คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : {**} 2nd CHAPTER .. {**}
2nd CHAPTER
“ขอโทษนะ… ผมเป็นเกย์!”
ค่ำคืนที่แสนยาวนานในฤดูหนาว แม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อุณหภูมิภายในห้องนอนกว้างใหญ่กลับเย็นเฉียบ คีย์ตกอยู่ในสภาพที่ร่างกายแข็งทื่อ น้ำตาไหลพราก ใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระริก ลมหายใจขาดห้วง...หรือพูดง่าย ๆ ว่า หายใจไม่ออกนั่นเอง เสียงทุ้มนุ่มนั้นไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ...แต่ไม่รู้ทำไมว่าทำไมคีย์รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายกำลังตะโกนใส่หูของเขา
ซวย...ซวย
ซวยย
ซวยแล้วไงคีย์!!!!
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงว่าผมจะทำอะไรคุณ ผมก็แค่... เอ่อ ผมไม่สนใจผู้หญิงน่ะ”
คีย์รับฟังคนที่ยืนอยู่ปลายเตียงด้วยความรู้สึกที่อยากหัวเราะดัง แต่มันก็หัวเราะไม่ออก... ตอนนี้เขานั่งตัวสั่นอยู่บนเตียง กระโปรงยาวที่ดูรุ่มร่าม มือเล็กก็รวบมันมาไว้ไม่ให้เกะกะหรือยาวพอให้คนที่ไม่น่าไว้วางใจกระชากมันไปเพื่อทำอะไรบางอย่างที่เขาหวาดกลัว มืออีกข้างจับหัวเตียงไว้ราวกับที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายของชีวิต ดวงตาที่มองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความสับสน งุนงง...และหวาดระแวง
“ดังนั้น คุณก็ไม่เห็นจะต้องกลัวผมเลย จริงไหม”
คีย์ส่ายหน้า และถอยกรูดอีกครั้ง ถึงจะรู้ว่ามันไม่มีที่ไปแล้วก็เถอะ เสียงหวานพึมพำด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต
ไม่จริง นี่แหละที่น่ากลัวที่สุด!!!
ฝ่ายร่างสูงหลังจัดการกับเสื้อคลุมอาบน้ำจนดูเรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว มินโฮมองเจ้าสาวที่กำลังนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนเตียงพลางถอนหายใจเบา หญิงสาวดูเหมือนจะยังคงไม่ไว้ใจเขานัก ก็แหงล่ะ.... ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนจะยอมไว้ใจผู้ชายที่เพิ่งเจอกันไปแค่ไม่กี่ครั้งได้ง่าย ถึงเขาจะอยู่ในฐานะเจ้าบ่าวของเธอก็เถอะ ...
แม้ว่ามินโฮจะพอรู้เหตุผลสำคัญว่าทำไมครอบครัวของอีกฝ่ายจึงยินยอมยกลูกสาวคนเดียวให้เป็นเจ้าสาวของเขา แต่เขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอตกลงปลงใจด้วยตัวเองหรือเปล่าและหญิงสาวมีคนรักแล้วหรือยัง คงแย่น่าดูถ้าต้องเลิกกับแฟนเพียงเพราะถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ถ้าหญิงสาวในชุดเจ้าสาวเป็นน้องของเขา...มินโฮก็คงรู้สึกไม่ดีที่มีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาทำร้ายจิตใจด้วยการใช้กำลังทำร้ายเธอ
ที่สำคัญ เขายังไป... ทำอะไรแบบนั้นกับเธออีก ไม่แปลกจริง ๆ ที่เธอจะโกรธเขาซะขนาดนั้น
ใบหน้าคมคร้ามยิ้มบางด้วยความเข้าใจ เขาจึงตัดสินใจถอยไปยืนอยู่ในระยะที่สายตาระแวดระวังนั้นจะไม่จ้องมองเขาด้วยความหวาดกลัวมากกว่านี้
“เอาล่ะ ผมยอมแล้ว เลิกมองผมแบบนั้นเถอะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรคุณจริง ๆ ”
“แล้วใครใช้ให้นายยื่นหน้ามาทำอะไรแปลก ๆ แบบนั้นล่ะ!!!”
เสียงหวานตะโกนแว้ดขึ้นมาทันทีที่เขาเสียงอ่อนลง มินโฮยกมือขึ้นสองข้างเป็นเครื่องหมายว่ายอมแพ้ทุกข้อกล่าวหา
“โอเค ๆ ผมขอโทษ...ผมแค่หวังดี กลัวว่าคุณจะนอนไม่สบาย”
“เรื่องของฉัน ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
“คุณนี่ดุเป็นบ้า ถ้ามีลูกขอยืมมาเฝ้าบ้านหน่อยนะ”
“ฉันไม่ใช่หมานะ!!!”
มินโฮกลั้นหัวเราะแทบไม่ทันเมื่อดวงตาคม ๆ ที่ยังคงอาบชุ่มด้วยน้ำใส ๆ หันมาจิกใส่เขา ถ้าเจ้าสาวของเขาอารมณ์ไม่ดีทั้งคืน มินโฮคงมีหวังได้พรุนไปทั้งตัวเพราะสายตาคู่นี้แน่ ๆ
“เอาน่า ๆ ไหน ๆ เราก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน อย่าทะเลาะกันดีกว่า ผมว่าเรามานั่งคุยกันดี ๆ เอาไหม?”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดีขณะดึงเก้าอี้มานั่ง ดวงตาพราวระยับเต็มไปด้วยร่องรอยสนุกสนาน ตรงกันข้ามกับสายตาของคนที่อยู่บนเตียง เสียงขุ่น ๆ ที่ดังขึ้นทำให้มินโฮยักไหล่อย่างเซ็ง ๆ
“คุยเรื่องอะไร”
“ก็คุยเรื่องการแต่งงานนี้น่ะสิ”
ดูท่าทางเขาจะเผลอพูดคำต้องห้ามออกไปซะแล้วสิ เพราะทันทีที่เอ่ยคำว่า ‘แต่งงาน’ จบ คนตัวเล็กก็โผไปคว้าโคมไฟคริสตัลจากข้างเตียงขึ้นมาไว้ในมือด้วยดวงตาคมปลาบ มินโฮกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ พร้อมตั้งท่าระวังตัวเต็มที่ เผื่อกรณีที่เจ้าสาวจอมโหดของเขาจะขว้างเจ้าของราคาแพงท่าทางน่ากลัวนั่นมาโดนหัวเขาในวินาทีใดนาทีหนึ่ง
“ยะ อย่าเข้ามานะ ถ้านายเข้ามาอีกรอบฉันจะใช้โคมไฟนี่ฟาดหัวนายให้ตายไปเลย”
เสียงสั่น ๆ ขู่ฟ่อ มินโฮยิ้มแห้ง ก่อนพูดเบา ๆ ด้วยความกลัว
“เอ่อ คุณ ใจเย็น ๆ วางไอ้นั่นก่อน... ถ้าคุณทำอะไรผมด้วยไอ้นั่น คุณกลายเป็นฆาตรกรแบบไม่ต้องอุธรณ์หรือฎีกาเลยนะ”
“ฉันก็จะบอกศาลว่านายจะทำร้ายฉัน ฉันเลยต้องป้องกันตัว!”
มินโฮมองคนที่พูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยด้วยความงุนงงและแอบกลัวนิด ๆ
“คุณนี่โหดชะมัด เอะอะก็จะใส่ร้ายผมอยู่เรื่อย ถามจริง ผมทำอะไรคุณหรือยังเหอะ”
“ก็นายมันโรคจิต ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่านายจะไม่ทำอะไรฉัน”
“ผมโรคจิตตรงไหน”
“กะ ก็... ก็นายมา มา.... อื้อ...”
ไม่ทันพูดจบ มือเรียวบางก็ยกขึ้นถูแก้มและปากอย่างแรงราวกับขยะแขยงเต็มที่ มินโฮมองอย่างเซ็ง ๆ เล็กน้อย เพราะดูเหมือนเขาจะกลายเป็นเจ้าบ่าวที่โชคร้ายที่สุดไปซะแล้ว ถูกเจ้าสาวรังเกียจขนาดนี้เขาจะกล้าทำอะไรอีกได้ยังไง
สวยก็สวย...แต่โหดเป็นบ้า
คนตัวสูงคิดในใจ ก่อนเอ่ยออกไปด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“สาบานได้ว่าผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“แล้วทำไมมันถึง......ถึง....ถะ คนบ้า คนบ้า ๆ ๆ ”
“อ้าวคุณ เฮ้ย!”
ถ้าพูดเฉย ๆ มินโฮคงไม่ว่าอะไรมากนัก แต่มาเดือดร้อนสุด ๆ ก็ตอนที่มือเล็กขว้างหมอนมาใส่เขาเต็มแรงจนหลบแทบไม่ทัน หมอนสีขาวใบโตเฉียดหน้าเขาไปเพียงไม่กี่เซ็นฯ ... แถมยังแรงจนไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากร่างบอบบางนั่นได้
ชายหนุ่มหายใจแรง ก่อนหันไปเอ่ยด้วยน้ำเสียงขึงขังบ้าง
“นี่คุณ ถึงยังไงผมก็เป็นเจ้าบ่าวของคุณนะ เลิกทำร้ายผมซะทีเถอะ ถ้าผมเจ็บจริง ๆ ขึ้นมา พรุ่งนี้เช้าจะบอกคนอื่นยังไง ...บอกว่าโดนเมียซ้อมตั้งแต่คืนแรกทีเข้าหอเนี่ยนะ”
“ใครเป็นเมียนาย ห๊า!”
“เอ่อ...คือผมไม่ได้หมายความว่า...”
“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ แค่แต่งงานกันมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเป็นเมียนายนะ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้ ๆ ...ไอ้ ไอ้เกย์โรคจิต!!!”
เขาเกือบจะไม่คิดอะไรแล้วกับคำว่าร้ายต่าง ๆ นานาที่เจ้าของร่างบอบบางขนมาด่าว่า แต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายมินโฮก็อดสะดุ้งเฮือกขึ้นมาไม่ได้...
ชเว มินโฮ แกคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะที่แต่งงาน
“เอ่อ ๆ ผมมันไม่ดี ผมมันเลว.... พอใจหรือยัง เลิกด่าผมได้แล้ว บอกแล้วไงว่าคุณเข้าใจผิด ผมยังไม่ทันจะทำอะไรจริง ๆ เลยนะ”
“ก็ฉันเห็นว่า....”
“เอาเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมล่วงเกินคุณไปผมขอโทษ ขอโทษที่เข้าใกล้คุณ ขอโทษที่แต่งงานกับคุณ อ้อ ขอโทษที่เข้าหอกับคุณด้วย โอเคหรือยัง เรามาคุยกันดี ๆ ก่อนไหม ตอนนี้มันดึกแล้ว แถมผมก็เหนื่อยจะตายแล้วด้วย!”
“.......”
“....”
“... ”
หลังจากที่มินโฮระเบิดอารมณ์ไป ความเงียบก็คลี่ลงปกคลุมรอบ ๆ ตัวทั้งสองอย่างช้า ๆ เนิ่นนานพอที่มินโฮจะนับ 1 -20 ได้สบาย ๆ ... ดวงตาคมกริบของคนบนเตียงประสานกับตาสีเข้มของเขาเหมือนกำลังคุมเชิงซึ่งกันและกันอยู่
แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าเจ้าสาวของเขาจะยอมเป็นฝ่ายแพ้ก่อน เพราะริมฝีปากจิ้มลิ้มเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเข้ม
“นาย...”
“...ครับ”
"ตกลงคือ... นะ นาย... ไม่ชอบผู้หญิง"
-*-
.... มินโฮลอบถอนหายใจ เมื่อได้ยินประโยคนั้น เขาเหลือบมองเพดานอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะกลับมายิ้มพร้อมเอ่ยด้วยเสียงจริงจัง
“อืม”
“นายชอบผู้ชาย?”
“...ครับ”
ใบหน้าคมพยักงึก แต่ทว่า คนขี้ระแวงดูเหมือนจะยังคงไม่ยอมเชื่อ
“ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”
มินโฮทำหน้าเซ็ง ก่อนยักไหล่พร้อมกับเอ่ยราวกับไม่ใส่ใจนัก
“ใครจะล้อเล่นเรื่องแบบนี้จริงไหม ผมก็แค่ไม่อยากให้คุณกังวลไป โอเคผมแต่งงานกับคุณ แต่ไม่จำเป็นจะต้อง...เอ่อ ทำอะไร ๆ แบบคนอื่น คุณเชื่อผมได้เลย ชีวิตนี้...ผม คงไม่ชอบผู้หญิงคนไหนอีกแล้วล่ะ”
ดวงตาเรียวสวยคมกริบจ้องมองตาคู่นั้นอย่างไม่กระพริบ พยายามหาร่องรอยความผิดปกติจากคำพูดนั้น.... หากสิ่งที่พบ มีเพียงแววตาลึกล้ำ.... ราวกับวังวนน้ำที่มองไม่เห็นข้างใน
..... แปลก
ผู้ชายคนนี้แปลก... พยายามเท่าไหร่ก็มองไม่ออก
ไม่ว่าจะน้ำเสียง หรือดวงตา... คีย์ก็มองไม่ออกทั้งนั้น ไม่รู้จริง ๆ ว่ารู้สึกอะไรอยู่กันแน่ โดยเฉพาะเสียงทุ้มที่เอ่ยประโยคสุดท้ายออกมา
“วางใจได้ ผมไม่มีวันชอบผู้หญิงคนไหน...อีกแล้ว”
ไม่รู้ทำไม.... มันถึงดูลึกซึ้งจนบอกไม่ถูก
คีย์เริ่มคลายมือจากโคมไฟคริสตัลที่ราคาไม่น่าจะถูกนัก หากตาทั้งคู่ยังคงไม่ละออกจากร่างสูงที่นั่งอย่างสบาย ๆ ห่างกันไปเกือบครึ่งห้อง เสียงหวานเอ่ยย้ำอย่างไม่แน่ใจ
“คือหมายความว่านายชอบผู้ชาย....”
“เอ่อ...ก็ คงใช่”
“ฉันไม่ต้องการคำว่า ‘คง’ ฉันต้องการคำว่า ‘ใช่’!!! เท่านั้น เข้าใจไหม”
“เออ ๆ ๆ ก็ได้ คุณนี่ขี้ระแวงเป็นบ้า”
“ก็ลองให้นายมาโดนหลอกซ้ำ ๆ ซาก ๆ แบบฉันบ้างสิ จะไม่ระแวงอะไรเลยก็ให้มันรู้ไป”
“แล้วคุณเคยโดนใครหลอกเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็เรื่องแต่งงานบ้านี่สิ ตอนแรกจะให้ฉันมาช่วยดู..... อะ เอ่อ... ช่างมันเถอะ ”
“หืม?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
คีย์รีบตัดบท ก่อนที่ความทรงจำบางอย่างจะทำให้เขาอยากเอาโคมไฟฟาดหัวตัวเองเพื่อรีดความโง่ที่อยู่ในหัวให้ไหลออกมาให้หมด นึกแล้วก็ยังเจ็บใจไม่หาย
ใช่ซี้....คนอย่างเขามันก็หัวเดียวกระเทียมลีบมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว ไม่เกิดมาเป็นลูกสาวบ้างก็ให้มันรู้ไป
เหอะ!
“แล้วนี่ ตอบคำถามฉันก่อน ตกลงนายชอบผู้ชายใช่ไหม บอกมา ตอบมาเดี๋ยวนี้เลยไม่ต้องโยกโย้”
คีย์พ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ พร้อมมองอีกฝ่ายตาขวาง เสียงหวานขุ่นจนอีกฝ่ายหน้าเบ้
“เออ ใช่ ผมชอบผู้ชาย แค่เห็นผู้ชายก็อยากพุ่งเข้าใส่แล้ว ยิ่งผู้ชายที่ตัวเล็ก ๆ บาง ๆ สวย ๆ ผิวขาว ๆ นี่ชอบมากเลย อย่างคุณนี่ถ้าเป็นผู้ชายนะ ผมฟาดเรียบไปแล้ว พอใจไหม!!”
0[ ]0
คีย์อ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน ร่างเล็กถอยกรูดอีกรอบ มือกระชับโคมไฟแน่นพร้อมออกอาวุธกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทันที
“อย่าทำตัวสั่นแบบนั้นได้ไหมคุณ...ผมก็บอกแล้วไงว่าผมชอบผู้ชาย ไม่ได้บอกว่าชอบคุณซักหน่อย”
“กะ ก็...ก็”
“ นี่คุณ การที่ผมชอบผู้ชายนี่มันน่ากลัวขนาดนั้นเลย อย่าทำเหมือนผมเป็นฆาตรกรโรคจิตนักเลยจะได้ไหม”
มินโฮพูดอย่างเบื่อ ๆ เพราะยิ่งอธิบาย คนตัวเล็กก็ดูเหมือนจะยิ่งส่งสายตาหวาดระแวงเหมือนเขาเป็นผู้ร้ายที่หนีออกจากคุกมาใหม่ ๆ ซะอย่างนั้น .... ตลอดชีวิตที่ผ่านมามินโฮค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนที่มีเสน่ห์พอสมควร อย่างน้อยรูปสมบัติและคุณสมบัติของเขาก็ไม่แพ้ใครหรอก แต่ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมกับเจ้าสาวคนสวยของเขาคนนี้ ถึงได้ตั้งแง่ แถมยังมองเขาราวกับเขาน่าเกลียดน่ากลัว แล้วก็ขยะแขยงอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้
เจอแบบนี้เข้า เขาก็เสียเซลฟ์นิด ๆ เหมือนกันนะ
“ผู้ชายเท่านั้นใช่ไหม ถ้าเป็นผู้หญิงนายจะไม่ยุ่งด้วยใช่ไหม!!”
“อันนี้ก็ต้องพิจารณา.... เอ้ย ยอมแล้ว ๆ ๆ ผมไม่ล้อเล่นแล้วก็ได้”
ไอ้ประโยคเล่น ๆ นั่นเหมือนกับสาดน้ำมันเข้าไปในกองไฟจริง ๆ
จากตอนแรกที่คิดจะแกล้งเฉย ๆ แต่มินโฮก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อหันกลับไปสบตาเรียวเล็กคู่นั้น
“ตกลงว่าไง!!!”
“ก็ได้ ๆ ๆ ผมยุ่งแต่ผู้ชายเท่านั้นน่า ”
“งั้น ถะ...ถ้าฉันเป็นผู้หญิงแบบนี้ นายก็จะไม่ยุ่งด้วยใช่ไหม!!!”
“คุณไม่ใช่ผู้ชายซะหน่อยจะกลัวไปทำไม ก็บอกหลายรอบแล้วไงว่าผมชอบแต่ผู้ชาย”
“ชะ ใช่...ฉัน เป็นผู้หญิง ฉันเป็นผู้หญิงนะ!! เข้าใจใช่ไหม”
“...”
“ดังนั้น นายห้ามยุ่ง...ห้ามเข้าใกล้ฉัน ห้ามแตะต้อง หะห้าม...ล่วงเกินฉัน เข้าใจไหม”
“ครับ”
“ฉัน เป็น ผู้ หญิง โอเค๊”
“คุณนี่ตลกจัง พูดเหมือนกลัวคนจะคิดว่าคุณเป็นผู้ชายอย่างนั้น”
“จะบ้าเหรอ!!! กะ ก็..ก็ ฉันตัวก็ใหญ่ เสียงก็ใหญ่ มือก็ใหญ่ เหมือนผู้ชายไหมล่ะ ถึงจะเหมือนผู้ชายแต่ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ ดังนั้น... ฉันก็ต้องระแวงบ้างเป็นธรรมดา ก็ฉันเป็นผู้หญิงนี่ เรื่องอะไรฉันจะเชื่อใจใครง่าย ๆ ล่ะ จริงไหม”
ประโยคนั้นทำให้มินโฮลอบมองคนพูดพร้อมขมวดคิ้ว ....
“หืม...คุณนี่นะเหมือนผู้ชาย.... ไม่เห็นใหญ่อะไรตรงไหนเลย ตัวคุณเล็กออกจะตาย ไม่งั้นจะใส่ชุดเจ้าสาวนี่ได้เหรอ ความจริงมันก็ปกตินะ ถ้าคุณเป็นผู้ชายจริง ๆ ผมว่าคุณน่าจะเป็นผู้ชายที่เหมือนผู้หญิงมากกว่านะ”
“แต่ฉันไม่ใช่ผู้ชายนะ!!!!”
มินโฮพยักหน้าอย่างงง ๆ รู้สึกว่าเขาพูดคำต้องห้ามไปอีกแล้วสินะ ....
แค่พูดคำว่าผู้ชาย เขาก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนสาปทางสายตาซะแล้วสิ
เจ้าสาวของเขาเอาใจยากจริง ๆ แหะ
“ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเข้าใกล้ฉัน ห้ามแตะต้องฉัน ห้ามเข้ามาอยู่ข้างหลังฉันด้วย!!!!”
“หืม?”
“กะ ก็...ก็หมายความว่าห้ามนายเข้ามาใกล้ฉันนั่นแหละ สัญญาด้วย ไม่งั้นฉันจะร้องให้ลั่นห้อง แล้วบอกว่านายจะฆ่าฉัน”
“คุณนี่ขี้ระแวงจัง เอาน่า ผมไม่สนใจคุณหรอก ถ้าคุณเป็นผู้ชายก็ว่าไปอย่าง”
“เอ๊ะ!”
“คือ ผมหมายความว่าผมสนใจแต่ผู้ชายไง โอเคไหมครับ”
“....”
“คุณ... คือ อะไรก็ได้นะ อย่าระแวงผมเลย ยังไงซะเราสองคนก็...เอ่อ เข้าพิธีกันแล้ว” ชายหนุ่มเลี่ยงคำว่า ‘แต่งงาน’ แทบไม่ทัน แต่ถึงไม่เลี่ยง เขาก็พบว่ามันไม่แตกต่างอะไรเลยกับการพูดคำว่าแต่งงานออกมา เพราะยังไงซะเจ้าสาวคนสวยก็ยังถลึงตาใส่เขาเหมือนเดิม
“คุณต้องคิดในแง่ความเป็นจริงนะ...เราสองคนแต่งงานกันแล้ว คือถ้าผมกับคุณไม่อะไรกันเลย มันก็จะดูไม่ดีนะ” “ฉันไม่อะไรกับนายทั้งน๊าน!!!!!”
มินโฮยกมือขึ้นปิดหูเมื่อหญิงสาวพูดขึ้นด้วยเสียงแหลมปรี๊ด
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคุณ...ผมหมายความว่า สนิทสนมน่ะ สนิทสนมกัน คือเราสองคนก็ต้องสนิทกันบ้างไม่ใช่เหรอ...คือ อย่างนี้ใช่ไหม เวลาเราออกไปนอกห้อง เราก็ต้องทำตัวเป็นสามีภรรยากันบ้าง... หมายถึง เอ่อ ”
“..........”
“คือคุณเข้าใจผมไหม...เราสองคนแต่งงานกันแล้ว ถ้าต่างคนต่างอยู่ มันก็ไม่ดี ใช่ไหม... แม่ผม ก็จะไม่สบายใจ”
“หมายความว่ายังไง”
.
.
“เรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า”
Sorry Guy, I'm not A GAY (Girl)
‘เวลาอยู่ในห้อง ผมจะทำตามที่คุณพูดทุกอย่าง... แต่ถ้าออกไปข้างนอก หมายถึงตอนที่ไม่ได้มีแค่เราสองคน คุณต้องฟังที่ผมพูด แล้วข้างนอกนั่น ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรให้คุณเสียหายเป็นอันขาด โอเคไหมครับ’
ไม่โอเค... ยังไงก็ไม่โอเค
ไม่โอเคแน่ ๆ โว้ยย!!!!
“หนูคีย์ทานน้อย ไม่อร่อยเหรอลูก”
.
.
“คีย์... คีย์ครับ”
“หะ... เอ๊ะ”
ร่างบอบบางในชุดอยู่กับบ้านทำหน้าเลิ่กลั่กเมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกดึงขึ้นจากภวังค์ ใบหน้าเจื่อน ๆ ของคนที่อยู่ข้าง ๆ ทำให้เขามองด้วยความงุนงง
“คุณแม่ถามว่ากับข้าวไม่ถูกปากเหรอ ทำไมถึงทานน้อย”
มินโฮเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มนุ่ม อ่อนโยน ทว่าดวงตาที่จ้องมองเขานั้นเต็มไปด้วยความคาดหวังและบีบบังคับ คีย์หันควับไปยังผู้ที่อยู่บนหัวโต๊ะอาหารตัวโต รอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนหน้าของผู้สูงวัยกว่า คีย์หันกลับไปมองหน้า ‘สามี’ อีกครั้ง ก่อนหันกลับมายิ้มกว้าง และเอ่ยขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ
“ฮะ ฮ่า ... อร่อยมากเลยครับ ตั้งแต่คีย์เกิดมาก็เพิ่งจะเคยกินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกนี่แหละคะ...ค่ะคุณป้า”
“หืม? หนูว่ายังไงนะ”
“อะ ...อาหารอร่อย ค่ะ”
“เปล่าจ้ะ... แม่ถามว่าหนูเรียกแม่ว่ายังไงนะ”
คีย์หัวเราะแห้ง ๆ ก่อนกระแอมเพื่อให้โล่งคอและหาหนทางเลี่ยง แต่ดูท่าทาง คุณแม่สามีจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ ซะด้วยสิ
“หืม ...ว่าไงจ้ะ”
“ค่ะ คุณแม่”
เพียงแค่ ‘เธอ’ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน คุณแม่สามีที่แสนน่ารักของเธอก็ส่งยิ้มกลับมาให้อย่างใจดี แถมยังตักเนื้อชิ้นใหญ่ ๆ รสชาตินุ่มลิ้นอย่างที่ไม่เคยลิ้มรสชาติมาก่อนมาให้หลายต่อหลายครั้ง ถ้าไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้ การได้กินอาหารอร่อย ๆ รสชาติดีเยี่ยมเช่นนี้คงจะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว....
แต่ตลอดมื้ออาหารเช้าที่อบอุ่นของครอบครัวชเว ที่ประกอบไปด้วยคุณแม่ ลูกชาย และลูกสะใภ้ กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่แสนกระอักกระอ่วนสำหรับ ‘เธอ’
...ช่างไม่เหมือนละครที่’เธอ’เคยดูสักนิด ทำไมแม่สามีของเธอถึงได้น่ารัก แสนดี แล้วก็ช่างเอาอกเอาใจ’เธอ’ นักนะ...
เฮ้อ....มันคงจะดีถ้าคีย์ได้แม่สามีร้าย ๆ แบบในละคร แบบที่แค่เธอนอนตื่นสายก็กระทบกระเทียบไปอีกเจ็ดวัน แล้วก็กระทืบเท้าเรียกร้องให้ลูกชายเลือกระหว่างแม่กับเมียอะไรประมาณนั้น ...
...ความจริง แบบไหนก็ได้นะ ที่ไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่ใจดีแบบนี้
อ๊ะ ๆ ๆ อย่าเพิ่งคิดว่า’เธอ’เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงล่ะ
ใช่ว่าคีย์เป็นพวกมาโซคิสต์ อยากปะทะฝีปากกับแม่สามีนักหรอก.. แต่ความจริงก็คือคีย์จะได้หาข้ออ้างหนีออกไปจากชีวิตบ้า ๆ บอ ๆ นี่ซะที
เขาจะทำอย่างไรกับชีวิตนี้.... จะอยู่อย่างไรในสภาพนี้
ทิ้งโลกที่ ‘เขา’ อยู่อย่างลำบากลำบนมาทั้งชีวิต เพื่อเข้ามาอยู่ในโลกใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
เป็น ‘เธอ’ ที่สวยงาม น่ารัก .... มีชีวิตที่สะดวกสบาย เต็มไปด้วยผู้คนเอาอกเอาใจ
เสียแค่อย่างเดียว....
ชีวิตของ ‘เธอ’ เป็นชีวิตที่ต้องโกหกปิดบังคนอื่น
คีย์ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดไว้ในอก ขณะยิ้มหวานตอบผู้สูงวัยกว่า
ชีวิตของเธอช่างเหนือความควบคุมไปซะทุกอย่างเสียจริง ๆ
แต่ท้ายที่สุด เธอก็ผ่านพิธีแต่งงานมาแล้ว... เข้าหอมาแล้ว แถมยังได้กินข้าวมื้อเช้าแล้วด้วย ไม่เห็นมีใครสงสัยเลยนี่ว่า ‘เธอ’ ไม่ใช่ ‘คีย์’ ว่าที่เจ้าสาวคนสวยที่ใคร ๆ เข้าใจ
คงต้องขอบคุณแม่และพ่อ ที่ปั้นหน้าตา’เขา’กับพี่ออกมาให้เหมือนกันราวกับฝาแฝด แม้ว่าจะอายุห่างกันเกือบสองปี แถมหลังจากพ่อตาย ครอบครัวของพวกเขาก็ยากจนเสียจนคีย์เลี้ยงดูมาอย่างยากแค้น
หุ่นถึงได้ ‘ดี’ อย่างนี้ไง!!!!
ผอมกระหร่อง มีแต่กระดูก ไร้กล้ามเนื้อ หน้าผอม กระดูกไหปลาร้าโผล่ ขาเรียว แขนลีบ มือเล็ก เอวคอด สะโพกผาย etc.
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเขาก็แสดงเป็นผู้หญิงได้แบบเนียน ๆ มาเป็นอาทิตย์ ตั้งแต่วันไปดูชุดแต่งงาน จนกระทั่งเข้าพิธี
แม้แต่เจ้าบ่าวยังไม่เอะใจเลยสักนิด...สรุปว่ามีส่วนไหนในตัว คิม คิบอมที่เหมือนผู้ชายบ้าง!!!
ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเลย
...ทำไมสวรรค์ถึงได้ทำกับแบบนี้
จะมีใครรู้บ้างว่า ‘เธอ’ คนนี้กินข้าวไม่ลงเพราะอะไร....
จะมีใครรู้บ้างว่า ‘เธอ’ เหนื่อยแค่ไหน
จะมีใครรู้บ้างว่าเมื่อคืน ‘เธอ’ ไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะอะไร!!!
แค่เพียงครอบครัวของเธอเดือดร้อนจนแม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาหมุนค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ... จนกระทั่งหมุนไม่ทัน แล้วคนพวกนั้นก็จะมายึดบ้านแล้วก็ร้านเค้กของครอบครัว ความจริงคีย์ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ร้านเค้กเก่า ๆ นั่นแทบไม่มีคนเข้าอยู่แล้ว... แถมไม่อยากจะบอกเลยว่าฝีมือทำเค้กของแม่นั้นไม่มีอะไรได้เศษเสี้ยวของพ่อเลยสักนิด (แม่จะตามมาฆ่าคีย์ไหมนะ?)
แต่อย่างไรซะ คีย์ก็รู้ว่าสำหรับแม่มันสำคัญมาก... แม่ถึงได้เฝ้าประคับประคองมันมาจนถึงทุกวันนี้
แม่ของคีย์เป็นผู้หญิงไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง ไม่มีหัวคิดทางด้านธุรกิจ ชอบแต่งตัว ชอบเสริมสวย ชอบเลียนแบบดาราดัง ทำอะไรหยิบหย่ง กับข้าวกับปลาก็ทำไม่ค่อยเก่ง งานหนักไม่ค่อยได้จับ ทุกวันนี้หน้าตาของคุณคิม มิยอนแทบจะไม่ต่างจากสาววัยสามสิบต้น ๆ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จึงขยันเข้ามาจีบกันไม่เว้นแต่ละวัน
แต่ดูเหมือนสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคุณนายคิม มิยอนก็คือหัวใจที่มั่นคงเหลือเกินนั่นล่ะมั้ง
หัวใจที่มีแต่พ่อ.... แม้ว่าพ่อจะจากไปตั้งสิบกว่าปีแล้วก็ตาม
คีย์ถอนหายใจ เริ่มท้อ เพราะไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่
เมื่อคืนนี้...คีย์เริ่มต้นชีวิตแต่งงานด้วยการ ‘เชิญ’ สามีลงไปนอนกับพื้นโดยโยนหมอนและผ้าห่มผืนบาง ๆ ไปให้อย่างละชิ้น เพียงเพราะตอบแทนที่อีกฝ่ายถือวิสาสะมาช่วยจัดการชุดเจ้าสาวที่ถอดยากถอดเย็นโดยที่’เธอ’ยังไม่ทันร้องขอ
‘มะ ผมช่วย’
ไม่ทันที่คีย์จะได้เอ่ยอะไร ร่างสูงก็ปราดเข้ามาจัดการรูดซิปข้างหลังที่คีย์พยายามเท่าไหร่ก็เอื้อมไม่ถึง แถมยังรูดรวดเดียวจบ ปล่อยให้คีย์คว้าเกาะอกที่ทำท่าว่าจะหล่นแหล่มิหล่นแหล่ไว้แทบไม่ทัน … โชคดีที่บรายัดไส้ถูกยึดแน่นไว้ด้วยเทปกาวอย่างดี จึงไม่หล่นออกมาให้เป็นที่รู้ความจริง
‘อะเอ่อ... ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ’
คีย์ตัวสั่นระริกเมื่อหันกลับไปส่งสายตาอาฆาตกับผู้หวังดี
‘อะ ไอ้... ไอ้ ไอ้โรคจิต!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!’
เอาเป็นว่าเสียงแหลมปรี๊ดของ ‘เธอ’ เมื่อคืนก็มีอำนาจมากพอที่อีกฝ่ายจะหงอยไปได้ตลอดคืนล่ะนะ ... คีย์จับจ้องทุกการขยับร่างกายของคนตัวสูงด้วยสายตาพิฆาต หวาดระแวง และเตรียมพร้อมระวังภัย
.... คีย์ไม่รู้ว่าโคมไฟคริสตัลระยิบระยับชิ้นนี้มันราคาแพงเท่าไหร่กันแน่ แต่ก็พอรู้ว่ามันเป็นอาวุธชั้นเยี่ยมที่แค่หันไปคว้ามันมาไว้ในมือ คุณ ‘สามี’ ก็หน้าซีดเผือดและกลับลงไปนอนกลิ้งบนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบอย่างว่าง่าย ถึงจะไม่วายบ่นอุบเป็นหมีกินผึ้งตลอดคืนก็เถอะ
‘คุณนี่ดุจริง ๆ ’
พูดถึง ‘สามี’ แล้วคีย์ก็เริ่มรู้สึกว่าใจเต้นตุบ ๆ ต่อม ๆ ทุกครั้งที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้...
เปล่าเลย ไม่ใช่ว่าเขาจะเกิดความรู้สึกรักแรกพบอะไรกับคน ๆ นี้แน่นอน
ก็แค่กลัว ว่าความจริงมันจะเปิดเผยออกไป
คีย์ตัดสินใจแล้ว
ถึงตายก็จะไม่มีวันยอมเปิดเผยความลับครั้งนี้เป็นอันขาด
ยอมเป็นผู้หญิงตลอดชีวิต ดีกว่ายอมเป็นผู้ชายของไอ้เกย์โรคจิตนี่!!!!
คีย์สาบาน
คีย์คิดเรื่อยเปื่อยหลังจากรวบช้อนเป็นอันว่าจบมื้ออาหาร ปล่อยใจให้ล่องลอยไปขณะฟังเสียงสนทนาแว่วมาตามสายลม
“แล้วนี่จัดเสื้อผ้าหรือยังล่ะลูก แม่จะได้เรียกคนขับรถรอเลย คุณลีจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้แล้วจ้ะ ”
“อ้อ ยังครับ ผมคิดว่าทานข้าวเสร็จแล้วค่อยขึ้นไปจัด ไปไม่กี่วัน คงไม่ต้องเอาไปเยอะหรอกครับ”
“แหม๊ เรานี่ยังไงนะ ถึงเราจะไม่เยอะ แต่เราก็ต้องคิดถึงเมียเราบ้างนะ เมียเราเป็นผู้หญิง กว่าจะจัดข้าวของได้อีกล่ะ ใช่ไหมจ้ะหนูคีย์”
คีย์ขมวดคิ้ว ขณะหันไปมาระหว่างคนสองคนที่คุยกันด้วยเรื่องที่เธอคิดว่าไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับเธอโดยตรงเลยสิ
“คะ...คะ? … พูดเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
“อ้าว นี่มินโฮยังไม่ได้บอกหนูเหรอ เอ๊ะ เจ้านี่นี่ยังไงนะ ไม่รู้จักบอกเมียไว้ แล้วนี่ปุบปับจะไปเลย ไม่รู้จักวางแผนไว้ก่อน”
“เมื่อคืนก็มัวแต่ยุ่ง ๆ เลยลืมบอกไปเลย”
“ลูกนี่ยังไงนะ แต่ก่อนไม่เคยเป็นคนแบบนี้ พอเจอคนสวย ๆ แบบหนูคีย์เข้าแค่คืนเดียวลืมหมดเชียวนะเรา ไม่ไหวจริง ๆ เลยนะ ”
“แหะ ๆ คุณแม่อย่าพูดแบบนั้นสิครับ”
คิ้วของคีย์ขมวดยุ่งกว่าเดิม เธอหันควับไปยัง ‘สามี’ คนดี... ก่อนถลึงตาใส่แบบไม่ผิดเพี้ยนไปจากเมื่อคืนแม้แต่นิดเดียว
เสียงหวานเอ่ยเฉียบเย็น หวังจะให้คนที่หน้าเจื่อนลงทุกทีพูดอะไรออกมาบ้างให้เธอเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้บ้างสักนิด
“คือ พูดเรื่องอะไรกันคะ”
เจ้าของร่างสูงยิ้มแห้งให้เขา ก่อนหันควับไปที่มารดา คีย์มองตามไปอย่างไม่ลดละ แต่ดูเหมือนคุณแม่สามีจะเห็นว่าลูกชายของตนพึ่งพาไม่ได้ ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลอ่อนจึงเอ่ยขึ้น
“อ๋อ ก็เรื่องทริปไปฮันนีมูนสามวันสี่คืนของลูกสองคนไงล่ะจ้ะ”
.
.
.
“ฮัน...นี..มูน? เหรอคะ”
“ใช่แล้วจ้ะ นี่แม่หาสถานที่ให้เองเลยนะ เป็นเกาะส่วนตัว มีหาดสวย ๆ บังกะโลเล็ก ๆ น่ารัก เหมาะสำหรับสองคน แต่ไม่ต้องห่วงนะลูก พวกเครื่องอำนวยความสะดวกแม่จัดเตรียมไว้ให้แล้ว พวกของกินก็อยู่ในตู้เย็น อยากได้อะไรก็ไปบอกคนงานแถวนั้นได้ ที่สำคัญที่นั่นบรรยากาศดีมาก เหมาะสำหรับการฮันนีมูนสุด ๆ ถึงจะเป็นหน้าหนาวก็เถอะ แต่ที่นั่นสวยจริง ๆ นะ ยิ่งตอนกลางคืนนะ ดาวสวยมาก ๆ ตอนกลางวันก็เล่นน้ำทะเล ตอนกลางคืนก็นอนดูดาว แหม โรแมนติก ”
คีย์อ้าปากค้างจนแทบเห็นลิ้นไก่ โชคดีที่ผู้สูงวัยกว่ามัวแต่ครุ่นคิดถึงสิ่งที่พูดออกมา จึงไม่เห็นพฤติกรรมดังกล่าวของลูกสะใภ้
“อะเอ่อ... คือ คุณ.. คือคีย์... ”
เธอพยายามเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาเพื่อที่จะถามคำถามอะไรก็ได้ ที่จะได้คำตอบว่ามันคือเรื่องล้อเล่นกันในยามเช้าเท่านั้น แต่ดูเหมือนคุณแม่สามีสุดที่รัก จะเห็นเป็นธุระบอกภารกิจให้เธอจนหมดทุกประการก่อนที่จะเดินหายลับไปจากสายตาของคีย์
“ไหน ๆ ก็ไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นกันแล้ว...ถือโอกาสปั๊มหลานให้แม่เลยด้วยกันนะลูก ”
......
....
“ฮันนีมูน”
“เอ่อ... ครับ”
“ปั๊มหลาน?”
“คือคุณแม่ท่าน..อยากให้เรา...เอ่อ แต่ผมไม่ได้มีความคิดนี้นะ”
“สองคน...กับนาย”
“ใช่ครับ แค่ผม..กับคุณ...สองคน”
ถ้ามีอะไรจะเลวร้ายไปกว่าการปลอมตัวเป็นผู้หญิงมาแต่งงานกับผู้ชาย
มันก็คือการค้นพบว่าสามีในนามนั้นเป็นเกย์!
และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของคีย์ตอนนี้ก็คงเป็นการไปฮันนีมูนกัน ‘สอง ต่อ สอง’ กับสามีที่เป็นเกย์!!!!!
เหอะ ๆ ...เหอะ ๆ
แต่มันคงไม่เลวร้ายขนาดนี้หรอก ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ชาย
เป็นเมียแต่ในนามน่ะพอไหว
แต่ให้เป็นเมียจริง ๆ คีย์ไม่เอา!!!
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
TBC.
ความคิดเห็น