ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ถึงแล้วววววว
          Picky(มอนส์เตอร์มีลักษณะเป็นนกขนาดเล็ก)หลายตัว อยอกล้อกันอย่างสนุกสนานบนพื้นทราย ตามประสาลูกสัตว์ ท่ามกลางแสงจันทร์ในยามค่ำคืน ดวงจันทร์ขึ้นในตำแหน่งสูงสุดบ่งบอกว่านี่คือเวลาเที่ยง(คืน) พอดี เป๊ะ แต่เจ้านกน้อยทั้งหลายก็ยังไม่ใสใจที่จะพักผ่อน มันยังคงกระโดดโลดเต้น ไซ้รขนให้กันและในจังหวะนั้นมันก็ถือโอกาสดึงขนของตัวอื่นด้วย Pickyตัวน้อยงับที่หางของเพื่อนแล้วออกแรงดึงเต็มที่จนขนหางหลุดออกมา ตามมาด้วยเสียงร้องอย่างสนุกสนาน ของตัวที่วิ่งไล่จับมัน มันออกวิ่งหนีไปเรื่อย จนห่างจากฝูง นกน้อยจนมุมกับบางสิ่งบางอย่าง มันใช้ขายันตัวกับสิ่งนั้นเต็มแรง
      “โอ๊ย”  คาบาน่าเอามือลูบหัวตัวเองเบาๆ  รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดันที่หัว
            เธอขยับตัวหาที่ที่เคยหนุนอย่างงัวเงีย โดยที่ตาไม่ได้ลืม จนพบ แล้วค่อยๆวางหัวลงไป หลับต่อจนถึงเช้า
         
              ปั๊ก                     
        “ เอ๊ย นายเตะฉันทำไมปลุกดีๆก็ได้ ” คาบาน่าลุกพรวด จ้องมองวาร์เนียดที่ยืนกุมแขนข้างขวาอยู่   
      “ ก็ปลุกไม่ตื่นนี่ คนอะไรขี้เซาชะมัด ”
        “ แล้วทำไมไม่ใช้มือล่ะ” คาบาน่าเริ่มโมโหนิดๆ
              “ รู้ตัวรึเปล่าเมื่อคืนเธอทำอะไรลงไป” วาร์เนียดตวาดเธอกลับ 
              “ ทะ ทำ อะไร” เธอตอบงงๆ หน้าซีดคิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา
            “เธอนอนทับแขนฉันทั้งคืนเลย มันไม่ตลกเลยนะ”
            “ เหรอ ฉะ ฉันไม่รู้ก็คิดว่ามันเป็น เอ่อ... ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ”
            “ ฉันรู้เธอไม่ได้ ตั้งใจแต่อยากบอกว่า..โอย” เขาหันกลับไปบีบแขนตัวเองอีกครั้ง
        คาบาน่าก้มหน้าอย่างสำนึกผิดพลางนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็มันช่วยไม่ได้นี่ คนกำลังง่วงอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับวาร์เนียดที่มีสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ 
              “เฮ้อออ”  ทั้งคู่ถอนหายใจพร้อมกันแล้วหัวเราะออกมาแบบสุดกลั้น ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่
              “ ขำอะไร” วาร์เนียดถามคาบาน่าอย่างงงๆ
“ก็ฉันเห็นนายหัวเราะนิ ฉันก็เลยขำ”
  “ อ้อเหรอฉันขำเธอเห็นทำหน้า...” เขาพูดแล้วหัวเราะต่อ
“หน้าฉันมันตลกหรือไง ” 
“ ก็เปล่า แต่ฉันเห็นเธอทำหน้าเหมือน ทำความผิดร้ายแรงขนาดนั้น ฉันก็เลย...หายโกรธเธอแล้วล่ะ”
คาบาน่าลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับวาร์เนียด เธอหยิบเป้ขึ้นสะพายหลัง ทำท่าบิดขี้เกียจหนึ่งที ก่อนออกเดินนำหน้าเขาไป
วาร์เนียดมองตามเธอไป เขาส่ายหน้าน้อยๆ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย แต่เขาก็รู้สึกถูกชะตากับเธอขึ้นมาอย่างประหลาด  ไม่งั้นก็คงไม่เข้าไปทำให้เธอรอดพ้นจากมอนส์เตอร์เป็นแน่  ที่เป็นเช่นนี้ คงเพราะการที่ได้ช่วยเธอหรือปล่าวก็ไม่รู้
คาบาน่าหยุดหันกลับมามอง พร้อมพยักเพยิดให้เขาเดิมตามมา ด้วนท่าทีอันสดใสร่าเริ่งที่ไม่ได้ปฏิบัติมานาน ความรู้สึกหมดกำลังใจและรู้สึกไร้ที่พึ่งหายไป เหลือแต่เพียงอนาคตอันมีความหมายข้างหน้า เหตุใดผู้ชายคนนี้จึงดึงเอาความแข้มแข็งที่เกือบจะหายไปจากชีวิตเธอออกมาได้ ไม่แน่ความคิดในตอนนี้อาจเป็นเพียงแค่เพราะเขาเป็นคนผ่านมาแล้วให้การช่วยเหลือเธอเพียงช่วงสั้นๆก็ได้
“ฮัดเช้ย” คาบาน่าจามออกมาแรงๆเนื่องจากเดินเตะทรายเข้าจมูกตัวเอง
วาร์เนียด ยืมมีดของคาบาน่า เอาไปจิ้มๆที่ตัวDrop หลายตัวเพื่อหลอกล่อให้มันตามมา แล้วบอกให้    คาบาน่าจัดการ ต่อการทำแบบนี้จะช่วยให้เลเวลเพิ่มขึ้น ใช่เลยมันดีมาก แถมเขายังเสียสละให้เธอเก็บItemอีกต่างหาก(เพราะมันล้นแล้วไม่มีที่เก็บ) เธอสู้กับDropตัวสุดท้ายที่วาร์เนียดลากมาให้จนเสร็จ แล้วลงนั่งหอบ เพราะเขาเล่นลากมาให้ตั้ง เกือบสิบตัว แถมเขายังบอกอีกว่าใกล้ๆ Izludeแล้วเขาจะลากRocker(เป็นตั๊กแตนตัวใหญ่ๆ) เพราะมันทำให้เลเวลเพิ่มขึ้นดีมาก (โอย) พอหายเหนื่อยก็เดินกันต่อ ผ่านภูเขาหลายแห่ง หินหลายก้อนจากทรายก็เริ่มเป็นดินแข็งขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เป็น
“หญ้า” คาบาน่าตะโกนขึ้นมาด้วยความดีใจ เพราะอีกนิดเดียวจะถึงที่หมายปลายทาง เธอกระโดดด้วยความลิงโลด ซะจน วาร์เนียดหน้าแดงต้องหันหน้าหลบด้วยความอับอายจากสายตาคนรอบข้าง แล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก คาบาน่าเข้าใจดี เธอก็แสร้งทำเป็นเดินห่างๆกับเขา พอลับตาจากฝูงชนก็กลับเข้ามาหาเหมือนเดิม 
ตัวLunatic(กระต่ายขนยาวสีขาว)กระโดดเข้ามาหาทั้งคู่อย่างสงสัยใคร่รู้ วาร์เนียดเงื้อดาบจะฟันแล้วแต่      คาบาน่าห้ามไว้ เธออุ้มเจ้าLunaticตัวน้อยๆขึ้นมาอย่างเอ็นดู  มันน่ารักมากสำหรับเธอ เมื่อเธอวางมันลง แล้วออกเดินต่อมันก็คงยังตามมาเรื่อยๆ คลอเคลียคนทั้งสองอยู่ตลอด วาร์เนียดเกือบหมดความอดทนไล่กระทืบมันหลายที  อย่างว่าล่ะนะมันก็รี่ไปหลบอยู่กับคาบาน่า  แล้วทำท่าออดอ้อนสุดชีวิต  เธอรู้สึกขำมากเมื่อเห็นกริยาของทั้งคนและสัตว์ ตอนที่วาร์เนียดพยายามจะเหยียบมัน(คาบาน่ายึดดาบเอาไว้) ด้วยความหมั่นไส้ปนรำคาญ ที่มันมาเกาะแข้งเกาะขาเขา จนถึงทางที่เป็นเนินขึ้นมา มีคลองกั้นถัดไปคือสะพานข้ามเข้าเมือง Lunatic ชะงักกึกมันรู้ว่าเข้าเมืองไม่ได้  วาร์เนียดแลบลิ้นให้มันอย่างสะใจ มันส่งเสียงร้องเล็กๆของมันด้วยความโมโหและคับแค้นใจ มันกระโดดกัดเขา แต่วาร์เนียดก็ใช้มุขเดียวกับมันคือวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังคาบาน่า
“โว้ย กัดกันมาตลอดทางเลยนะ” Lunatic ยั่งขู่แง่งๆ อยู่ในขณะที่วาร์เนียด ทำท่าเย้ยหยันมันข้ามไหลเธอ
“เอาล่ะ พอๆ วาร์เนียดอยู่นึ่งๆก่อนฉันเวียนหัว เธอด้วยหยุดขู่ซักทีเดี๋ยวก็ไม่เลี้ยงซะหรอก” กระต่ายตัวน้อยหยุดขู่วาร์เนียด คาบาน่านั่งยองๆมันปีนขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของเธอ
“ฉันไม่ ทิ้งเจ้าไว้โดดเดี่ยวหรอกนะ” เธอเอาขนนกสีขาวเส้นหนึ่งมาเหนบไว้ที่ ระหว่างหูของมัน แล้วเอาขนเส้นยาวๆของมันผูกกับก้านขนนกเอาไว้
กระต่ายน้อยเหลือบมองขึ้นบนหัวมันอย่างประหลาดใจแล้วสะบัดหัวให้มันเข้าที่ 
วาร์เนียดทำหน้าเหยๆ
    “เอ่อ...คือ... ใช้ชั่วคราวไปก่อนน่ะนะเอาไว้ฉัน...”
    “มีตังค์เมื่อไหร่” เขาต่อให้
      Lunatic ส่งเสียงให้คาบาน่าและขู่แควกๆให้วาร์เนียดเป็นการอำลา
    “ พิลึกง่ะ เธอคิดได้ไงเนี่ยเอาขนนกไปใส่ให้ Lunatic”เขาดูมองมันค่อยๆจากๆไป
    “เขาเรียกคนมี ความคิดสร้างสรรค์ ต่างหากล่ะ”  เธอพูดพร้อมกับดันให้เขาเดินข้ามสะพานเพื่อเข้าสู่เมือง Izlude
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น