ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Sunflower {KrisYeol}{รวมชอตฟิคคริสยอล}

    ลำดับตอนที่ #11 : [SF] Just Somebody {7th} 40%

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 56


    7th

     

     

                    “คะ.. ครับ...”

                    เสียงทุ้มนุ่มคุ้นหูค่อย ๆ ดึงชานยอลขึ้นมาจากห้วงนิทราอันสงบสุข  ขาที่อยู่นอกผ้าห่มสัมผัสกับอากาศเย็นเฉียบจนต้องรีบชักกลับเข้ามาใต้เนื้อผ้า  อุณหภูมิลดต่ำลงทำให้ร่างสูงเพรียวนึกอยากขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่นหนาไปตลอดทั้งวัน  หน้าสวยซุกลงใต้เนื้อผ้าก่อนจมหายไปกับหมอนใบโต หากในสภาวะที่สติยังไม่กลับมาอย่างสมบูรณ์ เด็กหนุ่มบนเตียงเอื้อมมือปะป่ายไปทั่วรัศมีที่ทำได้อย่างคุ้นเคย ก่อนที่หัวใจจะเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อควานหาอ้อมกอดอุ่นที่คุ้นเคยไม่พบ  เปลือกตาของเขาผ่าวร้อน ขณะพยายามลืมขึ้น 

    ทว่า...

                    หนัก... หนักเหลือเกิน

                    “พ... พี่” เสียงแผ่วหวิวเอ่ยขึ้น  ลมหายใจร้อนจนต้องผ่อนออกช้าอย่างทรมาน  ภาพบางอย่างฉายเข้ามาในความนึกคิดคำนึง  และสั่นสะเทือนหัวใจจนทำให้น้ำตาไหล  “สัญญา... สัญญาแล้วไม่ใช่เหรอ”

                    “ชานยอล.... เอ่อ ได้ครับ ...  ยังนอนอยู่เลย...หือ .. เดี๋ยวแค่นี้นะครับคุณแม่ ได้ครับ..ครับ”

                    น้ำเสียงร้อนรนผสมปนเปกันเข้ามาจนชานยอลรู้สึกปวดหัว...  เด็กหนุ่มใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อดึงสติของตนกลับคืน หากครู่ใหญ่กว่าที่เขาจะลืมตาขึ้นมาได้  เพดานสูงสีฟ้านวลปรากฎอยู่ในสายตา  พร้อม ๆ กับสัมผัสนุ่มนวลเหนือไหล่เปลือยเปล่า

                    “ชานยอลครับ...  ชานยอล”

                    เด็กหนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง... น้ำเสียงทุ้มนุ่มคุ้นหูอยู่ดังใกล้ชิดจนแทบไม่ต้องคิดว่าเขาตื่นหรือหลับอยู่   

                    ทว่า... ตาของเขาพร่ามัวเหลือเกิน

                    “ฮยอง...คริสฮยอง...” 

    เสียงแผ่วหวิว... เจือรอยสะอื้นเล็ก ๆ  ที่ทำให้ คริสยิ้มบาง  ขณะจูบผิวขาวใสที่โผล่พ้นเสื้อกล้ามแผ่วเบาครั้งแล้วครั้งเล่า   มือหนาข้างหนึ่งวางที่สะโพกกลมมน และกระซิบข้างหูคนขี้เซา  ก่อนเคลื่อนขึ้นไปประคองดวงหน้าที่ยังดูง่วงงุน และงัวเงียอยู่ไม่น้อย   ชายหนุ่มจับจ้องใบหน้าขาวเนียนครู่ใหญ่อย่างหลงใหล  และส่งนิ้วหัวแม่มือเกลี่ยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นจนเลอะสองแก้มอย่างเบามือ

                    “ฝันร้ายเหรอ..... ”

    “หือ... ผม...ผมเหรอ”  ชานยอลเอ่ยเสียงเบา   ถามกลับด้วยสีหน้าที่บอกว่าเจ้าตัวยังตื่นไม่เต็มตา  หน้าซีดเซียวสะบัดแรง และกระพริบตาถี่... ดวงตากลมโตคลอด้วยน้ำใส ๆ และแดงก่ำ  “พี่ไปไหนมา”

                    หนุ่มชาวจีนเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำถาม... ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่

                สาเหตุมาจากสายของผู้ปกครองของเด็กน้อยขี้เซา

                    “เปล่านี่... พี่แค่ลุกไปโทรศัพท์เอง  ปลุกเราเหรอ...”

                    “เปล่า... “

                    เด็กหนุ่มปฏิเสธผ่านส่ายตาเศร้าสร้อย  ชานยอลยกฝ่ามือเรียวขึ้น   ปลายนิ้วเลื่อนขึ้นมาแตะปลายคางอีกฝ่ายแผ่วเบา   

                    “คริสฮยอง”

                    “ว่าไงครับ..”

                    “อย่าไปไหน...”

                    “หือ” 

                    ชานยอลหลับตาลงเชื่องช้า แขนเรียวยาวทั้งสองเลื่อนขึ้นไปคล้องอยู่บนคอแกร่ง จนร่างสูงใหญ่ทิ้งน้ำหนักลงทาทาบเหนือร่างผอม พร้อมกับหัวเราะเบา ขบขันไม่น้อยกับอาการอ้อนของเด็กขี้เซา....

                    น่ารักจนไม่อยากปล่อยมือเลยสักนาทีเดียว

    “ตื่นยังเนี่ย...ชานยอลเอ๋อ” คริสกระซิบเสียงพร่า ลมหายใจร้อนรินรดอยู่ซอกคอขาวเนียน ... กลิ่นกายหอมกรุ่นทำให้เขาสูดความหอมนั้นจนเต็มปอด... ก่อนค่อยแนบริมฝีปากร้อนลงหลังกกหูคนที่ยังตื่นไม่เต็มตา  ร่างโปร่งบางบิดกายสะท้านขณะที่กลีบปากร้อน ๆ ลากเลื่อนลงมาที่ลำคอระหง

     ฝ่ามือหนาควานหาช่องว่างของผ้าห่มผืนหนาและแทรกผ่านเข้าไปหาร่างเปลือยเปล่าที่อยู่ข้างใต้เนื้อผ้า   

                    “ฮยองเอ๋อ อย่าน่า... ผมง่วง”

                    “นิดเดียวน่า... นะ” หนุ่มชาวจีนเอ่ยเสียงหวาน  ไม่ละความพยายามที่จะนำพามือใหญ่ลูบไล้บนผิวกายขาวเนียนนั้น ปลายนิ้วเรียวยาวไต่อยู่บนหน้าท้องเรียบลื่นอ่อนนุ่ม และขยับลงไปเรื่อย ๆ อย่างคนที่คุ้นเคย ไม่สนใจกล้ามเนื้อที่เกร็งขึ้น และเรียวขาที่เบียดชิดเลยแม้แต่น้อย

                    “ฮยอง..” ชานยอลประท้วงแรงด้วยริมฝีปากอิ่มที่สั่นระริก    ฝ่ามือเรียวพยายามผลักไส  หากร่างกายที่ใหญ่โตกว่ากลับไม่ครั่นคร้ามกับการต่อต้านที่แสนอ่อนแรงนั้นเลยแม้แต่น้อย

                    “เมื่อไหร่จะพอหือ.... ” หน้างามงอเง้า ...  แม้จะเรียนรู้มาตลอดว่าเขาไม่เคยปฏิเสธคริสได้เลยสักครั้ง...

                    ไม่สิ.... คริสต่างหาก ที่ไม่เคยยอมให้เขาปฏิเสธเลยสักครั้ง

                    เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ขณะปล่อยให้ร่างสูงใหญ่นำพาเขาไปอย่างที่ต้องการ   คริสจูบทุกที่ที่อยากจูบ ... แตะต้องทุกเรือนร่างราวกับเป็นเจ้าของของมัน...  สายตากระหาย  จ้องมองเขาไม่ต่างจากสิงโตที่กำลังขย้ำเหยื่อ  กระต่ายตัวน้อยที่สยบอยู่ใต้กรงเล็บแหลม และคมเขี้ยวที่แสนอันตราย

                    อ่อนแรง... และเหนื่อยใจเกินกว่าจะต่อสู้

                    ชานยอลผ่อนอาการเกร็งที่กล้ามเนื้อ  และยินยอมปล่อยกายให้เคลื่อนไหวไปตามที่คริสต้องการแต่โดยดี

                    “ผมจะฟ้องแม่... ”เสียงทุ้มบอกราวกับไม่รู้จะหาคำใดมาเอื้อนเอ่ยที่ดีกว่านี้อีกแล้ว “จะบอกแม่ว่าผมป่วยเพราะพี่” 

                    คริสหัวเราะร่วน  ก่อนฝังจมูกโด่งสวยลงบนแก้มนิ่มฟอดใหญ่  พร้อมดันเข่าให้แยกขาเรียวยาวออกจากกัน           

                    “เด็กโง่....”

                    “อื้อ...อ้า... ”

                    เขาเพิ่งป่วยเป็นไข้หวัดอยู่เกือบสองอาทิตย์ นอนซมขยับแทบไม่ได้ไปสามวัน.. ตลอดระยะเวลานั้นคริสอยู่เคียงข้าง และดูแลเขาดียิ่งกว่ามีแพทย์ส่วนตัว

                    ชานยอลย้ายมาอยู่กับคริสได้เดือนกว่าแล้ว...เหตุผลเพราะคอนโดของคริสอยู่ใกล้มหาวิทยลัยของเขามากกว่าที่บ้าน  หากคนที่มองเห็นปัญหานั้นไม่ใช่เขา...แต่เป็นคริส

                    นับตั้งแต่วันที่เขาตัดสินใจเสี่ยง... กับความรักครั้งใหม่  คริสเองก็ดูเหมือนอยากจะจัดการอะไร ๆ เกี่ยวกับตัวเขาไปเสียหมด

    คริสเป็นฝ่ายออกปากขออนุญาติจากพ่อแม่เขาเอง  ครอบครัวของชานยอลรู้จักเขาดี   และใจกว้างมากพอที่จะรับได้กับความสัมพันธ์เช่นนี้  แม้จะแปลกใจกับการตัดสินใจของชานยอลก็ตาม

                    คิดดีแล้วเหรอลูก  

                    ทุกคนในครอบครัวรู้ประสบการณ์อันเลวร้ายของเขาดี   ภาษาเกาหลีสำเนียงจีนของคริสเป็นอุปสรรคที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจของชานยอล

                    ไม่ใช่แค่การสื่อสาร... หากหมายรวมไปถึงบ้านเกิดของคริสด้วย

                    หากผมจะโชคร้ายมากขนาดต้องเจ็บอีกครั้ง... มันก็คงเป็นเพราะความซวยของผมเอง

                    เขาเคยบินกลับมาจากญี่ปุ่นอย่างคนพ่ายแพ้ .... เคยปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นคนไม่แคร์อะไรด้วยการปล่อยเนื้อปล่อยตัว และมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทที่สุดอย่างแพคฮยอนหน้าตาเฉย  ทิ้งตัวเองให้จมปลักกับความผิดหวังจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่เกือบปี...

                    ชานยอลไม่ได้รังเกียจคนต่างชาติ... เขาสามารถให้ความช่วยเหลือ  ดูแล หรือแม้กระทั่งเป็นเพื่อนกับคนพวกนั้นได้

                    แต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในลักษณะนี้....

                    เขาไม่รู้เลย...ว่าทำไมต้องเป็นคนนี้

     

                คริส... คนที่ทำให้เขากลับมามีสิ่งนี้อีกครั้ง

     

                ความรัก...    

               

                ชานยอลรักคริส... เขาปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองรู้สึกเช่นนั้น

                    ในขณะเดียวกัน.... เขาก็รู้...ว่าคริสรักเขามากเพียงใด

     

     

                    อี้ฟานกำลังทำให้เขาเคยตัว... กำลังทำให้เขากลายเป็นคนอ่อนแอที่ไม่สามารถไปไหนได้โดยไม่มีร่างใหญ่อยู่เคียงข้าง

                    ไม่สามารถทำได้แม้กระทั่งตื่นขึ้นมาโดยไม่มีน้ำตา  เมื่อไม่พบคริส

                    “อ๊า... ฮยอง... ”

                    ทันทีที่คริสพลิกกายของเขากลับหลัง...ร่างของชานยอลก็แทบจะร้อนเป็นไฟ  กลิ่นแชมพูของคริสคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง    เสียงกระซิบนุ่มนวล วาบหวามข้างใบหูทำให้เขาอ่อนแรงอีกครั้งจนแทบลืมกับความแสบร้อน... เจ็บหน่วง ขณะที่ร่างกายถูกเติมเต็มจากสัมผัสเร่าร้อน... และฝ่ามือแกร่ง  ร่างโปร่งบางกระตุกเมื่อคริสเริ่มเคลื่อนไหว...แทรกสอด... ประสานเป็นจังหวะที่ร่างกายทั้งสองเท่านั้นถึงจะรู้

                    “ชานยอล...รัก... พี่รักเรานะ” คริสกระซิบเสียงหอบสะท้าน... ขณะกอดตระกองร่างสูงโปร่งที่ผอมจนเขากลัวเหลือเกินว่าจะแตกหักทุกครั้งที่ถูกสัมผัส   งดงาม หากเปราะบาง...ราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ

                    ทั้งร่างกาย... และความรู้สึก

                    “อื้อ...”

                    “เรารักกันนะ....  ห้ามลืมเด็ดขาด”

     

                    หัวใจของชานยอลเต้นถี่รัวเมื่อได้ยินประโยคนั้น แม้จะได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม

                    ทุกการกอด... จูบ หรือแม้กระทั่งทุกครั้งที่ถูกสัมผัส   คริสไม่เคยละเลยที่จะพูดคำนี้    

                 เรารักกัน... 

                   

                    คริสไม่เคยลืมที่จะสร้างความมั่นใจให้เขา

     

     

                    ชานยอลเอียงหน้าหนีริมฝีปากร้อนรุ่มทันทีที่ได้ยิน.... เครื่องหน้ากลมกลึงซุกลงบนหมอนใบโตพร้อมกับกัดริมฝีปากแน่น ... น้ำตาไหลออกจากดวงตาที่ปิดสนิท    พร้อมกับเสียงสะอื้นแรง 

                    “ฝัน...  ผมฝันร้าย”

                    “ชานยอล....”

                    “อย่าทิ้งผม... อย่าหายไปแบบเมื่อกี้”

                    คริสขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็ทำให้ร่างโปร่งบางที่กำลังขดตัวหนีอยู่เบื้องล่างหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา    ใบหน้าอาบชุ่มน้ำตาทำให้คนแก่กว่าส่ายหน้า   ริมฝีปากหนาประทับลงบนดวงตาร้อนผ่าวปิดลงทันที

                    “อย่ากลัว... พี่ไม่หนีไป”

     

     

                    ทว่า.... ทุกครั้งที่หลับตา  ความหวาดกลัวกลับครอบงำเขา...

    ครั้งแล้ว ครั้งเล่า

                    ภาพแผ่นหลังที่หายหลับไปต่อหน้า...และเสียงสะอื้นของตัวเอง...

     

                    “พี่สัญญา”            

                   

                    ชานยอลนึกโกรธตัวเอง... ขณะปล่อยให้คริสนำทางไปสู่หนทางอันว่างเปล่า  ร่างกายของเขาถูกนำพาไปด้วยสัมผัสอันลึกซึ้ง และเสียงที่หวิววาบ

     

                    อีกครั้ง...และอีกครั้งที่ได้แต่ร้องห้ามอยู่ในใจ

                   

                อย่าทำแบบนี้...

                อย่าทำ... เหมือนที่เขาคนนั้นเคยทำ

                ทั้งความรัก...และการจากลา

     

                                                   

     

                    หากการตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาดอีกครั้ง... ชานยอลคงไม่เหลือหัวใจแม้แต่เพียงส่วนเสี้ยวที่จะรักได้อีก

     

                ในเมื่อหัวใจของเขา... ถูกยกให้คริสไปหมดแล้ว

     

     
     

    -------------------------- 40 % -----------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×