ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก...อันตราย AimNam AF11

    ลำดับตอนที่ #3 : ขัดจังหวะ

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 57


    นี่สติเธอไปไหนหมดนะ ทั้งที่คิดว่าจะกลับบ้านแต่กลายเป็นว่าเธอเดินมาห้องชมรมซะอย่างนั้น สาวหน้าคมถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง หลังจากเก็บกักเอาไว้ตั้งแต่ทะเลาะกับน้ำเสร็จ ไม่เคยเลย ไม่เคยมีปากเสียงกับน้ำหนักขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอเป็นฝ่ายยอมตลอด แต่ครั้งนี้อดน้อยใจไม่ได้จริงๆ อุตส่าห์คิดว่าน้ำจะใจเย็นง้อมากขึ้นหน่อย ก็เปล่าเลย เป็นอันว่าเบรกแตกทั้งคู่    
                ห้องชมรมร้องเพลงยังคงความรกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คิดดูก็นานแล้วนะที่ไม่ได้เข้ามา เพราะตอนนี้เธอเรียนหนัก บวกกับปัญหาทางบ้านที่ค่อนข้างจะหนักหนาเอาการอยู่ เลยลืมไปเลยว่าตัวเองมีชมรมอยู่
                “เฮ้ย ใครวะ” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหวจากมุมห้อง ก่อนจะส่งเสียงเรียกเจ้าของร่างซอมบี้อย่างตกใจ “แม็ก”

    “อ้าว เอม ไม่เจอกันนานเลยนะ”   
                เอมยิ้มเจื่อนๆ เธอคงมีอารมณ์คุยกับแม็กมากกว่านี้ ถ้าเขาไม่ได้โผล่ขึ้นมาจากกองขยะมั้ง ไม่คิดว่าข้อสันนิษฐานที่บอกว่าแม็กจมไปกับกองเนื้อเพลงจะเป็นความจริง ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ความง่วงงุน ก่อนจะส่งยิ้มให้เพื่อนสาวอย่างสดใส           
                “สบายดี แล้วแม็กล่ะ” เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท เธอจึงตอบออกไปแม้จะตื่นกลัวกับท่าทางของอีกฝ่ายอยู่บ้าง จะเดินมากัดหรือเปล่านี่ “แต่งเพลงไปถึงไหนแล้ว”        
                สาวหน้าคมรู้ว่างานอดิเรกหนึ่งเดียวของหนุ่มติสท์คือการแต่งเพลง เขาสามารถนั่งได้เป็นวันเพื่ออยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบ เธอก็เคยมาช่วยเขาแต่งเพลงอยู่บ่อยๆตอนเข้าชมรมแรกๆ แต่หลังจากโดนน้ำวีนใส่ทั้งคู่เลยต้องออกห่างกันทันที 
                “ก็เรื่อยๆนะ แต่งไม่เสร็จสักที เอมนั่นแหละไม่ยอมมาช่วยแต่ง” แม็คบอกกับเพื่อนที่หายหน้าหายตาไปนาน นึกถึงช่วงเวลาที่เขากับเอมเคยแต่งเพลงมันก็สนุกดี แน่ล่ะเขาไม่ได้คิดเชิงชู้สาวกับอีกฝ่ายแม้แต่น้อย         แค่รู้สึกว่าเพลงที่เขากับเอมแต่งมันออกมาดีกว่าที่เขาแต่งคนเดียว แต่ขืนทำตัวสนิทกับเอมแบบนั้นอีก พนันได้เลย เขาต้องถูกน้ำตามมาแหกอกแน่นอน  
                ปากทั้งคู่ก็บอกว่าเพื่อน ทั้งที่การกระทำมันขัดชัดๆ  
                “แล้ววันนี้ไม่มีเรียนเหรอ ถึงมาห้องชมรมได้”           
                ถ้าเป็นคนอื่นถามเอมคงคิดว่าโดนประชด แต่ไม่ใช่กับแม็คแน่นอน ดูจากแววตาก็พอรู้ว่าเจ้าตัวหมายความแบบนั้นจริงๆ   
                “ขี้เกียจ พอดีวันนี้.....”     
                “ทะเลาะกับน้ำมาสินะ”   
                เอมหันไปมองหน้าคนพูดอย่างตกใจ เธอออกอาการขนาดนั้นเลยเหรอ “มันดูง่ายขนาดนั้น”       
                “เรื่องที่ทำให้เอมหน้าบูดมีอยู่สองอย่าง น้ำไปสนิทกับคนอื่นแล้วก็ทะเลาะกับน้ำ” แม็กบอกอย่างมั่นใจ เพราะคุณหนูเพอร์เฟคอย่างเอมไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลใจนัก เห็นเครียดทีไรก็เรื่องน้ำทุกที
       
                “มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน เป็นเพื่อนกันคืนดีไม่ยาก” แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นอาจต้องเหนื่อยง้อหน่อยนะ ประโยคต่อท้ายได้แต่พูดในใจ “เดี๋ยวเราไปเรียนแล้วนะ ไว้เจอกัน”
                เอมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ใช่ เป็นเพื่อนกันคืนดีได้ไม่ยากหรอก แต่แม็คคงไม่รู้ว่าน้ำเป็นคนที่ง้อยากมาก จนอยากจะเติมกอ ไก่ ให้ล้านตัว ที่จริงก็อยากเข้าข้างตัวเองนะว่าเรื่องนี้เธอไม่ผิด แต่พอนึกไปนึกมาก็งี่เง่าตามที่อีกคนบอกจริงๆ เธอเป็นแค่เพื่อน ไม่ได้เป็นมากกว่านั้นไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวน้ำทั้งนั้น   
                เป็นครั้งแรกที่สาวหน้าคมอยากจะเกิดมาเป็นผู้ชายให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ต้องเก็บกักความรู้สึกตัวเองให้มันหนักอกขนาดนี้
                “แม็ค สอนกีต้าร์ให้ที”     
                เอมหันไปมองอย่างเจ้าของเสียงที่เปิดประตูเข้ามาในห้องชมรมด้วยความรีบร้อน เธอเผยยิ้มเล็กน้อยเมื่อเจอกับเพื่อนหรือ คนที่ไม่ถูกกัน แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าเหมือนเห็นผีซะอย่างนั้น      
                เนสท์มองหญิงสาวที่อยู่ในห้องชมรมอย่างสงสัย ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นโผล่มา แล้ววันนี้นึกเฮี้ยนอะไร แต่พอมองไปไม่เห็นสาวหมวยเพื่อนสนิทของอีกฝ่ายก็พอเข้าใจได้ สงสัยทะเลาะกันมาสินะ ว่าจะไม่คิดอะไรแล้วนะ แต่ในใจก็เจ็บแปลบๆอย่างบอกไม่ถูก           
                “แม็คไม่อยู่หรอก” เอมบอกกับหญิงสาวร่างเล็กที่ยังยืนอยู่หน้าประตู “ไปเรียนแล้ว ไปเมื่อกี้นี่เอง”
                เนสท์ทำหน้าหงุดหงิดอย่างขัดใจ เธอได้รับหน้าที่ให้ขึ้นประกวดร้องเพลงอะคูสติกในงาน
    Open House ที่จะมีขึ้นในอาทิตย์หน้า และมันติดปัญหาใหญ่ตรงที่เธอเล่นกีตาร์ไม่เป็น ที่จริงจะให้คนอื่นขึ้นไปเล่นให้ก็ได้ แต่ขอไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายดีกว่า ดาวคณะอย่างเธอจะทำอะไรก็ต้องทำด้วยตัวเองเท่านั้น เลยต้องมาขอร้องชายหนุ่มมือกีตาร์ประจำชมรมให้ช่วยสอน        
                “เธอจะให้แม็คสอนกีตาร์ให้เหรอ” เอมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพูดอยู่คนเดียว ไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากเนสท์ มีแค่สีหน้าหงุดหงิดใจอย่างคนไม่ได้ดังใจเท่านั้นที่ร่างเล็กแสดงออกมา
                “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ” เนสท์บอกกับสีหน้าขี้สงสัย “ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยมาใหม่ก็ได้”        
                “ถ้าเธอไม่รังเกียจ ให้ฉันสอนให้แทนมั๊ย”    
                เนสท์ชะงักเท้าที่กำลังจะเดินไปจากห้องชมรมเอาไว้ เธอรู้ว่าเอมเล่นกีต้าร์เป็น แต่ก็ไม่ได้คิดจะให้มาสอนแต่อย่างใด เหตุผลหลักๆคือไม่อยากมีปัญหากับยัยหมวยขี้หวง เลยไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายจะเสนอตัวขึ้นมาแบบนี้       
                เอมเองก็ตกใจเหมือนกันกับประโยคที่พูดออกไป เธอแค่รู้สึกว่าดาวคณะกำลังมีปัญหาบางอย่าง ในฐานะเพื่อนถ้าช่วยได้เธอก็อยากช่วย แม้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าจะไม่ชอบใจเธอเท่าไหร่ก็ตาม ทั้งที่เราก็เคยสนิทกันแท้ๆ     
                “ฉันรู้ว่าเธออยากช่วย แต่ฉันไม่อยากมีปัญหา” เนสท์หันมาพูดกับสาวหน้าคม ที่ทำหน้าไม่เข้าใจกับสิ่งเธอบอก เอมไม่รู้หรอกว่าที่เธอต้องตีตัวออกห่างไปเป็นเพราะอะไร   
                “ฉันอยากช่วย แค่สอนกีต้าร์เองไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย” เอมบอกอย่างกระตือรือร้น หญิงสาวเดินไปหยิบกีตาร์จากมุมห้อง ก่อนจะเดินมาจูงมือคนร่างเล็กให้ทำหน้าตกใจ เมื่ออยู่ดีๆก็โดนลากมานั่งที่โซฟาอย่างไม่รู้ตัว    
                “เอม ฉันไม่อยากมีปัญหา” เนสท์ยังยืนยันคำตอบเดิม เธอไม่อยากโดนยัยหมวยเหวี่ยงใส่อีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ โทษฐานไปยุ่งกับเพื่อนสนิทที่ยัยหมวยมีสิทธิ์จะสนิทได้คนเดียว
                 “ไม่มีปัญหาหรอก เชื่อมือฉันสิ ฉันเรียนกีตาร์มาตั้งแต่เด็ก”  
                เนสท์อึ้งไปเมื่อเห็นคนข้างเข้าใจไปอีกความหมาย มองหน้ารอยยิ้มซื่อๆก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เสแสร้ง ร่างเล็กหัวเราะเบาๆ เสน่ห์ของเอมคือความจริงใจนี่แหละ เสน่ห์ที่ทำให้เธอเองก็ตกหลุมจนถอนตัวไม่ขึ้น      
               
    โทษทีนะยัยหมวย ชั่วโมงนี้ฉันขอละกันนะ

    น้ำกำลังอารมณ์เสีย เพื่อนในคลาสมองสาวหมวยที่นั่งหน้าบูดอยู่หลังห้องด้วยความหวาดกลัว พยายามมองหาสาวหน้าคมที่เป็นตัวช่วยเดียวแต่ก็ไม่มีแม้แต่เงา เดาได้อย่างเดียวเพียงสองคนนี้ทะเลาะกัน และครั้งนี้คงหนักหนาถึงขนาดนั้นอีกคนไม่ยอมมาเข้าเรียนเลยทีเดียว  
                “จั่น แกเข้าไปเคลียร์สิ ถ้าปล่อยให้น้ำมันนั่งปล่อยไอเย็น ปามีดสายตาใส่คนอื่นแบบนี้ฉันว่ามันไม่เวิร์คอ่ะ” เวย์สะกิดเพื่อนสาวที่ดูจะใจกล้ามากที่สุด ตอนนี้ทุกคนในห้องกำลังนั่งตัวเกร็ง เมื่อสัมผัสถึงไอความโกรธที่อยู่รอบตัวสาวหมวย         
                “แกจะส่งฉันไปตายหรือไง” จักจั่นกระซิบอย่างหวาดเสียว ถึงเธอจะสนิทกับน้ำและเอมมากกว่าคนอื่น แต่พอสองคนนี้ทะเลาะกันทีไร เธอคนหนึ่งล่ะที่สาบานว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด เดี๋ยวชะตาจะขาดไม่รู้ตัว       
                “น้ำ ใบงานอาทิตย์ที่แล้ว ฝากให้เอมด้วยนะ” เสียงหัวหน้าเซคที่ยื่นใบงานของคาบที่แล้วให้คนอารมณ์เสีย เวย์กับจักจั่นมองหน้าหญิงสาวใจกล้า ที่ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าสาวหมวยอยู่ในโหมดไหน    
                “ไม่ เอาของน้ำมาใบเดียว ของเอมน้ำไม่เอาอยากให้เอาไปให้เอง”      
                สองสาวที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ชักเริ่มสงสารหัวหน้าเซคตัวเองที่โดนเหวี่ยงใส่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนจะรีบเดินไปแจกงานให้เพื่อนคนอื่น โดยไม่วายให้ไปมองคนอารมณ์เสียที่ฟาดงวงฟาดงาอยู่กับของบนโต๊ะตัวเอง ท่ามกลางสายตาของเพื่อนในคลาส ที่นั่งลุ้นกันตัวโก่งว่าสาวหมวยจะแผลงฤทธิ์อะไรออกมาอีก         
                ตอนนี้คนที่เพื่อนในคลาสต้องการมากที่สุดคือคนที่นั่งสอนกีตาร์ดาวคณะอย่างมีความสุขนั่นเอง

    น้ำเดินไปที่ห้องชมรมอย่างรวดเร็วราวกับพายุทอร์นาโด หลังจากเจอแม็คกลางทางโดยบังเอิญและชายหนุ่มก็บอกเธอว่า เอมอยู่ที่ห้องชมรมดนตรี ลางสังหรณ์บางอย่างบอกกับเธอว่าคนของเธอ เอ้ย ไม่ใช่สิ เพื่อนสนิทของเธอกำลังกับอยู่กับใครบางคน       
                สาวหมวยเปิดประตูเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจว่าใครจะอยู่ในห้อง และสิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรก คือเพื่อนสนิทกำลังนั่งสอนกีตาร์กับดาวคณะอย่างใกล้ชิด ทำไมไม่นั่งตักกันไปเลยล่ะ   
                สายตาที่พร้อมจะแผดเผาทุกอย่างของน้ำ ทำให้เอมรู้ตัวว่าควรจะขยับตัวให้ออกห่างจากเนสท์ สักเพียงเล็กน้อยก็ยังดี คดีเก่าที่งี่เง่าใส่ยังไม่ถูกสะสาง ยังมีคดีใหม่ให้เข้ามาแก้อีกซะแล้ว  
                เนสท์เองก็รู้ตัวว่าเอมขยับออกไปนั่งห่างจากตนเพราะอะไร แต่ร่างเล็กไม่ยอมให้ทำแบบนั้นหรอก เธออยากจะบอกยัยหมวยที่ยืนหน้าบูดอยู่หน้าประตูให้รู้สักที ว่ามันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่มั้ง ที่จะเก็บเอมไว้กับตัวทั้งที่น้ำก็คุยกับใครก็ได้ จะคบใครก็ได้ แต่เอมกลับคบหาดูใจกับใครไม่ได้เลย ร่างเล็กขยับเข้าไปใกล้เอมจนระยะห่างเท่าเดิม เห็นได้ชัดว่าคิ้วของคนที่ยืนมองอยู่ขมวดเข้าหากันมากขึ้นกว่าเดิม           
                จะลองมาสู้กันสักตั้งมั๊ยล่ะ ยัยหมวย         
                สำหรับสถานการณ์แบบนี้ คนที่ลำบากใจที่สุดคงไม่พ้นเอมอย่างแน่นอน เธอรู้สึกอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ขึ้นมาทันที มองไปที่น้ำก็มีแต่รังสีทำลายล้างเตือนให้รู้ว่าถ้ายังไม่ขยับออกมาตายแน่นอน หันมาหาเนสท์ก็ไม่ต่างกัน สายตาร่างเล็กแทบจะแผดเผาเธอให้ละลายถ้าขยับหนีอีก ทั้งที่ปกติไม่อยากจะเข้าใกล้กันแท้ๆ 
                “เอ่อ เอมมาสอนกีตาร์ให้แทนแม็คน่ะ เห็นเนสท์บอกว่ามีงานประกวดร้องเพลงที่ต้องเล่นกีตาร์ เอมว่างอยู่เลยสอนให้ก่อน”           
                สาวหน้าคมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอธิบายเหตุผลวกไปวนมา ยิ่งเห็นสายตาน้ำที่หรี่ลงอย่างจับผิด ยิ่งรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเอาง่ายๆ           
                รับประกันถ้าใครมาเห็นฉากนี้ ต้องนึกว่ากำลังมีศึกชิงนางกันอยู่แน่นอน         
                “แหม ใจดีจังเลยนะเอม ถึงขนาดโดดเรียนมาสอนให้ขนาดนี้ ถ้าเราเป็นเนสท์คงซึ้งใจน่าดูเลย” น้ำบอกเสียงเย็นๆ ให้คนฟังหันมายิ้มเจื่อนอย่างคนรู้สึกผิด ทั้งที่เรื่องเมื่อเช้าเธอควรจะเป็นฝ่ายโดนง้อแท้ๆ แต่เจอคดีเข้านี้เข้าไปท่าทางจะต้องง้อกันยาว 
                “โห ถึงขนาดโดดเรียนมาสอนเราเลยเหรอเอม ดีใจจังเลย” เนสท์เองก็รับมุกทันที โดยการจับแขนสาวหน้าคมแล้วเขย่าอย่างดีใจ ถ้าสังเกตสักนิดจะเห็นสายตาเย้ยหยันส่งให้สาวหน้าหมวย แต่เพียงแค่แวบเดียวก็กลับมาเป็นสีหน้าดีใจเหมือนเด็กอย่างเดิม        
                น้ำไม่สนใจใบหน้าเย้ยหยันนั่นแม้แต่นิด เธอระงับอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะเดินไปแทรกกลางหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่ก่อน สาวหมวยส่งยิ้มให้เนสท์อย่างผู้ชนะ ก่อนจะบอกว่า 
                “สอนต่อเลย เดี๋ยวเรานั่งดูด้วย”    
                สาวร่างเล็กอยากจะจับยัยหมวยตรงหน้าโขกเสาสักสามที พูดออกมาได้ว่าสอนได้เลย ทั้งที่ตัวเองมานั่งเป็นก้างอยู่แบบนี้ แบบนี้มันบังคับไม่ให้สอนต่อแบบทางอ้อม          
                “ถ้าจะสอนก็ต้องขึ้นไปนั่งบนตักน้ำเท่านั้นแหละ ถึงจะสอนได้”เนสท์กัดฟันตอบพร้อมรอยยิ้มแปลก ที่ดูเหมือนจะฝืนอยู่มาก           
                “จริงหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวน้ำลุกให้ละกันนะ”  
                สาวหมวยลุกให้ตามที่บอก ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนตักของเอมและเอามือโอบรอบคอเพื่อนสนิทเอาไว้ ใบหน้าใสฉีกยิ้มกว้าง
                “สอนต่อเลยเอม น้ำลุกให้แล้ว”    
                เรื่องที่สอนกีตาร์ไม่ได้อยู่ในหัวเอมอีกแล้ว ตั้งแต่เพื่อนสนิททิ้งตัวลงนั่งบนตักเธอ แก้มของน้ำอยู่ห่างจากปากเธอไม่ถึงสองเซนต์ สาวหน้าคมต้องสะกดความต้องการตัวเองอย่างมาก ที่จะไม่กดริมฝีปากลงไปบนใบหน้าใสนั่น เย็นไว้ เอม เย็นไว้ 
                เนสท์กัดปากอย่างเจ็บใจ ตราบใดที่น้ำยังคุมความรู้สึกของเอมได้อยู่เธอก็เป็นฝ่ายแพ้อย่างแน่นอน สาวร่างเล็กลุกขึ้นจากโซฟา และวางกีตาร์ลงไปแทน เกมนี้เธอแพ้แต่ครั้งหน้าเธอจะไม่แพ้เด็ดขาด
                ทางเดียวที่จะชนะน้ำและได้เอม คือเธอต้องทำให้เอมหันมาชอบเธอ ทางเดียวเท่านั้น   
                “วันนี้ไว้แต่นี้ก่อนก็ได้เอม พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ” ร่างเล็กบอกและยิ้มให้ ก่อนจะเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ส่วนน้ำที่ได้ยินแบบนั้นก็เบ้ปากอย่างหงุดหงิด แค่ครั้งนี้ก็พอแล้วไม่มีครั้งหน้าหรอก เชอะ     
                “โดดเรียนมาสอนกีตาร์ แล้วก็ปล่อยให้น้ำนั่งเรียนอยู่คนเดียว ซึ้งใจมากเลยเอม” น้ำพูดงึมงำในขณะที่ยังกอดคอเพื่อนสนิทเอาไว้อย่างลืมตัว โดยไม่สังเกตเลยว่าตัวเธอใกล้ชิดกับเอมขนาดไหน 
                “เอมไม่ได้ตั้งใจจะสอนหรอก ตอนแรกเนสท์มาหาแม็ค แต่แม็คมันดันไปเรียนพอดี เอมเลยอาสาจะสอนเองแหละ” เอมบอกขณะที่โอบเอวของน้ำเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าแบบนี้เรียกฉวยโอกาสหรือเปล่า “อีกอย่างเรานึกว่าพี่เต๋าไปเรียนกับน้ำด้วย” 
                “เขาจะมาเรียนกับเราทำไมล่ะ” น้ำบอกอย่างงอนๆ บอกตามตรงคนที่เธออยากให้นั่งข้างๆก็มีแค่คนที่เธอนั่งตักอยู่นี่แหละ 
                “เมื่อเช้าเอมขอโทษนะ ที่งี่เง่าใส่ทีหลังถ้าน้ำจะให้พี่เต๋ามานั่งเราก็ไม่ว่าหรอก เราโอเค” สุดท้ายแล้วเอมก็ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยขอโทษก่อน เพียงแค่อยากให้น้ำสบายใจว่าเธอไม่ขัดขวางในสิ่งที่น้ำกำลังทำอยู่ แม้ลึกๆเธอจะเจ็บปวดมากก็ตาม การแอบรักเพื่อนไม่ใช่เรื่องสนุกและมันมีแต่ความเจ็บปวด    
                “น้ำก็ขอโทษ” สาวหมวยบอกเสียงอ้อนให้คนฟังยิ้มกว้าง เพราะนานทีปีหนเอมถึงจะได้เห็นเพื่อนสนิทอ้อนแบบนี้ “แต่ไม่ยกโทษให้หรอกนะที่ไปสอนกีตาร์ให้เนสท์แบบนั้น”
                นิ่งไปเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เมื่อน้ำหันมาหาคนที่นั่งตักในระยะประชิด ใบหน้าของคนทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ เป็นครั้งแรกตั้งแต่คบกันมาที่ทั้งสองใกล้กันขนาดนี้ เอมนั่งนิ่งไม่กล้าขยับใบหน้าไปไหน เมื่อใบหน้าของคนที่แอบรักมาอยู่ใกล้ชิดเพียงลมหายใจ สาวหน้าคมจึงเผลอปล่อยความรู้สึกออกมาทางสายตา และน้ำเองก็ถูกสายตาคมของเอมสะกดเอาไว้ ประกายความรักมากล้นที่บอกออกมาให้เธอเผลอหวั่นใจ สาวหมวยจับจ้องไปที่ใบหน้าคมของเพื่อนสนิทอย่างหลงใหล เธอรู้มานานแล้วว่าเอมเป็นคนสวย แต่พอมามองใกล้ๆแบบนี้ ความสวยของอีกฝ่ายทำเอาแทบคลั่ง น้ำไม่รู้ตัวแม้แต่นิดเดียวว่ากำลังเลื่อนใบหน้าเข้าไปไปใกล้เอมมากขึ้นกว่าเดิม           
                 ริมฝีปากของหญิงสาวทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงมิล เอมไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เธอนั่งนิ่งไปตั้งแต่เห็นน้ำขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ ทุกส่วนของร่างกายเหมือนโดนตรึงไว้ แต่ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น           
                “น้องน้ำครับ”  










    ตอนนี้มาสั้นหน่อยนะคะ พอดีตอนนี้ติดภารกิจนิดหน่อย
    ขอบคุณทุกคอมเม้นมากเลยนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ
    นิยายเรื่องนี้จะไม่ยางมากนะคะ อันนี้ต้องขอบอกก่อน
    เพราะเป็นพวกแต่งยาวๆไม่รอด 555 แต่ยังไงก็ขอบคุณผู้อ่านทุกคนมากนะคะ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×