คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Take #5 {re-write} + fanart หมอต่าย
#5
“ไงมึง ข่าวว่าจีบพี่หมอ ถึงไหนแล้ววะ”
เสียงพี่รหัสจอมกวนหัวเราะแซวเรื่องที่ลานเกียร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โด่งดังจนกลายเป็นที่โจทย์จันท์กันไปทั่วทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ เรียกได้ว่าไม่มีชั้นปีไหนไม่รู้เพราะตัวต้นเรื่องอาจหาญกระทำการที่เรียกได้กลายๆว่าเป็น "หมาเห่าเครื่องบิน" เป็นถึงหนึ่งในสามแยกปากหมาประจำลานเกียร์แถมหยอดใส่ว่าที่คุณหมอแห่งคณะแพทยศาสตร์ที่พ่วงคำว่ารุ่นพี่นำหน้าไปอีก จากเรื่องธรรมดาที่ควรปล่อยให้มันผ่านเลยไปเหมือนแต่ละวันจึงกลายเป็นเรื่องที่เป็นหัวข้อสนทนาที่ทุกคนทั้งในคณะและนอกคณะที่ได้ข่าวคราวไปเมาท์กันได้ไม่เว้นวัน
“มันแหงนคอรอคอยซื้อข้าวซื้อขนมส่งเขาทุกวันว่ะพี่แต่พี่หมอแกใจแข็งมาก” เมื่อเจ้าตัวที่ถูกแซวไม่ตอบรับแถมทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ คนเป็นเพื่อนผู้หวังดีจึงตอบแทน ส่วนนจ้าตัวนั่งเกาเฝือกด้านนอกแก้คันแม้มันจะไม่ช่วยอะไรเท่าไรนัก
“แน่นอน มึงเล่นของสูงมากไอ้หมาวัด พี่หมอแกปีห้าแล้วด้วย กูเพิ่งรู้ว่ามึงชอบคนแก่กว่า”
“ทั้งสูงทั้งหยิ่งเลยพี่ สมแล้วที่เรียนหมอ มันไปติดสินบนพี่พยาบาลให้ช่วยส่อง พี่รู้มั้ยพี่หมอแกไม่ได้แตะของที่มันซื้อไปเลยสักวันเดียว แถมช่วงนี้พี่หมอแกก็เรียนหนัก เดี๋ยวเข้าห้องผ่าตัด เดี๋ยวเข้าเวรกับอาจารย์หมอ เรียกว่ามันว่างแต่พี่หมอไม่ว่าง คลาดกันทุกวันเลย”
“โอ แดกแห้วแน่นอนเลยว่ะมึง”
“พี่แดกบ่อยล่ะสิถึงรู้” บาสย้อนกวนๆกลับ กลายเป็นโดนรุ่นพี่ตบกะโหลกจนหน้าแทบคว่ำ
“มึงไปรู้ได้ไงว่าพี่หมอเค้าชอบกินอะไรไม่ชอบอะไร พวกมึงคุยกันนี่นับคำได้เลย เค้าไม่ชอบของที่มึงซื้อหรือเปล่า?”
“พี่ลืมไปเปล่าว่าพี่มันเป็นใคร” ปันย้อนถามเสี่ยงทะเล้น
รุ่นพี่เลิกคิ้วก่อนยิ้มแยกเขี้ยว หัวเราะเสียงดัง “เออว่ะ มึงมันน้องไอ้ไบค์ โทษทีกูลืม”
“พี่ไบค์แม่งไม่ได้ช่วย มันยังไม่รู้เลยว่ากูทำไรอยู่ มันมัวแต่หม้อคนไปวันๆ” บาสตอบเนือยๆ “ก็อย่างที่ไอ้ปันมันบอกอะพี่ ไปหลอกถามเจ๊พยาบาลมา บอกคุณหมอต่ายชอบกินชาเขียวร้อนเปลี่ยนนมธรรมดาเป็นซอยมิลค์เพราะพี่หมอเคยฝากเพื่อนซื้อบ่อย เรื่องมากสั่งก็ยากฉิบหายแต่ไม่เห็นหมอต่ายแตะสักวัน”
“พี่มึงไปเล่นกับใครเค้าก็เล่นด้วยทุกคน ทำไมไม่ถามมาจากมันวะว่ามันมีเคล็ดลับอะไรให้น้องชายสุดที่รักอย่างมึงใช้บ้าง หนังหน้ามึงก็ไม่ได้แย่ แค่หล่อน้อยกว่ากูเท่านั้น” โก้เย้าน้องรหัสตัวเอง นอกจากจะเป็นน้องรหัสมันยังเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทเขาอีกด้วย ก่อนหน้านี้มันไม่มีวี่แววจะเป็นเก้งกวางอะไรกับเขาหรอก หน้าตามันดีพอเหมือนพี่มันที่เป็นเดือนมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำแต่มันไม่ดูแลตัวเองเท่าคนพี่ รายนั้นโคตรจะสำอาง แถมตอนนี้ยังจีบผู้ชาย แต่ก็เอาเถอะถ้ามันชอบเขาจริงๆ ก็ต้องปล่อยให้มันลองจีบเขาไปก่อน จริงๆแล้วมีคนมาสนใจมันบ้างแต่มันกลับไม่เล่นด้วย พอจะเริ่มเล่นกับใครก็เสือกกลายเป็นนักศึกษาแพทย์ที่แก่กว่าตั้งสองปีแถมเป็นผู้ชายด้วย
“ซื้อสตาร์บัคให้หมอต่ายวันเว้นวัน ตัวเองแดกกาแฟเย็นหน้าม.ถุงละ 15 บ. กูล่ะขำ” ปันหัวเราะเพื่อนตัวเอง
บาสจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสีย ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นพี่นอกจากจะไม่ให้กำลังใจแล้วยังบั่นทอนความรู้สึกกันตลอด ดวงตาเหม่อมองแขนตัวเองอย่างใช้ความคิด จะว่าไปแล้วที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เกือบสองอาทิตย์แล้ว พี่หมอต่ายเองก็ดูไม่สนใจจริงๆแต่ก็อย่างที่รุ่นพี่ของเขาว่าคนตัวขาวๆนั่นไม่ใช่เกย์หรืออะไรเถือกๆนี้เลย เขาเองก็ไม่ใช่ แต่ที่ทำอยู่นี่คือแค่สนใจ อยากเอาชนะหรือว่าชอบจริงๆกันแน่ตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน
โว้ย ถ้าวันนั้นหมอต่ายไม่เอาเสื้อมาคืนทุกอย่างคงง่ายกว่านี้เยอะ ถ้าไม่มาสานต่อมันก็จบไปแล้ว แต่วันนั้นคนตัวสูงพอๆกันกับเขาแต่บางกว่าอย่างคนไม่ค่อยใช้กำลังเท่าไรที่ทำตาดุๆใส่ มือบางขยับจับเฝือกให้เข้าที่ แม้ปากจะร้าย ดูไม่ใส่ใจกันเท่าไร แต่การกระทำกลับตรงกันข้ามยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม ยอมรับว่าที่โรงพยาบาลเขาสะดุดที่ใบหน้าใสๆนั่นอย่างประหลาด ใบหน้าสวยได้รูป กับดวงตาที่ล้อมกรอบด้วยแพขนตานั่นน่ารัก หมอต่ายไม่ได้ต่างจากผู้ชายปกติเท่าไร แต่มองมุมไหนก็น่ารัก
“ถ้ามึงแค่อยากเอาชนะก็เลิกเหอะบาส กูว่านี่มึงทั้งเสียเวลา ทั้งเสียเงิน เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่านะเว้ย หรือไม่ก็เลือกจากบรรดาคนที่เข้ามาหามึงดิ ง่ายกว่าเยอะเลย” โก้เตือนอย่างหวังดี ตบบ่ารุ่นน้องก่อนโบกมือลา เดินเข้าตึกเรียนไปก่อน
“จริงๆพี่โก้พูดถูกนะ ที่พวกกูไม่ห้ามเพราะเห็นว่ามึงอยากลองดูแต่เท่าที่กูเห็น พี่หมอแกไม่เล่นด้วย มึงจะทำให้ชายแท้ๆมาสนใจตัวผู้มีดุ้นเหมือนกันมันไม่ง่ายว่ะ ถามตัวมึงก่อน มึงสนใจเค้าเพราะชอบจริงๆหรือว่าสนใจเพราะอยากเอาชนะ ถ้าเค้าเล่นด้วย มึงจะให้ความสนใจกับเค้าแบบเดิมอย่างที่มึงเป็นตอนนี้หรือเปล่า” นพ เพื่อนสนิทอีกคนเตือนอีกเสียง
บาสส่งเสียงอืออาในลำคอตอบส่งๆ ที่เพื่อนเขาพูดก็ถูก หมอต่ายไม่ใช่คนประเภทนั้น ดูก็รู้แล้วว่าเห็นหน้าตาน่ารักแบบนั้น โหดร้ายไม่ใช่เล่น เจ้าตัวจำกัดประเภทคนไว้เพียงสองประเภทเท่านั้นคือเพื่อนที่สามารถเดินเข้าออกระยะห่างจากตัวตนกับเส้นบางๆที่ตัวเองกั้นเอาไว้กับคนนอกที่ไม่มีวันจะได้เดินข้ามเส้นเข้าไปสัมผัสกับตัวตนนั้นง่ายๆ ซึ่งระยะห่างของสองสถานะนั้นห่างไกลกันมากเลยทีเดียว สองอาทิตย์แล้ว แต่คุณหมอหน้าใสกลับไม่เคยใจอ่อนเลยสักครั้ง
“แล้วมึงต้องไปให้หมอดูเฝือกวันไหน วันนี้หรือเปล่าวะ พวกกูไปเป็นเพื่อนมั้ย?” เพื่อนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง บาสพยักหน้าส่งๆ มีพวกมันไปก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
“เดี๋ยวไปเลยเนี่ย เริ่มคันล่ะแม่ง”
“จะหายทันกีฬา’มหาลัยมั้ยมึง เดี๋ยวได้นั่งเก้าอี้สำรองกูจะสมน้ำหน้าให้”
“ทันมั้ง มึงอย่าพูดเป็นลาง” ถลึงตาเอ็ดเพื่อนที่หัวเราะกิ๊กกั๊ก
“เนี่ยวันนี้มึงไปหาหมอก็ถามเค้าเลยว่าจะเอาเฝือกออกได้ตอนไหน ต้องทำกายภาพต่อหรือเปล่า?”
“เออๆ” เขาตอบรับส่งๆ
บาสเดินนำเพื่อนอีกสองคนขึ้นตึกเรียน ขาที่พลิกหายดีแล้ว อย่างน้อยก็วิ่งไล่เตะเพื่อนและรุ่นน้องได้สะดวกดี วันนี้หมอนัดไปเปลี่ยนเฝือกให้สั้นลงหน่อย ถ้าเจอหมอต่ายล่ะก็ ชายหนุ่มยกยิ้มพลางคิด ถ้าเจอหมอต่ายก็ดีสินะ
ร่างสูงผิวแทนพร้อมเพื่อนอีกสองคนในเสื้อช๊อปสีน้ำเงินกรมท่ามีตรามหาวิทยาลัยปักชัดเจนเดินเข้าโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย คนใส่เฝือกเบ้หน้า บาสไม่ชอบบรรยากาศของโรงพยาบาล กลิ่นแอลกอฮอล์และยาฆ่าเชื้อคลุ้งไปทั้งตึก แถมคนที่อยู่ในโรงพยาบาลเองก็ไม่ได้มีสีหน้าท่าทางน่ารื่นรมย์ มันเป็นสถานที่แห่งความหดหู่ชัดๆ และยิ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐฯแล้ว ยิ่งมีคนไข้แออัดมากกว่าโรงพยาบาลเอกชนทั่วไปสองสามเท่าตัว
เขายื่นใบนัดด้วยมือข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกให้กับฝ่ายทะเบียนคนไข้ด้านหน้า พยาบาลสองคนเช็คข้อมูลในคอมพิวเตอร์ก่อนส่งเข้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อเช็คอาการของกระดูก ตาคมเหล่มองนักศึกษาแพทย์ในเสื้อกาวน์สีขาวที่เดินผ่านไปสองสามกลุ่ม แต่ก็ไม่พบใบหน้าใสๆของคนที่ตั้งใจหา เขาเดินเข้าห้องตรวจไปสักสามสิบนาที ก็ออกมาพร้อมกับเฝือกใหม่ที่สั้นกว่าเดิม พร้อมข่าวดีว่าอีกไม่ถึงสามอาทิตย์กระดูกก็น่าจะต่อกันปกติแล้ว เพราะเขาแค่กระดูกเคลื่อนไปเท่านั้นไม่ได้หักจนใช้เวลาต่อนานมาก ด้วยความที่เป็นคนแข็งแรงและยังเด็กอยู่จึงหายเร็ว ส่วนเส้นเอ็นที่ข้อเท้าพลิกก็ปกติดีเหมือนเดิม อาจจะมีอาการขัดยอกเล็กน้อยตอนวิ่งเร็วๆ เขาเลยได้ยานวดเพิ่มมาอีกหนึ่งหลอด คุณหมอการันตีว่าน่าจะทันกีฬามหาวิทยาลัยแต่ว่าอาจจะยังลงเล่นได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควรให้เผื่อใจเอาไว้บ้าง ทางที่ดีให้มาเช็คอีกรอบหลังถอดเฝือกไปแล้วจะดีที่สุด เขาพยักหน้ารับคำนั้น ก่อนถือเอกสารเดินออกมารับยาที่ห้องจ่ายยา
.
.
หมอต่ายเดินสะโหลสะเหลออกมาจากตัวโรงพยาบาล ตากลมแทบจะหรี่ปรือ เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว นาฬิกาแท็คฮอยเออร์สีเงินประดับข้อมือบอกเวลาเกือบสามทุ่ม วันนี้เขาเขียนรายงานพร้อมส่งให้อาจารย์หมอที่ปรึกษาเสียนานสองนาน มีจุดที่ต้องแก้ไขบ้างตามระเบียบ ลบแล้วเขียนใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าถึงกินเวลานานไปโข เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกพับขึ้นมาถึงข้อศอก เมื่ออยู่ที่ลานจอดรถก็ถอดเสื้อกาวน์ออกพาดไหล่ลวกๆ เวลานี้ไม่ใช่เวลาเรียบร้อยแล้ว เขาอยากล้มตัวลงนอนตอนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ
ลานจอดรถร่อยหลอเหลือเพียงรถไม่กี่คันที่ยังจอดอยู่ ส่วนใหญ่เป็นของแพทย์ผู้เข้าเวรกลางคืนและบรรดาเจ้าหน้าที่ต่างๆ มีของญาติผู้ป่วยประปรายเพราะเป็นนอกเวลาเยี่ยมไข้ ขายาวก้าวเร็วๆเข้าไปที่รถเบนซ์ ซี 220 cdi สีขาว ปลดล็อกจากกุญแจรถอย่างว่องไว
“เฮ้ย” ร่างขาวสะดุ้งตกใจ เมื่อเห็นเงาคนจากด้านหลัง หวังว่าคงไม่ได้ตาฝาดเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น ตั้งแต่เรียนหมอมา 5 ปียังไม่เคยเจออาถรรพ์อะไรอย่างที่คนอื่นเขาว่ากันเลย ขอโทษที เขามันคนไม่มีเซนส์เสียด้วย
“หมอต่าย ...” เสียงทุ้มเอ่ยเย้า เมื่อเห็นคนหน้าสวยตกใจหน้าซีดเผือด
“นาย!” ตวาดเสียงลั่น ตกใจจนหัวใจแทบจะหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเสียแล้ว “ทำอะไรเนี่ย ตกใจนะเว้ย”
“แหม ... ก็หมอต่ายเดินไว๊ไว ผมเดินตามหมอต่ายมาตั้งแต่อยู่ในโรงบาลแล้วหมอต่ายไม่เห็นเอง”
“ใครจะไปเห็น ง่วงจะตายชักแล้วเนี่ย” ใจเต้นตุบๆ ตาสวยล้อมกรอบด้วยขนตายาวเหล่มองที่เฝือกของอีกคน “เปลี่ยนเป็นเฝือกสั้นแล้วนี่ วันนี้เหรอ?”
“ช่ายๆ ใกล้หายแล้วนะหมอต่าย” ลากเสียงตอบกวนๆ
นิ้วขาวดันแว่นให้วางบนดั้งโด่งพอดีอย่างติดเป็นนิสัย “ก็ดี”
“แต่มันคันในเฝือกยุบยิบเลยอะหมอต่าย คันจี๊ดๆไปถึงใจเลย” พูดติดตลก
ว่าที่คุณหมอตัวขาวถอนหายใจ “เพราะโสโครกหรือเปล่า” เหล่มองเสื้อช๊อปที่คลุมไหลอีกคน “เสื้อน่ะซักสิ จะได้หายคัน”
“โห มีสองตัวแล้วหมอต่าย ก็วันนั้นหมอต่ายเอามาคืนช้าเลยให้เพื่อนไปซื้อใหม่ นี่ซักสองสามวันซักทีเลยนะหมอต่าย”
“ฉันผิดงั้นสิที่เอาไปคืนช้า แล้วใส่ทุกวันแต่ซักสองสามวันครั้งมันก็สมควรคันแหล่ะ” ร่างโปร่งตอบอย่างเหนื่อยหน่าย “เอ้า ถอยไปๆ จะกลับบ้านแล้ว”
“โห อย่าเพิ่งสิหมอต่าย ใจร้ายจัง”
“ใครใจร้ายกัน นี่มันใช้เวลามากวนไหม?” ถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ของวัน แทนที่เขาจะได้รีบกลับบ้านไปอาบน้ำนอน
“หมอต่ายไง คนน่ารักใจร้ายแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าหนอ เป็นหมอต้องใจดีสิ”
“นี่นาย อย่ามาปีนเกลียว ยังไงฉันก็เป็นพี่ ช่วยเคารพกันบ้างนะหรือรุ่นพี่ที่วิศวะเค้าไม่สอนมา?”
“ก็หมอต่ายอะ โยนของที่ผมฝากไปให้ทิ้งทุกวันเลย มันแพงนะครับ”
“นี่แอบตามดูด้วยเรอะ นายบ้าหรือเปล่า” ขึ้นเสียงอย่างตกใจ ดวงตาที่หรี่ปรือด้วยความง่วงโตจนแทบถลน
“เปล่าๆ คือฝากเจ๊ เอ้ย พี่พยาบาลคนสวยดูให้อะ แหะๆ” ยกมือเกาต้นคอแก้ตัว “แล้วหมอต่ายไม่ชอบหรอ หมอต่ายชอบกินอะไรอะ จะได้ซื้อมาให้ถูก”
“หา ... ไม่ต้องหรอก ไม่จำเป็น” ต่ายตอบปัด
“นี่ๆ หมอต่ายชอบกินอาหารญี่ปุ่นมั้ย มีร้านเปิดใหม่ที่สยามนะ”
“เหรอ? แล้วไง?”
“ก็แบบจะชวนหมอต่ายไปกินไง”
“พอเถอะ” ว่าที่คุณหมอทำสีหน้าระอา คิ้วเรียวขมวดยุ่ง ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองเบาๆ พิงหลังกับรถตัวเอง “ถามจริงๆเถอะ ทำแบบนี้เพื่ออะไร”
“ก็แบบ “ บาสชะงัก เออนั่นสิ ... เด็กวิศวะนิ่ง เริ่มควานหาลิ้นตัวเองไม่เจอเหมือนคนคิดตามไม่ทัน
“อีกนานมั้ย?” เสียงแหบถามขึ้นเบาๆ
“หือ?”
“ฉันถามว่าจะคิดอีกนานมั้ย?” หนุ่มนักศึกษาแพทย์ถามเสียงนิ่ง
“แบบ ก็... หมอต่ายไม่รู้จริงดิ?” ร่างสูงถามย้อนเสียงกวน
ว่าที่คุณหมอส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ถามจริงๆเถอะ คนปกติเค้าให้ของกินคนที่เพิ่งรู้จักหรือได้คุยกันจริงๆแค่วันสองวันเหรอ ฉันไม่รู้ว่ารู้จักนายดีพอที่จะรับของกินจากคนแปลกหน้า”
“หมอต่ายใจร้าย”
“ ... ” คนตัวขาวถอนใจ ตบบ่าข้างที่ไม่เจ็บของอีกคน “พอเถอะ เหนื่อยแทน ฉันไม่รู้ว่านายต้องการอะไร” ขยับตัวกลับเข้าหารถตัวเองพร้อมเปิดประตูรถ กำลังจะเข้าไปนั่ง มือสีแทนก็รั้งต้นแขนเอาไว้เสียก่อนที่จะได้มุดเข้าไปในตัวรถ
ต่ายหันกลับไปมองคนรั้ง หนุ่มรุ่นน้องต่างคณะยืนนิ่ง ดวงตาคมยังมีแววลังเลเล็กน้อยแต่ไม่ถึงอึดใจมันก็กลับมาแน่วแน่และเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกล้าตามนิสัยของเจ้าตัว ชายหนุ่มตัวโตสูดลมหายใจแล้วเปล่งเสียงช้าชัด
“ผมชื่อนายบริรักษ์ ธนบดี เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ภาควิชาโยธาปี 3 ชื่อเล่นชื่อบาสมีพี่ชายหนึ่งคน สูง 183 ซม. หนัก 71 กก. และหน้าตาดีมาก ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมกำลังจีบหมอต่ายอยู่ครับ!” พูดเสียงดังจนก้องไปทั้งลานจอดรถของโรงพยาบาล ดีที่ไม่มีใครเดินออกมาพอดี ว่าที่คุณหมอเบิกตาโพลงตกใจ อ้าปากค้างเพราะไม่ทันตั้งตัว
“อะไรนะ!!!” ไร้ซึ่งสตินึกคิด ต่ายหลุดขึ้นเสียงดังด้วยความตกใจจึงถามทวนอีกครั้ง
“หมอต่ายถามผมว่าผมทำแบบนี้ไปทำไม ผมเลยตอบว่าผมกำลังจีบพี่อยู่ไงครับ” บาสตอบกลับอย่างฉะฉาน ใบหน้าคมประดับด้วยรอยยิ้มกว้างแต่คนมองกลับไม่สบอารมณ์เท่าไร
“นี่ไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่นใช่มั้ย?”
“ไม่เล่นแล้วครับเพราะตอนนี้ผมจะจีบพี่อย่างจริงจังครับ!”
Fanart คุณหมอจิระภัทร หรือหมอต่าย
credit to Narutan ♥
ความคิดเห็น