ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Story in Ragnarok

    ลำดับตอนที่ #9 : นักเวทย์

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 46


    พ้นเขตที่มอนส์เตอร์สามารถรุกรานเข้ามาได้แล้วเหล่าคณะเดินทางก้าวย่างลงบนพื้นหินเย็นเฉียบของเมืองกิฟเฟ่น ทุกคนล้วนสัมผัสได้ถึงมนต์ขลังของที่นี่ ที่มีการใช้เวทย์มนต์เกิดขึ้นเกือบจะตลอดเวลา ถ้ามันจะเหลือตกค้างตามหินแต่ละก้อนที่เรียงรายเป็นถนนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แน่นอนเวลาที่พวกเขามาถึงนี่สินั่นก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บรรยากาศเป็นเช่นนี้เพราะ ชาวบ้าวชาวเมืองต่างก็เข้านอนกันหมดแล้ว ประตูบ้านหลังน้อยหลายหลังปิดสนิท แผงข้างถนนถูกพับเก็บอย่างเรียบร้อย กว่าจะหาที่พักกันเจอก็เล่นเอาเกือบจะเดินรอบเมืองเพราะไม่มีคนเหลือให้ถามทางแล้ว เมื่อก้าวเข้าโรงแรม ชั้นแรกส่วนที่ใช้สมัครเข้าการประลอง(PVP) ห้องถัดไปก็ที่ติดต่อ นิคเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ แล้วเคาะโต๊ะ พนักงานสาวที่นั่งหลับสะดุ้งตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของเธอ ตามปกติ

    เข้าห้องพักไป วาร์เนียด นิค นอนห้องหนึ่ง ส่วนคาบาน่า นาลี่ และทออาร์ท่านอนห้องเดียวกันที่มีแค่สองเตียง

    “เอาไงอ่ะ” นาลี่ถามพร้อมเกาหัว

    “ก็...”

    “ฉันนอนพื้นก็ได้” คาบาน่ากล่าวอย่างไม่ใส่ใจ แต่ทอร์อาท่าดูท่าทางเกรงใจนิดๆพยายามจะขัด

    “เธอไม่ต้องห่วงหรอก ยายนั่นทนจะตาย” นาลี่โยนผ้าคลุมเตียงให้คาบาน่าปูนอนบนพื้น

    “ฉันอยากทราบว่า ชมหรืออะไรกันแน่นาลี่” คาบาน่ารับผ้าคลุมเตียง ผ้าห่ม และหมอนจาก  ทออาร์ท่า

    “เลิก พูดแล้วนอนเหอะ” ทออาร์ท่าเอนตัวลงนอนแล้วหันหลังให้เพื่อน

    “จ้า” คาบาน่าและนาลี่ขานรับอย่างขำๆ

    “คุณนายหญิง ผู้น่ารัก” คาบาน่าพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันที่ได้ยินกันสองคนกับนาลี่

    “เธอไม่ชอบทออาร์ท่าเหรอ  เอ ไม่ใช่สิอาการอย่างนี้เรียกอิจฉาต่างหาก อืม...หรือว่า หึง นะ ฮ่าๆๆ”

    “นาลี่เธอจะบ้าเรอะ  ฉันจะไปคิดอย่างนั้นกับทอร์อาท่าทำไมล่ะ ถ้าหึงจริงฉัน...”  

    “เธอก็คงจะ กันวาร์เนียดไว้ตั้งนานแล้ว”  

    “เฮ้ย!!!!  นาลี่”

    …………………………………………………….



    นิกลุกจากที่นอนเขาหันไปมองวาร์เนียดที่ยังหลับอยู่เตียงข้างๆ เช้าแล้วแต่ยังไม่มีแสงแดดลอดผ่าน จากหนาต่างห้องมา นิครู้สึกว่าตัวเองน่าจะตื่นเป็นคนแรกก่อนที่เขาจะลงบันใดมาเจอคาบาน่าที่ยืนอยู่ และกำลังจะออกไปข้างนอก

    “คาบาน่า เธอจะไปไหน”

    “ก็ จะออกไปเดินเล่นข้างนอก...ทำไม มีอะไรเหรอ”

    “ตอนนี้เนี่ยนะ” เขามองออกไปข้างนอกผ่านหน้าต่างที่เปิดค้างไว้หมอกยังลงอยู่ และแสงแดดยังไม่มีด้วยซ้ำ

    “อือ...” คาบาน่าตอบและออกเดินพ้นจากประตู พบกับบรรยากาศอังเงียบสงบแห่งเมืองกิฟเฟ่น พ่อค้าแม่ค้าท้งหลายเริ่มออกมาตั้งร้านขายของหน้าดันเจี้ยน หอคอยสูงกลางเมือง คาบาน่าแวะซื้อ น้ำยาฟื้นพลังหลายขวด(Rad potion)และเดินออกนอกเมืองเพื่อไปตีมอนส์เตอร์ที่ต้องการ

    คาบาน่าหันมองไปรอบๆตัว โพริ่งสีชมพูสดโดดดึ๋งๆเข้ามาหา หนอนFreberหลายตัวคืบผ่านไปช้าๆ เสียงไม้ผุๆกระทบกันเกรียว เมื่อ Willowออกเดิน คาบาน่ายังไม่เห็นมอนส์เตอร์ที่เธอต้องการจะเจอมันเสียที จึงหันไปจัดการกับ Green Plantที่อยู่ข้างๆแก้เซ็ง ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการถอนต้นไม้เล่นนั่นเอง คาบาน่ามีความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง นิ่มๆที่ขา คาบาน่าก้มลงมองเห็น Ambemtie ตัวหนึ่ง เธอชักเท้าออก เจ้าหอยมึนไปชั่วขณะก่อนที่จะหันกลับมาโจมตี คาบาน่ากำดาบไว้แล้วฟาดลงเต็มแรงที่กลางหลังของมัน  Ambemtie หดหัวและลำตัวบางส่วนเข้าเปลือก แล้วพุ่งใส่เธอ เปลือกแข็งที่เหมือนกรงจักรรอบตัวซึ่งโผ่ลมาตอนไหนก็ไม่รู้แต่ก็สร้างความเสียหายให้ได้ไม่มากสำหรับเธอ เพียงชั่วครู่เจ้าหอยก็ถูกคาบาน่าจัดการเรียบร้อยและเพื่อนๆของมัน(ซึ่งให้ลเวลดีแต่ไม่มาก) ก็โดนเป็นรายต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่มากนักเพราะเพ่งจัดการไปได้ สี่ห้าตัวเอง คิดไปคิดมาหอยนี่ม่ค่อยเท่าไรเลยนะแต่คาบาน่าก็ต้องเก็บความคิดนี้ไว้คนเดียวเพราะ

    “ช่วยด้วยยยยยยยย” เมท สาววิ่งผ้าสะบัดมาแต่ไกล ( เมท Magician หรือนักเวทย์)

    เธอเข้าใช้คาบานาเป็นที่กำบัง มอนส์เตอร์ที่กำลังไล่ล่าเธออยู่

    “เฮ้ย” คาบาน่าออกจะงงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าเมทวิ่งหนีตัวอะไรมาอันตรายมากหรือ ปล่าวแต่เมื่อคาบาน่าเห็นก็แทบจะต้องกลั้นหัวเราะเพราะสิ่งที่เมทวิ่งหนีมาก็คือ หอยที่เธอตีอยู่นั่นเอง คาบาน่าไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากเอาดาบจิ้มๆมันนิดหน่อย เพราะมันโดนนักเวทย์ซัดมาแล้ว ตัวแรกผ่านไป

    “มีอีกตัวนะ” นักเวทย์ร้องบอก

    เมื่อเห็นสภาพมันเธอก็พอจะเดาได้ว่ามันโดนเวทย์อะไรเข้าไปเพราะเปลือกแข็งของมันมีสะเก็ดน้ำแข็งเกาะจับอยู่ทั่วตัวคาบาน่าเอาคาบาเคาะเพื่อให้เปลือกมันแตก Ambemtie ก็ตายแล้ว เธอหันไปมองเมทที่ยังหอบหายใจเพราะยังเหนื่อยและดูมีท่าทีตื่นๆอยู่นิดหน่อย

    “เป็นไงมั่ง”คาบาน่าหันไปถามเมท

    “ไม่อ่ะ วิ่งหนีทันดีนะมาเจอ....เอ่อ..ชื่ออะไรคะ”

    “ชื่อคาบาน่า”

    “ฉันแองเจล่านะ ขอบคุณที่ช่วยแล้วเธอบาดเจ็บอะไรตรงไหนบ้างป่ะ”

    “ไม่มีหรอก ”  ถึงคาบาน่าจะบอกไม่มีแต่แองเจล่าดันไปเห็นแผลที่ ได้จาก Cremyตรงขมับและพยายามชวนคาบาน่าไปทำแผลก่อน

      เธอคาบาน่าเดินกลับเข้าเมือง มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังเล็กๆกะทัดรัด เธอหายเข้าไปในบ้านสักพักแล้วกลับออกมาพร้อมอุปกรณ์ทำแผล

    “อยู่คนเดียวเหรอ” คาบาน่าชะโงกมองเข้าไปในบ้าน

    “อืม...เอ่อ..อันที่จริงก็ไม่เชิงหรอก”

    แองเจล่าถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดต่อ “ ฉันเคยอยู่กับพี่ชายแต่...” เธอยุดพูดไปเฉยๆมีท่าทีเมือนจะร้องไห้ เล่นเอาคาบาน่าต้องขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ที่ดันไปถามเรื่องส่วนตัว

    “ไม่เป็นหรอกน่ะ แล้วเธอล่ะมากับใคร”

    คาบาน่านึกถึงเรื่องเพื่อนของตัวเองขึ้นมาทันที สายจนตะวันโด่งแล้วป่านนี้พวกเขาคงตามหาเธอกันอยู่แล้วเพราะหายไปตั้งแต่เช้ามืดยังไม่โผ่ลไปให้เห็น

    “มากับเพื่อนตอนนี้ต้องไปตามหาแล้ว”

    “เดี๋ยวๆ มาเป็นอะไร Party(แชร์เลเวลมา)   กิล...” ( Guild กลุ่ม หรือสมาคมที่ก่อตั้งขึ้น)

    “ก็เป็นกิล คือกำลังจะตั้งกิลตอนนี้อยู่ในช่วงหาสมาชิกน่ะ เธอสนจะอยู่ด้วยรึเปล่าล่ะ”

    ……………………………………………………………………..



    “นิก มานี่หน่อย” นิกเดินมาหานาลี่ พลางช่วยเลือกซื้อBlue Gemstone (หินที่อโคใช้เปิดวาร์ป)

    วาร์เนียดกับทออาร์ท่า ดูคทา ซึ่งเป็นอาวุธของเมท

    “คาบาน่า.... หายไปไหนมาปล่อยให้ตามหาให้... เฮ้...แล้วนั่นไปโดนอะไรมาอีกล่ะโอย...เธอนี่นะ”

    “นาลี่เลิกบ่นได้ไหมคะ คาบาน่ากลับมาอยู่ตรงนี้แล้วค่ะ แผลบนหัวนั่นก็ตั้งแต่โดนCremy เฉี่ยวแล้ว ไม่มีใครเห็น” คาบาน่าพูดกระชากเสียงนิดๆ ทำให้นาลี่เปลี่ยนสีหน้าไปจากเดิม

    “อ้าว คาบาน่าหายไปไหนมา”

    “นี่ ฉันหาคนเข้ากลุ่มได้อีกคนแล้วนะเป็นเมท......” คาบาน่าแนะนำแองเจล่ากับทุกคน

    “ว่าแต่นายหาหินกิลได้รึยัง”(การจะตั้ง กิลขึ้นนั้นจะต้องมี ไอเท็มเป็นหินชนิดหนึ่ง)

    “ก็ได้แล้วอ่ะ ได้ตอนอยู่ที่Pronteera ”

    “ตกลงว่าไงล่ะ”

    “ก็จะยังไงล่ะ ฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วนิ ส่วนคนอื่นถ้านิคน่ะเหรอ  โห เห็นเป็นผู้หญิงก็เอาหมดแหละ(ประโยคนี้นิคหันขวับ) นาลี่เธอก็บอกแล้ว เหลือแต่”

    “ทออาร์ท่า.... แล้วเธอล่ะว่าไง” คาบาน่าหันไปหาทออาร์ท่า

    “อ้าว ก็แล้วไงล่ะพวกเธอก็มีอำนาจสิทธิขาดกันอยู่แล้วนี่ วาร์เนียดก้หัวหน้ากิลแล้วเธอก็...”

    “ขอโทษ ทออาร์ท่าฉันถามเธอดีๆนะ”

    “เออ ฉันรู้แล้ว” ทออาร์ท่าเดินกระแทกเท้าจากไปอย่างไม่ใยดี กริยาเช่นนี้สร้างความพิศวงงงงวยให้กับทุกคน คาบาน่าถอนหายใจอย่างเซ็งๆแล้วออกเดิน วาร์เนียดคว้าแขนเธอไว้ คาบาน่าเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอสะบัดแขนออกอย่างแรงแล้วเดินออกจากร้านไป นาลี่และแองเจล่าวิ่งตามไป

    “ทะเลาะอะไรกัน” นาลี่ถาม

    “ไม่มีอะไร ฉันไม่รู้” คาบาน่าพยายามจะหลบสายตานาลี่

    “อ้อ เกือบลืมแน่ะ แองเจล่าเธอกลับไปคุยกับวาร์เนียดเองก็แล้วกันนะ”

    “งั้น ฉันไปก่อนนะ” แองเจล่ารับคำแล้วเดินย้อนกลับไป

    ............................................................................



    “เป็นอะไรกันเนี่ย”นิก พึมพำเบาๆ

    “ไม่รู้สิ อย่างนายเรื่องผู้หญิงรู้ดีไม่ใช่เหรอ” วาร์เนียดย้อน

    “เออ ไม่รู้ ไม่อยากเดาหรอกแต่ดูท่าทางแล้ว สองคนนั้นโกรธกันมาเรื่องอื่นอ่ะ นายคิดแบบนั้นรึปล่าววาร์เนียด”

    “วาร์เนียด” เสียงของแองเจล่าดังขึ้น

    “อ้าว เมทที่จะมาขออยู่กลุ่มเหรอ” นิคจำได้ในทันที  

    “อืมก็ใช่อ่ะ”

    “นี่ เธอ เมทเมื่อกี้ใช่ป่ะ” ทออาร์ท่าเดินตรงเข้ามาหา แองเจล่าไม่ได้ตอบอะไร

    “คาบาน่าอยู่ไหน...ฉันรู้นะว่าเธอรู้” เธอคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้

    ...........................................................



    “นี่ เมื่อไรเธอจะหยุดเดินเสียที” นาลี่เอ่ยถามเพื่อนอย่างหมดความอดทนซึ่งก็ไม่ต่างกันกับก่อนหน้านี้ที่เธอบ่นไม่เลิกมาตลอดทาง

    “อยากจะกลับ ก็ไปก่อนเหอะ ไม่ต้องตามฉันก็ได้” คาบาน่าพูดตัดความรำคาญ แต่นาลี่ทำอย่างนั้นจริงๆเธอเดินกลับไปอย่างไม่แยแส ซึ่งก็เป็นการดีต่อคาบาน่ามากเพราะไม่อยากทนฟังนาลี่บ่นและไม่ต้องการให้เพื่อนมาลำบากด้วยเธอมุ่งหน้าเดินตัดตรงผ่ากลางเมืองออกไปตีมอนส์เตอร์ข้างนอก ทันทีที่ขาจะก้าวพ้นประตูเธอก็ต้องหันกลับมา

    “เดี๋ยวก่อน คาบาน่าฉันอยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง” ทอร์อาท่าที่วิ่งตามมาหอบแฮ่ก

         “ เรื่องอะไร”  

    “เธอหนีฉันออกมาทำไม..คาบาน่า”

    “ก็เห็นบรรยากาศมันไม่ค่อยดีไม่อยากมีเรื่อง”  

    “กวนนะเธอ” ทอร์อาท่ากระชากเสียง

    “เอ้า เธอจะเอายังไงกันแน่ดีๆหน่อยนะเธอเองนะเป็นคนที่แสดงกริยาแบบนั้นใส่ฉัน คืออันที่จริงฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าทำไมเธอต้องทำอย่างนั้นด้วย” คาบาน่ายังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย

    “ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตวาดเธออย่างงั้น เข้าเรื่องแล้วกัน...เธอไม่ได้เป็นแฟนกับวาร์เนียดใช่ป่ะ” ทอร์อาท่ากลั้นใจพูดออกมา

    คาบาน่านิ่งอึ้งไปชั่วขณะ “เปล่า เราแค่เป็นเพื่อนกันเฉยๆเธอมีอะไรเหรอ”  

    “เอ่อ...คือว่า...”

    “ถ้างั้น...ฉันตอบว่าเปล่าหรอกไม่ได้เป็นแฟนแต่แค่เล็งไว้เธอจะว่าไง...ทออาร์ท่า” คาบาน่าลงพูดแหย่เล่นๆ

    “อ้องั้นหรือ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง.เธอก็คงจะต้อง... แย่งกับฉันแล้วล่ะ!!!!!!!”



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×