~++ เคล็ดลับ.....เคล็ดรัก++~

ลำดับตอนที่ #4 : คิดเปลี่ยนผู้ชายใครว่าง่าย

วู้ยคุณขา ถึงแม้สองเรานั้นรักกันปานกลืนกิน ก็ยังมีเรื่องกระจุกกระจิกนู่นนี่ขัดหูขัดตาไม่ใช่น้อย ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ซึ่งสิงสู่อยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน จึงเกิดความรู้สึกว่าเราควรเปลี่ยนนิสัยของเขา ให้อยู่กับร่องกับรอย หรืออีกนัยหนึ่งคือถูกใจเรานั่นเอง โดยหารู้ไม่ว่า ยิ่งพยายามเปลี่ยนเขามากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เขาถอยห่างเรามากเท่านั้น ของแบบนี้ต้องมีกลเม็ดเทคนิคกันบ้าง จู่ๆจะไปสั่งเขาฉอดๆคงไม่ได้หรอกค่ะ

อย่าสั่งให้เขาทำนู่นทำนี่
หากวันใดวันหนึ่งเขาอยากสมัครสมาชิกฟิตเนส ที่มีนางแบบสาวฮ็อตทั้งฝูงเป็นสมาชิกขาประจำ ก็ขอให้สงบปากสงบคำ อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย สิ่งที่ควรทำคือ พูดสั้นๆว่า “ดีค่ะ” แล้วทำธุระของเราต่อไป อย่าแสดงอาการหึงหวงให้เห็นว่าเราไม่มั่นใจ ถ้าเขารักเรา ต่อให้สาวๆที่ยิมสวยหยาดฟ้ามาดินแค่ไหน เขาก็ไม่สนหรอกค่ะ 

ถ้าเขาอยากไปแค้มปิ้งกับเพื่อนในวันเสาร์-อาทิตย์ มากกว่านั่งๆนอนๆอยู่กับเราที่บ้าน มีทางเลือกสองทางคือ ปล่อยให้ไปหรือไม่ก็เลิกกัน แต่อย่าสั่งให้เขาทำอะไรเด็ดขาด มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วค่ะ สาวรายหนึ่งจี๋จ๋ากับหนุ่มได้ไม่กี่เดือน จู่ๆเขาก็วางแผนไปเที่ยวกับเพื่อนๆในช่วงวันหยุด สาวซึ่งมีความเชื่อว่า คนรักกันต้องเปิดใจให้กัน เธอจึงบอกเขาว่า การทำเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง เขาจึงเปลี่ยนแผนหันมาใช้เวลาอยู่กับเธอทันที สาวมีความสุขล้นเหลือ แต่หลังจากนั้นเพียงเดือนเดียว เขาหายสาบสูญไม่โทรศัพท์หาเธออีกเลย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าทำตัวเป็นผู้จัดการชีวิตของผู้ชาย ถ้าสุดสัปดาห์นี้เขาไม่อยากไปเที่ยวกับเรา ก็อย่าบังคับเขา ผู้ชายจะทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ เขาจะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีเราหรือเปล่า จะได้รู้กันไปเลยค่ะ อย่ามัวทนนั่งนิ่งอึดอัดคับอก ลองตรองมองดูสถานการณ์ให้ดี หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล จะได้รีบชิ่ง เดินหน้าหาหนุ่มน่ารักรายต่อไปดีกว่า

ในกรณีที่คบหาดูใจกันมาหลายเดือนแล้ว เขายังไม่เคยพาเราไปรู้จักพ่อแม่หรือเพื่อนฝูงเลย อาจเป็นเพราะยังเขินอยู่ก็ได้ เราก็ควรเฉยไว้ อย่าไปเร่งเร้าหรือเสนอแนะเรื่องนี้เชียวนะถ้าเขาไม่เอ่ยขึ้นมาก่อน ลับหลังก็อย่าแอบไปผูกมิตรกับครอบครัวหรือทำตีซี้กับเพื่อนสนิทของเขา เพื่อหวังให้คนเหล่านั้นสนับสนุนให้เขาขอเราแต่งงาน เรื่องแบบนี้ไม่มีใครบังคับใจกันได้หรอกค่ะ สิ่งที่ควรทำคือยอมรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างอดทน หรือไม่ก็ออกเดทกับหนุ่มรายใหม่ แต่อย่าไปเร่งรัดหรือบังคับเด็ดขาด

สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตเขา อย่าเที่ยวซอกซอนรื้อค้นตามตู้ตามลิ้นชักแล้วโยนเสื้อผ้าตัวโปรดซึ่งเยินสุดๆของเขาทิ้งไป แถมยังชวนเขาออกไปช้อปปิ้งซื้อของใหม่เสียอีก ถ้าเขาชอบนั่งดื่มเบียร์ดูฟุตบอล ก็อย่าเคี่ยวเข็ญชวนเขาดูเทนนิสแทน อย่ายัดเยียดสิ่งที่เราชอบไปใส่สมองเขา ผู้ชายต้องการผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกดีและมีความสุข ไม่ใช่คนที่คอยมาสั่งมาชี้นิ้ว เขาต้องการเมียไม่ใช่แม่ อยู่เฉยๆดีกว่าค่ะ เมื่อใดที่ต้องการคำแนะนำ เขาจะเข้ามาหาเราเองแหละ

ยอมเป็นผู้ตาม
ความสัมพันธ์ฉันท์คนรักก็เหมือนการเต้นสโลว์ซบ ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายนำเสมอ ดังนั้นผู้ชายจึงควรเป็นคนแรกที่พูดว่า “ผมรักคุณ” “ผมคิดถึงคุณ” “ผมเล่าเรื่องคุณให้พ่อแม่ฟัง ท่านอยากพบคุณมาก”

ผู้ชายต้องเป็นเสมือนหนังสือเล่มใหญ่ที่เปิดแผ่แบหราให้เราเห็น ตรงข้ามกับผู้หญิงที่ต้องทำตัวลึกลับเข้าไว้ อย่าเผลอหลุดปากเชียวว่า เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่เรารู้สึกว่ากำลังตกหลุมรักอย่างจัง หลังจากแห้วมานาน

สิ่งที่ควรจดจำใส่ใจคือ ปล่อยให้เขาเป็นผู้นำ ให้เขาเป็นคนประกาศความรักเป็นคนแรก ให้เขาเป็นคนเลือกหนังที่เราจะดู เลือกร้านอาหารที่เราจะเข้าไปกิน หรือเลือกคอนเสิร์ตที่เราจะเข้าไปนั่งฟัง บางครั้งเขาอาจถามความเห็นเราบ้าง พอถึงตอนนั้นเราค่อยบอกเขาก็ได้นี่นา

เราควรไปพบพ่อแม่ของเขาก่อนให้เขามาพบพ่อแม่ของเรา นอกเสียจากว่าเขาต้องมารับเราที่บ้าน ให้พ่อแม่เป็นคนเปิดประตูก็ได้ แต่อย่าปล่อยให้อยู่ด้วยกันตามลำพังนานนัก บอกแม่ไปเลยว่า อย่ายิ้มให้เขาหวานจ๋อยราวกับเขาเป็นลูกเขยเรียบร้อยแล้ว และหากมีพี่น้องหรือญาติติโกโหติกาคนใดของเรากำลังจะแต่งงาน ก็อย่าให้คุณแม่เอื้ยนเอ่ยให้เขาฟังเด็ดขาด เพราะคนที่เป็นแม่มักตื่นเต้นเมื่อลูกสาวมีแฟน ดังนั้นเวลาที่เขามารับที่บ้าน ก็อย่ามัวเอ้อระเหยบรรจงแต่งตัว ปล่อยให้พ่อแม่ต้อนรับเขาเป็นนาน เพราะท่านจะต้องถามเขาแน่นอนว่า งานของเขาเป็นอย่างไรบ้าง เขาตั้งใจจะคบกับเราอย่างไร

กฎข้อนี้ใช้ได้กับเพื่อนๆของเขา เขาควรแนะนำให้เรารู้จักเพื่อนๆของเขาก่อนที่เขาจะมารู้จักกับเพื่อนของเรา อย่างน้อยเจอเพื่อนเขาสักสองครั้งก่อนที่ให้เขาเจอกับเพื่อนของเรา

อย่าเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขาให้เพื่อนฟังมากเกินไป เพื่อนอาจเผลอแสดงทีท่าอะไรออกมาโดยไม่ตั้งใจตอนพบหน้าเขา หากยังไม่ไว้ใจเพื่อนก็อย่าเพิ่งบอกอะไรดีกว่าค่ะ ไม่ต้องห่วงว่าเพื่อนจะไม่ได้เจอชายหนุ่มของเรา ถ้าเราได้แต่งงานกับเขา ขี้คร้านจะเจอหน้ากันจนเบื่อไปข้างหนึ่งเลยละ

อย่าคาดหวังว่าเขาจะเปลี่ยน
อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงผู้ชาย เพราะผู้ชายไม่เคยและไม่มีวันเปลี่ยนได้จริงๆ ทางเลือกของผู้หญิงคือ ยอมรับหรือไม่ก็เปลี่ยนแฟนใหม่ ขึ้นอยู่กับว่า มีอะไรในตัวเขาที่ทำให้เรารำคาญใจ

ถ้าเขาเป็นคนเจ้าระเบียบขนาดหนัก เฉื่อยชาเชื่องช้าไปหมด เกลียดอาหารจีนซึ่งเป็นของโปรดของเรา และไม่ชอบออกไปวาดลวดลายเท้าไฟในขณะที่เราแด๊นซ์จนฟลอร์กระเจิง แต่เขารักเราแทบตาย เรียกว่าหัวปักหัวปำเชียวละ จงรู้ไว้ว่าเราเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก ถึงแม้เขาจะมีสิ่งน่ารำคาญไม่ถูกใจเรา แต่ก็ไม่ได้มีอันตรายขนาดทำให้เราช้ำใจนี่นา ผู้ชายแบบนี้จัดไว้ในกรุ๊ปเอ

ในทางกลับกัน ถ้าเขาทำกรุ้มกริ่มป้อหญิงอื่นต่อหน้าต่อตาเรา แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดรุนแรงให้เห็นหลายครั้ง ไม่สนใจเวลาเราคุยเรื่องสำคัญ หรือลืมแม้กระทั่งวันเกิดของเรา อย่างนี้เรียกว่านิสัยชั่วค่ะ สมควรคิดทบทวนให้หนัก ผู้ชายแบบนี้จัดไว้ในกรุ๊ปบี

สำหรับกรุ๊ปเอ เราต้องทำใจยอมรับ และอย่าไปจู้จี้คอยถากถางเขาเชียวนะ ไม่ได้ผลหรอกกับการทำตัวเป็นสาวปากจัด

สำหรับหนุ่มสันดานแบบกรุ๊ปบี บอกเลิกได้เลยค่ะ ไม้แก่ดัดยาก ไม่ควรอย่าเสียเวลารอให้ปาฏิหารย์บังเกิด ถ้าเขาเล่นไม่ซื่อกับเราตอนนี้ แต่งงานกันไปแล้วอาจหนักข้อยิ่งกว่าเดิม เขาอาจทำตัวดีเลิศประเสริฐในช่วงแรกเพราะถูกจับได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปธาตุแท้ก็ต้องโผล่ออกมาเหมือนเดิมอยู่ดี

ถ้าคิดว่าไม่เป็นไรฉันอยู่กับเขาได้ สิ่งนั้นมันจะคาอยู่ในใจ ทำให้เรากลายเป็นผู้หญิงขี้ระแวง คอยตามเช็คสามี ชีวิตจมอยู่กับความหวาดระแวง ถามตัวเองสิว่า อยากมีชีวิตแบบนี้หรือคะ ถ้ายังรู้สึกว่าต้องกล้ำกลืนฝืนทนก็ควรเดินจากมาแต่โดยดี การคิดเปลี่ยนแปลงผู้ชายอาจต้องใช้เวลาตลอดชีวิต และต้องทุ่มเทอย่างหนัก แถมผลที่ได้รับคือศูนย์

จุดสำคัญคือ อย่าตามไล่บี้ให้ผู้ชายเป็นอย่างที่เราต้องการ เพราะเขาจะหงุดหงิดรำคาญใจ ดังนั้นคิดให้ดี แต่อย่าเสียเวลาตัดสินใจนานนัก โลกนี้ยังมีผู้ชายรอคอยเราอยู่อีกเป็นล้านๆคนค่ะ



http://women.msnth2.com/articles/419/19000841.aspx