คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ ๐๐: โบราณท่านว่าไว้ > Folclore
“เหอะ... นี่นายรู้เรื่องนี้อยู่แล้วสินะ นายถึงไม่ยอมรับเงินจากชั้นน่ะ วางแผนทำให้ประทับใจหรือไง....เด็กน้อย” ร่างอันสูงใหญ่เต็มไปความภูมิฐานและนัยน์ตาสีฟ้าที่มองตรงเขม็งมาที่เขาแฝงแววตาเยาะเย้ยอย่างไม่ปิดบังนั้น ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโกรธหรือกลัวแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เขาคิดอยู่นั้นกลับเป็น.....
ภาษาอะไรน่ะ......ทำไมเราฟังไม่ออกเลยล่ะ
ดูเหมือนชายหนุ่มจะเข้าว่าเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งตรงหน้าจะไม่เข้าใจภาษาที่เขาสื่อ....ก็นะ แค่ดูหน้าก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนชาติเดียวกัน เขาจึงพูดซ้ำอีกครั้งแต่คราวนี้เขาใช้ภาษาอังกฤษแทน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบและกิริยาที่เขาก็แปลกใจไม่น้อย
เด็กนั่นเอียงคอน้อยๆ ลูกแก้วสีน้ำตาลกลมโตนั้นมองเขาด้วยอาการงงๆ เอ๋อๆ ...นี่อย่าบอกนะว่าภาษาอังกฤษก็ฟังไม่เข้าใจน่ะ แล้วมาที่นี่ได้ยังไงกันเนี้ย ยิ่งรูปร่างหน้าตาท่าทางแบบนี้ กับดินแดนต่างเมืองแบบนี้ รับรองเลยว่าถ้าเด็กนี่อยู่คนเดียวกลางท้องถนน ยิ่งโดยเฉพาะกลางคืนคงจะถูกล่อลวงไม่ต้องสงสัย
ขณะที่เจ้าของร่างอันสูงใหญ่และทรงสง่ากำลังประเมินกับท่าทีของเด็กตรงหน้า ไอ้เด็กเอ๋อนั้นกลับหมดความสนใจในตัวเขาเสียเฉยๆแต่กลับวิ่งไปหาเจ้าลูกหมาตัวน้อยของเขาที่ค่อยๆเดินเตาะแตะเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“ว้าว!!! น่ารักจัง ชื่ออะไรครับ ...เอ้า ลืมไป เป็นหมาฝรั่งพูดไทยคงไม่รู้เรื่องงั้นพูดอังกฤษแล้วกันเนอะ เจ้าตัวเล็ก ฮ่าๆๆ”
อ้าว พูดภาษาอังกฤษได้นี่นา แล้วทำไมถึงทำหน้างงใส่ชั้นล่ะ
“นี่....เราน่ะ หยุดเลยนะมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน คิดว่าฟังชั้นพูดไม่รู้เรื่อง ก็พูดอังกฤษได้นี่แล้วทำไมถึงได้กล้าเมินชั้น!!!”
เขาชักรู้สึกไม่สบอารมณ์เรื่อยๆ หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากพ่อ ก็ยิ่งรู้สึกไม่ถูกชะตากับไอ้เด็กนี่ ผู้ที่อ่อนวัยกว่าหันกลับมามองชายหนุ่มตรงหน้าที่หน้าตาตอนนี้จากที่เหล่อเหลา คมเข้ม ปานเทพบุตรกรีกเริ่มค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นยักษ์เหมือนที่หน้าวัดโพธิ์ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจที่คนตรงหน้าพูด เขาเข้าใจตั้งแต่เปิดปากพูดภาษาอังกฤษให้ฟังในรอบสองแล้ว ถึงแม้รอบแรกจะเป็นภาษาอิตาลีที่ทำให้งง(มาก)ไปบ้างก็เถอะ แต่ที่ไม่เข้าใจจริงๆคือเนื้อหาที่พยายามจะสื่อมากกว่า
“ทำไมผมต้องทำให้คุณรู้สึกประทับใจด้วยล่ะครับ ทั้งๆที่เราก็เพิ่งเจอกันครั้งแรก ไม่สิตอนนี้เป็นครั้งที่สองนี่นะ แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องที่คุณลุงคนนั้นพูดน่ะ ผมไม่เคยคิดเอามาใส่หัวแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ตอนนี้เราจะอยู่ในฐานะ..พะ.”
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“พะ...” คำพูดสุดท้ายที่ยังไม่ทันได้หลุดออกมาจากปากกลับหายไปพร้อมเสียงโทรศัพท์มือถือของตนที่แผดเสียงดังลั่นอยู่เหนือหัวนอน ทำให้เขาต้องจำต้องยื่นมือออกไปรับอย่างเสียไม่ได้
“เฮ้ยยยยย ตื่นได้แล้ว นี่กูโทรปลุกมึงรอบที่สองร้อยยี่สิบห้าแล้วมั้งเนี้ย ตื่นได้แล้ว ไอ้น้ำอบ” เจ้าของชื่อถึงกับต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างให้พ้นระยะหูเพราะมลพิษทางเสียงจากเพื่อนตัวแสบ
“เออๆ กูตื่นแล้ว ไม่ตื่นก็บ้าแล้วตะโกนมาได้ จะมาหาหรอ....เออๆ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
น้ำอบวางโทรศัพท์ลงแล้วค่อยๆคลานออกจากผ้าห่มผืนนุ่มเพื่อไปชำระร่างกายรอการมาของเจ้าคนที่โทรปลุกเขาเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อครู่ ทั้งๆนี่ก็ยังไม่แปดโมงเลยจะรีบอะไรนักหนา
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่วายนึกถึงความฝันประหลาดเมื่อครู่
“ใครกันนะ....เราไม่เคยรู้จักเลยหน้าก็จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำแต่ทำไมคำพูดตอนท้ายของเรา....จะพูดว่าอะไรนะ ทำไมนึกไม่ออกเนี้ย .....แต่....ช่างมันเถอะ อาบน้ำดีกว่า”
น้ำอบเมื่อไม่รู้จะคิดทำไมให้ปวดหัวก็เข้าเดินห้องน้ำไปอย่างสบายอารมณ์ แต่เขาคงลืมคำที่หลวงตาเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องความฝันที่ว่า
ฝันย่ำรุ่งมันมักจะกลายเป็นจริงน่ะสิ......
...........................................
...........................
............
.......
อีกซีกโลกหนึ่ง
“จะ...เจ้านายครับ เราจะไปไหนกันหรือครับ” เสียงคนขับรถเอ่ยถามชายร่างสูงใหญ่อย่างกล้าๆกลัวๆ จะไม่ให้กลัวได้ยังไง ก็วันหยุดแบบนี้เจ้านายเขาที่ไม่เคยตื่นก่อนอาทิตย์เที่ยงหัว กลับตื่นเช้าจนน่าประหลาดใจ แถมใครทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด แล้วยังรีบเร่งให้เขาเอารถออกแต่เช้าเอาแต่ปั้นหน้าบูดขรึมตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วเนี้ย
“ร้านขายสัตว์เลี้ยง” เจ้านายหนุ่มตอบกลับมาด้วยเสียงเรียบๆ ส่งผลให้คนขับรถจากที่กล้าๆกลัวๆ ยิ่งเกิดอาการกลัวหนักกว่าเก่า เจ้านายเค้าเนี้ยนะจะเลี้ยงสัตว์ ลูกชายผู้บริหารนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับใหญ่พ่วงตำแหน่ง CEO และอาจเป็นผู้รับช่วงต่อกิจการทั้งหมดในอนาคต แค่นี้คงจะไม่แปลกถ้าเกิดเจ้านายเขาเกิดนึกครึ้มอยากเลี้ยงสัตว์แก้เหงาซักตัวสอง
แต่ที่แปลกคือ เจ้านายเขาหรือคุณชายราฟาเรโอ คาโล ที่ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจ ไม่นึกถึงคนอื่น วันๆนอกจากทำงานก็เข้าสังคม เข้าผับเข้าบาร์ไม่เว้นคืน คนแบบนี้เนี้ยนะจะเลี้ยงสัตว์ แถมต้องออกไปซื้อแต่เช้าเนี้ยนะ!!!!
คุณชายคาโลที่คนขับรถกำลังพยายามคาดเดาอาการไปต่างๆนาๆกลับหาสนใจในท่าทีนั้นไม่ เขากลับมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วกำลังจมดิ่งอยู่ในความคิดเรื่องความฝันเมื่อเช้านี้ พยายามนึกแทบตายว่าเด็กนั้นเป็นใคร ตั้งใจว่าจะไม่ลืมแต่พอสะดุ้งตื่นขึ้นมาเขากลับลืมใบหน้านั้นไปหมดสิ้น
เหมือนคนเอเชีย....แม้เขาจะมีลูกค้าอยู่หลายรายซึ่งรวมคนชาตินี้ด้วยแต่เขากลับไม่รู้สึกคุ้นเลยแม้แต่น้อย ผิวขาวเหมือนคนญี่ปุ่นหรือจีน แต่ดวงตากลับกลมโต ผมสีดำสนิท ริมฝีปากเล็กบางเฉียบ โดยเฉพาะรูปร่างที่เขากล้าฟันธงว่าต้องไม่ใช่คนอิตาลีแบบเขาหรือคนตะวันตกแน่ๆ เพราะรูปร่างนั่นสูงโปร่งก็จริงแต่ถ้าเทียบกับเขามันต่างกันอยู่หลายเซนติเมตรแน่ๆ ไม่ถึงกับตัวเล็กบอบบางเหมือนผู้หญิง
แต่....ทำไมเรานึกไม่ออกนะ ว่าเคยรู้จักหรือเคยพบเด็กนั้น
องค์ประกอบของความฝันนอกจากแววตา ตอนนี้ก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ความจริงเขาไม่จำต้องสนใจก็ได้แต่ทำไมรู้สึกองค์ประกอบมันยังขาด......
ใช่แล้วล่ะ ลูกหมาตัวเล็กสีขาวนั่น
ก็.....ไม่ได้จะรอให้พบกันเหมือนในความฝันหรอกนะ เรื่องน้ำเน่าพรรณ์นั้นน่ะ ความรู้สึกในฝันเหมือนกับกำลังโกรธ...ใช่แล้ว ไม่สบอารมณ์อย่างแรงเลยล่ะ ดังนั้นเรื่องที่เด็กนั้นจะพูดต้องไปเรื่องไม่ดีแน่ๆแล้วจะไปตั้งตารอให้พบกันเหมือนในฝันทำไม
แต่เขาก็แค่อยากรู้ว่าเด็กนั่นจะพูดอะไรต่อเลยจำต้องไปหาลูกหมามาให้ครบองค์ เพราะตอนนี้เขามีเจ้าหมานั้นที่ไหนกัน คนแบบเขาเนี้ยนะจะเลี้ยงสัตว์ นี่ถ้าคนที่บ้านรู้คงแปลกใจกันยกใหญ่แหงๆเหมือนคนขับรถเขาที่ยังหลุกหลิกๆมองเขาแบบตื่นๆนี่ไงล่ะ
เฮ้อ......ก็บอกแล้วว่าไม่ได้สนใจก็แค่อยากรู้บทสนทนาที่ยังค้างคา มันก็แค่อารมณ์ประมาณดูหนังไม่ทันจบเรื่องแต่เกิดแผ่นสะดุด
.......ก็แค่นั้นเอง
_____________________________________________________________
สวัสดีจ้าา เริ่มเรื่องมาขอแบบเบาๆก่อน เรื่องนี้เราแต่งเป็นเรื่องที่3ได้ ถ้าไม่นับเรื่องที่คิดจะปรับปรุงกับเรื่องที่แต่งแต่ไม่เคยลง แต่ไม่รู้อะไรดลใจเอาเรื่องนี้ลงเป็นเรื่องเป็นราว ยังไงก็ขอฝากด้วยนะจ้า แล้วจะทยอยลงอิมเมจให้จ้า
ปล.อยากรู้วิธีเอาเพลงลงมากเลย ไรท์เตอร์ไม่สันทัดด้านนี้จริงๆ ใครรู้ โปรดให้ความรู้เป็นทานนิดน้า
ความคิดเห็น