ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บไอเทมต้องห้าม

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอน2

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 57


     
    บทที่ 1 ทะเลของเหล่าวิญญาณผู้เยาว์วัย

    คิดว่าตื่นขึ้นมาอีกทีจะอยู่บนเตียงนุ่มๆ

    ความจริงแล้ว นอนอยู่บนผืนทราย

    แสงแดดจ้าส่องลงมาทำให้รู้สึกร่างกายร้อน

    มีเสียงคลื่นกระทบฝั่งแบบนี้ คือทะเลแน่นอน

    ภาพที่เห็นคือท้องฟ้าแสนกว้างใหญ่

    เหมือนสีนัยน์ตาของเพื่อนที่ไม่คิดว่าจะทำแบบนั้นกับพวกเค้า

    ทั้งที่ไม่ความคิดที่จะแค้นกันและกันใดๆเลย

    เธอคนนั้น ผลักเค้าและเพื่อนที่ชอบแต่งกายเน้นสีดำ (ทั้งๆที่ตอนนี้คือฤดูร้อนแล้วแท้ๆ)

    ผลักตกลงไป

    ในเหวทะเลที่หนาวเหน็บ

    หยดน้ำกระเซ็นสาดใบหน้าของฉันจนเปียก

     
    "แผล่บๆ"

    "เอ๊?" แก้มสีเนื้อขาวนวลโดยเลียโดยหมาสีน้ำตาลอ่อน แววตาลุกวาย อ้าปากฉีกเหมือนยิ้ม แลบลิ้นออกมา สะบัดหางไปมาชวนให้เธอต้องลุกขึ้นมา ก่อนที่นึกได้ว่าต้องไปปลุกเพื่อนคนข้างๆ ที่นอนสลบสไลอยู่

    "ไอริณ! ไอริณ!" เบลเขย่าตัวเธอให้ตื่น

    "อือ...เบล..."

    พอเธอได้ลองสัมผัสหน้าผากของไอริณ เธอรู้สึกได้ถึงอุณภูมิที่ร้อนผิดปกติบนหน้าผากของเธอ
    ทำให้เธอจึงกับเบิกตาโพลง

    "อินุ๊ก! อินุ๊ก!" เจ้าของเสียงแต่ไกลวิ่งมาหา เจ้าสุนัขตัวดังกล่าวเห็นเจ้าของเสียงที่ตะโกน วิ่งไปหาเธอคนนั้น
    ซึ่งเจ้าของเสียงคนี้คือเจ้าของหมาตัวนี้นั่นเอง

    "โฮ่ย..อินุ๊กมาวิ่ง ทำอะไรตรงนี้ล่ะเนี่ย!" หมาตัวนั้นได้ไปนัวเนียทำความเคารพประสาของมันเสร็จ มันงับ
    แขนเสื้อกิโมโนสีขาวผู้เป็นเจ้าของมาหาพวกเบล

    "นั่นพวกเธอ..."

     
    ..................
    ............
    ......

    เบลนั่งดูไอริณที่ตอนนี้อยู่ในชุดกิโมโนสีขาวแค่นั้น นอนเหงื่อโซมบนผ้าปูที่นอน หลับในผ้าห่ม มองด้วยสายตาที่ดูเป็นห่วงเพื่อนอย่างยิ่ง

    "ก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ แต่ท่าทางเจ้าเด็กสวมหมวกที่นอนหงายอยู่ตรงนั้นน่ะ
    เป็นไข้แน่นอน แต่ฉันไม่มียาลดไข้อะไรหรอก" เจ้าของสุนัขคนดังกล่าวพูดพลางบิดผ้าน้ำสะอาด
    แล้วแปะไปตรงกลางหน้าผากของคนไข้เสร็จ เธอลุกเดินถือถังไม้มีน้ำอยู่ในนั้น ก่อนออกจากห้อง เธอรู้สึก
    เหมือนมีใครจ้องมองเธอ เมื่อเธอหันไปดู พบว่าไม่ผิดคาด เบลมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เธอเห็นดังนั้นจึงยิ้มพูดไป

    "ฮ่าๆ คงงงล่ะสิท่า การแต่งกายของฉัน มันดูแปลกๆไปอย่างนั้นสินะ ฉันคือมิโกะในศาลเจ้าแห่งนี้ ไม่ต้องแปลกใจอะไรหรอก อารยธรรมชาวตะวันออกสมัยนี้มันแทบไม่มีแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้เขาไม่สนใจหนีขึ้นข้างบนกันไปหมดแล้วล่ะ"

    "เปล่า" เบลตอบ

    "หืม?"

    "ฉันเพิ่งเคยเห็นคนหน้าตาแบบตะวันออกนอกจากไอริณเท่านั้นล่ะ"

    "เอ๊?" เธอฟังได้นั้นจึงหอบถังน้ำเดินกลับมาดูหน้าของไอริณให้ชัดๆ

    "ถ้าดูดีๆ หน้าเหมือนคนตะวันออกเหมือนฉันเลย คิดว่าผมขาวแบบนี้เป็นพวกคนตะวันตกเสียอีก"
    เธอดูให้แน่ใจแล้ว เลยจับหูหิ้วถังน้ำเดินออกไปพร้อมตะโกนบอกพวกเบล

    "เดี๋ยว ฉันจะให้แผนที่ไปร้านยาที่นั่นให้นะ"

    สิ้นเสียงเอ่ยดังกล่าว เบลนั่งเฝ้าไข้ ดูแลไอริณเงียบๆ ในหัวตอนนี้คือเรื่อเมื่อวานที่ไม่อยากจะนึกมัน
    แต่ยังตราตรึงอยู่ในใจ

    หนึ่งในเพื่อนที่เคยสนิทไปไหนมาไหนมาตลอดของเธอ นับตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เธอคนนั้นมีนิสัยอ่อนโยน
    เรียบร้อย มีเมตตา ทำเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าเธอจะทำ การผลักพวกเธอลงเหวตกทะเลไป คิดตอนนี้แล้วยังช็อกไม่หาย 

    "ลูเซีย..." ไอริณครางละเมอถึงชื่อเพื่อนคนนั้น

    เห็นแบบนี้แล้ว เบลน้ำตาคลอ จะกลั้นยังไงก็กลั้นไว้ไม่อยู่ เรื่องแบบนี้..

    ครืด.. เสียงบานประตูเลือนเปิด ปรากฏหญิงสาวอีกคนจากการแต่งกายแล้วเหมือนมิโกะคนนั้นแต่ไม่ใช่
    มิโกะคนดังกล่าว

    "เธอวานให้ฉันส่งนี่มาให้เธอน่ะ" หญิงสาวยื่นกระดาษดูเก่าๆ มาให้เบล เธอรับมันมา ในเนื้อหากระดาษ
    เป็นแผนผังอะไรสักอย่าง

    "แผนที่นี่นา" เบลเห็นดังนั้นจึงเก็บแผนที่ไว้ในกระเป๋าเสื้อข้างใน แล้วประคองไอริณที่ยังหลับไข้ซมออกไป
    พร้อมกล่าวขอบคุณหญิงสาวคนนั้นก่อนจะวิ่งพยุงไอริณไปตามทางของแผนที่

    "ระวังตัวด้วยล่ะ" หญิงสาวกล่าวอวยพรด้วยเสียงเรียบ

     
    ..........
    ......
    ...
     


    ตามทางในแผนที่เดินทางศาลเจ้าเมื้อกี้ไปตามทางให้ผ่านสัญลักษณ์อันโดนเด่นในแต่ละพื้นที่ ผ่านให้หมด
    แล้วจะได้ถึงร้านยาแห่งนั้น เบลสรุปแบบนั้นจึงวิ่งประคองคนไข้ไปตามเส้นทางที่แผนที่กำหนดไว้

    และเพียงไม่ถึงชั่วโมง

    "ถึงแล้ว!" เบลร้องดีใจ ในที่สุดก็ถึงที่หมายเสียที เธอหอบเพื่อนเข้าไปในร้านยาแห่งนั้น

    สองมือเหี่ยวย่นสีคล้ำ กลับผลักพวกเธอไป จากความมืดในร้าน หลังทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ปรากฏหญิงชราหน้าตาน่ากลัว ดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีดำ ปากยิ้มด้วยน้ำสีแดง น่าสยดสยอง เบลขนลุกทันทีที่ได้เห็นเธอค่อยๆถอยไปด้วยความกลัว

    "คุณยายทำอะไรคะเนี่ย!" หญิงสาวออกมาในบ้านพาตัวคุณยายคนนั้นเข้าไปในห้องพร้อมสั่งเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งน่าจะอายุพอกับเบล

    "แครอไลน์ เธอไปช่วยพาเขาเข้าไปในบ้านก่อนนะ" พูดเสร็จเธอรีบพาคุณยายเข้าไปในห้อง ส่วนแครอไลน์
    ทำตามคำสั่ง พาพวกเบลมาที่ห้องรับแขก เบลวางตัวไอริณบนโซฟา แล้วคอยดูอาการของเธอรอต่อไป

    "เป็นไข้สินะ" จากนั้นหญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาดูสถาพร่างกายของไอริณ

    "ค่ะ" เบลตอบ

    "เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง ท่าทางไม่ได้ทานข้าวเช้ามานะ ฉันชื่ออิซาเบล ยินดีที่ได้รู้จักนะ" เธอกล่าวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม

    "เบลค่ะ" เบลแนะนำตัวเองตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

    "ไปที่ห้องอาหารเถอะ ฉันให้เด็กคนนั้นไปทำอาหารรอไว้แล้ว" อิซาเบลชี้ไปที่ห้องนั้น

    "ค่ะ" เบลยิ้มรับ แล้วไปที่ห้องอาหารทันที

     
    ..............
    ........
    .....

    ในห้องอาหาร แน่นอนก็มีวัตถุดิบนานาชิด อย่างผัก เนื้อ สารพัดในห้องนั้น แครอไลน์ เด็กสาวกับผม
    สีบลอนด์ ทรงหางเปียต่ำไว้ด้านข้างๆ นัยน์ตาสีฟ้าเหมือนท้องนภา มองที่เขียงจับมีดหั่นวัตถุดิบด้วยความตั้งใจ เธอสวมชุดเดรสวันพีชสีขาว มีผ้าผูกเป็นผ้าพันคอสีแดงแบบคาวบอย และรองเท้าบูทหนังสีน้ำตาล เบลเห็นแบบนี้แล้วจึงอดชมเธอไม่ได้

    "เท่จัง.." เบลคิดในใจ นั่งรอบนโต๊ะอาหารมองเธอด้วยตาลุกวาว แครอไลน์เหลือบมองเบลไม่มีอารมณ์ใดๆแล้วสายตาก็มาจ้องอยู่กับสิ่งทำอยู่เหมือนเดิม

    "แซนวิช ข้าวผัด อยากจะทานอะไร" แครอไลน์ถามเสียงดูไร้อารมณ์พลางหั่นวัตถุดิบ

    "อะไรก็ได้"

    "งั้นก็ ข้าวผัดแล้วกันนะ" แครอไลน์เลือกให้แล้วเดินไปหยิบของในตู้กับข้างที่อยู่ข้างกับเตาครัว

    "นี่...เธอน่ะ" เบลพยายามหาเรื่องคุย

    "อะไร"

    "เธอเท่จัง"

    "ขอบคุณ" เสียงตอบกลับนั้นช่างไร้อารมณ์เสีย เบลเห็นดังกล่าวจึงทำหน้าครุ่นคิดสักพักแล้วยิ้มถาม

    "ว่าแต่พ่อแม่เธอไปไหนเหรอ?"

    "พวกท่านไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว" เธอตอบพลางทำหน้าบึ้งตึง

    "ไม่ได้อยู่ในโลกนี้...แสดงว่าไปข้างบนหมดสินะ?"

    "ไม่ใช่!!" น้ำเสียงดูเหมือนเธอจะฟิวส์ขาด แครอไลน์พูดออกไปโดยไม่ทันได้คิด

    "อะ..เอ๊?"

    "ขอโทษ.." พอเธอมีสติขึ้นมาเธอกลับรู้สึกผิดในสิ่งที่ตนเองเองพูดลงไป แล้วจัดการกับอาหารที่กำลังทำอยู่
    ชวนให้เบลตกใจไปชั่วขณะแต่ไม่นานเธอก็ทำหน้าหงอยคอตก

    "โอ๊ย!" ทันใดนั้นระหว่างการทำอาหารอยู่ๆมีดก็ไปบาดนิ้วชี้แครอไลน์ด้วยความประมาท

    "ปะ..เป็นอะไรไปหรือเปล่า?!" เบลลุกพรวดจากเก้าอี้วิ่งมาดู

    "ไม่ แผลแค่นี้น่ะ ไม่ถึงกับสาหัสหรอก" เธอพูดแล้วดูดนิ้วชี้

    "อย่านะ!" เบลห้ามแล้วคว้ามือของแครอลไน์ออกจากปาก

    "จะทำอะไรน่ะ!"

    "เดี๋ยวเชื้อโรคก็เข้าไปหรอก คุณมาม่าบอกมาแบบนี้น่ะ!" เบลจับมือของแครอไลน์ไปจุ่มถังน้ำธรรมดา ที่อยู่ข้างๆ แล้วเธอก็ฉีกเสื้อกระโปรงสีแดงของเธอเล็กน้อยแล้วผูกไว้ตรงบริเวณแผลบนนิ้วชี้ เป็นการกระทำที่ดูบ้ามากๆ แครอไลน์เห็นแบบนั้นก็อดแปลกใจกับสิ่งที่เธอทำไม่ได้

    "เสร็จแล้ว" จากนั้นแครอไลน์ก็มองอย่างงงๆ

    "ขะ..ขอบใจ"

    "แล้วที่สำคัญนะถ้าเธอมีอะไรไม่สบายใจก็มาระบายกับฉันก็ได้ " เบลยิ้มพูด

    "อะ..อืม"

    "เค้าชื่อเบล ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วเธอล่ะ?" เบลกล่าวบอกชื่อตนเอง

    "ฉัน..แครอไลน์" แครอไลน์หยุดมือสักพักแล้วแนะชื่อตนด้วยความเขินอายเล็กน้อย

    "ดีเลย! มาทำอาหารทานด้วยกันมั้ย?" เบลจ้องถามด้วยตาเป็นประกาย

    "ขอบคุณ แต่ไม่ล่ะ" แครอไลน์ปฏิเสธแล้วก้มหน้าก้มตาทำอาหาร ส่วนเบลทำหน้าหงอยเดินไปนั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม

    บรรยากาศช่างเงียบเหมือนป่าช้า เบลนั่งรอด้วยความกดดัน ความรู้สึกวังเวงและมืดมนนี่มันอะไรกัน?

    "เอ่อ...นี่" เบลเรียก

    "อะไร" ฝ่ายตรงข้ามยังคงพูดกลับมาอย่างเย็นชาเหมือนเดิม

    "คือว่า...แบบว่า..."

    "ถ้าไม่มีอะไร ก็นั่งเงียบๆรออาหารเถอะ"

    "งื้อ.." เบลรู้สึกกลัวขึ้นมาทันใด แต่ตัวเธอนั้น

    "ถ้าเธอ.." ยังรวบรวมความกล้าที่จะพูดคุยกับแครอไลน์ต่อไป

    "ไม่อยากฝืนทำอะไรก็ไม่ต้องทำก็ได้นะ"

    "จะบอกแค่นี้ใช่ไหม?"

    "เอ่อ..อื้ม"


     
    ............
    .......
    .....

    ตอนกลางวันแสกๆ ยังมีอสูรร้ายสีทมิฬ โลดแล่นไปมาคอยจับสัตว์น้อยใหญ่ มากินอย่างกระกระหาย
    แม้จะเป็นเด็กก็ไม่ปรานี

    ฉึก!

    ในเวลาอันสั้น เจ้าอสูรร้ายโดนกำราบโดยชายผู้มีเรือนผมสีบลอนด์ ในเสื้อหม้อฮ่อม กางเกงขาสั้นใส่สบาย ใส่หมวกงอบ การแต่งกายเหมือนชาวนาไม่มีผิด แถมดันแว่นดำ ถือธนู เหมือนภูมิใจกับผลงานของตน

    "ไม่เป็นไรใช่ไหม เจ้าหนู" เขาเดินมาหาเด็กคนนั้น

    "ไม่เป็นไร แต่ขอบคุณที่ช่วยผมไว้นะครับ" เด็กคนนั้นกล่าวขอบคุณ ก่อนลาไหว้ วิ่งไปที่อื่น

    "เอาเข้าไปปีศาจพวกนี้ ทำโจ่งแจ้งไม่กลัวตะวันเลยหรือเนี่ย?" เขาบ่น สักพักก็มีกระดาษลอยเข้ามาหาหน้า
    แล้วหยิบมาดูอย่างสงสัย

    "เฮ้ย! เจ้าทุย! ส่งนี่มาให้ฉัน!!" เสียงผู้หญิงเพรียกแต่ไกลเข้าหู้เขา

    "หา? อะไร?" เขายืนงง ไม่นานนักก็มีหนูประหลาดตัวใหญ่พอๆกับแมว กระโดดใส่หน้าเขา แต่เขาก็หลบไว้ตัวทัน เจ้าหนูยักษ์ตนนั้นเบรกหยุด ตั้งตัวไว้ได้ แล้วขู่ร้อง ตาแดงก่ำ อย่างน่ากลัว แล้วกระโจนขึ้นไปหามือที่กำสิ่งดังกล่าวของเขา เหมือนพยายามแย่งกระดาษนี้

    "เอาเลย เจ้าหนูท่อ" เขาดันแว่นมาดเท่ แล้วโยนก้อนสีเหลืองๆ ซึ่งนั้นก็คือก้อนชีสเล็กๆ เจ้าหนูยักษ์ไม่รีรอช้า วิ่งไปหาชีสอย่างตะกละตะกลาม กระโดดกินชีสรวดเดียวหมด แต่ไม่ถึงวินาที หนูตนนั้นไอคอกแคก
    ไม่ต่างจากคน แดดิ้นอย่างทรมาณ ไม่ช้าเจ้าหนูยักษ์ก็กลายเป็นหนูขนาดเล็กน่ารักเหมือนแฮมสเตอร์ สำรอกอะไรบางอย่างออกมา เหมือนเมือกดำๆไหลทางยาว แล้ววิ่งร้องจี้ดๆวิ่งไปมาตามปกติ

    แต่ไม่พ้นสายตาของแมว ตาของแมวประกายเพราะได้เห็นเหยื่อแสนโอชะ มันพลางแลบลิ้นเลียปาก
    ตระครุบเหยื่อน้อยน่ารัก อ้าปากกินมัน

    "กลับมาซะ โกะโกะ" ไม่ทันไร เจ้าแมวโดนแปรเป็นกลุ่มควันเสียก่อน ดูดเข้าไปในกระดาษแผ่นเล็กบนมือของหญิงสาวเจ้าของเสียงเรียกคนเหมือนกี้

    "อย่างคุณก็ทำตัวสมกับเป็นมิโกะได้นี่ ไม่ยอมเป็นไปตามห่วงโซ่อาหารแล้วก็.."

    "หุบปากไปเลย เจ้าทุย" เขาไม่ทันพูดจบ โดนแม่สาวมิโกะคนนั้นแย่งกระดาษไปจากมือเขา

    "คุณคุโระคามิ เซ็น ไม่คิดว่ามันแปลกเลยเหรอครับ?" เขาพูดกล่าวด้วยน้ำเสียงเลศนัย

    "หา?"

    "เปล่าครับ ไม่มีอะไร ผมแค่อยากบอกว่าคุณวาดแผนที่ได้ห่วยบรมมากเลยครับ" ทุยยกสองมือหงาย
    ยิ้มหยอกเธอ

    "คิดว่าตัวเองวาดดีมากเลยใช่ไหม? ถึงกล้าพูดแบบนี้ออกมา" เธอคนนั้นกล่าวด้วยความหงุดหงิด

    "ว่าแต่คุณคิดจะเอาแผนที่ไปทำอะไรเหรอครับ?"

    "ฉันจะเอาไปให้เด็กในศาลเจ้า พาเพื่อนที่ป่วยไปร้านของแกไงล่ะ" มิโกะสาวอธิบาย

    "แล้วถ่อมาไกลแบบนี้เพื่ออะไรกันครับเนี่ย?" เขาพลางขยับแว่นงง

    "อย่างที่แกเห็น ฉันโดนไอ้หนูนั่นมันคาบแผนที่ไป ระหว่างเปิดลิ้นชักเอามันมาน่ะ" เธอเล่าเหตุผลจากนั้นก็ร่ายยาวเหมือนกับบ่น แต่ทุยกลับไม่ได้ฟังแต่อย่างใด เขาเดินไปก้มดูก้อนเมือกนั่นแล้วเอามือนวดคาง
    อย่างครุ่นคิด

    "อืม...เมือกดำๆแบบนี้ นี่มัน..."

    .............
    ........
    ......

    "เสร็จแล้ว" แครอไลน์ยื่นจานข้าวผัด  เบลร้องตาลุกวาว

    "น่ารักจัง" แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนเย็นชาอย่างเธอจะแต่งหน้าอาหารได้น่ารักถึงเพียงนี้

    "เดี๋ยวฉันไปทำธุระก่อนนะ" เธอเดินออกไปจากห้อง

    "ไปดีมาดีนะ" เบลยิ้มกล่าว

























     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×