ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    rating love เปิดตำรา วิชาเรตติ้ง

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดตำรา วิชาเช็คเรตติ้ง

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 51


    10 โมงครึ่ง  ที่เจเจมอลล์
    แสงแดดส่องมายังโลกให้ความอบอุ่นแก่มวลมนุษย์และสัตว์มากมาย ทำให้ทุกชีวิตได้ดำเนินไปอย่างปกติ มันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า อ้ากกกก!! ทำไมแดดมันแรงแบบนี้ยะ เหมือนดวงอาทิตย์พร้อมจะส่องแสงแผดเผาทุกสิ่งบนโลกใบนี้ -_-;; และสาเหตุที่ทำให้ฉันมาสาปแช่งดวงอาทิตย์ให้หายลับไปจากจักรวาลก็เพราะเพื่อนสุดที่รักที่ชื่อ มิลค์ -_-^ ทำไมมันไม่มาซักทีวะ หากภายใน 10 วินาทีนี้ ฉันเองก็ไม่รับรองความปลอดภัยของชีวิตมันเหมือนกัน ฮึ่มๆๆ และในที่สุดเหมือนจิตฉันจะสื่อสารได้ ไอ้มิลค์เพื่อนรัก หึหึ วิ่งกระหืดกระหอบมาทันที

    "แหะๆ รอกันนานมั๊ยแก ขอโทษทีรถเสียอะ เลยนั่งแท๊กซี่ มา แกก็รู้ว่ากว่าจะเรียกแท๊กซี่ได้มันนาน แล้วไหนเมืองไทยมันรถติดอีก แกก็รู้ใช่ป๊ะ ^^ แค่นี้อภัยให้เพื่อนได้ใช่มั๊ยๆ ToT"
    "ให้อภัยน่ะได้ แต่หลังจากฉันชำระแค้นก่อน -_-^^ มิลค์"

    คงไม่ต้องให้บรรยายเหตุการณ์ตะลุมบอนข้างบนอ่านะ ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้ตั้งใจทำตัวร้ายกาจแบบนั้นกับเพื่อนตัวเองหรอกนะ หลังจากเหตุการณ์ข้างบนแล้ว ทุกคนคงเริ่มงงๆว่าทำไมฉันต้องมานั่งอ่านไอ้พวกนี้ตบตีกันด้วยเนี่ย ก็ขอแก้ตัวก่อนละกันว่าความจริงแล้วฉันเป็นคนดีนะ แค่โหดร้ายบ้างบางเวลา ^^ พล่ามมาตั้งนานยังไม่ได้บอกเลยว่า ฉันชื่อข้าวสวยเป็นไงๆ แค่ชื่อก็กิ๊ฟเก๋ยูเรก้าแล้ว >_< จำชื่อฉันไว้ให้ดีนะ เพราะเราคงต้องเจอกันอีกนานนม เอาล่ะ กลับมาเรื่องเดิม คือว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ที่เจเจ (บอกไปแล้วนี่นา)หลังจากทุกคนมาครบกันแล้ว (รวมถึงสภาพศพของมิลค์ด้วย) เราก็พร้อมจะไปช๊อปปิ้งกัน ^o^ เพราะว่าเรากำลังเตรียมตัวไปค่ายสร้างสรรค์กัน ไปทำไมน่ะหรือ หุๆๆ (หัวเราะอย่างชั่วร้าย) เราจะไปเช็คเรตติ้งกัน ^o^ นี่แหละ กิจกรรมยามว่างสุดโปรดของฉัน อย่าถามว่าเช็คเรตติ้งคืออะไร ^^ เพราะมันคือ..

    ย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
    "เช็คเรตติ้ง o_o"

    อีกแล้ว^0^ เรื่องชั่วร้ายอย่างนี้ไม่พ้น พันท์กับคลอไรด์แน่นอน ^^ แหะๆยอมรับก็ได้ ความจริงแล้วกลุ่มของพวกเราเป็นการรวมตัวของเด็กแรด เพราะฉะนั้นเราอาจจะไม่ได้ทำอะไรกันแบบใสๆ คิขุ แต่ก็นะ นั่นแหละ มันก็เป็นเอกลักษณ์ของพวกเรา
    "โอ้ยแก พันท์ แกอ่ะคบกับพี่เจมานานนมแล้วนะ แกอยากเลิกกับพี่เจขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วไหนจะแก้มอีกอ่ะแก มันเพิ่งเป็นแฟนกับพี่พีชได้เดือนกว่าๆ แกอย่าไปสร้างความร้างฉานให้เค้าได้มั๊ย แล้วยังมีมิลค์ที่จีบๆกับพี่ข้าวแช่อีก -*- แกอ่ะ หาเรื่องจะให้ฉันสาธยายถึงกาละแมที่มันแอบชอบพี่นุกนิกอีก โอ้ย >o< พูดชื่อใครก็เต็มไปด้วย แกงค์บาส แกงค์บาส แกงค์บาส แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าแกจะไปสร้างความร้าวฉานให้คู่รักเค้าทำไม"

    ฉันกำลังพยายามหาข้ออ้างอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปเช็คเรตติ้งหรอกนะ แต่มันมีความทรงจำฝังใจค่ะ T^T ประมาณว่าค่ายที่แล้วเราไปค่ายวิทย์กัน แล้วดันมีไอ้หน้าปลากระโห้ประมาณแบบไม่เคยจีบใคร (ทำไมฉันต้องเป็นคนแรกของมันด้วยเนี่ย คิดแล้วก็เศร้าใจ) แล้วมันก็เอาดอกอุตพิษมาให้ฉันง่ะ เอ่อ ความจริงก็ไม่ใช่ดอกอุตพิษหรอกแต่มันเหม็นมากถึงมากที่สุด -0- (จนลูกกวาดตั้งข้อสันนิษฐานว่ามันแอบตด หรือภาษาดีๆเรียกผายลม ใส่ดอกไม้ -*- เฮ้อ เพื่อนฉันมีความคิดแค่นี้เหรอเนี่ย อนาคตของชาติ =_=) ฉันก็เลยเอาไปทิ้ง แล้วมันดันมาเห็นซะได้ คุณพี่เค้าก็เลยนั่งแหกปากร้องไห้อยู่กลางผู้คน ขอเน้นว่าอย่างอายเลย -///- และแน่นอนว่าเรื่องหน้าขายหน้าของเพื่อน มีเหรอที่เพื่อนรักของฉันจะไม่บอกใคร ยัยพวกนั้นก็ดันไปป่าวประกาศให้แกงค์บาสฟัง พอพี่แช่รู้ก็เอาไปเล่าให้ที่บ้านฉันฟังอีก นั่นแหละ แม้แต่ข้าวต้มน้องสาวที่ออกจะจงรักภักดีต่อฉันยังขำ (ฉันยังไม่ได้บอกใช่มั๊ยว่าพี่ข้าวแช่เป็นพี่ชายฉันเป็นคนเดียวกับคนที่จีบมิลค์นั่นแหละ ส่วนข้าวต้มก็น้องสาวฉันเองแหละ) แล้วพวกแกงค์บาสอ่านะก็เกือบจะติดป้ายประกาศหน้าโรงเรียนด้วยซ้ำ ดีนะที่ฉันห้ามไว้ทัน (อย่าตกใจแกงค์บาสก็คือแค่ผู้ชายแปดคนที่เป็นนักกีฬาบาสแล้วก็สนิทกัน แกงค์ของพี่ชายฉันเอง ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรหรอก แค่ม่อสาวไปวันๆ แค่นั้นแหละ เอาเหอะ จำพวกนั้นไว้ดีๆ มันเด่นๆ) นั่นแหละ สรุปเรื่องก็คือ ฉันโดนหัวเราะเยอาะน่ะสิ ฉันสวยแล้วผิดตริงไหน

    นี่ๆ แกแต่ฉันอยากไปนะ -0-" แก้มเขย่าตัวฉัน ไอ้นี่ก็หาเรื่องทะเลาะกับแฟน

    "น่าแก พี่แช่เอาไว้ก่อนก็ได้^^" มิลค์เสนอความเห็นบ้าง ก็รู้นะว่ามิลค์มันบ้าผู้ชาย แต่มันใช่เวลามั๊ยเนี่ย
    "ใช่ๆ เรื่องพี่นุก ไว้ทีหลัง ไปเช็คเรตติ้งกันดีกว่า ^0^" ตายละ แม้แต่กาละแมก็เป็นไปด้วย
    "นะแกขำๆสนุกๆ" พิงค์หัวเราะ นี่ก็บ้าเหมื่อนกัน
    ".นั่นสิ จะทิ้งแกไว้คนเดียวได้ไง ไปแล้วต้องไปเป็นทีมดิ  "

    ลูกกวาดส่งสายตาปีงๆใส่ฉัน อาการบ้าผู้ชายกำเริบหนักแล้วนะพวกนี้

    เฮ้อ งั้นก็หวังว่าคราวนี้คงจะเจอผู้ชายดีๆบ้างก็แล้วกัน

    หมายความว่าแกจะไปเหรอ

    แน่นอน!! ถ้าขาดฉันกลุ่มเราก้ไร้จุดเด่นน่ะสิ โฮะๆๆ ฉันแกล้งหัวเราะให้น่าหมั่นไส้ พวกนั้นเบะปากแล้วไม่ขำด้วย ทำไมมันทำหน้าอย่างงั้นมิทราบ มุกน่ะมุก เข้าใจมั๊ย

     และนี่คือที่มาทั้งหมด เหมือนฉันยังไม่ได้บอกว่าเช็คเรตติ้งคืออะไร ความจริงมันเหมือนกิจกรรมยามว่างสร้างเสริมประสบการณ์ของกลุ่มเรา มันคือการไปเข้าค่ายหรือ เดินเริ่ดๆตามที่ต่างๆ ว่ามีคนมาจีบหรือเปล่า ถ้ายิ่งเยอะก็คือยิ่งป๊อป ก็แค่นั้นแหละ เป็นไง เริ่ดๆๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ มันไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกนะ พวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายนี่ จริงมั๊ย?

    กลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน พวกเรากำลังเลือกซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ และของกุ๊กกิ๊กๆ ตามประสาผู้หญิงทั่วไป อ้ายๆๆ อันนั้นน่ารัก
    "เห้ยๆๆ ดูดิแก กระโปรงตัวนั้นน่ารักๆๆ ว๊ากๆๆ อ้ากกกกกกกก >///<"

    นั่นคือคำที่ออกมาจากสาวน้อยน่ารัก ตัวเล็กๆ น่ากอด อย่างไอ้แก้ม ไม่รักษาภาพพจน์เอาซะเลย -_-“ เหอๆๆ แล้วแค่กระโปรง ทำไมต้องหน้าแดงด้วยยะ แกน่าจะชื่อแก้มแดงนะ -*- เดี๋ยว ห๊า O_o หรือมันคิดอกุศลกับกระโปรง โอ้ เพื่อนฉันโรคจิตมากมาย (แกนั่นแหละโรคจิต -_-") ฉันมองถุงทั้งหมดในมือตัวเอง ฉันซื้ออะไรไปบ้างเนี่ย ทำไมมันหนักจังเลย T^Tไม่อยากจะคิดเลยว่าเงินในกระเป๋ามันโบยบินไปเท่าไรบ้าง ลูกน้อยหอยสังข์ของแม่ แม่คิดถึงแยงค์เทาๆที่เพิ่งจ่ายไปจังเลย กลับมาเหอะลูกรัก แม่สำนึกผิดแล้วT T (ไอ้นี่ก็ท่าจะบ้า)

    ลูกกวาดเพื่อนรัก ฉันเขยิบตัวไปใกล้ๆลูกกวาดที่กำลังยุ่งๆกับการเลือกซื้อกำไลอยู่

    หืมๆ ลุกกวาดตอบอย่างไม่ใส่ใจแล้วเลือกกำไลต่อไป

    เลี้ยงซเวนเซ่นได้มั๊ย ฉันพูดเร็วๆรัวๆให้ลูกกวาดฟังไม่ค่อยชัด

    อืม ลูกกวาดหลุดปากออกมา หืม o_o แกว่าอะไรนะ ลูกกวาดเหงื่อตกด้วยความสังหรณ์ใจ

    ช้าไปแล้วแหละเพื่อนรัก ฟังนะๆทุกคน ลูกกวาดสัญญาจะเลี้ยงซเวนเซ่นแล้ว^O^”

    ว๊ากกกก!! ไอ้เพื่อนบ้า ลูกกวาดโวยวายและวิ่งไล่ตามฉัน หุหุ วิ่งตามไปเหอะ ยังไงแกก็รับปากไปแล้วนี่นา

     

    ในที่สุดลูกกวาดก็ไม่สามรถทัดทานสายตาอำมหิตทั้งเจ็ดคู่ของพวกเราได้ แหะๆ ขอโทษนะ ลูกกวาด แต่มันจำเป็น เพราะฉันอยากกิน ^^  พวกเรากำลังอยู่ในร้าน และนั่งถ่ายรูปอยู่ที่โต๊ะ พี่พนักงานพยายามส่งสายตามาหาพวกเราประมาณว่าเกิดมาไม่เคยมาซเวนเซ่นรึไงน้อง เชอะ ไม่สน ก็ตรงนี้มันสวยนี่นา >_< (โอ้ว ช่างหน้าหนามากมาย)
    "ขนาดที่สาธารณะยังทำเรื่องน่าอายได้ อับอายแทนว่ะ"

    เสียงคุ้นๆ เหมือนพี่ชายฉัน ฉันเลยหันไปดู อ่า พี่แช่เอง ไม่ใช่แค่นั้นนะ เพราะมันเป็นแก๊งค์บาส แบบมา full options เลย -_-" ทั้ง พี่ย๊ะ พี่ยิปโซ พี่เจ พี่พีช พี่นุกนิก พี่เคน พี่เมจิ และพี่ข้าวแช่ มาทำไมเนี่ย เสียบรรยากาศคนจะถ่ายรูป
    "พี่แช่มาทำไมอ่ะ"
    "ถามแปลกๆ มาร้านไอติม คงมาสั่งผัดกระเพราอะนะ"

    ไอ้คุณพี่ ฉันอุตส่าห์ถามดีๆนะ (ประโยคที่ว่า มาทำไม เนี่ยนะเป็นประโยคที่ดี?)
    "เหรอ ^o^ งั้นกินไอติมรสผัดกระเพรามั๊ยล่ะ"
    (ไอ้นี่ก็บ้าจี้พอกัน ซเวนเซ่นทำรสนั้นเมื่อไรคงล่มจมแล้วล่ะ)
    "ข้าว -_-" ไม่กวนสักเรื่องได้มั๊ยเนี่ย"

    ไม่เข้าใจพี่แช่จริงๆ กวนนิดกวนหน่อยทำเป็นงอน ขี้งอนยิ่งกว่าผู้หญิงอีก พี่ชายฉัน
    "พอๆ จะกินก็กินดิ ทำไมต้องว่าด้วยอ่ะ -*-"

    พี่แช่หัวเราะแล้วพยายามลากเก้าอี้มาที่โต๊ะฉัน 
    "จะทำอะไรอะ" ฉันเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆ
    "เหอะ ทำไมอ่ะข้าว แล้วจะนั่งโต๊ะเดียวกันไม่ได้หรอ"

     มันก็ได้อ่านะ แต่ว่าคิดดูดีๆ 16 คน กลางร้าน เหอๆ เด่นไปๆ >O<
    "พี่คนสวยครับ ช่วยต่อโต๊ะให้ด้วยครับ^^"

    พี่ฉัน ม่อเป็นอาชีพ =_= จะต่อโต๊ะจริงๆงะ o_o รู้ว่าอยากเด่น แต่ทำไมต้องพ่วงฉันไปด้วยอ่ะ เหอๆๆ และแล้ว เราทั้ง 16 คนก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว (ศัพท์มันสยึมกึ๋ย*มากเลยอ่ะ- -")ไปทั่วร้าน แอบอายนะเนี่ย ก็พวกนี้เล่นจู๋จี๋กันไปมา หรือไม่ก็คุยเรื่องนู้นเรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะก๊วนบาสกับกลุ่มฉันสนิทกันอยู่แล้วเลยขุดเรื่องมากมายมาคุยกันได้ คงมีแต่ฉันที่นั่งน้ำลายบูดอยู่ คนที่อยู่ตรงข้ามฉันคือพี่เมจิ - -" บุคคลที่เงียบขรึมที่สุดในจักรวาล ตั้งแต่รู้จักกับแกงค์บาสมา พี่เมจิเนี่ยแหละเป็นคนที่ฉันไม่สนิทที่สุดในแกงค์ ทั้งที่กับคนอื่นพี่เมจิก็ยังคุยด้วย แต่กับฉันพี่เมจิจะถามคำตอบคำ น่ากลัวที่สุดเลย พอฉันไปถามพี่แช่ พี่แช่ก็จะหัวเราะแล้วบอกว่า มันขี้อายน่ะถึงคำตอบจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร แต่ฉันก็ขี้เกียจจะตีซี้กับพี่เมจิแล้วล่ะ แต่ก็นะ วันนี้มันสถานการณืจำเป็น ฉันไม่มีคนคุยด้วยนี่นา

    "ทำไมพวกพี่ๆมานี่ได้อ่ะ"
    "ก็ไปดูหนังอ่ะ"  คุณพี่เค้าตอบแค่นี้ นี่ไงล่ะที่ฉันบอกว่าถามคำตอบคำ
    "เรื่องอะไรอ่ะ"
    "ไม่รู้ พี่ไม่ได้ดู  เข้าไปหลับน่ะ"

    โหยยยย ชีวิตพี่เมจิ -_-" โคตรมีสาระเลยอ่ะ (ประชดค่ะ ประชด)
    นอนบ้านมันไม่ได้เสียเงินเดี๋ยวนอนไม่หลับ ต้องนอนโรงหนัง -_-" แอบเครียดๆ
    "แหะๆๆ บังเอิญจังเลยนะ เจอกันเนี่ย" ฉันพยายามพูดอะไรเพื่อให้ไม่เงียบ แต่ก็ไม่ได้ผลซักเท่าไรแฮะ

    เพราะว่าหลังจากประโยคนี้ก็ไม่มีคำพูดเล็ดลอดออกจากปากบุรุษตรงหน้าฉันอีกเลย

    ขอบคุณ พระเจ้า -0-

    ปล.สยึ๋มกึ๋ย ถือเป็นคำคะนองในภาษาไทย ที่ไม่ค่อยใช้ในปัจจุบัน (สรุปว่าคนแต่งโบราณรึเนี่ย)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×