ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {YAOI} เสื้อกาวน์หมอไม่อุ่นเท่าเสื้อช็อปวิศวะ

    ลำดับตอนที่ #3 : Take #3 {re-write} + การ์ตูนสี่ช่อง

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 57


    #3


    ตั้งแต่เกิดมา
     22 ปี ชีวิตเขาไม่เคยรู้สึกลำบากใจเท่าวันนี้ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าเขตลานกิจกรรมของวิศวกรรมศาสตร์ในชุดนักศึกษาตามระเบียบผูกเน็กไทค์เรียบร้อยเขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทาง ทั้งๆที่ก็อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน สารภาพว่าเขาก็ไม่ได้เดินไปตึกคณะอื่นบ่อยเท่าไรเพราะคณะแพทยศาสตร์นั้นอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน เพราะฉะนั้นเด็กแพทย์เลยไม่ได้ค่อยได้ไปสุงสิงกับคณะอื่นเท่าไร ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากเหมือนคณะที่อยู่ในรั้วเดียวกัน ยิ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ขึ้นชื่อในทิศทางตรงกันข้ามสุดกู่ทั้งเรื่องการเรียนและอุปนิสัยแล้วล่ะก็แทบจะไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ ยกเว้นมีเพื่อนที่สนิทมาด้วยกันก่อนเข้าเรียน

     

    ตาสวยล้อมกรอบด้วยแพขนตายาวเหลือบมองถุงเสื้อที่อยู่ในมือ เขาไม่รู้หรอกว่าเสื้อช๊อปนี่มันสำคัญต่อวิศวะแค่ไหนแต่ก็คงไม่ต่างอะไรกับนักศึกษาแพทย์ที่เข้าเวรโดยที่ไม่มีเสื้อกาวน์

     

    เสียงเจี๊ยวจ๊าวเงียบลง เขาหันซ้ายหันขวา กะว่าจะฝากใครสักคนในที่นี้ไปให้เจ้าตัว มีทั้งชื่อจริงชื่อเล่นแถมด้วยเบอร์โทร คงติดต่อกันเจอง่ายอยู่ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นคนใส่เสื้อนักศึกษาสีขาวหนึ่งเดียวในลานกิจกรรม เจ้าตัวกำลังมองเฝือกของตัวเองอยู่พลางใช้มือข้างที่ไม่เจ็บขยับเฝือกเล่น คงนึกรำคาญจนสะบัดด้วยความหงุดหงิด ต่ายขมวดคิ้วพลางคิดว่าเล่นอะไรไม่เข้าท่า เขากลัวกระดูกข้อมือของอีกฝ่ายจะเคลื่อนจนไม่ต่อกันแล้วหายช้าเข้าไปอีก ทันความคิดขาเรียวจึงเร่งก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าท่ามกลางสายตาของเด็กวิศวะทั้งสนาม

     

    เจ้าตัวเหมือนจะชะงักนิดหน่อยทั้งๆที่ก้มหน้าอยู่ จากนั้นจึงเงยหน้ามองเขาพร้อมรอยยิ้มแสนกวนเบื้องล่างจนกลัวว่าถ้าเกิดเส้นประสาทบริเวณขาเขากระตุกตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกัน คงเตะเสยใบหน้าคมนั่นเข้าอย่างจังเลยทีเดียว

     

    สวัสดีครับหมอต่าย

     

    เขาหรุบตามองต่ำไปยังคนที่นั่งยิ้มเผล่ ยื่นถุงเสื้อที่ถูกซักรีดอย่างดีมาให้ จริงๆที่เอามาช้าก็เพราะเพิ่งไปรับมาจากร้านซักรีดใต้หอนี่แหล่ะ

     

    “เอาเสื้อมาคืนผมเหรอครับ” เจ้าเด็กวิศวะเอ่ยถาม ทำไมไม่รู้เขารู้สึกว่าเสียงทุ้มนั้นกระดี๊กระด๊ามากผิดปกติ ความรู้สึกของการถูกกวนประสาทเมื่อวานแว้บกลับมาในความคิด

     

    อือ ไปล่ะ เขาส่งให้อีกฝ่ายใช้มือข้างที่ไม่เจ็บรับ มือใหญ่เลี่ยงวางไว้บนโต๊ะอย่างไม่สนใจ เขาเลยหันหลังกลับเพราะรู้สึกว่าธุระของตัวเองเสร็จแล้ว ยกแขนมองนาฬิกาพลางบ่นในใจว่าวันนี้ต้องเดินกลับคณะไปส่งรายงานของเมื่อวานก่อน ยุ่งยากเป็นบ้า

     

    เดี๋ยว เดี๋ยวครับพี่หมอต่าย พอหันไปตามเสียงเรียกเขาก็เห็นคนที่เขาเอาเสื้อมาคืนวิ่งขากะเผลกตาม คิ้วเรียวขมวดแน่น

     

    วิ่งทำไม ขาก็เจ็บไม่ใช่เหรอ แล้วเดี๋ยวกระดูกก็ไม่เข้าที่ มันสะเทือนถึงกันนะ ใบหน้าเนียนดูบึ้งตึง แม้จะรำคาญเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังเจ็บจึงเตือนด้วยความหวังดี มีอะไรอีก?

     

    ทำไมไม่โทรมาล่ะครับ ผมให้เบอร์ไปแล้วนี่

     

    ต่ายถอนหายใจ ไม่อยากโทร วุ่นวาย

     

    โห ทำไมล่ะ คนเจ็บโอดครวญด้วยความไม่เข้าใจแต่ตาคมหยอกล้อ เขาเหลือบเห็นตำแหน่งของผ้าคล้องคอที่อยู่ไม่ตรงตำแหน่งที่ควรจะอยู่คงเพราะคนตัวสูงวิ่งมาเมื่อสักครู่ มือขาวจึงจัดระเบียบให้อย่างเคยชินกับการปฏิบัติให้กับคนไข้ที่โรงพยาบาล

     

    เห็นมั้ยว่าเพราะวิ่งมา ถ้ากระดูกไม่เข้าที่หรือเคลื่อนมากกว่าเดิมเนี่ยได้เข้าเฝือกนานแน่ๆ แทนที่จะได้หายไวๆ พูดพลางจับแขนข้างที่เจ็บของคนป่วยขยับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม  

     

    หมอต่ายจะรีบไปไหนอะ

     

    “...”

     

    แล้วหมอต่ายเดินหาผมเจอได้ยังไงอะ

     

    “...”

     

    หมอต่ายเดินมาไกลไหม ต้องข้ามถนนมาสินะ

     

    “...”

     

    หมอต่าย ...”

     

    โอ้ย! หนวกหู เผลอตะคอกออกไปแล้วก็ต้องชะงัก กระแอมไอในลำคอ จนเสียงกลับมานิ่งเหมือนเดิม จะกลับคณะแล้ว

     

    เขานึกว่าอีกฝ่ายจะตกใจ แต่เมื่องมองใบหน้ากวนๆนั้นกลับมีรอยยิ้มประดับอย่างอารมณ์ดี ประหลาดคนจริง

     

    อ้าว บาส ใครวะ เพื่อนคณะอื่นเหรอวะ เสียงเรียกทำเอาคนเจ็บหันไปมองพร้อมยิ้มกว้าง

     

    ไม่ใช่เพื่อน นี่หมอคนเมื่อวานไงมึง

     

    อ๋อ คุณหมอที่ห้องฉุกเฉิน ยังเรียนอยู่เหรอครับเนี่ย พวกผมนึกว่าเป็นหมอจริงๆไปแล้ว เพื่อนเจ้าตัวยกมือไหว้จนเขาต้องยกมือรับไหว้ตอบ

     

    มึงจะบอกว่าพี่เค้าหน้าแก่เหรอวะ เชี่ยนี่ คนแขนเจ็บพูดติดตลก

     

    ไม่ใช่เว้ย พี่เค้าดูภูมิฐานไงมึง

     

    แล้วพี่หมอมีธุระอะไรที่คณะผมครับเนี่ย”

     

    พี่หมอต่ายเอาเสื้อมาคืนกู บาสตอบนิ่งๆกลั้วหัวเราะ มองเพื่อนสองคนแล้วกลับมามองว่าที่คุณหมอหน้าสวย ที่เริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไรเพราะถูกรั้งตัวเอาไว้ไม่ได้ไปไหนเสียที ก็มื่อคืนพี่หมอต่ายหลับ กูเห็นแอร์โรงบาลน่าจะหนาว กูเลยให้ยืมเสื้อช๊อป

     

    ไม่ได้ขอ! ว่าที่คุณหมอพลัดถิ่นเถียงกลับ

     

    ผมเป็นห่วงนี่ตอบกลับเสียงซื่อ

     

    เมื่อวานใส่ก็เสื้อกาวน์อยู่ คิดได้ยังไงว่าจะหนาว

     

    โธ่พี่หมอต่าย เสื้อกาวน์ของหมอมันจะอุ่นเท่าเสื่อช๊อปของวิศวะได้ยังไงครับ จริงมั้ยพวกมึง?” พูดแล้วหันไปถามความเห็นจากเพื่อนอีกสองคนที่อมยิ้ม แต่เขาคงถามเสียงดังไปหน่อย เพื่อนร่วมคณะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินข้างเคียงที่ได้ยินบทสนทนาจึงโห่รับไปด้วย

      

    ตลก! แขนสั้นมันจะอุ่นกว่าได้ยังไง

     

    เออว่ะจริงนะเว้ยบาส เสื้อพวกเราแขนสั้นนะ มึงเอาสมองส่วนไหนมาคิดวะว่าพี่หมอเค้าจะอุ่น เสื้อกาวน์มันแขนยาวนะ

     

    แต่ถึงเสื้อช๊อปวิศวะจะแขนสั้น แต่รักของเด็กวิศวะนั้นยาวนะครับพี่หมอต่าย

     

    ฮิ้วววววววววววเสียงหวีดหวิวผิวปากดังไปทั่วลานกิจกรรมจนว่าที่คุณหมอหน้าขึ้นสีด้วยความหงุดหงิด

      

    หึ เล่นกับหมา หมาเลียปากสินะ ต่ายพึมพำเสียงแผ่ว แต่ยังไม่วายที่คนหูไวอย่างบาสจะได้ยิน

     

    ผมยังไม่ได้เลียเลยหมอต่าย มาหาว่าผมเลียได้ยังไงกัน ทะลึ่งนะเนี่ยพี่หมอ

     

    อย่ามาพูดจาสกปรกพ่นเชื้อโรคใส่นะ

     

    อูย แรงเว้ย คนเป็นหมอเค้ารักสะอาดนะ ต้องเอาเดทตอลล้างปากก่อนจะได้คุยกันไหมครับพี่หมอ

     

    เดทตอลเอาไม่อยู่หรอก ผมว่าเอาน้ำยาล้างห้องน้ำล้างจะดีกว่า

     

    ฮิ้วววววววววว

     

    ว่าที่คุณหมอทำหน้าเบื่อ ชักปวดหัว รู้สึกว่าเส้นประสาทตัวเองเต้นตุบๆแทบจะระเบิด ตัวคนเดียวแบบนี้เสียเปรียบชะมัด อันที่จริงเขาน่าจะรู้ตัวว่าเสียเปรียบตั้งแต่ลงไปต่อล้อต่อเถียงกับเด็กพวกนี้แล้ว คนตัวขาวหันหลังกลับ รู้สึกเสียดายเวลาและน้ำลายที่จะต้องต่อล้อต่อเถียงกับเด็กพวกนี้เหลือเกิน

     

    มือใหญ่สีแทนกรำแดดจากการเล่นกีฬากลางแจ้งจับต้นแขนเล็กแต่ก็มีกล้ามเนื้อสมส่วนแน่น หมอต่ายเดี๋ยวสิครับ ขอบคุณนะครับที่เอาเสื้อมาคืน 

     

    ต่ายกรอกตาพลางถอนหายใจ พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก็ยังดีที่ยังมีมารยาทบอกขอบคุณ เหมือนกัน ดวงตาสวยหรุบต่ำ เอามืออีกข้างง้างมืออีกฝ่ายออกอย่างรำคาญ

     

    นี่รู้อะไรมั้ย ว่าที่คุณหมอเกริ่นขึ้นคิดได้ว่าต้องบอกเสียหน่อย เขาใช้นิ้วดันแว่นที่เลื่อนลงมาเพราะเหงื่อออกให้กระชับกับใบหน้า 

     

    เสื้อน่ะซักซะบ้างนะ เหม็นสาบ!

     

    ร่างขาวๆของว่าที่คุณหมอกลับไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ร่างของคนแขนเจ็บที่ยืนยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี เดินผิวปากกลับไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนท่ามกลางสายตาของทั้งเพื่อน รุ่นพี่และรุ่นน้องที่มองตามด้วยสายตาล้อเลียน

     

    สรุปมึงเอาเสื้อไปอ่อยเค้าไว้จริงๆอย่างที่พี่โก้ว่า หนึ่งในสองเพื่อนสนิทเอ่ยทักขึ้น

     

    เฮ้ย พี่หมอแกผู้ชายนะเว้ยบาส เอาจริงเหรอวะ มึงก็ไมได้เป็นเกย์ทำไมเปลี่ยนรสนิยม กูดูพี่หมอเค้าก็ไม่ได้แต๋วเลยนะมึง ไปถูกใจอะไรเขาตรงไหนถึงเค้าจะหน้าตาดีก็เถอะวะ

     

    เป็นผู้ชายไม่พอแถมยังเป็นหมอ มึงแม่งใจกล้ามาก ใฝ่สูงโคตรอะ

     

    บาสหัวเราะกับเพื่อนที่ถกเถียงเรื่องหมอต่ายอย่างอารมณ์ดี มองใบหน้าสลอนของพวกมันแล้วก็ขำ ตอบเพื่อนกลับเป็นทำนองเพลงอย่างอารมณ์ดีจนเรียกเสียงโห่ฮาจากทั้งโต๊ะด้วยความคำคะนอง

     

    หึหึ รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง

     

     

    การ์ตูน 4 ช่องประจำตอนค่ะ :)


    credit to Klunatic ♥

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×