ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก...อันตราย AimNam AF11

    ลำดับตอนที่ #7 : วันเกิด

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 58


    ร้อน เป็นความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้หลังจากลืมตาตื่น น้ำกะพริบตาช้าๆไล่อาการตาพร่าจากแสงแดดที่สาดเข้ามาในห้องนอน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองขยับตัวไม่ค่อยได้ นึกไปแวบหนึ่งว่าตัวเองโดนผีอำ แต่พอลืมตาเต็มที่จึงได้เห็นเหตุผลที่ทำให้เธอขยับตัวไม่ค่อยได้ ร่างทั้งร่างของเธอตอนนี้ถูกโอบกอดด้วยคนตัวสูงกว่านิดหน่อย ใบหน้าสวยคมในระยะประชิดยังหลับสนิท แต่ริมฝีปากกลับมีรอยยิ้มน้อยๆประดับอยู่ มองแล้วหมั่นไส้ อะไรมันจะมีความสุขขนาดนั้น  
                วันนี้วันเกิดเอม แถมยังเป็นวันที่เราสองคนเริ่มความสัมพันธ์คนรู้ใจ   
                น้ำพยายามจะแกะตัวเองออกจากอ้อมกอดนั่น ทั้งที่ใจจริงก็ยังอยากจะนอนนิ่งๆแบบนั้นต่อไป เพราะมันอบอุ่นมาก แต่ไม่ได้วันนี้มันคือวันสำคัญของคนพิเศษ เพราะอย่างนั้นมันต้องมีอะไรเป็นพิเศษ อย่างเช่น สาวหมวยหันไปมองนาฬิกา สิบโมง ตายละวันนี้ตื่นสายเป็นพิเศษเลย น้ำส่ายหัวไปมาอย่างมึนๆ พอนึกถึงเหตุผลที่นอนดึกก็ได้แต่ขำ ตอนแรกนึกว่าจะสวีทกันมากกว่านี้ เอาเข้าจริงก็มัวแต่เถียงกันไปมา สุดท้ายแล้วต่างคนก็ต่างหลับเพราะเถียงกันจนเหนื่อย         
                น้ำแตะเบาๆที่ริมฝีปากตัวเอง เอมก็จูบเก่งไม่เบาเลยแฮะ
     
                “เรายังง่วงอยู่เลยนะน้ำ” น้ำเสียงงัวเงียบอกพลางสะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่ความง่วง “ทำไมต้องรีบปลุกด้วยล่ะ”     

                 “กี่โมงกี่ยามแล้วเอม จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง” น้ำบอกเสียงเอือม ตัวเธออยู่ในสภาพอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว “ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวไปทำบุญกัน” 
                “น้ำ ขอ
    morning kiss” คนง่วงยังงอแง     
                “มามอนิ่งอะไรเอม ตอนนี้มันจะเที่ยงแล้วไปอาบน้ำ” คนโดนขอมอร์นิ่งคิสโวยวายเมื่ออีกฝ่ายเล่นขอไม่ดูเวลา สาวหมวยดึงตัวคนรักขึ้นมาจากที่นอน ถ้ายังปล่อยเอาไว้แบบนี้คงไม่ได้ออกจากห้องกันพอดี   
                “ไม่เอาก็ได้ งั้นอาฟเตอร์นูนคิสก็ได้” เอมบอกเมื่อโดนดึงตัวให้ลุกขึ้น สาวหน้าคมอาศัยจังหวะที่อีกสาวเผลอจุ๊บเข้าที่แก้มขาว           
                “เอม” น้ำตะโกนชื่อคนฉวยโอกาส พอจะหันไปเหวี่ยงคนต้นเหตุก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปพร้อมเสียงหัวเราะซะแล้ว         
                เดี๋ยวจะโดนเอาคืนไม่ใช่น้อย สาธิดา

     

                “ไม่เอาน่า ทำไมทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะคะ” เอมเอ่ยกับคนรักที่ทำหน้าบูดตั้งแต่ออกจากบ้าน จนตอนนี้ก็ยังไม่หาย ไม่เมื่อยบ้างหรือไงก็ไม่รู้            

                นี่คือขั้นแรกของการเป็นแฟนกันสินะ มีเรื่องให้ง้อตั้งแต่วันแรกที่คบกันเลยทีเดียว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เอมต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย เพราะความรู้สึกที่ว่าเธอได้คบกับน้ำมันทำให้เธอรู้สึกดีมากกว่าจะมานั่งหงุดหงิดกับเรื่องที่อีกฝ่ายงอน    
                “วันนี้วันเกิดเอมนะคะ เรากำลังจะไปทำบุญกันนะ ยิ้มหน่อยสิคะ” เกิดมาจนอายุครบ
    22 ปี ไม่เคยต้องมาอ้อนใครขนาดนี้มาก่อน ถ้าไม่ใช่สาวหน้าหมวยคนนี้นะ ไม่มีทางหรอกที่เธอจะมาทำเสียงออดอ้อนใส่       
                น้ำยังนั่งนิ่งไม่ใช่ว่าเธอไม่ใจอ่อนกับน้ำเสียงของคนพูด เสียงอ้อนของเอมไม่ว่าจะฟังเมื่อไหร่ เธอก็รู้สึกดีและตอนนี้มีความรู้สึกพ่วงมาอีกอย่างหนึ่ง เธอเขิน รู้สึกเหมือนใจจะละลายไปกับน้ำเสียงแบบนี้      
                   “น้ำคะ คืนดีกับเอมเถอะนะ”        
            “รู้แล้ว หายงอนนานแล้ว”น้ำเฉลยเมื่ออีกฝ่ายร้อนรน เพราะเห็นเธอไม่มีทีท่าว่าจะหายงอน “แค่อยากฟังเสียง”     
              เอมอมยิ้มลอบสังเกตสีหน้าอีกฝ่ายผ่านทางกระจกมองหลัง ก็เห็นว่าสาวหมวยกำลังเขินอยู่ แก้มขาวๆขึ้นสีเรื่อจนคนมองต้องเผยยิ้มกว้าง ไม่เคยนึกฝันว่าเธอจะได้เห็นน้ำในมุมนี้ และเป็นเธอที่ทำให้น้ำเป็นแบบนี้ รู้สึกภูมิใจลึกๆ     
                “ไหว้พระเสร็จกลับไปไหว้พ่อเอมก่อนนะ แล้วค่อยกลับไปบ้านน้ำ” เอมบอกออกมาเมื่อเลี้ยวเข้าไปภายในวัด “เดี๋ยวพ่อจะน้อยใจหาว่าเอมติดแฟน”          
                “แล้วแต่เอมเลย วันนี้วันเกิดเอม” สาวหมวยตอบกลับอย่างร่าเริง “น้ำจะตามใจเอมทั้งวันเลยดีมั๊ย”         
                “ตามใจ?” คนฟังทวนคำ “นี่ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดหรือเปล่า”       
                “ของขวัญก็ส่วนของขวัญสิ ตามใจก็ส่วนตามใจ”    
                น้ำเสียงโวยวายดังขึ้นพร้อมกับที่สาวหน้าคมหาที่จอดรถได้เรียบร้อย บรรยากาศเงียบสงบราวกับที่แห่งนี้ตัดขาดจากโลกภายนอก           
                “โอเค ตามใจก็ตามใจ งั้นวันนี้ตามใจให้ตลอดรอดฝั่งนะคะ กัญญ์กุลนัช”      
                น้ำนึกหวั่นกับสายตาคมสวยที่เน้นย้ำอย่างมาดหมาย พยายามจะคิดว่ามันไม่มีอะไร แต่พอมองแล้วเธอกลับพบอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้น คืนนี้จะรอดมั๊ยนะ

     

                    แม้จะเป็นการถวายสังฆทานที่ดูจะสายมากไปหน่อยในความคิดของน้ำ แต่ดูแล้วเอมไม่ได้คิดติดใจอะไรในข้อนี้เลย สาวหน้าคมตั้งหน้าตั้งตาทำทุกขึ้นตอนในการถวายสังฆทานอย่างตั้งใจ โดยมีเธอคอยนั่งเป็นกำลังใจและผู้ช่วยอย่างใกล้ชิด ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนรักไม่ค่อยได้เข้าวัดมาทำอะไรแบบนี้            

                ปกติก็ทำแค่ตักบาตรหน้าบ้าน ถ้ามาวัดก็ส่วนมากพ่อก็ทำให้ทุกอย่างเลย’      
                บางทีเธอก็คิดเหมือนกันว่าโลกของเธอกับเอม มันดูต่างกันมากเกินไป เอมเกิดมามีพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้ ไม่ต้องขวนขวาย ต่างกับเธอที่บางครั้งก็ต้องหารายได้พิเศษมาจุนเจือครอบครัวบ้าง แม้จะเป็นเงินเล็กๆน้อยๆ แต่เธอมั่นใจว่าคนรักไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเอมกลับไม่เคยมีนิสัยดูถูกคนอื่น แม้จะดูถือตัวในสายตาคนอื่น แต่ที่จริงแล้วเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เป็นกันเอง และมีน้ำใจ 
                คิดไปคิดมาเธอนี่ได้แฟนเพอร์เฟคคนนึงเหมือนกันนะนี่       
                “วันนี้เป็นวันเกิดหรือโยม” เสียงหลวงตาถามขึ้น เมื่อการถวายสังฆทานเสร็จเรียบร้อยแล้ว         
                “เอ่อ ใช่ค่ะ” เอมตอบสั้นๆ เธอค่อนข้างประหม่าในการคุยกับพระ      
                “ดีแล้ว วันเกิดมาทำบุญไหว้พระเป็นสิริมงคลให้ตัวเอง เสร็จจากทำบุญแล้วก็อย่าลืมกลับไปไหว้พ่อแม่ด้วยนะโยม” หลวงตายังคงพูดเรื่อยๆ แต่เอมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังโดนจ้องอยู่ ลึกลงไปในสายตาฝ้าฟ่างมีบางสิ่งบางอย่างที่เธอรู้สึกว่า มันเหมือนคำเตือน    
                “ขอบคุณมากค่ะ หลวงตา” เอมกล่าวสั้นๆตามแบบฉบับของเธอ หญิงสาวกราบลาหลวงตาที่หันไปกวักมือเรียกเด็กวัด ให้มายกสังฆทานไปเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบหมุนตัวและเดินออกมาพร้อมกับน้ำ แต่ก็ต้องชะงักเท้าเอาไว้ 
                “คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำได้นะโยม ชะตาบางอย่างมันอาจจะหนักหนาสาหัส แต่ถ้าโยมมีจิตใจที่แกร่งกล้า ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี”
     
     
                   “หลวงตาพูดอะไรแปลกๆนะ” น้ำเอ่ยเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว เธอรู้สึกไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย “พูดเหมือนเอมเป็นยอดมนุษย์พิทักษ์โลกอย่างนั้นแหละ หรือว่าเอมแอบไปเป็นวอนเดอร์ วูแมน ตอนน้ำหลับ”         

                ความคิดบรรเจิดของคนข้างๆทำเอาเอมเกือบจะพ่นหัวเราะออกมา ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคิดไปในแง่ที่มันดูเลวร้าย แต่น้ำกลับจินตนาการล้ำลึกไปมากกว่านั้น    
                “คิดได้นะน้ำ” เอมบอกพร้อมรอยยิ้ม แม้จะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่ลึกๆแล้วเธอเองก็ยังสงสัยกับประโยคกำกวมแบบนั้น อะไรคือชะตากรรมของเธอ และเธอต้องทำอะไร เอมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ วันเกิดแท้ๆแต่เธอกลับต้องมานั่งเครียดกับอะไรก็ไม่รู้     
                “แหม ใครจะไปรู้ล่ะ ก็เอมเก่งซะขนาดนั้น ผู้ชายบางคนยังสู้เอมไม่ได้เลยนะ”  
                สาวหมวยพูดไปถึงตอนที่เห็นเอมไปซ้อมมวย หญิงสาวร่างบอบบางที่ไม่ได้สูงกว่าเธอมากนัก ไล่ต่อยนักมวยในค่ายบางคนจนถึงกับน๊อคไปเลยก็มี ตอนแรกก็คิดว่านักมวยอาจจะอ่อนข้อ แต่พอเห็นหมัดน็อคของสาวหน้าคมที่ยิงตรงเข้าใบหน้าคู่ต่อสู้ จนล้มลงไปนอนนับดาว เธอก็รู้ทันทีเลยว่าจะไม่ทำให้เอมต้องโกรธเคืองอย่างแน่นอน       
                “พูดเวอร์ตลอด” คนฟังพูดกลั้วหัวเราะ “ไปไหว้พ่อดีกว่า จะได้รีบกลับบ้านน้ำ” 
                “วันนี้เอมออยากชวนใครมาด้วยหรือเปล่า นอกจากเพื่อนเซคเรา” น้ำถามเจ้าของวันเกิด เพราะเพื่อนทั้งเซคเธอได้นัดไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่ได้ถามเอมเลยว่าจะชวนใครมางาน สรุปมันวันเกิดใครกันแน่ 
                “อืม ก็น่าจะคิว กับแม็คล่ะมั้ง แต่คงต้องโทรถามก่อน” เอมตอบขณะนั่งนึกว่ามีใครอีกที่เธอรู้จักและอยากจะชวนมา “อีกคนน่าจะเป็นเนสท์ล่ะมั้ง”    
                 น้ำหันขวับมาหาคนพูดทันที “ความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์เลยค่ะสาธิดา”        
                “ทำไมล่ะคะ น้ำถามเอมว่าอยากให้เพื่อนคนไหนมา เนสท์ก็เพื่อนเอมนี่” เอมเอียงคออย่างสงสัย “มีอะไรหรือเปล่าคะน้ำ”   
                น้ำไม่ตอบแต่เมินหน้าออกนอกรถ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจะพูดไม่เรื่องนี้กันอีก          
                “โอเค เดี๋ยวเอมโทรชวนแค่แม็คกับคิวนะคะ”          
                สาวหน้าคมพยายามจะตามใจคนข้างๆอย่างสุดความสามารถ แม้จะไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ว่าทำไมน้ำต้องตั้งแง่กับเนสท์นักหนา           
                น้ำเองก็ได้แต่ฮึดฮัดในใจ เมื่อรู้สึกว่าความสนิทของเอมกับเนสท์จะกลับมาสนิทกันเหมือนเมื่อก่อน ยอมรับว่ากลัว เพราะฝ่ายนั้นเป็นถึงดาวคณะ ดูดีกว่าเธอไปซะทุกอย่าง ถ้าเนสท์เดินหน้าจีบเอมเต็มที่ละก็ เธอจะเอาอะไรไปสู้          
                “น้ำคงไม่ได้หึงเอมกับเนสท์ใช่หรือเปล่า” อยู่ดีๆคนที่เงียบอยู่ก็เอ่ยถามแทงใจคนฟัง น้ำหันไปมองเสี้ยวหน้าคมที่ตายังคงจ้องมองที่ถนน แต่รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังรอคำตอบจากเธออยู่         
                “เปล่าหรอก” น้ำตอบเสียงแผ่ว “เราแค่กลัว เนสท์ชอบเอมเรามองก็รู้” 
                “เนสท์ชอบเอม แต่เอมไม่ได้ชอบเนสท์นี่คะ ไม่เห็นต้องกังวลเลย” เอมไม่เข้าใจนักกับคำตอบ ตกใจเหมือนกันที่รู้ว่าผู้หญิงเพียบพร้อมอย่างเนสท์จะมาชอบคนแบบเธอ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเนสท์เลยแม้แต่นิดเดียว เธอมองหญิงสาวในแบบเพื่อนตั้งแต่วันแรกที่เจอจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนไป    
                “ก็เนสท์สวยออกขนาดนั้น” สาวหมวยยังเถียงข้างๆคูๆ จนคนได้ยินต้องละมือหนึ่งข้างจากพวงมาลัย มากุมมือคนขี้กลัวเอาไว้           
                “น้ำมันไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลย เอมไม่ได้คิดอะไรกับเนสท์ ไม่คิดจริงๆ คนที่เอมรักและรักมาตลอดคือน้ำ” หญิงสาวชะงักไปนิดเพื่อสูดหายใจเข้าปอด ก่อนจะพูดต่อ “กว่าจะได้มายืนอยู่ข้างน้ำในฐานะคนรัก เอมต้องเจออะไรมาบ้าง ถ้าเอมจะเลิกรักน้ำเพราะมีคนสวยมาชอบ มันดูตลกไปหน่อยนะ เชื่อมั่นในตัวเอมสิคะ”     
                สาวหมวยรู้สึกถึงมือที่กระชับแน่นขึ้น เธอยิ้มอย่างตื้นตันอยู่ในอก เพราะเธอมัวแต่มองคนไกล และไม่เคยใส่ใจคนใกล้ตัว ถ้าเธอรู้ความรู้สึกเอมเร็วกว่านี้ เธอคงจะมีความสุขแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
                “ขอบคุณที่รักกันนะเอม”

     

                “ทางเข้าบ้านน่ากลัวเหมือนเดิมเลยนะ” น้ำทักเมื่อเข้าสู่ถนนเขตบ้านคนรัก “พ่อเอมรักสงบถึงขนาดต้องมาสร้างบ้านกลางป่าเลยเหรอ”            

                “ไม่รู้สิ” เอมตอบสั้นๆ อันที่จริงตอนแรกเธอก็ชอบนะที่บ้านเป็นส่วนตัวขนาดนี้ แต่พอเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญแบบนั้น เธออยากจะย้ายไปอยู่บ้านใจกลางเมืองอยู่เหมือนกัน    
                ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูปกติมาตลอด จนกระทั่งทั้งคู่ได้ยินเสียงดังปัง ก่อนที่เอมจะรู้สึกว่าเธอคุมรถตัวเองไม่อยู่ บ้าจริง เธอโดนดักยิงล้อ มันไม่จบแค่นั้นเสียงปืนนัดต่อมา เจาะเข้าที่ล้อรถอีกล้อหนึ่งจนรถเริ่มส่ายไปมาอย่างน่ากลัว เอมได้ยินเสียงน้ำกรีดร้องอย่างหวาดกลัว ก่อนที่รถของเธอจะกระแทกเข้ากับต้นไม้ข้างทาง และทุกสิ่งก็สงบลง          
                เอมค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากพวงมาลัยรถ ต้องขอบคุณระบบการป้องกันของระรุ่นนี้ที่ทำให้เธอไม่เป็นอะไรมาก มองไปทางน้ำก็เห็นว่าฝ่ายนั้นค่อยๆลืมตาขึ้นมาเหมือนกัน      
                “เอม เกิดอะไรขึ้น”          
                “อย่าเพิ่งถามอะไรเลยน้ำ ตอนนี้เราต้องออกจากรถนี้ก่อน” เอมบอกเสียงเข้มพลางขยับตัวออกจากรถ ก่อนจะค่อยๆเดินไปอีกฝั่งเพื่อช่วยคนรักออกมา สาวหน้าคมนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่ามีอาการเจ็บแปลบที่เท้า สงสัยขาจะแพลง  
                “มันเกิดอะไรขึ้นเอม” น้ำยังถามคำถามเดิม เมื่อออกมายืนนอกรถแล้ว
                “เดี๋ยวเล่าให้ฟังตอนถึงบ้านนะคะ” เอมหันมาบอก เธอหยิบปืนออกจากกระเป๋าก่อนจะลงจากรถ และไม่ลืมที่จะหยิบมือถือออกมาด้วย “เราต้องรีบโทรเรียกพี่พูมให้ออกมารับ” 
                สาวหน้าคมพยายามที่จะใช้คำว่ามารับมากกว่าคำที่จะมาช่วย เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ลง สาวหน้าคมรีบโทรออกหาบอดี้การ์ดส่วนตัว พลางนึกโทษตัวเองที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้ามันเกิดกับเธอคนเดียวคงไม่เท่าไหร่แต่นี่เธอทำให้น้ำต้องเข้ามาพัวพันด้วย ถ้าน้ำเป็นอะไรขึ้นมาเธอคงให้อภัยตัวเองไม่ได้ 
                “ฮัลโหลครับ”     
                “พี่พูม ซอยบ้าน” เอมบอกสั้นๆก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น และความรู้สึกเจ็บปวดที่หัวไหล่ซ้ายก็ตามมาทันที เธอถูกยิง    
                น้ำมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เธอเห็นเอมกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ และมันก็เกิดขึ้น เอมโดนยิง เธอหันหน้าไปยังทิศทางกระสุน และเจอเข้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบคนที่ถือปืนเล็งมาทางเธอทั้งคู่  
                “เฮีย” เอมพูดรอดไรฟัน พยายามข่มความเจ็บที่ไหล่ซ้ายเอาไว้และเอื้อมมือไปกุมมือสั่นๆของคนรักเอาไว้ ส่วนข้างที่ยังใช้งานได้กระชับปืนเอาไว้แน่น       
                “สุขสันต์วันเกิดนะน้องรัก เป็นไงของขวัญวันเกิดถึงใจไหม” บอยตะโกนใส่หน้าน้องสาวจอมปลอม ก่อนจะเบนสายตาไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ “โอ๊ะ วันนี้มีเพื่อนมาด้วยเหรอ ฉันไม่เห็นรู้เลย”    
                เอมตัวสั่นด้วยความโกรธแต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้กำลังตกเป็นรอง หญิงสาวขยับไปก้าวหนึ่งแล้วเอาตัวบังน้ำไว้ จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่เธอจะให้น้ำเป็นอะไรไม่ได้ 
                “ฉันก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเพื่อนเธอนี่นา แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าจะไม่ทำอะไรเธอ”     
                กระสุนอีกหนึ่งนัดเจาะเข้าที่ขาขวาจนคนโดนต้องล้มทั้งยืน น้ำรีบประคองอีกฝ่ายเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น แต่นี้มันจะมากเกินไปแล้ว  
                “นี่คุณ” น้ำตะโกนพลางประคองเอมเอาไว้ “มันจะเกินไปแล้วนะ”      
                ไม่มีคำตอบจากชายคนร้าย เขามองหน้าเธอแวบเดียวก่อนจะยกปืนเล็งมาที่เธอ และยิง
                กระสุน
    2นัดพุ่งเข้าหลังคนที่สะบัดตัวมากอดเธอเอาไว้ น้ำเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อคนที่กอดเธออยู่ค่อยๆล้มลงไปกองที่พื้น สิ่งเดียวที่อยู่ในสายตาเธอตอนนี้คือร่างของเอมที่เต็มไปด้วยเลือด     
                “เอม
    !!” 
     
     
     
     
     
     
     
    สวัสดีปีใหม่ทุกคนเลยนะคะ ขอโทษที่มาช้าไปหนึ่งวันนะคะ 55555 เมื่อวานเคาท์ดาวน์เพลินไปหน่อย
    ยกโทษให้ด้วยนะคะ สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆยิ้มได้ตลอดทั้งปีเลยนะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×