าห้ามบอกใครนะ !” ไลแลคทำหน้าตาขึงขัง เมื่อเห็นเรย์พยักหน้า เธอจึงพูดอีกครั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจ “แล้วเจ้าก็ต้องช่วยข้าด้วย เมื่อเจ้ารู้ตัวตนของข้าแล้ว” ไลแลคเหลือบมองชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าเขาพยักเธอจึงยื่นนิ้วก้อยเรียวบางของเธอออกมา “สัญญาสิ” ชายหนุ่มค่อยๆ ยื่นนิ้วก้อยของเขาเกี่ยวไว้กับนิ้วก้อยของเธอ
“ฉันสัญญา”
ร่างสูงโปร่งในชุดนอนผ้าซาตินยืนอยู่นอกระเบียง กำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของเขาอย่างสับสนและไม่เข้าใจ เขาได้เจอกับไลแลค แม่มดที่สวยที่สุดในโลกเวทมนต์(แต่ในทางกลับกันเวทมนต์ของเธอก็ห่วยเหนือคำบรรยาย) ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อกับสิ่งที่เธอพูดเท่าไรนัก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาก็ดูสมเหตุสมผลกับสิ่งที่เธอพูดอย่างหาข้อโต้เถียงไม่ได้ เขานึกย้อนไปถึงหญิงสาวที่มีหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มกำลังโดนบีบคอ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไรรู้สึกไม่ชอบใจเวลาที่เห็นเธอเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่เขาเองก็ไม่ค่อยจะสนใจใครเท่าไรนัก
“เรย์เจ้าทำอะไรอยู่ที่ข้างนอกนั่น” เสียงหวานใสฟังแล้วนุ่มหัวของไลแลคดังขึ้นจากด้านหลังชายหนุ่ม ทำให้เขาหันไปมองอาคันตุกะหน้านิ่งๆ ตอนนี้หญิงสาวพักอยู่ที่คฤหาสน์ของเขา เพื่อซ่อนตัวให้พ้นจากปีศาจโจ๊กเกอร์
“เปล่า”
“อือหึ แล้ว..” หญิงสาวใช้สายตาสอดส่องไปทั่วทุกมุมห้อง “แล้วเจ้ามีแผนที่จะช่วยข้าตามหาองค์หญิงรึยัง” เธอพูดแต่สายตาของเธอยังคงสำรวจห้องเขาอยู่
“แต่พรุ่งนี้ฉันไปโรงเรียน” เขาพูดเสียงนิ่งๆ ทำให้ไลแลคชะงักก่อนจะหันมามองเขาอย่างโกรธเคือง
“เจ้าว่าอะไรนะ !! เจ้าสัญญากับข้าแล้วนี่ !!” หญิงสาวพูด น้ำใสๆ เริ่มคลอที่ตา
“ขอโทษที”
“ขอโทษงั้นเหรอ !! ข้ามีเจ้าเป็นเพียงที่พึ่งสุดท้าย..” หญิงสาวเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะพูดออกมาทั้งน้ำตาด้วยความน้อยใจ “แต่เจ้าก็หักหลังข้า..ได้ลงคอ..” ไลแลคเม้มริมฝีปากบางๆ ของเธอเน้น ก่อนจะสะบัดหน้าหนี ก่อนจะมุดในผ้าห่มบนที่นอนของเรย์
“เตียงฉันนะ..” เขาท้วงเมื่อเห็นหญิงสาวขึ้นไปนอนบนเตียงเขาแต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากบุคคลใต้ผ้าห่ม “นี่ฟังฉันก่อนสิ”
“....”
“ฉันจะไปสืบที่โรงเรียนต่างหากล่ะ เผื่อเจ้าหญิงจะอยู้ที่โรงเรียนไง”
ในที่สุดหญิงสาวก็ยอมโผล่หน้าออกมาจากใต้ผ้าห่มทำตาแป๋ว ก่อนจะเริ่มคลี่ยิ้มบางๆ ออกมาอย่างพึงพอใจ ‘เธอชนะแล้ว’
“ดีมากเรย์ ! ข้าจะไปสืบเรื่องเจ้าหญิงกับเจ้าด้วย” หญิงสาวพูดก่อนจะเดิกจากไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งไว้แต่ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่ม เขาได้แต่ลอบถอนหายใจ ทั้งๆที่ไม่ชอบความวุ่นวาย แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องยื่นมือรับความวุ่นวายด้วยมือของเขาเอง...
แสงอาทิตย์สาดส่องร่างบาง แพขนตาหนาทาบทับผิวนวลของหญิงสาว ไม่ว่ายามหลับหรือตื่นไลแลคก็มักมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาผู้คนให้จับจ้องเสมอ เปลือกตาของเธอเริ่มปรือตาขึ้นมา ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ เพื่อให้ตาปรับสภาพแสง ก่อนจะรีบเปลี่ยนชุดเป็นกระโปรงสีชมพูอ่อนเพื่อให้ดูกลมกลืนกับมนุษย์ทั่วไป
เธอเดินไปหาเรย์ที่ห้องนอนแต่ก็พบว่าห้องทั้งห้องของชายหนุ่มเงียบกริบ ทำให้เธอรีบเดินจ้ำอ้าวลงไปชั้นล่าง ก็พบแต่เพียงแม่บ้านของเรย์ แต่ไม่พบเจ้าของคฤหาสน์
“เจ้าเห็น เฮ ชูเคีย เรย์มั๊ย ?”
“คุณเรย์ไปโรงเรียนแล้วล่ะค่ะ บ่ายจนป่านนี้ อีกไม่นานคง..” ยังไม่ทันที่แม่บ้านพูดจบ หญิงสาวก็เดินออกไปโดยไม่คิดที่จะฟังต่อ
เจ้าผิดสัญญาอีกแล้วนะ เฮ ชูเคีย เรย์ !!!
หญิงสาวคิดในใจก่อนจะเรียกสเกตบอตคู่ใจของเธอออกมา หญิงสาวยืนบนสเกตบอต ‘จงไปหา เฮ ชูเคีย เรย์’ หญิงสาวสั่งพาหนะวิเศษในใจ แต่มันกลับนิ่งสนิทไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้เธอนึกแปลกใจกับอาการผิดปกติของมัน
“ข้าบอกว่า จงไปหาเฮ ชูเคีย เรย์ เดี๋ยว-นี้ !!” หญิงสาวตะโกนใส่สเกตบอต แต่มันก็ไม่ขยับเขยื้อนเหมือนเดิม ทำให้หญิงสาวหงุดหงิดกับอาการผิดปกติของมัน เพราะปกติแล้ว ขอเพียงแค่เอ่ยนามของบุคคลนั้นๆ หรือสถานที่ที่ต้องการจะไปมันก็จะไปหาบุคคลนั้นทันที แต่เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเวทมนต์ของเธอจะเสื่อม เธอจึงลองมันอีกครั้ง ซึ่งมันก็ทำตามที่หญิงสาวสั่งทุกประการ แต่พอเธอสั่งให้มันไปหาเฮ ชูเคียมันกลับแน่นิ่งไม่ตอบสนองอะไร ราวกลับไม่มีคนชื่อเฮ ชูเคีย เรย์อยู่บนโลก !
ไลแลคเหลือบมองพาหนะคู่ใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมา สุดท้ายเธอก็จำใจต้องละความพยายามของเธอ และทำเพียงแค่นั่งรอคนผิดสัญญาเงียบๆที่หน้าคฤหาสน์
ท้องฟ้าระบายสีส้มอ่อนตรงขอบฟ้า ถูกโอบอุ้มด้วยสีฟ้าจางๆ ไล่ไปจนเข้ม มีปุยนุ่นสีขาวๆ ที่แต่งแต้มท้องฟ้าที่ว่างเปล่า แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีรุ้งกินน้ำคอยแต่งแต้มท้องฟ้าให้ดูมีสีสันยิ่งขึ้น ใต้ท้องฟ้าที่ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาทีละนิด มีชายร่างสูงโปร่งกำลังเดินอย่างเร่งรีบ ผิวขาวนวลเนียนผุดผ่องดั่งหิมะบ่งบอกได้ว่าเขาคือผู้ดีมีสกุลแค่ไหน ผมสีดำขลับปลิวตามแรงลม เหงื่อหลายเม็ดผุดพรายอยู่บนใบหน้า ตาสีฟ้าของเขามองตรงไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ เรย์กึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อที่จะกลับบ้าน ถึงแม้เขาจะร่ำรวยแต่เขาก็ไม่อยากใช้รถเพราะบ้านกับโรงเรียนของเขาอยู่ไม่ไกลเท่าไร วันนี้เขามีกิจกรรมที่โรงเรียนทำให้เขาเลิกเรียนช้า และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวชาวโลกเวทมนต์คงจะโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟอยู่เป็นแน่แท้ ! ความจริงเขาปลุกเธไปโรงเรียนด้วยแล้วแต่เธอไม่ยอมตื่นเองต่างหาก !
เรย์วิ่งอย่างกระหืดกระหอบจนมาถึงคฤหาสน์ของเขา แต่แล้วสายตาก็ต้องไปสะดุดที่ร่างบางในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ไลแลคนั่นเอง ! เธอคงจะรอเขาจนหลับไป เรย์เดินเข้าไปใกล้ไลแลคเพื่อหวังจะปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากนิทรา ผมสีม่วงเป็นประประกายคลอเคลียกับใบหน้าหวานๆ และคออันงามระหง เป็นภาพที่สามารถดึงดูดใจชายหนุ่มที่พบเห็นราวกับดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมดึงดูดเหล่าภมรทั้งมวลให้เข้ามาดอมดมกลิ่นหอมหวานจากตัวของเธอ เรย์มองหญิงสาวดั่งต้องมนต์สะกดก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าอันคมคายของเขาเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ จนริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน ใจของชายหนุ่มเต้นแรงก่อนจะค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกมาอย่างแผ่วเบาที่สุด เขามองเธอด้วยความรู้สึกบางอย่าง ไม่นานนักไลแลคก็ลืมตาขึ้นมาอย่างัวเงีย ภาพเหตุการณืเมื่อครู่ที่ยังตราตรึงในความทรงจำของชายหนุ่มเริ่มย้อนกลับมา ทำให้ใบหน้าสีขาวดั่งหิมะของเขาค่อยแดงระเรื่อๆ ไลแลคมองคนตรงหน้าอย่างงุนงง
“เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไรน่ะ ?”
เขาไม่ตอบแต่เดินเลยผ่านเธอไป ราวกับไม่ได้เธอไม่มีตัวตน ถึงแม้ใบหน้าของของเขาจะกลับมาเป็นนิ่งเฉยเหมือนเดิมก็ตามที แต่หญิงสาวไม่ติดใจสงสัยกับพฤติกรรมของเรย์ เธอหวังเพียงแต่จะทวงคำสัญญาจากเขาคืนเท่านั้น นั่นส่งผลให้เธอวิ่งตามเขาไป
“เดี๋ยวก่อน ! ไหนเจ้าบอกจะพาข้าไปสืบที่โรงเรียน ?”
“ที่นั่นไม่มีเจ้าหญิง เพราะเธอบอกว่าคนคนนั้นต้องเก่งผิดมนุษย์และใช้เวทมนต์ได้ใช่มั๊ย ?” หญิงสาวพยักหน้ารับ แต่ยังมองชายหนุ่มหวังจะเค้นความจริง “แต่ไม่มีอย่างที่เธอบอก !”
“เจ้านอกจากจะผิดคำสัญญาแล้วยังพูดจาโป้ปด !” ไลแลคน้อยใจคน(ที่ถูกกล่าหาว่า)โป้ปด จึงร่ายเวทมนต์ใส่เขาทันทีโดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ยังไม่ทันที่เรย์จะได้อธิบาย ก็ปรากฏสัตว์ประหลาดร่างแคระสูงประมาณ 1 ฟุต 4 ตัว ปรากฏอยู่บนร่างกายของเขา และกำลังล็อคแขนล็อคขาทั้งสองข้างของเขาอยู่ เรย์จ้องมองสัตว์ประหลาดร่างแคระด้วยใบหน้านิ่งๆ อย่างที่เค้าทำบ่อยๆ อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว สัตว์ประหลาดเองเองก็จ้องมองเขาด้วยเช่นกัน มันจ้องมองเขาด้วยแววตามุ่งร้าย และยิ้มยิงฟัน(แสยะยิ้ม) ให้กับเขาพร้อมปล่อยน้ำลายเหม็นๆ ของมันให้ไหลไปตามตัวของเขา กลิ่นของมันเหม็นเกินจะบรรยาย
“ในเมื่อเจ้าไม่ช่วยข้า เจ้าก็สมควรที่จะได้รับบทลงโทษจากข้า !” เมื่อสิ้นเสียงของไลแลค สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่อยู่บนไหล่ข้างซ้ายของเค้าก็กัดเค้าทันที ตัวอื่นที่เกาะอยู่ตามแขนข้างขวาและขาทั้งสองข้างยังไม่ทันที่จะได้ทำร้ายเขา เรย์ก็สะบัดขาและแขนของเขาอย่างแรงเพื่อสลัดเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นออก เค้าเหยียบสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ร่วงกับพื้นจนกระโหลกของมันแตก เลือดกระเซ็นไปทั่ว และเค้าก็จับอีกสองตังที่ประกบอยู่ตรงไหล่ของเขาไม่ยอมหลุดไปไหนนั้นกระแทกกับกำแพง ส่วนอีกตัวนั่นเมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีและหายวับไป
ไลแลคยืนมองเหตุการณ์ด้วยแววตาทึ่งๆ เธอต้องการเพียงแค่ทำโทษให้เรย์มีบาดแผลนิดๆหน่อยๆเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้ แม้พวกมันจะตัวเล็กแต่ก็มีแรงมากพอที่จะทำร้ายมนุษยืที่ไม่มีพิษสงอะไรเลย และแรงของมันก็มากพอที่จะฆ่ามนุษย์ได้หนึ่งคนต่อ 1 ตัว แต่สัตว์ประหลาดตั้ง 4 ตัวกลับโดนมนุษย์ธรรมดาฆ่าตายไปสาม ! หญิงสาวเริ่มไม่เข้าใจในเหตุการณ์ตรงหน้า ‘เฮ ชูเคีย เรย์ เป็นใครกันแน่ !!?’
เรย์มองไลแลคที่กำลังยืนนิ่งอย่างตกใจ เค้าเดินเข้าไปหาเธอช้าๆ สายตาของเขาเริ่มพร่าเลือน จากที่เขามองเห็นไลแลคมีหนึ่งคน ก็กลายเป็นสอง..สามคน..สี่คน ร่างกายของเขาเริ่มหนักหน่วง ไหล่ข้างซ้ายเริ่มเจ็บแปลบ เจ้าปีศาจร้ายพวกนั้นมีพิษที่ฟัน ! ยังไม่ทันที่จะเดินไปถึง สติของเขาก็ดับวูบ แล้วทั้งหมดก็มืดสนิท มีเพียงแต่เสียงหวานๆ เรียกชื่อของเขาดังก้องอยู่ในโสตประสาทเท่านั้น ก่อนมันจะมลายหายไปพร้อมกับสติอันเลือนรางของเขา..
กลิ่นฉุนๆ ลอยคละคลุ้งไปทั่วก่อนจะลอยเข้ามาแตะจมูก ชายหนุ่มปรือตาขึ้นมาอย่างเนือยๆ เขารู้สึกตัวของของเขากำลังหนักอึ้ง และแขนข้างซ้ายของเขารู้สึกชาไปหมด เรย์กวาดสายตาไปทั่วห้อง ตอนนี้เขารู้ว่าเขากำลังอยู่ในห้องตัวเขาเอง เขาพยายามนึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้างแต่ก็นึกได้ไม่ดีนัก เขาจำได้ว่าเขาจุมพิตไลแลค.. คิดได้แค่นั้น หน้าทั้งหมดก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เขารีบสะบัดหัวไล่เหตุการณ์บ้าๆ นั่นออกให้หมด !
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนู” แม่บ้านพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสหลังจากเดินออกมาจากห้องแต่งตัวซึ่งอยู่ภายในห้องนอนของเขา “หายเจ็บแขนบ้างรึยังค่ะ ?”
ชายพยักหน้าให้กับแม่บ้านของเขานิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา “แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น ?” เค้าขมวดคิ้ว
“ฉันเห็นแต่คุณหนูสลบ ได้รับบาดเจ็บ แล้วก็มีกลิ่นเหม็นๆ ไปทั่วทั้งตัวค่ะ” แม่บ้านย่นจมูกเมื่อนึกถึงกลิ่นของมัน คำพูดของแม่บ้านทำให้เค้าจำเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่
“ขอบคุณที่ช่วยฉัน” เรย์กล่าวหน้านิ่งๆ ทำให้แม่บ้านหันมายิ้ม
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ ต้องขอบคุณคุณไลแลคต่างหากล่ะค่ะ ที่เฝ้าคุณหนูทั้งวันทั้งคืน คุณหนูหลับไป 1 วันเต็มเชียวนะค่ะ แต่คุณไลแลคก็ไม่ได้นอนเลย มัวแต่เฝ้าคุณหนูทั้งคืน” แม่บ้านพูดพลางเปิดผ้าม่านออก เพื่อให้แสงสว่างจากข้างนอกเข้ามา ก่อนจะเดินออกจากห้องของเขาไป ‘ถ้างั้นไลแลคอยู่ไหน’ ชายหนุ่มขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อคิดถึงหญิงสาว ชายหนุ่มเอามือมาวางไว้บนอกตัวเอง แล้วก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ใต้ผ้าห่มของเขามีอะไรบางอย่าง ! นั่นทำให้เขารีบเปิดผ้าห่มออกทันที ซึ่งใต้ผ้าห่มปรากฏร่างบางที่เค้าอยากเจอ(มากที่สุด) ไลแลคเริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะใช้สายตาตวัดมองมาที่เขา
“ข้าขอโทษ” เธอพูดเสียงอู้อี้
“อะไรนะ !?” ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ก็บอกว่าข้าขอโทษไงเล่า ! ข้าก็แค่คิดว่าเจ้าผิดสัญญา แอบหนีไปโรงเรียนไม่ยอมปลุกข้า ! แต่ที่ข้าไม่ตื่น ข้าไม่ผิดนะ ข้าอดนอนมาตั้ง 3 วัน ข้าเลยเป็นอย่างที่เห็น เท่านั้นเอง..” ไลแลคตะโกนดังลั่น พร้อมทำแก้มป่องบนตัวของชายหนุ่ม “ถือว่าข้าดูแลเจ้าเป็นการตอบแทนแล้วกัน” คำพูดนั้นแม้จะไม่มีความหมายพิเศษ แต่ก็ทำให้เรย์คลี่ยิ้มอย่างบางเบา เขาลูบหัวเธออย่างเบามือ แต่ไลแลคได้แต่มองเขาอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของชายหนุ่ม ไม่เข้าใจในทุกๆ สิ่งที่เขาทำกับเธอ ไม่เข้าใจในสายตาของเขาในตอนนี้ที่มองเธอมา มันเหมือนมีความหมายอะไรบางอย่างแต่เธอก็ไม่สามารถอ่านใจเขาออกได้ แต่แล้วสุดท้ายหญิงสาวก็ลุกขึ้นออกจากตัวของเรย์ “ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่นสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ เผื่อมันจะบำบัดให้เจ้าดีขึ้นได้” ไลแลคพูดพลางพยุงตัวของเรย์ขึ้นอย่างระมัดระวัง โดยไม่ทันคิดว่า เรย์ใจเต้นแรงแค่ไหนเวลาที่เขาได้อยู่ใกล้เธอเช่นนี้...
กลิ่นหอมของดอกไม้หลากชนิดวนเวียนอยู่ในสวนหลังคฤหาสน์ของเรย์ ใบไม้ตามต้นไม้ใหญ่ค่อยๆ ร่วงลงมาทีละใบสองใบ ลมเย็นสดชื่นพัดเข้ามาเป็นระลอก ทำให้หนุ่มสาวที่นั่งในสวนใตต้นลินเด็นต่างรู้สึกผ่อนคลาย
“เป็นไงดีขึ้นมั๊ย ?” ไลแลคถามเขาด้วยท่าทีเป็นห่วง
“...”
“ขอโทษนะที่ข้าโกรธเจ้าโดยที่ไม่ฟังเจ้าเลย” ไลแลคเงียบไปสักพักก่อนจะเหม่อออกไป “ยังไงซะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้าก็ต้องตายอยู่ดี..” แววตาเศร้าสร้อยของไลแลค ทำให้เรย์ที่ได้แต่ลอบมองใบหน้าหวานๆ ของหญิงสาวเศร้าใจ ชายหนุ่มกุมมือหญิงสาวราวกับจะปลอบใจ ‘ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องไม่ตาย !’
“ขอโทษนะที่ฉันไม่มีพละกำลัง ไม่มีเวทมนต์อะไรพอที่จะช่วยเธอได้ ฉันขอโทษ...” เรย์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย หัวใจของเขาเหมือนจะแหละสลาย เขาไม่อาจห้ามใจให้รู้สึกดีกับร่างบางที่นั่งข้างๆ เขาใต้ต้นลินเด็นนี่
“เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าข้าหาเจ้าหญิงเจอข้าก็จะรอด แต่ข้าจนปัญญาเหลือเกิน เรย์.. ข้าหาแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ไร้ร่องรอย” ไลแลคพูดเพื่อให้เขาคลายความกังวล ชายหนุ่มมองก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้
“เธอพอจะมีรูปเจ้าหญิงมั๊ยล่ะ !?” เรย์รีบเสนอความคิดเห็นของตนทันที
“...” ไลแลคส่ายหน้าช้าๆ อย่างสิ้นหวังแทนคำตอบ
“ฉันคิดว่าตามหาคนหน้าเหมือนพระราชากับพระราชินีดีมั๊ย ลูกก็ต้องมีหน้าตาเหมือนพ่อแม่สิจริงมั๊ยล่ะ !”
“จริงด้วย ! ข้าลืมไปซะสนิท !” ดวงตาสีฟ้าเริ่มมีประกายความหวัง “งั้นข้าจะไปสืบอีกที ! เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่นะ แล้วข้าจะรีบกลับมา” เธอพูดอย่างระงับความตื่นเต้นไม่มิด เธอมีโอกาสที่จะรอดแล้ว ! “เหลือเวลาอีก 35 ชั่วโมง ข้าขอบคุณเจ้าจริงๆ” เธอยิ้มอย่างดีใจ
“ก่อนที่ข้าจะไป ถ้าใครมาไม่ทัน นั่นหมายความว่าข้าตายแล้ว แต่ก่อนจะไป ข้าอยากให้เจ้ารู้จักความหมายชื่อของข้า..”
“....”
“ความจริงข้าไม่เคยบอกมันให้ใครฟังหรอกนะ เอ่ออ..อ เจ้า..คือ คือ คนแรกที่ข้าอยากบอกความหมายมัน เอ่อ..” หญิงสาวเริ่มหน้าแดงระเรื่อเหมือนลูกตำลึงสุกด้วยความเขินอาย ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดออกมา “ไลแลค คือ รักแรก เยมีร่า นามสกุลข้า แปลว่า เธอคือแสงอาทิตย์แห่งชีวิตฉัน ส่วนริปลีย์นะคือสมัยเกิดของข้า ข้าไม่รู้ความหมาย” หญิงสาวพูดท่ามกลางแสงอาทิตย์ ทำให้ร่างของเธอดูเจิดจรัสราวกับนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เลือนหายไปในแสงสว่าง พร้อมเสียงเบาๆที่ลอยมากับลม ..ข้าจะกลับมา ข้าสัญญา..
เรย์มองที่ที่หญิงสาวเคยนั่งอยู่ แต่บัดนี้กลับไม่มีร่างบางแล้ว เขามองตรงนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์ แววตาของเขาเศร้าสร้อยเกินจะพรรณนา..
“เธอเองก็คือคนแรกเหมือนกัน..ที่ฉันจะบอก..” เรย์หยุดนิ่งเก็บคำสุดท้ายของเขาไว้ในใจ
ฉันรักเธอ..
ไลแลคปรากฏอยู่หน้าพระราชวังของราชาจอมหยิ่ง เวลาเหลืออยู่ไม่มากนัก เธอจะต้องพาเจ้าหญิงมาให้ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่สามารเข้าพระราชวังอย่างเป็นทางการเพื่อไปสืบค้นเกี่ยวกับเจ้าหญิงได้ เนื่องจากมีกฎว่าช่วงที่เธอทำภารกิจห้ามเข้าพระราชวังก่อนกำหนด ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปในตอนนี้มีสองทางคือเชื้อพระวงศ์กับลอบเข้าไป ซึ่งเธอเลือกอย่างหลัง เพราะการเป็นลูกสาวนักฆ่านั้น การลอบเข้าไปในวังเป็นเรื่องที่สบายมาก เพราะตอนที่เธอยังไม่แยกออกจากครอบครัวนั้น พ่อแม่และพี่ชายของเธอได้สอนการป้องกันตัวและลอบฆ่าให้เธอ ซึ่งในเวลานี้วิชาพวกนั้นมีค่าต่อเธอเป็นอย่างมาก
ณ เวลานี้หญิงสาวต้องหาหลักฐานสำคัญเพื่อตามหาเจ้าหญิงของพระราชาลูคัสที่หายไป ซึ่งก็คือภาพวาดของราชินี เพราะราชินีคือคนเดียวที่เธอยังไม่เห็นหน้าเพราะตายไปแล้ว เธอจึงต้องมาหาข้อมูลสำคัญซึ่งมีทางเป็นไปได้ว่าเจ้าหญิงอาจจะมีหน้าตาคล้ายกับราชินีมากที่สุด !
แกร๊งงง !!
“มีคนบุกรุก !!” เสียงทหารยามดังขึ้นมาใกล้ๆ เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ซึ่งเป็นเสียงที่หญิงสาวชนกับหุ่นอัศวินทำให้ดาบตกกระทบกับพื้นเสียงดังลั่นนั่นเอง หญิงสาวเห็นเงาของทหารยามจากคบไฟใกล้ทำให้เธอลุกลี้ลุกลน ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปในห้องๆ หนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ไลแลคมองลอดผ่านประตูเห็นทหารสองคนมองซ้ายมองขวาหาคนร้าย
“มันคงหนีไปได้ไม่ใกล้ไม่ไกล ข้าจะไปตามเอง ส่วนเจ้าเฝ้าดูอยู่ตรงนี้ก่อนนะ !” ทหารยามอีกคนวิ่งตามหาคนร้าย ส่วนอีกคนหนึ่งยืนเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูของหญิงสาวไม่หนีไปไหน ทำให้หญิงสาวต้องหลบอยู่ในห้องนั้นสักพักใหญ่ๆ
หญิงสาวค่อยๆปิดประตูที่แง้มเอาไว้อย่างเบาๆ ไม่ให้ทหารยามรู้ตัว ก่อนจะหันกลับมาสังเกตการณ์บรรยากาศของห้องนั้น รอบๆห้องมีแต่พวกของใช้ผู้หญิง เครื่องประดับเต็มไปหมด ข้างบนเตาผิงนั้นมีรูปของผู้ชายคนนึงกอดหญิงผิวขาวดั่งหิมะอย่างรักใคร่ แต่ใบหน้าของหญิงสาวถูกเผาไหม้หายไปส่วนนึง หญิงสาวไม่เคยเห็นหน้าของชายบนรูปภาพมาก่อน เข้ามีใบหน้าที่หล่อเข้มดูคมคาย ร่างกายกำยำดั่งนักรบ ผิวของเขาคล้ำเหมือนผ่านจากการโดนแดดเป็นเวลานาน ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ราชาลูคัส เพราะไม่มีส่วนใดคล้ายคลึงกันเลยแม้แต่นิด ทั้งที่ที่นี่เป็นปราสาทของราชาจอมหยิ่งแต่แปลกตรงที่ภาพวาดนั้นถูกแขวนอย่างเปิดเผยราวกับเป็นเจ้าของปราสาทแทน หรือ เขาจะมีความเกี่ยวข้องกับราชินีทางสายเลือด ? หญิงสาวขใวดคิ้วจนเป็นปมแน่น ‘คนพวกนี้เป็นใครกันแน่ แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับราชาจอมหยิ่งคนนั้น’
หญิงสาวเลิกคิดก่อนจะค้นลิ้นชักทุกซอกทุกมุมให้ทั่วทุกมุมห้อง เพื่อค้นหาหลักฐานชิ้นสำคัญ แต่ก็มีเพียงเครื่องและเสื้อผ้าของผู้หญิงที่ถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อยเท่านั้น ซึ่งเธอเดาได้แค่ว่าคงเป็นห้องของผู้หญิงในรูปที่ไม่มีหน้าเด่นชัดคนนั้นแน่นอน หรือเขาจะเป็นญาติของราชาจอมหยิ่งกัน หญิงสาวครุ่นคิด ส่วนมือก็ค้นหาหลักฐานไปด้วย จนเจอสมุดไดอารี่เล่มหนึ่ง ไลแลคค่อยๆ เปิดหา เผื่อจะเจอข้อมูลที่สำคัญบ้าง หลังจากที่ค้นเจอแต่เครื่องประดับและเสื้อผ้า
‘เกิดสงครามขึ้นที่เมืองของเรา ทุกคนต่างชุลมุนวุ่นวาย ข้าทำได้แค่รักษาตัวอยู่ในที่ปลอดภัยเท่านั้น...
ตอนนี้ในตัวข้ามีอีกหนึ่งชีวิต ข้ามีทารกน้อยๆ เขากำลังจะออกมาดูโลกในอีกไม่ช้า
ข้าเชื่อว่าสามีข้า คงจะรอดจากภัยสงครามและไม่มีใครลอบฆ่าเขาได้ เพราะข้ารู้ว่าเขามีหลายร่าง...
ข้าขอให้ท่าปลอดภัยด้วยเถิด...’
ไลแลคอ่านแล้วก็รู้สึกฉงนสงสัยกับคำว่า”เขามีหลายร่าง” ‘นางกำลังจะสื่ออะไรกัน ?’ เธอได้แต่เก็บคำถามไว้เพียงในใจก่อนจะรีบพลิกกระดาษไปหน้าถัดไปทันทีเพื่อที่จะรีบเก็บข้อมูลเพื่อไปตามหาเจ้าหญิง !
‘ข้าไม่ได้เขียนมาหลายวัน ข้าเพิ่งจะคลอดพระโอรสที่น่าชังให้แก่ลูคัส...
ข้าจะต้องรีบบอกสามมีของข้า “ว่าลูกของเราน่าหวานปานสตรี”
ข้าอยากอยู่เคียงข้างท่านเหลือเกินลูคัส ข้าคิดถึงอ้อมกอดของท่าน’
“นี่มันอะไรกันเนี่ย ?” หญิงสาวพยายามจับต้นชนปลายให้ได้ แต่เมื่อเปิดไปอีกหน้าก็ไม่มีบันทึกของหญิงไร้นิรนามคนนี้แล้ว ซึ่งเธอคงจะไม่ได้เขียนมานานแล้ว ดูจากไดอารี่ที่เต็มไปด้วยฝุ่น แต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือนต่างๆ กลับไม่มีฝุ่นสักนิด แสดงว่าห้องนี้ต้องสำคัญมาก และก็อาจะเป็นไปได้ว่านี่คือห้องของราชินีที่เธอตามหามานาน แต่ใบหน้าของราชินีกลับหายไป ตอนนี้เหลือเวลาไม่มากนัก ไลแลคได้แต่เดินดูรอบๆ ห้องแต่ก็ไม่เจออะไร เธอจึงทรุดนั่งลงข้างๆ เตาผิง
ครืนน น...
เสียงกำแพงหินข้างในเตาผิงเปิดออก ทำให้ไลแลคเห็นห้องลับภายในเตาผิงนั่น หญิงสาวเริ่มคลี่ยิ้มอย่างมีความหวัง
ไลแลคก้าวเข้าไปในห้อง ทำให้ฝุ่นในห้องนั้นฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง
‘ท่าทางจะไม่มีใครรู้จักห้องลับนี่ และท่าทางจะไม่มีใครเปิดมันนานแล้วด้วย’
ภายในห้องลับนั้นมีชั้นหนังสือล้อมรอบไปหมด มีเพียงโต๊ะหนังสือที่อยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีขวดน้ำหนึกแห้งเกรอะกรัง มีกระดาษเอกสารกองอยู่เต็มโต๊ะ และตรงมุมโต๊ะก็มีกล่องไม้สลักลาย เป็นกล่องดูสวยงามสะดุดตามาก ทำให้หญิงสาวถือวิสาสะเปิดออกดูด้วยความสงสัย ซึ่งสิ่งของที่อยู่ข้างในทำให้หญิงสาวยืนนิ่งอึ้ง สิ่งที่อยู่ในกล่องไม้นี้เป็นภาพวาดที่ม้วนไว้ มันเป็นภาพของหญิงสาวที่มีผิวดั่งหิมะ ตาสีฟ้าสวยของเธอกำลังเปล่งประกาย ผมดำขลับยาวสลวยช่างละม้ายคล้ายกับคนนั้น !! ไลแลคไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตนเอง ส่วนอีกภาพเป็นภาพของราชาจอมหยิ่งกำลังยิ้ม ซึ่งหญิงสาวอ่านข้อความในภาพที่เขียนกำกับเอาไว้ว่า ‘ร่างปลอมของเขาที่ทำให้ข้านึกถึงปู่ของข้า..’ หญิงสาวรีบเก็บของใส่กล่อง เมื่อทุกอย่างกระจ่างชัด หญิงสาววางของไว้ที่เดิมแล้วรีบออกมาจากห้องลับนั่น !
ครืนน น..
เสียงกำแพงหินเลื่อนปิดห้องลับอีกครั้ง...
ปึงง ง !!
เสียงเปิดประตูอย่างรุนแรงทำให้ไลแลคหันไปมองทางต้นเสียง ทหารคนเดิมที่กำลังตามตัวเธอกำลังแสยะยิ้ม เมื่อเห็นตัวการอยู่ตรงหน้า
“ซวยแล้ว ไลแลค !” หญิงสาวบอกกับตัวเองในใจ ก่อนจะเรียกพานะคู่ใจเธอออกมาอย่างไม่รีรอ ก่อนจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว พุ่งทะยานออกไปนอกหน้าต่างและใช้อาคมเปิดประตูสู่โลกมนุษย์อย่างเร่งรีบ ก่อนที่แม่ทัพเนมอสจะตามมาจับคนบุกรุกปราสาทอย่างเธอ แล้วร่างบางก็ค่อยๆ เลือนหายไปสู่โลกมนุษย์...
ร่างบางร่วงลงมาในสวนหลังคฤหาสน์ของเรย์พอดี เรย์ที่รอไลแลคก-ลับมานั้นเห็นร่างบางร่วงลงไปในทุ่งลาเวนเดอร์จึงรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวตกลงไปในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากต้นลินเด็นเท่าไรนัก เขาเห็นหญิงสาวนอนจุกอยู่ตรงนั้น
“หักระวังบ้างสิ !” น้ำเสียงดุแต่ก็เจือความห่วงใย ไลแลคมองหน้าของชายหนุ่มก่อนจะแซว
“ห่วงข้าล่ะสิ ถึงได้รอไม่ยอมไปไหน” ไลแลคพูดยียวน ทำให้เรย์รีบลุกขึ้นเดินหนีหญิงสาวด้วยความหมั่นไส้ ‘น่าจะปล่อยให้โดนประหารนัก’ เรย์คิด ไลแลคเมื่อเห็นชายหนุ่มลุกหนีจึงจับมือเขาไม่ให้ไปไหน “ไม่คิดจะช่วยข้าจริงๆ เหรอ ?” ไลแลคกระพริบตาปริบๆ เรียกคะแนนสงสารจากคนตรงหน้า ซึ่งมันได้ผลดีทีเดียว
‘แพ้ลูกอ้อนจนได้สินะเรา’ เรย์คิดก่อนจะช้อนตัวไลแลคขึ้นอย่างเบามือ ยิ่งทำให้ไลแลคยิ้มอารมณ์ดีขึ้น
“แล้วเรื่องเจ้าหญิงล่ะ ?” เรย์ถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง ไลแลคลอบมองเสี้ยวหน้าของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“เจ้าไง..”
เรย์มองหญิงสาวอย่างต้องการจะรู้ว่าหญิงสาวจงใจจะแกล้งเขารึเปล่า ก็ในเมื่อเธอตามหาเจ้าหญิงไม่ใช่เจ้าชายแล้วเขาจะรับได้ไง ที่จะไปเป็นเจ้าหญิงให้โลกเวทมนต์ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวชาวโลกเวทมนต์จะเล่นด้วยเลยแม้แต่น้อย
“ราชาจอมหยิ่งเป็นพ่อของเจ้า..”
วันนี้เป็นวันครบกำหนดของการตาหาลูกสาวของราชาลูคัส เขานั่งมองเหตุการณ์ทุกอย่างบนบัลลังก์ ทหารทุกคนพยายามกระวีกระวาดเข้าไปประจำตำแหน่งของตน เพื่อต้อนรับไลแลคกับลูกสาวที่หายไปของเขา ลูคัสเชื่อมั่นในตัวไลแลคว่าเธอจะต้องตามหาลูกสาวของเขาจนเจอ แต่เขาเองก็เพิ่งจะรู้จากนางกำนัลของเมืองสโนว์แลนด์ที่ซึ่งเป็นคนสนิทกับ ‘ฟาเอลดราล่า’ พระราชินีของเขาที่ตายไปเมื่อ 16 ปีก่อนหลังจากคลอดลูกได้ 2 วันก่อนที่เขาจะกลับมาจากการรบ และภายในวันที่จะพาฟาเอลดราล่าไปทำพิธีลูกของเขาก็ร่วงลงไปในบ่อน้ำซึ่งเป็นประตูเชื่อมโลกเวทมนต์กับโลกมนุษย์ แต่แท้จริงแล้ว ลูกที่เขาคิดว่าเป็นผู้หญิงตลอด 16 ปีที่ผ่านมานั้นไม่ใช่ลูกสาวอย่างที่เขาคิด แต่เป็นลูกชายต่างหาก ! แต่ที่เขาเห็นว่าเป็นผู้หญิงนั้นเป็นเพราะว่าลูกของเขาหน้าตาราวกับเด็กหญิง นางกำนัลคนสนิทก็ออกจากเมืองเฮทเธอร์ไปทันที เนื่องจากเป็นธรรมเนียมของเมืองสโนว์แลนด์ จึงทำให้เขาไม่ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับลูกของเขาแม้แต่น้อย
เสียงแตรเป่าเขาสัตว์ดังสนั่นลั่นไปทั่วทั่งเมือง ซึ่งนั่นหมายถึงว่าไลแลคได้มาถึงโลกเวทมนต์แล้วนั่นเอง ลูคัสรู้สึกใจเต้น เขารู้สึกใจจดใจจ่อกันการปรากฏตัวของหญิงสาว ไม่นานนักก็ปรากฏร่างบางของหญิงสาวผู้สวยที่สุดในโลกเวทมนต์ ก้านหลังของเธอปรากฏร่างสูงโปร่งที่คุ้นตาเหลือเกินสำหรับลูคัส ลูกของเขาเหมือนฟาเอลกราล่ามาก !
“ลูกพ่อ..” ลูคัสพูดเสียงสั่น ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายหนุ่มผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับราชินีผู้เป็นที่รัก ผู้ล่วงลับไปแล้ว ร่างของลูคัสค่อยๆ เปลี่ยนจากชายแก่ร่างท้วมกลายเป็นนักรบหนุ่มดั่งที่ไลแลคเห็นในภาพวาด !
เรย์มองด้วยอาการอึ้งๆ เขายังตกใจไม่หาย เมื่อเขารู้ว่าเขามีสายเลือดของชาวโลกเวทมนต์ที่พลัดพรากมาถึง 16 ปี ! และราชาหุ่นกำยำเหมือนนักรบผิวเกรียมแดดที่ปรากฏเบื้องหน้าคือพ่อแท้ๆ ของเขา ถึงแม้เขาจะรู้ว่าพ่อแม่ที่อยู่บนโลกมนุษย์นั้นไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของเขาเพราะเขาไม่มีส่วนไหนคล้ายท่านทั้งสอง แต่ชายที่มีฐานะเป็นกษัตริย์ผู้นี้เค้ากลับรู้สึกผูกพันและมีส่วนคล้ายคลึงอยู่บางส่วนแม้จะไม่มากมายเท่าไรนัก
“ไลแลค เยมีร่า ริปลีย์ เจ้าพ้นจากการเป็นนักโทษแล้ว”
เสียงประกาศก้องของราชาลูคัส ไม่ได้ทำให้ไลแลครู้สึกดีเลยสักนิด หญิงชายมองชายทั้งสองอย่าเงียบๆ เธอเหมือนถูกอะไรบางอย่างกันออกมาให้ห่างจากพวกเขา ไลแลคไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก เธอรู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญไป รู้สึกเหมือนเรื่องระหว่างเขากับเธอมันไม่มีทางเป็นไปได้
“อีก 3 วันข้างหน้าจะมีพิธีอภิเษก ระหว่างเจ้าชายแห่งเมืองเฮทเธอร์กับเจ้าแห่งเมือง...”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวของเธอก็ว่างเปล่า หญิงสาวไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป เธอกลั้นน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกพลางวิ่งออกจากพระราชวังโดยเร็วที่สุด ไปที่ไหนก็ได้ ที่ที่ไม่มีคนชื่อ”เฮ ชูเคีย เรย์” ! ก่อนจะสะดุดล้ม หญิงสาวไม่คิดจะลุกขึ้นอีกต่อไป เธอเอาแต่ก้มหน้าร่ำไห้ด้วยความปวดใจอย่างสุดแสน
“ท่านพ่อ...ผมขอโทษนะ ผมไม่อยากแต่งงาน เอ่ออ.. คือผมมีคนรักอยู่แล้ว” เรย์ตัดสินใจบอกลูคัสด้วยความเด็ดเดี่ยว “ผมไม่อยากทำให้เธอเสียใจ” ลูคัสมองหน้าลูกชายของตนที่ไม่ได้เจอนานถึง 16 ปี ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา พร้อมคำตอบที่ทำให้เรย์ถึงกับยิ้มละไม
“การอภิเษกถือว่าเป็นโมฆะ !!” เรย์ยิ้มนึกขอบคุณพ่อแท้ๆ ของเขาที่ไม่ใจร้ายกับจิตใจของเขาเกินไปนัก เขากวาดตามองไปทั่วห้องโถงของพระราชวัง แต่ก็ไม่พบร่างบางแม้แต่น้อย เขาจึงวิ่งออกไปตามหาเธอ เสียงหวานใสของเธอประเดประดังเข้ามาในความคิดของตอนที่ออกตามหาหญิงสาว ภาพความทรงจำต่างๆ ไหลพรั่งพรูออกมา
‘ราชาจอมหยิ่งคือพ่อของเจ้า...’
‘เธอรู้ได้ไง’ เรย์ถามนิ่งๆ ขณะที่อุ้มร่างบางเอาไว้ หญิงสาวก็เลยเล่าเรื่องที่เธอรู้มาจนหมดเปลือก
‘ข้าเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง ว่าทำไมสเกตบอตถึงไม่พาข้าไปหาเจ้า เป็นเพราะเจ้าไม่มีตัวตนในโลกมนุษย์นั่นเองและไม่มีชื่อในโลกเวท..’ ยังไม่ทันที่คนในอ้อมกอดจะพูดจบ ริมฝีปากบางอมชมพูของเธอก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากบางของเขา
‘เธอรู้เรื่องพวกนั้น แล้วเธอรู้ใจฉันรึยัง ?’
เรย์วิ่งไปทั่วโดยไม่มีจุดมุ่งหมายปลายทางเพราะเขาเองไม่เคยมาโลกเวทมนต์มาก่อน แต่แล้วเขาก็พบหญิงสาวนั่งอยู่ข้างๆ ลำธารใส ไลแลคนั่นเอง เธอนั่งเหม่อมองไปยังท้างฟ้ากว้างนึกถึงแต่ผู้ชายที่ชื่อ “เฮ ชูเคีย เรย์”
“เจ้าก้อนน้ำแข็ง ! เจ้าคนไม่มีหัวใจ !” เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้หญิงสาวโกรธระคนน้อยใจ จึงทำให้เธอตะโกนระบายความอัดอั้นตันใจออกมาโดยไม่รู้ว่าก้อนน้ำแข็งไม่มีหัวใจนั้นอยู่ด้านหลังของเธอ
“เจ้าก้อนน้ำแข็งที่ว่าน่ะ ใครกัน !?” เสียงทุ้มที่คุ้นเคย ดังจากด้านหลังทำให้ไลแลคหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าก้อนน้ำแข็ง
“อย่ามายุ่งกับข้า !!!”
“ฉันมาถามเพื่อเอาคำตอบว่า “เธอรู้ใจฉันรึยัง”” คำถามที่เรย์ถามทำให้ไลแลคก้มหน้าไม่พูดอะไร เรย์จึงพูดต่อ “เธอรู้มั๊ย ว่าฉันเกลียดความวุ่นวายแค่ไหน ? และเธอรู้มั๊ยว่าเธอคือคนที่ทำให้ฉันวุ่นวายที่สุด !”
“ข้าขอโทษ !” หญิงสาวตะโกนออกมาด้วยความน้อยใจชายตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก “ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าวุ่นวาย ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าบาดเจ็บ ข้าขอโทษที่ขอให้เจ้าช่วย..” น้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม ก่อนจะเงยหน้ามองชายตรงหน้า แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเจ้าปีศาจร้ายโจ๊กเกอร์อยู่ด้านหลังของเรย์ อาการตกใจของไลแลค ทำให้เขาไหวตัวทันหลบโจ๊กเกอร์ที่กำลังจะฆ่าเขาได้อย่างหวุดหวิด
โจ๊กเกอร์พุ่งเข้ามาหาไลแลคก่อนจะบีบคอของเธอเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ไลแลคไม่ยอมให้ประวัติซ้ำรอยเธอรวบรวมพละกำลังของเธอทั้งหมดเท่าที่มีบิดข้อมือของตัวละครปาหี่อย่างเต็มแรง เรย์ต่อยอย่างเต็มแรงแต่ก็ไม่สามารถทำมันให้บาดเจ็บได้ โจ๊กเกอร์หันกลับมาเร่งงานเรย์ซึ่งไม่มีเวทมนต์อะไรเลย มันใช้แขนของมันที่บัดนี้กลายเป็นใบมีดคมๆ ฟันชายหนุ่มอย่างไม่ปราณี ด้วยความที่ไม่เคยฝึกอะไรมาก่อนทำให้เรย์ไม่สามารถสู้กับโจ๊กเกอร์ได้แม้แต่นิดเดียว เขาทำได้แค่เพียงหลบไปมา โดนใบมีดของมันมั่ง ไม่โดนมั่ง ไลแลคร่ายเวทมนต์ของเธอเท่าที่จะทำได้(ปกติห่วยเรื่องเวทมนต์) ร่ายใส่มันอย่างไม่ลังเล แต่เวทมนต์ของเธอพลาด
“ไลแลคหนีไป !!” เรย์ร้องลั่นเมื่อเห็นว่าโจ๊กเกอร์เปลี่ยนเป้าหมาย
โจ๊กเกอร์จับหญิงสาวโยนออกไป ทำให้ร่างกายเธอกระแทกกับก้อนหินอย่างรุนแรง ร่างกายทั้งหมดปวดระบม สติของหญิงสาวเริ่มเลือนรางขึ้นทุกทีเธอไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเรียกของชายหนุ่ม อวัยวะทุกส่วนของร่างกายชาไปหมด ก่อนที่สติของหญิงสาวจะเริ่มเลือนรางเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนในที่สุดสติทั้งหมดก็ดับวูบ ทุกอย่างมืดสนิท..
อาการปวดเมื่อยตามตัวเกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวเริ่มขยับ สิ่งแรกที่เธอมองเห็นคือพระราชาจอมหยิ่ง หญิงสาวกวาดสายตามองไปทั่วห้องที่หรูหรานั่น มีเพียงพระราชาลูคัสกับหมอเท่านั้น
“แล้วเรย์หายไปไหน ?” ไลแลคถามถึงชายหนุ่มทันที ทำให้ราชาลูคัสและหมอมองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างมีพิรุธ ทำให้เธชักหงุดหงิด “ช่วยบอกข้าเร็วๆ ได้มั๊ย ?” หญิงสาวเริ่มใจไม่ดี เธอไม่อยากคิดว่าตอนที่เธอสลบไปจะมีเรื่องอันตรายกับชายหนุ่ม
“คือว่าลูกของข้าตายแล้ว..”
คำพูดของพระราชาลูคัสทำให้หยาดน้ำใสพรั่งพรูออกมา ราวกับน้ำป่าไหลหลาก หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นพยายามที่จะไม่สะอื้น เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แต่ก็กลั้นไว้ไม่ได้
“ข้าอยากเจอเขาเป็นครั้งสุดท้าย ข้าขอเจอเค้า.. ข้าขอเจอ ฮืออๆ” หญิงสาวเริ่มกลั้นไม่ไหว ความเสียใจยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อคิดถึง ราชาลูคัสเดินนำเธอไปอีกห้อง ปรากฏร่างสูงโปร่งที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงใดๆ ทั้งสิ้น
“กลับมานะ เจ้าก้อนน้ำแข็ง กลับคืนมา ข้าบอกให้เจ้ากลับมาไง กลับมาหาข้า..” เสียงร่ำไห้ของหญิงสาวจวนเจียนจะขาดใจ เธอพูดไปร้องไห้ไป หญิงสาวเขย่าร่างแน่นิ่งไร้วิญญาณหวังไว้ว่าเค้าจะตื่นขึ้นมาเพื่อยียวนประสาทเธอได้อีก “ข้าอุตส่าห์...กลับมา..หาเจ้า แต่เจ้า...ทิ้งข้าไปหรือ เจ้า..เจ้า ช่างใจร้ายกับข้า เจ้าทำกับข้า..ได้ยังไง..” เสียงร่ำไห้ของหญิงสาวทำให้พระราชาลูคัสและหมอมองเธออย่างเห็นใจ แต่เขาก็ได้แต่เดินออกไปทิ้งเหลือแต่หญิงสาวกลับร่างไร้วิญญาณของเรย์
“ข้ารักเจ้า ฮืออ ๆ ข้ารักเจ้า ฮืออ ได้ยินมั๊ยว่าข้ารักเจ้า..” หญิงสาวพร่ำบอกรักชายหนุ่มด้วยหัวใจที่แหลกสลาย กอดจะเข้าไปโอบกอดชายหนุ่มที่นิ่งอยู่บนเตียง
“จริงเหรอ ?” เสียงทุ้มๆ ทำให้หญิงสาวหันขวับไปทางต้นเสียง เธอก็พบว่าเรย์กำลังจ้องมองเธออยู่ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ ทำให้หญิงสาวหน้าแดงก่อนจะรีบคลายอ้อมกอดจากเรย์แต่ชายหนุ่มกลับคว้าไว้ได้ก่อน
“เจ้าโกหกข้า..”
“ฉันขอโทษ แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ฉันคงไม่ได้ยินว่าเธอรักฉัน” ทำให้หญิงสาวหน้าแดงแปร๊ดกับพฤติกรรมเมื่อครู่ของเธอ ชายหนุ่มโน้มหน้าเข้ามาหาหญิงสาว ก่อนกระซิบเบาๆ “เธอคือไลแลค เยมีร่าของฉัน” หญิงสาวทำหน้างง ชายหนุ่มก็เลยอธิบายให้เธอไปว่า “ไลแลค คือรักแรก และเธอก็เป็นรักแรกของฉัน เยมีร่าก็คือเธอคือแสงอาทิตย์แห่งชีวิตฉัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีเธอฉันก้คงขาดใจตาย ฉันคงอยู่ไม่ได้ถ้าขาดแสงอาทิตย์จากเธอหรือพูดง่ายๆ ก็คือ ฉันรักเธอ” คำพูดของเรย์ทำให้ไลแลคหน้าแดงมากขึ้นกว่าเดิม เขาจุมพิตที่หน้าผากของเธอเบาๆ
“ฉันอาจจะไม่มีพละกำลัง ไม่มีเวทมนต์อะไรแต่ฉันจะขอใช้สองมือนี้คอยปกป้องเธอจากอันตรายเองฉันดูแลเธอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่งงานกับฉันนะ..”
“ในเมื่อเจ้าคอยปกป้งข้าจากอันตราย ข้าก็จะคอยปฐมพยาบาลรักษาเจ้าอย่างดีเมื่อเจ้าบาดเจ็บจากการปกป้องข้า ข้ารักเจ้านะเจ้าก้อนน้ำแข็ง ♥”
ผลงานอื่นๆ ของ kaew JN. enfant ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ kaew JN. enfant
ความคิดเห็น