ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {YAOI} เสื้อกาวน์หมอไม่อุ่นเท่าเสื้อช็อปวิศวะ

    ลำดับตอนที่ #7 : Take #7 {re-write} + fanart ไบค์

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 57


    #7


    ลานเกียร์ยังคงวุ่นวายดังเช่นทุกวัน ช่วงนี้ใกล้เข้าสู่กลางเทอมแล้ว บรรดาโต๊ะที่รายล้อมจึงเต็มไปด้วยนักศึกษาทุกชั้นปีจับกลุ่มกันทำรายงานบ้าง ติวหนังสือบ้าง แต่ละกลุ่มก็ต่างมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ดันวุ่นวายมากกว่าปกตินิดหน่อย

     

    บาสนั่งหน้าหงิก มองผู้ชายร่างสูงพอๆกับเขาที่นั่งยิ้มโปรยเสน่ห์อยู่ตรงกันข้าม แค่เจ้าตัวขยิบตาก็เรียกเสียงกรี๊ดจากทั้งสาวแท้สาวเทียมที่พากันมารุมล้อมลานเกียร์วิศวะ ทั้งๆที่ปกติแล้วจะเป็นสถานที่ๆบรรดาผู้หญิงคณะอื่นโดยเฉพาะสาวอักษรพากันเดินเลี่ยงเพราะสุดจะทนกับสามแยกปากหมาอันเลืองชื่อ


    มาทำไมวะชายหนุ่มเริ่มประเด็น มองคนตรงหน้าที่ยิ้มให้คนนั้นที ทักทายคนนี้ทีอย่างหมั่นไส้ ตั้งแต่มันโผล่มาก็ไม่พูดไม่จา มัวแต่มองไปรอบๆอยู่ได้


    คนที่ถูกถามหันหน้ามาหาน้องชายตัวเอง เท้าคางพร้อมส่งรอยยิ้มยียวน เมื่อวานมึงให้กูไปส่งบ้านใคร


    เรื่องของกูบาสตอบส่งๆกลับไป ดูดน้ำแดงที่ซื้อมาจากร้านที่โรงอาหารช้าๆ 


    อ๋อ เหรอ เรื่องของมึงที่ปลุกกูไปส่งที่บ้านเขาแต่ไก่โห่ เพราะมึงบอกว่ามือถืออยู่บนรถเขา แล้วยังเอาไอโฟนกูไปช่วยตามหา ขับรถวนอยู่นานสองนานกว่าจะเจอ พอเจอมึงก็ไล่กูกลับบ้าน ไหนว่ามาซิ ว่ามึงไปหาใครที่บ้านหลังนั้นเสียงทุ้มพูดกวนใส่น้องชายตัวเอง ไม่ใช่ทั้งไอ้นพหรือไอ้ปันแน่นอน กูรู้จักบ้านพวกมัน กูถามหน่อย มีเรื่องอะไรที่กูไม่รู้” 


    เอ๊ะ ก็บอกว่าเรื่องของกู ไอ้พี่ไบค์” บาสส่งเสียงจิ๊จ๊ะ


    มึง ไปรู้จักพี่หมอจิระภัทรได้ยังไงไบค์ย้อนด้วยเสียงเป็นต่อ ยักคิ้วมองใบหน้าน้องชายที่ถอดแบบกันมา แต่กล้าสาบานได้เลย มันหล่อน้อยกว่าเขาหลายเท่าตัว มือใหญ่ยกขึ้นเสยผมอย่างติดเป็นนิสัย


    เสือกนะเนี่ยพี่บาสปัดอย่างรำคาญ ก็รู้อยู่แล้วจะถามอีกทำไมวะ” 


    อ้าว กูก็อยากยืนยันเอ่ยยียวน จริงเหรอวะที่ไอ้โก้มันคาบข่าวมาบอกว่ามึงตามจีบเขาอยู่ มึงเอาจริงเหรอวะ นี่กูถามจริงจัง ในฐานะพี่ชายของมึง” 


    เล่นมั้ง” 


    “...” 


    เออ กูจีบพี่ต่ายอยู่ มึงจะทำไมชายหนุ่มตอบกระแทกเสียงด้วยความรำคาญ มึงรู้อยู่แล้วจะมาคาดคั้นกูทำอะไร มึงชอบทำแบบนี้กูเลยเกลียดมึง พี่ไบค์แม่ง” 


    ชะ! เกลียดกูเหรอ ปากดีนะมึงไอ้น้อง มึงหนีพี่อย่างกูไม่พ้นหรอก กูแค่จะมายืนยัน เรื่องของมึงดังไปทั้งวิดวะไม่พอยังไกลไปถึงนิเทศโน่น มึงเป็นน้องคนดังนะ ถึงมึงจะหล่อไม่ถึงครึ่งของกูก็ตาม


    ถุยบาสแกล้งทำเสียงถุยน้ำลาย 


    แล้วไอ้นพไอ้ปัน พวกมึงก็ไม่บอกกูนะไบค์หันไปไล่เบี้ยกับเพื่อนน้องชายสองคนที่กำลังนั่งกินขนมและบรรดาของกิน อื่นๆที่กองอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ของใครหรอก อานิสงค์จากไบค์ทั้งนั้น 


    อื้อ ก็มันยังไม่แน่ใจนี่พี่ว่ามันจะเอาจริงหรือเปล่า” 


    พวกผมก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าเมื่อวานมันไปบุกบ้านพี่หมอต่ายมา


    กูจะจีบใครมันเรื่องอะไรของมึงวะพี่ไบค์กูถามหน่อยบาสถามขึ้นด้วยเสียงหน่ายๆ 


    อ้าว กูเป็นห่วงน้องกูผิดตรงไหน ตอนแรกกูก็เคยคิดนะว่าคนอย่างมึงจะจีบใครกับเขาเป็นหรือวะ มีคนมาจีบก็ไม่สนใจเขา กูรู้ว่ามีบางคนเข้าทางมึงเพราะว่าจะมาหากู กูเลยเป็นห่วง แต่พอกูรู้จากไอ้โก้ว่ามึงกำลังจะจีบใคร ตอนนี้กูเป็นห่วงมึงมากขึ้นอีกรู้มั้ยไอ้บาสไบค์พูดด้วยเสียงจริงจังเสียจนคนฟังอีกสองคนที่กำลังสาละวนอยู่กับของกิน หลากหลายตั้งใจฟัง

     

    กูเป็นห่วงว่ามึงจะโดนพี่หมอเขาหักอก ก๊ากกกกกกกกกก” 


    ประโยคตบท้ายเรียกเสียงหัวเราะครืนจากคนทั้งโต๊ะ บาสเบะปากยื่น รู้อยู่แล้วว่ามันต้องมาอิหรอบนี้ เขามองคนที่นั่งตรงกันข้ามแล้วก็ต้องถอนหายใจ ที่จริงแล้วระดับความกวนของเขาที่ว่ามากแล้ว พอมาเจอพี่ชายของเขาแล้วเขายังถือว่าอยู่ในระดับอ่อนหัดเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่พี่ไบค์เป็นคนเจ้าคารมมากกว่า มีชั้นเชิงที่จะพูดมากกว่าเขาที่ดูจะเป็นคนตรงๆ พี่ชายเขาเป็นถึงระดับเดือนของมหาวิทยาลัยตอนอยู่ปีหนึ่ง แถมยังเป็นนักกิจกรรมตัวยง มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งมหาวิทยาลัย ไม่แปลกใจที่ใครๆต่างจะรู้จักพี่ไบค์นิเทศปีสี่ ว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งไปได้ มันเป็นพี่ชายที่ดี เสียอย่างเดียว มันหลงตัวเองมากไปหน่อยในความคิดของเขา แต่ในความคิดของคนอื่นอาจคิดว่าเพราะเขามีข้อดีให้หลงเยอะมากกว่า นอกจากหน้าตาและนิสัยบางจุดแล้ว พี่ชายของเขาก็มักจะชอบสิ่งที่แตกต่างจากเขาสุดขั้ว!  


    มึงรู้ไหมอะไรกูก็ช่วยมึงได้หมดนะ แต่คนนี้ บายว่ะ มึงต้องช่วยตัว ฮ่าๆๆไบค์เอื้อมมือขยี้หัวน้องที่นั่งหน้าบูดอยู่ฝั่งตรงข้าม 


    บาสปัดมือพี่ชายออก ถอนหายใจ สรุปมึงมาแค่นี้?” ย้อนถาม 


    เออ สิ แค่นี้ก็พอแล้ว นี่มึงคิดว่ากูกับมึงเจอกันบ่อยหรือไง มึงอยู่หอ กูอยู่บ้านแล้วเมื่อวานมึงกลับบ้านซะดึก มาหยิบไอโฟนกูไปเปิดหาไอโฟนมึงแล้วบอกโทรศัพท์หล่น จะหาว่าหล่นตรงไหน นี่กูคิดว่ามึงถูกล้วงโทรศัพท์ด้วยซ้ำ เลยมานั่งช่วยมึงงมหา ใครจะไปคิดว่ามึงจะฉลาดคิดได้ถึงขนาดนั้น” 


    เออจริงๆพี่ไบค์ ตอนมันบอกผมนะ ผมยังคิดว่าคนที่คิดแบบนี้ได้นี่มันเชี่ยมากจริงๆว่ะพี่ ฮ่าๆปันเย้าเพื่อน ถองศอกไปที่แขนข้างที่ไม่เจ็บของมัน 


    แล้วมือนี่ยังไง ใกล้หายหรือยัง ไหนจะเข้าแล็บ ไหนจะแข่งกีฬาอีกไบค์ถามด้วยความเป็นห่วง อย่างไรบาสก็เป็นน้อง แม้จะชอบหยอกเล่นตามนิสัย แต่เขาก็เป็นห่วงอยู่ดี 


    อือ อีก 2-3 อาทิตย์หมอนัดไปดูอีกที ถ้ากระดูกไม่เป็นไรก็ถอดเลย แล้วก็ทำกายภาพนิดหน่อย คงไม่กระเทือนเท่าไรหรอกบาสตอบส่งๆ ดูดน้ำแดงจนหมดเกลี้ยงจนหลอดส่งเสียง


    เออ ดีล่ะ กูไปล่ะนี่บ่ายสามแล้ว เดี๋ยวนั่งรถป๊อปไปรับพีคก่อน รอนานเดี๋ยวก็แม่งทำหน้าบูดใส่อีกไบค์บ่นพึมพำ มองนาฬิกาจีช็อคสีดำบนข้อมือซ้าย 


    พี่พีคเคยยิ้มให้มึงด้วยเหรอวะบาสกวนกลับ เห็นพี่ชายตัวเองสะบัดนิ้วกลางให้ก็หัวเราะในลำคอ 

     

    ตัวก่อกวนในความรู้สึกบาสกลับไปแล้ว พร้อมกับความเงียบสงบแบบเด็กวิศวะในลานเกียร์ที่จะเรียกว่าเงียบก็ไม่ได้ แค่เปลี่ยนจากเสียงซุบซิบหรือแอบกรี๊ดของผู้หญิงตอนที่ไบค์นั่งอยู่กลับมาเป็นเสียงดังโวยวายพ่นภาษาพ่อขุนแบบเดิม บาสเหล่มองเพื่อนสองคนที่นั่งกินขนมที่พี่ชายของเขาไม่ได้เอากลับไปด้วย พอมันรู้ตัวว่าเขามองก็เงยหน้าจากกองของกินฉีกยิ้มแฉ่ง 


    ไม่ไปหาพี่หมอล่ะมึง พวกกูอยู่กันได้นะแค่พี่ไบค์มาพวกกูก็พอใจล่ะ เฮ้ย ไอ้ปัน ชิ้นนั้นกูจอง โตเกียวบานาน่านะเว้ยนพพูดแล้วค่อยโวยวายแย่งขนมกับปันต่อ 


    ไม่รู้อยู่ไหน โรงบาลหรือตึกคณะ กำลังคิดอยู่ว่าจะไปหาที่ไหนก่อน” 


    อ้าว มึงก็โทรหาสิวะ” 


    “... ไม่มีเบอร์” 


    ห๊า!เสียงปันกับนพประสานเสียงกัน ใบหน้าคร้ามละจากกองขนมมองหน้าเพื่อนแบบไม่เชื่อสายตา


    เมื่อวานมึงไปบ้านเขานพถามขึ้น 


    เออ”  


    มึงรู้ที่อยู่แต่ไม่รู้เบอร์โทรเขาเนี่ยนะ!ปันถามเสียงดังลั่น 


    เออบาสตอบกระชากเสียง รู้สึกหงุดหงิดตัวเอง อันที่จริงเมื่อวานเขาพยายามขอเบอร์พี่ต่ายแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ให้ ให้เหตุผลง่ายๆว่าเขามีสิทธิ์จีบ อีกฝ่ายก็มีสิทธิ์เล่นตัว เออ ดี! แล้วอย่างนี้จะคืบหน้าไปไหนกัน 


    งั้นลองไปคณะก่อนมั้ย แล้วถามคนแถวนั้นนพลองเสนอแต่ถูกปันตบหัวจนต้องลูบป้อยๆ 


    มึง จะบ้าเหรอ มึงเห็นเสื้อช๊อปไหม มึงคงจะโดนมองด้วยสายตาหยามเหยียดแล้วเจอเขาเดินหนีมึงมากกว่าสิไอ้นพปันบ่น เกิดเป็นเด็กวิศวะมีปฏิกิริยาดึงดูดกับเด็กน่ารักอักษรและบัญชี แต่ผลักดันเดินหนีกับแพทย์และสถาปัตย์เฟร้ย


    ฮ่าๆ มึงนี่ช่างคิดว่ะไอ้ปันเสียงหัวเราะกับคำทักทายเป็นของผู้มาใหม่ โก้มองหน้ารุ่นน้องสามคนที่อยู่กันพร้อมหน้า

     

    บาส เมื่อกี๊กูเดินสวนกับไอ้ไบค์ มันมาหามึงเหรอวะ” 


    เออ มันมากวนตีน พี่โก้แม่งไปบอกมันใช่ไหมบาสถามเสียงหงุดหงิด 


    เออ ทำไม ถึงกูไม่บอกเรื่องของมึงก็ดังไปไกลถึงตึกแพทย์แล้วเชี่ยโก้ตบหัวทุยๆของรุ่นน้องอย่างอารมณ์ดี เออ มันฝากของมาให้มึงด้วยเขาทำท่านึกได้ พลางหยิบโพสท์อิทสีสันสดใสออกมาจากกระเป๋าเสื้อช๊อป ส่งให้กับบาส

     

    พี่มึงฝากมา


    บาสรับมาแบบงงๆ ถ้าจะฝากอะไรที่เป็นข้อความทำไมพี่ไบค์ถึงไม่ไลน์มาหาเสียเวลาเขียนใส่โพสท์อิท แต่เมื่อลองนั่งคิดดีๆแล้ว เมื่อครู่นี้พี่ชายตัวเองก็เดินมามือเปล่ามีแค่มือถือเครื่องเดียวในมือเท่านั้น ไม่มีอุปกรณ์ใดๆที่น่าจะเขียนได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้พี่ไบค์มันต้องวางแผนมาแล้วแน่นอน ตาคมอ่านลายมือเป็นระเบียบของพี่ชายตัวเอง

     


    เอารถให้กูใช้เดือนนึง แล้วกูจะบอกเบอร์กับไลน์พี่หมอจิระภัทรของมึงให้ ไลน์มาบอกคำตอบกูนะว่าเยสหรือโน ไอ้น้องรัก

     

    “ไอ้เชี่ยพี่ไบค์!

    .

    .

    ร่างสูงผิวเข้มยืนอยู่ตรงฟุตบาท ใบหน้าคมเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อไหลพราก หันซ้ายขวาเพื่อดูสถานการณ์บนท้องถนน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีรถผ่าน สามารถข้ามได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์สีเข้มจึงก้าวยาวอย่างเร่งรีบเพื่อข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม เสื้อช๊อปสีกรมท่าถูกวางคลุมไว้ที่ไหล่เพราะไม่สะดวกที่จะยกแขนใส่ๆถอดๆ อันที่จริงถ้าไม่นับเรื่องเฝือก เขาก็สามารถที่จะขยับทั้งแขนและนิ้วมือได้อย่างอิสระแล้วแค่หมุนขยับข้อมือไม่สะดวกเหมือนปกติเท่านั้นแต่ถ้าใช้งานในชีวิตประจำวันก็ไม่แย่เท่าไร ในห้องเรียนก็แทบไม่ค่อยได้จดเล็คเชอร์อยู่แล้วด้วย  

     

    คณะแพทยศาสตร์แทบจะเรียกได้ว่าถูกตัดขาดจากโลกภายนอก นี่สินะเขาถึงว่ากันว่าเด็กแพทย์ไม่ค่อยสุงสิงกับคณะอื่น ตัวตึกสีขาวทอดยาวพร้อมกับป้ายคณะตรงหน้าเรียกให้ชายหนุ่มผิวเข้มที่ข้ามมาถึงฝั่งนี้มองนิ่ง อันที่จริงนั้นเด็กวิศวะทุกคนก็ไม่ได้ไม่ชอบหรือว่ารังเกียจเด็กแพทย์เท่าไรนัก คณะคู่กัดที่แท้จริงของวิศวกรรมศาสตร์คือสถาปัตยกรรมต่างหาก  อาจจะเพราะอะไรหลายๆอย่างมันคล้ายกันทำนองเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ผิดกับแพทยศาสตร์ที่ทุกคนจะละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าเขากับเรามันคนละชั้นกันแม้จะไม่อยากยอมรับ สรุปคือไม่ได้กลัว แค่เกรงเท่านั้นเอง

     

    นักศึกษาในชุดถูกระเบียบบ้าง เสื้อกาวน์ตัวสั้นอันเป็นสัญลักษณ์ของปีหกบ้างหลายคนเดินเข้าเดินออกที่ประตูทางเข้า มีสองสามคนที่หันมามองเขาและทำหน้าประหลาดใจว่าเด็กวิศวะมาทำอะไรแถวนี้ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่านั้น บาสเหลือบมองนาฬิกาข้อมือสายหนังเก่าๆของตัวเองพลางถอนใจ มือใหญ่ล้วงไอโฟนออกมาจากกระเป๋าเสื้อช๊อป พลางมองดูเบอร์โทรศัพท์เลขเรียงกันสวยงามตรงหน้า เขาบันทึกลงเครื่องเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่กล้าโทร ส่วนโปรแกรมไลน์หรือ WhatsApp นั้นก็คงใช้เวลาสักพักกว่าเบอร์จะขึ้น อุตส่าห์ทำข้อตกลงกับพี่ไบค์มาทั้งที

     

    อันที่จริงจะเรียกว่าเป็นข้อตกลงที่เขาเสียเปรียบก็ไม่ถูก ที่บ้านเขามีรถแค่คันเดียวให้ลูกชายสองคนแบ่งกันใช้เป็นฮอนด้าซิตี้รุ่นเมื่อสองสามปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่ายังใหม่อยู่มาก ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเขากับพี่ชายก็แบ่งกันใช้มาตลอด แต่คนใช้จริงๆแล้วดูเหมือนจะมีแค่เจ้าพี่ชายจอมกวนคนเดียวมากกว่า เพราะเขาเองก็อยู่หอ นั่งวินมอเตอร์ไซค์หรือเดินมาแป๊บเดียวก็ถึงคณะแล้ว รถที่ควรจะเป็นของพี่น้องสองคนจึงถูกพี่ไบค์ครอบครองแค่คนเดียว ข้อตกลงนี้จึงไม่ได้กระเทือนชีวิตประจำวันเขาสักนิด บาสคิดว่าพี่ชายคงอยากจะให้อยู่แล้ว แต่หาเรื่องกวนไปอย่างนั้นเอง พอเขาถามว่าได้เบอร์พี่ต่ายมาได้อย่างไร มันก็ตอบกวนๆกลับมาในเรื่องเบสิคของยุคดิจิตอลว่าเฟสบุคทำได้ทุกอย่าง

     

    เพราะพี่ไบค์มีเพื่อนกือบเเต็มพิกัดที่เฟสบุ๊คมันจำกัดไว้และมีหลายคนคนมากดติดตามด้วย ไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายของเขานั้นจะมีเพื่อนร่วมกันกับพี่ต่ายบางคนและคนที่ไม่ได้สนใจเทคโนโลยีหรือไม่ได้ระมัดระวังตัวอย่างพี่ต่ายก็คงจะไม่ได้กดซ่อนเบอร์โทรของตัวเองที่เอาไว้เชื่อมกับระบบล็อกอินเอาไว้แน่ๆ พี่ชายของเขาจึงได้มันมาอย่างง่ายดาย

     

    เขาคิดอะไรเพลินๆพลางยืนพิงเสาไปเรื่อย ชมนกขมไม้ชมสาวแพทย์ที่เดินเข้าเดินออกประตูคณะจนเพลินตา ดูไปดูมาเด็กเนิร์ดๆก็น่ารักเดีเหมือนกัน

     

    มาทำอะไรแถวนี้เสียงที่เรียกเป็นเสียงเอื่อยๆที่ถามคำถามเรียบๆแต่ทำเอาบาสสะดุ้งสุดตัว ร่างสูงหันไปมองทิศทางเดียวกับที่ได้ยินเสียง

     

    ว่าที่นายแพทย์สามคนที่ยืนเรียงกันดูเหมือนมีพลังอย่างประหลาด บาสมองใบหน้าขาวๆที่มีแว่นตากรอบดำประดับ วันนี้หมอต่ายอยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนกับคนอื่นๆแต่ก็ดูแสนจะเรียบร้อยมากกว่านักศึกษาปกติทั่วไปในสายตาเขาอยู่ดี แต่กลับดูไม่แตกต่างคงเป็นเพราะทุกคนแถวนี้ก็ใส่แบบเดียวกันทุกคน มีเขาอยู่คนเดียวสิที่แปลกถิ่น

     

    ใครวะต่ายเพื่อนตัวสูงถามขึ้น เขาสังเกตเห็นเด็กวิศวะมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขายืนอยู่หน้าคณะสักพักแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร มาเอะใจตรงที่เพื่อนเขาเดินเข้ามาทักเองนี่แหล่ะ

     

    อ๋อ รุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกัน น้องไปเข้าเฝือกตอนอยู่ ER พอดีต่ายหันบอกเพื่อนแล้วหันมามองหน้าคนต่างคณะ

     

    ว่าไง มาทำอะไรแถวนี้

     

    มาหาพี่ต่ายแหละบาสตอบ กำลังจะไปไหนอะพี่

     

    กำลังจะไปหาอะไรกินแล้วไปเข้าเวรตากลมเหลือบมองเห็นเพื่อนสองคนที่มองรุ่นน้องคณะวิศวะแล้วซุบซิบกันสองคน

     

    อ้าวเหรอ งั้นผมไม่กวน ... บาสยิ้มเจื่อน พลางคิดว่าตัวเองมาวันอื่นน่าจะดีกว่านี้

     

    เฮ้ยน้อง เดินมาตั้งไกลไปกินข้าวกันก่อนดิ มารอต่ายไม่ใช่เหรอรุ่นพี่ตัวเล็กตาตี่ชวนขึ้นอย่างเป็นมิตร แต่บาสรู้สึกแปลกๆกับสายตาที่จ้องจับผิด

     

    เออ เดี๋ยวพวกพี่ไปกินข้าวกันแถวนี้แหละ ไม่ไกลหรอก ไปด้วยกันดิไหนๆก็มาแล้ว เดี๋ยวเดินไปเลย หึหึคนตัวสูงกว่าเสริม

     

    บาสเหล่มองรุ่นพี่คนที่สูงพอกันกับเขา แล้วหันไปมองหน้าคนที่ไม่ได้เอ่ยปากอะไรนอกจากเม้มปาก มองเพื่อนตัวเองนิ่งๆ

     

    กินไรอะพี่บาสถามขึ้น ยิ้มตอบอย่างนึกสนุก

     

    โอ้ย นี่มันกลางเดือนแล้ว ข้าวแกงที่โรงอาหารคณะนี่แหละไอ้น้อง ว่าไง ไปป่าวล่ะ?รุ่นพี่นักศึกษาแพทย์ตัวเล็กชี้เข้าไปที่ตึกคณะ โรงอาหารตึกแพทย์ สดสะอาด ใหม่ อร่อย ไร้สารพิษและผงชูรส อันหลังนี่ไม่ค่อยแน่ใจแฮะ

     

    อ้าว ไหนว่า ... โอ้ย!” ต่ายค้านเพื่อน แต่ก็โดนถองศอกเข้าที่แขน เขาขมวดคิ้วงงๆ ไหนว่าตอนแรกจะออกไปกินที่ห้างกันเลยพากันเดินออกมาข้างนอกแบบนี้

     

    ไปมั้ยครับน้องวิศวะ...

     

     บาสรู้สึกขอบคุณดีเอ็นเชื้อบ้าและมั่นใจที่เขาได้จากพี่ชายมาก็วันนี้ ร่างสูงผิวสีแทนอย่างคนสุขภาพดีที่ไหล่มีเสื้อช๊อปคณะวิศวะคลุมไว้ลวกๆแบบที่เจ้าตัวไม่คิดจะเอาออกกลายเป็นจุดเด่นในโรงอาหารที่มีแต่คนใส่เสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสแล็คหรือกระโปรงสีดำเป็นระเบียบ ใบหน้าคมถูกจดจ้องจากสายตาของเพื่อนทั้งสองคนของหมอต่ายในขณะที่เจ้าตัวโดน เพื่อนผลักไสให้ออกไปสั่งอาหารอย่างเสียไม่ได้

     

    น้องใช่คนที่ทิ้งเสื้อช๊อปเอาไว้ให้มันที่โรงบาลหรือเปล่าเขาถูกเปิดประเด็นถามทันทีที่ว่าที่คุณหมอตัวขาวเดินจากไป

     

    ใช่พี่

     

    เชี่ย ปราชญ์ ใช่จริงๆด้วยว่ะคนพูดกันไปบอกเพื่อนที่ตัวสูงกว่า แล้วน้องมารอมันทำไม  

     

    ก็อยากเจออะพี่  

     

    ทำไมอยากเจอ จะจีบไอ้ต่ายเหรอถามตรงประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม

     

    ครับ

     

    เชี่ย” “กูว่าแล้วเสียงแรกมาจากรุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่า ส่วนอีกเสียงมาจากคนที่ถูกเรียกว่าปราชญ์ที่พึมพำขึ้นมาในจังหวะเดียวกัน 

     

    เอาจริงดิน้อง ต่ายมันไม่ได้ชอบผู้ชายนะเว้ย

     

    ผมก็ไม่ได้ชอบคนอื่นนอกจากพี่ต่าย

     

    แต่พวกพี่รับไม่ได้ว่ะที่เพื่อนจะโดนผู้ชายจีบ เพื่อนพี่ไม่ได้เป็นเกย์นะครับน้อง

     

    อันนั้นผมรู้แล้ว

     

    เฮ้ย ใจเย็นๆปราชญ์

     

    กูใจเย็นอยู่มึงไม่เห็นเหรอวะโน้ต มึงเห็นกูใจร้อนอยู่หรือไงปราชญ์หัวเราะเสียงต่ำ มองหน้ารุ่นน้องแบบที่ถ้าไม่ใช่เป็นเพื่อนต่ายแล้ว ชายหนุ่มจะตอกกลับไปด้วยประโยคที่ว่า มองหน้าหาเรื่องหรือพี่ ทันที

     

    พี่คิดไงผมไม่รู้ และผมบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่สนใจเพราะผมจีบพี่ต่ายไม่ได้จีบพี่บาสตอบกวนๆ

     

    เฮ้ยน้อง ยังไงพี่ก็เป็นพี่นะ พูดจาให้มันดีๆคนอารมณ์ขึ้นกลับเป็นว่าที่คุณหมอตัวเล็ก

     

    ผมจะจีบพี่ต่าย พวกผมคุยกันและเราเข้าใจกันแล้ว ...

     

    ใครน่ะ เรา ที่ว่า เหมือนจะมีคนเข้าใจไปเองเสียงที่บาสจำขึ้นใจเอ่ยเรียบๆจากด้านหลัง หมอต่ายเดินถือถาดใส่ชามก๋วยเตี๋ยวน้ำใสสี่จานเรียงกันพร้อมกับเครื่องปรุง วางลงบนโต๊ะ บาสเงยหน้ามองอีกฝ่ายปริบๆ

     

    แหม พี่ต่ายก็ อย่าเขินดิ เมื่อวานเรายังคุยกันดีๆอยู่เลย ให้ผมไปช่วยพี่ที่บ้าน...

     

    เงียบ!” คนหน้าสวยเอ็ดเสียงเล็ดไรฟัน คิ้วเรียวขมวดแน่น กินเสร็จแล้วก็กลับไป อย่าพูดมากแจกชามก๋วยเตี๋ยวให้คนละชาม ก่อนนั่งลงฝั่งเดียวกับคนใส่เสื้อช๊อปเพราะเพื่อนอีกสองคนของเขานั่งอยู่ฝั่งเดียวกันก่อนแล้ว ไปนั่งอัดกันฝั่งเดียวมันก็ดูไม่สมดุล

     

    บาสยิ้มยิงฟัน มองเส้นเล็กหมูตุ๋นน้ำใสตรงหน้า พี่รู้ได้ไงว่าผมชอบเส้นเล็ก

     

    จะบ้าเหรอ เห็นไหมของทุกคนเส้นเล็กหมด ก็บอกเองว่าให้สั่งอะไรก็ได้ เลยสั่งมาแบบเดียวจะได้ไม่แย่งกันต่ายบอกกลับ ถอนหายใจหน่ายๆ ชี้ให้ดูก๋วยเตี๋ยวสามจานที่เหลือที่เหมือนกัน

     

    เขาบอกว่าถ้าซื้ออะไรให้ใครคนเรามักจะสั่งของที่เราชอบกิน แปลว่าพี่ชอบเส้นเล็กเหมือนผม

     

    เออ! คิดแล้วมีความสุขก็คิดไป

     

    ฮ่าๆ ขอบคุณนะครับ

     

    มือใหญ่เอื้อมหยิบเครื่องปรุงที่วางอยู่ตรงกลาง ตาคมเหลือบมองจานก๋วยเตี๋ยวของคนข้างๆที่ไม่ได้ปรุงอะไรเพิ่มเติม เห็นมือขาวใช้ช้อนกับตะเกียบคลุกเส้นให้เข้ากับเครื่องต่างๆช้าๆ เขาตักพริกใส่สามช้อนใหญ่ๆ พร้อมกับพริกน้ำส้มอีกช้อน กำลังจะเพิ่มช้อนที่สองและสาม แต่มือขาวกว่าที่ไร้ตำหนิใดๆกลับจับข้อมือเขาไว้จนเขาชะงัก มองเจ้าของมืออย่างสงสัย

     

    พอๆ กระเพาะพังพอดีเอ็ดเสียงดุ

     

    แต่ไม่ปรุงมันไม่อร่อยอะบาสพูดเสียงอ่อน

     

    ชิมหรือยังถึงรู้ว่ามันไม่อร่อย

     

    แหมพี่ กินแบบไม่ปรุงชีวิตมันจะจืดชืดนะ ต้องกินแบบผมสิจะได้ซู่ซ่าบาสพูดไปหัวเราะไป แต่เห็นใบหน้าว่าที่คุณหมอดุแล้วชักจะหัวเราะไม่ออก ก็ได้ๆ

     

    ไม่ต้องกินแล้วจานนั้นอะต่ายถอนหายใจรอบที่ล้านแปด เลื่อนชามของตัวเองให้พร้อมกับส้อม กินนี่ไป ใช้ตะเกียบมือซ้ายไม่ได้นี่

     

    พี่ต่าย ...บาสครางเสียงอ่อน มองคนหน้าสวยด้วยดวงตาระยับ แล้วพี่จะกินอะไรอะ?

     

    เดี๋ยวไปซื้อข้าวแกงตอบสั้นๆ ดันแว่นที่เลื่อนลงมาให้เข้าที่ ทำไม จะเอาด้วย

     

    แฮ่ ครับ กินก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวไม่อิ่มอะบาสตอบร่าเริง

     

    เออๆ อะไรก็ได้นะหมอต่ายตอบด้วยเสียงรำคาญใจ ลุกขึ้นเดินออกไปซื้อข้าวอย่างช่วยไม่ได้ บาสมองอีกฝ่ายเดินไปจนถึงร้านข้าวแกงด้านหลัง แล้วก็หันมามองชามก๋วยเตี๋ยว ใบหน้าหล่อยิ้มกว้าง ใช้ส้อมตักเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนหมอต่ายสองคนที่มองมาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด

     

    พวกพี่เป็นไรเขาถามอย่างงงๆ

     

    ปราชญ์ ... กูว่ากูได้เด็กวิศวะเป็นน้องสะใภ้แน่เลยโน้ตเอาหน้าซบลงกับโต๊ะ

     

    เชี่ยโน้ต ช่วยดูหน้าเพื่อนมึงด้วย เพื่อนมึงต่างหากจะไปเป็นสะใภ้วิศวะปราชญ์ตบลงบนหัวโน้ตที่นอนซบหน้าลงกับแขนที่โต๊ะแรงๆ แต่ต่ายมันก็ชอบดูแลคนเป็นปกติอยู่แล้ว ...เขาพยายามคิดในแง่บวก

     

    แต่มันไม่ใช่กับคนเพิ่งรู้จักนะเว้ย นี่เจอกันนับครั้งได้เลยนะเว้ยปราชญ์

     

    สามครั้งพี่ แต่รู้จักกันเกือบเดือนแล้วบาสตอบไขข้อข้องใจ แต่คำตอบนั่นกลับทำให้รุ่นพี่ตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาถลึงตามอง

     

    สามครั้ง! บ้าไปแล้ว

     

    โน้ตเป็นอะไร บ่นหิวทำไมไม่กินบุคคลต้นเรื่องเดินกลับมาพร้อมจานข้าวสองจาน จานหนึ่งวางลงตรงหน้าคนใส่เสื้อช๊อป ส่วนอีกจานวางตรงหน้าตัวเอง กินได้มั้ย?

     

    บาสมองกับข้าว สองอย่างในจานข้าวก้นลึก ผัดบล็อกโคลี่กุ้งกับไข่ตุ๋นนั่นดูน่ากินไม่น้อยเลยทีเดียว ชายหนุ่มพยักหน้าแข็งขัน ก้มลงซัดข้าวแบบไม่สนใจรุ่นพี่คณะแพทย์อีกสองคนที่ยังคงนั่งแข็งทื่อ เขายิ้มมุมปาก ในใจโลดเต้นเสียจนเหมือนมันจะหลุดออกมานอกอก

     

    แบบนี้ ... ผมจะไปไหนรอดล่ะครับพี่ต่าย ...

    .

    .

    ร่างสูงผิวแทนของเด็กวิศวะที่อ่อนวัยกว่าเดินตามหลังรุ่นพี่ต่างคณะ บาสมองเพื่อนพี่ต่ายสองคนที่ดูจะผูกมัดเจ้าตัวไว้อย่างแน่นแฟ้นแม้จะเห็นคนหน้าสวยเหลือบมองเขาด้วยหางตาเป็นบางครั้ง ว่าที่คุณหมอคนน่ารักของเขาบังคับเขากินยาให้ครบตามกำหนดจนกว่าจะหมดหลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว จากนั้นอีกฝ่ายก็ถูกขนาบซ้ายขวาโดยเพื่อนสองคนแบบไม่มีที่แทรก พ้นเขตตึกเรียนกำลังจะเข้าเขตโรงพยาบาลแล้วสามสหายก็หยุดชะงักเพราะคนตรงกลางรั้งไม่ให้เดินต่อ  

     

    กลับบ้านไปต่ายบอกลูกหมาที่เดินตามต้อยๆ  

     

    พี่ต่ายออกเวรกี่โมงล่ะบาสถาม มองตาสวยที่ล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนาเป็นที่สะดุดตาตั้งแต่แรกพบ ผิวใสตอนนี้ขึ้นเลือดฝาดน้อยๆเพราะอากาศภายนอกที่ร้อนระอุ ไรผมด้านหน้าบางจุดเปียกแนบไปกับใบหน้าเพราะเหงื่อ  

     

    โอย.. น่ารัก.. นี่ก็หลงจะตายอยู่แล้ว  

     

    ดึก กลับบ้านไปเลย  

     

    แต่ว่า...  

     

    ไม่จำเป็นต้องรอหมอต่ายตัดบท มองใบหน้าคมที่งอไม่ได้ดั่งใจเหมือนเด็ก ไลน์เด้งมาแล้ว มีอะไรก็ค่อยคุย  

     

    ทิ้งประโยคลงท้ายสั้นๆให้ชวนคิด บาสรีบหยิบไอโฟนของตัวเองขึ้นมาเปิดแอพไลน์ในเครื่อง พอเห็นหลักฐานยืนยันใบหน้าหล่อก็ยิ้มกว้าง จนคนตัวขาวเบ้ปาก ไม่รู้ไปเอามาจากไหน แต่เห็นแก่ความพยายามเลยรับแอดมา  

     

    มือเรียวชูไอโฟนห้าเอสรุ่นใหม่ในมือให้ดู ตอบไม่ตอบอีกเรื่องนะหันหลังกลับจะเดินต่อแต่มือหนาสีเข้มข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกก็รั้งต้นแขนเอาไว้  

     

    ผมยังไม่ได้จ่ายค่าข้าวเลยบาสพูดด้วยเสียงร้อนรน ละมือจากต้นแขนหยิบเงินที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังให้ ต่ายมองเงินในมือนิ่งๆ 

     

    ไม่เป็นไร เลี้ยงเขาหยิบเงินในมือของอีกฝ่ายใส่กระเป๋าเสื้อช๊อปสีน้ำเงินกรมท่า ตบไล่ข้างที่ไม่มีมือที่เจ็บเบาๆ  

     

    งั้นเดี๋ยวให้ผมเลี้ยงพี่บ้าง

      

    ถ้ามีโอกาสล่ะก็นะคนหน้าสวยพึมพำ โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆเสียด้วย  

     

    ผมมันคนมีโชค เดี๋ยวโอกาสก็มีมาเรื่อย

      

    หมอต่ายเบ้ปาก มองคนขี้โม้ด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย บาสมองแล้วยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบนแก้ม ให้ผมเลี้ยงนะพี่ต่าย  

     

    ให้ผมเลี้ยงทั้งชีวิตพี่ ผมก็เลี้ยงไหว”

     

     

    Fanart ไบค์ / บดินทร์ ธนบดี / ปี 4 นิเทศศาสตร์
    credit to Narutan



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×