ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {YAOI} เสื้อกาวน์หมอไม่อุ่นเท่าเสื้อช็อปวิศวะ

    ลำดับตอนที่ #9 : Take #9

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 57


    #9

    ต่ายรู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตตัวเองถูกคุกคามมากกว่าปกติ... ถึงแม้เขาจะใช้ชีวิตประจำวันตามปกติที่เคยเป็นมาตลอดตั้งแต่เลือกเรียนหมอ ตื่นเช้ามาเข้าเวร สายหน่อยไปเรียน ข่วงปีห้านี่ยังดีที่ช่วงบ่ายยังพอมีเวลาว่างให้หายใจหายพอบ้างเพราะเป็นปีที่เรียนค่อนข้างเบาที่สุด แต่ละคนก็มีวิชาเลือกเรียนที่แตกต่างกันออกไปแต่ได้ลงเคสจริงบ่อยที่สุดเช่นกัน ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ก็เรียกได้ว่ามีสภาพเป็นศพทุกวัน พอตกเย็นไปเข้าเวรช่วงกลางคืน เอกศัลยกรรมจะเหนื่อยมากที่ต้องประจำอยู่ที่ห้องฉุกเฉินตลอดเวลา วนเวียนทำแผลบ้าง เย็บแผลบ้าง ใช้ชีวิตอยู่กับเลือดทุกวัน มีวันหยุดบ้างบางอาทิตย์ ทำแบบนี้จนกลายเป็นความเคยชิน


    แต่ที่ยังไม่เริ่มชินสักทีคือร่างของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์สวมเสื้อช๊อปสีกรมท่าตัวโตที่เร่เข้าออกตึกคณะแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยเป็นว่าเล่นจนบรรดานักศึกษาแพทย์ที่และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลที่แรกๆมองด้วยความสงสัยในครั้งแรกๆเริ่มจะเลิกสนใจกันไปแล้ว
     

     

    ขายาวก้าวสม่ำเสมอ เดินตรงไปยังร้านกาแฟภายในโรงพยาบาล ในมือข้างหนึ่งถือไอโฟนรุ่นใหม่ที่สั่นระรัว แต่เขาก็ไม่คิดที่จะพลิกดู ก็รู้แล้วว่าต้นเหตุที่ทำให้มันสั่นคือคนที่กำลังจะไปเจอ ร่างโปร่งก้าวเข้าไปภายในร้าน


    ต่ายเห็นร่างสูงผิวแทนที่มีรอยยิ้มประดับใบหน้าอยู่เสมอนั่งไถลตัวไปกับเก้าอี้นั่งร้านกาแฟ วันนี้อีกฝ่ายไม่ได้ใส่เสื้อช๊อปอยู่ มันพาดอยู่บนบ่ากว้างและที่แปลกตามสำหรับว่าที่คุณหมอในวันนี้คือบางสิ่งที่หายไป

     

    ถอดเฝือกแล้ว?” 

     

    เขาเอ่ยทักเสียงเบาเพราะคนในร้านเริ่มน้อยและเวลานี้ก็ค่อนข้างดึกแล้ว พนักงานในร้านกำลังทยอยเก็บเก้าอี้หลายตัวขึ้นบนโต๊ะเพื่อทำความสะอาดพื้นที่โซนด้านในแต่ด้านนอกยังเปิดให้บริการตามปกติ คนที่นั่งรอหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง สะบัดมือโชว์ไม่แรงนัก 

     

    ถอดเมื่อบ่ายเลยพี่

     

    โอ้ย! เห็นแล้วเสียวไส้

     

    อย่าสะบัด!เขาเอ็ดเสียงดัง แทบตะครุบปากตัวเองไม่ทัน คนในร้านสามสี่คนหันมามองชั่วครู่แล้วก็กลับไปนั่งทำอย่างอื่นไม่สนใจต่อเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไร 

     

    เดี๋ยวได้กลับไปใส่ใหม่อีกรอบ” 

     

    บาสทำหน้าแหย สาบานในใจว่าจะไม่หาเรื่องเจ็บตัวจนข้อมือหรือแขนหักอีก จริงๆแล้วไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกายก็ตาม ใช้ชีวิตลำบากเป็นบ้า ขนาดว่าเขายังเข้าเฝือกแค่สามสัปดาห์กว่า อาจจะเพราะว่าไม่ได้หักแบบรุนแรงมากเท่าไรนัก หมอเจ้าของไข้ก็ว่าเขาฟื้นตัวเร็ว อาจจะเพราะเป็นนักกีฬาที่ร่างกายแข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 

     

    โอเคๆ พี่ต่ายไม่ตอบไลน์อะ ทำไรอยู่ชายหนุ่มส่งเสียงกระเง้ากระงอด เงยหน้ามองร่างโปร่งในเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด เส้นผมสีดำธรรมชาติพลิ้วนุ่มนั้นถูกเซตเปิดด้านหนึ่งเพื่อไม่ให้มันปรกลงบนหน้า เจ้าตัวอาจจะรำคาญตอนที่ต้องก้มๆเงยๆและผมมันแยงตา เปิดใบหน้าเรียวให้กรอบหน้าชัดขึ้น  

     

    พี่ต่ายของเขาหล่อเป็นบ้าแต่ก็น่ารักมากเหมือนกัน

     

    ก็เดินมาเนี่ย จะตอบทำไม ส่งมาแต่สติกเกอร์บ้าๆบอๆต่ายชูไอโฟนในมือที่ขึ้นหน้าจอเป็นการแจ้งเตือนโปรแกรมไลน์ยาวยืด บาสเห็นแล้วก็หัวเราะก๊าก 

     

    วันนี้เหนื่อยไหมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขามาเฝ้ารอพี่ต่ายออกเวรตอนกลางคืนทีไรก็เห็นใบหน้าเนียนใสนั่นอิดโรยทุกที ชายหนุ่มที่หอบงานมาทำรอบ้าง แบกโน้ตบุ๊คมาเล่นเกมรอบ้างเห็นแล้วเหนื่อยแทน 

     

    ไม่มากเท่าไร วันนี้เลยเลิกเร็ว” 

     

    งั้นไปกินข้าวกัน!บาสชวนเสียงใส เขาผุดลุกขึ้น จับมือขาวสะอาดที่กรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์ของว่าที่คุณหมอลากเดินไปที่ทางออกโรงพยาบาล 

     

    เดี๋ยวๆ ปล่อยก่อนต่ายกัดฟันโวยวายเสียงเล็ดไรฟัน ตากลมเหลือบเห็นญาติคนไข้สองสามคนที่เดินสวนเข้ามาในร้านกาแฟมองด้วยความสนใจที่เห็นคุณหมอถูกชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เก่าๆ มีเสื้อช๊อปสีกรมท่าพาดบ่าท่าทางกุ๊ยๆลากออกจากร้าน แต่เมื่อมือใหญ่ที่ไม่สะดุ้งสะเทือนแถมยังบีบแน่นราวกับคีมเหล็กนั้นรั้งเอาไว้แน่นก็ทำได้เพียงแค่ก้าวตามออกไปอย่างรวดเร็ว 

     

    ร่างโปร่งถูกลากมาที่ลานจอดรถ โชคดีที่ระหว่างทางเดินผ่านมาไม่มีคนรู้จัก ทั้งอาจารย์หมอและเพื่อนนักศึกษาปีเดียวกัน อาจจะมีรุ่นน้องอยู่บ้างแต่คงไม่มีใครสนใจอะไรมาก บาสพามาหยุดที่รถเบนซ์สีขาวของเจ้าตัว มือที่บีบแน่นนั่งจึงค่อยคลายออกให้เจ้าของมือชักกลับ 

     

    เป็นบ้าหรือไง ลากเอาๆบ่นเสียงดัง จะว่าหงุดหงิดก็ไม่เชิง 

     

    ก็รีบ เร็วสิพี่ต่าย ถอดเสื้อกาวน์เร็ว ไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน” 

     

    บาสดันไหล่บางให้เข้าไปใกล้ตัวรถ เจ้าของรถหยิบกุญแจขึ้นมาปลดล็อก เขาเปิดประตูหลังคนขับออกเพื่อหยิบไม้แขวนเสื้อที่วางอยู่ขึ้นมาแขวนเสื้อกาวน์ตัวยาว 

     

    แล้วรถ...” 

     

    เอาไว้นี่แหละพี่ เดี๋ยวนั่งแทกซี่กลับมาเอา” 

     

    จะไปไหนน่ะ ขี้เกียจไปๆกลับๆ เหนื่อยนะ” 

     

    บาสทำท่าครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก่อนทำท่านึกออก อ๋อ งั้นเอาไปก็ได้พี่แต่ที่จอดหายากหน่อยนึงนะ” 

     

    นี่จะไปไหนเนี่ย?” 

     

    ต่ายมองหน้าอีกคนอย่างไม่ไว้ใจ ยิ่งช่วงนี้ใบหน้าคมนั่นแลดูเจ้าเล่ห์ขึ้นพิกล แถมยังชอบถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น ไม่อยากจะบอกว่านอกจากเพื่อนสนิทสองคนแล้ว เขาเจอหน้าหนุ่มวิศวะรุ่นน้องคนนี้บ่อยพอกัน ทั้งๆที่เรียนคนละคณะแท้ๆ 

     

    เยาวราช”  

     

    ที่จอดรถหายากอย่างที่คนพามาว่าจริงๆ ว่าที่คุณหมอหงุดหงิดกับการมองหาที่จอดรถที่บางครั้งเต็มบ้าง บางครั้งก็จอดกันข้างทางแบบไร้ระเบียบบ้าง แต่เป็นความโชคดีที่ซอยที่ตั้งร้านที่เจ้าตัวโม้นักหนาว่าอร่อยนั้นมีที่จอดรถพอดิบพอดี และโชคยังเข้าข้างเมื่อจังหวะที่เขากำลังจะเลี้ยวเข้าซอย รถคันที่จอดอยู่ก่อนแล้วก็ถอยออกพอดี ต่ายหักเลี้ยวเสียบเข้าที่อย่างชำนาญจนคนที่นั่งข้างๆตบมือเปาะแปะ หัวเราะขำในลำคอ พึมพำว่าเขาเซียนมากที่ตาไวหาที่จอดรถได้ ในขณะที่ตัวเองก่อนหน้ายังเล่นคุ้กกี้รันในไอโฟนอย่างเมามันส์

     

    ชิส์ เห็นแล้วหมั่นไส้เป็นบ้า 

     

    ไหน ร้านไหนต่ายถามกระแทกเสียงเมื่อลงมายืนอยู่ข้างรถเรียบร้อย เขากดล็อกรถ มองซ้ายขวาให้เห็นว่าที่จอดรถแถวนี้ปลอดภัยด้วยความรอบคอบ มองร้านค้าที่เรียงรายยามค่ำคืนแล้วก็ต้องเบ้ปาก 

     

    ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก แค่คนเยอะทุกร้านเลย 

     

    เดินไปหน่อยพี่ ป่ะ ผมพาไปบาสแตะไหล่ที่แคบกว่าเขาเล็กน้อย ดันให้เดินไปในทิศทางที่ตัวเองพาไป 

     

    ต่ายเหล่ตามองมือไม้ที่เริ่มจะเลื้อยขึ้นทุกวันแล้วหงุดหงิด ยกมือบิดหลังมืออีกคนเต็มแรง 

     

    โอ้ยพี่ต่าย มือข้างนี้เพิ่งถอดเฝือกนะ” 

     

    บาสสะบัดมือแรง มันเจ็บจริงๆนะ แต่ที่เจ็บกว่าคือเมื่อสะบัดมือแล้ว ข้อมือที่เพิ่งถอดเฝือกกลับรู้สึกแปล๊บขึ้นมาจนต้องใช้มืออีกข้างกุมเอาไว้ 

     

    ห๊ะ ขอโทษๆ ไหนดูดิ๊”  

     

    ว่าที่คุณหมอถึงขั้นตกใจรีบจับมือข้างที่อีกฝ่ายกุมเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยยุ่งเหยิงไปด้วยความกังวลปนรู้สึกผิด เขจาผิดเองที่ลืมไปว่ามือข้างนั้นเป็นข้างที่เพิ่งถอดเฝือกออกไปไม่นาน เพราะการที่ไม่ได้ขยับมาเป็นเวลานานทำให้แต่ละครั้งนั้นจะเจ็บแปล๊บขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ แต่ต้นเหตุอย่างไรก็คือเขาอยู่ดี มือขาวค่อยๆประคองมือใหญ่นั้นอย่างระมัดระวัง ปลายนิ้วเย็นค่อยแตะสัมผัสแผ่วเบา ไล้ไปทั่วข้อมือจนเจ้าของชักจักจี้จนขนลุก 

     

    บาสมองใบหน้าเล็กที่ก้มลงต่ำ อันที่จริงมันก็เริ่มที่จะหายเจ็บแล้ว คงเพราะขยับเร็วไปจริงๆ แต่เมื่อก้มลงมองอีกคนที่หรุบตาลงต่ำจนขนตาเป็นแพหนานั่นบังดวงตาสวยไปเกือบทั้งหมด แก้มเนียนขึ้นสีแดงระเรื่ออาจจะเป็นเพราะอากาศร้อนยามค่ำคืนที่ไม่มีลมพัดทำให้ชายหนุ่มเผลอมองด้วยสายตาเป็นประกายระยับ บาสไม่รู้ว่าจะหาคำใดมาบรรยายความรู้สึกของตัวเองดี แต่การที่มีอีกคนคอยเป็นห่วงแบบนี้ทำให้เขามักจะคิดเข้าข้างตัวเองจนเหลิงทุกครั้ง  

     

    นี่เราใกล้กันขึ้นบ้างหรือยังนะพี่ต่าย

     

    หายหรือยะ...ต่ายชะงัก พูดไม่ทันจบประโยคเมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นดวงตาคมที่จ้องมองเขาด้วยสายตาลึกซึ้งก็พูดต่อไม่ออก เขาอ้ำอึ้ง จะอ้าปากพูดอีกทีก็ต้องตกใจเมื่อมือเล็กกว่าของตัวเองที่จับข้อมือของอีกคนนั้นถูกพลิกกลับเกาะกุมไว้แน่น ยกขึ้นแนบอกกว้างของคนที่บังคับให้ใกล้ชิด ร่างโปร่งทำตัวแทบไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าควรจะหลบสายตานั่นอย่างไรดี 

     

    พี่ต่าย...” 

     

    *ปรี๊น* เสียงแตรรถดังลั่นก้องไปทั่วบริเวณ ต่ายกระโดดสะบัดมือออกจากการเกาะกุมนั้นทัน ดวงตาสวยเลิกลั่กมองซ้ายขวาอย่างคนทำผิดแล้วกลัวคนอื่นจับได้ แล้วค่อยมองชายหนุ่มที่ยังยืนอยู่กับที่ ไม่แม้แต่จะขยับตัวไปไหน ใบหน้าคมนั่นแสดงอาการเซ็งออกมาอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มหันมองคนตัวบางกว่ายิ้มๆ 

     

    กินข้าวกันเหอะพี่ ผมหิวล่ะบาสเดินเข้าไปขับแขนเล็กนั่นให้เดินข้างกัน 

     

    น่าแปลก ไม่รู้ว่าเพราะกลัวเขาจะเจ็บอีกครั้งหรือว่าอะไรคนที่ถูกกำแขนหลวมๆนั่นไม่ได้สะบัดหนี ชายหนุ่มใจเต้นระทึก ไล้ปลายนิ้วลงจากต้นแขนลงไปเกาะที่ข้อมือ เขารู้ว่าพี่ต่ายตัวสั่น แต่โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ หนุ่มรุ่นน้องจึงต้องรีบคว้าเอาไว้อย่างรวดเร็ว เขายิ้มให้คนที่เดินข้างๆ ที่ใช้มืออีกข้างดันแว่นตาที่ตกลงมาเล็กน้อยให้เข้าที่ ผิวหน้าเนียนใสนั่นแดงระเรื่อจนถึงใบหูเล็กๆนั่น 

     

    ต่ายรู้สึกถึงอุณหภูมิที่ร้อนกว่าที่เคลื่อนเข้าหามืออีกข้าง จริงๆเขามีโอกาสที่จะถอยห่างออกไปด้วยซ้ำ เขามีโอกาสที่จะผลักอีกคนออกจากชีวิต แล้วกลับไปเดินตามเส้นทางเดิมๆ ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ แบบที่เคยเป็นมาตลอด จะขีดเส้นกั้นให้อีกคนอยู่ในที่ๆเขากั้นไว้ ส่วนเขาอยู่ในที่ๆตัวเองเคยอยู่ เป็นเพียงรุ่นพี่รุ่นน้องก็ได้ สิ่งเดียวที่ต่ายเองยังไม่แน่ใจ คือเขายอมให้หนุ่มรุ่นน้องต่างคณะนี้ เดินข้ามเส้นนั้นมาตอนไหน

     

    บางทีเขาเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน 

     

    ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เจ้าตัวพามาจะว่าอร่อยมากก็ไม่ใช่ ไม่อร่อยก็ไม่เชิง หรือบางทีอาจจะอร่อยจริง แต่เพราะมนุษย์ที่ต่อแถวยาวเหยียดกว่าจะได้นั่งกินนั้นก็ทำเอาต่ายหมดอารมณ์ไปมากโข เขาเหลือบมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่เริ่มกินจานที่สองแล้วแต่เขายังเขี่ยจานแรกไปมา อันที่จริงหลังออกเวรเขามักจะเลือกทานอาหารเบาๆมากกว่าเพราะดึกแล้ว กระเพาะอาหารจะทำงานหนักมากไปก็ไม่ได้ ไอ้การจะให้มานั่งกินเป็นจานๆเลยค่อนข้างพะอืดพะอมมากไปสักหน่อย

     

    ไม่อร่อยเหรอพี่ต่ายบาสถามเมื่อเห็นอีกคนเขี่ยเส้นไปมา 

     

    เปล่า อิ่มแล้วต่ายถอนใจ ดันจานที่เหลือไปให้ กินสิ”   

     

    กินน้อยเป็นผู้หญิงไปได้นะพี่ชายหนุ่มบ่นหงุงหงิงเสียงเบา

     

    อะไรนะว่าที่คุณหมอเอ็ดในลำคอ 

     

    ไม่มี๊ แหะๆ ผมกินนะบาสรีบคว้าจานนั่นมากินต่ออย่างไม่รังเกียจ 

     

    ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สองจานกับอีกครึ่งหนึ่งถูกยัดลงกระเพาะของเด็กวิศวะจนต่ายทึ่ง ก้รู้อยู่ว่าอีกฝ่ายกินเยอะแต่เขาไม่คิดว่าจะเยอะได้ขนาดนี้ แถมตอนนี้ยังถูกลากไปต่อของหวานอย่างเสียไม่ได้ เจ้าตัวบอกว่าไหนๆก็มาตระเวนกินยามราตรีแถวนี้แล้วจะพลาดไม่ได้ แถมระหว่างทางยังแวะร้านนั้นร้านนี้จนปวดหัวไปหมด ที่ตลกคือเขาเองก็ถูกชักชวนให้ซื้อจนเต็มสองไม้สองมือไปหมด เขาประหลาดใจตรงแทนที่จะเหนื่อยล้าเพราะเพิ่งออกเวรยามค่ำมา เขากลับรู้สึกสนุก ร้านขนมไทยที่ตั้งอยู่ริมถนนเป็นจุดหมายของเขาสองคน โชคดีที่ไม่ต้องรอคิวนานเหมือนร้านที่แล้วๆมาก่อนหน้านี้และได้ทานน้ำแข็งใสเย็นๆท่ามกลางอากาศร้อนๆแบบนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย 

     

    ป้าครับ ทับทิมกรอบกลับบ้านสองถุงชายหนุ่มตะโกนเรียกแม่ค้าที่เดินวุ่นเก็บโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ ก่อนก้มลงกินขนมหวานในชามตัวเองต่อ 

     

    จะเอากลับไปกินที่หอเหรอ?” ต่ายถามด้วยความสงสัย เห็นของเต็มไม้เต็มมือแล้วก็กลัวว่าอีกคนจะกินไม่หมด เสียดายของ 

     

    เปล่า วันนี้จะกลับบ้านน่ะ พี่ไบค์มันชอบกินบาสตอบสั้นๆ เป็นคำตอบที่ทำเอาอีกคนเลิกคิ้วสงสัย

     

    มีพี่ชายด้วย?” 

     

    อื้อ พี่ไบค์อยู่นิเทศปีสี่ พี่ต่ายรู้จักมั้ย?” 

     

    ไม่หมอต่ายตอบทันควัน บาสหัวเราะขำ ตักซ่าหริ่มในถ้วยที่เหลือแต่น้ำกะทิเข้าปากเอาๆ 

     

    นี่ถ้าพี่ไบค์รู้มันคงเสียเซลฟ์ พี่ต่ายรู้ไหมว่าพี่ผมคนรู้จักทั้งมหา'ลัยโน่นแหละเขาเล่า แต่ผมโคตรเบื่อมันอะ” 

     

    อ้าว ก็ดูรักกันดี เห็นซื้อของฝากต่ายถามด้วยความประหลาดใจ 

     

    ไม่รู้ดิ มันชิน ฮ่าๆ แล้วพี่ต่ายล่ะ ลูกคนเดียว?” 

     

    อื้อ

     

    โอย คุณพ่อหวงแย่ อย่างนี้ผมจะไปสู่ขอไหวเร้อบาสเอ่ยเสียงเครียด ยกมือขึ้นกอดอกอย่างใช้ความคิด ต่ายอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือตบที่ศีรษะด้วยความหมั่นไส้จนอีกฝ่ายลูบหัวป้อยๆ 

     

    ตลกล่ะ สู่ขอบ้าบออะไร” 

     

    ฮ่าๆๆๆ ก็คิดเผี่ออนาคตไงพี่ ผมมีโอกาสบ้างไหมหนอบาสลากเสียงยาวอย่างมีความหวัง ว่าที่คุณหมอส่ายหน้าด้วยความระอา 

     

    ตื่นหรือยังที่ฝันอยู่เนี่ย” 

     

    แหม จริงๆก็ไม่อยากตื่นเท่าไรบาสอมยิ้ม เพราะถ้านี่เป็นความฝัน ผมคงฝันดีสุดๆ จนไม่อยากตื่น อยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้นานๆ ไม่รู้ว่าถ้าตื่นอีกทีพี่ต่ายจะเป็นเหมือนในฝันวันนี้หรือเปล่า” 

     

    หึ เว่อร์ไม่มีใครเกินหมอต่ายพึมพำ ตวัดตามองชายหนุ่มผิวแทนที่ส่งสายตากรุ้มกริ่มแล้วก็ต้องเบ้ปาก กลับได้แล้ว ดึกแล้ว” 

     

    โอเค๊ วันนี้แค่นี้ก็ดะชายหนุ่มย่อเสียงท้ายประโยคให้สั้น เพิ่มความน่าหมั่นไส้ในสายตาว่าที่คุณหมอให้ทวีคูณ คิ้วเรียวชักกระตุกเหมือนมีคนมาดึงเส้นประสาทเล่น และคนนั้นก็ไม่พ้นคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม  

     

    ต่ายรู้สึกว่าเส้นประสาทที่ทำงานจนอ่อนล้ามาทั้งวันเริ่มผ่อนคลายรวมถึงหนังท้องตึง หนังตาเลยหย่อนตามประสา เขาหาวหลายวอด ใช้หลังมือบังด้วยความเคยชิน ในมือถือกุญแจรถที่กดปลดล็อกเรียบร้อย มองร่างสูงผิวแทนที่ก้มๆเงยๆวางบรรดาถุงของกินที่ซื้อมาให้เป็นระเบียบ เมื่อเสร็จแล้วมือใหญ่จึงเอื้อมปิดกระโปรงหลังรถเบาๆ โผล่ใบหน้าแป้นแล้นมาพร้อมรอยยิ้ม 

     

    พี่ต่ายไหวไหมบาสถามด้วยความเป็นห่วง ปกติแล้วพอออกเวรทีไร นักศึกษาแพทย์ปีห้าคนนี้มักจะง่วงงุนทุกทีจนเขาไม่อยากรบกวนอะไรมากอยู่แล้ว แต่วันนี้เห็นเลิกเร็วกว่าปกติเลยพาออกมาหาอะไรทาน ตอนนี้คงถึงจุดสูงสุดแล้ว บาสมองนาฬิกาจีช็อคบนข้อมือที่บอกเวลาเกือบเที่ยงคืน 

     

    ไม่ไหวก็ต้องไหวอะตอบเสียงงัวเงีย เผลอหาวออกมาอีกวอด 

     

    ผมขับให้ไหมบาสเสนอ เห็นอีกฝ่ายชะงัก มองด้วยสายตาหวาดระแวง 

     

    ขับเป็นเหรอต่ายถาม ปกติแล้วเขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายใช้รถ หรือมีแต่เขาไม่เห็นก็ไม่ทราบ เพราะเวลาแยกกลับบ้านตอนกลางคืนทีไรชายหนุ่มก็มักจะมาส่งเขาแค่ลานจอดรถตลอด 

     

    อือฮึ มีใบขับขี่นะบาสอวด แต่ถ้าพี่ไม่โอเคก็ไม่เป็นไร ผมแค่เห็นพี่เหนื่อย” 

     

    เขาเข้าใจดีว่าคนบางคนหวงรถมากขนาดไม่ให้คนอื่นขับ เพื่อนของเขาก็เป็นเหมือนกัน บาสเสนอเพราะเห็นอีกคนตาจะปิด พี่ต่ายคงง่วงมากจริงๆ เขาเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเปิดประตูนั่งฝั่งข้างคนขับ แต่กุญแจรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ก็ลอยข้ามฝั่งมาจนรับแทบไม่ทัน 

     

    ส่งให้ถึงบ้านล่ะ บ้านฉันนะไม่ใช่บ้านนาย!ต่ายขู่ฟ่อ เห็นอีกฝ่ายรีบวิ่งสลับมาฝั่งคนขับในขณะที่เขาเดินอาดๆไปฝั่งตรงข้ามแทน เขาขยับเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยเพื่อความสบายตัว ไม่ลืมที่จะคาดเซฟตี้เบลท์ ดวงตากลมมองคนนั่งข้างๆที่ขยับเก้ๆกังๆ 

     

    ถ้ารถไปเสยอะไรหรือมีรอยขีดข่วนล่ะก็ เตรียมตัวจ่ายค่าซ่อมได้เลย!” 

     

    รถเมอร์ซิเดสเบนซ์สีขาวสะอาดขยับออกสู่ท้องถนนช้าๆ ชายหนุ่มที่ทำหน้าที่สารถีขับรถยอมรับว่าประหม่าเล็กน้อยเหมือนกัน เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับรถที่มีราคาระดับนี้ หากเกิดอะไรก็ไม่รู้จะรับผิดชอบอย่างไรเหมือนกัน คนนั่งข้างๆก็คงคิดเหมือนกัน แม้จะไว้ใจ แต่เขารู้ว่าพี่ต่ายก็หลับๆตื่นๆในช่วงแรกๆ พอพ้นไฟแดงมาสองสามที่ ร่างโปร่งก็ค่อยกลับไปโดยไม่รู้ตัว บาสมองใบหน้าเนียนใสไร้รอยตำหนิแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นแว่นตากรอบสีดำเลื่อนไหลลงจากกรอบหน้าเล็ก เขาค่อยๆดึงมันออกจากใบหน้านั้น วางไว้ที่ชั้นวางแถวคอนโซลรถ แพขนตายาวทาบสนิทกับแก้มเนียน หน้าใสขนาดที่ผู้หญิงบางคนยังต้องอาย ร่างเล็กกว่านั้นขยับตัวพลิกหนี บาสถอนใจยาว กลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาอาละวาดที่เขาถือวิสาสะถอดแว่นตาของเจ้าตัวออก เขาเห็นมือเล็กนั่นลูบเขาตัวเองและกอดอกซุกหนีความหนาวจากแอร์ที่ตกกระทบ 

     

    พี่ต่ายเหมือนกระต่ายสมชื่อ ไม่ได้อ่อนแอบอบบางแต่ดูน่าปกป้อง

     

    บาสใช้จังหวะที่ไฟแดงร้อยกว่าวินาทีขยับตัว เอื้อมหยิบเสื้อด้านหลังขึ้นมา เขาเช็คแล้วว่าไม่มีกลิ่นอันไม่น่าพึงประสงค์แบบที่เจ้าตัวเคยปรามาสไว้เรียบร้อย เมื่อแน่ใจจึงค่อยๆคลุมลงบนร่างเล็กกว่านั้นกันหนาว ชายหนุ่มผิวแทนอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อคิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นนั้นค่อยคลายลงด้วยความสบายตัว ได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอ ซุกตัวลงกับเสื้อตัวใหญ่กว่า

     

    พี่หมอจะรู้ไหมว่าไอ้เด็กวิศวะคนนี้มันชักอิจฉาเสื้อช๊อปของตัวเองจะแย่แล้ว! 

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×