Love Story in Ragnarok

ลำดับตอนที่ #12 : Posion Spore and Farmiliar(4.0)

ดันเจี้ยนของหอคอยกลางเมืองกิฟเฟ่นยังเต็มไปด้วยนักดาบมากมายที่เข้ามาพิชิดเหล่ามอนสเตอร์ ทั้งหลายที่มักจะกระจุกกันอยู่เป็นฝูงอย่างหนาแน่นดักซุ่มรอคอยหาจังหวะเข้าโจมตี

“นายแน่ในนะว่าตานั่นจะมานี่”ทออาร์ท่ากล่าวอย่างเหยียดๆ

“ไม่รู้ล่ะแต่อย่างน้อยก็เห็นเขาเกริ่นๆอยู่เมื่อคืนนั่นหละ ใครจะไปรู้” นิคตอบกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก

ทออาร์ท่า มีสีหน้าไม่พอใจกับคำตอบของโนวิทชายอย่างแรง ปากคอสั่นระริกแต่คิดหาคำโต้ตอบไม่ได้ แน่นอนเธอไม่อยากเสียเวลาปล่าว ในการมาที่นี่ แต่ก่อนที่ นักดาบสาวจะได้กล่าวอะไรเธอก้ได้ยินเสียงร่ายเวทย์

แองเจล่ากำลังร่ายน้ำแข็งเล็งไปที่เป้าหมายอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่เวทย์ก็ต้องชะงักลง

ปั๊ก

“แองเจล่า” นาลี่กรีดเสียงเมื่อเห็นเพื่อนสาวล้มลงไปต่อหน้า จากแรงกระแทกของมอนสเตอร์เห็ด      ทออาร์ท่าตวัดดาบตัดลงกลางลำตัวของมัน

แองเจล่าลุกขึ้นมาปัดเนื้อตัวทุกๆคนเริ่มเขยิบเข้ามาชิดกันมากขึ้น

“แค่เนี้ยเองกลัวเหรอ” เสียงใครคนใดคนหนึ่งพูด

สิ่งที่ทุกคนเห็นคือ นักฆ่าชาย(Assassin/แอสซาซิน)คนหนึ่ง  รอยยิ้มอันน่ารังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ยังไงก็ไม่ได้มาดีแน่ๆ เบื้องหลังมีมอนสเตอร์มากมายที่กำลังรุมโจมตีเขาอย่างเมามันแต่เขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย

“แหม...อ่อนกันจังเลยนะพวกหนูๆ มันต้องเจอแบบนี้”

“Hiding”(เป็นความสามารถมุดดินของนักฆ่า)

แอสซาซินผู้นั้นหายตัวไปเพียงชั่วพริบตา มอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหลังแห่แหนกันเข้ามาหาพวกเขา แองเจล่าดูเหมือนจะโดนหนักที่สุดเธอใช้มีดที่ติดตัวมาป้องกันตัวเอง

“Heal!! Heal!!”

นาลี่พยายามช่วยเพิ่มพลังให้ทุกคนอย่างเต็มความสามารถ เธอเองก็โดนหนักไม่แพ้กัน เธอใช้กระบองของอโคไลท์ฟาดใส่ค้างคาวที่รุมอยู่รอบตัว

“โอ้ย มองไม่เห็นอะไรเลย” แองเจล่าทรุดตัวลงกับพื้น มือยังปัดค้างคาวที่รุมจิกอยู่ นาลี่รีบวิ่งเข้าไปดูอย่างรวดเร็ว

“ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย ทำไมมันมืด...” แองเจล่าพูดซ้ำอีก

“ช่วยด้วยยยยยย” นิคร้องลั่นเพราะค้างคาวทั้งหลายเริ่มถาโถมเข้ามาจะแทบจะชนให้ล้มกลิ้งได้

Heal!

นิคใช้ Trick Dead (ท่าแกล้งตาย)เร็วเข้า

นาลี่หันไปหาทออาร์ท่าที่ยืนหยัดสู้อยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยสู้ดีนักแต่เธอก็เป็นคนที่โดนโจมตีเบาที่สุด

“กรี๊ดดดด” นักดาบสาวล้มลงจากแรงกระแทกของเห็ดม่วง(เป็นมอนสเตอร์เห็ดกระโดดดึ๋งๆได้ มีตา  มีปาก มีลิ้น มีฟัน อี๋ๆๆ) เธอมองอย่างตืนตระหนกกับสัตว์ประหลาดมากมายที่อยู่รอบตัว

สวบ

ทออาร์ท่าเสียบดาบเข้ากลางหน้าเห็ดที่กระโดดเข้ามาหา นาลี่พยายามช่วยอีกครั้งอย่างไม่สะดวกเพราะเธอมีแองเจล่าที่สลบอยู่บนตัก เห็ดสีม่วงกับค้างคา-วยังทยอยมาเรื่อยๆ

“ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ” นาลี่พูดอย่างอ่อนแรง เธอมีท่าทีจะสลบลงไปอีกคน

“อย่านะนาลี่ อย่าเพิ่งหลบแล้วใครจะฮิลให้ฉันได้ล่ะ” ทออาร์ท่าบอกด้วยเสียงสั่นๆ ในขนาดที่เธอจับดาบฟาดฟันกับศัตรูจำนวนมาก

อั๊ก

เห็ดม่วงตรงเข้ากระแทกกับทออาร์ท่าเต็มแรง หัวเกิดหนักอึ้งขึ้นมาเฉยกับสายตาที่เริ่มพร่ามัว  ขาสั่นระริก เธอค่อยๆทรุดตัวลง

“ทออาร์ท่า” นาลี่ตะโกนเรียก แต่ก็ไร้ความหมายตอนนี้โสตประสาทของทออาร์ท่าไม่สามารถรับรู้สิ่งใดได้เลย

Magnum break !!!

เกิดวงแหวนไฟฟขนาดกว้างปะทะเข้ากับมอนส์เตอร์เห็ดพิษสีม่วงจำนวนมากที่รายล้อมอยู่ ใครบางคนคว้าขอ้มือของทออาร์ท่าที่จวนเจียนจะสลบ นักดาบสาวลุกขึ้นได้ นาลี่พยุ่งแองเจล่าที่สลบไปแล้ว นิคถอนตัวออกจากท่าแกล้งตายแล้วลุกขึ้นวิ่งสุดชีวิตไปที่ประตูทางออกซึ่งอยู่ไม่ไกล เมื่อฉุดกระชากลากถูกันจนออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว นาลี่ที่เป็นคนรู้สึกตัวดีที่สุดกำลังจะหันไปหาคนที่ช่วยพาลากออกมาจากดันเจี้ยนสุดโหดนั่นแต่เธอก็ต้องชะงัก และเปลี่ยนความคิดทันที

“เข้า-ไป-ทำ-ไม” วาร์เนียดเอ่ยน้ำเสียงขุ่นๆกับทุกคนอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ถามมาได้ก็เข้าไปหานายนั่นแหละ” นาลี่ตอบกระชากเสียง วาร์เนียดไม่มีถ้าทีจะโกรธเคืองหรือแสดงกริยาไม่ดีโต้ตอบกับเธอ แต่เขากลับหันไปทางด้านโนวิทชายที่นั่งหอบบนพื้นเนื่องจากเหนื่อยเพราะต้องออกแรงวิ่ง เขามองนิคที่เบือนสายตาเพื่อหลบจากการจ้องมองของเขา นิครู้ดีว่าวาร์เนียดคงจะไม่ถามอะไรจากเขาที่เป็นข้อความหรือประโยคสั้นๆเป็นแน่ แต่เขาคิดผิดเพราะสีหน้าของวาร์เนียดนั้นเรียบเฉย ก่อนที่จะหันหลังให้แล้วออกเดินนำหน้าไปโดยไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงอะไรกับใครอีกต่อไป